บทเทศน์เด็ด แทรกอารมณ์ขัน มิสซาวันอาทิตย์
บทเทศน์เด็ด แทรกอารมณ์ขัน ปลุกความศรัทธาและประสาทให้ตื่นตัว ออกรสออกชาติ ของคุณพ่อ เคลเมนท์ (Father Clement) รองเจ้าอาวาส วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Sacred Heart, Lacey, Washington, U.S.A.) ที่ผมและครอบครัวเป็นลูกวัด ผมกับภรรยาคู่ใจ ร่วมมิสซา อาทิตย์ที่ 24 ในเทศกาลธรรมดา (12 กันยายน 2021)
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี! (God is good!)
สาธุชนทุกคนขานรับ สนั่นวัด: ตลอดเวลา! ( All the time!)
คุณพ่อ: ตลอดเวลา!
สาธุชน: พระเป็นเจ้าดี!
สรุปบทเทศน์: อัครสาวก สานุศิษย์ ทุกคน ตอบผิด เมื่อพระเยซูเจ้าพระเป็นเจ้าทรงถามว่า "เราคือใคร?" นักบุญเปโตร ตอบถูกครึ่งหนึ่ง พระองค์คือพระผู้ไถ่ แต่ไม่เข้าใจถึงระหัสธรรมที่มนุษย์ไม่อาจหยั่งถึงและเข้าใจความคิด พระประสงค์ของพระเป็นเจ้าในการไถ่กู้มวลมนุษยชาติ
ให้พวกเราเป็นคริสตชนที่แท้จริงด้วยการเลิกคิดถึงตัวเอง แบกไม้กางเขนของตัวเอง และติดตามพระองค์ สํานึกเสียใจในบาป รับศีลอภัยบาป หล่อเลี้ยงตัวเองด้วยพระกายและพระโลหิตของพระองค์ อย่าตัดสินผู้อื่นที่มีปัญหา ยากไร้ในการเลี้ยงชีพ ช่วยเหลือเขาเท่าที่ทําได้ ดั่งที่จดหมายของนักบุญเจมส์ บทอ่านที่สองได้บอกไว้
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี!
สาธุชน ลั่นวัด: ตลอดเวลา!
คุณพ่อ: ตลอดเวลา!
สาธุชน ลั่นวัด: พระเป็นเจ้าดี!
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี! (God is good!)
สาธุชนทุกคนขานรับ สนั่นวัด: ตลอดเวลา! ( All the time!)
คุณพ่อ: ตลอดเวลา!
สาธุชน: พระเป็นเจ้าดี!
สรุปบทเทศน์: อัครสาวก สานุศิษย์ ทุกคน ตอบผิด เมื่อพระเยซูเจ้าพระเป็นเจ้าทรงถามว่า "เราคือใคร?" นักบุญเปโตร ตอบถูกครึ่งหนึ่ง พระองค์คือพระผู้ไถ่ แต่ไม่เข้าใจถึงระหัสธรรมที่มนุษย์ไม่อาจหยั่งถึงและเข้าใจความคิด พระประสงค์ของพระเป็นเจ้าในการไถ่กู้มวลมนุษยชาติ
ให้พวกเราเป็นคริสตชนที่แท้จริงด้วยการเลิกคิดถึงตัวเอง แบกไม้กางเขนของตัวเอง และติดตามพระองค์ สํานึกเสียใจในบาป รับศีลอภัยบาป หล่อเลี้ยงตัวเองด้วยพระกายและพระโลหิตของพระองค์ อย่าตัดสินผู้อื่นที่มีปัญหา ยากไร้ในการเลี้ยงชีพ ช่วยเหลือเขาเท่าที่ทําได้ ดั่งที่จดหมายของนักบุญเจมส์ บทอ่านที่สองได้บอกไว้
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี!
สาธุชน ลั่นวัด: ตลอดเวลา!
คุณพ่อ: ตลอดเวลา!
สาธุชน ลั่นวัด: พระเป็นเจ้าดี!
แก้ไขล่าสุดโดย Yan Agape เมื่อ อังคาร ก.ย. 21, 2021 8:49 am, แก้ไขไปแล้ว 3 ครั้ง.
สวัสดีครับ
วันนี้ผมขอเสนอสรุปบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อ เคลเมนท์ (Father Clement, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.) ของมิสซาอาทิตย์ที่ 25 ในเทศกาลธรรมดา (วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2021)
พระวรสาร โดยนักบุญมาระโก 9:30-37: พระเยซูเจ้าทรงทํานายครั้งที่สองถึงพระทรมาน และ ผู้ยิ่งใหญ่สุด
คุณพ่อ: ผู้ยิ่งใหญ่สุด->ไม่ต้องเริ่มทําที่ไหน เริ่มในบ้านเราเองนี่แหละ ทํากับสามี ภรรยา ลูก ช่วยเหลือด้านจิตใจและร่างกายทุกอย่าง รัก ให้อภัยซึ่งกันและกัน
วันนี้ผมขอเสนอสรุปบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อ เคลเมนท์ (Father Clement, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.) ของมิสซาอาทิตย์ที่ 25 ในเทศกาลธรรมดา (วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน 2021)
พระวรสาร โดยนักบุญมาระโก 9:30-37: พระเยซูเจ้าทรงทํานายครั้งที่สองถึงพระทรมาน และ ผู้ยิ่งใหญ่สุด
คุณพ่อ: ผู้ยิ่งใหญ่สุด->ไม่ต้องเริ่มทําที่ไหน เริ่มในบ้านเราเองนี่แหละ ทํากับสามี ภรรยา ลูก ช่วยเหลือด้านจิตใจและร่างกายทุกอย่าง รัก ให้อภัยซึ่งกันและกัน
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอ สรุปบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อ ทิม อิลเกน (Father Tim Ilgen) เจ้าอาวาส วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตันสหรัฐอเมริกา (สลับทํามิสซา ประจำวันอาทิตย์ เวลา 12.0 น กับคุณพ่อ เคลเมนท์ ที่ฉลองครบรอบ 20 ปี รับศีลบวช 22 กันยายน 2021 (Father Clement) อาทิตย์ที่ 26 ในเทศกาลธรรมดา (วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน 2021)
พระวรสาร โดยนักบุญมาระโก 9:38-48: การใช้พระนามพระเยซูเจ้า การแสดงความใจดีต่อศิษย์ของพระคริสตเจ้า การชักนําผู้อื่นให้ทําบาป
คุณพ่อ: เป็นการพลิกผันของพระวรสารจากการทําอัศจรรย์ในพระนามของพระเยซูเจ้ากับการทําบาปและการชักนําผู้อื่นให้ทําบาป พระเยซูเจ้าทรงเน้นถึงความสําคัญเปรียบเทียบแบบรุนแรงเหมือนถึงขนาดกับตัดมือ ตัดเท้า ควักตา เพื่อจะได้ไปสู่สวรรค์ พิการดีกว่าสมบูรณ์-> ต้องแก้ไขที่รากเหง้า ตัวอย่าง = การดูภาพ หนังสือ วีดีโอ หนังลามก ทําให้มือและส่วนประกอบของร่างกายส่วนอื่นร่วมทําบาป
พระวรสาร โดยนักบุญมาระโก 9:38-48: การใช้พระนามพระเยซูเจ้า การแสดงความใจดีต่อศิษย์ของพระคริสตเจ้า การชักนําผู้อื่นให้ทําบาป
คุณพ่อ: เป็นการพลิกผันของพระวรสารจากการทําอัศจรรย์ในพระนามของพระเยซูเจ้ากับการทําบาปและการชักนําผู้อื่นให้ทําบาป พระเยซูเจ้าทรงเน้นถึงความสําคัญเปรียบเทียบแบบรุนแรงเหมือนถึงขนาดกับตัดมือ ตัดเท้า ควักตา เพื่อจะได้ไปสู่สวรรค์ พิการดีกว่าสมบูรณ์-> ต้องแก้ไขที่รากเหง้า ตัวอย่าง = การดูภาพ หนังสือ วีดีโอ หนังลามก ทําให้มือและส่วนประกอบของร่างกายส่วนอื่นร่วมทําบาป
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ด แทรกอารมณ์ขัน ของคุณพ่อเคลเมนท์ ในมิสซาวันอาทิตย์ 3 ตุลาคม 2021 อาทิตย์ที่ 27 ในเทศกาลธรรมดา
มาระโก: 10:2-16 คําถามเรื่องการหย่าร้าง พระเยซูเจ้าและเด็กเล็กๆ
ภรรยา: คุณทําอะไร?
สามี: ไม่ได้ทําอะไร!
ภรรยา: ฉันเห็นคุณมองใบทะเบียนสมรสอยู่เกือบชั่วโมง
สามี: ผมมองหาวันสิ้นอายุของการสมรส
บางครั้งการหย่าร้างไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดี> จงรัก ให้อภัย และอะลุ่มอล่วยต่อกันและกัน
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัดขานรับสนั่นวัด: พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
มาระโก: 10:2-16 คําถามเรื่องการหย่าร้าง พระเยซูเจ้าและเด็กเล็กๆ
ภรรยา: คุณทําอะไร?
สามี: ไม่ได้ทําอะไร!
ภรรยา: ฉันเห็นคุณมองใบทะเบียนสมรสอยู่เกือบชั่วโมง
สามี: ผมมองหาวันสิ้นอายุของการสมรส
บางครั้งการหย่าร้างไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดี> จงรัก ให้อภัย และอะลุ่มอล่วยต่อกันและกัน
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัดขานรับสนั่นวัด: พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ด แทรกอารมณ์ขัน ของคุณพ่อเคลเมนท์ ในมิสซาวันอาทิตย์ 10 ตุลาคม 2021 อาทิตย์ที่ 28 ในเทศกาลธรรมดา
มาระโก: 10:17-30 เศรษฐีหนุ่ม อันตรายจากทรัพย์สมบัติ
พระสงฆ์องค์หนึ่งเทศน์ในมิสซาตามบทพระวรสาร แล้วขอเงินจากลูกวัดให้ช่วยซ่อมแซมหลังคาวัดที่ทรุดโทรม
ลูกวัดที่รวยที่สุดลุกยืนแล้วตะโกนก้องวัด: ผมขอถวาย 50 เหรียญ
ไม่ทันสิ้นเสียง อิฐจากหลังคาชิ้นหนึ่งหล่นใส่หัว เศรษฐีหนุ่มล้มทรุดสลบเหมือด แล้วท่ามกลางความตะลึงงันของทุกคนในวัด เศรษฐีหนุ่มพุ่งตัวยืนผงาดอีกครั้งแล้วตะโกนก้อง: 5,000 เหรียญ ไม่ใช่ 50 เหรียญนะครับ
ในความเงียบงัน มีเสียงจากหลังวัดดังสนั่นลั่นหู: พระเป็นเจ้าครับ ขออิฐหล่นใส่หัวเขาอีกสักสองก้อน
พระเป็นเจ้าไม่ต้องการให้พวกเราไม่มีเงิน พระองค์ต้องการให้พวกเรารู้จักใช้เงินทําความดีและไม่ถูกผูกมัดด้วยอํานาจของมัน
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัดขานรับสนั่นวัด: พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
มาระโก: 10:17-30 เศรษฐีหนุ่ม อันตรายจากทรัพย์สมบัติ
พระสงฆ์องค์หนึ่งเทศน์ในมิสซาตามบทพระวรสาร แล้วขอเงินจากลูกวัดให้ช่วยซ่อมแซมหลังคาวัดที่ทรุดโทรม
ลูกวัดที่รวยที่สุดลุกยืนแล้วตะโกนก้องวัด: ผมขอถวาย 50 เหรียญ
ไม่ทันสิ้นเสียง อิฐจากหลังคาชิ้นหนึ่งหล่นใส่หัว เศรษฐีหนุ่มล้มทรุดสลบเหมือด แล้วท่ามกลางความตะลึงงันของทุกคนในวัด เศรษฐีหนุ่มพุ่งตัวยืนผงาดอีกครั้งแล้วตะโกนก้อง: 5,000 เหรียญ ไม่ใช่ 50 เหรียญนะครับ
ในความเงียบงัน มีเสียงจากหลังวัดดังสนั่นลั่นหู: พระเป็นเจ้าครับ ขออิฐหล่นใส่หัวเขาอีกสักสองก้อน
พระเป็นเจ้าไม่ต้องการให้พวกเราไม่มีเงิน พระองค์ต้องการให้พวกเรารู้จักใช้เงินทําความดีและไม่ถูกผูกมัดด้วยอํานาจของมัน
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัดขานรับสนั่นวัด: พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอ บทเทศน์เด็ด ของอาทิตย์ ที่ 30 ในเทศกาลธรรมดา มิสซาวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม 2021 โดยคุณพ่อทิม เจ้าอาวาสวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตันสหรัฐอเมริกา ( Father Tim Ilgen, Sacred Heart, Lacey, Washington State, U.S.A.)
มก 10:46-52 คนตาบอดที่เมืองเยรีโค
บารทิเมอุสบุตรของทิเมอัส คนตาบอดขอพระเยซูเจ้าให้แลเห็น พระเยซูเจ้าตรัสว่า "ท่านอยากให้เราทําอะไรให้" แล้วตรัสกับเขาว่า "ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยให้ท่านได้รอดพ้นแล้ว" ทันใดนั้นเขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
บารทิอัส ไม่ใช่จะหายตาบอดแลเห็นของร่างกายเท่านั้น เขาได้แลเห็นทางวิญญาน เพราะความเชื่อว่าพระเยซูเจ้า "พระโอรสของกษัตริย์ดาวิด" คําพูดที่เป็นการให้เกียรติพระผู้ไถ่ที่ชาวอิสราเอลได้รอคอย และพระองค์ให้เขาเลือกว่าจะทําอะไรเมื่อได้แลเห็น เขาเลือกเดินทางติดตามพระองค์ไป ไปสู่ความรอดพ้น...เป็นความแตกต่างไม่เหมือนกับ
ยากอบและยอห์น บุตรของเศเบดีที่ขอนั่งข้างขวาและข้างซ้ายของพระองค์ในพระสิริรุ่งโรจน์ พระองค์ตรัสถามว่า"ท่านปราถนาให้เราทําสิ่งใด" (มก 10-:35-40 พระวรสารของอาทิตย์ที่แล้ว) เป็นการอยากได้หน้าได้ตา ซึ่งควรจะเป็นการรอดพ้น
ด้านล่างเป็นคําแปลของบทภาวนาที่หน้าปกของสารวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ ประจําอาทิตย์นี้ เนื่องในโอกาสซีนอด (Synod= สมัชชา/การชุมนุม ของผู้นํานักบวชและฆราวาสของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ปี 2021- 2023) เพื่อพระศาสนจักรที่เป็นสมัชชา/การชุมนุม อันประกอบด้วย การร่วมใจ การร่วมกระทํา ภารกิจ
พวกเรายืนต่อหน้าพระองค์ พระจิตเจ้า ด้วยการรวมตัวร่วมกันในพระนามของพระองค์ ร่วมกับพระองค์เท่านั้นที่นําเรา โปรดทรงทําตัวเหมือนอยู่ในที่ประทับของพระองค์ในหัวใจของพวกเรา โปรดสอนพวกเราในหนทางที่พวกเราต้องไป และวิธีที่ต้องไป พวกเราอ่อนแอและเต็มไปด้วยบาป อย่าให้พวกเราส่งเสริมความวุ่นวาย อย่าให้ความโง่เขลา นําพวกเราไปสู่เส้นทางที่ผิด และความลําเอียงมีอิทธิพลเหนือการกระทําของพวกเรา โปรดให้พวกเราพบความเป็นหนึ่งเดียวในพระองค์ เพื่อที่พวกเราจะได้เดินทางร่วมกันไปสู่ชีวิตนิรันดร และไม่ให้ออกนอกทางจากหนทางแห่งความจริง และจากสิ่งที่ถูกต้อง พวกเราขอสิ่งเหล่านี้จากพระองค์ ผู้ทรงทํางานในทุกที่ทุกเวลา ในความเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาและพระบุตร ตลอดนิรันดร อาแมน
มก 10:46-52 คนตาบอดที่เมืองเยรีโค
บารทิเมอุสบุตรของทิเมอัส คนตาบอดขอพระเยซูเจ้าให้แลเห็น พระเยซูเจ้าตรัสว่า "ท่านอยากให้เราทําอะไรให้" แล้วตรัสกับเขาว่า "ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยให้ท่านได้รอดพ้นแล้ว" ทันใดนั้นเขากลับแลเห็นและเดินทางติดตามพระองค์ไป
บารทิอัส ไม่ใช่จะหายตาบอดแลเห็นของร่างกายเท่านั้น เขาได้แลเห็นทางวิญญาน เพราะความเชื่อว่าพระเยซูเจ้า "พระโอรสของกษัตริย์ดาวิด" คําพูดที่เป็นการให้เกียรติพระผู้ไถ่ที่ชาวอิสราเอลได้รอคอย และพระองค์ให้เขาเลือกว่าจะทําอะไรเมื่อได้แลเห็น เขาเลือกเดินทางติดตามพระองค์ไป ไปสู่ความรอดพ้น...เป็นความแตกต่างไม่เหมือนกับ
ยากอบและยอห์น บุตรของเศเบดีที่ขอนั่งข้างขวาและข้างซ้ายของพระองค์ในพระสิริรุ่งโรจน์ พระองค์ตรัสถามว่า"ท่านปราถนาให้เราทําสิ่งใด" (มก 10-:35-40 พระวรสารของอาทิตย์ที่แล้ว) เป็นการอยากได้หน้าได้ตา ซึ่งควรจะเป็นการรอดพ้น
ด้านล่างเป็นคําแปลของบทภาวนาที่หน้าปกของสารวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ ประจําอาทิตย์นี้ เนื่องในโอกาสซีนอด (Synod= สมัชชา/การชุมนุม ของผู้นํานักบวชและฆราวาสของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ปี 2021- 2023) เพื่อพระศาสนจักรที่เป็นสมัชชา/การชุมนุม อันประกอบด้วย การร่วมใจ การร่วมกระทํา ภารกิจ
พวกเรายืนต่อหน้าพระองค์ พระจิตเจ้า ด้วยการรวมตัวร่วมกันในพระนามของพระองค์ ร่วมกับพระองค์เท่านั้นที่นําเรา โปรดทรงทําตัวเหมือนอยู่ในที่ประทับของพระองค์ในหัวใจของพวกเรา โปรดสอนพวกเราในหนทางที่พวกเราต้องไป และวิธีที่ต้องไป พวกเราอ่อนแอและเต็มไปด้วยบาป อย่าให้พวกเราส่งเสริมความวุ่นวาย อย่าให้ความโง่เขลา นําพวกเราไปสู่เส้นทางที่ผิด และความลําเอียงมีอิทธิพลเหนือการกระทําของพวกเรา โปรดให้พวกเราพบความเป็นหนึ่งเดียวในพระองค์ เพื่อที่พวกเราจะได้เดินทางร่วมกันไปสู่ชีวิตนิรันดร และไม่ให้ออกนอกทางจากหนทางแห่งความจริง และจากสิ่งที่ถูกต้อง พวกเราขอสิ่งเหล่านี้จากพระองค์ ผู้ทรงทํางานในทุกที่ทุกเวลา ในความเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาและพระบุตร ตลอดนิรันดร อาแมน
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อ เคลเมนท์ (Father Clement) มิสซาอาทิตย์ที่ 31 ในเทศกาลธรรมดา วันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม 2021และเป็นวันฮอลโลวีน (Halloween= วันระลึกถึงนักบุญทั้งหลาย กลายเป็นวันที่เด็กเล็กหนุ่มสาวพากันแต่งตัวแปลกๆขอขนมชาวบ้านที่มีการตกแต่งบ้านสนุกครึกครื้นในซีกโลกตะวันตก)
คุณพ่อ: จงรักคนอื่นเหมือนเรารักตัวเอง ดั่งเช่นที่พระเป็นเจ้าทรงรักเราทุกคน แม้กระทั่งศัตรูของเรา เราช่วยพวกเขาได้ด้วยการสวดให้พวกเขาซึ่งเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด พระองค์รักเราและรักเขาถึงได้สร้างทุกคน และยอมตายเพื่อการไถ่กู้ให้พวกเรามวลมนุษย์ ไม่มีความรักใดเหนือกว่าความรักของพระองค์
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: จงรักคนอื่นเหมือนเรารักตัวเอง ดั่งเช่นที่พระเป็นเจ้าทรงรักเราทุกคน แม้กระทั่งศัตรูของเรา เราช่วยพวกเขาได้ด้วยการสวดให้พวกเขาซึ่งเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด พระองค์รักเราและรักเขาถึงได้สร้างทุกคน และยอมตายเพื่อการไถ่กู้ให้พวกเรามวลมนุษย์ ไม่มีความรักใดเหนือกว่าความรักของพระองค์
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอ บทเทศน์เด็ดของคุณพ่อเคลเมนท์ ในมิสซาวันอาทิตย์ ที่ 32 ในเทศกาลธรรมดา 7 พฤศจิกายน 2021
พงศ์กษัตริย์: 17: 10-16 เอลียาห์กับหญิงม่ายที่เมืองศาเรฟัท
ฮีบรู: 9:24-28 พระคริสตเจ้าทรงหลั่งพระโลหิตรับรองพันธสัญญาใหม่
มาระโก: 12:41-44 เศษเงินของหญิงม่าย
สรุป: พระเป็นเจ้าทรงเลี้ยงดูหญิงม่ายและลูกชาย รวมทั้งประกาศกเอลียาห์ไม่ให้อดอาหารตาย พระองค์ทรงเลี้ยงดูเราเช่นกัน กลับบ้านวันนี้ช่วยเลี้ยงดูคนอื่นเหมือนที่พระองค์ทรงเลี้ยงดูเรา
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
พงศ์กษัตริย์: 17: 10-16 เอลียาห์กับหญิงม่ายที่เมืองศาเรฟัท
ฮีบรู: 9:24-28 พระคริสตเจ้าทรงหลั่งพระโลหิตรับรองพันธสัญญาใหม่
มาระโก: 12:41-44 เศษเงินของหญิงม่าย
สรุป: พระเป็นเจ้าทรงเลี้ยงดูหญิงม่ายและลูกชาย รวมทั้งประกาศกเอลียาห์ไม่ให้อดอาหารตาย พระองค์ทรงเลี้ยงดูเราเช่นกัน กลับบ้านวันนี้ช่วยเลี้ยงดูคนอื่นเหมือนที่พระองค์ทรงเลี้ยงดูเรา
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ดของอาทิตย์ที่ 3 ในเทศกาลธรรมดา 23 มกราคม 2022 ของคุณพ่อทิม อิลเกน (Father Tim Ilgen, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.)
จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์: การเปรียบเทียบกับร่างกาย
พระศาสนจักรที่เมืองโครินธ์กําลังเจริญเติบโต ทุกคนได้รับพระพรของพระจิตเจ้า บางคนทําอัศจรรย์
บําบัดรักษาร่างกายให้หายจากโรค หายจากความเจ็บไข้ได้ป่วย ที่เป็นข่าวใหญ่โตรู้กันทั่วไป เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง การอวดตัวและความน้อยใจ ที่นักบุญเปาโลต้องเขียนจดหมายเตือนสติให้ทุกคนรู้ว่า ร่างกายนั้นประกอบด้วยอวัยวะหลายส่วนแต่ละส่วนมีความสำคัญ มีหน้าที่แตกต่างกัน เหมือนกับพระกายของพระคริสตเจ้า และพระพรของพระจิตเจ้า เป็นพระพรของพระจิตเจ้าองค์เดียวกัน
พวกเราก็เหมือนกันได้รับพระพรของพระจิตเจ้าแตกต่างกัน ต้องช่วยกันทําหน้าที่ของตัว: เป็นผู้ช่วยพระสงฆ์ในมิสซา คนอ่านบทอ่าน คนเตรียมงานวัด สอนคําสอน ทําความสะอาดวัดและพื้นที่ของวัด ที่ไม่มีใครให้ความสนใจ แต่ก็ทําให้ทุกอย่างราบรื่น ถ้าแก่ตัวลง ออกแรงช่วยไม่ไหว ก็ทําหน้าที่สวดภาวนาให้ทุกคน
จดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์: การเปรียบเทียบกับร่างกาย
พระศาสนจักรที่เมืองโครินธ์กําลังเจริญเติบโต ทุกคนได้รับพระพรของพระจิตเจ้า บางคนทําอัศจรรย์
บําบัดรักษาร่างกายให้หายจากโรค หายจากความเจ็บไข้ได้ป่วย ที่เป็นข่าวใหญ่โตรู้กันทั่วไป เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง การอวดตัวและความน้อยใจ ที่นักบุญเปาโลต้องเขียนจดหมายเตือนสติให้ทุกคนรู้ว่า ร่างกายนั้นประกอบด้วยอวัยวะหลายส่วนแต่ละส่วนมีความสำคัญ มีหน้าที่แตกต่างกัน เหมือนกับพระกายของพระคริสตเจ้า และพระพรของพระจิตเจ้า เป็นพระพรของพระจิตเจ้าองค์เดียวกัน
พวกเราก็เหมือนกันได้รับพระพรของพระจิตเจ้าแตกต่างกัน ต้องช่วยกันทําหน้าที่ของตัว: เป็นผู้ช่วยพระสงฆ์ในมิสซา คนอ่านบทอ่าน คนเตรียมงานวัด สอนคําสอน ทําความสะอาดวัดและพื้นที่ของวัด ที่ไม่มีใครให้ความสนใจ แต่ก็ทําให้ทุกอย่างราบรื่น ถ้าแก่ตัวลง ออกแรงช่วยไม่ไหว ก็ทําหน้าที่สวดภาวนาให้ทุกคน
บทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อเคลเมนท์ ในมิสซาอาทิตย์ที่ 4 ในเทศกาลธรรมดา (30 มกราคม 2022)
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อเคลเมนท์ ในมิสซาอาทิตย์ที่ 4 ในเทศกาลธรรมดา (30 มกราคม 2022) ของวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Clement, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านแรก: เยเรมีย์ 1:4-5, 17-19 พระเจ้าทรงเรียกเยเรมีย์ให้เป็นประกาศก
พระวรสาร: ลูกา 4:21-30 พระเยซูเจ้าที่เมืองนาซาเรธ
คุณพ่อคริสเชี่ยน สังฆราชแต่งตั้งจวนจะทําพิธีอุปเศกในอาทิตย์เพนตากอส ปี 2021 ของเมืองรัมเบค ประเทศซูดานใต้ ทวีปอัฟริกาเหนือ อายุ 44 ปี ชาวอิตาเลี่ยน แพร่ธรรม 17 ปี ถูกกลุ่มคนร้าย บุกบ้านพักยิงกราดด้วยปืน ถล่มด้วยกระสุนร่วม 50 นัด อาการสาหัส ไม่ตาย แต่ขาสองข้างเดินไม่ได้เกือบพิการ ผ่าตัดหลายครั้ง นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลร่วมปี ต้องเลื่อนพิธีอุปเศกเป็นปีนี้ ยังไม่กําหนดวัน ท่านได้รับการข่มขู่ มีการคัดค้านจากชาวบ้านบางกลุ่มในเมือง เรียกร้องให้โป๊ปฟรังซิส เลิกการแต่งตั้งท่าน เมื่อไม่ได้ผล ก็ถล่มด้วยปืนจะเอาให้ตาย โป๊ปฟรังซิสและสํานักวาติกัน ยังคงรุดหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
คุณพ่อร้องเรียกให้มีการปรองดองและความยุติธรรมเหมือนหัวใจของพระเป็นเจ้า " ขาของพ่อจะกินเวลานานกว่าจะสามารถเดินได้ แต่พ่อขอยืนยันกับลูกๆว่าพ่อจะกลับมา และจะอยู่กับลูกๆ"
-> พวกเราจงอย่าเป็นผู้ทําร้ายผู้ที่พระเป็นเจ้าส่งมา
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อเคลเมนท์ ในมิสซาอาทิตย์ที่ 4 ในเทศกาลธรรมดา (30 มกราคม 2022) ของวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Clement, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านแรก: เยเรมีย์ 1:4-5, 17-19 พระเจ้าทรงเรียกเยเรมีย์ให้เป็นประกาศก
พระวรสาร: ลูกา 4:21-30 พระเยซูเจ้าที่เมืองนาซาเรธ
คุณพ่อคริสเชี่ยน สังฆราชแต่งตั้งจวนจะทําพิธีอุปเศกในอาทิตย์เพนตากอส ปี 2021 ของเมืองรัมเบค ประเทศซูดานใต้ ทวีปอัฟริกาเหนือ อายุ 44 ปี ชาวอิตาเลี่ยน แพร่ธรรม 17 ปี ถูกกลุ่มคนร้าย บุกบ้านพักยิงกราดด้วยปืน ถล่มด้วยกระสุนร่วม 50 นัด อาการสาหัส ไม่ตาย แต่ขาสองข้างเดินไม่ได้เกือบพิการ ผ่าตัดหลายครั้ง นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลร่วมปี ต้องเลื่อนพิธีอุปเศกเป็นปีนี้ ยังไม่กําหนดวัน ท่านได้รับการข่มขู่ มีการคัดค้านจากชาวบ้านบางกลุ่มในเมือง เรียกร้องให้โป๊ปฟรังซิส เลิกการแต่งตั้งท่าน เมื่อไม่ได้ผล ก็ถล่มด้วยปืนจะเอาให้ตาย โป๊ปฟรังซิสและสํานักวาติกัน ยังคงรุดหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
คุณพ่อร้องเรียกให้มีการปรองดองและความยุติธรรมเหมือนหัวใจของพระเป็นเจ้า " ขาของพ่อจะกินเวลานานกว่าจะสามารถเดินได้ แต่พ่อขอยืนยันกับลูกๆว่าพ่อจะกลับมา และจะอยู่กับลูกๆ"
-> พวกเราจงอย่าเป็นผู้ทําร้ายผู้ที่พระเป็นเจ้าส่งมา
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ดของคุณพ่อเคลเมนท์แห่งวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ในมิสซาวันอาทิตย์ที่ห้า ในเทศกาลธรรมดา (Father Clement, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A.) วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2022
อิสยาห์ 6:1-2a, 3-8 พระเจ้าทรงเรียกอิสยาห์ให้เป็นประกาศก (5 ข้าพเจ้าพูดว่า " วิบัติจงเกิดแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากมีมลทิน...)
