>>>: ผู้ใดจะไปแทนเรา:<<<
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ผู้ใดจะไปแทนเรา
โดย: โปรดปราน ( พีพี )
“เราจะใช้ผู้ใดไป และผู้ใดจะไปแทนเรา" แล้วข้าพเจ้าทูลว่า
"ข้าพระองค์นี่พระเจ้าข้า ขอทรงใช้ข้าพระองค์ไปเถิด" (อิสยาห์๖.๘ )
ต้นปีนี้ได้มีโอกาสไปร่วมมิสซา ที่วัดคริสตังแห่งหนึ่ง ก่อนจบมิสซา เด็กช่วยมิสซาได้นำภาวนาตอบสนองกระแสเรียก ซึ่งนิพนธ์โดย สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ ๒ ในเวลาต่อมา ฉันได้รับแผ่นภาวนา “ปีแห่งการแพร่ธรรม” ซึ่งจะมีการชุมนุมเพื่อการแพร่ธรรมของทวีปเอเชีย ในเดือนตุลาคม ๒๐๐๖ ศกนี้ ฉันรำพึงถึง คำภาวนาทั้งสองบทนี้ต้องไปด้วยกัน เพราะการแพร่ธรรมขยายไม่ได้ถ้าขาดบรรดานักบวช ชาย-หญิง จึงขอเสนอบทความ คู่กับคำอธิษฐานส่วนตัวของผู้เขียนเพื่อกระตุ้น ท้าทาย เชิญชวน พี่น้องคริสตัง มาร่วมพันธกิจที่ยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า เพื่อพระอาณาจักรของพระเป็นเจ้าจะตั้งอยู่ในแผ่นดินไทยตามบทข้าพระบิดาที่เราขยันสวดภาวนากันจะได้สำเร็จจริงๆ
จำต้องยอมรับว่า “ปัจจุบันทั่วโลกเกิดภาวะ วิกฤติขาดผู้รับใช้พระเจ้าอย่างมาก” โดยเฉพาะพระศาสนจักรคาทอลิกนั้น ยิ่งยากกว่าพวกเราคริสตจักรโปรเตสแตนต์อีก เพราะว่าเงื่อนไขชีวิต ของนักบวช และกระบวนการฝึกอบรมของนักบวช ชาย-หญิงของคริสตัง และผู้รับใช้พระเจ้าของคริสเตียนนั้นแตกต่างกันมาก อย่างไรก็ตามเรา ต้องยอมรับว่า ต่างฝ่ายต่างขาด คนหนุ่ม-สาวตอบรับกระแสเรียก ถวายตัวเพื่อพระราชกิจที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า อะไรคืออุปสรรค คำตอบสั้นๆคือ “การงานของเนื้อหนัง” เป็นอันดับต้น
กระแสเรียก มีความหมายเดียวกับ “การทรงเรียก”ของคริสเตียน คริสตชนมักจะมีคำถามว่า พระเจ้าทรงเรียกหรือตรัสกับมนุษย์ อย่างไร ในพระคัมภีร์เก่านั้นเริ่มด้วยการพระเจ้าทรงเรียกอับราฮัม และบ่งชี้ว่าที่อิสราเอลได้เป็นประชากรของพระเจ้า มิใช่เพราะเขาได้ทำอะไรที่ดีเลิศจนสมควรได้รับสิทธิเป็นบุตรของพระเจ้า แต่ขึ้นอยู่กับพระเป็นเจ้าเองที่พอพระทัยจะ “เรียก” พวกเขา ในพระคัมภีร์ใหม่ก็เช่นกัน พระเยซูคริสต์ตรัสเรียกผู้คนให้ติดตามและตอบสนองคำสั่งสอนของพระองค์ ซึ่งพระศาสนจักร หรือคริสตจักรยุคแรกก็ทำเช่นกัน พระเจ้าทรงเรียกคริสตชนให้รับความรอด ให้ชีวิต นิรันดร์ ให้ชีวิตแห่งความอดทน ให้ชีวิตแห่งสันติสุข และให้มีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงใหม่โดยพระจิตเจ้าทั้งพระคัมภีร์เก่าและใหม่เน้นกระแสเรียกเป็นรายบุคคล พระเจ้าทรงเรียกชายหญิงเพื่อทำหน้าที่พิเศษให้เป็นตัวแทนของพระองค์ ในพระคัมภีร์เก่าปรากฏชื่อบุคคลมากมายที่พระเจ้าทรงเรียกพวกเขาเป็นพิเศษ เช่น ทรงเรียก อับราฮัม โมเสส โยชูวา ซามูเอล เอลิยาห์ เอลิชา ดาวิด อิสยาห์ ดาเนียล เยเรมีย์ ฯลฯ ส่วนในพระคัมภีร์ใหม่ พระเยซูเจ้าทรงเรียกสานุศิษย์ ๑๒ คน ทรงเรียก อัครทูตเปาโลมารับความรอดแล้วทรงส่งเขาไปประกาศข่าวดี เผยแผ่พระวาจากับชาวต่างชาติ
โดย: โปรดปราน ( พีพี )
“เราจะใช้ผู้ใดไป และผู้ใดจะไปแทนเรา" แล้วข้าพเจ้าทูลว่า
