ทำไมคุณถึงเลือกที่จะเป็นคริสตังหรือคาทอลิก เพราะ...
สำหรับเรา คิดว่าคงเป็นแม่ที่ปลูกฝังความเชื่อแบบคาทอลิกให้ในตอนที่เป็นเด็ก ( ล้างบาปและรับศีลมหาสนิทตอน ป.3 ) แล้วตอนหลัง ค่อยๆซึมซับและเรียนรู้จักความรักของแม่พระก่อน และแล้วพระมารดาก็สอนให้เราเรียนรู้จักและซาบซึ้งในความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระนาง เมื่อเริ่มเติมโตขึ้น จนเดี๋ยวนี้ คงไม่มีความเชื่ออื่นใดที่จากทำให้เราไปจากพระได้ ;D ;D
แก้ไขล่าสุดโดย kyrie เมื่อ เสาร์ ส.ค. 06, 2005 12:36 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
สำหรับผมแล้ว เป็นคริสตัง นอน ก็จริง ด้วยความที่เรียนอยู่ใน โรงเรียนคาทอลิค ตั้งแต่ ป1 และถูกจับให้เข้าวัดมาตั้งแต่เล็กๆจนดูเหมือนเป็นความจำเจ และไม่เห็นคุณค่า พอช่วงจบจากมัธยมออกมา เหมือนได้เป็นอิสระ จากความจำเจเก่าๆ ก็เลยใช่ชีวิต แบบละทิ้งความเชื่อ ไป ระยะนึง
จากนั้น ผมเองก็จำไม่ได้แล้วว่าตอนไหนจึงได้มาค้นพบว่า ความสัมพันธ์ ระหว่างเรากับพระมีคุณค่าเพียงใด ภาพเก่าๆ ของการเรียนคำสอนในโบสถ์ มืดๆ กับคุณพ่อทุกเช้า ที่ดูจะ เป็นความจำเจ เฉยเมย ซ้ำซาก กลับวิ่งเข้ามาในหัวสมอง หากแต่คราวนี้กลับทำให้เกิดความอบอุ่น และ มีคุณค่าอย่างที่สุด ให้ความรู้สึกเหมือนว่ามีพระองค์อยู่กับเราในที่นั้นที่วัดตลอดเวลา เสมอ
จึงได้กลับไปเข้าวัดแก้บาปรับศีล อีกครั้ง และ ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตผม ผมมักจะพูดคุยกับพระองค์และแม่พระเสมอ เพราะผมรู้ว่าพระองค์อยู่กับเราตลอดเวลาครับ
จากนั้น ผมเองก็จำไม่ได้แล้วว่าตอนไหนจึงได้มาค้นพบว่า ความสัมพันธ์ ระหว่างเรากับพระมีคุณค่าเพียงใด ภาพเก่าๆ ของการเรียนคำสอนในโบสถ์ มืดๆ กับคุณพ่อทุกเช้า ที่ดูจะ เป็นความจำเจ เฉยเมย ซ้ำซาก กลับวิ่งเข้ามาในหัวสมอง หากแต่คราวนี้กลับทำให้เกิดความอบอุ่น และ มีคุณค่าอย่างที่สุด ให้ความรู้สึกเหมือนว่ามีพระองค์อยู่กับเราในที่นั้นที่วัดตลอดเวลา เสมอ
จึงได้กลับไปเข้าวัดแก้บาปรับศีล อีกครั้ง และ ไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตผม ผมมักจะพูดคุยกับพระองค์และแม่พระเสมอ เพราะผมรู้ว่าพระองค์อยู่กับเราตลอดเวลาครับ
พี่คิดว่าพระเลือกพี่ให้มาเป็นทาทอลิก เพราะพระให้คู่ชีวิตพี่ที่เป็นคาทอลิก พอเรี่มไปวัดครั้งแรกก็เจอเหตุการณ์บางอย่างจากคุณพ่อ คือตอนที่ไปร่วมมิสซาครั้งแรกก็เฉยๆนะ ตื่นเต้นมากกว่า แต่ตอนที่เดินออก ช่วงนั้นคุณพ่อมายืนทักทายสัตบุรุษอยู่หน้าวัด ช่วงที่พี่ก้าวเข้าไปหาคุณพ่อวูบนั้นพี่เห็นแววตาบางอย่างช่วงที่คุณพ่อมองมาที่พี่ พี่ยืนยันได้ว่าไม่ใช่แววตาของคุณพ่อที่เห็นในปัจจุบันนี้ วันนั้นเป็นแววตาที่พี่เห็นแล้วพี่อยากจะทรุดตัวลง เป็นแววตาที่ดึงดูดพี่ให้เข้าไปหา เป็นแววตาของความรัก ความปราณี เหมือนพ่อที่มองดูลูกด้วยความรัก วันนั้นพี่ต้องบังคับตัวเองไม่ให้โผเข้าไปกอดท่าน จนกระทั่งทุกวันนี้พี่ยังไม่ลืมแววตาคู่นั้น แววตาที่ไม่เคยเห็นจากใครมาก่อน :)
-
- โพสต์: 659
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
- ที่อยู่: I believe in God...