โครินธ์ 15: 1-11 ข้อเท็จจริงเรื่องการกลับคืนชีพ (นักบุญเปาโล: 9 ข้าพเจ้าเป็นผู้น้อยที่สุดในบรรดาอัครสาวก ไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นอัครสาวก เพราะข้าพเจ้าเคยเบียดเบียนพระศาสนจักรของพระเจ้า...)
ลูกา 5:1-11 พระเยซูเจ้าทรงเรียกศิษย์สี่คนแรก
(ซีโมนเปโตร ยากอบ ยอห์น และ แอนดรูว์ (ไม่ได้เอ่ยถึง) 8 เมื่อซีโมนเปโตรเห็นดังนี้ จึงกราบที่พระชานุของพระเยซูเจ้า ทูลว่า " โปรดไปจากข้าพเจ้าเสียเถิดพระเจ้าข้า เพราะข้าพเจ้าเป็นคนบาป...)
บทอ่านทั้งสองและพระวรสารมีสิ่งที่เหมือนกัน: การยอมรับว่าเป็นคนบาป ไม่สมควรได้รับการเลือกสรรของพระเป็นเจ้า แต่พระเป็นเจ้าก็ทรงเลือกพวกเขา พวกเราได้รับการเลือกสรรของพระเป็นเจ้าเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นคนบาป จงทําหน้าที่ของตัวเราให้ดีที่สุดไม่ว่าจะตํ่าต้อยปานใด แล้วพระองค์จะทรงพอพระทัยเทียบเท่ากัน
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
สาธุชน: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
สาธุชน: พระเป็นเจ้าดี
ก่อนเสร็จมิสซา: คุณพ่ออวยพรให้สาธุชนที่เป็นสามีเป็นภรรยาเนื่องในสัปดาห์สมรสแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (7-14 กุมภาพันธ์ 2022): ศีลสมรสต้องมีภรรยาคนเดียว ทะนุถนอม เป็นหนึ่งเดียวกันตามกฎพระศาสนจักรของเรา
อิสยาห์ 6:1-2a, 3-8 พระเจ้าทรงเรียกอิสยาห์ให้เป็นประกาศก (5 ข้าพเจ้าพูดว่า " วิบัติจงเกิดแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากมีมลทิน...)
โครินธ์ 15: 1-11 ข้อเท็จจริงเรื่องการกลับคืนชีพ (นักบุญเปาโล: 9 ข้าพเจ้าเป็นผู้น้อยที่สุดในบรรดาอัครสาวก ไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็นอัครสาวก เพราะข้าพเจ้าเคยเบียดเบียนพระศาสนจักรของพระเจ้า...)
ลูกา 5:1-11 พระเยซูเจ้าทรงเรียกศิษย์สี่คนแรก
(ซีโมนเปโตร ยากอบ ยอห์น และ แอนดรูว์ (ไม่ได้เอ่ยถึง) 8 เมื่อซีโมนเปโตรเห็นดังนี้ จึงกราบที่พระชานุของพระเยซูเจ้า ทูลว่า " โปรดไปจากข้าพเจ้าเสียเถิดพระเจ้าข้า เพราะข้าพเจ้าเป็นคนบาป...)
บทอ่านทั้งสองและพระวรสารมีสิ่งที่เหมือนกัน: การยอมรับว่าเป็นคนบาป ไม่สมควรได้รับการเลือกสรรของพระเป็นเจ้า แต่พระเป็นเจ้าก็ทรงเลือกพวกเขา พวกเราได้รับการเลือกสรรของพระเป็นเจ้าเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นคนบาป จงทําหน้าที่ของตัวเราให้ดีที่สุดไม่ว่าจะตํ่าต้อยปานใด แล้วพระองค์จะทรงพอพระทัยเทียบเท่ากัน
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
สาธุชน: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
สาธุชน: พระเป็นเจ้าดี
ก่อนเสร็จมิสซา: คุณพ่ออวยพรให้สาธุชนที่เป็นสามีเป็นภรรยาเนื่องในสัปดาห์สมรสแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (7-14 กุมภาพันธ์ 2022): ศีลสมรสต้องมีภรรยาคนเดียว ทะนุถนอม เป็นหนึ่งเดียวกันตามกฎพระศาสนจักรของเรา
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อเคลเมนท์ ในมิสซาอาทิตย์ที่ 6 ในเทศกาลธรรมดา (13 กุมภาพันธ์ 2022) ของวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา (Father Clement, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านแรก: เยเรมีย์ 17:5-8 สุภาษิตต่างๆ (จงวางใจในพระเจ้า)
กิจการอัครสาวก: โครินธ์ 1 15:12, 16-20 ข้อเท็จจริงในเรื่องการกลับคืนชีพ (จงหวังในชีวิตนิรันดร)
พระวรสาร: ลูกา 6:17, 20-26 ประชาชนติดตามพระเยซูเจ้า ธรรมเทศนาบทแรก ความสุขแท้จริง และคําสาปแช่ง (ความสุขแท้จริง)
คุณพ่อ: ที่ประเทศมาลาวี (Malawi, East Africa) บ้านพ่อ มีลิงที่ชอบบุกไร่ สวนผลไม้ กินและทําลาย ทําความเสียหาย เดือดร้อนให้เจ้าของ ประเทศมีกฎหมายห้ามประชาชนไม่ให้มีปืน ยกเว้นตํารวจและทหาร ชาวบ้านเลยต้องทํากรงหลอกลิงด้วยกับดัก มีประตูเล็กขนาดที่ลิงเข้าได้แต่ต้องเบียดตัวแขม่วท้อง ในกรงมีมะพร้าวที่เฉาะหัวขนาดมือลิงเข้าได้ ในนั้นมีผลไม้ พืชผัก ชวนกิน ลิงเข้ากรง เอื้อมมือเข้าจับผลไม้ พืชผักในมะพร้าว เช้าตรู่ชาวบ้านชาวสวนตะโกนก้องวิ่งมาที่กรงกับดัก ลิงกุมผลไม้พืชผักในกํามือ ไม่สามารถชักมือที่เป็นกําปั้นออกจากมะพร้าว เพราะเสียดายอาหาร ตัวไหนทําใจได้ ก็ปล่อยอาหารแล้วมุดหัวปีนออกจากกรงเผ่นหนีปลอดภัย ตัวไหนเสียดายอาหารไม่ยอมปล่อยก็ถูกชาวสวนฆ่าด้วยดาบด้วยมีดพร้า...
พระเป็นเจ้าทรงรู้ว่าพวกเราต้องมีเงินมีอาหารประทังชีพ แต่อย่าให้เงินและสิ่งของของโลกทําลายชีวิตนิรันดรของเรา เงินซื้อความสุขแท้จริงไม่ได้ จงวางใจในพระเป็นเจ้าเพราะ...
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
บทอ่านแรก: เยเรมีย์ 17:5-8 สุภาษิตต่างๆ (จงวางใจในพระเจ้า)
กิจการอัครสาวก: โครินธ์ 1 15:12, 16-20 ข้อเท็จจริงในเรื่องการกลับคืนชีพ (จงหวังในชีวิตนิรันดร)
พระวรสาร: ลูกา 6:17, 20-26 ประชาชนติดตามพระเยซูเจ้า ธรรมเทศนาบทแรก ความสุขแท้จริง และคําสาปแช่ง (ความสุขแท้จริง)
คุณพ่อ: ที่ประเทศมาลาวี (Malawi, East Africa) บ้านพ่อ มีลิงที่ชอบบุกไร่ สวนผลไม้ กินและทําลาย ทําความเสียหาย เดือดร้อนให้เจ้าของ ประเทศมีกฎหมายห้ามประชาชนไม่ให้มีปืน ยกเว้นตํารวจและทหาร ชาวบ้านเลยต้องทํากรงหลอกลิงด้วยกับดัก มีประตูเล็กขนาดที่ลิงเข้าได้แต่ต้องเบียดตัวแขม่วท้อง ในกรงมีมะพร้าวที่เฉาะหัวขนาดมือลิงเข้าได้ ในนั้นมีผลไม้ พืชผัก ชวนกิน ลิงเข้ากรง เอื้อมมือเข้าจับผลไม้ พืชผักในมะพร้าว เช้าตรู่ชาวบ้านชาวสวนตะโกนก้องวิ่งมาที่กรงกับดัก ลิงกุมผลไม้พืชผักในกํามือ ไม่สามารถชักมือที่เป็นกําปั้นออกจากมะพร้าว เพราะเสียดายอาหาร ตัวไหนทําใจได้ ก็ปล่อยอาหารแล้วมุดหัวปีนออกจากกรงเผ่นหนีปลอดภัย ตัวไหนเสียดายอาหารไม่ยอมปล่อยก็ถูกชาวสวนฆ่าด้วยดาบด้วยมีดพร้า...
พระเป็นเจ้าทรงรู้ว่าพวกเราต้องมีเงินมีอาหารประทังชีพ แต่อย่าให้เงินและสิ่งของของโลกทําลายชีวิตนิรันดรของเรา เงินซื้อความสุขแท้จริงไม่ได้ จงวางใจในพระเป็นเจ้าเพราะ...
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อเคลเมนท์ ในมิสซาอาทิตย์ที่ 7 ในเทศกาลธรรมดา (20 กุมภาพันธ์ 2022) ของวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา (Father Clement, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านแรก: ซามูเอล 26:2, 7-9, 12-13, 22-23 ดาวิดไว้ชีวิตกษัตริย์ซาอูลอีกครั้งหนึ่ง
กิจการอัครสาวก: โครินธ์ 1 15:45-49 สภาพร่างกายของผู้กลับคืนชีพ
พระวรสาร: ลูกา 6:27-38 ความรักศัตรู
คุณพ่อ: พี่ชายและน้องชายทะเลาะกัน ถึงขั้นพี่ชายโกรธขนาดลั่นปากว่าจะไม่ให้อภัย แม่บอกลูกชายว่า ถ้าน้องชายตายคืนนี้ เขาจะไม่มีสันติสุขในชีวิตหน้าเพราะไม่ได้รับการให้อภัยจากพี่ ลูกชายคนโตนิ่งคิดอยู่ครู่แล้วบอกแม่ว่า " โอเค ผมให้อภัยถ้าน้องตายคืนนี้ แต่ถ้าไม่ตายคืนนี้ ผมต้องเฉ่งชําระให้หายแค้น!"
พระวรสารคําสอนของพระเยูเจ้าของเราวันนี้ก็คือ: รัก รัก รัก
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
บทอ่านแรก: ซามูเอล 26:2, 7-9, 12-13, 22-23 ดาวิดไว้ชีวิตกษัตริย์ซาอูลอีกครั้งหนึ่ง
กิจการอัครสาวก: โครินธ์ 1 15:45-49 สภาพร่างกายของผู้กลับคืนชีพ
พระวรสาร: ลูกา 6:27-38 ความรักศัตรู
คุณพ่อ: พี่ชายและน้องชายทะเลาะกัน ถึงขั้นพี่ชายโกรธขนาดลั่นปากว่าจะไม่ให้อภัย แม่บอกลูกชายว่า ถ้าน้องชายตายคืนนี้ เขาจะไม่มีสันติสุขในชีวิตหน้าเพราะไม่ได้รับการให้อภัยจากพี่ ลูกชายคนโตนิ่งคิดอยู่ครู่แล้วบอกแม่ว่า " โอเค ผมให้อภัยถ้าน้องตายคืนนี้ แต่ถ้าไม่ตายคืนนี้ ผมต้องเฉ่งชําระให้หายแค้น!"
พระวรสารคําสอนของพระเยูเจ้าของเราวันนี้ก็คือ: รัก รัก รัก
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อทิม เอลเกน ในมิสซาอาทิตย์ที่ 8 ในเทศกาลธรรมดา (27 กุมภาพันธ์ 2022) ของวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
(Father Tim Ilgen, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านแรก: บุตรสิรา 27:4-7 การพูด (การเปิดเผยด้วยการพูด)
กิจการอัครสาวก: โครินธ์ 1 15:54-58 บทเพลงฉลองชัย (ชัยชนะผ่านพระเยซูเจ้าพระผู้ไถ่)
พระวรสาร: ลูกา 6:39-45 ความดีบริบูรณ์ (คนตาบอดนําทางคนตาบอด ศิษย์ย่อมไม่อยู่เหนืออาจารย์ มองดูเศษฟางในตาของพี่น้อง แต่ไม่สังเกตเห็นท่อนซุงในตาของตัวเอง ต้นไม้พันธุ์ดีย่อมออกผลดี ต้นไม้พันธุ์ไม่ดีย่อมออกผลไม่ดี คนดีย่อมนําสิ่งที่ดีออกจากขุมทรัพย์ที่ดีในใจของตน คนเลวย่อมนําสิ่งที่เลวออกจากขุมทรัพย์ที่เลวในใจของตน ปากย่อมกล่าวสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา)
คุณพ่อ: อย่าดูทีวีดูข่าวการทําสงครามของรัสเซียที่มีต่อประเทศยูเครนมากเกินไป จิตใจจะห่อเหี่ยว พ่อรู้ว่าลูกวัดจํานวนมากเป็นทหารและทหารเก่าเกษียณ ข่าวร้ายเผยแพร่ไวมาก เหมือนกับว่าจะสิ้นโลก
จงมองและฟังพระเยซูเจ้าในพระวรสารวันนี้: คนตาบอดนําทางคนตาบอดไปสู่การทําบาป อย่าจ้องมองความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของผู้อื่น เอาท่อนซุงในตาของตัวเองออกก่อนเถอะ!
(Father Tim Ilgen, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านแรก: บุตรสิรา 27:4-7 การพูด (การเปิดเผยด้วยการพูด)
กิจการอัครสาวก: โครินธ์ 1 15:54-58 บทเพลงฉลองชัย (ชัยชนะผ่านพระเยซูเจ้าพระผู้ไถ่)
พระวรสาร: ลูกา 6:39-45 ความดีบริบูรณ์ (คนตาบอดนําทางคนตาบอด ศิษย์ย่อมไม่อยู่เหนืออาจารย์ มองดูเศษฟางในตาของพี่น้อง แต่ไม่สังเกตเห็นท่อนซุงในตาของตัวเอง ต้นไม้พันธุ์ดีย่อมออกผลดี ต้นไม้พันธุ์ไม่ดีย่อมออกผลไม่ดี คนดีย่อมนําสิ่งที่ดีออกจากขุมทรัพย์ที่ดีในใจของตน คนเลวย่อมนําสิ่งที่เลวออกจากขุมทรัพย์ที่เลวในใจของตน ปากย่อมกล่าวสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา)
คุณพ่อ: อย่าดูทีวีดูข่าวการทําสงครามของรัสเซียที่มีต่อประเทศยูเครนมากเกินไป จิตใจจะห่อเหี่ยว พ่อรู้ว่าลูกวัดจํานวนมากเป็นทหารและทหารเก่าเกษียณ ข่าวร้ายเผยแพร่ไวมาก เหมือนกับว่าจะสิ้นโลก
จงมองและฟังพระเยซูเจ้าในพระวรสารวันนี้: คนตาบอดนําทางคนตาบอดไปสู่การทําบาป อย่าจ้องมองความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆของผู้อื่น เอาท่อนซุงในตาของตัวเองออกก่อนเถอะ!
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อทิม เอลเกน ในมิสซาอาทิตย์ที่ 4 ในเทศกาลมหาพรต (27 มีนาคม 2022) ของวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา (Father Tim Ilgen, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านและพระวรสารแตกต่างจากวัดทั่วๆไป เพราะที่วัดของเรามีสุภาพบุรุษสี่คนที่กําลังเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทเป็นสมาชิกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกของเรา กําหนดให้เป็นการพิสูจน์ตรวจคุณสมบัติครั้งที่สองของผู้ตรียมตัวรับศีลล้างบาปทั่วพระศาสนจักร (The Second Scrutiny)
บทอ่านแรก: ซามูเอล 16:1b, 6-7, 10-13a ดาวิดรับเจิมเป็นกษัตริย์
กิจการอัครสาวก: เอเฟซัส 5:8-14 ในอดีตท่านเป็นความมืด...แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า...
พระวรสาร: ยอห์น 9:1-41 พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนตาบอด
คุณพ่อ: คนตาบอดผู้นั้นมีบุญสามประการ 1) ได้รับการรักษาทางร่างกายจากพระเยซูเจ้าให้มองเห็นได้ 2) แม้จะไม่รู้จักพระองค์ ไม่ได้เห็นพระองค์เพราะทรงสั่งให้ล้างโคลนที่พระองค์ทรงถ่มพระเขฬะลงบนพื้นผสมดินป้ายตา ที่สระสิโลอัม ในวันสับบาโต แต่ก็เชื่อในพระองค์ เมื่อถูกซักถามไต่สวนจากฟาริสี..."แต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยได้ยินเลยว่ามีผู้ใดรักษาคนตาบอดแต่กําเนิดให้หายได้ ถ้าเขาไม่มาจากพระเจ้า เขาก็คงจะทําอะไรไม่ได้"....3) มองเห็นพระเยซูเจ้าพระบุตรพระเป็นเจ้าด้วยตาที่ได้รับการรักษาและวิญญาน
เพราะเชื่อ เมื่อพระองค์ทรงตามหาเขาจนพบและถามว่า"ท่านเชื่อในบุตรแห่งมนุษย์หรือ"..."ข้าพเจ้าเชื่อ พระเจ้าข้า" แล้วกราบนมัสการพระองค์...
คุณพ่อทิมขณะชูศีล: เป็นบุญของเราที่เห็นพระองค์ในศีลมหาสนิท
บทอ่านและพระวรสารแตกต่างจากวัดทั่วๆไป เพราะที่วัดของเรามีสุภาพบุรุษสี่คนที่กําลังเตรียมตัวรับศีลมหาสนิทเป็นสมาชิกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกของเรา กําหนดให้เป็นการพิสูจน์ตรวจคุณสมบัติครั้งที่สองของผู้ตรียมตัวรับศีลล้างบาปทั่วพระศาสนจักร (The Second Scrutiny)
บทอ่านแรก: ซามูเอล 16:1b, 6-7, 10-13a ดาวิดรับเจิมเป็นกษัตริย์
กิจการอัครสาวก: เอเฟซัส 5:8-14 ในอดีตท่านเป็นความมืด...แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า...
พระวรสาร: ยอห์น 9:1-41 พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนตาบอด
คุณพ่อ: คนตาบอดผู้นั้นมีบุญสามประการ 1) ได้รับการรักษาทางร่างกายจากพระเยซูเจ้าให้มองเห็นได้ 2) แม้จะไม่รู้จักพระองค์ ไม่ได้เห็นพระองค์เพราะทรงสั่งให้ล้างโคลนที่พระองค์ทรงถ่มพระเขฬะลงบนพื้นผสมดินป้ายตา ที่สระสิโลอัม ในวันสับบาโต แต่ก็เชื่อในพระองค์ เมื่อถูกซักถามไต่สวนจากฟาริสี..."แต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยได้ยินเลยว่ามีผู้ใดรักษาคนตาบอดแต่กําเนิดให้หายได้ ถ้าเขาไม่มาจากพระเจ้า เขาก็คงจะทําอะไรไม่ได้"....3) มองเห็นพระเยซูเจ้าพระบุตรพระเป็นเจ้าด้วยตาที่ได้รับการรักษาและวิญญาน
เพราะเชื่อ เมื่อพระองค์ทรงตามหาเขาจนพบและถามว่า"ท่านเชื่อในบุตรแห่งมนุษย์หรือ"..."ข้าพเจ้าเชื่อ พระเจ้าข้า" แล้วกราบนมัสการพระองค์...
คุณพ่อทิมขณะชูศีล: เป็นบุญของเราที่เห็นพระองค์ในศีลมหาสนิท
สวัสดีครับ วันนี้ผมขอเสนอบทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อเคลเมนท์ ในมิสซาอาทิตย์ที่ 5 ในเทศกาลมหาพรต (3 เมษายน 2022) ของวัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
(Father Clement, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านแรก: อิสยาห์ 43:16-21 เครื่องหมายอัศจรรย์เมื่ออิสราเอลอพยพอีกครั้งหนึ่ง (การเรียกร้องให้มองอนาคตด้วยความหวัง พระเป็นเจ้าไม่ตาย มองรอบตัวแล้วจะเห็นผลงานที่สวยงามของพระองค์)
กิจการอัครสาวก: ฟีลิปปี ทางรอดพ้นสําหรับคริสตชน (ความเชื่อในพระเยูเจ้าพระผู้ไถ่คือการได้รับการไถ่กู้ แต่เราต้องไม่หละหลวมตัว เราต้องเดินรุดหน้า ขณะยังมีชีวิตบนโลกนี้ เพื่อจะได้ไปสู่สิ่งสวยงามของชีวิตในพระเยซูเจ้า-สวรรค์)
ยอห์น: 8:1-11 พระเยซูเจ้าตรัสว่า: เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด แต่ตั้งแต่นี้ไป อย่าทําบาปอีก (หญิงถูกจับขณะล่วงประเวณี การให้อภัยของพระเยซูเจ้าพระผู้ไถ่)
คุณพ่อ: บทอ่านทั้งสองและพระวรสาร บอกถึงความเมตตาและการให้อภัยโทษบาปของพระเป็นเจ้า 1) ชาวอิสราเอลที่เดินทางอพยพกลับจากการถูกเนรเทศ 2) นักบุญเปาโลถึงขนาดประกาศก้องว่ายอมทิ้งทุกอย่างเหมือนขยะเพื่อจะได้พบสิ่งสวยงามในพระองค์ ในสวรรค์ และ 3) การให้อภัยโทษบาปของหญิงที่ถูกจับในขณะล่วงประเวณี
พระเยซูเจ้าทรงป้องกันหญิงผู้นั้น พวกเราก็ต้องป้องกันผู้อื่นเช่นกัน: ผู้สูงวัย ผู้หญิง เด็ก และ ชาวยูเครน ทุกคนที่ไม่สามารถช่วยเหลือป้องกันตัวเอง
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
สาธุชน: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
สาธุชน: พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
สาธุชน: พระเป็นเจ้าดี
(Father Clement, Sacred Heart Parish, Lacey, Washington State, U.S.A. )
บทอ่านแรก: อิสยาห์ 43:16-21 เครื่องหมายอัศจรรย์เมื่ออิสราเอลอพยพอีกครั้งหนึ่ง (การเรียกร้องให้มองอนาคตด้วยความหวัง พระเป็นเจ้าไม่ตาย มองรอบตัวแล้วจะเห็นผลงานที่สวยงามของพระองค์)
กิจการอัครสาวก: ฟีลิปปี ทางรอดพ้นสําหรับคริสตชน (ความเชื่อในพระเยูเจ้าพระผู้ไถ่คือการได้รับการไถ่กู้ แต่เราต้องไม่หละหลวมตัว เราต้องเดินรุดหน้า ขณะยังมีชีวิตบนโลกนี้ เพื่อจะได้ไปสู่สิ่งสวยงามของชีวิตในพระเยซูเจ้า-สวรรค์)
ยอห์น: 8:1-11 พระเยซูเจ้าตรัสว่า: เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด แต่ตั้งแต่นี้ไป อย่าทําบาปอีก (หญิงถูกจับขณะล่วงประเวณี การให้อภัยของพระเยซูเจ้าพระผู้ไถ่)
คุณพ่อ: บทอ่านทั้งสองและพระวรสาร บอกถึงความเมตตาและการให้อภัยโทษบาปของพระเป็นเจ้า 1) ชาวอิสราเอลที่เดินทางอพยพกลับจากการถูกเนรเทศ 2) นักบุญเปาโลถึงขนาดประกาศก้องว่ายอมทิ้งทุกอย่างเหมือนขยะเพื่อจะได้พบสิ่งสวยงามในพระองค์ ในสวรรค์ และ 3) การให้อภัยโทษบาปของหญิงที่ถูกจับในขณะล่วงประเวณี
พระเยซูเจ้าทรงป้องกันหญิงผู้นั้น พวกเราก็ต้องป้องกันผู้อื่นเช่นกัน: ผู้สูงวัย ผู้หญิง เด็ก และ ชาวยูเครน ทุกคนที่ไม่สามารถช่วยเหลือป้องกันตัวเอง
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
สาธุชน: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
สาธุชน: พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
สาธุชน: พระเป็นเจ้าดี
วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2022 วันแม่ของสหรัฐอเมริกา
พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น 10:27-30
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า "แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา เรารู้จักมัน และมันก็ตามเรา เราให้ชีวิตนิรันดรกับแกะเหล่านั้น และมันจะไม่พินาศเลยตลอดนิรันดร ไม่มีใครแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือเราได้ พระบิดาของเรา ผู้ประทานแกะเหล่านี้ให้เรา ทรงยิ่งใหญ่กว่าทุกคน และไม่มีใครแย่งชิง ไปจากพระหัตถ์ของพระบิดาได้ เรากับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน"
คุณพ่อเคลเมนท์ เทศน์ในมิสซา คําเทศน์ออกจากหัวใจ และประสบการณ์ในชีวิตของท่านทําให้พวกเราสท้อนใจ นิ่งอึ้ง ทุกคน: พวกเราไม่ได้มีชีวิตอยู่ถึงปัจจุบันถ้าไม่มีแม่ให้กําเนิดพวกเรา เรามีป้า น้าสาว อาสาว พี่สาว น้องสาว แต่เรามีแม่คนเดียว ถ้าเรามีปัญหากับแม่ วันนี้เป็นวันที่เราควรจะคืนดีกับแม่ ถ้าแม่ล่วงลับไปแล้วก็สวดให้ท่าน
แม่ของพ่อพูดกับพี่สาวของพ่อและพ่อเมื่อเราทั้งสองยังเล็กๆว่า เพราะเราทั้งสองทําให้แม่อยู่ได้ การศึกษาเป็นหนทางไปสู่อนาคตที่ดี หลายปีต่อมาพ่อถึงเข้าใจคําพูดเหล่านี้: คุณแม่กับคุณพ่อของเราสองพี่น้องไม่มีความสัมพันธ์ที่ดี แม่ต้องทน ไม่ยอมหย่า แยกทาง เก็บความขมขื่น ทรมานใจเพื่ออนาคตของเราสองพี่น้อง
พ่อเป็นพระสงฆ์ ได้รับความรัก ความอบอุ่นจากพวกเรา ทําให้พ่อมีแม่ มีพ่อ มีลุง มีป้า มีน้าสาว มีอาสาว มีพี่สาว มีน้องสาว
พระเยซูเจ้า นายชุมพาบาลที่ดี ทรงยืนเคาะประตูหัวใจของเรา จงฟังเสียงของพระองค์ และเปิดประตูหัวใจต้อนรับพระองค์ เพราะพระองค์รักเรา รักถึงกับมอบพระมารดาของพระองค์ให้เป็นแม่ของพวกเรามวลมนุษย์ ขณะที่ทรงรับทรมานถึงตรึงบนไม้กางเขนไถ่บาปให้พวกเรา
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
ก่อนจบมิสซาคุณพ่อบอกให้ทุกคนนั่ง แล้วให้คุณแม่ทุกคนยืนขึ้น ท่านอวยพรคุณแม่ แล้วปรบมือนําพวกเรา
สุขสันต์วันแม่ครับ
พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น 10:27-30
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า "แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา เรารู้จักมัน และมันก็ตามเรา เราให้ชีวิตนิรันดรกับแกะเหล่านั้น และมันจะไม่พินาศเลยตลอดนิรันดร ไม่มีใครแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือเราได้ พระบิดาของเรา ผู้ประทานแกะเหล่านี้ให้เรา ทรงยิ่งใหญ่กว่าทุกคน และไม่มีใครแย่งชิง ไปจากพระหัตถ์ของพระบิดาได้ เรากับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน"
คุณพ่อเคลเมนท์ เทศน์ในมิสซา คําเทศน์ออกจากหัวใจ และประสบการณ์ในชีวิตของท่านทําให้พวกเราสท้อนใจ นิ่งอึ้ง ทุกคน: พวกเราไม่ได้มีชีวิตอยู่ถึงปัจจุบันถ้าไม่มีแม่ให้กําเนิดพวกเรา เรามีป้า น้าสาว อาสาว พี่สาว น้องสาว แต่เรามีแม่คนเดียว ถ้าเรามีปัญหากับแม่ วันนี้เป็นวันที่เราควรจะคืนดีกับแม่ ถ้าแม่ล่วงลับไปแล้วก็สวดให้ท่าน
แม่ของพ่อพูดกับพี่สาวของพ่อและพ่อเมื่อเราทั้งสองยังเล็กๆว่า เพราะเราทั้งสองทําให้แม่อยู่ได้ การศึกษาเป็นหนทางไปสู่อนาคตที่ดี หลายปีต่อมาพ่อถึงเข้าใจคําพูดเหล่านี้: คุณแม่กับคุณพ่อของเราสองพี่น้องไม่มีความสัมพันธ์ที่ดี แม่ต้องทน ไม่ยอมหย่า แยกทาง เก็บความขมขื่น ทรมานใจเพื่ออนาคตของเราสองพี่น้อง
พ่อเป็นพระสงฆ์ ได้รับความรัก ความอบอุ่นจากพวกเรา ทําให้พ่อมีแม่ มีพ่อ มีลุง มีป้า มีน้าสาว มีอาสาว มีพี่สาว มีน้องสาว
พระเยซูเจ้า นายชุมพาบาลที่ดี ทรงยืนเคาะประตูหัวใจของเรา จงฟังเสียงของพระองค์ และเปิดประตูหัวใจต้อนรับพระองค์ เพราะพระองค์รักเรา รักถึงกับมอบพระมารดาของพระองค์ให้เป็นแม่ของพวกเรามวลมนุษย์ ขณะที่ทรงรับทรมานถึงตรึงบนไม้กางเขนไถ่บาปให้พวกเรา
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
ก่อนจบมิสซาคุณพ่อบอกให้ทุกคนนั่ง แล้วให้คุณแม่ทุกคนยืนขึ้น ท่านอวยพรคุณแม่ แล้วปรบมือนําพวกเรา
สุขสันต์วันแม่ครับ
วันสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ (วันอาทิตย์ 29 พฤษภาคม 2022)
สวัสดีครับ วันนี้ยังเป็นวันจันทร์ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวาน (วันอาทิตย์ 29 พฤษภาคม 2022) ผมกับภรรยาไปร่วมมิสซาสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ที่วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกาคุณพ่อพอล (Father Paul) อาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยเซนต์มาร์ตินติดกับวัด ทํามิสซาช่วยคุณพ่อทิม เพราะคุณพ่อเคลเมนท์ไปเยี่ยมบ้านที่ประเทศมาลาวี (Malawi) ร่วมสองอาทิตย์แล้ว
บทเทศน์เด็ดของคุณพ่อพอล: พระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ เป็นการรวมอยู่ในพระตรีเอกภาพ ( พระบิดา พระบุตร พระจิต) พระเป็นเจ้าแท้องค์เดียว และพวกเรารวมอยู่ในพระตรีเอกภาพเช่นกัน เพราะพวกเราเป็นลูกบุญธรรมของพระบิดาผ่านพระเยซูเจ้าพระบุตร
ไม่มีศาสนาไหนในโลกที่มนุษย์รวมอยู่ในตัวพระเป็นเจ้าของศาสนาของพวกเขา มีแต่ของเราคริสตศาสนาเท่านั้น!
