อ่านที่น้องส้มแบ่งปันเกี่ยวกับเกมส์ก็เลยอยากแบ่งบันบ้าง ศาสนาพุทธเขาบอกว่าอบายมุขคือสิ่งที่เรากระทำไปแล้วนำไปสู่ความเสื่อมลงในชีวิต ถ้าพูดถึงเกมส์ เกมส์เป็นตัวทำใหเราเสื่อมลงในด้านเวลา ด้านการเสียเวลาไปโดยเปลาประโยชน์ ด้านการติดแล้วเล่นเลยเวลา แล้วถ้าเล่นตามร้านเกมส์ก็เปลืองเงินเปลืองทอง นอกจากนั้นเกมส์หลายๆ เกมมส์ยังฝึกให้เรามีความรุ่นแรก การฆ่ากัน การต่อสู้ แล้วถ้าเป็นเกมส์ออกไลน์ก็เกิดอารมณ์ไม่พอใจกับเพื่อนที่เล่นกันได้ หรือด่ากันเพื่อนในเกมส์ ร้านเกมส์น้องชายพี่เคยเปิดยังมีคนเอาปืนมายิ่งกันที่ร้านกระจกเป็นรูทะลุหมดลูกค้าต้องวิ่งหลบข้างเก้าอี้กัน ค่ากระจกเราก็ต้องออกเอง แต่เกมส์ดีๆ ที่สร้างสรรค์ก็มี ปกติพี่ไม่ได้เล่นเกมส์หรือชอบเล่นอะไรพวกนี้เลย รู้สึกว่ามันทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่ว่ามาเจอเกมส์พวกนี้ ซึ่งเคยเล่นนานแล้วรู้สึกว่าเป็นเกมส์ที่ดีมากเลยยกมาให้ดู
เกมส์ที่สร้างสรรค์ก็มีเท่าที่พี่เจอ เช่น เกมส์ Boku No Natsuyasumi
เกมส์นี้เป็นเกมส์ที่ฝึกให้เรามีใจรักธรรมชาติมีจิตใจที่อ่อนโยน ทั้งเล่นสนุก
เกมส์ Harvest Moon
เป็นเกมส์ที่ฝึกให้เรารู้จักหาเงินหาทองมีรายได้ฝึกให้รู้จักฉลาด และวางแผนในการทำมาหากิน
เกมส์ the sims
เป็นเกมส์ที่ฝึกฝนเราให้รู้จักเข้าสังคม เกมส์ที่พี่ยกมาทั้งสามเกมส์ถ้าเล่นแล้วมีแต่สร้างให้เรามีศักยภาพมากขึ้นมีคุณภาพมากขึ้น ถ้าว่ากันตามเนื้อหาของเกมส์ 3 เกมส์นี้แล้วไม่ถือว่าเป็นอบายมุขแต่อย่างใดเพราะไม่ได้พาไปสู่จุดเสื่อมแต่พาไปสู่จุดสร้าง แต่มันก็กลายเป็นอบายมุขได้ถ้าคนเล่น เล่นติด เล่นแบบไม่แบ่งเวลา เล่นจนเสียเวลาเรียน เสียเวลาทำการทำงาน มันก็กลายเป็นอบายมุขไป
แบงปันเรื่องลมปราญบ้าง แต่ถ้าเราฝึกลมปราณฝึกแล้วจิตเราสงบแก้โรคจิดฟุ้งซ่านได้ก็ถือว่าดี พี่ไม่รู้ว่าการฝึกลมปรามเป็นการฝึกชนิดเดียวกับกำลังภายในหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างเดียวกันมันก็ไม่น่าทำให้เราเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์อะไร มันก็แค่การนั่งสมาธิแล้วให้ความรู้สึกว่าลมไหลไปตามจุดต่างๆ เหมือนกันว่าให้จิตเราอยู่นิ่งในจุดนั้นให้ความรู้สึกเราอยู่ที่จุดนั้นแล้วก็หายใจเข้าออกโดยให้ลมหายใจเราไหลไปยังจุดนั้น มันจะไปจริงหรือไม่ก็ไม่รู้แต่เชื่อว่ามันน่าจะเป็นการสะกดจิตตัวเอง ถ้านั่งได้นานๆ แล้วสุขภาพดี จิตใจดี อะไรที่มันทำแล้วเกิดการบวกกับชีวิตเรา สิ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่ดี แต่อะไรที่ทำไปแล้วเป็นผลลบแก่ชีวิตเราสิ่งนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี ส่วนเรื่องเสียเวลา การดูทีวีก็เสียเวลาเหมือนกันแต่ว่าเราก็ควรแบ่งเวลาในการฝึกลมปราณ ไม่ใช่ฝึกมันจนเสียการเสียงาน เสียเรื่องการเรียน อย่างนี้การฝึกลมปราญตามตามคำสอนของทางศาสนาพุทธก็เข้ากับคำว่าอบายมุขเช่นกัน เพราะไม่ได้สร้างสรรค์แต่ทำให้เราไปถึงจุดเสื่อม
การรำมวยจึนไท้เก็กก็ดีนะครับอยากแนะนำช่วยรักษาสุภาพเราให้แข็งแรงด้วย โยคะถ้าทำแล้วดีก็น่าจะทำเพราะถ้าทำแล้วมันสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับตัวเราเป็นผลบวกมากกว่าลบละก็ดีทั้งนั้นครับ
ปล.ที่พี่ใช้คำของชาวพุทธคำว่า อบายมุข พี่เห็นว่ามันตรงกับความหมายดีก็เลยยกมา