พึ่งรู้นะนี่ครับว่าคนในมานาใหม่นับถือศาสนาอื่นมาก่อนเป็นส่วนใหญ่ ใช่รึเปล่า ??? ???
ผมเป็นคริสเตียนครับ :D เพราะผมมุ่งเน้นเรื่องตรีเอกานุภาพ มากกว่า
เรื่องพระแม่หรือนักบุญต่างๆ ผมถือว่า เป็นรุ่นพี่ด้านความที่ควรเคารพ อะครับ :)
เรื่องพระแม่หรือนักบุญต่างๆ ผมถือว่า เป็นรุ่นพี่ด้านความที่ควรเคารพ อะครับ :)
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
เพราะนู๋จบเซนต์ฟรัง เลยรู้จักแต่คาทอลิก 555+ :D
- -*-St.GrEGoRY-*-
- โพสต์: 309
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 2:06 pm
เชื่อและศรัทธาในพระองค์ครับ
สิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเป็นคาทอลิค ก็เพราะ กระแสเรียกมากกว่าทุกสิ่งและทุกอย่าง และผมเชื่อว่าพระองค์ทรงวางแผนการไว้แล้วว่าจะให้ผมมาเป็นของพระองค์ได้อย่างไร มันเป็นช่วงเวลาที่อัศจรรย์มากเมื่อได้รับศีลล้างบาป และศีลกำลัง ตลอดจนศีลมหาสนิทครั้งแรก เหมือนมีพลังบางอย่างเข้ามาอยู่ในตัวเรา ทุกครั้งที่ผิดต่อพระ ภาพที่รับศีลล้างบาปมันแวบเข้ามาในสมองตลอดเหมือนกับเตือนเราว่า เราเป็นลูกพระนะ จะทำตัวแบบนี้ไม่ได้ เมื่อเกิดปัญหาก็ได้พระนี่แหละเป็นที่พึ่ง รักพระจังเลยครับ ;D
oata_kung เขียน: สิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเป็นคาทอลิค ก็เพราะ กระแสเรียกมากกว่าทุกสิ่งและทุกอย่าง และผมเชื่อว่าพระองค์ทรงวางแผนการไว้แล้วว่าจะให้ผมมาเป็นของพระองค์ได้อย่างไร มันเป็นช่วงเวลาที่อัศจรรย์มากเมื่อได้รับศีลล้างบาป และศีลกำลัง ตลอดจนศีลมหาสนิทครั้งแรก เหมือนมีพลังบางอย่างเข้ามาอยู่ในตัวเรา ทุกครั้งที่ผิดต่อพระ ภาพที่รับศีลล้างบาปมันแวบเข้ามาในสมองตลอดเหมือนกับเตือนเราว่า เราเป็นลูกพระนะ จะทำตัวแบบนี้ไม่ได้ เมื่อเกิดปัญหาก็ได้พระนี่แหละเป็นที่พึ่ง รักพระจังเลยครับ[/color] ;D
ฟังแล้วซาบซึ้งจังเลยครับโอ๊ต สำหรับผมแล้วคาทอลิกคือทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต สิ่งอื่นๆนั้นทำไปเพราะเพื่อความอยู่รอดในสังคมและการบังคับทางอ้อมของสังคมที่เรามิสามารถหลีกเลี่ยงได้ พระคือหนทาง ความจริง และชีวิต คาทอลิกคือหนทางชีวิตที่มีอิสระ มีความสุข และมีกำลัง สำหรับชีวิตผม ผมว่าโลกภายนอกนั้น เต็มไปด้วยโซ่ตรวนของค่านิยมทางวัตถุ ข้าทาสบริวารของเงินตราและอำนาจ รวมทั้งกิเลสและตัญหา อันก่อให้เกิดปัญหาและความขัดแย้ง มีแต่พระและองค์กรของพระ(พระศาสนจักรโรมันคาทอลิก)ที่ให้อิสระแก่จิตใจมนุษย์ ความสุขในพระและความเป็นตัวของตัวเอง ทางของพระเปี่ยมไปด้วยพระพรเสมอ อันเป็นทางโลก(คนต่างศาสนาและสังคมต่างศาสนา)ไม่มีวันเข้าใจ แต่พระเข้าใจเสมอ สวดเพื่อกระแสเรียกผมด้วยนะครับ จะได้เข้าบ้านเณรสักที(ตอนกลับเมืองไทย) หากพระไม่เลือกเป็นเณร จะขอไปสมัครเป็นคนขับรถคุณโฮลี่หรือน้องเขยก็ได้ครับ(ผมได้อยู่กับครอบครัวนี้ ได้ใกล้พระแน่นอนทั้งชีวิต แถมได้ร่วมงานกับคนร่วมศาสนาเดียวกันด้วย)ไม่งั้นคงต้องจำใจ ไร้อิสระ และดำเนินชีวิตแบบคนต่างศาสนาบังคับให้เดินเพื่อความอยู่รอด และจำใจอยู่ในสังคมคนต่างศาสนาต่อไปจนแก่ตาย ชีวิตผมเกือบลงเหว ลงข้าง ก็เพราะการชี้นำและตัดสินใจของคนต่างศาสนามามากพอแล้ว พระสอนให้นอบน้อม ต่อผู้อื่น นอบน้อมมากไป จนตัวเองจะเสียวิญญาณและความเชื่อ รวมทั้งความเป็นตัวของตัวเอง ไปเป็นคนล้างส้วมให้คุณโฮลี่ดีกว่า
สวดเพื่อกระแสเรียกผมด้วยนะครับ หากพระเลือกผมเป็นเณร จะทำให้ดีที่สุดที่พระเลือกให้ผมแพร่ธรรม(คนจำนวนมากรอคอยข่าวดี และรอซับน้ำตาจากความทนทุกข์ในความเชื่ออยู่)ผมกับน้องโอ๊ต ลำบากลำบนในการเป็นคริสตังใหม่ ไม่อยากให้คนรุ่นต่อไป ต้องมาลำบากลำบนหรือแบกกางเขนในเรื่องไม่เป็นเรื่องที่เกิดจากคนต่างศาสนาและสังคมต่างศาสนา รวมทั้งค่านิยมอันไร้สาระของคนต่างศาสนาในสังคม ลูกแกะใหม่ๆรุ่นต่อไป จะได้มีพี่เลี้ยงที่เข้มแข็งและปกป้องลูกแกะจนถึงที่สุด อาเมน
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ขอพระ
เปรมเป็นพุทธมาก่อน ตั้งแต่เริ่มจำความได้ไม่เคยรู้จักพระเลย จนกระทั้งเข้าประถมฯ มีคริสเตียนมาแจกหนังสือพระเยซูเปรมก้อรับมาอ่านตอนนั้นไม่รู้เรื่องอาไรหรอก จนพอที่จะรู้อะไรบ้างแล้วว่าพระเยซูเป็นใคร แม่พระเป็นใคร ตั้งแต่นั้นมาเปรมก้อมีความทรงจำในทำนองที่ว่าเห็นรูปแม่พระ เห็นรูปพระเยซูที่ไหนกัอจะยกมือไหว้บ่อย ๆ ทั้งที่ไม่ได้รู้จักอะไรเลย จนโตขึ้นมีโอกาสได้ไปวัดและรู้จักพระทำให้เปรมมีวันนี้ได้
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 1:32 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ตั้งใจจะไปวัดตั้งนานแล้วครับ แต่ว่าไม่มีโอกาศไป จนกระทั่งไปพบกับยูนิฟิเคชั่นเชิร์ช (คริสเตียนหลายท่านในที่นี้คงทราบดีว่าเป็นที่ไหน) อยู่นั่นสิบกว่าปีก็ยังไม่ใช่ เลยออกมา แล้วก็ให้บังเอิญได้ไปอยู่กับโบสถ์เกาหลีอีก (โบสถ์นี้ก็ออกแนวนอกรีตติ๊ดๆๆ บ้างก็ว่าใช่ บ้างก็ว่าไม่ใช่ ส่วนใช่หรือไม่ใช่ผมไม่รู้) อยู่ได้ประมาณปีหนึ่งก็ออกมา