สวัสดีครับ วันนี้เป็นวันเสาร์ที่สหรัฐอเมริกา ผมกับภรรยาไปร่วมมิสซาสมโภชพระจิตเจ้า เวลา 17.00 น (เป็นมิสซาแทนวันอาทิตย์ 5 มิถุนายน 2022 สมโภชพระจิตเจ้า) ที่วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา)
ยอห์น: 14:15-16 สรุป: พระเยซูเจ้าทรงบอกสานุศิษย์ว่าพระจิตเจ้า พระจิตแห่งความจริง จะทรงเปิดเผยทุกอย่างให้พวกเขา พระจิตเจ้าจะทรงเป็นผู้ช่วยเหลือองค์ใหม่ของพวกเขา
...เราจะวอนขอพระบิดา แล้วพระองค์จะประทานผู้ช่วยเหลืออีกองค์หนึ่งให้ท่านเพื่อจะอยู่กับท่านตลอดไป...
บทเทศ์ของคุณพ่อทิม: พระตรีเอกภาพ (พระบิดา พระบุตร พระจิต) ได้มีการเอ่ยถึงและมีสัญลักษณ์ตั้งแต่เมื่อชาวอิสราเอลได้รับอิสรภาพจากชาวอียิปต์ภายใต้การนําของโมเสส เดินทางในกันดารวิถี แล้วพระองค์ทรงบัญชาโมเสสให้สร้างกระโจมที่ประทับของพระองค์ ในกระโจมมีหีบพันธสัญญา (พระบัญญัติสิบประการ ศักดิ์สิทธิ์ของศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวล >พระบิดาประทับอยู่) โต๊ะตั้งขนมปังถวายแด่พระเจ้า (ขนมปังไม่มีเชื้อ บริสุทธิ์ผุดผ่อง> พระบุตร/พระเยซูเจ้า) เชิงประทีป (มีตะเกียงเจ็ดดวง> พระจิตเจ้าและพระพรของพระองค์)
เมื่อพระบุตร/ พระเยซูเจ้าทรงบังเกิด: สงบเงียบ เมื่อทรงฟื้นคืนชีพและเสด็จสู่สวรรค์: เสียงดังกึกก้อง เมื่อพระจิตเจ้าเสด็จมา: เสียงลั่นสนั่นฟ้า ให้รู้ว่าเป็นพระองค์
กระโจมที่ประทับ
8 ช่างมีฝีมือที่ทำงานทุกคนก็สร้างกระโจมที่ประทับใช้ผ้าป่านเนื้อละเอียดสิบผืน ทอไขว้จากด้ายสีม่วง สีม่วงแดง และสีแดงเข้ม แล้วปักอย่างประณีตเป็นรูปเครูบใหญ่ 9 ผ้าแต่ละชิ้นยาวสิบสี่หลา กว้างสองหลา ผ้าทุกผืนมีขนาดเดียวกัน 10 เขานำผ้าห้าผืนมาเย็บติดกันและเย็บอีกห้าผืนติดกันด้วย 11 เขาใช้ผ้าสีม่วงทำหูไว้ที่ริมด้านนอกของผ้าชุดแรก เช่นเดียวกับที่ริมผ้าผืนสุดท้ายของชุดที่สอง 12 เขาทำหูห้าสิบหูไว้ที่ผ้าชุดแรก และอีกห้าสิบหูไว้ที่ขอบนอกของผ้าชุดที่สอง หูทั้งหมดอยู่ตรงกัน 13 เขาทำตะขอทองคำห้าสิบอัน เพื่อเกี่ยวผ้าสองชุดนี้เข้าด้วยกันเป็นกระโจมที่ประทับหลังเดียว 14 เขาทอผ้าสิบเอ็ดผืนด้วยขนแพะเพื่อทำผ้าคลุมกระโจมที่ประทับชั้นบน 15 ผ้าแต่ละผืนนี้ยาวสิบห้าหลา กว้างสองหลา ทุกผืนมีขนาดเดียวกัน 16 เขานำผ้าห้าผืนมาเย็บติดกันเป็นผืน และอีกหกผืนมาเย็บติดกัน 17 เขาทำหูห้าสิบหูไว้ที่ริมผ้าผืนสุดท้ายของชุดแรกและหูห้าสิบหูไว้ริมผ้าชุดที่สอง 18 เขาทำตะขอทองแดงห้าสิบอัน เพื่อดึงกระโจมเข้าด้วยกัน ทำให้เป็นหลังเดียว 19 เขาใช้หนังแกะย้อมสีแดงคลุมกระโจม และใช้หนังฟอกอย่างดีคลุมข้างบนอีกชั้นหนึ่ง
หีบพันธสัญญา
1 เบซาเลลสร้างหีบไม้กระถินเทศ ยาวสองศอกครึ่ง กว้างหนึ่งศอกครึ่ง และสูงหนึ่งศอกครึ่ง 2 เขาบุภายในและหุ้มภายนอกด้วยทองคำบริสุทธิ์ และทำขอบทองคำไว้รอบหีบ 3 เขาทำห่วงทองคำสี่ห่วงติดไว้ที่ขาหีบทั้งสี่ ด้านละสองห่วง 4 เขาทำคานด้วยไม้กระถินเทศหุ้มทองคำ 5 แล้วสอดคานนี้ในห่วงที่อยู่ข้างหีบสองด้าน สำหรับหาม 6 เขาทำพระที่นั่งพระกรุณาด้วยทองคำบริสุทธิ์ ยาวสองศอกครึ่ง กว้างหนึ่งศอกครึ่ง 7 เขาใช้ค้อนเคาะทองคำเป็นรูปเครูบสองตนไว้ที่ปลายพระที่นั่งพระกรุณาทั้งสองด้าน 8 รูปเครูบอยู่ที่ปลายสุดของหีบด้านละตน ติดเป็นเนื้อเดียวกันกับพระที่นั่งพระกรุณาทั้งสองด้าน 9 เครูบนั้นกางปีกปกเหนือพระที่นั่งพระกรุณา และหันหน้าเข้าหากัน ต่างมองดูพระที่นั่งพระกรุณา
โต๊ะตั้งขนมปังถวายแด่พระเจ้า
10 เขาสร้างโต๊ะไม้กระถินเทศยาวสองศอก กว้างหนึ่งศอกและสูงหนึ่งศอกครึ่ง 11 หุ้มด้วยทองคำบริสุทธิ์ และทำขอบทองคำไว้รอบโต๊ะ 12 เขาทำกรอบกว้างหนึ่งฝ่ามือ และทำขอบทองคำรอบกรอบนี้ 13 เขาทำห่วงทองคำสี่ห่วง ติดไว้ที่ขาโต๊ะทั้งสี่มุม 14 ห่วงนี้อยู่ติดกับกรอบโต๊ะเพื่อสอดคานที่ใช้หามโต๊ะ 15 เขาทำคานนี้ด้วยไม้กระถินเทศ แล้วหุ้มทองคำ คานนี้ใช้หามโต๊ะ 16 เขาทำเครื่องใช้ประจำโต๊ะด้วย คือ จาน ถ้วย เหยือก และชามสำหรับเทเครื่องดื่มถวาย เขาทำภาชนะเหล่านี้ด้วยทองคำ
เชิงประทีป
17 เขาทำเชิงประทีปทองคำบริสุทธิ์ ใช้ค้อนเคาะให้เป็นฐาน ลำต้นและกิ่ง ดอกตูม ดอกบานและกลีบติดเป็นเนื้อเดียวกัน 18 มีกิ่งยื่นออกมาหกกิ่ง ข้างละสามกิ่ง 19 แต่ละกิ่งมีดอกบานสามดอก รูปร่างคล้ายดอกอัลมอนด์ พร้อมกับดอกตูมและกลีบ ทั้งหกกิ่งมีลักษณะเช่นเดียวกัน20 ลำเชิงประทีปมีดอกบานสี่ดอกรูปร่างคล้ายดอกอัลมอนด์ พร้อมกับดอกตูมและกลีบ 21 ใต้กิ่งทั้งสามคู่ที่ยื่นออกมาจากลำเชิงประทีปมีดอกตูมคู่ละดอก 22 ทั้งดอกตูมและกิ่งติดเป็นเนื้อเดียวกับเชิงประทีป ทุกส่วนทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ที่ใช้ค้อนเคาะออกมา 23 เขาทำตะเกียงเจ็ดดวง คีมและถาดรองด้วยทองคำบริสุทธิ์ 24 เขาใช้ทองคำบริสุทธิ์หนักสามสิบห้ากิโลกรัม ทำเชิงประทีปและเครื่องใช้ประจำเชิงประทีป
ยอห์น: 14:15-16 สรุป: พระเยซูเจ้าทรงบอกสานุศิษย์ว่าพระจิตเจ้า พระจิตแห่งความจริง จะทรงเปิดเผยทุกอย่างให้พวกเขา พระจิตเจ้าจะทรงเป็นผู้ช่วยเหลือองค์ใหม่ของพวกเขา
...เราจะวอนขอพระบิดา แล้วพระองค์จะประทานผู้ช่วยเหลืออีกองค์หนึ่งให้ท่านเพื่อจะอยู่กับท่านตลอดไป...
บทเทศ์ของคุณพ่อทิม: พระตรีเอกภาพ (พระบิดา พระบุตร พระจิต) ได้มีการเอ่ยถึงและมีสัญลักษณ์ตั้งแต่เมื่อชาวอิสราเอลได้รับอิสรภาพจากชาวอียิปต์ภายใต้การนําของโมเสส เดินทางในกันดารวิถี แล้วพระองค์ทรงบัญชาโมเสสให้สร้างกระโจมที่ประทับของพระองค์ ในกระโจมมีหีบพันธสัญญา (พระบัญญัติสิบประการ ศักดิ์สิทธิ์ของศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวล >พระบิดาประทับอยู่) โต๊ะตั้งขนมปังถวายแด่พระเจ้า (ขนมปังไม่มีเชื้อ บริสุทธิ์ผุดผ่อง> พระบุตร/พระเยซูเจ้า) เชิงประทีป (มีตะเกียงเจ็ดดวง> พระจิตเจ้าและพระพรของพระองค์)
เมื่อพระบุตร/ พระเยซูเจ้าทรงบังเกิด: สงบเงียบ เมื่อทรงฟื้นคืนชีพและเสด็จสู่สวรรค์: เสียงดังกึกก้อง เมื่อพระจิตเจ้าเสด็จมา: เสียงลั่นสนั่นฟ้า ให้รู้ว่าเป็นพระองค์
กระโจมที่ประทับ
8 ช่างมีฝีมือที่ทำงานทุกคนก็สร้างกระโจมที่ประทับใช้ผ้าป่านเนื้อละเอียดสิบผืน ทอไขว้จากด้ายสีม่วง สีม่วงแดง และสีแดงเข้ม แล้วปักอย่างประณีตเป็นรูปเครูบใหญ่ 9 ผ้าแต่ละชิ้นยาวสิบสี่หลา กว้างสองหลา ผ้าทุกผืนมีขนาดเดียวกัน 10 เขานำผ้าห้าผืนมาเย็บติดกันและเย็บอีกห้าผืนติดกันด้วย 11 เขาใช้ผ้าสีม่วงทำหูไว้ที่ริมด้านนอกของผ้าชุดแรก เช่นเดียวกับที่ริมผ้าผืนสุดท้ายของชุดที่สอง 12 เขาทำหูห้าสิบหูไว้ที่ผ้าชุดแรก และอีกห้าสิบหูไว้ที่ขอบนอกของผ้าชุดที่สอง หูทั้งหมดอยู่ตรงกัน 13 เขาทำตะขอทองคำห้าสิบอัน เพื่อเกี่ยวผ้าสองชุดนี้เข้าด้วยกันเป็นกระโจมที่ประทับหลังเดียว 14 เขาทอผ้าสิบเอ็ดผืนด้วยขนแพะเพื่อทำผ้าคลุมกระโจมที่ประทับชั้นบน 15 ผ้าแต่ละผืนนี้ยาวสิบห้าหลา กว้างสองหลา ทุกผืนมีขนาดเดียวกัน 16 เขานำผ้าห้าผืนมาเย็บติดกันเป็นผืน และอีกหกผืนมาเย็บติดกัน 17 เขาทำหูห้าสิบหูไว้ที่ริมผ้าผืนสุดท้ายของชุดแรกและหูห้าสิบหูไว้ริมผ้าชุดที่สอง 18 เขาทำตะขอทองแดงห้าสิบอัน เพื่อดึงกระโจมเข้าด้วยกัน ทำให้เป็นหลังเดียว 19 เขาใช้หนังแกะย้อมสีแดงคลุมกระโจม และใช้หนังฟอกอย่างดีคลุมข้างบนอีกชั้นหนึ่ง
หีบพันธสัญญา
1 เบซาเลลสร้างหีบไม้กระถินเทศ ยาวสองศอกครึ่ง กว้างหนึ่งศอกครึ่ง และสูงหนึ่งศอกครึ่ง 2 เขาบุภายในและหุ้มภายนอกด้วยทองคำบริสุทธิ์ และทำขอบทองคำไว้รอบหีบ 3 เขาทำห่วงทองคำสี่ห่วงติดไว้ที่ขาหีบทั้งสี่ ด้านละสองห่วง 4 เขาทำคานด้วยไม้กระถินเทศหุ้มทองคำ 5 แล้วสอดคานนี้ในห่วงที่อยู่ข้างหีบสองด้าน สำหรับหาม 6 เขาทำพระที่นั่งพระกรุณาด้วยทองคำบริสุทธิ์ ยาวสองศอกครึ่ง กว้างหนึ่งศอกครึ่ง 7 เขาใช้ค้อนเคาะทองคำเป็นรูปเครูบสองตนไว้ที่ปลายพระที่นั่งพระกรุณาทั้งสองด้าน 8 รูปเครูบอยู่ที่ปลายสุดของหีบด้านละตน ติดเป็นเนื้อเดียวกันกับพระที่นั่งพระกรุณาทั้งสองด้าน 9 เครูบนั้นกางปีกปกเหนือพระที่นั่งพระกรุณา และหันหน้าเข้าหากัน ต่างมองดูพระที่นั่งพระกรุณา
โต๊ะตั้งขนมปังถวายแด่พระเจ้า
10 เขาสร้างโต๊ะไม้กระถินเทศยาวสองศอก กว้างหนึ่งศอกและสูงหนึ่งศอกครึ่ง 11 หุ้มด้วยทองคำบริสุทธิ์ และทำขอบทองคำไว้รอบโต๊ะ 12 เขาทำกรอบกว้างหนึ่งฝ่ามือ และทำขอบทองคำรอบกรอบนี้ 13 เขาทำห่วงทองคำสี่ห่วง ติดไว้ที่ขาโต๊ะทั้งสี่มุม 14 ห่วงนี้อยู่ติดกับกรอบโต๊ะเพื่อสอดคานที่ใช้หามโต๊ะ 15 เขาทำคานนี้ด้วยไม้กระถินเทศ แล้วหุ้มทองคำ คานนี้ใช้หามโต๊ะ 16 เขาทำเครื่องใช้ประจำโต๊ะด้วย คือ จาน ถ้วย เหยือก และชามสำหรับเทเครื่องดื่มถวาย เขาทำภาชนะเหล่านี้ด้วยทองคำ
เชิงประทีป
17 เขาทำเชิงประทีปทองคำบริสุทธิ์ ใช้ค้อนเคาะให้เป็นฐาน ลำต้นและกิ่ง ดอกตูม ดอกบานและกลีบติดเป็นเนื้อเดียวกัน 18 มีกิ่งยื่นออกมาหกกิ่ง ข้างละสามกิ่ง 19 แต่ละกิ่งมีดอกบานสามดอก รูปร่างคล้ายดอกอัลมอนด์ พร้อมกับดอกตูมและกลีบ ทั้งหกกิ่งมีลักษณะเช่นเดียวกัน20 ลำเชิงประทีปมีดอกบานสี่ดอกรูปร่างคล้ายดอกอัลมอนด์ พร้อมกับดอกตูมและกลีบ 21 ใต้กิ่งทั้งสามคู่ที่ยื่นออกมาจากลำเชิงประทีปมีดอกตูมคู่ละดอก 22 ทั้งดอกตูมและกิ่งติดเป็นเนื้อเดียวกับเชิงประทีป ทุกส่วนทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ที่ใช้ค้อนเคาะออกมา 23 เขาทำตะเกียงเจ็ดดวง คีมและถาดรองด้วยทองคำบริสุทธิ์ 24 เขาใช้ทองคำบริสุทธิ์หนักสามสิบห้ากิโลกรัม ทำเชิงประทีปและเครื่องใช้ประจำเชิงประทีป
มิสซาวันสมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสเจ้า วันอาทิตย์ 19 มิถุนายน 2022
ปฐมกาล 14:18-20 (เมลคีเซเดค อวยพรอับราม/อับราฮัม)
18 เมลคีเซเดค กษัตริย์เมืองซาเลม ทรงเอาขนมปังและเหล้าองุ่นมาให้ พระองค์ทรงเป็นสมณะของพระเจ้าสูงสุด
19 ทรงอวยพรอับรามว่าดังนี้ “อับรามจงได้รับพรจากพระเจ้าสูงสุด ผู้ทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน
20 ขอถวายพระพรแด่พระเจ้าสูงสุด เพราะพระองค์ทรงมอบศัตรูไว้ในมือของท่าน” อับรามถวายหนึ่งในสิบของทุกสิ่งที่ยึดมาได้ให้แก่เมลคีเซเดค
กิจการอัครสาวก 1 โครินธ์ 11:23-26
23 ข้าพเจ้าได้รับสิ่งใดมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้มอบสิ่งนั้นต่อให้ท่าน คือในคืนที่ทรงถูกทรยศนั้นเอง พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหยิบปัง
24 ขอบพระคุณ แล้วทรงบิออก ตรัสว่า “นี่คือกายของเราเพื่อท่านทั้งหลายจงทำการนี้เพื่อระลึกถึงเราเถิด”
25 เช่นเดียวกัน หลังอาหารค่ำ ก็ทรงหยิบถ้วย ตรัสว่า “ถ้วยนี้คือพันธสัญญาใหม่ในโลหิตของเรา ทุกครั้งที่ท่านจะดื่ม จงทำการนี้เพื่อระลึกถึงเราเถิด”
26 ทุกครั้งที่ท่านกินปังนี้ และดื่มจากถ้วยนี้ ท่านก็ประกาศการสิ้นพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจนกว่าพระองค์จะเสด็จมา
พระวรสารโดยนักบุญลูกา: 9:11b-17
เมื่อบรรดาอัครสาวกกลับมาแล้ว เขาทูลทุกสิ่งที่ได้กระทำแด่พระเยซูเจ้า พระองค์จึงทรงพาเขาไปด้วย ทรงปลีกพระองค์ไปยังเมืองที่มีชื่อว่าเบธไซดา
11 แต่ประชาชนรู้จึงติดตามพระองค์ไป พระองค์ทรงต้อนรับเขาและตรัสสอนเขาเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้า ทรงรักษาคนที่ต้องการการบำบัดรักษา 12 เมื่อจวนถึงเวลาเย็น อัครสาวกสิบสองคนมาทูลพระองค์ว่า “ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประชาชนกลับไปเถิด เขาจะได้ไปตามหมู่บ้านและชนบทโดยรอบเพื่อหาที่พักและอาหาร เพราะขณะนี้เราอยู่ในที่เปลี่ยว” 13 พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” เขาทูลว่า “เราไม่มีอะไรนอกจากขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวเท่านั้น หรือว่าเราจะไปซื้ออาหารสำหรับคนเหล่านี้ทั้งหมด” 14 ที่นั่นมีผู้ชายประมาณห้าพันคน พระองค์จึงตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงบอกให้พวกเขานั่งลงเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณห้าสิบคน” 15 เขาก็ทำตามและให้ทุกคนนั่งลง 16 พระเยซูเจ้าทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้นมา ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า ทรงกล่าวถวายพระพร ทรงบิขนมปัง ส่งให้บรรดาศิษย์นำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน 17 ทุกคนได้กินจนอิ่ม แล้วยังเก็บเศษที่เหลือได้สิบสองกระบุง
บทเทศน์เด็ดของคุณพ่อเคลเมนท์: "พวกเราเป็นสิ่งที่เรากิน พระเยซูเจ้าทรงประทานพระโลหิตและพระวรกายให้เรา ทรงให้พระเทวภาพของพระองค์ให้เราและทรงรับความเป็นมนุษย์ของเรา ทรงเลี้ยงพวกเราด้วยขนมปัง ปลา และอาหารของวิญญาณ จงมีความสํารวมและกราบนมัสการพระองค์ที่เสด็จมาประทับในปังและเหล้าองุ่นที่พ่อจะเศก พระองค์อยู่กับเราจริง!
-> วันนี้เป็นวันพ่อ จงกราบขอบพระคุณพระองค์ พ่อขอเชิญพ่อทุกคนให้ยืนขึ้น ที่เหลือนั่งกับที่ พ่อขออวยพรพ่อทุกคนที่เลี้ยงดูครอบครัวและลูกๆด้วยอาหารของร่างกายและอาหารของวิญญาน
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
-> คุณพ่ออัญเชิญพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท
แล้วนําขบวนแห่ในวัดก่อนจะอวยพรพวกเรา จบพิธีมิสซา
ปฐมกาล 14:18-20 (เมลคีเซเดค อวยพรอับราม/อับราฮัม)
18 เมลคีเซเดค กษัตริย์เมืองซาเลม ทรงเอาขนมปังและเหล้าองุ่นมาให้ พระองค์ทรงเป็นสมณะของพระเจ้าสูงสุด
19 ทรงอวยพรอับรามว่าดังนี้ “อับรามจงได้รับพรจากพระเจ้าสูงสุด ผู้ทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน
20 ขอถวายพระพรแด่พระเจ้าสูงสุด เพราะพระองค์ทรงมอบศัตรูไว้ในมือของท่าน” อับรามถวายหนึ่งในสิบของทุกสิ่งที่ยึดมาได้ให้แก่เมลคีเซเดค
กิจการอัครสาวก 1 โครินธ์ 11:23-26
23 ข้าพเจ้าได้รับสิ่งใดมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้มอบสิ่งนั้นต่อให้ท่าน คือในคืนที่ทรงถูกทรยศนั้นเอง พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหยิบปัง
24 ขอบพระคุณ แล้วทรงบิออก ตรัสว่า “นี่คือกายของเราเพื่อท่านทั้งหลายจงทำการนี้เพื่อระลึกถึงเราเถิด”
25 เช่นเดียวกัน หลังอาหารค่ำ ก็ทรงหยิบถ้วย ตรัสว่า “ถ้วยนี้คือพันธสัญญาใหม่ในโลหิตของเรา ทุกครั้งที่ท่านจะดื่ม จงทำการนี้เพื่อระลึกถึงเราเถิด”
26 ทุกครั้งที่ท่านกินปังนี้ และดื่มจากถ้วยนี้ ท่านก็ประกาศการสิ้นพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจนกว่าพระองค์จะเสด็จมา
พระวรสารโดยนักบุญลูกา: 9:11b-17
เมื่อบรรดาอัครสาวกกลับมาแล้ว เขาทูลทุกสิ่งที่ได้กระทำแด่พระเยซูเจ้า พระองค์จึงทรงพาเขาไปด้วย ทรงปลีกพระองค์ไปยังเมืองที่มีชื่อว่าเบธไซดา
11 แต่ประชาชนรู้จึงติดตามพระองค์ไป พระองค์ทรงต้อนรับเขาและตรัสสอนเขาเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้า ทรงรักษาคนที่ต้องการการบำบัดรักษา 12 เมื่อจวนถึงเวลาเย็น อัครสาวกสิบสองคนมาทูลพระองค์ว่า “ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประชาชนกลับไปเถิด เขาจะได้ไปตามหมู่บ้านและชนบทโดยรอบเพื่อหาที่พักและอาหาร เพราะขณะนี้เราอยู่ในที่เปลี่ยว” 13 พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” เขาทูลว่า “เราไม่มีอะไรนอกจากขนมปังห้าก้อนและปลาสองตัวเท่านั้น หรือว่าเราจะไปซื้ออาหารสำหรับคนเหล่านี้ทั้งหมด” 14 ที่นั่นมีผู้ชายประมาณห้าพันคน พระองค์จึงตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า “จงบอกให้พวกเขานั่งลงเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณห้าสิบคน” 15 เขาก็ทำตามและให้ทุกคนนั่งลง 16 พระเยซูเจ้าทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวนั้นมา ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า ทรงกล่าวถวายพระพร ทรงบิขนมปัง ส่งให้บรรดาศิษย์นำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน 17 ทุกคนได้กินจนอิ่ม แล้วยังเก็บเศษที่เหลือได้สิบสองกระบุง
บทเทศน์เด็ดของคุณพ่อเคลเมนท์: "พวกเราเป็นสิ่งที่เรากิน พระเยซูเจ้าทรงประทานพระโลหิตและพระวรกายให้เรา ทรงให้พระเทวภาพของพระองค์ให้เราและทรงรับความเป็นมนุษย์ของเรา ทรงเลี้ยงพวกเราด้วยขนมปัง ปลา และอาหารของวิญญาณ จงมีความสํารวมและกราบนมัสการพระองค์ที่เสด็จมาประทับในปังและเหล้าองุ่นที่พ่อจะเศก พระองค์อยู่กับเราจริง!