"ข้าพระองค์นี่พระเจ้าข้า ขอทรงใช้ข้าพระองค์ไปเถิด" (อิสยาห์๖.๘ )
ต้นปีนี้ได้มีโอกาสไปร่วมมิสซา ที่วัดคริสตังแห่งหนึ่ง ก่อนจบมิสซา เด็กช่วยมิสซาได้นำภาวนาตอบสนองกระแสเรียก ซึ่งนิพนธ์โดย สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ ๒ ในเวลาต่อมา ฉันได้รับแผ่นภาวนา “ปีแห่งการแพร่ธรรม” ซึ่งจะมีการชุมนุมเพื่อการแพร่ธรรมของทวีปเอเชีย ในเดือนตุลาคม ๒๐๐๖ ศกนี้ ฉันรำพึงถึง คำภาวนาทั้งสองบทนี้ต้องไปด้วยกัน เพราะการแพร่ธรรมขยายไม่ได้ถ้าขาดบรรดานักบวช ชาย-หญิง จึงขอเสนอบทความ คู่กับคำอธิษฐานส่วนตัวของผู้เขียนเพื่อกระตุ้น ท้าทาย เชิญชวน พี่น้องคริสตัง มาร่วมพันธกิจที่ยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า เพื่อพระอาณาจักรของพระเป็นเจ้าจะตั้งอยู่ในแผ่นดินไทยตามบทข้าพระบิดาที่เราขยันสวดภาวนากันจะได้สำเร็จจริงๆ
จำต้องยอมรับว่า “ปัจจุบันทั่วโลกเกิดภาวะ วิกฤติขาดผู้รับใช้พระเจ้าอย่างมาก” โดยเฉพาะพระศาสนจักรคาทอลิกนั้น ยิ่งยากกว่าพวกเราคริสตจักรโปรเตสแตนต์อีก เพราะว่าเงื่อนไขชีวิต ของนักบวช และกระบวนการฝึกอบรมของนักบวช ชาย-หญิงของคริสตัง และผู้รับใช้พระเจ้าของคริสเตียนนั้นแตกต่างกันมาก อย่างไรก็ตามเรา ต้องยอมรับว่า ต่างฝ่ายต่างขาด คนหนุ่ม-สาวตอบรับกระแสเรียก ถวายตัวเพื่อพระราชกิจที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า อะไรคืออุปสรรค คำตอบสั้นๆคือ “การงานของเนื้อหนัง” เป็นอันดับต้น
กระแสเรียก มีความหมายเดียวกับ “การทรงเรียก”ของคริสเตียน คริสตชนมักจะมีคำถามว่า พระเจ้าทรงเรียกหรือตรัสกับมนุษย์ อย่างไร ในพระคัมภีร์เก่านั้นเริ่มด้วยการพระเจ้าทรงเรียกอับราฮัม และบ่งชี้ว่าที่อิสราเอลได้เป็นประชากรของพระเจ้า มิใช่เพราะเขาได้ทำอะไรที่ดีเลิศจนสมควรได้รับสิทธิเป็นบุตรของพระเจ้า แต่ขึ้นอยู่กับพระเป็นเจ้าเองที่พอพระทัยจะ “เรียก” พวกเขา ในพระคัมภีร์ใหม่ก็เช่นกัน พระเยซูคริสต์ตรัสเรียกผู้คนให้ติดตามและตอบสนองคำสั่งสอนของพระองค์ ซึ่งพระศาสนจักร หรือคริสตจักรยุคแรกก็ทำเช่นกัน พระเจ้าทรงเรียกคริสตชนให้รับความรอด ให้ชีวิต นิรันดร์ ให้ชีวิตแห่งความอดทน ให้ชีวิตแห่งสันติสุข และให้มีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงใหม่โดยพระจิตเจ้าทั้งพระคัมภีร์เก่าและใหม่เน้นกระแสเรียกเป็นรายบุคคล พระเจ้าทรงเรียกชายหญิงเพื่อทำหน้าที่พิเศษให้เป็นตัวแทนของพระองค์ ในพระคัมภีร์เก่าปรากฏชื่อบุคคลมากมายที่พระเจ้าทรงเรียกพวกเขาเป็นพิเศษ เช่น ทรงเรียก อับราฮัม โมเสส โยชูวา ซามูเอล เอลิยาห์ เอลิชา ดาวิด อิสยาห์ ดาเนียล เยเรมีย์ ฯลฯ ส่วนในพระคัมภีร์ใหม่ พระเยซูเจ้าทรงเรียกสานุศิษย์ ๑๒ คน ทรงเรียก อัครทูตเปาโลมารับความรอดแล้วทรงส่งเขาไปประกาศข่าวดี เผยแผ่พระวาจากับชาวต่างชาติ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 23, 2006 4:01 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
