มาเข้าใจความหมายของ "ศีลศักดิ์สิทธิ์ 7 ประการ"

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Divine Mercy

จันทร์ ส.ค. 29, 2005 3:52 pm

ความเข้าใจเบื้องต้นเรื่อง "ศีลศักดิ์สิทธิ์"
โดย...บาทหลวงโรแบต์ กอสเต

คำว่า "ศีล" มีความหมายแตกต่างกันในคริสตศาสนาและพุทธศาสนา ในพุทธศาสนา "ศีล" คือข้อบัญญัติที่กำหนดในทางปฏิบัติทางกาย วาจา ในคริสตศาสนา "ศีล" คือข้อปฏิบัติทางศาสนา ที่มีลักษณะเป็นพิธีกรรม เป็นเครื่องหมายและเครื่องมือเพื่อความเจริญก้าวหน้าในชีวิตประชากรของพระคริสต์ คริสตศาสนามีศีล 7 ศีล ดังที่จะอธิบายต่อไปนี้

ความรักของบิดามารดาต่อบุตร มิตรภาพระหว่างเพื่อน ความเป็นห่วงเป็นใยต่อคนเจ็บป่วย จะมีอย่างไรถ้าไม่มีเครื่องหมายภายนอกเพื่อแสดงความรู้สึก เครื่องหมายที่สำคัญคือคำพูด และกิริยาท่าทางต่างๆ

พระศาสนจักรได้ใช้ทั้งถ้อยคำ และกิริยาบางอย่างเพื่อให้ความหมายแก่ชีวิตประชากรของพระเป็นเจ้า พระเป็นเจ้าได้ทรงสัมผัสมนุษย์ด้วยพระวาจาและกิจการที่พระองค์ได้ตรัสทางประกาศก ได้ทรงสัมผัสกับมนุษย์อย่างพิเศษทางพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระองค์ที่ได้ทรงรับเอากายเป็นมนุษย์ และทรงทำกิจการบางอย่าง เพื่อแสดงความรัก อวยพรหรืออภัยโทษบาปแก่มนุษย์ พระเยซูเองทรงเป็นเครื่องหมายและเครื่องมือ (ศีล) แสดงความรักของพระบิดาต่อเรามนุษย์

ปัจจุบันนี้ พระเยซูยังสถิตอยู่ท่ามกลางมนุษย์ ยังทรงให้อภัย อวยพระพร ทรงเลี้ยงและรักษามนุษย์โดยทางพระศาสนจักร เพราะฉะนั้น เราจึงพูดได้ว่า พระศาสนจักรเป็นเครื่องหมายและเครื่องมือของพระคริสตเจ้าที่ยังทรงทำพันธกิจของพระองค์ท่ามกลางมนุษย์ ศีลแต่ละศีลเป็นเครื่องหมายที่ประกอบด้วยคำและกิริยา เพื่อนำความรอดแก่ผู้รับศีล พระเยซูโปรดให้เราเกิดใหม่ในชีวิตด้วยศีลล้างบาป โปรดให้เราเป็นคริสตชนสมบูรณ์ขึ้นด้วยศีลกำลัง ทรงอภัยโทษให้เรามาคืนดีกับพระเป็นเจ้าด้วยศีลอภัยบาป ทรงรวมชายหญิงให้เป็นครอบครัวด้วยศีลสมรส ทรงรวมประชากรรอบพระแท่นบูชาและทรงมอบองค์เป็นอาหารเลี้ยงเราด้วยศีลมหาสนิท ทรงรักษาคนเจ็บป่วยด้วยศีลเจิมคนไข้ ทรงแต่งตั้งชุมพาบาลผู้ดูแลประชากรแทนพระองค์ด้วยศีลบวชหรืออนุกรม

พระเยซูทรงสัมผัสมนุษย์เองทางศีล ผลของการรับศีลจึงไม่ได้เกิดขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของผู้ประกอบพิธี แม้ว่าความเลื่อมใสศรัทธาของผู้ประกอบพิธีจะมีความสำคัญมาก ผู้ประกอบพิธีเจตนาเพียงแต่โปรดศีลตามความมุ่งหมายของพระศาสนจักร ศีลย่อมจะบังเกิดได้ ส่วนจะมีผลมากน้อยก็แล้วแต่ความศรัทธาและการเตรียมพร้อมของผู้ที่จะรับศีล พระวรสารเล่าว่าที่นาซาเร็ธพระเยซูไม่ได้ทรงทำอัศจรรย์อันเป็นเครื่องหมายของความรอด เพราะชาวบ้านไม่เชื่อถึงพระองค์



ศีลศักดิ์สิทธิ์ของคริสตชนคาทอลิก มี 7 ประการ คือ
โดย... บาทหลวง เปโตร ประชาชาติ ปรีชาวุฒิ

1. ศีลล้างบาป ( Baptism ) หรือศีลจุ่ม

เป็นเครื่องหมายภายนอกที่มาจากความเชื่อภายใน เพื่อเป็นการชำระหรือลบล้างบาปกำเนิด อาศัยการช่วยให้รอดขององค์พระเยซูคริสตเจ้า เครื่องหมายที่สำคัญ คือ น้ำ และการชำระล้างพร้อมกับคำกล่าวว่า "ข้าพเจ้าล้างท่าน ในพระนามของพระบิดา และพระบุตร และพระจิต"