-> วันนี้เป็นวันพ่อ จงกราบขอบพระคุณพระองค์ พ่อขอเชิญพ่อทุกคนให้ยืนขึ้น ที่เหลือนั่งกับที่ พ่อขออวยพรพ่อทุกคนที่เลี้ยงดูครอบครัวและลูกๆด้วยอาหารของร่างกายและอาหารของวิญญาน
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
-> คุณพ่ออัญเชิญพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท
แล้วนําขบวนแห่ในวัดก่อนจะอวยพรพวกเรา จบพิธีมิสซา
บทเทศน์เด็ดของคุณพ่อทิม เอลเกน ( Father Tim Ilgen) วันอาทิตย์ที่ 13 ในเทศกาลธรรมดา ( 26 มิถุนายน 2022)
บทอ่านที่หนึ่ง: พงศ์กษัตริย์ 19-21 พระเจ้าทรงเรียกเอลีชาเป็นประกาศก เอลีชาสนองตอบทันที
19 เอลียาห์ออกจากที่นั่นไปพบเอลีชา บุตรของชาฟัท เขากำลังไถนา ข้างหน้าเขามีโคสิบสองคู่ เขาไถนาอยู่กับคู่สุดท้าย เอลียาห์เดินผ่านเข้าไปใกล้ๆ ถอดเสื้อคลุมของตนห่มให้เอลีชา20 เอลีชาจึงละโคเหล่านั้นวิ่งตามเอลียาห์ไป พูดว่า “ขอให้ข้าพเจ้าไปจูบลาบิดามารดาก่อน แล้วข้าพเจ้าจะติดตามท่าน” เอลียาห์ตอบว่า “ไปเถิดแล้วจงกลับมา ท่านเข้าใจแล้วว่าข้าพเจ้าทำอะไรให้ท่าน” 21 เอลีชาก็กลับไปบ้าน ฆ่าโคคู่หนึ่ง ใช้แอกและคันไถเป็นฟืนปรุงเนื้อโคเป็นอาหาร แจกเนื้อให้ประชาชนกิน แล้วจึงออกเดินทางติดตามไปรับใช้เอลียาห์
บทอ่านที่สอง: กาลาเทีย 5: 13-18 เสรีภาพและความรัก
13 พี่น้องทั้งหลาย พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มารับอิสรภาพ ขอเพียงแต่อย่าใช้ อิสรภาพนั้นเป็นข้อแก้ตัวที่จะทำตามใจตน แต่จงรับใช้ซึ่งกันและกันด้วยความรัก 14 เพราะธรรมบัญญัติทั้งหมดสรุปได้เป็นข้อเดียวว่า จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง
15 ถ้าท่านกัดกันและกินกัน ก็จงระวังตัวไว้เถิดว่า ท่านจะทำลายกันจนหมดสิ้น 16 บัดนี้ ข้าพเจ้าขอบอกท่านทั้งหลายว่า จงดำเนินตามพระจิตเจ้า และอย่าตอบสนองความปรารถนาตามธรรมชาติ 17 เพราะธรรมชาติมนุษย์มีความปรารถนาตรงกันข้ามกับพระจิตเจ้า และพระจิตเจ้าก็ทรงปรารถนาตรงกันข้ามกับธรรมชาติมนุษย์ สองสิ่งนี้ขัดแย้งกัน ท่านทำสิ่งที่ท่านอยากทำไม่ได้ 18 ถ้าท่านมีพระจิตเจ้าเป็นผู้นำ ท่านก็ไม่อยู่ภายใต้ธรรมบัญญัติ
พระวรสารโดยนักบุญลูกา 9:51-62 ความยากลำบากในการเป็นอัครสาวก
51 เวลาที่พระเยซูเจ้าจะต้องทรงจากโลกนี้ไป ใกล้เข้ามาแล้ว พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่จะเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม 52 และทรงส่งผู้นำสารไปล่วงหน้า คนเหล่านี้ออกเดินทางและเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของชาวสะมาเรียเพื่อเตรียมรับเสด็จพระองค์ 53 แต่ประชาชนที่นั่นไม่ยอมรับเสด็จเพราะพระองค์กำลังเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม
54 เมื่อยากอบและยอห์นศิษย์ของพระองค์เห็นดังนี้ก็ทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ทรงพระประสงค์ให้เราเรียกไฟจากฟ้าลงมาเผาผลาญคนเหล่านี้หรือไม่ 55 พระเยซูเจ้าทรงหันไปตำหนิศิษย์ทั้งสองคน 56 แล้วทรงพระดำเนินต่อไปยังหมู่บ้านอื่นพร้อมกับบรรดาศิษย์ 57 ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินตามทางพร้อมกับบรรดาศิษย์ ชายผู้หนึ่งทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะติดตามพระองค์ไปทุกแห่งที่พระองค์จะเสด็จ 58 พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “สุนัขจิ้งจอกยังมีโพรง นกในอากาศยังมีรัง แต่บุตรแห่งมนุษย์ไม่มีที่จะวางศีรษะ” 59 พระองค์ตรัสกับอีกคนหนึ่งว่า “จงตามเรามาเถิด” แต่เขาทูลว่า “ขออนุญาตให้ข้าพเจ้าไปฝังศพบิดาของข้าพเจ้าเสียก่อน” 60 พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงปล่อยให้คนตายฝังคนตายของตนเถิด ส่วนท่านจงไปประกาศพระอาณาจักรของพระเจ้า” 61 อีกคนหนึ่งทูลว่า “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะตามพระองค์ไป แต่ขออนุญาตกลับไปร่ำลาคนที่บ้านก่อน” 62 พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ผู้ใดที่จับคันไถแล้วเหลียวดูข้างหลัง ผู้นั้นก็ไม่เหมาะสมกับพระอาณาจักรของพระเจ้า”
บดเทศน์เด็ดของคุณพ่อทิม เอลเกน ( Father Tim Ilgen): พระเยซูเจ้าทรงตั้งพระทัยแน่วแน่จะเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อให้ภารกิจการไถ่กู้ของมวลมนุษยชาติได้สําเร็จเสร็จสิ้นลงตามพระประสงค์ของพระบิดา ทั้งๆที่พระองค์ทรงรู้ว่าพระมหาทรมาน การถูกตรึงกางเขน และการสิ้นพระชนม์ รอคอยพระองค์อยู่ พระองค์ทรงบอกให้สานุศิษย์ยึดมั่นในกระแสเรียก ทําตามพระองค์ อย่าให้สิ่งของของโลกหน่วงเหนี่ยวหรือขัดขวาง
เอลีชาตามเอลียาห์หลังจากลาพ่อแม่ ฆ่าโค เอาแอกทําฟืนเลี้ยงชาวบ้าน ละทิ้งสิ่งของของโลกไม่หวลหลับ
นักบุญเปาโลบอกชาวกาลาเทียว่าพระเจ้าทรงเรียกพวกเขาให้มารับอิสรภาพ อย่าใช้ อิสรภาพนั้นเป็นข้อแก้ตัวที่จะทำตามใจตน แต่จงรับใช้ซึ่งกันและกันด้วยความรัก 14 เพราะธรรมบัญญัติทั้งหมดสรุปได้เป็นข้อเดียวว่า จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง
พวกเราควรยึดมั่นทําตามพระเยซูเจ้าเช่นกัน อย่าให้สิ่งของของโลกหน่วงเหนี่ยว ขวางกั้นไม่ให้เราเป็นสานุศิษย์ของพระองค์แบบพร้อมมวล
ขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า และ พระแม่มารีย์
ขอบคุณ: นักบุญโยแซฟ ฑูตสวรรค์ สหพันธ์นักบุญ
โฆษณา: อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์เด็ดเก่าๆ อ่านได้ที่ www.newmana.com (ของครอบครัวพี่อมรา/Amara สมาชิก*กลุ่มรักแม่พระ 1*) เว็บบอร์ด "สารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ" ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ด แทรกอารมณ์ขัน มิสซาวันอาทิตย์
viewforum.php?f=8
ข่าวคืบหน้าและเพิ่มเติม: 1) 5 สังฆราชของรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ตอบศาลสูงสุดตัดสินพลิกคว่ำคดีทําแท้ง โรสู้กับเวด ด้วยการเสนอสารของโป๊ปฟรานซิส "การป้องกันชีวิตที่ยังไม่เกิด เกี่ยวพันใกล้ชิดกับการป้องกันสิทธิ์ของมนุษย์แต่ละสิทธิ์ มันผูกพันกับความยึดมั่นว่ามนุษย์แต่ละคนศักดิ์สิทธิ์และล่วงเกินไม่ได้ในทุกสถานการณ์และทุกขั้นตอนของการเจริญเติบโต"
2) ศาลสูงสุดสหรัฐอเมริกาตัดสินคดีให้โค้ชชนะ: เสรีภาพของการนับถือศาสนาถูกปกป้องในรัฐธรรมนูญ (โค้ชฟุตบอลของโรงเรียนคุกเข่าสวด ไม่ได้ชวนเด็กนักกีฬาแต่เด็กร่วมเอง โรงเรียนไล่ออก ปี 2015 โค้ชฟ้องถึงศาลสูงสุด) เป็นชัยชนะที่คดีอื่นๆที่เกี่ยวกับเสรีภาพของการนับถือศาสนาจะชนะด้วย
บทอ่านที่หนึ่ง: พงศ์กษัตริย์ 19-21 พระเจ้าทรงเรียกเอลีชาเป็นประกาศก เอลีชาสนองตอบทันที
19 เอลียาห์ออกจากที่นั่นไปพบเอลีชา บุตรของชาฟัท เขากำลังไถนา ข้างหน้าเขามีโคสิบสองคู่ เขาไถนาอยู่กับคู่สุดท้าย เอลียาห์เดินผ่านเข้าไปใกล้ๆ ถอดเสื้อคลุมของตนห่มให้เอลีชา20 เอลีชาจึงละโคเหล่านั้นวิ่งตามเอลียาห์ไป พูดว่า “ขอให้ข้าพเจ้าไปจูบลาบิดามารดาก่อน แล้วข้าพเจ้าจะติดตามท่าน” เอลียาห์ตอบว่า “ไปเถิดแล้วจงกลับมา ท่านเข้าใจแล้วว่าข้าพเจ้าทำอะไรให้ท่าน” 21 เอลีชาก็กลับไปบ้าน ฆ่าโคคู่หนึ่ง ใช้แอกและคันไถเป็นฟืนปรุงเนื้อโคเป็นอาหาร แจกเนื้อให้ประชาชนกิน แล้วจึงออกเดินทางติดตามไปรับใช้เอลียาห์
บทอ่านที่สอง: กาลาเทีย 5: 13-18 เสรีภาพและความรัก
13 พี่น้องทั้งหลาย พระเจ้าทรงเรียกท่านให้มารับอิสรภาพ ขอเพียงแต่อย่าใช้ อิสรภาพนั้นเป็นข้อแก้ตัวที่จะทำตามใจตน แต่จงรับใช้ซึ่งกันและกันด้วยความรัก 14 เพราะธรรมบัญญัติทั้งหมดสรุปได้เป็นข้อเดียวว่า จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง
15 ถ้าท่านกัดกันและกินกัน ก็จงระวังตัวไว้เถิดว่า ท่านจะทำลายกันจนหมดสิ้น 16 บัดนี้ ข้าพเจ้าขอบอกท่านทั้งหลายว่า จงดำเนินตามพระจิตเจ้า และอย่าตอบสนองความปรารถนาตามธรรมชาติ 17 เพราะธรรมชาติมนุษย์มีความปรารถนาตรงกันข้ามกับพระจิตเจ้า และพระจิตเจ้าก็ทรงปรารถนาตรงกันข้ามกับธรรมชาติมนุษย์ สองสิ่งนี้ขัดแย้งกัน ท่านทำสิ่งที่ท่านอยากทำไม่ได้ 18 ถ้าท่านมีพระจิตเจ้าเป็นผู้นำ ท่านก็ไม่อยู่ภายใต้ธรรมบัญญัติ
พระวรสารโดยนักบุญลูกา 9:51-62 ความยากลำบากในการเป็นอัครสาวก
51 เวลาที่พระเยซูเจ้าจะต้องทรงจากโลกนี้ไป ใกล้เข้ามาแล้ว พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่จะเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม 52 และทรงส่งผู้นำสารไปล่วงหน้า คนเหล่านี้ออกเดินทางและเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของชาวสะมาเรียเพื่อเตรียมรับเสด็จพระองค์ 53 แต่ประชาชนที่นั่นไม่ยอมรับเสด็จเพราะพระองค์กำลังเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม
54 เมื่อยากอบและยอห์นศิษย์ของพระองค์เห็นดังนี้ก็ทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ทรงพระประสงค์ให้เราเรียกไฟจากฟ้าลงมาเผาผลาญคนเหล่านี้หรือไม่ 55 พระเยซูเจ้าทรงหันไปตำหนิศิษย์ทั้งสองคน 56 แล้วทรงพระดำเนินต่อไปยังหมู่บ้านอื่นพร้อมกับบรรดาศิษย์ 57 ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินตามทางพร้อมกับบรรดาศิษย์ ชายผู้หนึ่งทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะติดตามพระองค์ไปทุกแห่งที่พระองค์จะเสด็จ 58 พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “สุนัขจิ้งจอกยังมีโพรง นกในอากาศยังมีรัง แต่บุตรแห่งมนุษย์ไม่มีที่จะวางศีรษะ” 59 พระองค์ตรัสกับอีกคนหนึ่งว่า “จงตามเรามาเถิด” แต่เขาทูลว่า “ขออนุญาตให้ข้าพเจ้าไปฝังศพบิดาของข้าพเจ้าเสียก่อน” 60 พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงปล่อยให้คนตายฝังคนตายของตนเถิด ส่วนท่านจงไปประกาศพระอาณาจักรของพระเจ้า” 61 อีกคนหนึ่งทูลว่า “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะตามพระองค์ไป แต่ขออนุญาตกลับไปร่ำลาคนที่บ้านก่อน” 62 พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ผู้ใดที่จับคันไถแล้วเหลียวดูข้างหลัง ผู้นั้นก็ไม่เหมาะสมกับพระอาณาจักรของพระเจ้า”
บดเทศน์เด็ดของคุณพ่อทิม เอลเกน ( Father Tim Ilgen): พระเยซูเจ้าทรงตั้งพระทัยแน่วแน่จะเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อให้ภารกิจการไถ่กู้ของมวลมนุษยชาติได้สําเร็จเสร็จสิ้นลงตามพระประสงค์ของพระบิดา ทั้งๆที่พระองค์ทรงรู้ว่าพระมหาทรมาน การถูกตรึงกางเขน และการสิ้นพระชนม์ รอคอยพระองค์อยู่ พระองค์ทรงบอกให้สานุศิษย์ยึดมั่นในกระแสเรียก ทําตามพระองค์ อย่าให้สิ่งของของโลกหน่วงเหนี่ยวหรือขัดขวาง
เอลีชาตามเอลียาห์หลังจากลาพ่อแม่ ฆ่าโค เอาแอกทําฟืนเลี้ยงชาวบ้าน ละทิ้งสิ่งของของโลกไม่หวลหลับ
นักบุญเปาโลบอกชาวกาลาเทียว่าพระเจ้าทรงเรียกพวกเขาให้มารับอิสรภาพ อย่าใช้ อิสรภาพนั้นเป็นข้อแก้ตัวที่จะทำตามใจตน แต่จงรับใช้ซึ่งกันและกันด้วยความรัก 14 เพราะธรรมบัญญัติทั้งหมดสรุปได้เป็นข้อเดียวว่า จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง
พวกเราควรยึดมั่นทําตามพระเยซูเจ้าเช่นกัน อย่าให้สิ่งของของโลกหน่วงเหนี่ยว ขวางกั้นไม่ให้เราเป็นสานุศิษย์ของพระองค์แบบพร้อมมวล
ขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า และ พระแม่มารีย์
ขอบคุณ: นักบุญโยแซฟ ฑูตสวรรค์ สหพันธ์นักบุญ
โฆษณา: อ่านแล้วถูกใจ อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์เด็ดเก่าๆ อ่านได้ที่ www.newmana.com (ของครอบครัวพี่อมรา/Amara สมาชิก*กลุ่มรักแม่พระ 1*) เว็บบอร์ด "สารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ" ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ด แทรกอารมณ์ขัน มิสซาวันอาทิตย์
viewforum.php?f=8
ข่าวคืบหน้าและเพิ่มเติม: 1) 5 สังฆราชของรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ตอบศาลสูงสุดตัดสินพลิกคว่ำคดีทําแท้ง โรสู้กับเวด ด้วยการเสนอสารของโป๊ปฟรานซิส "การป้องกันชีวิตที่ยังไม่เกิด เกี่ยวพันใกล้ชิดกับการป้องกันสิทธิ์ของมนุษย์แต่ละสิทธิ์ มันผูกพันกับความยึดมั่นว่ามนุษย์แต่ละคนศักดิ์สิทธิ์และล่วงเกินไม่ได้ในทุกสถานการณ์และทุกขั้นตอนของการเจริญเติบโต"
2) ศาลสูงสุดสหรัฐอเมริกาตัดสินคดีให้โค้ชชนะ: เสรีภาพของการนับถือศาสนาถูกปกป้องในรัฐธรรมนูญ (โค้ชฟุตบอลของโรงเรียนคุกเข่าสวด ไม่ได้ชวนเด็กนักกีฬาแต่เด็กร่วมเอง โรงเรียนไล่ออก ปี 2015 โค้ชฟ้องถึงศาลสูงสุด) เป็นชัยชนะที่คดีอื่นๆที่เกี่ยวกับเสรีภาพของการนับถือศาสนาจะชนะด้วย
วันอาทิตย์ที่ 14 ในเทศกาลธรรมดา 3 กรกฎาคม 2022
อิสยาห์ 66:10-14C (ความดีงามของพระเป็นเจ้า เราใช้บทอ่านนี้ให้เป็นเหมือนกับพระศาสนจักร พระศาสนาจักรคือกรุงเยรูซาเล็ม มารดาที่ปกป้อง ผู้ได้รับพระพรจากพระเป็นเจ้า)
10 ท่านทั้งหลายจงยินดีกับกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายที่รักกรุงเยรูซาเล็ม จงชื่นชมกับกรุงนี้เถิด ท่านทั้งหลายที่เคยไว้ทุกข์ให้กรุงเยรูซาเล็ม จงร่วมยินดีกับกรุงนี้ด้วยความชื่นบานเถิด 11 ท่านจะได้รับการปลอบโยนอย่างเต็มเปี่ยมจากกรุงเยรูซาเล็ม ทารกมีความยินดีเมื่อดูดนมจากทรวงอกของมารดาฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะมีความยินดีจากความอุดมสมบูรณ์ของกรุงนี้ฉันนั้น 12 เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ “ดูซิ เราจะบันดาลให้สันติสุขหลั่งไหลมาสู่กรุงนี้เหมือนแม่น้ำ จะนำความมั่งคั่งของนานาชาติมายังกรุงนี้เหมือนสายน้ำที่กำลังล้นฝั่ง กรุงนี้จะอุ้มท่านทั้งหลายไว้ ให้ท่านดูดนม และหยอกล้อท่านบนตัก 13 มารดาปลอบโยนบุตรฉันใด เราก็จะปลอบโยนท่านทั้งหลายฉันนั้น ท่านจะได้รับการปลอบโยนในกรุงเยรูซาเล็ม 14 ท่านทั้งหลายจะเห็น และใจของท่านจะโลดเต้นยินดี กระดูกของท่านจะสดชื่นขึ้นเหมือนหญ้าอ่อน พระยาห์เวห์จะทรงแสดงพระอานุภาพแก่ผู้รับใช้ของพระองค์แต่จะทรงพระพิโรธต่อบรรดาศัตรู
กาลาเทีย 6:14-18 (โอ้อวดในพระเป็นเจ้า ผ่านจากกางเขนของพระเยซูคริสตเจ้า พวกเราได้ถูกสร้างขึ้นใหม่)
14 ส่วนข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่โอ้อวดสิ่งใดนอกจากเรื่องไม้กางเขนของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา อาศัยไม้กางเขนนี้ โลกถูกตรึงตายไปจากข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ถูกตรึงตายไปจากโลกแล้ว15 ดังนั้น การเข้าสุหนัตหรือการไม่เข้าสุหนัตจึงไม่มีความสำคัญแต่ประการใด สิ่งที่สำคัญก็คือการเป็นสิ่งสร้างใหม่ 16 สันติและพระเมตตาจงมีแก่ทุกคนที่ปฏิบัติตามกฎข้อนี้ และแก่ประชากรแท้จริงของพระเจ้า17 นับแต่บัดนี้ อย่าให้ใครมารบกวนข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ามีรอยประทับตราของพระเยซูเจ้าอยู่ในร่างกายของข้าพเจ้าแล้ว
18 พี่น้อง ขอให้พระหรรษทานของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา สถิตอยู่ในจิตใจของท่านทั้งหลายเทอญ อาเมน
ลูกา 10:1-12
1ต่อจากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแต่งตั้งศิษย์อีกเจ็ดสิบสองคน และทรงส่งเขาล่วงหน้าพระองค์ เป็นคู่ ๆ ไปทุกตำบลทุกเมืองที่พระองค์จะเสด็จ 2 พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ข้าวที่จะเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด 3 จงไปเถิด เราส่งท่านทั้งหลายไปดุจลูกแกะในฝูงสุนัขป่า 4 อย่านำถุงเงิน ย่ามหรือรองเท้าไปด้วย อย่าเสียเวลาทักทายผู้ใดตามทาง 5 เมื่อท่านเข้าบ้านใด จงกล่าวก่อนว่า “สันติสุขจงมีแก่บ้านนี้เถิด” 6 ถ้ามีผู้สมควรจะรับสันติสุขอยู่ที่นั่น สันติสุขของท่านจะอยู่กับเขา มิฉะนั้น สันติสุขของท่านจะกลับมาอยู่กับท่านอีก 7 จงพักอาศัยในบ้านนั้น กินและดื่มของที่เขาจะนำมาให้ เพราะว่าคนงานสมควรที่จะได้รับค่าจ้างของตน อย่าเข้าบ้านนี้ออกบ้านโน้น 8 เมื่อท่านเข้าไปในเมืองใดและเขาต้อนรับท่าน จงกินของที่เขาจะนำมาตั้งให้ 9 จงรักษาผู้เจ็บป่วยในเมืองนั้นและบอกเขาว่า “พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้ท่านทั้งหลายแล้ว” 10 แต่ถ้าท่านเข้าไปในเมืองใดและเขาไม่ต้อนรับ ก็จงออกไปกลางลานสาธารณะ และกล่าวว่า 11 “แม้แต่ฝุ่นจากเมืองของท่านที่ติดเท้าของเรา เราจะสลัดทิ้งไว้ปรักปรำท่าน จงรู้เถิดว่า พระอาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว” 12 เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในวันพิพากษา ชาวเมืองโสดมจะรับโทษเบากว่าชาวเมืองนั้น
คุณพ่อเคลเมนท์: นักบุญเปาโล โดยกางเขนของพระเยซูคริสต์ ท่านได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ ปัจจุบันมีพระสงฆ์น้อยมาก พวกเราจงไปเผยแพร่ ประกาศข่าวดีของพระเป็นเจ้า (ด้วยการเป็นสัตบุรุษที่ดี)
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
อิสยาห์ 66:10-14C (ความดีงามของพระเป็นเจ้า เราใช้บทอ่านนี้ให้เป็นเหมือนกับพระศาสนจักร พระศาสนาจักรคือกรุงเยรูซาเล็ม มารดาที่ปกป้อง ผู้ได้รับพระพรจากพระเป็นเจ้า)
10 ท่านทั้งหลายจงยินดีกับกรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายที่รักกรุงเยรูซาเล็ม จงชื่นชมกับกรุงนี้เถิด ท่านทั้งหลายที่เคยไว้ทุกข์ให้กรุงเยรูซาเล็ม จงร่วมยินดีกับกรุงนี้ด้วยความชื่นบานเถิด 11 ท่านจะได้รับการปลอบโยนอย่างเต็มเปี่ยมจากกรุงเยรูซาเล็ม ทารกมีความยินดีเมื่อดูดนมจากทรวงอกของมารดาฉันใด ท่านทั้งหลายก็จะมีความยินดีจากความอุดมสมบูรณ์ของกรุงนี้ฉันนั้น 12 เพราะพระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ “ดูซิ เราจะบันดาลให้สันติสุขหลั่งไหลมาสู่กรุงนี้เหมือนแม่น้ำ จะนำความมั่งคั่งของนานาชาติมายังกรุงนี้เหมือนสายน้ำที่กำลังล้นฝั่ง กรุงนี้จะอุ้มท่านทั้งหลายไว้ ให้ท่านดูดนม และหยอกล้อท่านบนตัก 13 มารดาปลอบโยนบุตรฉันใด เราก็จะปลอบโยนท่านทั้งหลายฉันนั้น ท่านจะได้รับการปลอบโยนในกรุงเยรูซาเล็ม 14 ท่านทั้งหลายจะเห็น และใจของท่านจะโลดเต้นยินดี กระดูกของท่านจะสดชื่นขึ้นเหมือนหญ้าอ่อน พระยาห์เวห์จะทรงแสดงพระอานุภาพแก่ผู้รับใช้ของพระองค์แต่จะทรงพระพิโรธต่อบรรดาศัตรู
กาลาเทีย 6:14-18 (โอ้อวดในพระเป็นเจ้า ผ่านจากกางเขนของพระเยซูคริสตเจ้า พวกเราได้ถูกสร้างขึ้นใหม่)
14 ส่วนข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่โอ้อวดสิ่งใดนอกจากเรื่องไม้กางเขนของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา อาศัยไม้กางเขนนี้ โลกถูกตรึงตายไปจากข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ถูกตรึงตายไปจากโลกแล้ว15 ดังนั้น การเข้าสุหนัตหรือการไม่เข้าสุหนัตจึงไม่มีความสำคัญแต่ประการใด สิ่งที่สำคัญก็คือการเป็นสิ่งสร้างใหม่ 16 สันติและพระเมตตาจงมีแก่ทุกคนที่ปฏิบัติตามกฎข้อนี้ และแก่ประชากรแท้จริงของพระเจ้า17 นับแต่บัดนี้ อย่าให้ใครมารบกวนข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ามีรอยประทับตราของพระเยซูเจ้าอยู่ในร่างกายของข้าพเจ้าแล้ว
18 พี่น้อง ขอให้พระหรรษทานของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา สถิตอยู่ในจิตใจของท่านทั้งหลายเทอญ อาเมน
ลูกา 10:1-12
1ต่อจากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแต่งตั้งศิษย์อีกเจ็ดสิบสองคน และทรงส่งเขาล่วงหน้าพระองค์ เป็นคู่ ๆ ไปทุกตำบลทุกเมืองที่พระองค์จะเสด็จ 2 พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ข้าวที่จะเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด 3 จงไปเถิด เราส่งท่านทั้งหลายไปดุจลูกแกะในฝูงสุนัขป่า 4 อย่านำถุงเงิน ย่ามหรือรองเท้าไปด้วย อย่าเสียเวลาทักทายผู้ใดตามทาง 5 เมื่อท่านเข้าบ้านใด จงกล่าวก่อนว่า “สันติสุขจงมีแก่บ้านนี้เถิด” 6 ถ้ามีผู้สมควรจะรับสันติสุขอยู่ที่นั่น สันติสุขของท่านจะอยู่กับเขา มิฉะนั้น สันติสุขของท่านจะกลับมาอยู่กับท่านอีก 7 จงพักอาศัยในบ้านนั้น กินและดื่มของที่เขาจะนำมาให้ เพราะว่าคนงานสมควรที่จะได้รับค่าจ้างของตน อย่าเข้าบ้านนี้ออกบ้านโน้น 8 เมื่อท่านเข้าไปในเมืองใดและเขาต้อนรับท่าน จงกินของที่เขาจะนำมาตั้งให้ 9 จงรักษาผู้เจ็บป่วยในเมืองนั้นและบอกเขาว่า “พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้ท่านทั้งหลายแล้ว” 10 แต่ถ้าท่านเข้าไปในเมืองใดและเขาไม่ต้อนรับ ก็จงออกไปกลางลานสาธารณะ และกล่าวว่า 11 “แม้แต่ฝุ่นจากเมืองของท่านที่ติดเท้าของเรา เราจะสลัดทิ้งไว้ปรักปรำท่าน จงรู้เถิดว่า พระอาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว” 12 เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในวันพิพากษา ชาวเมืองโสดมจะรับโทษเบากว่าชาวเมืองนั้น
คุณพ่อเคลเมนท์: นักบุญเปาโล โดยกางเขนของพระเยซูคริสต์ ท่านได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ ปัจจุบันมีพระสงฆ์น้อยมาก พวกเราจงไปเผยแพร่ ประกาศข่าวดีของพระเป็นเจ้า (ด้วยการเป็นสัตบุรุษที่ดี)
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
วันอาทิตย์ที่ 15 ในเทศกาลธรรมดา (10 กรกฎาคม 2022) บทเทศน์เด็ดของมิสซา โดยคุณพ่อราโมส (Ramose) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา (Sacred Heart Parish, Lacey, Washington, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง เฉลยธรรมบัญญัติ 30:10-14 ปฎิบัติตามบทบัญญัติและข้อกําหนดที่เขียนไว้ในหนังสือธรรมบัญญัติ
