คริสตชนสามารถฝึกปราณได้ไหม

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
อยากรู้

ศุกร์ มี.ค. 06, 2009 10:06 pm

คือครั้งหนึ่งข้าพเจ้าได้ทำการฝึกสมาธิแบบหนึ่งเข้า ผลปรากฎว่า ขณะทำอยู่นั้น ข้าพเจ้ารู้สึกถึงกลุ่มไอความร้อนเหมือนน้ำเดือดอยู่ในตัวข้าพเจ้า แล้วมันก็กระจายไปทั่วกาย แทนที่ข้าพเจ้าจะร้อนจนเหงื่อออก แต่กลับรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก แล้วก็ติดใจฝึกบ่อยๆ แต่ทำได้ขั้นนั้นแค่ครั้งเดียว ::010:: แล้วข้าพเจ้ามานั่งคิดว่านี่น่าจะเป็นการฝึกปราณมากกว่า

อยากถามว่า คริสตชนสามารถฝึกปราณได้ไหมครับ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

ศุกร์ มี.ค. 06, 2009 10:20 pm

ถ้าทำแล้วแค่รู้สึกสนุก  รู้สึกดี  หรือรู้สึกว่า  "เราดูศักดิ์สิทธิ์จัง"  ก็อย่าไปทำเลยค่ะ  ::001:: ก็อาจจะเล่นได้นะ  แต่อย่าให้ติด  ::001:: ไม่งั้นเราก็ไม่ต่างจากการติดเกมส์ หรือติดอย่างอื่นหรอก  จริงมั้ยคะ  และยิ่งเรารู้สึกว่า ศักดิ์สิทธิ์  ยิ่งไม่ดีใหญ่ เพราะมันจะเป็นการเพิ่ม spiritual ego ให้กับเรา  (เป็นอีโก้ทางจิตน่ะค่ะ)

เสริมเรื่องการอดในมหาพรตนะคะ  มีพ่อท่านนึงบอกว่า หลายครั้งเราอดเพื่อให้เรารู้สึกดี รู้สึกศักดิ์สิทธิ์  แบบนั้นจะเป็นผลกับวิญญาณน้อยมาก  ทั้งยังทำให้เกิดอีโก้ฝ่ายจิตด้วย  คุณพ่อเคยขออธิการพลีกรรมด้วยการไม่นอนหนุนหมอนตลอดมหาพรต  พ่อบอกว่า  ตอนนั้นรู้สึกทรมาน  รู้สึกพลีกรรม และรู้สึกศักดิ์สิทธิ์  ::001:: แต่เมื่อชีวิตฝ่ายจิตเติบโตขึ้นก็มาเรียนรู้ว่า  ที่ทำไปนั่นน่ะ  มีผลกับจิตวิญญาณน้อย และไปเพิ่มอีโก้ฝ่ายจิตให้ตัวเองอีกต่างหาก  ::001::  อันนี้ต้องการอธิบายให้เห็นภาพเรื่องอีโก้ฝ่ายจิตนะคะ  ::001::

แต่ถ้าฝึกแล้ว  ทำให้เราละเอียดอ่อนขึ้น  ฟังเสียงพระได้ดีขึ้น  มีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับพระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์  ก็ทำได้ค่ะ  ::001::

พระอวยพรนะคะ  ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

ศุกร์ มี.ค. 06, 2009 10:38 pm

เป็นเคสเดียวกับการฝึกโยคะครับ

ถ้าเพื่อสุขภาพ ก็โอเค แตถ้าเพื่อประโยชน์ด้านจิตวิญญาณ คงไม่ครับ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

ศุกร์ มี.ค. 06, 2009 11:02 pm

จริงๆโยคะ  ก็มีผลดีกับจิตวิญญาณนะคะ นอกเหนือจากการมีสุขภาพกายที่ดีทำให้สุขภาพจิตดีไปด้วย  อีกแง่นึงคือ  ทำให้เราได้เห็นและตระหนักถึงพระพรที่พระให้เรามามากขึ้น  ได้ขอบคุณพระมากขึ้นว่า  พระองค์ให้เรามามากจริงๆ  ถ้าไม่ฝึกโยคะ น้อยคนที่จะรู้ถึงกล้ามเนื้อมัดที่เล็กที่สุดที่พระให้เรามา  ได้เห็นความมหัศจรรย์ของการสร้างของพระองค์  และที่สำคัญ  ได้ซาบซึ้งถึงคำพระที่ว่า  "พรใดที่ไม่ได้ใช้ จะถูกริบคืน"  กล้ามเนื้อหลายมัดที่เรามี  เราไม่ได้ใช้  หรือใช้ไม่เต็มที่  เราจะรู้เลยว่า  ทำไมเราขยับแบบนั้นไม่ได้อ่ะ  ทำไมครูเค้าขยับได้  ::008::  หลายอย่างเลยที่พระให้เรามา  แล้วเรามองข้ามไป  ::001::

