ขอถามหน่อยนะคับ
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
คือว่าถ้าเกิดเราตายไปแล้วเนี่ย เราจะไปไหนต่อ(ตามความเชื่อของคาทอลิกนะคับ) ฆ่าสัตว์จะบาปมั้ย แล้วสัตว์มีวิญญาณไหมคับ
สดุดี104:24
ข้าแต่พระเจ้า พระราชกิจของพระองค์มากมายจริงๆ
พระองค์ทรงสร้างการงานนั้นทั้งสิ้นด้วยพระปัญญา
แผ่นดินโลกมีสิ่งที่ทรงสร้างเต็มหมด
ทะเลอยู่ข้างโน้น ทั้งใหญ่และกว้าง
ซึ่งในนั้นมีสิ่งเคลื่อนไหวนับไม่ถ้วน
คือสัตว์ที่มีชีวิตทั้งเล็กและใหญ่
กำปั่นแล่นไปโน่นแน่ะ
และเลวีอาธาน(สัตว์ทะเล ขนาดมหึมา) ที่พระองค์ สร้างไว้ให้เล่นในนั้น
สิ่งเหล่านี้แหงนหาพระองค์
เพื่อให้พระองค์ประทานอาหารแก่มันตามเวลา
เมื่อพระองค์ประทานให้ มันก็เก็บไป
เมื่อพระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์ออก มันก็อิ่มหนำด้วยของดี
เมื่อพระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์เสีย มันทั้งหลายก็ลำบากใจ
เมื่อพระองค์ทรงเอาลมหายใจมันไปเสีย มันก็ตาย และกลับเป็นผงคลี
เมื่อพระองค์ทรงส่งวิญญาณของพระองค์ออกไป มัน ก็ถูกสร้างขึ้นมา
และพระองค์ก็ทรงเปลี่ยนโฉมหน้าของพื้นดินเสียใหม่
ข้าแต่พระเจ้า พระราชกิจของพระองค์มากมายจริงๆ
พระองค์ทรงสร้างการงานนั้นทั้งสิ้นด้วยพระปัญญา
แผ่นดินโลกมีสิ่งที่ทรงสร้างเต็มหมด
ทะเลอยู่ข้างโน้น ทั้งใหญ่และกว้าง
ซึ่งในนั้นมีสิ่งเคลื่อนไหวนับไม่ถ้วน
คือสัตว์ที่มีชีวิตทั้งเล็กและใหญ่
กำปั่นแล่นไปโน่นแน่ะ
และเลวีอาธาน(สัตว์ทะเล ขนาดมหึมา) ที่พระองค์ สร้างไว้ให้เล่นในนั้น
สิ่งเหล่านี้แหงนหาพระองค์
เพื่อให้พระองค์ประทานอาหารแก่มันตามเวลา
เมื่อพระองค์ประทานให้ มันก็เก็บไป
เมื่อพระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์ออก มันก็อิ่มหนำด้วยของดี
เมื่อพระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์เสีย มันทั้งหลายก็ลำบากใจ
เมื่อพระองค์ทรงเอาลมหายใจมันไปเสีย มันก็ตาย และกลับเป็นผงคลี
เมื่อพระองค์ทรงส่งวิญญาณของพระองค์ออกไป มัน ก็ถูกสร้างขึ้นมา
และพระองค์ก็ทรงเปลี่ยนโฉมหน้าของพื้นดินเสียใหม่
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
1.เมื่อเราตาย "ในที่สุด" เราจะได้พบพระเจ้าแบบ Face to Face ครับ~Holy Bible~ เขียน: คือว่าถ้าเกิดเราตายไปแล้วเนี่ย เราจะไปไหนต่อ(ตามความเชื่อของคาทอลิกนะคับ) ฆ่าสัตว์จะบาปมั้ย แล้วสัตว์มีวิญญาณไหมคับ
(ผมไม่ได้บอกว่า ตายปุ๊บไปพบพระเจ้าปั๊บนะครับ)