ผลของศีลล้างบาป ทำให้เราได้รับพระหรรษทานได้กลับเป็นลูกของพระ มีเกียรติและศักดิ์ศรีสมบูรณ์แบบ เพื่อดำเนินชีวิตไปสู่เป้าหมายของความศักดิ์สิทธิ์ทั้งในชีวิตนี้และชีวิตนิรันดรในสวรรค์


2. ศีลกำลัง ( Confirmation ) หรือ การยืนยัน

การรับศีลกำลังจึงเป็นการยืนยัน เป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึง "การบรรลุนิติภาวะทางความเชื่อ" หรือความศรัทธา คือการพัฒนาเติบโต มีกำลัง เข้มแข็งในความเชื่อ สามารถเป็นพยานถึงความเชื่อ ทั้งด้วยความคิด คำพูด และการปฏิบัติ
เครื่องหมายสำคัญของศีลกำลัง คือ การปกมือ และการเจิมน้ำมัน คริสมาที่หน้าผาก

ผลของศีลกำลัง คือ การได้รับพระคุณของพระจิต 7 ประการ ได้แก่

2.1 พระดำริ หรือปรีชาญาน ให้เราได้สามารถเข้าใจถึงน้ำพระทัยของพระที่มีต่อเราอย่างผู้ที่ฉลาด
2.2 สติปัญญา ให้เราได้สามารถเข้าใจถึงความลึกลับ และความจริงของข้อคำสอน
2.3 ความคิดอ่าน ให้เรารู้จักแยกแยะ วิเคราะห์ ตัดสิน และปฏิบัติอย่างเหมาะสมถูกต้อง
2.4 พละกำลัง ให้เรามีพลังที่จะต่อสู้กับความยากลำบาก และการถูกประจญ
2.5 ความรู้ ให้เราสามารถมีความเข้าใจในคำสอน และข้อความเชื่อทั้งทางโลกและทางธรรม
2.6 ความศรัทธา ให้เรามีความรัก เลื่อมใสศรัทธา ผูกพัน และวางใจในพระเสมอ
2.7 ความยำเกรงพระเจ้า ให้เรามีความเคารพ ซื่อสัตย์ และรับผิดชอบต่อหน้าพระเสมอ
สำหรับผู้โปรดศีลกำลังนั้น โดยปกติจะเป็นพระสังฆราชประจำท้องถิ่น [MORE]
3. ศีลอภัยบาป ( Penance ) หรือ การคืนดี

เพราะว่าเรามนุษย์มีความอ่อนแอ และง่ายต่อการตกอยู่ในบาป ผิดพลาดไปได้ ทำให้สูญเสียชีวิตพระหรรษทาน และอยู่ในสภาพของบาป ดังนั้น ศีลอภัยบาป เป็นการคืนดีกับพระและเพื่อนพี่น้อง มีความเสียใจ และตั้งใจที่จะกลับคืนดี เริ่มต้นชีวิตใหม่ในพระหรรษทานของพระต่อไป

เครื่องหมายสำคัญ คือ การเป็นทุกข์เสียใจ และตั้งใจจะกลับคืนดีกับพระ และเพื่อนพี่น้อง เพื่อเป็นเครื่องหมายภายนอกที่เห็นได้ โดยการไปสารภาพบาปกับพระสงฆ์ผู้เป็นคนกลางของพระ และตัวแทนของพระศาสนจักร

ผลของศีลอภัยบาป คือ ทำให้ผู้รับได้กลับคืนดีกับพระ และอยู่ในชีวิตพระหรรษทาน สำนึกถึงความรักของพระ และตั้งใจที่จะปรับปรุงแก้ไข เริ่มต้นใหม่ให้สมกับความเป็นลูกของพระในความครบครัน เป็นอิสระจากบาป มีความบริสุทธิ์ และมีสันติในจิตใจ

4. ศีลมหาสนิท ( Eucharistic; Communion) หรือพิธีขอบพระคุณ

เป็นศูนย์กลางของชีวิตคริสตชน เป็นศีลที่สำคัญที่สุด เป็นองค์พระเยซูเจ้าเองที่ประทับอยู่ในศีลมหาสนิทที่เข้ามาสนิทสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวในความรักของพระองค์ เราทุกคนจึงเป็นหนึ่งเดียวกันในครอบครัว เป็นสมาชิกหรือส่วนต่างๆในพระกายทิพย์ของพระองค์

เครื่องหมายที่สำคัญ คือ แผ่นปังและเหล้าองุ่น ที่เป็นพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า เราได้รับจากพระสงฆ์ หรือผู้แทนของพระศาสนจักร ในบูชามิสซา หรือพิธีขอบพระคุณ

