เรื่องชีวิตหลังความตายที่เราจะได้ไปอยู่กับพระเป็นเจ้า เป็นความเชื่อและความหวังพื้นฐานของคริสตชนค่ะ ซึ่งถ้าเรามีความเชื่อ ความหวังเช่นนั้นแล้ว เราก็จะทำตัวดีขึ้น เพื่อที่เราจะสมควรได้รับแผ่นดินสวรรค์เป็นมรดก คนที่บอกว่า ตายไปก็ได้ไปพบพระ แต่ทำตัวเหมือนไม่มีพระในหัวใจ เค้าก็ไม่ได้เป็นผู้ที่มีความเชื่อ ความหวังอย่างแท้จริง ก็ไม่รู้เค้าจะไปอยู่กับพระยังไงเหมือนกันนะคะผมเป็นคนรักในศาสนา เขียน: ผมก็เคยไปนั่งดูเค้ารับศีลในโบสถ์ขลังดี แต่ผมว่าทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี
ปล. อยากถามว่าล้างบาปมาแล้วไปสร้างบาปใหม่แล้วก็มาล้างบาปซ้ำเรื่อยๆ นี่คุนจะได้ขึ้นสวรรค์หรือตกนรก? ไม่ได้กวนนะแต่อยากรู้จิงๆ เพราะเพื่อนผมมันทำอย่างนี้อ่ะมันบอกว่ายังไงตายไปก็ได้พบพระเจ้า :huh:
ทางคาทอลิก จะมีเรื่องไฟชำระและเรื่องศีลอภัยบาปอยู่ หลังรับศีลล้างบาป ถ้าคุณทำบาป และสำนึกผิด บาปจะได้รับการอภัย แต่ถ้าผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่ได้สารภาพบาป หรือผิดจนกระทั่งปฎิเสธพระเจ้าอย่างเต็มตัว คุณก็ตกนรก แต่ถ้าคุณไม่ได้ถึงขึ้นที่ว่า หนักมากขนาดปฎิเสธพระเจ้าอย่างเต็มตัว คุณก็ไปอยู่ในไฟชำระ เพื่อชำระคุณก่อนที่จะได้ไปสวรรค์ ในทางกลับกัน ถ้าคนๆนั้น เป็นคนดีมาตลอด ทำผิดก็สารภาพบาป ได้รับการอภัยบาป พอตายไป ก็ตรงไปสวรรค์เลย ไม่ต้องผ่านไฟชำระ
แต่ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเรื่องบาปก่อนนะคะ คำว่า บาป หมายถึงการที่ความสัมพันธ์ของเรากับพระเป็นเจ้าขาดไปหรือบั่นทอนไป การทำบาปเช่น พูดโกหก ขโมยของ มีจิตชั่ว ริษยา คิดไม่ดี ต่างๆนานา จะทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับพระขาดไปได้ เพราะพระเป็นเจ้าคือองค์ความรัก องค์ความดี การที่เราทำอะไรที่พระองค์ไม่ชอบ ความสัมพันธ์กับพระองค์ก็จะขาด ก็เรียกว่า บาป ดังนั้น ถึงแม้ว่า เราจะไม่ได้ทำผิดพระบัญญัติอะไร แต่ว่า เราไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเป็นเจ้า ไม่ได้ทำกิจการของพระองค์ ไม่ได้ช่วยเหลือใคร ไม่ยอมให้อภัยใคร ไม่อยู่ในกิจการแห่งความรัก เราก็ตกในบาปเช่นกัน ทำนองนี้น่ะค่ะ อย่างกรณีที่คุณโพสต์ไปอีกกระทู้นึงว่า จะหมายมาดให้คนที่สอนผิดบิดเบือน มีอันเป็นไป ทางคริสต์ก็ถือว่า บาป นะคะ คิดว่า พุทธก็น่าจะบาปเหมือนกัน เพราะว่า มีจิตที่มุ่งร้าย คือ ไม่ว่า ใครจะชั่วแค่ไหน เราก็ไม่มีสิทธิ์ไปคิดร้ายกับเค้าน่ะค่ะ ทางคาทอลิก ถ้าเกิดเราคิดแบบนี้ขึ้นมา เราก็ต้องไปสารภาพบาปน่ะค่ะ
พระอวยพรนะคะ