เพราะมันไม่ใช่ตัวผมที่จะต้องมองทุกอย่างในโลกผิดหมด กลับบ้านที่สงขลาก็จะให้ขึ้นมานมัสการที่กรุงเทพ เราบอกว่าขอนมัสการที่สงขลาได้ไหม ก็ไม่ค่อยจะพอใจ ไปตัดผมสั้นแบบเกรียนก็เตือนในทำนองว่าไม่ดี บริษัททำบุญโรงงานก็ดันไปเรียกเขาว่าทำบาปโรงงาน สุดท้ายก็เลยออกมาอีก จนกระทั่งตัดสินใจไปเรียนคำสอน เพราะตัวเองรู้สึกผูกพันกับวัดมานานตั้งแต่เด็กๆแล้วเพียงแต่ยังไม่มีโอกาส วันนั้นตัดสินใจหาที่เรียนคำสอนโดยไปหาคนที่เป็นคริสตังที่อยู่แถวราม ไม่รู้จักเขาหรอกแต่จำได้ว่าร้านนั้นเขาเป็นคริสตัง เลยเข้าไปคุยกับเขาว่าจะหาเรียนคำสอนได้ที่ไหน เขาแนะนำให้ไปเรียนคำสอนกับซิสเตอร์ซาเลเซียนที่ซอยราม 22 ช่วงที่ยังไม่ได้เรียนคำสอนก็เคว้งคว้างอยู่ สิ่งที่พระเปิดใจในตอนเรียนคำสอนก็คือเรื่องความรอดนอกพระศาสนจักร มันตรงกับความคิดผมพอดี มันตรงกับที่ผมหาพอดี ผมเชื่อว่ามีพระ มีความรอดอยู่ตั้งนานแล้ว แต่จุดนี้คือจุดที่พระเรียกให้ผมเข้ามาพระองค์อย่างเป็นเรื่องเป็นราวเสียที ก็เลยล้างบาป ส่วนแฟนผมก็เป็นผลพวงมาจากยูนิฟิเคชั่นเชิร์ช เธอไม่ได้นับถือทางโน้นแต่บังเอิญเหลือเกินที่เธอไปรู้จักช่วงสั้นๆ เราเลยได้รู้จักกันตามธรรมเนียมทางโน้นครับ
ผมว่าแต่ละคนพระเรียกด้วยวิธีการที่แตกต่างกันนะครับ
ผมว่าแต่ละคนพระเรียกด้วยวิธีการที่แตกต่างกันนะครับ
- St. AnGeLA MeriCi
- โพสต์: 286
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 05, 2005 12:50 pm
มาแนวเดียวกันเลยอะ บวกกระแสเรียกจากพระเยซูกะแม่พระ:+ La BouQueT +: เขียน: เพราะนู๋จบเซนต์ฟรัง เลยรู้จักแต่คาทอลิก 555+ :D
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
yeah finally i find someone like me hehehhotcake เขียน:มาแนวเดียวกันเลยอะ บวกกระแสเรียกจากพระเยซูกะแม่พระ:+ La BouQueT +: เขียน: เพราะนู๋จบเซนต์ฟรัง เลยรู้จักแต่คาทอลิก 555+ :D
เขาอุ้มหนูไป...ไปล้างน่ะค่ะmercy เขียน: มาร่วมแสดงความคิดเห็นและแบ่งปันพระพรกันหน่อยนะครับ ว่าทำไมคุณถึงเลือกที่จะเป็นคาทอลิก เพราะอะไรครับ....
สำหรับผมที่มาเลือกเป็นคาทอลิก เพราะคาทอลิกมีแม่พระ และมีความเป็นสากล โดยมีพระศาสนจักรเป็นศูนย์กลางแห่งความเชื่อ มีหลายทางที่จะให้เรารู้จักและเข้าใจน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า และมีความศักดิ์สิทธิ์ ขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีแบบแผน ที่สำคัญเป็นแล้วมีความสุขครับ.....แล้วคุณหล่ะ ?
