ผมเห็นคริสเตียนเวลาอธิษฐาน จะพูดยาว ๆ น่ะครับ บางคนอธิษฐานยาวมาก ผมอยากทราบว่าจริง ๆ แล้ว เวลาอธิษฐาน เราควรอธิษฐานยาว ๆ ไหมครับ
ไม่เคยเห็นคาทอลิกภาวนาครับ ว่าเหมือนกับทางคริสเตียนหรือเปล่า
แต่เท่าที่เห็นคือ (ผมอาจจะผิดนะครับ)
คาทอลิกจะมีบทภาวนาที่แน่นอน เป็นแบบแผน
แต่คริสเตียนจะมีอธิษฐานตามแรงศรัทธา คือต้องการสรรเสริญพระเจ้าอย่างไร รักพระเจ้าอย่างไร จะอธิษฐานอย่างไรก็จะพูดออกมาเลยน่ะครับ
แบ่งปันความรู้สึกนะครับ คงดีด้วยกันทั้งครู่แหละ
การภาวนาอธิษฐาน
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
มันแล้วแต่เรื่องฮะ การอธิษฐานคือการคุยกับพระเจ้า คุยกับพระบุตร ขึ้นอยู่กับบุคคล เหมือนกับเราคุยกับพ่อแม่นั่นแหละ เด็กบางคนคุยตลอดเวลา บางคนนั่งเงียบ คุยเวลาจำเป็น บางคนแทบจะไม่มองหน้าพ่อแล้ว ถ้าจะคุยGracy เขียน:
ผมเห็นคริสเตียนเวลาอธิษฐาน จะพูดยาว ๆ น่ะครับ บางคนอธิษฐานยาวมาก ผมอยากทราบว่าจริง ๆ แล้ว เวลาอธิษฐาน เราควรอธิษฐานยาว ๆ ไหมครับ
ก็จะคุยอย่างเสียไม่ได้
ดังนั้นการตีความเรื่องการอธิษฐานภาวนา ขึ้นอยู่กับบุคคล แต่ตามที่ทราบพระเจ้าทรงพอพระทัยที่เราลูกๆของพระองค์คุยกับพระองค์ บ่อยๆ และทุกๆเรื่อง เพราะการคุยคือสัมพันธภาพ ระหว่างเรากับพระเจ้า
อย่างท่านเปาโล บอกว่า "จงอธิษฐานสม่ำเสมอ จงอธิษฐานตลอดเวลา" เจี๊ยบเลยคิดว่า/เชื่อว่า การภาวนาสั้นหรือยาว พระเจ้าทรงพอพระทัย และทรงพอพระทัยให้เราคุยกับพระองค์ หรืออยู่กับพระองค์ (แบบไตร่ตรอง แบบรำพึง ) นานๆ เพราะพระเจ้าทรงรักเรา เราอยากอยู่ใกล้คนที่เรารักมิใช่หรือ พระเจ้าก็เช่นเดียวกัน
แต่อย่าอธิษฐานแบบนกแก้วนกขุนทอง หรือ อธิษฐานแบบฟาริสี
คาทอลิคมีการอธิษฐานภาวนาทั้ง2แบบคือ
1 แบบแนะนำ คือการอธิษฐานภาวนาตามบทสวดที่ได้มีการแต่งไว้ให้ การอธิษฐานภาวนาแบบนี้ ใช้เมื่อ
-เวลามีพิธีที่ต้องทำร่วมกันกับคนจำนวนมาก และเมื่อต้องภาวนาออกเสียงพร้อมกัน
-สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะอธิษฐานภาวนาอย่างไร เช่นเด็กเล็กๆ หรือคนรับพิธีล้างบาปเข้ามาใหม่ๆ อย่างโปรฯเองกรณีแบบนี้ก็มีที่พี่เลี้ยงอธิษฐานนำแล้วให้พูดตาม
+++ข้อดี+++
-เมื่อเรารู้สึกอยากใช้เวลาอยู่กับพระเจ้า แต่ไม่รู้ว่าจะเข้าหาโดยวิธีไหน บางทีนึกคำอธิษฐานภาวนายาวๆได้สักพักก็หมดเรื่องพูดแล้ว การใช้บทสวดเหล่านี้จะช่วยได้มาก
-เมื่อภาวนาพร้อมกันเป็นหมู่คณะหลายคน จะสามารถร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ง่าย