2.ฆ่าสัตว์บาปหรือไม่
"1.ความเข้าใจ 2.ความเต็มใจ 3.ความหนักเบาของความผิด"
บาปเบา คือ การกระทำหนึ่งในสามข้อนี้ไม่ครบ ถ้าคุณเข้าใจ ตั้งใจ เต็มใจ จะฆ่าสัตว์ "บาป"
3.สัตว์มีวิญญาณหรือไม่
หนังสือคำสอนปัจจุบันไม่ได้บอก,พระคัมภีร์คาทอลิกภาษาไทยไม่ได้กล่าวไว้
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องปิดตาย นักปรัชญาและเทววิทยาคาทอลิกทั่วโลกก็มีพูดเรื่องนี้ไว้ ลองศึกษาดูครับ
ขอแย้งครับ เพราะไม่มีบทบัญญัติใดกล่าวถึงไว้Man of Macedonia เขียน: 2.ฆ่าสัตว์บาปหรือไม่
"1.ความเข้าใจ 2.ความเต็มใจ 3.ความหนักเบาของความผิด"
บาปเบา คือ การกระทำหนึ่งในสามข้อนี้ไม่ครบ ถ้าคุณเข้าใจ ตั้งใจ เต็มใจ จะฆ่าสัตว์ "บาป"
ในอดีตสมัยพระธรรมเดิม มีการฆ่าสัตว์ถวายบูชา ซึ่งรู้ตัวเต็มใจทั้งสิ้น แบบนั้นจะบาปกันทุกคนสิ
น.เปโตรเป็นชาวประมง จับปลามากินมาขายทุกวี่วัน ก็บาปสิ
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
ครับ ไม่มีในพระคัมภีร์Holy เขียน:ขอแย้งครับ เพราะไม่มีบทบัญญัติใดกล่าวถึงไว้Man of Macedonia เขียน: 2.ฆ่าสัตว์บาปหรือไม่
"1.ความเข้าใจ 2.ความเต็มใจ 3.ความหนักเบาของความผิด"
บาปเบา คือ การกระทำหนึ่งในสามข้อนี้ไม่ครบ ถ้าคุณเข้าใจ ตั้งใจ เต็มใจ จะฆ่าสัตว์ "บาป"
ในอดีตสมัยพระธรรมเดิม มีการฆ่าสัตว์ถวายบูชา ซึ่งรู้ตัวเต็มใจทั้งสิ้น แบบนั้นจะบาปกันทุกคนสิ
น.เปโตรเป็นชาวประมง จับปลามากินมาขายทุกวี่วัน ก็บาปสิ
ให้ถือเอาตามที่ พระคัมภีร์และข้อคำสอน ปัจจุบันระบุไว้แล้วกันครับ
ปล.ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ เรื่องคริสตจริยศาสตร์เท่าไหร่ ผลุนผลันยกมาขอโทษด้วยครับ
ถ้าฆ่าแบบจิตอาฆาต ถึงแม้จะไม่ฆ่าสัตว์ แต่ไปฟันต้นไม้ ก็บาปนะคะ เพราะใจข้างในของเรามันบาป
ถึงแม้สัตว์ไม่มีวิญญาณแบบเรา แต่ก็เป็นสิ่งสร้างของพระองค์ ถ้าเราเอามาเป็นอาหาร ไม่บาป แต่ถ้าฆ่าเล่นเพื่อความสนุก ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่พระองค์ให้เรามาก ฆ่าแบบจิตอาฆาต ก็บาปค่ะ เพราะวิญญาณเราบาป เราฆ่าวิญญาณตัวเอง
อันนี้ที่พี่เข้าใจนะคะ
ถึงแม้สัตว์ไม่มีวิญญาณแบบเรา แต่ก็เป็นสิ่งสร้างของพระองค์ ถ้าเราเอามาเป็นอาหาร ไม่บาป แต่ถ้าฆ่าเล่นเพื่อความสนุก ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่พระองค์ให้เรามาก ฆ่าแบบจิตอาฆาต ก็บาปค่ะ เพราะวิญญาณเราบาป เราฆ่าวิญญาณตัวเอง