เหมือนกัลลลลลลลลลลลลลลsabachthani เขียน:เขาอุ้มหนูไป...ไปล้างน่ะค่ะmercy เขียน: มาร่วมแสดงความคิดเห็นและแบ่งปันพระพรกันหน่อยนะครับ ว่าทำไมคุณถึงเลือกที่จะเป็นคาทอลิก เพราะอะไรครับ....
สำหรับผมที่มาเลือกเป็นคาทอลิก เพราะคาทอลิกมีแม่พระ และมีความเป็นสากล โดยมีพระศาสนจักรเป็นศูนย์กลางแห่งความเชื่อ มีหลายทางที่จะให้เรารู้จักและเข้าใจน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า และมีความศักดิ์สิทธิ์ ขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีแบบแผน ที่สำคัญเป็นแล้วมีความสุขครับ.....แล้วคุณหล่ะ ?
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
จริงแล้วชีวิตตั้งแต่เกิดมา ก็อยู่กับพระอยู่แล้ว ลืมตาดูโลกก็ในรพ.กรุงเทพคริสเตียน คุณพ่อ คุณแม่ มีเพื่อนเป็นมิสชั่นนารี คอรบครัวที่เป็นพุทธ มีทัศนคติที่ดี กับคริสตศาสนาพอสมควร
ตั้งแต่เด็กจนโต ก็อยู่ในโรงเรียน คริสต์ตลอด ทั้งคริสเตียน คริสตัง เริ่มแรก จากความรักในพระเยวูก่อน ตอนเด็ก ไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ ว่าอะไร ที่เรียกว่าศาสนา อะไรเรียกว่า คริสต์ รู้แต่ว่า พระเจ้าสร้างโลก รู้จักผู้ชายที่ชื่อเยซู ที่คอยรักษาคนที่เป็นโรคที่น่ารังเกียจ และข้างรั่วโรงเรียนคือ ศูนย์รักษาโรคเรื้อน ก็รู้สึกว่า ชายที่ชื่อเยซูที่ใจดี และน่ารัก แค่นั้น
คนที่มีผลต่อความเชื่อมากเลย คือแม่พระ คือตั้งแต่รู้จักแม่พระ เหมือนชีวิตก็ถูกดึงเข้าหาพระเจ้า เข้าหาความเชื่อมากขึ้น รู้จักรักที่จะสวดภาวนา รู้จักที่จะเป็นผู้ให้ และเริ่มเชื่อ
แต่ความถือดี แค่เพียงคำพูดที่ว่า ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่ไม่มีเหตุผล ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า พระเจ้ามีจริง ก็ทำให้ไม่สนใจเรื่องล้างบาป แต่ความเชื่อมันก็มีอยู่นะ แต่ก็เลือนไปตามเวลา จนในที่สุดวันหนึ่ง ก็แม่พระอีกแหละ ที่เป็นผู้เรียกมา เพราะการที่กลับมาวัดได้ นี่ เพราะ นั่งสมาธิแล้วคิดถึงแม่พระ เลยต้องมาเข้าวัดให้หายคิดถึง และทุกวันนี้ เราก็ไม่อายแล้ว ที่จะบอกว่า เรารัก และเชื่อในพระเป้นเจ้าค่ะ
ตั้งแต่เด็กจนโต ก็อยู่ในโรงเรียน คริสต์ตลอด ทั้งคริสเตียน คริสตัง เริ่มแรก จากความรักในพระเยวูก่อน ตอนเด็ก ไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ ว่าอะไร ที่เรียกว่าศาสนา อะไรเรียกว่า คริสต์ รู้แต่ว่า พระเจ้าสร้างโลก รู้จักผู้ชายที่ชื่อเยซู ที่คอยรักษาคนที่เป็นโรคที่น่ารังเกียจ และข้างรั่วโรงเรียนคือ ศูนย์รักษาโรคเรื้อน ก็รู้สึกว่า ชายที่ชื่อเยซูที่ใจดี และน่ารัก แค่นั้น
คนที่มีผลต่อความเชื่อมากเลย คือแม่พระ คือตั้งแต่รู้จักแม่พระ เหมือนชีวิตก็ถูกดึงเข้าหาพระเจ้า เข้าหาความเชื่อมากขึ้น รู้จักรักที่จะสวดภาวนา รู้จักที่จะเป็นผู้ให้ และเริ่มเชื่อ
แต่ความถือดี แค่เพียงคำพูดที่ว่า ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่ไม่มีเหตุผล ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า พระเจ้ามีจริง ก็ทำให้ไม่สนใจเรื่องล้างบาป แต่ความเชื่อมันก็มีอยู่นะ แต่ก็เลือนไปตามเวลา จนในที่สุดวันหนึ่ง ก็แม่พระอีกแหละ ที่เป็นผู้เรียกมา เพราะการที่กลับมาวัดได้ นี่ เพราะ นั่งสมาธิแล้วคิดถึงแม่พระ เลยต้องมาเข้าวัดให้หายคิดถึง และทุกวันนี้ เราก็ไม่อายแล้ว ที่จะบอกว่า เรารัก และเชื่อในพระเป้นเจ้าค่ะ
คงเป็นเพราะพระเจ้าดลใจผมให้เกลียดคำสอนของศาสนาพุทธครับ....