...  และการที่เรารู้จักร่างกายเรา  ก็จะมีส่วนช่วยให้เรารู้จักวิญญาณตัวเอง  ให้เราได้ละเอียดขึ้นในการฟังเสียงพระ  ::001::

ขอให้ทำทุกอย่าง  เพื่อพระสิริมงคลของพระเจ้านะคะ  ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

เสาร์ มี.ค. 07, 2009 6:37 am

Buddy เขียน:
จริงๆโยคะ  ก็มีผลดีกับจิตวิญญาณนะคะ นอกเหนือจากการมีสุขภาพกายที่ดีทำให้สุขภาพจิตดีไปด้วย  อีกแง่นึงคือ  ทำให้เราได้เห็นและตระหนักถึงพระพรที่พระให้เรามามากขึ้น  ได้ขอบคุณพระมากขึ้นว่า  พระองค์ให้เรามามากจริงๆ  ถ้าไม่ฝึกโยคะ น้อยคนที่จะรู้ถึงกล้ามเนื้อมัดที่เล็กที่สุดที่พระให้เรามา  ได้เห็นความมหัศจรรย์ของการสร้างของพระองค์  และที่สำคัญ  ได้ซาบซึ้งถึงคำพระที่ว่า  "พรใดที่ไม่ได้ใช้ จะถูกริบคืน"  กล้ามเนื้อหลายมัดที่เรามี  เราไม่ได้ใช้  หรือใช้ไม่เต็มที่  เราจะรู้เลยว่า  ทำไมเราขยับแบบนั้นไม่ได้อ่ะ  ทำไมครูเค้าขยับได้   ::008::  หลายอย่างเลยที่พระให้เรามา  แล้วเรามองข้ามไป   ::001::

...  และการที่เรารู้จักร่างกายเรา  ก็จะมีส่วนช่วยให้เรารู้จักวิญญาณตัวเอง  ให้เราได้ละเอียดขึ้นในการฟังเสียงพระ  ::001::

ขอให้ทำทุกอย่าง  เพื่อพระสิริมงคลของพระเจ้านะคะ 
  ::001::
ตามมาขอบคุณน้องส้มในกระทู้นี้อีก... เตือนใจได้ดีจังคะ ::001::
taiyo
โพสต์: 658
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 22, 2006 12:01 am

เสาร์ มี.ค. 07, 2009 8:24 am

ผมก็เคยฝึกครับ แต่เป็นแนวธิเบต ตอนนั้นเจ็บแขนมากๆ เลยลองใช้การทำสามธิแบบธิเบตคือ 1 สัมผัสและรับรู้ถึงความเจ็บปวดนั้น คือเพ่งสัมผัสกับความเจ็บปวดนั้นให้รับรู้ความเจ็บปวดนั้นอย่างเดียว 2.รวมมันเป็นหนึ่งเดียวกับเรา ต้องไม่ต่อต้านความเจ็บปวดนั้น และยอมรับมันเป็นส่วนหนึ่งของเรา เปิดใจรับมัน 3. คือ ปล่อยมันไป และทำใจให้สบาย ปล่อยความเจ็บปวดนั้นไป ให้มันเป็นอิสระ

หลังทำไม่เกิน 10 นาที อาการปวดที่แขน หายปลิดทิ้งเลย อันนี้ผมยอมรับเลยว่าผมทึ่งกับผลที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง ชาวธิเบตเรียนรู้วิธีการรักษาแบบไม่ต้องใช้ยา แต่ใช้พลังในร่างกายหรือจิตรักษาตัวเองได้ ทำให้เราได้ค้นพบความอัศจรรย์ในร่างกายมนุษย์ที่พระเจ้าทรงสร้างไว้ บางทีในร่างกายเรา พระเจ้าอาจจะใส่ความสามารถให้กับเรามากกว่าที่เราเห็น เพียงแต่เราต้องเรียนรู้แล้วนำเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ครับ