-บทภาวนาที่แต่งไว้ จะเป็นบทภาวนาที่มีเนื้อหาครบครับ บางบทพระเยซูเจ้าแต่ง บางบทพระจิตเจ้าดลใจผู้แต่ง บางบท บรรดานักบุญ แต่งหรือบางครั้งได้รับนิมิตมา นั่นหมายความว่าบทภาวนาเหล่านี้มีคุณค่าสูงยิ่งโดยเฉพาะเมื่อภาวนาตามนั้นอย่างตั้งใจจริงๆ ก็ย่อมจะครบครัน ต่างกับการอธิษฐานสดที่บางครั้งเราไม่ใช่ว่าจะมีสมาธิหรือมีจิตใจร่วมเป้นหนึ่งเดียวกับพระเสมอไป การใช้บทที่ไพเราะและครบครันย่อมช่วยได้
2 การอธิษฐานภาวนาตามการดลใจและตามความต้องการส่วนตัว หรือเรียกง่ายๆว่าอธิษฐานสด
-ปรกติคาทอลิคทุกคนทำอยู่แล้ว มักทำหลังการสวดตามบทจบ
-ปรกติคาทอลิคใช้การอธิษฐานแบบนี้เมื่ออยู่ส่วนตัว เพราะปรกติแล้วเรามักมีเรื่องส่วนตัวอยากทูล จึงมักไม่ค่อยเห็นการอธิษฐานออกเสียงสดๆในที่สาธารณะ
-การอธิษฐานรูปแบบนี้คาทอลิคแบ่งเป็นระดับต่างๆอีกดังนี้
---1)การอธิษฐานด้วยปาก
---2)การอธิษฐานด้วยสติปัญญา ระดับนี้อาจจะออกเสียงหรือไม่ก็ได้ แต่สำคัญที่สมองต้องคิดตามและต้องมีสติคิดถึงถ้อยคำในการอธิษฐาน
---3)การอธิษฐานด้วยหัวใจ ในระดับนี้ อาจจะไม่เป็นคำพูดแล้ว เพราะเมื่อเราต้องการพรรณาความรักของพระเจ้าที่มีต่อเราหรือสรรเสริญพระองค์สุดจิตใจ หรือพรรณาความรักของเราต่อพระองค์ เราไม่สามารถสรรหาคำภาษามนุษย์มาได้หมดแน่ๆ ระดับนี้ ผู้อธิษฐานจะอธิษฐานด้วยความรัก มากกว่าด้วยคำพูด ด้วยถ้อยคำทางจิตที่ไม่อาจบรรยายเป็นภาษามนุษย์ได้แล้ว และยกจิตใจขึ้นหาพระเจ้าโดยไม่ต้องพึ่งคำพูดใดๆ
---4)การอธิษฐานในพระเจ้า ให้พระเจ้าเป็นผู้อธิษฐาน ส่วนเราเพียงยอมให้พระองค์ยกวิญญาณของเราเข้าร่วมในการอธิษฐาน ระดับนี้เป็นระดับสูงสุด มักเป็นระดับของการเห็นนิมิต หรือนักบุญผู้เพ่งฌาณ
สรุปคือ คาทอลิคมีวิธีอธิษฐานทั้ง2อย่างแหละครับ
1 แบบแนะนำ คือการอธิษฐานภาวนาตามบทสวดที่ได้มีการแต่งไว้ให้ การอธิษฐานภาวนาแบบนี้ ใช้เมื่อ
-เวลามีพิธีที่ต้องทำร่วมกันกับคนจำนวนมาก และเมื่อต้องภาวนาออกเสียงพร้อมกัน
-สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะอธิษฐานภาวนาอย่างไร เช่นเด็กเล็กๆ หรือคนรับพิธีล้างบาปเข้ามาใหม่ๆ อย่างโปรฯเองกรณีแบบนี้ก็มีที่พี่เลี้ยงอธิษฐานนำแล้วให้พูดตาม
+++ข้อดี+++
-เมื่อเรารู้สึกอยากใช้เวลาอยู่กับพระเจ้า แต่ไม่รู้ว่าจะเข้าหาโดยวิธีไหน บางทีนึกคำอธิษฐานภาวนายาวๆได้สักพักก็หมดเรื่องพูดแล้ว การใช้บทสวดเหล่านี้จะช่วยได้มาก