อันนี้ที่พี่เข้าใจนะคะ

ลองอ่านอันนี้ดูครับ
15 มีนาคม
"พ่อคันตาลาเมสซ่า " ย้ำคริสตชนต้องรักษ์โลกเพราะนี่คือสิ่งสร้างของพระเจ้า
บาทหลวงรานิเอโร่ คันตาลาเมสซ่า นักเทศน์ชื่อดังประจำวาติกัน เตือนสติ มนุษย์ต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะนี่คืออลังการงานสร้างจากพระจิตเจ้า ชี้ชัด การที่มนุษย์สร้างและประดิษฐ์สิ่งต่างๆในโลก ล้วนเป็นผลจากพระจิตผู้เป็นปฐมแห่งการสร้างสรรค์ทั้งมวล
ดูคลิปได้ที่นี่ครับ
เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา คุณพ่อรานิเอโร่ คันตาลาเมสซ่า นักเทศน์ประจำสันตะสำนัก ได้เริ่มต้นเทศน์เตรียมจิตใจในเทศกาลมหาพรตให้กับสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 คณะพระคาร์ดินัล พระสังฆราช และพระสงฆ์ที่ปฏิบัติงานในโรมันคูเรียได้รับฟังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการเทศน์วันนี้ มีขึ้นภายใต้หัวข้อ "กฏของพระจิตเจ้าในพระเยซูคริสต์" (โรม 8:2) ซึ่งคุณพ่อจากคณะภราดาน้อยคาปูชิน ให้ข้อคิดว่า พระจิตเจ้าคือบ่อเกิดทางความคิดของสรรพสิ่ง ดังนั้น ทุกสิ่งในโลกล้วนเกิดจากการสร้างของพระองค์ และมนุษย์ก็ต้องช่วยกันรักษาให้สิ่งเหล่านี้ ดำรงอยู่สืบไป
สันตะสำนักได้สรุปบทเทศน์ของคุณพ่อคันตาลาเมสซ่า และรายงานให้สื่อมวลชนทราบว่า "การเทศน์เตรียมจิตใจครั้งที่ 1 ในเทศกาลมหาพรต คุณพ่อคันตาลาเมวซ่า ได้เน้นย้ำกับทุกคนว่า การสร้างสรรค์สรรพสิ่งโดยพระจิตคือบ่อเกิดของความสมบูรณ์แบบในสิ่งสร้างทั้งมวล พระจิตคือพละกำลังที่มองไม่เห็น แต่สามารถเติมเต็มให้ทุกสิ่งเกิดความครบครัน"
"บทบาทของพระจิตไม่ได้จำกัดอยู่แค่หลักเทวศาสตร์เท่านั้น แต่เราสามารถทำให้เป็นเทวศาสตร์เชิงประยุกต์ได้อีกด้วย กล่าวคือ ในทางเทวศาสตร์ พระจิตประทานความคิดในการสร้าง ส่วนทางชีวิตจิต เราก็ต้องตระหนักให้มากๆว่า ทุกสิ่งที่พระจิตได้สร้างไว้ เราทุกคนก็ต้องช่วยกันดูแลรักษาอย่างสุดความสามารถ"
"สรุปแล้ว คริสตชนทุกคนต้องตระหนักเสมอว่า ระบบนิเวศน์ไม่ได้มีส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่นี่คือผลงานการสร้างจากพระจิต ดังนั้น ขอให้เราช่วยกันดูแลรักษาระบบนิเวศน์ โดยนึกอยู่เสมอว่า เรามีหน้าที่ปกป้องสิ่งสร้างของพระเจ้าให้ดำรงอยู่ตลอดไป" แถลงการณ์ระบุปิดท้าย
http://catholicworldtour.spaces.live.com/blog/cns!EA91C1C5E2FBFD4F!5548.entry
15 มีนาคม