10 แต่ท่านจะต้องเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ปฏิบัติตาม บทบัญญัติและข้อกำหนดที่เขียนไว้ในหนังสือธรรมบัญญัติเล่มนี้ ท่านจะต้องกลับใจมาหา พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านสุดจิตใจและสุดวิญญาณ 11 บทบัญญัติที่ข้าพเจ้าสั่งท่านในวันนี้ ไม่ยากเกินไปหรืออยู่ไกลสุดเอื้อม
12 ไม่ได้อยู่สูงบนฟ้าจนต้องถามว่า “ใครจะขึ้นไปเอาลงมาให้เราฟังและปฏิบัติตามได้เล่า” 13 บทบัญญัติเหล่านี้ไม่ได้อยู่โพ้นทะเล จนต้องถามว่า “ใครจะข้ามทะเลไปเอามาให้เราได้ฟังและปฏิบัติตามได้เล่า 14 พระวาจานี้อยู่ใกล้กับท่านมาก คืออยู่ในปากและในใจของท่าน เพื่อท่านจะนำไปปฏิบัติได้”
บทอ่านที่สอง โคโลสี 1:15-20 พระคริสตเจ้าทรงเป็นศีรษะของสรรพสิ่ง
15 พระองค์ทรงเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้าที่เรามองไม่เห็น ทรงเป็นบุตรคนแรกในบรรดาสิ่งสร้างทั้งปวง 16 เพราะสรรพสิ่งทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดิน ทั้งที่แลเห็นได้และไม่อาจแลเห็นได้ เทพนิกรบัลลังก์ เทพนิกรนาย เทพนิกรเจ้าและเทพนิกรอำนาจ ล้วนถูกสร้างโดยพระองค์ทั้งสิ้น ทุกสิ่งถูกเนรมิตขึ้นโดยพระองค์ และเพื่อพระองค์ 17 พระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนสรรพสิ่ง และสรรพสิ่งดำรงอยู่เป็นระเบียบในพระองค์ 18 พระองค์ทรงเป็นศีรษะของร่างกาย คือพระศาสนจักร พระองค์ทรงเป็นปฐมเหตุ ทรงเป็นบุคคลแรกในบรรดาผู้ตายที่กลับคืนชีพ ทั้งนี้เพื่อพระองค์จะได้ทรงเป็นเอกในทุกสิ่ง 19 เพราะพระเจ้าพอพระทัยให้ความบริบูรณ์ทั้งปวงอยู่ในพระคริสตเจ้า20 และให้สรรพสิ่งคืนดีกับพระเจ้าโดยทางพระคริสตเจ้า ผู้โปรดให้ทุกสิ่งมีสันติ ด้วยพระโลหิตที่ทรงหลั่งบนไม้กางเขนของพระองค์ ทั้งสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ในสวรรค์
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 10:25-37 บัญญัติเอก อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดี
25 ขณะนั้น นักกฎหมายคนหนึ่งยืนขึ้นทูลถามเพื่อจะจับผิดพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำสิ่งใดเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” 26 พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ในธรรมบัญญัติมีเขียนไว้อย่างไร ท่านอ่านว่าอย่างไร” 27 เขาทูลตอบว่า “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดกำลัง และสุดสติปัญญาของท่าน ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” 28 พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านตอบถูกแล้ว จงทำเช่นนี้ แล้วจะได้ชีวิต”
อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียใจดี
29 ชายคนนั้นต้องการแสดงว่าตนถูกต้องจึงทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “แล้วใครเล่าเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า” 30 พระเยซูเจ้าจึงตรัสต่อไปว่า “ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยรีโค เขาถูกโจรปล้น พวกโจรปล้นทุกสิ่ง ทุบตีเขา แล้วก็จากไป ทิ้งเขาไว้อาการสาหัสเกือบสิ้นชีวิต 31 สมณะผู้หนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นโดยบังเอิญ เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่ง 32 ชาวเลวีคนหนึ่งผ่านมาทางนั้น เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่งเช่นเดียวกัน 33 แต่ชาวสะมาเรียผู้หนึ่ง เดินทางผ่านมาใกล้ ๆ เห็นเขาก็รู้สึกสงสาร 34 จึงเดินเข้าไปหา เทน้ำมันและเหล้าองุ่นลงบนบาดแผลแล้วพันผ้าให้ นำเขาขึ้นหลังสัตว์ของตนพาไปถึงโรงแรมแห่งหนึ่งและช่วยดูแลเขา 35 วันรุ่งขึ้นชาวสะมาเรียผู้นั้นนำเงินสองเหรียญออกมามอบให้เจ้าของโรงแรมไว้กล่าวว่า “ช่วยดูแลเขาด้วย เงินที่ท่านจะจ่ายเกินไปนั้น ฉันจะคืนให้เมื่อกลับมา” 36 ท่านคิดว่าในสามคนนี้ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนที่ถูกโจรปล้น” 37 เขาทูลตอบว่า “คนที่แสดงความเมตตาต่อเขา” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด”
คุณพ่อ: มิสซา ( Mass, Missa) มีรากศัพท์จากภาษาลาตินแปลว่า ถูกปลดปล่อย ภารกิจ ( to be released, mission) เมื่อคุณพ่อผู้ประกอบมิสซากล่าวว่ามิสซาจบแล้ว พวกเราก็ถูกปลดปล่อยให้ออกไปทําภารกิจของพระศาสนจักรของเรา ด้วยการประกาศข่าวดีให้ทุกคนได้รู้จักพระเป็นเจ้าและเป็นส่วนหนึ่งของพระกายศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เหมือนพวกเรา
มีชายหนุ่มคนหนึ่งไปสมัครงาน ผู้จัดการยื่นไม้กวาดให้กวาดพื้นร้าน ชายหนุ่มบอกว่า ผมจบมหาวิทยาลัย เป็นนายแพทย์นะครับ ผู้จัดการบอก อ๋อ..ผมจะทําให้ดูเป็นตัวอย่างนะ
อย่าบอกว่าเราไม่ใช่นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี หรือนักบุญเทเรซาแห่งคัลคัททา อย่าทําตัวเป็นบุคคลที่ได้รับการเอ่ยถึงในบทความที่มีชื่อเสียง: ทุกคน ใครบางคน ใครก็ได้ และ ไม่มีใคร ( everybody, somebody, anybody and nobody) มีงานชิ้นหนึ่งที่ทุกคนรู้ว่าต้องทํา ทุกคนคิดว่าใครบางคนคงจะทํา ทุกคนคิดว่าจะเป็นใครก็ได้ที่ทํา เมื่องานไม่สําเร็จทุกคนจึงรู้ว่าไม่มีใครทํา
(บทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โดย Yan Agape)
บทอ่านที่หนึ่ง เฉลยธรรมบัญญัติ 30:10-14 ปฎิบัติตามบทบัญญัติและข้อกําหนดที่เขียนไว้ในหนังสือธรรมบัญญัติ
10 แต่ท่านจะต้องเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ปฏิบัติตาม บทบัญญัติและข้อกำหนดที่เขียนไว้ในหนังสือธรรมบัญญัติเล่มนี้ ท่านจะต้องกลับใจมาหา พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านสุดจิตใจและสุดวิญญาณ 11 บทบัญญัติที่ข้าพเจ้าสั่งท่านในวันนี้ ไม่ยากเกินไปหรืออยู่ไกลสุดเอื้อม
12 ไม่ได้อยู่สูงบนฟ้าจนต้องถามว่า “ใครจะขึ้นไปเอาลงมาให้เราฟังและปฏิบัติตามได้เล่า” 13 บทบัญญัติเหล่านี้ไม่ได้อยู่โพ้นทะเล จนต้องถามว่า “ใครจะข้ามทะเลไปเอามาให้เราได้ฟังและปฏิบัติตามได้เล่า 14 พระวาจานี้อยู่ใกล้กับท่านมาก คืออยู่ในปากและในใจของท่าน เพื่อท่านจะนำไปปฏิบัติได้”
บทอ่านที่สอง โคโลสี 1:15-20 พระคริสตเจ้าทรงเป็นศีรษะของสรรพสิ่ง
15 พระองค์ทรงเป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้าที่เรามองไม่เห็น ทรงเป็นบุตรคนแรกในบรรดาสิ่งสร้างทั้งปวง 16 เพราะสรรพสิ่งทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดิน ทั้งที่แลเห็นได้และไม่อาจแลเห็นได้ เทพนิกรบัลลังก์ เทพนิกรนาย เทพนิกรเจ้าและเทพนิกรอำนาจ ล้วนถูกสร้างโดยพระองค์ทั้งสิ้น ทุกสิ่งถูกเนรมิตขึ้นโดยพระองค์ และเพื่อพระองค์ 17 พระองค์ทรงดำรงอยู่ก่อนสรรพสิ่ง และสรรพสิ่งดำรงอยู่เป็นระเบียบในพระองค์ 18 พระองค์ทรงเป็นศีรษะของร่างกาย คือพระศาสนจักร พระองค์ทรงเป็นปฐมเหตุ ทรงเป็นบุคคลแรกในบรรดาผู้ตายที่กลับคืนชีพ ทั้งนี้เพื่อพระองค์จะได้ทรงเป็นเอกในทุกสิ่ง 19 เพราะพระเจ้าพอพระทัยให้ความบริบูรณ์ทั้งปวงอยู่ในพระคริสตเจ้า20 และให้สรรพสิ่งคืนดีกับพระเจ้าโดยทางพระคริสตเจ้า ผู้โปรดให้ทุกสิ่งมีสันติ ด้วยพระโลหิตที่ทรงหลั่งบนไม้กางเขนของพระองค์ ทั้งสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินและสิ่งที่อยู่ในสวรรค์
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 10:25-37 บัญญัติเอก อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดี
25 ขณะนั้น นักกฎหมายคนหนึ่งยืนขึ้นทูลถามเพื่อจะจับผิดพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำสิ่งใดเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” 26 พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ในธรรมบัญญัติมีเขียนไว้อย่างไร ท่านอ่านว่าอย่างไร” 27 เขาทูลตอบว่า “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดกำลัง และสุดสติปัญญาของท่าน ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” 28 พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านตอบถูกแล้ว จงทำเช่นนี้ แล้วจะได้ชีวิต”
อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียใจดี
29 ชายคนนั้นต้องการแสดงว่าตนถูกต้องจึงทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “แล้วใครเล่าเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า” 30 พระเยซูเจ้าจึงตรัสต่อไปว่า “ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยรีโค เขาถูกโจรปล้น พวกโจรปล้นทุกสิ่ง ทุบตีเขา แล้วก็จากไป ทิ้งเขาไว้อาการสาหัสเกือบสิ้นชีวิต 31 สมณะผู้หนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นโดยบังเอิญ เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่ง 32 ชาวเลวีคนหนึ่งผ่านมาทางนั้น เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่งเช่นเดียวกัน 33 แต่ชาวสะมาเรียผู้หนึ่ง เดินทางผ่านมาใกล้ ๆ เห็นเขาก็รู้สึกสงสาร 34 จึงเดินเข้าไปหา เทน้ำมันและเหล้าองุ่นลงบนบาดแผลแล้วพันผ้าให้ นำเขาขึ้นหลังสัตว์ของตนพาไปถึงโรงแรมแห่งหนึ่งและช่วยดูแลเขา 35 วันรุ่งขึ้นชาวสะมาเรียผู้นั้นนำเงินสองเหรียญออกมามอบให้เจ้าของโรงแรมไว้กล่าวว่า “ช่วยดูแลเขาด้วย เงินที่ท่านจะจ่ายเกินไปนั้น ฉันจะคืนให้เมื่อกลับมา” 36 ท่านคิดว่าในสามคนนี้ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนที่ถูกโจรปล้น” 37 เขาทูลตอบว่า “คนที่แสดงความเมตตาต่อเขา” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด”
คุณพ่อ: มิสซา ( Mass, Missa) มีรากศัพท์จากภาษาลาตินแปลว่า ถูกปลดปล่อย ภารกิจ ( to be released, mission) เมื่อคุณพ่อผู้ประกอบมิสซากล่าวว่ามิสซาจบแล้ว พวกเราก็ถูกปลดปล่อยให้ออกไปทําภารกิจของพระศาสนจักรของเรา ด้วยการประกาศข่าวดีให้ทุกคนได้รู้จักพระเป็นเจ้าและเป็นส่วนหนึ่งของพระกายศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เหมือนพวกเรา
มีชายหนุ่มคนหนึ่งไปสมัครงาน ผู้จัดการยื่นไม้กวาดให้กวาดพื้นร้าน ชายหนุ่มบอกว่า ผมจบมหาวิทยาลัย เป็นนายแพทย์นะครับ ผู้จัดการบอก อ๋อ..ผมจะทําให้ดูเป็นตัวอย่างนะ
อย่าบอกว่าเราไม่ใช่นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี หรือนักบุญเทเรซาแห่งคัลคัททา อย่าทําตัวเป็นบุคคลที่ได้รับการเอ่ยถึงในบทความที่มีชื่อเสียง: ทุกคน ใครบางคน ใครก็ได้ และ ไม่มีใคร ( everybody, somebody, anybody and nobody) มีงานชิ้นหนึ่งที่ทุกคนรู้ว่าต้องทํา ทุกคนคิดว่าใครบางคนคงจะทํา ทุกคนคิดว่าจะเป็นใครก็ได้ที่ทํา เมื่องานไม่สําเร็จทุกคนจึงรู้ว่าไม่มีใครทํา
(บทเทศน์เด็ดของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์ที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โดย Yan Agape)
วันอาทิตย์ที่ 16 ในเทศกาลธรรมดา 17 กรกฎาคม 2022 บทอ่าน พระวรสาร และ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของคุณพ่อรามอส วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตันสหรัฐอเมริกา ( Father Ramos, Sacred Heart Catholic Church, Lacey, Washington, U.S.A. )
บทอ่านแรก ปฐมกาล 18:1-10a ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของอับราฮัม เป็นที่สบพระทัยพระเป็นเจ้า พระองค์ทรงบอกท่านว่าคําสัญญาที่ทรงมอบให้ท่านจะบังเกิดผล
1พระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระองค์แก่อับราฮัมที่หมู่ต้นโอ๊คของมัมเร ขณะนั้นเป็นเวลาแดดร้อนจัด อับราฮัมกำลังนั่งอยู่ที่ประตูกระโจม 2 เขาเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นชายสามคนยืนอยู่ใกล้ตน ทันทีที่เห็น อับราฮัมก็วิ่งจากประตูกระโจมไปต้อนรับและกราบลงที่พื้นดิน3 เขาพูดว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า ถ้าท่านโปรดปรานข้าพเจ้า โปรดอย่าผ่านผู้รับใช้ของท่านไปเลย 4 ข้าพเจ้าจะให้เขาเอาน้ำมาล้างเท้าให้ท่าน เชิญท่านพักใต้ต้นไม้นี้เถิด 5 ขอให้ข้าพเจ้าไปนำอาหารมาให้ท่านสักเล็กน้อย ท่านจะได้สดชื่น มีกำลังเดินทางต่อไป ท่านมาถึงบ้านข้าพเจ้าแล้ว ขอให้ข้าพเจ้ารับใช้ท่านเถิด” เขาทั้งสามจึงตอบว่า “จงทำตามที่ท่านพูดนั้นเถิด” 6 อับราฮัมรีบเข้าไปในกระโจมของนางซาราห์ และบอกว่า “เร็วเข้า ไปเอาแป้งละเอียดมานวดและทำขนมปังสำหรับแขกสามคนเถิด” 7 แล้วอับราฮัมวิ่งไปที่ฝูงสัตว์ นำลูกโคอ้วนพีตัวหนึ่งให้ผู้รับใช้ฆ่า และรีบปรุงเป็นอาหาร 8 เขาเอานมข้นเปรี้ยว น้ำนมสดและเนื้อลูกโคที่เตรียมแล้วมาวางต่อหน้าคนทั้งสาม และยืนอยู่ใต้ต้นไม้คอยรับใช้ ขณะที่คนทั้งสามกำลังกินอาหาร 9 เขาเหล่านั้นถามว่า “นางซาราห์ภรรยาของท่านอยู่ที่ไหน” อับราฮัมตอบว่า “นางอยู่ในกระโจม” 10 คนหนึ่งจึงพูดว่า “ปีหน้า เราจะกลับมาหาท่านอีกอย่างแน่นอน นางซาราห์ภรรยาของท่านจะมีบุตรชายคนหนึ่ง”
บทอ่านที่สอง โครินธ์ 1:24-28 เปาโลตรากตรำทำงานเพื่อรับใช้คนต่างศาสนา
24 บัดนี้ข้าพเจ้ายินดีที่ได้รับทุกข์ทรมานเพื่อท่านทั้งหลาย ความทรมานของพระคริสตเจ้ายังขาดสิ่งใด ข้าพเจ้าก็เสริมให้สมบูรณ์ด้วยการทรมานในกายของข้าพเจ้า เพื่อพระกายของพระองค์คือพระศาสนจักร 25 ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้พระศาสนจักรนี้ตามภารกิจที่พระเจ้าทรงมอบให้ เพื่อจะได้ประกาศพระวาจาของพระเจ้าแก่ท่านอย่างสมบูรณ์ 26 นั่นคือธรรมล้ำลึกที่ซ่อนอยู่ตลอดทุกยุคสมัย บัดนี้ธรรมล้ำลึกปรากฏชัดแจ้งแก่บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์แล้ว 27 พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะแสดงให้เขาเหล่านั้นรู้ว่า ธรรมล้ำลึกนี้ได้นำพระสิริรุ่งโรจน์ล้นเหลือมาให้คนต่างศาสนา นั่นคือการที่พระคริสตเจ้าทรงดำรงอยู่ในท่าน ทรงเป็นความหวังเพื่อให้ท่านได้รับความรุ่งเรือง28 เราประกาศถึงพระคริสตเจ้าพระองค์นี้ โดยเตือนและสอนทุกคนให้มีความรู้ทุกอย่างเพื่อให้แต่ละคนดีพร้อมเดชะพระคริสตเจ้า
พระวรสารโดย นักบุญลูกา 10:38-42
38 ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินพร้อมกับบรรดาศิษย์ พระองค์เสด็จเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง สตรีผู้หนึ่งชื่อมารธารับเสด็จพระองค์ที่บ้าน
39 นางมีน้องสาวชื่อมารีย์ซึ่งนั่งอยู่แทบพระบาทขององค์พระผู้เป็นเจ้า คอยฟังพระวาจาของพระองค์ 40 มารธากำลังยุ่งอยู่กับการปรนนิบัติรับใช้จึงเข้ามาทูลว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ไม่สนพระทัยหรือที่น้องสาวปล่อยดิฉันคนเดียวให้ปรนนิบัติรับใช้ ขอพระองค์บอกเขาให้มาช่วยดิฉันบ้าง” 41 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “มารธา มารธา เธอเป็นห่วงและวุ่นวายหลายสิ่งนัก 42 สิ่งที่จำเป็นมีเพียงสิ่งเดียว มารีย์ได้เลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดที่จะไม่มีใครเอาไปจากเขาได้”
บทเทศเด็ดของคุณพ่อรามอส ( Father Ramos):
อับราฮัมเชิญพระเป็นเจ้าไม่ให้ผ่านไป เราก็ควรเชิญพระองค์ไม่ให้ผ่านเราไปเช่นกัน
นักบุญเปาโลรับทุกข์ทรมานเป็นการร่วมไถ่กู้กับพระเยซูคริสตเจ้าที่ทรงรับทุกข์ทรมานเพื่อการไถ่กู้ให้กับพวกเรามวลมนุษย์ทุกคน พวกเราควรทําตามพระองค์เช่นกัน
คุณพ่อ: พ่อเยี่ยมคนป่วยในโรงพยาบาลของค่ายทหาร จ๊อยเบส หลุยส์- แม็กค้อด (Joint Base Lewis- McChord) ทุกวัน มันเป็นงานของพ่อ พ่อขอบคุณคนป่วยทุกคนที่ทนทุกข์ทรมานเพื่อการไถ่กู้ให้กับพวกเรา
พระวาจาของพระเป็นเจ้าต้องมาก่อนสิ่งใดทั้งสิ้น มารธากระตือรือล้นทําอาหารปฎิบัติรับใช้พระองค์ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่มารีย์กระตือรือล้นต้อนรับพระวาจาของพระองค์ ให้ความสําคัญเหนือกว่าสิ่งใด เป็นที่สบพระทัยของพระเยซูเจ้า
อย่าลืมว่าเรากําลังเตรียมตัวไปบ้านแท้ของเราในสวรรค์ อย่ารีบร้อน อย่าห่วงกังวล เพราะเราจะไปสุสานก่อนเวลาอันควร
บทอ่านแรก ปฐมกาล 18:1-10a ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของอับราฮัม เป็นที่สบพระทัยพระเป็นเจ้า พระองค์ทรงบอกท่านว่าคําสัญญาที่ทรงมอบให้ท่านจะบังเกิดผล
1พระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระองค์แก่อับราฮัมที่หมู่ต้นโอ๊คของมัมเร ขณะนั้นเป็นเวลาแดดร้อนจัด อับราฮัมกำลังนั่งอยู่ที่ประตูกระโจม 2 เขาเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นชายสามคนยืนอยู่ใกล้ตน ทันทีที่เห็น อับราฮัมก็วิ่งจากประตูกระโจมไปต้อนรับและกราบลงที่พื้นดิน3 เขาพูดว่า “เจ้านายของข้าพเจ้า ถ้าท่านโปรดปรานข้าพเจ้า โปรดอย่าผ่านผู้รับใช้ของท่านไปเลย 4 ข้าพเจ้าจะให้เขาเอาน้ำมาล้างเท้าให้ท่าน เชิญท่านพักใต้ต้นไม้นี้เถิด 5 ขอให้ข้าพเจ้าไปนำอาหารมาให้ท่านสักเล็กน้อย ท่านจะได้สดชื่น มีกำลังเดินทางต่อไป ท่านมาถึงบ้านข้าพเจ้าแล้ว ขอให้ข้าพเจ้ารับใช้ท่านเถิด” เขาทั้งสามจึงตอบว่า “จงทำตามที่ท่านพูดนั้นเถิด” 6 อับราฮัมรีบเข้าไปในกระโจมของนางซาราห์ และบอกว่า “เร็วเข้า ไปเอาแป้งละเอียดมานวดและทำขนมปังสำหรับแขกสามคนเถิด” 7 แล้วอับราฮัมวิ่งไปที่ฝูงสัตว์ นำลูกโคอ้วนพีตัวหนึ่งให้ผู้รับใช้ฆ่า และรีบปรุงเป็นอาหาร 8 เขาเอานมข้นเปรี้ยว น้ำนมสดและเนื้อลูกโคที่เตรียมแล้วมาวางต่อหน้าคนทั้งสาม และยืนอยู่ใต้ต้นไม้คอยรับใช้ ขณะที่คนทั้งสามกำลังกินอาหาร 9 เขาเหล่านั้นถามว่า “นางซาราห์ภรรยาของท่านอยู่ที่ไหน” อับราฮัมตอบว่า “นางอยู่ในกระโจม” 10 คนหนึ่งจึงพูดว่า “ปีหน้า เราจะกลับมาหาท่านอีกอย่างแน่นอน นางซาราห์ภรรยาของท่านจะมีบุตรชายคนหนึ่ง”
บทอ่านที่สอง โครินธ์ 1:24-28 เปาโลตรากตรำทำงานเพื่อรับใช้คนต่างศาสนา
24 บัดนี้ข้าพเจ้ายินดีที่ได้รับทุกข์ทรมานเพื่อท่านทั้งหลาย ความทรมานของพระคริสตเจ้ายังขาดสิ่งใด ข้าพเจ้าก็เสริมให้สมบูรณ์ด้วยการทรมานในกายของข้าพเจ้า เพื่อพระกายของพระองค์คือพระศาสนจักร 25 ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้พระศาสนจักรนี้ตามภารกิจที่พระเจ้าทรงมอบให้ เพื่อจะได้ประกาศพระวาจาของพระเจ้าแก่ท่านอย่างสมบูรณ์ 26 นั่นคือธรรมล้ำลึกที่ซ่อนอยู่ตลอดทุกยุคสมัย บัดนี้ธรรมล้ำลึกปรากฏชัดแจ้งแก่บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์แล้ว 27 พระเจ้าทรงปรารถนาที่จะแสดงให้เขาเหล่านั้นรู้ว่า ธรรมล้ำลึกนี้ได้นำพระสิริรุ่งโรจน์ล้นเหลือมาให้คนต่างศาสนา นั่นคือการที่พระคริสตเจ้าทรงดำรงอยู่ในท่าน ทรงเป็นความหวังเพื่อให้ท่านได้รับความรุ่งเรือง28 เราประกาศถึงพระคริสตเจ้าพระองค์นี้ โดยเตือนและสอนทุกคนให้มีความรู้ทุกอย่างเพื่อให้แต่ละคนดีพร้อมเดชะพระคริสตเจ้า
พระวรสารโดย นักบุญลูกา 10:38-42
38 ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินพร้อมกับบรรดาศิษย์ พระองค์เสด็จเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง สตรีผู้หนึ่งชื่อมารธารับเสด็จพระองค์ที่บ้าน
39 นางมีน้องสาวชื่อมารีย์ซึ่งนั่งอยู่แทบพระบาทขององค์พระผู้เป็นเจ้า คอยฟังพระวาจาของพระองค์ 40 มารธากำลังยุ่งอยู่กับการปรนนิบัติรับใช้จึงเข้ามาทูลว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ไม่สนพระทัยหรือที่น้องสาวปล่อยดิฉันคนเดียวให้ปรนนิบัติรับใช้ ขอพระองค์บอกเขาให้มาช่วยดิฉันบ้าง” 41 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “มารธา มารธา เธอเป็นห่วงและวุ่นวายหลายสิ่งนัก 42 สิ่งที่จำเป็นมีเพียงสิ่งเดียว มารีย์ได้เลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดที่จะไม่มีใครเอาไปจากเขาได้”
บทเทศเด็ดของคุณพ่อรามอส ( Father Ramos):
อับราฮัมเชิญพระเป็นเจ้าไม่ให้ผ่านไป เราก็ควรเชิญพระองค์ไม่ให้ผ่านเราไปเช่นกัน
นักบุญเปาโลรับทุกข์ทรมานเป็นการร่วมไถ่กู้กับพระเยซูคริสตเจ้าที่ทรงรับทุกข์ทรมานเพื่อการไถ่กู้ให้กับพวกเรามวลมนุษย์ทุกคน พวกเราควรทําตามพระองค์เช่นกัน
คุณพ่อ: พ่อเยี่ยมคนป่วยในโรงพยาบาลของค่ายทหาร จ๊อยเบส หลุยส์- แม็กค้อด (Joint Base Lewis- McChord) ทุกวัน มันเป็นงานของพ่อ พ่อขอบคุณคนป่วยทุกคนที่ทนทุกข์ทรมานเพื่อการไถ่กู้ให้กับพวกเรา
พระวาจาของพระเป็นเจ้าต้องมาก่อนสิ่งใดทั้งสิ้น มารธากระตือรือล้นทําอาหารปฎิบัติรับใช้พระองค์ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่มารีย์กระตือรือล้นต้อนรับพระวาจาของพระองค์ ให้ความสําคัญเหนือกว่าสิ่งใด เป็นที่สบพระทัยของพระเยซูเจ้า
อย่าลืมว่าเรากําลังเตรียมตัวไปบ้านแท้ของเราในสวรรค์ อย่ารีบร้อน อย่าห่วงกังวล เพราะเราจะไปสุสานก่อนเวลาอันควร
วันอาทิตย์ที่ 17 ในเทศกาลธรรมดา วันอาทิตย์ ที่ 24 กรกฎาคม 2024 บทอ่าน พระวรสาร และ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของสังฆานุกรแทรี่
วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตันสหรัฐอเมริกา ( Deacon Terry, Sacred Heart Catholic Church, Lacey, Washington, U.S.A. )
บทอ่านที่หนึ่ง ปฐมกาล 18:20-32 (พระเจ้าทรงเที่ยงธรรมและเมตตา)
20 พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เสียงกล่าวโทษเมืองโสโดมและโกโมราห์นั้นดังเหลือเกิน และบาปของเขาก็หนักมาก 21 เราจะลงไปดูว่าเป็นจริงตามเสียงกล่าวโทษทั้งหมดนี้หรือไม่ เราอยากรู้” 22 ชายเหล่านั้นe จึงออกจากที่นั่นเดินตรงไปยังเมืองโสดม แต่อับราฮัมยังยืนเฝ้าพระยาห์เวห์อยู่ 23 อับราฮัมเข้ามาใกล้ทูลถามว่า “พระองค์จะทรงทำลายผู้ชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรมเทียวหรือ 24 ถ้ามีคนชอบธรรมอยู่ห้าสิบคนในเมืองนั้น พระองค์จะยังทรงทำลายเมืองนั้นหรือ พระองค์จะไม่ทรงอภัยเมืองนั้นเพราะเห็นแก่คนชอบธรรมห้าสิบคนที่อยู่ที่นั่นหรือ