-เมื่อภาวนาพร้อมกันเป็นหมู่คณะหลายคน จะสามารถร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ง่าย
-บทภาวนาที่แต่งไว้ จะเป็นบทภาวนาที่มีเนื้อหาครบครับ บางบทพระเยซูเจ้าแต่ง บางบทพระจิตเจ้าดลใจผู้แต่ง บางบท บรรดานักบุญ แต่งหรือบางครั้งได้รับนิมิตมา นั่นหมายความว่าบทภาวนาเหล่านี้มีคุณค่าสูงยิ่งโดยเฉพาะเมื่อภาวนาตามนั้นอย่างตั้งใจจริงๆ ก็ย่อมจะครบครัน ต่างกับการอธิษฐานสดที่บางครั้งเราไม่ใช่ว่าจะมีสมาธิหรือมีจิตใจร่วมเป้นหนึ่งเดียวกับพระเสมอไป การใช้บทที่ไพเราะและครบครันย่อมช่วยได้
2 การอธิษฐานภาวนาตามการดลใจและตามความต้องการส่วนตัว หรือเรียกง่ายๆว่าอธิษฐานสด
-ปรกติคาทอลิคทุกคนทำอยู่แล้ว มักทำหลังการสวดตามบทจบ
-ปรกติคาทอลิคใช้การอธิษฐานแบบนี้เมื่ออยู่ส่วนตัว เพราะปรกติแล้วเรามักมีเรื่องส่วนตัวอยากทูล จึงมักไม่ค่อยเห็นการอธิษฐานออกเสียงสดๆในที่สาธารณะ
-การอธิษฐานรูปแบบนี้คาทอลิคแบ่งเป็นระดับต่างๆอีกดังนี้
---1)การอธิษฐานด้วยปาก
---2)การอธิษฐานด้วยสติปัญญา ระดับนี้อาจจะออกเสียงหรือไม่ก็ได้ แต่สำคัญที่สมองต้องคิดตามและต้องมีสติคิดถึงถ้อยคำในการอธิษฐาน
---3)การอธิษฐานด้วยหัวใจ ในระดับนี้ อาจจะไม่เป็นคำพูดแล้ว เพราะเมื่อเราต้องการพรรณาความรักของพระเจ้าที่มีต่อเราหรือสรรเสริญพระองค์สุดจิตใจ หรือพรรณาความรักของเราต่อพระองค์ เราไม่สามารถสรรหาคำภาษามนุษย์มาได้หมดแน่ๆ ระดับนี้ ผู้อธิษฐานจะอธิษฐานด้วยความรัก มากกว่าด้วยคำพูด ด้วยถ้อยคำทางจิตที่ไม่อาจบรรยายเป็นภาษามนุษย์ได้แล้ว และยกจิตใจขึ้นหาพระเจ้าโดยไม่ต้องพึ่งคำพูดใดๆ
---4)การอธิษฐานในพระเจ้า ให้พระเจ้าเป็นผู้อธิษฐาน ส่วนเราเพียงยอมให้พระองค์ยกวิญญาณของเราเข้าร่วมในการอธิษฐาน ระดับนี้เป็นระดับสูงสุด มักเป็นระดับของการเห็นนิมิต หรือนักบุญผู้เพ่งฌาณ
สรุปคือ คาทอลิคมีวิธีอธิษฐานทั้ง2อย่างแหละครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พฤหัสฯ. มี.ค. 09, 2006 9:48 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ผมอ่านเจอในพระคัมภีร์ ครับ
"เมื่อท่านอธิษฐาน ไม่ต้องพูดจาซ้ำซากเหมือนคนต่างศาสนา
เพราะเขาคิดว่า พูดมาก ๆ พระจึงจะได้ยิน อย่างทำอย่างเขาเลย
เพราะพระบิดาของท่าน ทรงทราบว่าท่านต้องการอะไร
ก่อนที่ท่านจะทูลขอต่อพระองค์"
หมายความว่า เราไม่ควรจะอธิษฐานแบบยืดยาว โดยหาสาระไม่ได้ใช่ไหมครับ
"เมื่อท่านอธิษฐาน ไม่ต้องพูดจาซ้ำซากเหมือนคนต่างศาสนา