“การทรงเลือกสรร”คำคู่กับ “กระแสเรียก” พระเยซูเจ้าตรัสว่า "ท่านทั้งหลายไม่ได้เลือกเรา แต่เราได้เลือกท่านทั้งหลาย" ( ยอห์น ๑๕.๑๖ ) นี่เป็นข้อสรุปของคำสอนเรื่องการเลือกสรร เนื่องจากพระเจ้าเป็นพระผู้สร้างผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์สูงสุด ฉะนั้นพระองค์จึงเป็นผู้ชี้ขาด มิใช่มนุษย์ พระคัมภีร์เก่า บอกให้รู้ว่าพระเจ้าทรงเลือกสรรมนุษย์อย่างไร พระองค์เลือก อาแบล มิใช่คาอิน ทรง เลือกอิสอัค มิใช่ อิชมาเอล ทรง เลือก ยาโคบมิใช่เอซาว ทรงเลือก โยเซฟมิใช่พี่น้องของเขา ทรงเลือกดาวิด มิใช่พวกพี่ชายที่ร่างกายกำยำบึกบึน ฉันตั้งข้อสังเกตว่าบรรดาคนที่พระเจ้าเลือก มิได้ถูกเลือกเพราะความดีหรือความยิ่งใหญ่ของพวกเขาเอง เช่น โมเสสบอกชาวอิสราเอลว่า "ที่พระเจ้าทรงรักและทรงเลือกท่านทั้งหลายนั้น มิใช่เพราะท่านทั้งหลายมีจำนวนมากกว่าประชาชาติอื่น…แต่พระเจ้าทรงรักท่านทั้งหลาย" หรือ"ท่านทั้งหลายอย่านึกในใจว่า เพราะความชอบธรรมของข้า พระเจ้าจึงทรงนำข้ามาให้ยึดครองแผ่นดินนี้"
เหตุผลที่พระเจ้าจะเลือกใครนั้นปิดซ่อนไว้ในพระทัยของพระองค์ ซึ่งมนุษย์มิอาจเข้าใจได้แต่กระนั้นก็เห็นได้ชัดว่า บรรดาผู้ที่ยอมรับการเลือกสรร หรือกระแสเรียกพิเศษของพระเจ้า ต้องเชื่อฟังและอุทิศตัวรับใช้พระองค์ อับราฮัมกับชาวอิสราเอลได้ทำเช่นนี้ คริสตชนก็เช่นกัน "ท่านทั้งหลายเป็นชาติที่พระองค์ทรงเลือกไว้แล้ว เป็นพวกปุโรหิตหลวง เป็นประชาชาติบริสุทธิ์ เป็นชนชาติของพระเจ้าโดยเฉพาะ เพื่อให้ท่านทั้งหลายประกาศพระบารมีของพระองค์ผู้ได้ทรงเรียกท่านทั้งหลายให้ออกมาจากความมืด เข้าไปสู่ความสว่างอันมหัศจรรย์ของพระองค์" (ดู ฉธบ. ๗:๗-๘; โรม. ๙:๑๘-๒๘) และ "พระเจ้าของข้าพระองค์…ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย" นักบุญมัทธิวกล่าวอีกว่า ม่านที่กั้นอภิสุทธิสถานกับวิสุทธิสถานในพระวิหารขาดเป็นสองท่อนตั้งแต่บนตลอดล่าง ซึ่งเล็งว่ามนุษย์เราจะไม่ถูกตัดขาดจากพระเจ้าอีกต่อไป เพราะพระเยซูได้ลบล้างบาปของคนทั้งโลกแล้ว ( ดู ปฐก. ๓; ลนต. ๑๖; อสย. ๕๓; ยน. ๓:๑๔-๑๗; มก. ๑๐:๔๕)
กระแสเรียกพิเศษ: การเรียกเช่นนี้คือกระแสเรียกเพื่อทำพระราชกิจของพระเจ้า นั่นคือตามพระประสงค์พิเศษ พระเจ้าไม่ทรงเรียกทุกๆคน หมายความว่า พระเจ้าทรงเรียกบางคนเท่านั้น ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่ทุกคนจะตอบรับกระแสเรียกพิเศษนี้ เช่นพระเจ้ามีพระกระแสเรียก ชาย-หญิง คริสตัง เพื่อ เป็น นักบวชรับผิดชอบพระราชกิจร่วมพันธกิจกับพระคริสตเจ้า ครั้งที่พระเยซูคริสต์ทรงทำพันธกิจอยู่นั้น เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชนขาดผู้เลี้ยง พระองค์ทรงสงสารประชาชน จนทรงเอ่ยกับพวกสาวกว่า "ข้าวที่ต้องเกี่ยวนั้นมีมากนักหนา แต่คนงานยังน้อยอยู่ เหตุนั้นพวกท่านจงอ้อนวอนพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของนา ให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวพืชผลของพระองค์" (มัทธิว ๙.๓๗-๓๘ ) ถ้าเราเข้าใจพระประสงค์นี้ของพระเยซูเจ้า เราคริสตชนต้องทุ่มเทคำภาวนาเพื่อกระแสเรียกพิเศษนี้อย่างจริงจังอย่างไม่หยุดหย่อนเพราะพวกเราก็คือกลุ่มสาวกของพระเยซูคริสต์ ยิ่งกว่านั้นในท่ามกลางพวกเราบางคนพระเจ้าทรงเรียกเขาเพื่อเป็นร่วมพันธกิจของพระเยซูเจ้า ก็ต้องตอบรับพระกระแสเรียกนี้ทันทีด้วย