25 ขอพระองค์อย่าทรงคิดที่จะกระทำเช่นนั้นเลย อย่าทรงคิดที่จะฆ่าคนชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรม อย่าทรงกระทำกับคนชอบธรรมเช่นเดียวกับคนอธรรม ขอพระองค์อย่าทรงกระทำเช่นนั้นเลย พระองค์ผู้ทรงพิพากษาตัดสินโลกจะไม่ทรงกระทำสิ่งที่ถูกต้องหรือ” 26 พระยาห์เวห์ตรัสตอบว่า “ถ้าเราพบคนชอบธรรมห้าสิบคนในเมืองโสดม เราจะให้อภัยเมืองนั้น เพราะเห็นแก่เขา” 27 อับราฮัมทูลอีกว่า “ขอประทานอภัยที่ข้าพเจ้าบังอาจทูลเจ้านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเป็นเพียงฝุ่นผงและขี้เถ้า 28 ถ้าในห้าสิบคนนั้นขาดไปห้าคน พระองค์ยังจะทรงทำลายเมืองนั้นทั้งเมืองเพราะขาดไปห้าคนหรือ” พระองค์ตรัสว่า “เราจะไม่ทำลาย ถ้าเราพบคนชอบธรรมสี่สิบห้าคนที่นั่น” 29 อับราฮัมทูลพระองค์อีกว่า “ถ้าทรงพบเพียงสี่สิบคนที่นั่นเล่า” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลาย เพราะเห็นแก่สี่สิบคน” 30 อับราฮัมทูลว่า “เจ้านายของข้าพเจ้าอย่ากริ้วเลย ถ้าข้าพเจ้าจะทูลต่ออีกเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าพระองค์ทรงพบเพียงสามสิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลาย ถ้าเราพบสามสิบคน” 31 อับราฮัมทูลว่า “ขอประทานอภัยที่ข้าพเจ้าบังอาจทูลเจ้านายของข้าพเจ้า ถ้าพระองค์ทรงพบเพียงยี่สิบคนที่นั่นเล่า” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น เพราะเห็นแก่ยี่สิบคน”
32 อับราฮัมทูลว่า “เจ้านายของข้าพเจ้าอย่ากริ้วเลย ถ้าข้าพเจ้าจะทูลต่ออีกเป็นครั้งสุดท้าย “ถ้าพระองค์ทรงพบเพียงสิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น เพราะเห็นแก่สิบคน”
บทอ่านที่สอง โคโลสี 2:12-14 (พระเจ้าทรงเมตตายกเลิกหนี้สินของเรา ทรงอภัยโทษบาปทั้งมวลของเรา)
12 เมื่อรับศีลล้างบาป ท่านทั้งหลายถูกฝังพร้อมกับพระคริสตเจ้าและกลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์ด้วยความเชื่อในพระเดชานุภาพของพระเจ้า ผู้ทรงบันดาลให้พระคริสตเจ้ากลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย 13 ในอดีตท่านตายแล้วเพราะการล่วงละเมิดและไม่ได้เข้าสุหนัตทางกาย แต่พระเจ้าโปรดให้ท่านมีชีวิตพร้อมกับพระคริสตเจ้า โดยทรงให้อภัยการล่วงละเมิดทั้งหลายของเรา14 พระองค์ทรงยกเลิกหนี้สินที่เรามีต่อบทบัญญัติซึ่งกล่าวหาเรา โดยทรงยกหนี้สินนั้นไปจากเรา และตรึงไว้กับไม้กางเขน
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 11: 1-13
1วันหนึ่ง พระเยซูเจ้าทรงอธิษฐานภาวนาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อทรงอธิษฐานจบแล้ว ศิษย์คนหนึ่งทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า โปรดสอนเราให้
อธิษฐานภาวนาเหมือนกับที่ยอห์นสอนศิษย์ของเขาเถิด” พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “เมื่อท่านทั้งหลายอธิษฐานภาวนา จงพูดว่า“ข้าแต่พระบิดา พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ พระอาณาจักรจงมาถึง
3 โปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายทุกวัน โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย4 เหมือนข้าพเจ้าทั้งหลายให้อภัยแก่ผู้อื่น โปรดช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายไม่ให้แพ้การประจญ”
5 พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์อีกว่า “สมมติว่าท่านคนหนึ่งมีเพื่อนและไปพบเพื่อนนั้นตอนเที่ยงคืนกล่าวว่า “เพื่อนเอ๋ย ให้ฉันขอยืมขนมปังสักสามก้อนเถิด 6 เพราะเพื่อนของฉันเพิ่งเดินทางมาถึงบ้านของฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้เขากิน” 7 สมมติว่าเพื่อนคนนั้นตอบจากในบ้านว่า “อย่ารบกวนฉันเลย ประตูปิดแล้ว ลูกๆ กับฉันก็เข้านอนแล้ว ฉันลุกขึ้นให้สิ่งใดท่านไม่ได้หรอก” 8 เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนนั้นไม่ลุกขึ้นให้ขนมปังเพราะเป็นเพื่อนกัน เขาก็จะลุกขึ้นมาให้สิ่งที่เพื่อนต้องการเพราะถูกรบเร้า
9 เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ จงแสวงหาเถิด แล้วท่านจะพบ จงเคาะประตูเถิด แล้วเขาจะเปิดประตูรับท่าน 10 เพราะคนที่ขอย่อมได้รับ คนที่แสวงหาย่อมพบ คนที่เคาะประตูย่อมมีผู้เปิดประตูให้ 11 ท่านที่เป็นพ่อ ถ้าลูกขอปลา จะให้งูแทนปลาหรือ 12ถ้าลูกขอไข่ จะให้แมงป่องหรือ 13 แม้แต่ท่านทั้งหลายที่เป็นคนชั่วยังรู้จักให้ของดี ๆ แก่ลูก แล้วพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์จะไม่ประทานพระจิตเจ้า แก่ผู้ที่ทูลขอพระองค์มากกว่านั้นหรือ”
สังฆานุกรแทรี่: บทภาวนาข้าแต่พระบิดา ที่พระเยซูเจ้าทรงสอนศิษย์นี้ เชื่อกันว่าเป็นบทสวดที่พระเยซูเจ้าทรงพูดในภาษาอาราเมอิก (Aramaic) ในยุคสมัยนั้น โปรดสังเกต คํา " ข้าพเจ้าทั้งหลาย" ไม่ใช่ " ข้าพเจ้า" ฉันคนเดียว ในบทภาวนานี้ พวกเราทุกคนเป็นพี่น้องกัน และการให้อภัยของพระเป็นเจ้าต่อเราขึ้นอยู่กับการให้อภัยผู้อื่น
(อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตันสหรัฐอเมริกา ( Deacon Terry, Sacred Heart Catholic Church, Lacey, Washington, U.S.A. )
บทอ่านที่หนึ่ง ปฐมกาล 18:20-32 (พระเจ้าทรงเที่ยงธรรมและเมตตา)
20 พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เสียงกล่าวโทษเมืองโสโดมและโกโมราห์นั้นดังเหลือเกิน และบาปของเขาก็หนักมาก 21 เราจะลงไปดูว่าเป็นจริงตามเสียงกล่าวโทษทั้งหมดนี้หรือไม่ เราอยากรู้” 22 ชายเหล่านั้นe จึงออกจากที่นั่นเดินตรงไปยังเมืองโสดม แต่อับราฮัมยังยืนเฝ้าพระยาห์เวห์อยู่ 23 อับราฮัมเข้ามาใกล้ทูลถามว่า “พระองค์จะทรงทำลายผู้ชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรมเทียวหรือ 24 ถ้ามีคนชอบธรรมอยู่ห้าสิบคนในเมืองนั้น พระองค์จะยังทรงทำลายเมืองนั้นหรือ พระองค์จะไม่ทรงอภัยเมืองนั้นเพราะเห็นแก่คนชอบธรรมห้าสิบคนที่อยู่ที่นั่นหรือ
25 ขอพระองค์อย่าทรงคิดที่จะกระทำเช่นนั้นเลย อย่าทรงคิดที่จะฆ่าคนชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรม อย่าทรงกระทำกับคนชอบธรรมเช่นเดียวกับคนอธรรม ขอพระองค์อย่าทรงกระทำเช่นนั้นเลย พระองค์ผู้ทรงพิพากษาตัดสินโลกจะไม่ทรงกระทำสิ่งที่ถูกต้องหรือ” 26 พระยาห์เวห์ตรัสตอบว่า “ถ้าเราพบคนชอบธรรมห้าสิบคนในเมืองโสดม เราจะให้อภัยเมืองนั้น เพราะเห็นแก่เขา” 27 อับราฮัมทูลอีกว่า “ขอประทานอภัยที่ข้าพเจ้าบังอาจทูลเจ้านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเป็นเพียงฝุ่นผงและขี้เถ้า 28 ถ้าในห้าสิบคนนั้นขาดไปห้าคน พระองค์ยังจะทรงทำลายเมืองนั้นทั้งเมืองเพราะขาดไปห้าคนหรือ” พระองค์ตรัสว่า “เราจะไม่ทำลาย ถ้าเราพบคนชอบธรรมสี่สิบห้าคนที่นั่น” 29 อับราฮัมทูลพระองค์อีกว่า “ถ้าทรงพบเพียงสี่สิบคนที่นั่นเล่า” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลาย เพราะเห็นแก่สี่สิบคน” 30 อับราฮัมทูลว่า “เจ้านายของข้าพเจ้าอย่ากริ้วเลย ถ้าข้าพเจ้าจะทูลต่ออีกเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าพระองค์ทรงพบเพียงสามสิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลาย ถ้าเราพบสามสิบคน” 31 อับราฮัมทูลว่า “ขอประทานอภัยที่ข้าพเจ้าบังอาจทูลเจ้านายของข้าพเจ้า ถ้าพระองค์ทรงพบเพียงยี่สิบคนที่นั่นเล่า” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น เพราะเห็นแก่ยี่สิบคน”
32 อับราฮัมทูลว่า “เจ้านายของข้าพเจ้าอย่ากริ้วเลย ถ้าข้าพเจ้าจะทูลต่ออีกเป็นครั้งสุดท้าย “ถ้าพระองค์ทรงพบเพียงสิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเมืองนั้น เพราะเห็นแก่สิบคน”
บทอ่านที่สอง โคโลสี 2:12-14 (พระเจ้าทรงเมตตายกเลิกหนี้สินของเรา ทรงอภัยโทษบาปทั้งมวลของเรา)
12 เมื่อรับศีลล้างบาป ท่านทั้งหลายถูกฝังพร้อมกับพระคริสตเจ้าและกลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์ด้วยความเชื่อในพระเดชานุภาพของพระเจ้า ผู้ทรงบันดาลให้พระคริสตเจ้ากลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย 13 ในอดีตท่านตายแล้วเพราะการล่วงละเมิดและไม่ได้เข้าสุหนัตทางกาย แต่พระเจ้าโปรดให้ท่านมีชีวิตพร้อมกับพระคริสตเจ้า โดยทรงให้อภัยการล่วงละเมิดทั้งหลายของเรา14 พระองค์ทรงยกเลิกหนี้สินที่เรามีต่อบทบัญญัติซึ่งกล่าวหาเรา โดยทรงยกหนี้สินนั้นไปจากเรา และตรึงไว้กับไม้กางเขน
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 11: 1-13
1วันหนึ่ง พระเยซูเจ้าทรงอธิษฐานภาวนาอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อทรงอธิษฐานจบแล้ว ศิษย์คนหนึ่งทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า โปรดสอนเราให้
อธิษฐานภาวนาเหมือนกับที่ยอห์นสอนศิษย์ของเขาเถิด” พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “เมื่อท่านทั้งหลายอธิษฐานภาวนา จงพูดว่า“ข้าแต่พระบิดา พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ พระอาณาจักรจงมาถึง
3 โปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายทุกวัน โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย4 เหมือนข้าพเจ้าทั้งหลายให้อภัยแก่ผู้อื่น โปรดช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายไม่ให้แพ้การประจญ”
5 พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์อีกว่า “สมมติว่าท่านคนหนึ่งมีเพื่อนและไปพบเพื่อนนั้นตอนเที่ยงคืนกล่าวว่า “เพื่อนเอ๋ย ให้ฉันขอยืมขนมปังสักสามก้อนเถิด 6 เพราะเพื่อนของฉันเพิ่งเดินทางมาถึงบ้านของฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้เขากิน” 7 สมมติว่าเพื่อนคนนั้นตอบจากในบ้านว่า “อย่ารบกวนฉันเลย ประตูปิดแล้ว ลูกๆ กับฉันก็เข้านอนแล้ว ฉันลุกขึ้นให้สิ่งใดท่านไม่ได้หรอก” 8 เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนนั้นไม่ลุกขึ้นให้ขนมปังเพราะเป็นเพื่อนกัน เขาก็จะลุกขึ้นมาให้สิ่งที่เพื่อนต้องการเพราะถูกรบเร้า
9 เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ จงแสวงหาเถิด แล้วท่านจะพบ จงเคาะประตูเถิด แล้วเขาจะเปิดประตูรับท่าน 10 เพราะคนที่ขอย่อมได้รับ คนที่แสวงหาย่อมพบ คนที่เคาะประตูย่อมมีผู้เปิดประตูให้ 11 ท่านที่เป็นพ่อ ถ้าลูกขอปลา จะให้งูแทนปลาหรือ 12ถ้าลูกขอไข่ จะให้แมงป่องหรือ 13 แม้แต่ท่านทั้งหลายที่เป็นคนชั่วยังรู้จักให้ของดี ๆ แก่ลูก แล้วพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์จะไม่ประทานพระจิตเจ้า แก่ผู้ที่ทูลขอพระองค์มากกว่านั้นหรือ”
สังฆานุกรแทรี่: บทภาวนาข้าแต่พระบิดา ที่พระเยซูเจ้าทรงสอนศิษย์นี้ เชื่อกันว่าเป็นบทสวดที่พระเยซูเจ้าทรงพูดในภาษาอาราเมอิก (Aramaic) ในยุคสมัยนั้น โปรดสังเกต คํา " ข้าพเจ้าทั้งหลาย" ไม่ใช่ " ข้าพเจ้า" ฉันคนเดียว ในบทภาวนานี้ พวกเราทุกคนเป็นพี่น้องกัน และการให้อภัยของพระเป็นเจ้าต่อเราขึ้นอยู่กับการให้อภัยผู้อื่น
(อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
วันอาทิตย์ที่ 21 ในเทศกาลธรรมดา วันอาทิตย์ ที่ 21 สิงหาคม 2022 บทอ่าน พระวรสาร และ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของคุณพ่อเคลเมนท์ วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตันสหรัฐอเมริกา ( Father Clement, Sacred Heart Catholic Church, Lacey, Washington, U.S.A. )
บทอ่านที่หนึ่ง: อิสยาห์ 66: 18-21
18 พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เรารู้การกระทำและความคิดของเขาทั้งหลาย เราจะมารวบรวมชนทุกชาติทุกภาษา เขาเหล่านั้นจะมาและเห็นสิริรุ่งโรจน์ของเรา 19 เราจะให้เครื่องหมายแก่เขา จะส่งผู้รอดชีวิต ในหมู่เขาไปยังชนชาติต่าง ๆ คือ ทารชิช พูต ลูด เมเชค ทูบัลและยาวาน ไปยังเกาะและแผ่นดินชายทะเลที่อยู่ห่างไกลซึ่งยังไม่เคยได้ยินผู้ใดกล่าวถึงเรา และไม่เคยเห็นสิริรุ่งโรจน์ของเรา เขาจะประกาศสิริรุ่งโรจน์ของเราแก่นานาชาติ 20 เขาจะนำพี่น้องทุกคนของท่านทั้งหลายจากชนทุกชาติมาเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระยาห์เวห์ เขาจะขี่ม้า ขึ้นรถศึก นั่งเสลี่ยง ขี่ล่อ ขี่อูฐโหนกเดียว มายังกรุงเยรูซาเล็ม ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เช่นเดียวกับที่ชาวอิสราเอลนำธัญบูชาใส่ภาชนะไร้มลทินมายังพระวิหารของพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์ตรัส 21 และเราจะนำเขาบางคนมาเป็นสมณะ และเป็นชนเลวี”
บทอ่านที่สอง: ฮีบรู 12:5-7, 11-13
5 ท่านลืมคำเตือนที่พระเจ้าตรัสกับท่านในฐานะที่เป็นบุตรแล้วหรือ ลูกเอ๋ย อย่าดูถูกการเฆี่ยนตีสั่งสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าท้อถอยเมื่อพระองค์ทรงตำหนิเจ้า 6 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเฆี่ยนตีสั่งสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก และทรงเฆี่ยนตีทุกคนที่ทรงรับไว้เป็นบุตร 7 ท่านจงอดทนรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเถิด พระเจ้าทรงกระทำต่อท่านเยี่ยงกระทำต่อบุตร มีบุตรคนใดบ้างที่บิดาไม่เฆี่ยนตีสั่งสอนเลย 11 เป็นความจริงที่ว่า ขณะที่ถูกเฆี่ยนตีสั่งสอนไม่มีความน่ายินดี มีแต่ความทุกข์ แต่ให้ผลเป็นสันติและเป็นความชอบธรรมแก่ผู้ที่ยอมรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเป็นการฝึกฝนตนเอง 12 ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงทำให้มือที่อ่อนเปลี้ยและหัวเข่าที่สั่นเทามีกำลังมั่นคงขึ้น 13 จงเดินให้ตรงทาง เพื่อว่าขากะเผลกจะได้ไม่ต้องพิการ แต่จะหายเป็นปกติ
พระวรสาร โดย นักบุญลูกา: 13:22-30
22 พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม
23 คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้” พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า 24 “จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้” 25 “เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “นายเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” 26 แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” 27 แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการอยุติธรรม” 28 “เวลานั้น ท่านทั้งหลายจะร่ำไห้คร่ำครวญและขบฟันด้วยความขุ่นเคืองเมื่อแลเห็นอับราฮัม อิสอัคและยาโคบกับบรรดาประกาศกในพระอาณาจักรของพระเจ้า แต่ท่านทั้งหลายกลับถูกไล่ออกไปข้างนอก 29 จะมีคนจากทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ทิศเหนือและทิศใต้ มานั่งร่วมโต๊ะในพระอาณาจักรของพระเจ้า 30 ‘ดังนั้น พวกที่เป็นกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็นกลุ่มแรก และพวกที่เป็นกลุ่มแรกจะกลับกลายเป็นกลุ่มสุดท้าย”
คุณพ่อเคลเมนท์: มีลูกวัดต่อว่าพ่อหลังมิสซาวันอาทิตย์ที่แล้วว่า พ่อลืมพูด " พระเป็นเจ้าดี" "ตลอดเวลา พระเป็นเจ้าดี" พ่อขอพูดเดี๋ยวนี้เลยว่า "พระเป็นเจ้าดี"
ลูกวัด ฮาครืน: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด เสียงดังสนั่นวัด: ตลอดเวลา พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: ขบวนสังฆมณฑลซีแอ้ทเทิ้ล (Archdiocese of Seattle, Washington State, U.S.A.) ภายใต้การนําของพระสังฆราช คุณพ่อ ซิสเตอร์ สังฆานุกร ผู้สอนคําสอน สัตบุรุษชายหญิง และผู้กําลังเรียนคําสอน เดินไปถึงประตูสวรรค์ที่นักบุญเปโตรยืนขวางอยู่ ท่านถามว่ามาจากไหน พระสังฆราชตอบว่ามาจากสังฆมณฑลซีแอ้ทเทิ้ล นักบุญเปโตรบอก ไปอีกประตูหนึ่ง ไม่ใช่ประตูนี้ ประตูนั้นมีกฎใหม่ พระสังฆราชน้อมรับคําแล้วหันหน้านําขบวนไปที่ประตูอีกแห่ง ไปไม่ถูก เดินหลง จากหัวขบวนกลายเป็นท้ายขบวน ผู้พึ่งเรียนคําสอน กลายเป็นผู้นํา พาทุกคนเข้าประตูสวรรค์ คนสุดท้ายจะกลับกลายเป็นคนแรก และคนแรกจะกลับกลายเป็นคนสุดท้าย!
พวกเราในเขตวัดพระหฤทัยมาจากทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก จากทวีปยุโรป เอเชีย อัฟริกา พวกเรารู้ว่า ความสําเร็จมาจากความเพียรพยายามและความมีระเบียบวินัย พวกเราต้องร่วมมือต่อสู้ความชั่วร้าย ประกาศพระวาจาของพระเป็นเจ้าเพื่อการรอดพ้นให้กับทุกคน นักบุญโป๊ปยอห์นปอลที่สองทรงพูดว่า: คริสตชนที่ไม่สวดภาวนาเสี่ยงต่อภัยอันตราย และคริสตชนที่ไม่อ่านพระวาจาของพระเป็นเจ้าเสี่ยงต่อภัยอันตรายเช่นกัน
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่านที่หนึ่ง: อิสยาห์ 66: 18-21
18 พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เรารู้การกระทำและความคิดของเขาทั้งหลาย เราจะมารวบรวมชนทุกชาติทุกภาษา เขาเหล่านั้นจะมาและเห็นสิริรุ่งโรจน์ของเรา 19 เราจะให้เครื่องหมายแก่เขา จะส่งผู้รอดชีวิต ในหมู่เขาไปยังชนชาติต่าง ๆ คือ ทารชิช พูต ลูด เมเชค ทูบัลและยาวาน ไปยังเกาะและแผ่นดินชายทะเลที่อยู่ห่างไกลซึ่งยังไม่เคยได้ยินผู้ใดกล่าวถึงเรา และไม่เคยเห็นสิริรุ่งโรจน์ของเรา เขาจะประกาศสิริรุ่งโรจน์ของเราแก่นานาชาติ 20 เขาจะนำพี่น้องทุกคนของท่านทั้งหลายจากชนทุกชาติมาเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระยาห์เวห์ เขาจะขี่ม้า ขึ้นรถศึก นั่งเสลี่ยง ขี่ล่อ ขี่อูฐโหนกเดียว มายังกรุงเยรูซาเล็ม ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เช่นเดียวกับที่ชาวอิสราเอลนำธัญบูชาใส่ภาชนะไร้มลทินมายังพระวิหารของพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์ตรัส 21 และเราจะนำเขาบางคนมาเป็นสมณะ และเป็นชนเลวี”
บทอ่านที่สอง: ฮีบรู 12:5-7, 11-13
5 ท่านลืมคำเตือนที่พระเจ้าตรัสกับท่านในฐานะที่เป็นบุตรแล้วหรือ ลูกเอ๋ย อย่าดูถูกการเฆี่ยนตีสั่งสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า อย่าท้อถอยเมื่อพระองค์ทรงตำหนิเจ้า 6 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเฆี่ยนตีสั่งสอนผู้ที่พระองค์ทรงรัก และทรงเฆี่ยนตีทุกคนที่ทรงรับไว้เป็นบุตร 7 ท่านจงอดทนรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเถิด พระเจ้าทรงกระทำต่อท่านเยี่ยงกระทำต่อบุตร มีบุตรคนใดบ้างที่บิดาไม่เฆี่ยนตีสั่งสอนเลย 11 เป็นความจริงที่ว่า ขณะที่ถูกเฆี่ยนตีสั่งสอนไม่มีความน่ายินดี มีแต่ความทุกข์ แต่ให้ผลเป็นสันติและเป็นความชอบธรรมแก่ผู้ที่ยอมรับการเฆี่ยนตีสั่งสอนเป็นการฝึกฝนตนเอง 12 ดังนั้น ท่านทั้งหลายจงทำให้มือที่อ่อนเปลี้ยและหัวเข่าที่สั่นเทามีกำลังมั่นคงขึ้น 13 จงเดินให้ตรงทาง เพื่อว่าขากะเผลกจะได้ไม่ต้องพิการ แต่จะหายเป็นปกติ
พระวรสาร โดย นักบุญลูกา: 13:22-30
22 พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านเมืองและหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนประชาชนและทรงเดินทางมุ่งไปกรุงเยรูซาเล็ม
23 คนคนหนึ่งทูลถามพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมที่รอดพ้นได้” พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า 24 “จงพยายามเข้าทางประตูแคบ เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่าหลายคนพยายามจะเข้าไป แต่จะเข้าไม่ได้” 25 “เมื่อเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นเพื่อปิดประตู ท่านจะยืนอยู่ข้างนอก เคาะประตูพูดว่า “นายเจ้าข้า เปิดประตูให้พวกเราด้วย” แต่เขาจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใด” 26 แล้วท่านก็จะพูดว่า “พวกเราได้กินได้ดื่มอยู่กับท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” 27 แต่เจ้าของบ้านจะตอบว่า “เราไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดไปให้พ้นจากเราเถิด เจ้าทั้งหลายที่กระทำการอยุติธรรม” 28 “เวลานั้น ท่านทั้งหลายจะร่ำไห้คร่ำครวญและขบฟันด้วยความขุ่นเคืองเมื่อแลเห็นอับราฮัม อิสอัคและยาโคบกับบรรดาประกาศกในพระอาณาจักรของพระเจ้า แต่ท่านทั้งหลายกลับถูกไล่ออกไปข้างนอก 29 จะมีคนจากทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ทิศเหนือและทิศใต้ มานั่งร่วมโต๊ะในพระอาณาจักรของพระเจ้า 30 ‘ดังนั้น พวกที่เป็นกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็นกลุ่มแรก และพวกที่เป็นกลุ่มแรกจะกลับกลายเป็นกลุ่มสุดท้าย”
คุณพ่อเคลเมนท์: มีลูกวัดต่อว่าพ่อหลังมิสซาวันอาทิตย์ที่แล้วว่า พ่อลืมพูด " พระเป็นเจ้าดี" "ตลอดเวลา พระเป็นเจ้าดี" พ่อขอพูดเดี๋ยวนี้เลยว่า "พระเป็นเจ้าดี"
ลูกวัด ฮาครืน: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด เสียงดังสนั่นวัด: ตลอดเวลา พระเป็นเจ้าดี
คุณพ่อ: ขบวนสังฆมณฑลซีแอ้ทเทิ้ล (Archdiocese of Seattle, Washington State, U.S.A.) ภายใต้การนําของพระสังฆราช คุณพ่อ ซิสเตอร์ สังฆานุกร ผู้สอนคําสอน สัตบุรุษชายหญิง และผู้กําลังเรียนคําสอน เดินไปถึงประตูสวรรค์ที่นักบุญเปโตรยืนขวางอยู่ ท่านถามว่ามาจากไหน พระสังฆราชตอบว่ามาจากสังฆมณฑลซีแอ้ทเทิ้ล นักบุญเปโตรบอก ไปอีกประตูหนึ่ง ไม่ใช่ประตูนี้ ประตูนั้นมีกฎใหม่ พระสังฆราชน้อมรับคําแล้วหันหน้านําขบวนไปที่ประตูอีกแห่ง ไปไม่ถูก เดินหลง จากหัวขบวนกลายเป็นท้ายขบวน ผู้พึ่งเรียนคําสอน กลายเป็นผู้นํา พาทุกคนเข้าประตูสวรรค์ คนสุดท้ายจะกลับกลายเป็นคนแรก และคนแรกจะกลับกลายเป็นคนสุดท้าย!