"พ่อคันตาลาเมสซ่า " ย้ำคริสตชนต้องรักษ์โลกเพราะนี่คือสิ่งสร้างของพระเจ้า
บาทหลวงรานิเอโร่ คันตาลาเมสซ่า นักเทศน์ชื่อดังประจำวาติกัน เตือนสติ มนุษย์ต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะนี่คืออลังการงานสร้างจากพระจิตเจ้า ชี้ชัด การที่มนุษย์สร้างและประดิษฐ์สิ่งต่างๆในโลก ล้วนเป็นผลจากพระจิตผู้เป็นปฐมแห่งการสร้างสรรค์ทั้งมวล
ดูคลิปได้ที่นี่ครับ
เมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา คุณพ่อรานิเอโร่ คันตาลาเมสซ่า นักเทศน์ประจำสันตะสำนัก ได้เริ่มต้นเทศน์เตรียมจิตใจในเทศกาลมหาพรตให้กับสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 คณะพระคาร์ดินัล พระสังฆราช และพระสงฆ์ที่ปฏิบัติงานในโรมันคูเรียได้รับฟังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการเทศน์วันนี้ มีขึ้นภายใต้หัวข้อ "กฏของพระจิตเจ้าในพระเยซูคริสต์" (โรม 8:2) ซึ่งคุณพ่อจากคณะภราดาน้อยคาปูชิน ให้ข้อคิดว่า พระจิตเจ้าคือบ่อเกิดทางความคิดของสรรพสิ่ง ดังนั้น ทุกสิ่งในโลกล้วนเกิดจากการสร้างของพระองค์ และมนุษย์ก็ต้องช่วยกันรักษาให้สิ่งเหล่านี้ ดำรงอยู่สืบไป
สันตะสำนักได้สรุปบทเทศน์ของคุณพ่อคันตาลาเมสซ่า และรายงานให้สื่อมวลชนทราบว่า "การเทศน์เตรียมจิตใจครั้งที่ 1 ในเทศกาลมหาพรต คุณพ่อคันตาลาเมวซ่า ได้เน้นย้ำกับทุกคนว่า การสร้างสรรค์สรรพสิ่งโดยพระจิตคือบ่อเกิดของความสมบูรณ์แบบในสิ่งสร้างทั้งมวล พระจิตคือพละกำลังที่มองไม่เห็น แต่สามารถเติมเต็มให้ทุกสิ่งเกิดความครบครัน"
"บทบาทของพระจิตไม่ได้จำกัดอยู่แค่หลักเทวศาสตร์เท่านั้น แต่เราสามารถทำให้เป็นเทวศาสตร์เชิงประยุกต์ได้อีกด้วย กล่าวคือ ในทางเทวศาสตร์ พระจิตประทานความคิดในการสร้าง ส่วนทางชีวิตจิต เราก็ต้องตระหนักให้มากๆว่า ทุกสิ่งที่พระจิตได้สร้างไว้ เราทุกคนก็ต้องช่วยกันดูแลรักษาอย่างสุดความสามารถ"
"สรุปแล้ว คริสตชนทุกคนต้องตระหนักเสมอว่า ระบบนิเวศน์ไม่ได้มีส่วนสำคัญในการดำเนินชีวิตเพียงอย่างเดียว แต่นี่คือผลงานการสร้างจากพระจิต ดังนั้น ขอให้เราช่วยกันดูแลรักษาระบบนิเวศน์ โดยนึกอยู่เสมอว่า เรามีหน้าที่ปกป้องสิ่งสร้างของพระเจ้าให้ดำรงอยู่ตลอดไป" แถลงการณ์ระบุปิดท้าย
http://catholicworldtour.spaces.live.com/blog/cns!EA91C1C5E2FBFD4F!5548.entry
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 29, 2009 12:29 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.