ผลของศีลมหาสนิท ทำให้เราได้รับพระหรรษทาน ดำรงอยู่ในชีวิตพระเสมอไป

5. ศีลสมรส ( Matrimony ) หรือศีลกล่าว

เป็นความรักที่ ชายและหญิงมีต่อกัน และพร้อมที่จะกล่าวประกาศว่าเขาทั้งสองรักกัน ด้วยความสมัครใจ มีอิสระอย่างเต็มที่ โดยไม่ได้ถูกบังคับ และพร้อมที่จะร่วมชีวิตคู่ เพื่อเป็นของกันและกัน เป็นหนึ่งเดียวในความรักที่หย่าร้างไม่ได้ ที่จะซื่อสัตย์ต่อกันจนตลอดชีวิต เพื่อเป็นเครื่องหมาย เป็นพยานถึงความรักของพระ และพร้อมที่จะมอบครอบครัวใหม่ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของพระ

เครื่องหมายสำคัญ คือ คำกล่าวของคู่บ่าวสาว ต่อหน้าพระสงฆ์ผู้แทนของพระศาสนจักร รวมทั้งบรรดาสักขีพยานว่าเขาทั้งสองรักกันและจะซื่อสัตย์ต่อกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่

ผลของศีลสมรส ทำให้คู่บ่าวสาวเป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้องต่อหน้าพระ และต่อพระศาสนจักร อยู่ในชีวิตพระหรรษทาน และเป็นครอบครัวคริสตชนใหม่ที่พร้อมจะให้กำเนิดบุตร อบรมเลี้ยงดูในชีวิตคริสตชน เป็นพยานประกาศความรักของพระในความสมบูรณ์ครบครันของชีวิตครอบครัวของเขาเพื่อช่วยกันและกันในความบกพร่อง หรือที่ขาดไปให้แก่กันและกัน ทั้งนี้คู่บ่าวสาวจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของพระศาสนจักรเพื่อความดีและความรอดของวิญญาน

6. ศีลบวช ( Holy Orders ) หรือการถวายตัว

ผู้ที่จะสมัครบวช หรือถวายตัวแด่พระ เป็นพระพรแห่งกระแสเรียกที่พระทรงเรียก และเลือกบุคคลหนึ่งให้ดำเนินชีวิต และมีภารกิจในการเป็นศาสนบริการ ผู้แทนสงฆ์ของพระคริสตเจ้า ในการประกาศสอนคำสอน การประกอบพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ และการปกครองดูแลหล่อเลี้ยงชีวิตคริสตชน

เครื่องหมายสำคัญ คือ การปกมือของพระสังฆราชเหนือผู้รับศีลบวช ตลอดจนการเจิมน้ำมันคริสมา เพื่อเป็นเครื่องหมายถึงการประทานองค์พระจิตเจ้า เป็นการอภิเษก และมอบอำนาจของการเป็นสงฆ์แห่งศาสนบริกร เพื่อต่องานขององค์พระคริสตเจ้า และการถูกส่งไปเพื่อรับใช้เป็นผู้ประกาศข่าวดีแห่งความรอด

ศีลบวช มีลำดับ 3 ขั้น คือ พระสังฆราช พระสงฆ์ และสังฆานุกร

7. ศีลเจิมคนไข้ ( Anointing of the Sick ) หรือสำหรับผู้ป่วย

มิใช่เป็นศีลทาสุดท้าย และจะต้องตาย แต่เป็นศีลที่โปรดให้สำหรับผู้ป่วยที่อ่อนกำลัง ในสภาพที่น่าเป็นห่วง หรือกำลังจะสิ้นใจ เพื่อเขาจะได้รับพระหรรษทานในยามเจ็บป่วย และเป็นการเตรียมจิตใจให้ยึดมั่นในความเชื่อ และเพื่อการฟื้นฟูสภาพทั้งกายและจิตใจ

เครื่องหมายสำคัญ คือ การเจิมน้ำมันที่หน้าผาก และฝ่ามือทั้งสองข้าง เพื่อให้ผู้รับจะได้อยู่ในชีวิตพระหรรษทาน และเข้มแข็งมั่นคงในความเชื่อ พร้อมที่จะยอมรับความเจ็บปวด และเห็นถึงพระพรในยามเจ็บป่วย มีส่วนร่วมในพระทรมาน และการกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า

ดังนั้น ควรจะให้ผู้ป่วยได้รับในขณะที่รู้ตัว เพื่อการเตรียมจิตใจได้อย่างดี ทั้งนี้ผู้รับก็จะสามารถรับศีลอภัยบาป และศีลมหาสนิท ซึ่งถือว่าเป็นศีลเสบียงที่ให้สำหรับผู้ป่วย เพื่อเป็นการเตรียมกลับไปหาพระเป็นเจ้าในสภาพของชีวิตพระหรรษทานในความพร้อมของผู้ป่วย
แก้ไขล่าสุดโดย Divine Mercy เมื่อ อังคาร ส.ค. 30, 2005 2:29 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
LL2

จันทร์ ส.ค. 29, 2005 4:51 pm

พิธีมหาสนิท เป็นเครื่องระลึกถึงพระผู้ทรงพระชนม์อยู่ อย่างหนึ่งที่ทรงประทานไว้
ตอบกลับโพส