จริงๆก่อนที่ผมจะมาเป็นคริสต์นั้น ผมได้ประสบการณ์หลายอย่างจากสามธิมากมาย เป็นประสบการณ์ส่วนตัว เช่น ทำสมาธิจนถึงระดับหนึ่ง(ไม่ขอบอกนะครับว่าระดับไหน เดี๋ยวจะเหมือนอวดตัวเอง) ใช้เวลา 2ชั่วโมง(ก่อนทำดูนาฬิกา ทำเสร็จแล้วมาคิดทีหลัง ผมนั้งไม่กระดุกกระดิก2ชั่วโมง ทำได้ไงวะเนี่ยเรา ::010:: ครั้งแรกในชิวิต) เนื่องจากตัวผมเองเป็นคนที่คิดโน้นคิดนี่ไม่หยุด ควบคุมไม่ได้ นอนก็ไม่ค่อยจะหลับ เซ็งมากๆ เลยต้องใช้สมาธิมาช่วย ตอนนี้ก็ทำสมาธิแบบคริสต์ที่โพสไว้ที่นี่บ่อยๆ ไม่ทำเดี๋ยวหลับยากครับ ยอมรับว่าประสาทตัวเองแข็งมาก ขณะหลับยังรู้ตัวเลยว่าหลับไม่สนิท ตื่นก็รู้สึกเพลีย เซ็งๆๆๆ ::008::
แก้ไขล่าสุดโดย taiyo เมื่อ เสาร์ มี.ค. 07, 2009 8:35 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Cecilia_PEAR
โพสต์: 202
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:23 pm
ที่อยู่: 1506/504 ซ.7/ม.สราลี เทพารักษ์ สป. // อาสนวิหาอัสสัมชัญ
ติดต่อ:

พุธ มี.ค. 11, 2009 8:45 am

คล้ายๆเหมือนเห็นในกระทู้ที่บอร์ด พลังจิต ป่าว?

...เหมือนที่ข้างบนบอก ถ้าฝึกแบบโยคะไรประมาณนั้น ก็ดีต่อสุภาพค่ะ ดีมากๆ  : emo027 :

...แต่ถ้าฝึกเพื่อประโยชน์ด้านจิตวิญญาณ หรือเท่าที่จำได้ ถ้าฝึกเพราะอยากพบพระองค์ ดิฉันว่าไม่ต้องดิ้นรนหรอกค่ะ

...เราพบพระองค์อยู่เสมอทุกเมื่อเชื่อวันอยู่แล้ว พระองค์สัมผัสคุณอยู่แล้ว เพียงแต่คุณจะรู้สึก   : emo038 :


พระอวยพรค่ะ  : emo045 :
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ มี.ค. 11, 2009 8:47 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

พุธ มี.ค. 11, 2009 5:13 pm

จะบอกว่านักบุญหลายๆองค์เค้าก็ฝึกกันนะเอ้อ  ::017::
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

พุธ มี.ค. 11, 2009 6:11 pm

อ่านที่น้องส้มแบ่งปันเกี่ยวกับเกมส์ก็เลยอยากแบ่งบันบ้าง ศาสนาพุทธเขาบอกว่าอบายมุขคือสิ่งที่เรากระทำไปแล้วนำไปสู่ความเสื่อมลงในชีวิต ถ้าพูดถึงเกมส์ เกมส์เป็นตัวทำใหเราเสื่อมลงในด้านเวลา ด้านการเสียเวลาไปโดยเปลาประโยชน์ ด้านการติดแล้วเล่นเลยเวลา แล้วถ้าเล่นตามร้านเกมส์ก็เปลืองเงินเปลืองทอง นอกจากนั้นเกมส์หลายๆ เกมมส์ยังฝึกให้เรามีความรุ่นแรก การฆ่ากัน การต่อสู้ แล้วถ้าเป็นเกมส์ออกไลน์ก็เกิดอารมณ์ไม่พอใจกับเพื่อนที่เล่นกันได้ หรือด่ากันเพื่อนในเกมส์ ร้านเกมส์น้องชายพี่เคยเปิดยังมีคนเอาปืนมายิ่งกันที่ร้านกระจกเป็นรูทะลุหมดลูกค้าต้องวิ่งหลบข้างเก้าอี้กัน ค่ากระจกเราก็ต้องออกเอง แต่เกมส์ดีๆ ที่สร้างสรรค์ก็มี ปกติพี่ไม่ได้เล่นเกมส์หรือชอบเล่นอะไรพวกนี้เลย รู้สึกว่ามันทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่ว่ามาเจอเกมส์พวกนี้ ซึ่งเคยเล่นนานแล้วรู้สึกว่าเป็นเกมส์ที่ดีมากเลยยกมาให้ดู