เพราะว่าอยู่ดีๆผมก็เกลียดคำสอนขึ้นมาเลย ตั้งคำถามต่างๆนานา ทั้งที่แต่ก่อนผมเป็นคนเคร่งศาสนานะ
จนผมปลีกตัวออกมาจากศาสนาพุทธ แล้วก็เหมือนกับพระเจ้าจะชี้นำทาง
ผมจึงได้มานับถือพระเจ้าครับ
แต่ถึงจะเริ่มใกล้ชิดพระองค์มากขึ้น แต่พ่อแม่ผมก็ยังทำตัวเหมือนโซ่ตรวนไม่ให้ผมไปใกล้ชิดกับพระองค์อยู่เลย
จนบัดนี้แม้แต่ไบเบิ้ลยังเคยไม่เห็นเลย....
เพราะว่าอยู่ดีๆผมก็เกลียดคำสอนขึ้นมาเลย ตั้งคำถามต่างๆนานา ทั้งที่แต่ก่อนผมเป็นคนเคร่งศาสนานะ
จนผมปลีกตัวออกมาจากศาสนาพุทธ แล้วก็เหมือนกับพระเจ้าจะชี้นำทาง
ผมจึงได้มานับถือพระเจ้าครับ
แต่ถึงจะเริ่มใกล้ชิดพระองค์มากขึ้น แต่พ่อแม่ผมก็ยังทำตัวเหมือนโซ่ตรวนไม่ให้ผมไปใกล้ชิดกับพระองค์อยู่เลย
จนบัดนี้แม้แต่ไบเบิ้ลยังเคยไม่เห็นเลย....
ขออนุญาตออกความเห็นนะคะ อยากเป็นกำลังใจให้จริงๆcoolmoon เขียน: คงเป็นเพราะพระเจ้าดลใจผมให้เกลียดคำสอนของศาสนาพุทธครับ....
เพราะว่าอยู่ดีๆผมก็เกลียดคำสอนขึ้นมาเลย ตั้งคำถามต่างๆนานา ทั้งที่แต่ก่อนผมเป็นคนเคร่งศาสนานะ
จนผมปลีกตัวออกมาจากศาสนาพุทธ แล้วก็เหมือนกับพระเจ้าจะชี้นำทาง
ผมจึงได้มานับถือพระเจ้าครับ
แต่ถึงจะเริ่มใกล้ชิดพระองค์มากขึ้น แต่พ่อแม่ผมก็ยังทำตัวเหมือนโซ่ตรวนไม่ให้ผมไปใกล้ชิดกับพระองค์อยู่เลย
จนบัดนี้แม้แต่ไบเบิ้ลยังเคยไม่เห็นเลย....