ยิ่งกว่านั้นความห่วงใยของพระเยซูคริสตเจ้า ก่อนที่พระองค์จะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พระองค์ตรัสสั่งไว้ ที่เรียกว่าพระมหาบัญชา ซึ่งนักบุญมัทธิว ๒๘.๑๘-๒๐ พระเยซูเจ้าเสด็จเขามาใกล้ ตรัสแก่เขาเหล่านั้นว่า " พระเจ้าทรงมอบอำนาจอาชญาสิทธิ์ทั้งหมดในสวรรค์และบนแผ่นดินให้แก่เรา เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่าน แล้วจงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ "
มีหลายคนที่พระเจ้าทรงเรียกพิเศษเหมือนกับที่พระเจ้าทรงมีกระแสเรียก ผู้รับใช้ของพระองค์รุ่นแล้วรุ่นเล่า พระเจ้าทรงเรียกเกือบทุกวัย เช่น วัยเด็ก วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว วัยกลางคน และผู้สูงวัย พระเจ้ามีพระกระแสเรียก อับราฮัม โมเสส ซามูเอล ดาวิด อิสยาห์ ดาเนียล เยเรมีย์ โยนาห์ โฮเชยา ฯลฯ ในพระคัมภีร์ใหม่พระเจ้าทรงเรียกนักบุญเปาโลเป็นอัครทูตแล้วส่งเขาไปประกาศข่าวดี แพร่ธรรมกับชาวต่างชาติ และสมัยนี้พระเจ้าทรงเรียกพวกเรา ซึ่งท่านอาจจะเป็นคนหนึ่งที่มีส่วนไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
คริสตชนมักจะชอบใจและจดจำ กระแสเรียกบุคคลต่างๆในพระคัมภีร์ เช่น พระเจ้าทรงเรียกอับราฮัม เพื่อนำพระพรไปยังชนชาติยิว และประชาชาติ หรือมีกระแสเรียก โยเซฟ เพื่อช่วยชนชาติของตนเอง ในยามกันดารอาหาร เมื่อคนอิสราเอลทุกข์ใจเพราะเป็นทาสในอียิปต์ พระเจ้ามีกระแสเรียก โมเสส เพื่อช่วยคนอิสราเอลนำพวกเขาออกจากอิยิปต์แดนทาส แล้วทรงส่งต่อให้โยชูวานำคนอิสราเอลเข้าคะนาอัน ดินแดนพระสัญญา เมื่อคนอิสราเอล อยากมีกษัติรย์ปกครอง พระเจ้าทรงเรียกซามูลเอล เพื่อช่วยวินิจฉัยอิสราเอล และเลือกกษัตริย์ สองพระองค์ คือซาอูล และดาวิด เมื่อบ้านเมืองต้องการผู้สอนคนดำเนินชีวิตกับพระเจ้า ส่วน ประกาศกอิสยาห์ เป็นแบบอย่างที่ดีมากรีบขัน อาสากับพระเจ้า ว่าตัวเองพร้อมจะออกไป ขอทรงใช้เถิด ส่วนคนที่อ่อนแอขี้กลัว ขี้แย พระเจ้าก็ทรงเรียกเขาคือ เยเรมีย์ เป็นประกาศกขี้แย และรีบออกตัวว่า พูดไม่เป็น พระเจ้าทรงดักคอ ว่าพระองค์จะทรงใส่คำพูดในปากเขา เมื่อชนอิสราเอลตกไปเป็นเชลย และมีคนปองร้ายจะทำลายพวกยิว พระเจ้าทรงเลือกสตรีงามอย่างเอสเธอร์ให้เป็นพระราชินีของพระราชาเปอร์เชียร์ เพื่อช่วยชนชาติยิว เป็นต้น
ส่วนพระคัมภีร์ใหม่พระเยซูเจ้า ทรงอธิษฐานภาวนาแล้วเรียกบรรดาอัครสาวก มาฝึกฝนอบรมใช้ชีวิต และทำพันธกิจด้วยกันกับพระองค์ ทรงเรียก นักบุญเปาโล จากเสือร้ายกลายเป็นผู้นักแพร่ธรรมที่ยิ่งใหญ่ ทรงเรียกน.ทิโมธี ศิษย์เอก ของน.เปาโล และก่อนที่พระเยซูคริสต์เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ก็กำชับให้ เหล่าสาวกยุคนั้น และพวกเรายุคนี้ให้นำข่าวดีของพระเยซูคริสต์ ที่ช่วยลบความผิดบาปของโลก และนำคนที่หลงทางอยู่กลับมาหาพระบิดาในพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า ดังนั้นผู้รับใช้พระองค์รุ่นแล้วรุ่นเล่า ที่ตอบรับกระแสเรียกรับคำท้าทาย และเชิญชวนของพระเจ้า และวันนี้กระแสเรียกนั้นมาถึง พี่น้อง แล้ว ท่านกล้าที่จะ ตอบพระเจ้า เหมือนประกาศกอิสยาห์ว่า “พระเจ้าข้า ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ ขอทรงใช้ข้าพระองค์เถิด” ไหม!!!???