พวกเราในเขตวัดพระหฤทัยมาจากทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก จากทวีปยุโรป เอเชีย อัฟริกา พวกเรารู้ว่า ความสําเร็จมาจากความเพียรพยายามและความมีระเบียบวินัย พวกเราต้องร่วมมือต่อสู้ความชั่วร้าย ประกาศพระวาจาของพระเป็นเจ้าเพื่อการรอดพ้นให้กับทุกคน นักบุญโป๊ปยอห์นปอลที่สองทรงพูดว่า: คริสตชนที่ไม่สวดภาวนาเสี่ยงต่อภัยอันตราย และคริสตชนที่ไม่อ่านพระวาจาของพระเป็นเจ้าเสี่ยงต่อภัยอันตรายเช่นกัน
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
วันอาทิตย์ที่ 19 ในเทศกาลธรรมดา 7 สิงหาคม 2022 บทอ่าน พระวรสาร และ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของคุณพ่อจอห์นซั่น นิลลิสเซรี่ ( Father Johnson Nellissery) วัดเซนต์ปอล เมืองออสติน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ( Saint Paul Catholic Church, Austin, Texas, U.S.A. )
บทอ่านแรก: ปรีชาญาณ 18:6-9
6 บรรพบุรุษของข้าพเจ้าทั้งหลายได้รับรู้ล่วงหน้าถึงคืนนั้น เขาจะได้มีใจกล้าหาญเพราะมั่นใจในพระสัญญาที่เขาเคยเชื่อ 7 ประชากรของพระองค์รอคอยความรอดพ้นของผู้ชอบธรรม และรอคอยความพินาศของศัตรู 8 ถูกต้องแล้ว สิ่งที่พระองค์ทรงใช้ลงโทษศัตรู พระองค์ก็ทรงใช้ประทานเกียรติแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายที่ทรงเรียกมาอยู่กับพระองค์ 9 บรรดาบุตรหลานศักดิ์สิทธิ์ของผู้ชอบธรรมถวายสักการบูชาอย่างลับๆพร้อมใจกันจะปฏิบัติตามพระบัญญัติข้อนี้ของพระเจ้า คือบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์จะร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน เขาจึงขับร้องเพลงสดุดีของบรรพบุรุษ
บทอ่านที่สอง: ฮีบรู 11:1-2, 6-9
1ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นข้อพิสูจน์ถึงสิ่งที่มองไม่เห็น 2 เพราะความเชื่อนี้ คนในสมัยก่อนจึงได้รับการยกย่องในพระคัมภีร์ 6 แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าไม่ได้เลย เพราะผู้ที่มาเฝ้าพระเจ้า จำเป็นต้องเชื่อว่า พระองค์ทรงดำรงอยู่และประทานบำเหน็จแก่ผู้แสวงหาพระองค์ 7 เพราะความเชื่อ เมื่อโนอาห์ได้รับคำเตือนของพระเจ้าเกี่ยวกับเรื่องที่ยังมิได้เห็น เขาจึงมีความยำเกรงพระองค์และสร้างเรือใหญ่เพื่อช่วยให้ครอบครัวของตนรอดตาย และเพราะความเชื่อนี้เอง เขาตัดสินลงโทษโลกและได้เป็นทายาทแห่งความชอบธรรมซึ่งบังเกิดมาจากความเชื่อ 8 เพราะความเชื่ออับราฮัมเชื่อฟังเมื่อพระเจ้าทรงเรียกให้ออกเดินทางไปสู่สถานที่ที่เขาจะได้รับเป็นมรดก เขาออกเดินทางไปโดยไม่รู้ว่าจะไปไหน
9 เพราะความเชื่อ เขาพำนักในดินแดนแห่งพระสัญญาเยี่ยงคนต่างด้าวในต่างแดน เขาอาศัยอยู่ในกระโจมเช่นเดียวกับอิสอัคและยาโคบผู้เป็นทายาทร่วมพระสัญญาเดียวกัน
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา: 12:32-48
32 ฝูงแกะน้อย ๆ เอ๋ย อย่ากลัวเลย’ เพราะพระบิดาของท่านพอพระทัยจะประทานพระอาณาจักรให้แก่ท่าน” 33 จงขายทรัพย์สินของท่านและให้ทาน จงหาถุงเงินที่ไม่มีวันชำรุด จงหาทรัพย์สมบัติที่ไม่มีวันหมดสิ้นในสวรรค์ ที่นั่นขโมยเข้าไม่ถึงและตัวขมวนไม่ทำลาย 34 เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย” 35 “ท่านทั้งหลายจงคาดสะเอว และจุดตะเกียงเตรียมพร้อมไว้ 36 จงเป็นเสมือนผู้รับใช้ที่กำลังคอยนายกลับจากงานสมรส เมื่อนายมาและเคาะประตูจะได้เปิดรับ 37 ผู้รับใช้เหล่านั้นเป็นสุข ถ้านายกลับมาพบเขากำลังตื่นเฝ้าอยู่ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า นายจะคาดสะเอวพาผู้รับใช้เหล่านั้นไปนั่งโต๊ะและจะรับใช้เขาด้วย 38 ไม่ว่านายจะมาเวลาสองยามหรือสามยาม ถ้าพบผู้รับใช้กำลังทำเช่นนี้ ผู้รับใช้เหล่านั้นก็เป็นสุข 39 พึงรู้ไว้เถิด ถ้าเจ้าของบ้านรู้ว่าขโมยจะมาเวลาใด เขาคงไม่ปล่อยให้ขโมยงัดแงะบ้านของตน 40 ท่านทั้งหลายจงเตรียมพร้อมไว้ เพราะบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านมิได้คาดหมาย” 41 เปโตรทูลว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ตรัสอุปมานี้สำหรับพวกเราหรือสำหรับทุกคน” 42 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ใครเล่าเป็นผู้จัดการที่ซื่อสัตย์และรอบคอบซึ่งนายจะแต่งตั้งให้ดูแลผู้รับใช้อื่นๆ เพื่อปันส่วนอาหารให้ตามเวลาที่กำหนด 43 ผู้รับใช้คนนั้นเป็นสุข ถ้านายกลับมาพบเขากำลังทำดังนี้ 44 เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า นายจะแต่งตั้งเขาให้ดูแลทรัพย์สินทั้งหมดของตน 45 แต่ถ้าผู้รับใช้คนนั้นคิดว่า “นายจะมาช้า” และเริ่มตบตีผู้รับใช้ทั้งชายและหญิง กินดื่มจนเมามาย 46 นายของผู้รับใช้คนนั้นจะกลับมาในวันที่เขามิได้คาดหมาย ในเวลาที่เขาไม่รู้ นายจะแยกเขาออก ให้ไปอยู่กับพวกคนที่ไม่ซื่อสัตย์” 47 “ผู้รับใช้ที่รู้ใจนายของตน แต่ไม่เตรียมพร้อมและไม่ทำตามใจนาย จะต้องถูกเฆี่ยนมาก 48 แต่ผู้รับใช้ที่ไม่รู้ใจนาย แม้ทำสิ่งที่ควรจะถูกเฆี่ยน ก็จะถูกเฆี่ยนน้อย ผู้ใดได้รับฝากไว้มาก ผู้นั้นก็จะถูกทวงกลับไปมากด้วย”
คุณพ่อจอห์นซั่น: มีบุคคลสามประเภทที่เกี่ยวพันกับพระเยซูเจ้า (ประเภทที่หนึ่ง) รู้สึกสนใจใคร่รู้แล้วก็จากไป ( ประเภทที่สอง) เป็นสานุศิษย์ ติดตามพระองค์ ( ประเภทที่สาม) เป็นศัตรูของพระองค์
พวกเราขอกราบขอบพระคุณพระเป็นเจ้าที่พระองค์ทรงเรียก คุณมิเชล โอซูนา ( Michelle Ozuna) ให้เป็นนักบวชหญิงของคณะฟรังซิสกัน ( Franciscan Sisters of Charity) เธอเป็นโรมันคาทอลิกได้สามปี และจะไปเป็นซิสเตอร์ อีกสามอาทิตย์หน้า
คุณมิเชล: ดิฉันได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของสองพี่น้องในพระวรสาร มารธาและมารีย์ค่ะ ดิฉันเลือกรับใช้พระเป็นเจ้าเหมือนมารีย์ ตามการดลใจของพระจิตเจ้าในตัวดิฉัน และเป็นพระจิตเจ้าองค์เดียวกันที่ประทับในตัวของคุณทุกคนเช่นกัน เราทุกคนรับใช้พระองค์ตามแต่กระแสเรียกของพระองค์ที่มีต่อเราแต่ละคน
ทุกคนยืนตบมือให้เกียรติคุณมิเชลเสียงดังลั่นสนั่นวัด
ก่อนจบมิสซา ทุกคนหันหน้าไปที่พระรูปพระแม่มารีย์แห่งกัวดาลูเปที่มีมงกุฎเหนือพระรูปใกล้พระแท่น แล้วขับร้องเพลงถวายเกียรติให้พระแม่ มารดาพระเป็นเจ้า และแม่ของพวกเรามวลมนุษยชาติ
บทอ่านแรก: ปรีชาญาณ 18:6-9
6 บรรพบุรุษของข้าพเจ้าทั้งหลายได้รับรู้ล่วงหน้าถึงคืนนั้น เขาจะได้มีใจกล้าหาญเพราะมั่นใจในพระสัญญาที่เขาเคยเชื่อ 7 ประชากรของพระองค์รอคอยความรอดพ้นของผู้ชอบธรรม และรอคอยความพินาศของศัตรู 8 ถูกต้องแล้ว สิ่งที่พระองค์ทรงใช้ลงโทษศัตรู พระองค์ก็ทรงใช้ประทานเกียรติแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายที่ทรงเรียกมาอยู่กับพระองค์ 9 บรรดาบุตรหลานศักดิ์สิทธิ์ของผู้ชอบธรรมถวายสักการบูชาอย่างลับๆพร้อมใจกันจะปฏิบัติตามพระบัญญัติข้อนี้ของพระเจ้า คือบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์จะร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน เขาจึงขับร้องเพลงสดุดีของบรรพบุรุษ
บทอ่านที่สอง: ฮีบรู 11:1-2, 6-9
1ความเชื่อคือความมั่นใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นข้อพิสูจน์ถึงสิ่งที่มองไม่เห็น 2 เพราะความเชื่อนี้ คนในสมัยก่อนจึงได้รับการยกย่องในพระคัมภีร์ 6 แต่ถ้าไม่มีความเชื่อแล้ว จะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าไม่ได้เลย เพราะผู้ที่มาเฝ้าพระเจ้า จำเป็นต้องเชื่อว่า พระองค์ทรงดำรงอยู่และประทานบำเหน็จแก่ผู้แสวงหาพระองค์ 7 เพราะความเชื่อ เมื่อโนอาห์ได้รับคำเตือนของพระเจ้าเกี่ยวกับเรื่องที่ยังมิได้เห็น เขาจึงมีความยำเกรงพระองค์และสร้างเรือใหญ่เพื่อช่วยให้ครอบครัวของตนรอดตาย และเพราะความเชื่อนี้เอง เขาตัดสินลงโทษโลกและได้เป็นทายาทแห่งความชอบธรรมซึ่งบังเกิดมาจากความเชื่อ 8 เพราะความเชื่ออับราฮัมเชื่อฟังเมื่อพระเจ้าทรงเรียกให้ออกเดินทางไปสู่สถานที่ที่เขาจะได้รับเป็นมรดก เขาออกเดินทางไปโดยไม่รู้ว่าจะไปไหน
9 เพราะความเชื่อ เขาพำนักในดินแดนแห่งพระสัญญาเยี่ยงคนต่างด้าวในต่างแดน เขาอาศัยอยู่ในกระโจมเช่นเดียวกับอิสอัคและยาโคบผู้เป็นทายาทร่วมพระสัญญาเดียวกัน
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา: 12:32-48
32 ฝูงแกะน้อย ๆ เอ๋ย อย่ากลัวเลย’ เพราะพระบิดาของท่านพอพระทัยจะประทานพระอาณาจักรให้แก่ท่าน” 33 จงขายทรัพย์สินของท่านและให้ทาน จงหาถุงเงินที่ไม่มีวันชำรุด จงหาทรัพย์สมบัติที่ไม่มีวันหมดสิ้นในสวรรค์ ที่นั่นขโมยเข้าไม่ถึงและตัวขมวนไม่ทำลาย 34 เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย” 35 “ท่านทั้งหลายจงคาดสะเอว และจุดตะเกียงเตรียมพร้อมไว้ 36 จงเป็นเสมือนผู้รับใช้ที่กำลังคอยนายกลับจากงานสมรส เมื่อนายมาและเคาะประตูจะได้เปิดรับ 37 ผู้รับใช้เหล่านั้นเป็นสุข ถ้านายกลับมาพบเขากำลังตื่นเฝ้าอยู่ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า นายจะคาดสะเอวพาผู้รับใช้เหล่านั้นไปนั่งโต๊ะและจะรับใช้เขาด้วย 38 ไม่ว่านายจะมาเวลาสองยามหรือสามยาม ถ้าพบผู้รับใช้กำลังทำเช่นนี้ ผู้รับใช้เหล่านั้นก็เป็นสุข 39 พึงรู้ไว้เถิด ถ้าเจ้าของบ้านรู้ว่าขโมยจะมาเวลาใด เขาคงไม่ปล่อยให้ขโมยงัดแงะบ้านของตน 40 ท่านทั้งหลายจงเตรียมพร้อมไว้ เพราะบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านมิได้คาดหมาย” 41 เปโตรทูลว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ตรัสอุปมานี้สำหรับพวกเราหรือสำหรับทุกคน” 42 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ใครเล่าเป็นผู้จัดการที่ซื่อสัตย์และรอบคอบซึ่งนายจะแต่งตั้งให้ดูแลผู้รับใช้อื่นๆ เพื่อปันส่วนอาหารให้ตามเวลาที่กำหนด 43 ผู้รับใช้คนนั้นเป็นสุข ถ้านายกลับมาพบเขากำลังทำดังนี้ 44 เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า นายจะแต่งตั้งเขาให้ดูแลทรัพย์สินทั้งหมดของตน 45 แต่ถ้าผู้รับใช้คนนั้นคิดว่า “นายจะมาช้า” และเริ่มตบตีผู้รับใช้ทั้งชายและหญิง กินดื่มจนเมามาย 46 นายของผู้รับใช้คนนั้นจะกลับมาในวันที่เขามิได้คาดหมาย ในเวลาที่เขาไม่รู้ นายจะแยกเขาออก ให้ไปอยู่กับพวกคนที่ไม่ซื่อสัตย์” 47 “ผู้รับใช้ที่รู้ใจนายของตน แต่ไม่เตรียมพร้อมและไม่ทำตามใจนาย จะต้องถูกเฆี่ยนมาก 48 แต่ผู้รับใช้ที่ไม่รู้ใจนาย แม้ทำสิ่งที่ควรจะถูกเฆี่ยน ก็จะถูกเฆี่ยนน้อย ผู้ใดได้รับฝากไว้มาก ผู้นั้นก็จะถูกทวงกลับไปมากด้วย”
คุณพ่อจอห์นซั่น: มีบุคคลสามประเภทที่เกี่ยวพันกับพระเยซูเจ้า (ประเภทที่หนึ่ง) รู้สึกสนใจใคร่รู้แล้วก็จากไป ( ประเภทที่สอง) เป็นสานุศิษย์ ติดตามพระองค์ ( ประเภทที่สาม) เป็นศัตรูของพระองค์
พวกเราขอกราบขอบพระคุณพระเป็นเจ้าที่พระองค์ทรงเรียก คุณมิเชล โอซูนา ( Michelle Ozuna) ให้เป็นนักบวชหญิงของคณะฟรังซิสกัน ( Franciscan Sisters of Charity) เธอเป็นโรมันคาทอลิกได้สามปี และจะไปเป็นซิสเตอร์ อีกสามอาทิตย์หน้า
คุณมิเชล: ดิฉันได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของสองพี่น้องในพระวรสาร มารธาและมารีย์ค่ะ ดิฉันเลือกรับใช้พระเป็นเจ้าเหมือนมารีย์ ตามการดลใจของพระจิตเจ้าในตัวดิฉัน และเป็นพระจิตเจ้าองค์เดียวกันที่ประทับในตัวของคุณทุกคนเช่นกัน เราทุกคนรับใช้พระองค์ตามแต่กระแสเรียกของพระองค์ที่มีต่อเราแต่ละคน
ทุกคนยืนตบมือให้เกียรติคุณมิเชลเสียงดังลั่นสนั่นวัด
ก่อนจบมิสซา ทุกคนหันหน้าไปที่พระรูปพระแม่มารีย์แห่งกัวดาลูเปที่มีมงกุฎเหนือพระรูปใกล้พระแท่น แล้วขับร้องเพลงถวายเกียรติให้พระแม่ มารดาพระเป็นเจ้า และแม่ของพวกเรามวลมนุษยชาติ
สวัสดีครับ ผมกับแซนดร้าแวะไปเยี่ยมครอบครัวของพี่ชายของแซนดร้าที่เมืองลาส เวกัส รัฐเนวาดา ( Las Vegas, Nevada) ก่อนจะเดินทางกลับบ้านที่เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน ( Lacey, Washington) เมื่อวานไปร่วมมิสซาวันอาทิตย์ ที่ 20 ของเทศกาลธรรมดา ( 14 สิงหาคม 2022) ที่วัดเซนต์จอห์น นอยมัน ( Saint John Neumann) ผมและแซนดร้าไปร่วมมิสซาที่วัดนี้หลายครั้งแล้วครับ ไปทีไรจิตใจสดชื่นแจ่มใสเพราะบรรยากาศอบอุ่น ทุกคนมีไมตรีจิต ตัววัดภายนอกและภายในเป็นตึกสมัยปัจจุบัน เรียบง่าย ลูกวัดแบ่งแยกกันช่วยคุณพ่อ: แผนกต้อนรับ (แปลกหน้า มาเยือน ก่อนเริ่มมิสซาคุณพ่อเชิญให้ยืนขึ้นแล้วกล่าวต้อนรับ ลูกวัดตบมือ) แผนกขับร้อง ดนตรีประกอบ แผนกอ่านบทอ่าน แผนกรับใช้คุณพ่อในมิสซา แผนกแจกศีลและป้องกันการทําทุราจารต่อพระกายของพระเป็นเจ้าแผนกส่งศีลให้คนป่วย แผนกสอนคําสอน อีกหลายแผนก แต่ไม่มีแผนกเก็บถุงทานในมิสซา (เพราะถึงภาคถวาย ผู้นำขับร้อง ประกาศให้ลูกวัดเอาเงิน เอาเช็คใส่ตะกร้าที่ข้างล่างของพระแท่น บอกว่ามีสองตะกร้า ตะกร้าแรกส่วนรวมธรรมดา ตะกร้าสองระดมทุนสร้างวัดใหม่ ผมกับแซนดร้าไปทีไรประทับใจทุกทีครับ รายรับจากทุกมิสซา จะเป็นส่วนหนึ่งของการประกาศในสารวัดประจําวันอาทิตย์)
ที่ทันสมัยและสะดวกสบายในการสื่อสารระหว่างวัดกับลูกวัดก็คือ จอสีขาวหลังพระแท่นขึ้นลง ที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ คุณพ่อเจ้าวัดทําวีดีโอ ( มิสซาวันอาทิตย์มี 4 ครั้ง) ต้อนรับทุกคน บอกความเป็นไปของวัด สรุปบทอ่านและบทเทศน์ของมิสซา แล้วทุกคนก็ยืนสวดบทภาวนาพร้อมกันที่อยู่บนจอ สวดเสร็จ จอเลื่อนตัวเก็บ ไม่เป็นที่สดุดตา
บทอ่านที่หนึ่ง: เยเรมีย์ 4-6, 8-10
4 บรรดาเจ้านายจึงทูลกษัตริย์ว่า “ขอพระองค์ประหารชีวิตชายคนนี้ เพราะเขาทำให้ทหารซึ่งเหลืออยู่ในเมืองหมดกำลังใจ และทำให้ประชาชนที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้หมดกำลังใจด้วย ชายคนนี้ไม่ได้แสวงหาความอยู่อย่างเป็นสุขของประชาชน แต่แสวงหาหายนะ” 5 กษัตริย์เศเดคียาห์ตรัสตอบว่า “เขาอยู่ในมือของท่านทั้งหลายแล้ว กษัตริย์ไม่อาจทำสิ่งใดขัดแย้งกับท่านได้” 6 เขาจึงจับเยเรมีย์หย่อนลงไปในบ่อเก็บน้ำของมัลคียาห์พระโอรส ซึ่งอยู่ในลานกองทหารองครักษ์ เขาใช้เชือกมัดหย่อนเยเรมีย์ลงไป ในบ่อขังน้ำนั้นไม่มีน้ำ มีแต่โคลน เยเรมีย์จึงจมลงไปในโคลน 8 เอเบด-เมเลคจึงออกจากพระราชวังไปทูลกษัตริย์ว่า 9 “ข้าแต่พระราชาของข้าพเจ้า คนเหล่านี้ทำสิ่งเลวร้ายกับประกาศกเยเรมีย์ โดยหย่อนเขาลงไปในบ่อเก็บน้ำ ประกาศกคงจะต้องตายที่นั่นเพราะขาดอาหาร เพราะไม่มีขนมปังเหลืออยู่ในเมืองอีกแล้ว” 10 กษัตริย์จึงทรงสั่งเอเบด-เมเลคชาวเอธิโอเปียว่า “จงนำคนจากที่นี่สามสิบคนไปกับท่าน แล้วฉุดประกาศกเยเรมีย์ขึ้นมาจากบ่อเก็บน้ำก่อนที่เขาจะตาย”
บทอ่านที่สอง: ฮีบรู 12:1-4
1 พวกเรา ก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีพยานจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ เราจงละทิ้งทุกสิ่งที่ถ่วงอยู่และบาปที่เกาะแน่น เราจงมีมานะวิ่งต่อไปในการแข่งขันซึ่งกำหนดไว้สำหรับเรา 2 จงเพ่งมองไปยังพระเยซูเจ้าผู้ทรงบุกเบิกความเชื่อและทรงทำให้ความเชื่อนั้นสมบูรณ์ พระองค์ทรงยอมสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ไม่ทรงถือว่าเป็นความตายที่น่าอับอาย เพราะทรงคำนึงถึงความยินดีที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ บัดนี้พระองค์ประทับ ณ เบื้องขวาแห่งพระที่นั่งของพระเจ้าแล้ว 3 ท่านทั้งหลายจงคิดถึงพระองค์ที่ทรงอดทนต่อการคัดค้านเช่นนี้ของคนบาปa ท่านจะได้ไม่ท้อถอยหมดกำลังใจ 4 ในการต่อสู้กับบาป ท่านยังมิได้ต้านทานจนถึงกับต้องหลั่งเลือดเลย
*พระวรสาร โดยนักบุญลูกา: 12: 49-63
49 “เรามาเพื่อจุดไฟในโลก เราปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้โลกนี้ลุกเป็นไฟ 50 เรามีการล้างที่จะต้องรับ และเราเป็นทุกข์กังวลใจอย่างมากจนกว่าการล้างนี้จะสำเร็จ” 51 “ท่านคิดว่าเรามาเพื่อนำสันติภาพมาสู่โลกหรือ มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า เรานำความแตกแยกมาต่างหาก 52 ตั้งแต่นี้ไป คนห้าคนในบ้านหนึ่งจะแตกแยกกัน คนสามคนจะแตกแยกกับคนสองคน และคนสองคนจะแตกแยกกับคนสามคน 53 บิดาจะแตกแยกกับบุตรชาย และบุตรชายจะแตกแยกกับบิดา มารดาจะแตกแยกกับบุตรหญิง และบุตรหญิงจะแตกแยกกับมารดา มารดาของสามีจะแตกแยกกับบุตรสะใภ้ และบุตรสะใภ้จะแตกแยกกับมารดาของสามี”
บทเทศน์เด็ดของคุณพ่อรอย คาราชาลี คูเรียน ( Father Roy Kalachalil Kurian) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ( คุณพ่อ มาร์ค เฮาอีส/ Father Marc Howes
คุณพ่อ: จงแบกกางเขนของเรา
ลูกวัด: _______
คุณพ่อ: ตอบว่า" เรายินดีแบกกางเขนของเรา"
ลูกวัด ( เสียงสนั่นลั่นวัด): เรายินดีแบกกางเขนของเรา!
คุณพ่อ: กางเขนของเราคือบอกความจริงที่พระเยซูเจ้าทรงบอกเรา ภายใต้การนํา ประทานความสว่างของพระจิตเจ้า ให้เราจําพระวาจา คําสอนของ
พระเยซูเจ้า แล้วทําตามพระองค์ มีกี่ครั้งในชีวิตของเราที่เราบอกความจริงแล้วถูกลงโทษ ต่อต้าน หวั่นไหวไม่กล้าบอกความจริงอีก ปกาศกเยเรมีย์บอกความจริงแล้วถูกทําร้าย ถูกจับหย่อนตัวในบ่อนํ้าแห้งเป็นโคลน นักบุญเปาโลบอกว่า "ในการต่อสู้กับบาป ท่านยังมิได้ต้านทานจนถึงกับต้องหลั่งเลือดเลย" มรณสักขีของเราทําตามตัวอย่างของพระเยซูเจ้าด้วยความหวังในชีวิตนิรันดร ที่สามารถมองข้ามการถูกทําร้าย ความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานและการตาย
พระเยซูเจ้าทรงบอกว่า "เรานำความแตกแยกมาต่างหาก 52 ตั้งแต่นี้ไป คนห้าคนในบ้านหนึ่งจะแตกแยกกัน คนสามคนจะแตกแยกกับคนสองคน และคนสองคนจะแตกแยกกับคนสามคน 53 บิดาจะแตกแยกกับบุตรชาย และบุตรชายจะแตกแยกกับบิดา มารดาจะแตกแยกกับบุตรหญิง และบุตรหญิงจะแตกแยกกับมารดา มารดาของสามีจะแตกแยกกับบุตรสะใภ้ และบุตรสะใภ้จะแตกแยกกับมารดาของสามี” ความจริงของพระองค์ทําความแตกแยกจริง
*พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกมีปีพิธีกรรม สามปี แต่ละปีจะเน้นพระวรสารของนักบุญประจําปีนั้น นักบุญมัทธิว (ปีเอ/ A) นักบุญมาระโก ปีบี/ B)
นักบุญลูกา ( ปีซี/C) พระวรสารโดยนักบุญยอห์นจะใช้ในวันสมโภช วันฉลอง เทศกาลคริสต์มาส เทศกาลมหาพรต เป็นต้น) ปีนี้ปีซี นักบุญลูกา ครับ
ที่ทันสมัยและสะดวกสบายในการสื่อสารระหว่างวัดกับลูกวัดก็คือ จอสีขาวหลังพระแท่นขึ้นลง ที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ คุณพ่อเจ้าวัดทําวีดีโอ ( มิสซาวันอาทิตย์มี 4 ครั้ง) ต้อนรับทุกคน บอกความเป็นไปของวัด สรุปบทอ่านและบทเทศน์ของมิสซา แล้วทุกคนก็ยืนสวดบทภาวนาพร้อมกันที่อยู่บนจอ สวดเสร็จ จอเลื่อนตัวเก็บ ไม่เป็นที่สดุดตา
บทอ่านที่หนึ่ง: เยเรมีย์ 4-6, 8-10
4 บรรดาเจ้านายจึงทูลกษัตริย์ว่า “ขอพระองค์ประหารชีวิตชายคนนี้ เพราะเขาทำให้ทหารซึ่งเหลืออยู่ในเมืองหมดกำลังใจ และทำให้ประชาชนที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้หมดกำลังใจด้วย ชายคนนี้ไม่ได้แสวงหาความอยู่อย่างเป็นสุขของประชาชน แต่แสวงหาหายนะ” 5 กษัตริย์เศเดคียาห์ตรัสตอบว่า “เขาอยู่ในมือของท่านทั้งหลายแล้ว กษัตริย์ไม่อาจทำสิ่งใดขัดแย้งกับท่านได้” 6 เขาจึงจับเยเรมีย์หย่อนลงไปในบ่อเก็บน้ำของมัลคียาห์พระโอรส ซึ่งอยู่ในลานกองทหารองครักษ์ เขาใช้เชือกมัดหย่อนเยเรมีย์ลงไป ในบ่อขังน้ำนั้นไม่มีน้ำ มีแต่โคลน เยเรมีย์จึงจมลงไปในโคลน 8 เอเบด-เมเลคจึงออกจากพระราชวังไปทูลกษัตริย์ว่า 9 “ข้าแต่พระราชาของข้าพเจ้า คนเหล่านี้ทำสิ่งเลวร้ายกับประกาศกเยเรมีย์ โดยหย่อนเขาลงไปในบ่อเก็บน้ำ ประกาศกคงจะต้องตายที่นั่นเพราะขาดอาหาร เพราะไม่มีขนมปังเหลืออยู่ในเมืองอีกแล้ว” 10 กษัตริย์จึงทรงสั่งเอเบด-เมเลคชาวเอธิโอเปียว่า “จงนำคนจากที่นี่สามสิบคนไปกับท่าน แล้วฉุดประกาศกเยเรมีย์ขึ้นมาจากบ่อเก็บน้ำก่อนที่เขาจะตาย”
บทอ่านที่สอง: ฮีบรู 12:1-4
1 พวกเรา ก็เช่นเดียวกัน เมื่อมีพยานจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ เราจงละทิ้งทุกสิ่งที่ถ่วงอยู่และบาปที่เกาะแน่น เราจงมีมานะวิ่งต่อไปในการแข่งขันซึ่งกำหนดไว้สำหรับเรา 2 จงเพ่งมองไปยังพระเยซูเจ้าผู้ทรงบุกเบิกความเชื่อและทรงทำให้ความเชื่อนั้นสมบูรณ์ พระองค์ทรงยอมสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ไม่ทรงถือว่าเป็นความตายที่น่าอับอาย เพราะทรงคำนึงถึงความยินดีที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ บัดนี้พระองค์ประทับ ณ เบื้องขวาแห่งพระที่นั่งของพระเจ้าแล้ว 3 ท่านทั้งหลายจงคิดถึงพระองค์ที่ทรงอดทนต่อการคัดค้านเช่นนี้ของคนบาปa ท่านจะได้ไม่ท้อถอยหมดกำลังใจ 4 ในการต่อสู้กับบาป ท่านยังมิได้ต้านทานจนถึงกับต้องหลั่งเลือดเลย
*พระวรสาร โดยนักบุญลูกา: 12: 49-63
49 “เรามาเพื่อจุดไฟในโลก เราปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้โลกนี้ลุกเป็นไฟ 50 เรามีการล้างที่จะต้องรับ และเราเป็นทุกข์กังวลใจอย่างมากจนกว่าการล้างนี้จะสำเร็จ” 51 “ท่านคิดว่าเรามาเพื่อนำสันติภาพมาสู่โลกหรือ มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่า เรานำความแตกแยกมาต่างหาก 52 ตั้งแต่นี้ไป คนห้าคนในบ้านหนึ่งจะแตกแยกกัน คนสามคนจะแตกแยกกับคนสองคน และคนสองคนจะแตกแยกกับคนสามคน 53 บิดาจะแตกแยกกับบุตรชาย และบุตรชายจะแตกแยกกับบิดา มารดาจะแตกแยกกับบุตรหญิง และบุตรหญิงจะแตกแยกกับมารดา มารดาของสามีจะแตกแยกกับบุตรสะใภ้ และบุตรสะใภ้จะแตกแยกกับมารดาของสามี”
บทเทศน์เด็ดของคุณพ่อรอย คาราชาลี คูเรียน ( Father Roy Kalachalil Kurian) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ( คุณพ่อ มาร์ค เฮาอีส/ Father Marc Howes
คุณพ่อ: จงแบกกางเขนของเรา
ลูกวัด: _______
คุณพ่อ: ตอบว่า" เรายินดีแบกกางเขนของเรา"
ลูกวัด ( เสียงสนั่นลั่นวัด): เรายินดีแบกกางเขนของเรา!