ความสัมพันธ์กับพระกับครอบครัวไปด้วยกันได้นะคะ อย่าคิดว่าพ่อแม่เป็นโช่ตรวน ถ้าความสัมพันธ์ของเรากับพระดีแล้ว พระเป็นเจ้าจะช่วยผสานให้เกิดความรักความเข้าใจในครอบครัวที่มากขึ้นกว่าเดิมด้วย
ไม่ขอไบเบิลจากเวบนี้ล่ะคะ
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=21.315
สวดให้ครอบครัวมากๆนะคะ วันนึงจะรู้ว่า ความรักจากพ่อแม่นี่แหละที่ทำให้เราเข้าใจความรักที่ไม่มีเงื่อนไขจากพระเป็นเจ้าได้มากที่สุด
ขอบคุณมากนะครับสำหรับกำลังใจBuddy เขียน: ขออนุญาตออกความเห็นนะคะ : xemo017 : อยากเป็นกำลังใจให้จริงๆ : xemo026 :
ความสัมพันธ์กับพระกับครอบครัวไปด้วยกันได้นะคะ อย่าคิดว่าพ่อแม่เป็นโช่ตรวน ถ้าความสัมพันธ์ของเรากับพระดีแล้ว พระเป็นเจ้าจะช่วยผสานให้เกิดความรักความเข้าใจในครอบครัวที่มากขึ้นกว่าเดิมด้วย : emo045 :
ไม่ขอไบเบิลจากเวบนี้ล่ะคะ ::004::
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=21.315
สวดให้ครอบครัวมากๆนะคะ : emo045 : วันนึงจะรู้ว่า ความรักจากพ่อแม่นี่แหละที่ทำให้เราเข้าใจความรักที่ไม่มีเงื่อนไขจากพระเป็นเจ้าได้มากที่สุด
เคยคิดจะขอครับ แต่ถ้าพ่อแม่ของผมเห็นเข้า ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับท่านดี
เพราะหลังจากที่ผมเลิกนับถือศาสนาพุทธแล้ว
พ่อแม่ของผมอยู่ดีๆก็เคร่งศานนาพุทธแทนผมเลยอะ
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
เราก็อาจจะต้อง แสดงความสนใจ อย่างพอดี ค่อยเป็นค่อยไป อย่าให้มากจนท่านไม่สบายใจ ถ้าคิดว่า พ่อกับแม่ เห็นไบเบิลแล้วจะมีปัญหา ก็อาจจะดูในเนตไปก่อน แต่ถ้าไม่ไหว ก็อาจจะพุดตรง ๆว่า อยากจะศึกษาสักหน่อย เพื่อที่จะรู้ว่า คำสอนของคริสต์ และพุทธ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ก็ดูจังหวะอารมร์ด้วยเน้อ ถ้าอะไรที่ทำให้พ่อแม่ ไม่สบายใจก็หยุด ๆไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลายเป็นความขัดแย้งในครอบครัวไปcoolmoon เขียน:ขอบคุณมากนะครับสำหรับกำลังใจBuddy เขียน: ขออนุญาตออกความเห็นนะคะ : xemo017 : อยากเป็นกำลังใจให้จริงๆ : xemo026 :
ความสัมพันธ์กับพระกับครอบครัวไปด้วยกันได้นะคะ อย่าคิดว่าพ่อแม่เป็นโช่ตรวน ถ้าความสัมพันธ์ของเรากับพระดีแล้ว พระเป็นเจ้าจะช่วยผสานให้เกิดความรักความเข้าใจในครอบครัวที่มากขึ้นกว่าเดิมด้วย : emo045 :
ไม่ขอไบเบิลจากเวบนี้ล่ะคะ ::004::
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=21.315
สวดให้ครอบครัวมากๆนะคะ : emo045 : วันนึงจะรู้ว่า ความรักจากพ่อแม่นี่แหละที่ทำให้เราเข้าใจความรักที่ไม่มีเงื่อนไขจากพระเป็นเจ้าได้มากที่สุด
เคยคิดจะขอครับ แต่ถ้าพ่อแม่ของผมเห็นเข้า ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับท่านดี
เพราะหลังจากที่ผมเลิกนับถือศาสนาพุทธแล้ว
พ่อแม่ของผมอยู่ดีๆก็เคร่งศานนาพุทธแทนผมเลยอะ
พระเจ้าสถิตกับเราอยู่แล้ว ตั้งแต่ที่เราเชื่อว่ามีพระองค์อยู่จริง ๆ เพราะฉะนั้น จงวางใจ และสวดภาวนาให้มาก ให้เราอดทนต่ออุปสรรคเหล่านี้ได้ สามารถจัดการได้อย่างมีสติและด้วยควมรักที่มีต่อครอบครัวนะจ้ะ อย่าลืมว่าพระเยซูเจ้า คือ องค์แห่งความสันตินะจ้ะ