"ข้าวที่ต้องเกี่ยวนั้นมีมากนักหนา แต่คนงานยังน้อยอยู่ เหตุนั้นพวกท่านจงอ้อนวอนพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของนา ให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวพืชผลของพระองค์" (มัทธิว ๙.๓๗-๓๘ )
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
หมายเหตุ: ตีพิมพ์ ในอิสระรายปักษ์ ฉบับ เดือน พฤษภาคม 2006
เหตุผลที่พระเจ้าจะเลือกใครนั้นปิดซ่อนไว้ในพระทัยของพระองค์ ซึ่งมนุษย์มิอาจเข้าใจได้แต่กระนั้นก็เห็นได้ชัดว่า บรรดาผู้ที่ยอมรับการเลือกสรร หรือกระแสเรียกพิเศษของพระเจ้า ต้องเชื่อฟังและอุทิศตัวรับใช้พระองค์ อับราฮัมกับชาวอิสราเอลได้ทำเช่นนี้ คริสตชนก็เช่นกัน "ท่านทั้งหลายเป็นชาติที่พระองค์ทรงเลือกไว้แล้ว เป็นพวกปุโรหิตหลวง เป็นประชาชาติบริสุทธิ์ เป็นชนชาติของพระเจ้าโดยเฉพาะ เพื่อให้ท่านทั้งหลายประกาศพระบารมีของพระองค์ผู้ได้ทรงเรียกท่านทั้งหลายให้ออกมาจากความมืด เข้าไปสู่ความสว่างอันมหัศจรรย์ของพระองค์" (ดู ฉธบ. ๗:๗-๘; โรม. ๙:๑๘-๒๘) และ "พระเจ้าของข้าพระองค์…ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสีย" นักบุญมัทธิวกล่าวอีกว่า ม่านที่กั้นอภิสุทธิสถานกับวิสุทธิสถานในพระวิหารขาดเป็นสองท่อนตั้งแต่บนตลอดล่าง ซึ่งเล็งว่ามนุษย์เราจะไม่ถูกตัดขาดจากพระเจ้าอีกต่อไป เพราะพระเยซูได้ลบล้างบาปของคนทั้งโลกแล้ว ( ดู ปฐก. ๓; ลนต. ๑๖; อสย. ๕๓; ยน. ๓:๑๔-๑๗; มก. ๑๐:๔๕)
กระแสเรียกพิเศษ: การเรียกเช่นนี้คือกระแสเรียกเพื่อทำพระราชกิจของพระเจ้า นั่นคือตามพระประสงค์พิเศษ พระเจ้าไม่ทรงเรียกทุกๆคน หมายความว่า พระเจ้าทรงเรียกบางคนเท่านั้น ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่ทุกคนจะตอบรับกระแสเรียกพิเศษนี้ เช่นพระเจ้ามีพระกระแสเรียก ชาย-หญิง คริสตัง เพื่อ เป็น นักบวชรับผิดชอบพระราชกิจร่วมพันธกิจกับพระคริสตเจ้า ครั้งที่พระเยซูคริสต์ทรงทำพันธกิจอยู่นั้น เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชนขาดผู้เลี้ยง พระองค์ทรงสงสารประชาชน จนทรงเอ่ยกับพวกสาวกว่า "ข้าวที่ต้องเกี่ยวนั้นมีมากนักหนา แต่คนงานยังน้อยอยู่ เหตุนั้นพวกท่านจงอ้อนวอนพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของนา ให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวพืชผลของพระองค์" (มัทธิว ๙.๓๗-๓๘ ) ถ้าเราเข้าใจพระประสงค์นี้ของพระเยซูเจ้า เราคริสตชนต้องทุ่มเทคำภาวนาเพื่อกระแสเรียกพิเศษนี้อย่างจริงจังอย่างไม่หยุดหย่อนเพราะพวกเราก็คือกลุ่มสาวกของพระเยซูคริสต์ ยิ่งกว่านั้นในท่ามกลางพวกเราบางคนพระเจ้าทรงเรียกเขาเพื่อเป็นร่วมพันธกิจของพระเยซูเจ้า ก็ต้องตอบรับพระกระแสเรียกนี้ทันทีด้วย