เกมส์ที่สร้างสรรค์ก็มีเท่าที่พี่เจอ เช่น เกมส์ Boku No Natsuyasumi

รูปภาพ

เกมส์นี้เป็นเกมส์ที่ฝึกให้เรามีใจรักธรรมชาติมีจิตใจที่อ่อนโยน ทั้งเล่นสนุก

เกมส์ Harvest Moon

รูปภาพ

เป็นเกมส์ที่ฝึกให้เรารู้จักหาเงินหาทองมีรายได้ฝึกให้รู้จักฉลาด และวางแผนในการทำมาหากิน

เกมส์ the sims

รูปภาพ

เป็นเกมส์ที่ฝึกฝนเราให้รู้จักเข้าสังคม เกมส์ที่พี่ยกมาทั้งสามเกมส์ถ้าเล่นแล้วมีแต่สร้างให้เรามีศักยภาพมากขึ้นมีคุณภาพมากขึ้น ถ้าว่ากันตามเนื้อหาของเกมส์ 3 เกมส์นี้แล้วไม่ถือว่าเป็นอบายมุขแต่อย่างใดเพราะไม่ได้พาไปสู่จุดเสื่อมแต่พาไปสู่จุดสร้าง แต่มันก็กลายเป็นอบายมุขได้ถ้าคนเล่น เล่นติด เล่นแบบไม่แบ่งเวลา เล่นจนเสียเวลาเรียน เสียเวลาทำการทำงาน มันก็กลายเป็นอบายมุขไป

แบงปันเรื่องลมปราญบ้าง แต่ถ้าเราฝึกลมปราณฝึกแล้วจิตเราสงบแก้โรคจิดฟุ้งซ่านได้ก็ถือว่าดี พี่ไม่รู้ว่าการฝึกลมปรามเป็นการฝึกชนิดเดียวกับกำลังภายในหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างเดียวกันมันก็ไม่น่าทำให้เราเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์อะไร มันก็แค่การนั่งสมาธิแล้วให้ความรู้สึกว่าลมไหลไปตามจุดต่างๆ เหมือนกันว่าให้จิตเราอยู่นิ่งในจุดนั้นให้ความรู้สึกเราอยู่ที่จุดนั้นแล้วก็หายใจเข้าออกโดยให้ลมหายใจเราไหลไปยังจุดนั้น มันจะไปจริงหรือไม่ก็ไม่รู้แต่เชื่อว่ามันน่าจะเป็นการสะกดจิตตัวเอง ถ้านั่งได้นานๆ แล้วสุขภาพดี จิตใจดี อะไรที่มันทำแล้วเกิดการบวกกับชีวิตเรา สิ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่ดี แต่อะไรที่ทำไปแล้วเป็นผลลบแก่ชีวิตเราสิ่งนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี ส่วนเรื่องเสียเวลา การดูทีวีก็เสียเวลาเหมือนกันแต่ว่าเราก็ควรแบ่งเวลาในการฝึกลมปราณ ไม่ใช่ฝึกมันจนเสียการเสียงาน เสียเรื่องการเรียน อย่างนี้การฝึกลมปราญตามตามคำสอนของทางศาสนาพุทธก็เข้ากับคำว่าอบายมุขเช่นกัน เพราะไม่ได้สร้างสรรค์แต่ทำให้เราไปถึงจุดเสื่อม

การรำมวยจึนไท้เก็กก็ดีนะครับอยากแนะนำช่วยรักษาสุภาพเราให้แข็งแรงด้วย โยคะถ้าทำแล้วดีก็น่าจะทำเพราะถ้าทำแล้วมันสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับตัวเราเป็นผลบวกมากกว่าลบละก็ดีทั้งนั้นครับ

ปล.ที่พี่ใช้คำของชาวพุทธคำว่า อบายมุข พี่เห็นว่ามันตรงกับความหมายดีก็เลยยกมา
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พุธ มี.ค. 11, 2009 10:28 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Florian
โพสต์: 1513
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พฤหัสฯ. มี.ค. 12, 2009 8:40 am

sasuke เขียน: จะบอกว่านักบุญหลายๆองค์เค้าก็ฝึกกันนะเอ้อ   ::017::
ฝึกอะไรเหรอ  ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

พฤหัสฯ. มี.ค. 12, 2009 12:39 pm

Florian เขียน:
sasuke เขียน: จะบอกว่านักบุญหลายๆองค์เค้าก็ฝึกกันนะเอ้อ   ::017::
ฝึกอะไรเหรอ   ::001::
ฝึกจิตครับ เช่น นักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขน เป็นต้น
ตอบกลับโพส