ขอบคุณมากนะครับสำหรับกำลังใจ
เคยคิดจะขอครับ แต่ถ้าพ่อแม่ของผมเห็นเข้า ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับท่านดี
เพราะหลังจากที่ผมเลิกนับถือศาสนาพุทธแล้ว
พ่อแม่ของผมอยู่ดีๆก็เคร่งศานนาพุทธแทนผมเลยอะ
[/quote]
สวดเยอะๆค่ะ สวดให้ครอบครัว ให้กับตัวเอง พ่อกับแม่พยายามทำหน้าที่ของเค้าให้ดีที่สุดนะคะ พอเค้าเห็นลูกไม่นับถือพุทธ เค้าก็โทษตัวเองนะว่า เป็นความผิดของเค้าที่ไม่เป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น ถามว่าเค้าเคร่งจริงมั้ย ในใจอาจไม่เคร่งเท่าไหร่ แต่เค้าก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อลูก
พระเป็นเจ้าก็เหมือนกัน พอมนุษย์ทำบาป พระองค์เจ็บปวด เพราะบาปของมนุษย์ทำให้เราต้องห่างจากพระและอาจตกนรกชั่วนิรันดร์ นั่นหมายถึง เราต้องแยกจากพระองค์ชั่วนิรันดร์ และนั่นคือความเจ็บปวดที่สุดของคนที่รักเรามากที่สุด
พ่อกับแม่ก็กลัวเหมือนกัน กลัวเราต้องห่างจากท่าน เพราะท่านยังไม่รู้จักพระ ยังไม่รู้ว่า หนทางนี้จะทำให้เราชิดสนิทกับท่านมากกว่าเก่าอีก ท่านก็เลยทำตามวิธีของท่าน เพื่อไม่ให้เราจากท่านไป
ตอนนี้พระกำลังเตรียมตัวเราอยู่ อยากแนะนำให้นบนอบกับพ่อแม่ พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นในมุมมองของพระ สวดภาวนา และเราจะเรียนรู้อะไรอีกเยอะค่ะ เมื่อถึงเวลาสมควรที่เราจะได้อ่านพระคัมภีรฺ์ เรียนคำสอน เราก็จะพร้อมรับอย่างเต็มที่ค่ะ
เคยคิดจะขอครับ แต่ถ้าพ่อแม่ของผมเห็นเข้า ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับท่านดี
เพราะหลังจากที่ผมเลิกนับถือศาสนาพุทธแล้ว
พ่อแม่ของผมอยู่ดีๆก็เคร่งศานนาพุทธแทนผมเลยอะ
[/quote]
สวดเยอะๆค่ะ สวดให้ครอบครัว ให้กับตัวเอง พ่อกับแม่พยายามทำหน้าที่ของเค้าให้ดีที่สุดนะคะ พอเค้าเห็นลูกไม่นับถือพุทธ เค้าก็โทษตัวเองนะว่า เป็นความผิดของเค้าที่ไม่เป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น ถามว่าเค้าเคร่งจริงมั้ย ในใจอาจไม่เคร่งเท่าไหร่ แต่เค้าก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อลูก
พระเป็นเจ้าก็เหมือนกัน พอมนุษย์ทำบาป พระองค์เจ็บปวด เพราะบาปของมนุษย์ทำให้เราต้องห่างจากพระและอาจตกนรกชั่วนิรันดร์ นั่นหมายถึง เราต้องแยกจากพระองค์ชั่วนิรันดร์ และนั่นคือความเจ็บปวดที่สุดของคนที่รักเรามากที่สุด
พ่อกับแม่ก็กลัวเหมือนกัน กลัวเราต้องห่างจากท่าน เพราะท่านยังไม่รู้จักพระ ยังไม่รู้ว่า หนทางนี้จะทำให้เราชิดสนิทกับท่านมากกว่าเก่าอีก ท่านก็เลยทำตามวิธีของท่าน เพื่อไม่ให้เราจากท่านไป
ตอนนี้พระกำลังเตรียมตัวเราอยู่ อยากแนะนำให้นบนอบกับพ่อแม่ พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นในมุมมองของพระ สวดภาวนา และเราจะเรียนรู้อะไรอีกเยอะค่ะ เมื่อถึงเวลาสมควรที่เราจะได้อ่านพระคัมภีรฺ์ เรียนคำสอน เราก็จะพร้อมรับอย่างเต็มที่ค่ะ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
mommam เขียน: อยากไปวัดมั่ง เป็นโปรค่ะ
บ้านอยู่แถวไหนละคะ
จะได้ลองแนะนำวัดให้ หรืออาจจะแนะนำน้อง ๆ ให้พาเข้าวัดเป็น้พื่อนได้