ยิ่งกว่านั้นความห่วงใยของพระเยซูคริสตเจ้า ก่อนที่พระองค์จะเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ พระองค์ตรัสสั่งไว้ ที่เรียกว่าพระมหาบัญชา ซึ่งนักบุญมัทธิว ๒๘.๑๘-๒๐ พระเยซูเจ้าเสด็จเขามาใกล้ ตรัสแก่เขาเหล่านั้นว่า " พระเจ้าทรงมอบอำนาจอาชญาสิทธิ์ทั้งหมดในสวรรค์และบนแผ่นดินให้แก่เรา เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่าน แล้วจงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ "
มีหลายคนที่พระเจ้าทรงเรียกพิเศษเหมือนกับที่พระเจ้าทรงมีกระแสเรียก ผู้รับใช้ของพระองค์รุ่นแล้วรุ่นเล่า พระเจ้าทรงเรียกเกือบทุกวัย เช่น วัยเด็ก วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว วัยกลางคน และผู้สูงวัย พระเจ้ามีพระกระแสเรียก อับราฮัม โมเสส ซามูเอล ดาวิด อิสยาห์ ดาเนียล เยเรมีย์ โยนาห์ โฮเชยา ฯลฯ ในพระคัมภีร์ใหม่พระเจ้าทรงเรียกนักบุญเปาโลเป็นอัครทูตแล้วส่งเขาไปประกาศข่าวดี แพร่ธรรมกับชาวต่างชาติ และสมัยนี้พระเจ้าทรงเรียกพวกเรา ซึ่งท่านอาจจะเป็นคนหนึ่งที่มีส่วนไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
คริสตชนมักจะชอบใจและจดจำ กระแสเรียกบุคคลต่างๆในพระคัมภีร์ เช่น พระเจ้าทรงเรียกอับราฮัม เพื่อนำพระพรไปยังชนชาติยิว และประชาชาติ หรือมีกระแสเรียก โยเซฟ เพื่อช่วยชนชาติของตนเอง ในยามกันดารอาหาร เมื่อคนอิสราเอลทุกข์ใจเพราะเป็นทาสในอียิปต์ พระเจ้ามีกระแสเรียก โมเสส เพื่อช่วยคนอิสราเอลนำพวกเขาออกจากอิยิปต์แดนทาส แล้วทรงส่งต่อให้โยชูวานำคนอิสราเอลเข้าคะนาอัน ดินแดนพระสัญญา เมื่อคนอิสราเอล อยากมีกษัติรย์ปกครอง พระเจ้าทรงเรียกซามูลเอล เพื่อช่วยวินิจฉัยอิสราเอล และเลือกกษัตริย์ สองพระองค์ คือซาอูล และดาวิด เมื่อบ้านเมืองต้องการผู้สอนคนดำเนินชีวิตกับพระเจ้า ส่วน ประกาศกอิสยาห์ เป็นแบบอย่างที่ดีมากรีบขัน อาสากับพระเจ้า ว่าตัวเองพร้อมจะออกไป ขอทรงใช้เถิด ส่วนคนที่อ่อนแอขี้กลัว ขี้แย พระเจ้าก็ทรงเรียกเขาคือ เยเรมีย์ เป็นประกาศกขี้แย และรีบออกตัวว่า พูดไม่เป็น พระเจ้าทรงดักคอ ว่าพระองค์จะทรงใส่คำพูดในปากเขา เมื่อชนอิสราเอลตกไปเป็นเชลย และมีคนปองร้ายจะทำลายพวกยิว พระเจ้าทรงเลือกสตรีงามอย่างเอสเธอร์ให้เป็นพระราชินีของพระราชาเปอร์เชียร์ เพื่อช่วยชนชาติยิว เป็นต้น
ส่วนพระคัมภีร์ใหม่พระเยซูเจ้า ทรงอธิษฐานภาวนาแล้วเรียกบรรดาอัครสาวก มาฝึกฝนอบรมใช้ชีวิต และทำพันธกิจด้วยกันกับพระองค์ ทรงเรียก นักบุญเปาโล จากเสือร้ายกลายเป็นผู้นักแพร่ธรรมที่ยิ่งใหญ่ ทรงเรียกน.ทิโมธี ศิษย์เอก ของน.เปาโล และก่อนที่พระเยซูคริสต์เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ก็กำชับให้ เหล่าสาวกยุคนั้น และพวกเรายุคนี้ให้นำข่าวดีของพระเยซูคริสต์ ที่ช่วยลบความผิดบาปของโลก และนำคนที่หลงทางอยู่กลับมาหาพระบิดาในพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า ดังนั้นผู้รับใช้พระองค์รุ่นแล้วรุ่นเล่า ที่ตอบรับกระแสเรียกรับคำท้าทาย และเชิญชวนของพระเจ้า และวันนี้กระแสเรียกนั้นมาถึง พี่น้อง แล้ว ท่านกล้าที่จะ ตอบพระเจ้า เหมือนประกาศกอิสยาห์ว่า “พระเจ้าข้า ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ ขอทรงใช้ข้าพระองค์เถิด” ไหม!!!???