คุณพ่อ: กางเขนของเราคือบอกความจริงที่พระเยซูเจ้าทรงบอกเรา ภายใต้การนํา ประทานความสว่างของพระจิตเจ้า ให้เราจําพระวาจา คําสอนของ
พระเยซูเจ้า แล้วทําตามพระองค์ มีกี่ครั้งในชีวิตของเราที่เราบอกความจริงแล้วถูกลงโทษ ต่อต้าน หวั่นไหวไม่กล้าบอกความจริงอีก ปกาศกเยเรมีย์บอกความจริงแล้วถูกทําร้าย ถูกจับหย่อนตัวในบ่อนํ้าแห้งเป็นโคลน นักบุญเปาโลบอกว่า "ในการต่อสู้กับบาป ท่านยังมิได้ต้านทานจนถึงกับต้องหลั่งเลือดเลย" มรณสักขีของเราทําตามตัวอย่างของพระเยซูเจ้าด้วยความหวังในชีวิตนิรันดร ที่สามารถมองข้ามการถูกทําร้าย ความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานและการตาย
พระเยซูเจ้าทรงบอกว่า "เรานำความแตกแยกมาต่างหาก 52 ตั้งแต่นี้ไป คนห้าคนในบ้านหนึ่งจะแตกแยกกัน คนสามคนจะแตกแยกกับคนสองคน และคนสองคนจะแตกแยกกับคนสามคน 53 บิดาจะแตกแยกกับบุตรชาย และบุตรชายจะแตกแยกกับบิดา มารดาจะแตกแยกกับบุตรหญิง และบุตรหญิงจะแตกแยกกับมารดา มารดาของสามีจะแตกแยกกับบุตรสะใภ้ และบุตรสะใภ้จะแตกแยกกับมารดาของสามี” ความจริงของพระองค์ทําความแตกแยกจริง
*พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกมีปีพิธีกรรม สามปี แต่ละปีจะเน้นพระวรสารของนักบุญประจําปีนั้น นักบุญมัทธิว (ปีเอ/ A) นักบุญมาระโก ปีบี/ B)
นักบุญลูกา ( ปีซี/C) พระวรสารโดยนักบุญยอห์นจะใช้ในวันสมโภช วันฉลอง เทศกาลคริสต์มาส เทศกาลมหาพรต เป็นต้น) ปีนี้ปีซี นักบุญลูกา ครับ
บทเทศน์เด็ด วันอาทิตย์ที่ 22 ในเทศกาลธรรมดา วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2022
บทอ่านที่หนึ่ง บุตรสิรา 3:17-18, 20, 28-29
ลูกเอ๋ย ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด จงทำด้วยความถ่อมตนเถิด แล้วท่านจะเป็นที่รักมากกว่าคนให้ของกำนัล ท่านยิ่งเป็นใหญ่มากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งต้องถ่อมตนลงมากเท่านั้น แล้วพระเจ้าจะโปรดปรานท่าน
อย่าแสวงหาความรู้ที่ยากเกินไปสำหรับท่าน อย่าค้นคว้าสิ่งที่เกินกำลังของท่าน จิตใจของคนฉลาดย่อมไตร่ตรองเรื่องอุปมา ผู้มีปัญญาย่อมใฝ่หาคนที่ตั้งใจฟัง น้ำย่อมดับไฟฉันใด การให้ทานย่อมชดเชยบาปฉันนั้น
บทอ่านที่สอง ฮีบรู 12:18-19, 22-24A
ท่านทั้งหลายมิได้เข้าใกล้สิ่งที่ประสาทสัมผัสได้หรือสิ่งที่มีเปลวไฟลุกโชติช่วง หรือสิ่งที่มีความมืดมัวและมืดมิดหรือพายุ หรือเสียงแตรหรือพระสุรเสียง ซึ่งทำให้ทุกคนที่ได้ยินพากันร้องขอให้ยุติ
แต่ท่านเข้ามาถึง ภูเขาศิโยนและนครแห่งพระเจ้าผู้ทรงชีวิต คือ นครเยรูซาเล็มในสวรรค์ ซึ่งมีทูตสวรรค์เหลือคณานับ ท่านเข้ามาถึงที่ชุมนุมฉลองชัยและมาถึงชุมนุมของบุตรคนแรกที่ได้รับการลงชื่อไว้ในสวรรค์แล้ว มาถึงองค์พระเจ้า พระตุลาการของมนุษย์ทุกคน ร่วมกับบรรดาจิตของผู้ชอบธรรมที่บรรลุถึงความสมบูรณ์แล้ว และยังเข้ามาถึงองค์พระเยซูเจ้าผู้เป็นคนกลางแห่ง
พันธสัญญาใหม่ และมาถึงพระโลหิตที่ประพรมซึ่งกล่าวถึงสิ่งที่ดียิ่งกว่าโลหิตของอาแบล
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 14:1, 7-14
วันสับบาโตวันหนึ่ง พระเยซูเจ้าเสด็จไปเสวยพระกระยาหารที่บ้านของหัวหน้าชาวฟาริสีผู้หนึ่ง ผู้ที่อยู่ที่นั่นต่างจ้องมองพระองค์ พระเยซูเจ้าทรงสังเกตเห็นผู้รับเชิญต่างเลือกที่นั่งที่มีเกียรติ จึงตรัสเป็นอุปมากับเขาว่า “เมื่อมีใครเชิญท่านไปในงานมงคลสมรส อย่าไปนั่งในที่ที่มีเกียรติ เพราะถ้ามีคนสำคัญกว่าท่านได้รับเชิญมาด้วย เจ้าภาพที่เชิญท่านและเชิญเขาจะมาบอกท่านว่า “จงให้ที่นั่งแก่ผู้นี้เถิด” แล้วท่านจะต้องอับอายไปนั่งที่สุดท้าย แต่เมื่อท่านได้รับเชิญ จงไปนั่งในที่สุดท้ายเถิด เพื่อเจ้าภาพที่เชิญท่านจะมาบอกท่านว่า “เพื่อนเอ๋ย จงไปนั่งในที่ที่ดีกว่านี้เถิด” แล้วท่านจะได้รับเกียรติต่อหน้าผู้ร่วมโต๊ะทั้งหลาย เพราะทุกคนที่ยกตนขึ้น จะถูกกดให้ต่ำลง แต่ทุกคนที่ถ่อมตนลงจะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น” พระองค์ตรัสกับผู้ที่เชิญพระองค์ว่า “เมื่อท่านจัดเลี้ยงอาหารกลางวันหรืออาหารค่ำ อย่าเชิญมิตรสหาย พี่น้องหรือเพื่อนบ้านที่มั่งมี เพราะเขาจะเชิญท่านและท่านจะได้รับการตอบแทน แต่เมื่อท่านจัดงานเลี้ยง จงเชิญคนยากจน คนพิการ คนง่อย คนตาบอด แล้วท่านจะเป็นสุข เพราะคนเหล่านั้นไม่มีสิ่งใดตอบแทนท่านได้ ท่านจะได้รับการตอบแทนจากพระเจ้าเมื่อผู้ชอบธรรมกลับคืนชีวิต”
บทเทศเด็ดของสังฆานุกรเรย์ รอนคิวโล ( Deacon Ray Ronquillo)
ผมดูยูทูป (YouTube) ที่อาจจะจริงและไม่จริงแต่มีคนดูหลายคน เรื่องราวมีว่า: มีคุณพ่อเจ้าวัดองค์ใหม่มารับตําแหน่งที่วัดแห่งหนึ่งในวันอาทิตย์ ท่านต้องการเปิดตัวในมิสซาวันอาทิตย์ ท่านแต่งตัวธรรมดาไม่หรูหรา หรือในชุดคุณพ่อ สัตบุรุษชายหญิงเริ่มทะยอยตัวเข้าวัดก่อนมิสซา ท่านแทรกตัวเข้ากลุ่มแล้วเอ่ยปากทักทายสวัสดี ไม่มีใครตอบรับเพราะหน้าใหม่ไม่รู้จัก ท่านขอเงินซื้ออาหาร บอกว่าหิวมาก ไม่มีใครให้ รีบเร่งเข้าวัด พอท่านเดินเข้าวัดจะนั่งหน้าที่คุกเข่าแถวแรกติดพระแท่น หลายคนในวัดทักท้วง ไม่ให้นั่ง ท่านก้มหัวเดินออกจากวัด แล้วลูกวัดก็ตกตะลึงพรึงเพริด เมื่อเห็นท่านในชุดพระสงฆ์ทํามิสซาเดินตามขบวน นําโดยผู้ถือไม้กางเขน ผู้อ่านบทอ่าน ผู้ช่วยมิสซา ท่านกล่าวสวัสดีทุกคน แล้วเริ่มขั้นตอนของมิสซา เป็นลําดับ จนถึงบทพระวรสารที่ท่านอ่านด้วยสุ้มเสียงปกติธรรมดา อ่านจบท่านก็นํากล่าวบทข้าพเจ้าเชื่อ ไม่มีการเทศน์....
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่านที่หนึ่ง บุตรสิรา 3:17-18, 20, 28-29
ลูกเอ๋ย ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด จงทำด้วยความถ่อมตนเถิด แล้วท่านจะเป็นที่รักมากกว่าคนให้ของกำนัล ท่านยิ่งเป็นใหญ่มากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งต้องถ่อมตนลงมากเท่านั้น แล้วพระเจ้าจะโปรดปรานท่าน
อย่าแสวงหาความรู้ที่ยากเกินไปสำหรับท่าน อย่าค้นคว้าสิ่งที่เกินกำลังของท่าน จิตใจของคนฉลาดย่อมไตร่ตรองเรื่องอุปมา ผู้มีปัญญาย่อมใฝ่หาคนที่ตั้งใจฟัง น้ำย่อมดับไฟฉันใด การให้ทานย่อมชดเชยบาปฉันนั้น
บทอ่านที่สอง ฮีบรู 12:18-19, 22-24A
ท่านทั้งหลายมิได้เข้าใกล้สิ่งที่ประสาทสัมผัสได้หรือสิ่งที่มีเปลวไฟลุกโชติช่วง หรือสิ่งที่มีความมืดมัวและมืดมิดหรือพายุ หรือเสียงแตรหรือพระสุรเสียง ซึ่งทำให้ทุกคนที่ได้ยินพากันร้องขอให้ยุติ
แต่ท่านเข้ามาถึง ภูเขาศิโยนและนครแห่งพระเจ้าผู้ทรงชีวิต คือ นครเยรูซาเล็มในสวรรค์ ซึ่งมีทูตสวรรค์เหลือคณานับ ท่านเข้ามาถึงที่ชุมนุมฉลองชัยและมาถึงชุมนุมของบุตรคนแรกที่ได้รับการลงชื่อไว้ในสวรรค์แล้ว มาถึงองค์พระเจ้า พระตุลาการของมนุษย์ทุกคน ร่วมกับบรรดาจิตของผู้ชอบธรรมที่บรรลุถึงความสมบูรณ์แล้ว และยังเข้ามาถึงองค์พระเยซูเจ้าผู้เป็นคนกลางแห่ง
พันธสัญญาใหม่ และมาถึงพระโลหิตที่ประพรมซึ่งกล่าวถึงสิ่งที่ดียิ่งกว่าโลหิตของอาแบล
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 14:1, 7-14
วันสับบาโตวันหนึ่ง พระเยซูเจ้าเสด็จไปเสวยพระกระยาหารที่บ้านของหัวหน้าชาวฟาริสีผู้หนึ่ง ผู้ที่อยู่ที่นั่นต่างจ้องมองพระองค์ พระเยซูเจ้าทรงสังเกตเห็นผู้รับเชิญต่างเลือกที่นั่งที่มีเกียรติ จึงตรัสเป็นอุปมากับเขาว่า “เมื่อมีใครเชิญท่านไปในงานมงคลสมรส อย่าไปนั่งในที่ที่มีเกียรติ เพราะถ้ามีคนสำคัญกว่าท่านได้รับเชิญมาด้วย เจ้าภาพที่เชิญท่านและเชิญเขาจะมาบอกท่านว่า “จงให้ที่นั่งแก่ผู้นี้เถิด” แล้วท่านจะต้องอับอายไปนั่งที่สุดท้าย แต่เมื่อท่านได้รับเชิญ จงไปนั่งในที่สุดท้ายเถิด เพื่อเจ้าภาพที่เชิญท่านจะมาบอกท่านว่า “เพื่อนเอ๋ย จงไปนั่งในที่ที่ดีกว่านี้เถิด” แล้วท่านจะได้รับเกียรติต่อหน้าผู้ร่วมโต๊ะทั้งหลาย เพราะทุกคนที่ยกตนขึ้น จะถูกกดให้ต่ำลง แต่ทุกคนที่ถ่อมตนลงจะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น” พระองค์ตรัสกับผู้ที่เชิญพระองค์ว่า “เมื่อท่านจัดเลี้ยงอาหารกลางวันหรืออาหารค่ำ อย่าเชิญมิตรสหาย พี่น้องหรือเพื่อนบ้านที่มั่งมี เพราะเขาจะเชิญท่านและท่านจะได้รับการตอบแทน แต่เมื่อท่านจัดงานเลี้ยง จงเชิญคนยากจน คนพิการ คนง่อย คนตาบอด แล้วท่านจะเป็นสุข เพราะคนเหล่านั้นไม่มีสิ่งใดตอบแทนท่านได้ ท่านจะได้รับการตอบแทนจากพระเจ้าเมื่อผู้ชอบธรรมกลับคืนชีวิต”
บทเทศเด็ดของสังฆานุกรเรย์ รอนคิวโล ( Deacon Ray Ronquillo)
ผมดูยูทูป (YouTube) ที่อาจจะจริงและไม่จริงแต่มีคนดูหลายคน เรื่องราวมีว่า: มีคุณพ่อเจ้าวัดองค์ใหม่มารับตําแหน่งที่วัดแห่งหนึ่งในวันอาทิตย์ ท่านต้องการเปิดตัวในมิสซาวันอาทิตย์ ท่านแต่งตัวธรรมดาไม่หรูหรา หรือในชุดคุณพ่อ สัตบุรุษชายหญิงเริ่มทะยอยตัวเข้าวัดก่อนมิสซา ท่านแทรกตัวเข้ากลุ่มแล้วเอ่ยปากทักทายสวัสดี ไม่มีใครตอบรับเพราะหน้าใหม่ไม่รู้จัก ท่านขอเงินซื้ออาหาร บอกว่าหิวมาก ไม่มีใครให้ รีบเร่งเข้าวัด พอท่านเดินเข้าวัดจะนั่งหน้าที่คุกเข่าแถวแรกติดพระแท่น หลายคนในวัดทักท้วง ไม่ให้นั่ง ท่านก้มหัวเดินออกจากวัด แล้วลูกวัดก็ตกตะลึงพรึงเพริด เมื่อเห็นท่านในชุดพระสงฆ์ทํามิสซาเดินตามขบวน นําโดยผู้ถือไม้กางเขน ผู้อ่านบทอ่าน ผู้ช่วยมิสซา ท่านกล่าวสวัสดีทุกคน แล้วเริ่มขั้นตอนของมิสซา เป็นลําดับ จนถึงบทพระวรสารที่ท่านอ่านด้วยสุ้มเสียงปกติธรรมดา อ่านจบท่านก็นํากล่าวบทข้าพเจ้าเชื่อ ไม่มีการเทศน์....
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ที่ 23 ในเทศกาลธรรมดา วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน 2022
บทอ่านที่หนึ่ง: ปรีชาญาณ 9:13-18 (การปรึกษาของพระเป็นเจ้า ความรู้ (วิทยาศาสตร์) ของมนุษย์เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถไต่ไปถึงจุดสูงที่ความเชื่อทําได้)
มนุษย์ใดเล่าจะรู้จักพระประสงค์ของพระเจ้าได้ ผู้ใดจะเข้าใจได้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์สิ่งใด มนุษย์ผู้รู้ตายใช้เหตุผลอย่างไม่มั่นใจ ความคิดของเราก็ไม่แน่นอน เพราะร่างกายที่เสื่อมสลายได้นี้ถ่วงวิญญาณ และร่างกายซึ่งเป็นเสมือนที่พำนักทำด้วยดินของวิญญาณ ก็ถ่วงจิตใจที่มีความคิดหนักอยู่แล้ว การจะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ของโลกนี้ยากมาก การจะพบสิ่งที่อยู่แค่เอื้อมก็ยากนักหนา แล้วผู้ใดเล่าจะค้นพบสิ่งที่อยู่ในสวรรค์ได้ ผู้ใดเล่าจะล่วงรู้พระประสงค์ของพระองค์ได้ ถ้าพระองค์ไม่ประทานพระปรีชาญาณให้เขา ถ้าพระองค์ไม่ทรงส่งพระจิตศักดิ์สิทธิ์ลงมาจากเบื้องบน วิถีทางของชาวโลกถูกดัดให้ตรงเช่นนี้
บทอ่านที่สอง: จดหมายของนักบุญเปาโล ฟีเลโมน (พี่น้องในพระเยซูคริสตเจ้า นักบุญเปาโลทําการ
กลับใจให้ทาสที่หนีนาย และขอร้องนายให้อภัยทาสผู้นั้น)
ผู้ที่ขอร้องนี้คือข้าพเจ้า เปาโล ซึ่งเป็นคนชราและขณะนี้เป็นนักโทษเนื่องจากพระคริสตเยซูด้วย ข้าพเจ้าขอร้องท่านเพื่อบุตรคนหนึ่งของข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าได้ให้กำเนิดขณะที่ถูกจองจำคือโอเนสิมัส ข้าพเจ้ากำลังส่งเขากลับมาหาท่าน นั่นคือข้าพเจ้าส่งดวงใจของข้าพเจ้าไปด้วย อันที่จริงแล้ว ข้าพเจ้าต้องการให้เขาอยู่กับข้าพเจ้าที่นี่ เขาจะได้รับใช้ข้าพเจ้าแทนท่านขณะที่ข้าพเจ้าถูกจองจำเพราะข่าวดี แต่ข้าพเจ้าไม่ต้องการทำสิ่งใดโดยท่านไม่เห็นชอบ เพื่อมิให้ท่านทำความดีเพราะถูกบังคับ แต่ทำด้วยความสมัครใจ ข้าพเจ้าคิดว่า เขาถูกพรากไปจากท่านระยะหนึ่ง เพื่อจะกลับไปอยู่กับท่านตลอดไป มิใช่ในฐานะทาส แต่ในฐานะที่ดีกว่ามาก คือเป็นน้องชายที่รัก ถ้าเขาเป็นที่รักอย่างยิ่งของข้าพเจ้า เขาจะต้องเป็นที่รักของท่านมากกว่าสักเท่าใดเล่า ทั้งในฐานะที่เป็นเพื่อนมนุษย์และในฐานะที่เป็นพี่น้องในองค์พระผู้เป็นเจ้า ถ้าท่านยังยอมรับว่าข้าพเจ้าเป็นมิตรกับท่าน ก็จงต้อนรับเขาเช่นเดียวกับที่ท่านจะต้อนรับข้าพเจ้า
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 14:25-33
ประชาชนจำนวนมากกำลังเดินไปกับพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงหันพระพักตร์มาตรัสกับเขาทั้งหลายว่าถ้าผู้ใดติดตามเราโดยไม่รักเรามากกว่าบิดามารดา ภรรยา บุตร พี่น้องชายหญิง และแม้กระทั่งชีวิตของตนเอง ผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้ ผู้ใดไม่แบกกางเขนของตนและติดตามเรา ผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้ ท่านที่ต้องการสร้างหอคอย จะไม่คำนวณค่าใช้จ่ายก่อนหรือว่ามีเงินพอสร้างให้เสร็จหรือไม่ มิฉะนั้นเมื่อวางรากฐานไปแล้ว แต่สร้างไม่สำเร็จ ทุกคนที่เห็นจะหัวเราะเยาะเขา พูดว่า “คนนี้เริ่มก่อสร้าง แต่ทำให้สำเร็จไม่ได้” หรือกษัตริย์ที่ทรงยกทัพไปทำสงครามกับกษัตริย์อีกองค์หนึ่ง จะไม่ทรงคำนวณก่อนหรือว่า ถ้าใช้กำลังพลหนึ่งหมื่นคน จะเผชิญกับศัตรูที่มีกำลังพลสองหมื่นคนได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งยังอยู่ห่างไกล พระองค์จะได้ทรงส่งทูตไปเจรจาขอสันติภาพ ดังนั้น ทุกท่านที่ไม่ยอมสละทุกสิ่งที่ตนมีอยู่ก็เป็นศิษย์ของเราไม่ได้”
คุณพ่อเคลเม้นท์: พระเยซูเจ้าต้องการให้พวกเรารู้จักการจัดอันดับความสำคัญ และความสําคัญอันดับหนึ่งก็คือพระองค์ เราต้องรักพระองค์มากกว่าทุกคน!
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
บทอ่านที่หนึ่ง: ปรีชาญาณ 9:13-18 (การปรึกษาของพระเป็นเจ้า ความรู้ (วิทยาศาสตร์) ของมนุษย์เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถไต่ไปถึงจุดสูงที่ความเชื่อทําได้)
มนุษย์ใดเล่าจะรู้จักพระประสงค์ของพระเจ้าได้ ผู้ใดจะเข้าใจได้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์สิ่งใด มนุษย์ผู้รู้ตายใช้เหตุผลอย่างไม่มั่นใจ ความคิดของเราก็ไม่แน่นอน เพราะร่างกายที่เสื่อมสลายได้นี้ถ่วงวิญญาณ และร่างกายซึ่งเป็นเสมือนที่พำนักทำด้วยดินของวิญญาณ ก็ถ่วงจิตใจที่มีความคิดหนักอยู่แล้ว การจะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ของโลกนี้ยากมาก การจะพบสิ่งที่อยู่แค่เอื้อมก็ยากนักหนา แล้วผู้ใดเล่าจะค้นพบสิ่งที่อยู่ในสวรรค์ได้ ผู้ใดเล่าจะล่วงรู้พระประสงค์ของพระองค์ได้ ถ้าพระองค์ไม่ประทานพระปรีชาญาณให้เขา ถ้าพระองค์ไม่ทรงส่งพระจิตศักดิ์สิทธิ์ลงมาจากเบื้องบน วิถีทางของชาวโลกถูกดัดให้ตรงเช่นนี้
บทอ่านที่สอง: จดหมายของนักบุญเปาโล ฟีเลโมน (พี่น้องในพระเยซูคริสตเจ้า นักบุญเปาโลทําการ
กลับใจให้ทาสที่หนีนาย และขอร้องนายให้อภัยทาสผู้นั้น)
ผู้ที่ขอร้องนี้คือข้าพเจ้า เปาโล ซึ่งเป็นคนชราและขณะนี้เป็นนักโทษเนื่องจากพระคริสตเยซูด้วย ข้าพเจ้าขอร้องท่านเพื่อบุตรคนหนึ่งของข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าได้ให้กำเนิดขณะที่ถูกจองจำคือโอเนสิมัส ข้าพเจ้ากำลังส่งเขากลับมาหาท่าน นั่นคือข้าพเจ้าส่งดวงใจของข้าพเจ้าไปด้วย อันที่จริงแล้ว ข้าพเจ้าต้องการให้เขาอยู่กับข้าพเจ้าที่นี่ เขาจะได้รับใช้ข้าพเจ้าแทนท่านขณะที่ข้าพเจ้าถูกจองจำเพราะข่าวดี แต่ข้าพเจ้าไม่ต้องการทำสิ่งใดโดยท่านไม่เห็นชอบ เพื่อมิให้ท่านทำความดีเพราะถูกบังคับ แต่ทำด้วยความสมัครใจ ข้าพเจ้าคิดว่า เขาถูกพรากไปจากท่านระยะหนึ่ง เพื่อจะกลับไปอยู่กับท่านตลอดไป มิใช่ในฐานะทาส แต่ในฐานะที่ดีกว่ามาก คือเป็นน้องชายที่รัก ถ้าเขาเป็นที่รักอย่างยิ่งของข้าพเจ้า เขาจะต้องเป็นที่รักของท่านมากกว่าสักเท่าใดเล่า ทั้งในฐานะที่เป็นเพื่อนมนุษย์และในฐานะที่เป็นพี่น้องในองค์พระผู้เป็นเจ้า ถ้าท่านยังยอมรับว่าข้าพเจ้าเป็นมิตรกับท่าน ก็จงต้อนรับเขาเช่นเดียวกับที่ท่านจะต้อนรับข้าพเจ้า
พระวรสาร โดยนักบุญลูกา 14:25-33
ประชาชนจำนวนมากกำลังเดินไปกับพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงหันพระพักตร์มาตรัสกับเขาทั้งหลายว่าถ้าผู้ใดติดตามเราโดยไม่รักเรามากกว่าบิดามารดา ภรรยา บุตร พี่น้องชายหญิง และแม้กระทั่งชีวิตของตนเอง ผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้ ผู้ใดไม่แบกกางเขนของตนและติดตามเรา ผู้นั้นเป็นศิษย์ของเราไม่ได้ ท่านที่ต้องการสร้างหอคอย จะไม่คำนวณค่าใช้จ่ายก่อนหรือว่ามีเงินพอสร้างให้เสร็จหรือไม่ มิฉะนั้นเมื่อวางรากฐานไปแล้ว แต่สร้างไม่สำเร็จ ทุกคนที่เห็นจะหัวเราะเยาะเขา พูดว่า “คนนี้เริ่มก่อสร้าง แต่ทำให้สำเร็จไม่ได้” หรือกษัตริย์ที่ทรงยกทัพไปทำสงครามกับกษัตริย์อีกองค์หนึ่ง จะไม่ทรงคำนวณก่อนหรือว่า ถ้าใช้กำลังพลหนึ่งหมื่นคน จะเผชิญกับศัตรูที่มีกำลังพลสองหมื่นคนได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งยังอยู่ห่างไกล พระองค์จะได้ทรงส่งทูตไปเจรจาขอสันติภาพ ดังนั้น ทุกท่านที่ไม่ยอมสละทุกสิ่งที่ตนมีอยู่ก็เป็นศิษย์ของเราไม่ได้”
คุณพ่อเคลเม้นท์: พระเยซูเจ้าต้องการให้พวกเรารู้จักการจัดอันดับความสำคัญ และความสําคัญอันดับหนึ่งก็คือพระองค์ เราต้องรักพระองค์มากกว่าทุกคน!
คุณพ่อ: พระเป็นเจ้าดี
ลูกวัด: ตลอดเวลา
คุณพ่อ: ตลอดเวลา
ลูกวัด: พระเป็นเจ้าดี
(อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)