เพราะเขาคิดว่า พูดมาก ๆ พระจึงจะได้ยิน อย่างทำอย่างเขาเลย
เพราะพระบิดาของท่าน ทรงทราบว่าท่านต้องการอะไร
ก่อนที่ท่านจะทูลขอต่อพระองค์"
หมายความว่า เราไม่ควรจะอธิษฐานแบบยืดยาว โดยหาสาระไม่ได้ใช่ไหมครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมคิดว่าให้เราภาวนาที่ออกมาจากใจอ่ะครับ
ไม่ต้องพูดอะไรมาก ขอพระองค์ตรง ๆ ครับ
ไม่ต้องพูดอะไรมาก ขอพระองค์ตรง ๆ ครับ
พี่ปอตอบได้เคลียร์มากเลยครับ
ที่แน่ ๆ บทข้าแต่พระบิดาก็เป็นบทที่พระเยซูเจ้าประทานให้กับพวกเราอย่างเป็นแบบแผน
และจะอธิษฐานภาวนาอย่างไร ใจ ที่จะเข้าร่วมซาบซึ้งและศรัทธาไปด้วยย่อมสำคัญที่สุด :D :D
ที่แน่ ๆ บทข้าแต่พระบิดาก็เป็นบทที่พระเยซูเจ้าประทานให้กับพวกเราอย่างเป็นแบบแผน
และจะอธิษฐานภาวนาอย่างไร ใจ ที่จะเข้าร่วมซาบซึ้งและศรัทธาไปด้วยย่อมสำคัญที่สุด :D :D
ประมาณนั้นครับGracy เขียน: ผมอ่านเจอในพระคัมภีร์ ครับ
"เมื่อท่านอธิษฐาน ไม่ต้องพูดจาซ้ำซากเหมือนคนต่างศาสนา
เพราะเขาคิดว่า พูดมาก ๆ พระจึงจะได้ยิน อย่างทำอย่างเขาเลย
เพราะพระบิดาของท่าน ทรงทราบว่าท่านต้องการอะไร
ก่อนที่ท่านจะทูลขอต่อพระองค์"
หมายความว่า เราไม่ควรจะอธิษฐานแบบยืดยาว โดยหาสาระไม่ได้ใช่ไหมครับ
แต่คิดว่าอันนั้นน่าจะหมายถึงการท่องบ่นโดยที่ไม่ได้ร่วมจิตใจมากกว่าครับ แบบนกแก้วนกขุนทอง ซึ่งการเอาปริมาณแบบนั้นไม่ใช่สาระสำคัญ แต่ถ้าเราอธิษฐานด้วยใจจริง เรียกว่าได้ทั้งปริมาณและคุณภาพด้วยอันนี้สามารถทำแล้วทำเล่าไม่หยุดหย่อนได้
1ธส 3:9
เราจะขอบพระคุณพระเจ้าเรื่องท่านได้อย่างไรสำหรับความยินดีทั้งปวงที่เรามีเพราะท่านเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า ขณะที่เราวอนขอทั้งกลางวันกลางคืนด้วยใจร้อนรน ให้ได้พบท่าน และเพิ่มเติมความเชื่อของท่านในส่วนที่ยังบกพร่องอยู่
วว 4:8ผู้มีชีวิตทั้งสี่ตนต่างมีปีกหกปีก ตาอยู่รอบตัวและอยู่ใต้ปีก ต่างร้องสรรเสริญตลอดวันตลอดคืนโดยไม่หยุดเลยว่าศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ
ผู้ทรงดำรงอยู่ในอดีต ผู้ทรงดำรงอยู่ในปัจจุบันและผู้เสด็จมา
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
แต่ถ้าไร้การกระทำ ก็ไร้ประโยชน์จ๊ะ :)Cid เขียน: ศรัทธาอยู่ที่ใจ ;D
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
และต้องแสดงออกเป็นการกระทำด้วย ถึงจะพิสูจน์ว่าผู้นั้นศรัทธาจริงCid เขียน: ศรัทธาอยู่ที่ใจ ;D