"ข้าวที่ต้องเกี่ยวนั้นมีมากนักหนา แต่คนงานยังน้อยอยู่ เหตุนั้นพวกท่านจงอ้อนวอนพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของนา ให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวพืชผลของพระองค์" (มัทธิว ๙.๓๗-๓๘ )
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
หมายเหตุ: ตีพิมพ์ ในอิสระรายปักษ์ ฉบับ เดือน พฤษภาคม 2006
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 23, 2006 4:07 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ไม่มีใครตอบสนอง กระแสเรียกเลยหรือ *? *pif
ถ้ามีบุญที่พระองค์ทรงเรียก ก็ต้องยินดีติดตามพระองค์ครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมยินดีนะครับ
ฮี่ๆๆๆ ฮั่นแน่ นี่ไง น้องอุ้ยตอบรับแล้ว ถ้าพระเรียกน้องไปบวชล่ะก้อออออออออออออออ ... เหอะ เหอะ ;DBatholomew เขียน: ผมยินดีนะครับ
อุ้ยคือสงฆ์ศักดิ์สิทธิกรควรสรรเสริญ
อุ้ยคือสงฆ์ผู้แทนได้รับเชิญ
อุ้ยคือผู้เทิดเทอญคริสต์ราชา
อุ้ยคือแมลคีเซเด็กซ์ที่กลับมา โปรดเมตตาเพศสมณะที่ประทาน
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ตกลงว่าผมต้องไปบวชแล้วใช่มั๊ยครับนี่
ตามเรามา ตามเรามา จากเคหาครอบครัวที่มี อวน แห เรือ นี้ ปล่อยทิ้งไว้ที่ตรงชายหาด ทิ้งพืชพันธุ์ที่อุ้ยเคยหว่าน ปล่อยธัญญาหารที่ปลูกไว้ ปล่อยคนที่ได้เคยรู้จักและตามเรามา ;DBatholomew เขียน: ตกลงว่าผมต้องไปบวชแล้วใช่มั๊ยครับนี่
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. มิ.ย. 29, 2006 10:44 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
อยู่ ม.4 ศิลป์จีน ถ้าอยากจะเป็นผู้ประกาศ(โปร)หรือพระสงฆ์(คาทอลิก)ต้อง(เรียน)ต่ออะไรบ้างล่ะครับ(ยังไม่ได้ตัดสินใจนะครับ ถามเฉยๆ)
-
- โพสต์: 300
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 19, 2007 11:40 am
ข้าพระองค์อยู่นี่พระเจ้าข้า ขอทรงใช้ข้าพระองค์เถิด
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
โอเคครับ งั้นรอล้างบาปก่อน(รอมา 3 ปีแล้ว ยังไงปีนี้ก็ต้องได้! "หม่ามี้ สัญญากับหนูห้ามคืนคำน้า~~~"(แม่ตบกบาลพลั่ก!ข้อหาแอบแบ๊วไม่ดูสังขาร)
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
วิสุทธรังษีจังหวัดกาญจนบุรี ครับ รู้จักป่ะ เห็น'จารย์อุดมพล่ามให้ฟังทุกเช้าว่าโรงเรียนเรามีเกียรติชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของกาญจนบุรี
ปล.ไปเรียนพิเศษที่กรุงเทพ อาจารย์ที่สอนพิเศษเขาถามว่าเธออยู่โรงเรียนไหน ผมกับเพื่อนที่มาด้วยกันตอบ "วิสุทธฯครับ" 'จารย์แกทำหน้างงๆก่อนตอบ "ไม่รู้จัก??? "
ปล.ไปเรียนพิเศษที่กรุงเทพ อาจารย์ที่สอนพิเศษเขาถามว่าเธออยู่โรงเรียนไหน ผมกับเพื่อนที่มาด้วยกันตอบ "วิสุทธฯครับ" 'จารย์แกทำหน้างงๆก่อนตอบ "ไม่รู้จัก??? "
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
Here I am Lord
I, the Lord of sea and sky,
I have heard my people cry.
All who dwell in dark and sin,
My hand will save.
Chorus
Here I am, Lord. Is it I, Lord?
I have heard you calling in the night.
I will go, Lord, if you lead me.
I will hold your people in my heart.
I, who made the stars of night,
I will make their darkness bright.
Who will bear my light to them?
Whom shall I send?
Chorus
Here I am, Lord. Is it I, Lord?
I have heard you calling in the night.
I will go, Lord, if you lead me.
I will hold your people in my heart.
I, the Lord of snow and rain,
I have borne my people
I, the Lord of sea and sky,
I have heard my people cry.
All who dwell in dark and sin,
My hand will save.
Chorus
Here I am, Lord. Is it I, Lord?
I have heard you calling in the night.
I will go, Lord, if you lead me.
I will hold your people in my heart.
I, who made the stars of night,
I will make their darkness bright.
Who will bear my light to them?
Whom shall I send?
Chorus
Here I am, Lord. Is it I, Lord?
I have heard you calling in the night.
I will go, Lord, if you lead me.
I will hold your people in my heart.
I, the Lord of snow and rain,
I have borne my people
[quote="~@Little lamb@~"]
Here I am Lord
I, the Lord of sea and sky,
I have heard my people cry.
All who dwell in dark and sin,
My hand will save.
Chorus
Here I am, Lord. Is it I, Lord?
I have heard you calling in the night.
I will go, Lord, if you lead me.
I will hold your people in my heart.
I, who made the stars of night,
I will make their darkness bright.
Who will bear my light to them?
Whom shall I send?
Chorus
Here I am, Lord. Is it I, Lord?
I have heard you calling in the night.
I will go, Lord, if you lead me.
I will hold your people in my heart.
I, the Lord of snow and rain,
I have borne my people
Here I am Lord
I, the Lord of sea and sky,
I have heard my people cry.
All who dwell in dark and sin,
My hand will save.
Chorus
Here I am, Lord. Is it I, Lord?
I have heard you calling in the night.
I will go, Lord, if you lead me.
I will hold your people in my heart.
I, who made the stars of night,
I will make their darkness bright.
Who will bear my light to them?
Whom shall I send?
Chorus
Here I am, Lord. Is it I, Lord?
I have heard you calling in the night.
I will go, Lord, if you lead me.
I will hold your people in my heart.
I, the Lord of snow and rain,
I have borne my people
กาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่สวยงาม ข้าพเจ้าเคยไปหลายครั้ง ไปเที่ยวสะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานสัมพันธมิตร ฯลฯIn the name of father เขียน: วิสุทธรังษีจังหวัดกาญจนบุรี ครับ รู้จักป่ะ เห็น'จารย์อุดมพล่ามให้ฟังทุกเช้าว่าโรงเรียนเรามีเกียรติชื่อเสียงเป็นอันดับหนึ่งของกาญจนบุรี
ปล.ไปเรียนพิเศษที่กรุงเทพ อาจารย์ที่สอนพิเศษเขาถามว่าเธออยู่โรงเรียนไหน ผมกับเพื่อนที่มาด้วยกันตอบ "วิสุทธฯครับ" 'จารย์แกทำหน้างงๆก่อนตอบ "ไม่รู้จัก??? "
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ส่วนมากพวกเราคริสเตียนมักจะเล่นคำว่า
"ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ ขอทรงใช้ นาย A ( B,C,D)ไปเถิด ซึ่งตรงข้ามกับประกาศก อิสยาห์เลยล่ะ
"ข้าพระองค์อยู่ที่นี่ ขอทรงใช้ นาย A ( B,C,D)ไปเถิด ซึ่งตรงข้ามกับประกาศก อิสยาห์เลยล่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เราทุกคนต้องเป็นตัวแทนของพระเจ้า