อาทิตย์พระทรมานของพระคริสตเจ้า(B,2009)

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อาทิตย์ มี.ค. 29, 2009 1:44 am

เห็นมีคนถามเรื่องมิสซาละตินนิดหน่อย กระทู้นี้เลยขอมีกลิ่นอายละตินบ้างแล้วกัน
อ่านเรื่องอาทิตย์ใบลานจากที่นี้ได้
มีอะไรใน"สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์(Hebdomada Sancta)
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=7912.0
การแห่เข้า
Antiphona: Hosanna filio David
รูปภาพ
เทียบ มัทธิว 21:9
(เมื่อพระเมสสิยาห์เสด็จเข้ากรุงเยรูซาแล็ม)"ประชาชนทั้งที่เดินไปข้างหน้าและที่ตามมาข้างหลัง ต่างโห่ร้องว่า โฮซานนาแด่โอรสของกษัตริย์ดาวิด(Hosanna filio David)ขอถวายพระพรแด่ผู้มาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า(benedictus qui venit in nomine Domini)โฮซานนา ณ สวรรค์สูงสุด(Hosanna in excelsis)"
ปล.ในเพลงที่53 นี้เพิ่มคำเดียวคือ"Rex Israel" คือ กษัตริย์ของอิสราแอล(กษัตริย์ของชาวยิว)

............พี่น้องทั้งหลาย,เราได้เตรียมจิตใจของเราด้วยการใช้โทษบาป และประกอบกิจเมตตาปรานีตั้งแต่ต้นเทศกาลมหาพรตแล้ว วันนี้ เรามาชุมนุมกัน ณ ที่นี้ เพื่อร่วมใจกับคริสตชนทั่วโลก ทำการฉลองธรรมล้ำลึกแห่งปัสกาของพระคริสตเจ้า ธรรมล้ำลึกแห่งปัสกานี้ได้แก่การรับทรมาน และการกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า พระองค์ได้เสด็จเข้ากรุงเยรูซาแล็มนครศักดิ์สิทธิ์ เพื่อรับทรมาน สิ้นพระชนม์ และกลับคืนชีพ

............ฉะนั้น,ขณะที่เรากำลังระลึกถึงการที่พระองค์เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มนี้ให้เราตามพระองค์ไป โดยร่วมจิตใจทนทุกข์ยากลำบากกับพระองค์ เราจะได้พึ่งพระหรรษทานของพระองค์เพื่อกลับคืนชีพมีชีวิตอยู่กับพระองค์ตลอดไป

ให้เราภาวนา,
............ข้าแต่พระผู้ทรงสรรพานุภาพสถิตนิรันดร ขอโปรดให้ใบลานเหล่านี้ศักดิ์สิทธิ์ไปด้วยพระพร + ของพระองค์ ขอโปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายผู้กำลังเดินตามพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นกษัตริย์ด้วยใจชื่นชมยินดีอยู่นี้ได้บรรลุถึงนครเยรูซาแล็มนิรันดรด้วยเถิด ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระองค์ท่าน ผู้ทรงจำเริญและครองราชย์ตลอดนิรันดร(อาแมน)

เรื่องพระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาแล็ม(ปี B หรือ ยอห์น 12:12-16)
............เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาใกล้กรุงเยรูซาแล็ม ถึงหมู่บ้านเบธฟายีและเบธานีใกล้กับภูเขามะกอกเทศ พระองค์ทรงใช้ศิษย์สองคน สั่งเขาว่า

............"จงเข้าไปในหมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าท่าน เมื่อเข้าไปแล้ว ท่านจะพบลูกลาผูกอยู่ตัวหนึ่ง ยังไม่มีใครขี่เลย จงแก้แล้วจูงมันมาเถิด ถ้ามีผู้ใดถามว่า ทำอะไร จงบอกเขาว่า พระองค์ต้องประสงค์ลูกลาตัวนี้ และประเดี๋ยวพระองค์จะส่งกลับคืนมาให้ที่นี่"

............ศิษย์สองคนนั้นออกไป แล้วพบลูกลาตัวหนึ่งผูกอยู่ที่ถนนนอกประตู ขณะที่เขาแก้มัน บางคนซึ่งอยู่ที่นั่นถามเขาว่า "แก้ลูกลาทำไม" พวกศิษย์ก็ตอบตามพระดำรัสของพระเยซูเจ้าแล้วเขาก็ยอมให้เอาลูกลาไป พวกศิษย์จึงจูงลูกลามาให้พระเยซูเจ้า แล้วเอาเสื้อผ้าของตนปูบนหลังลา แล้วพระองค์จึงทรงลูกลาตัวนั้น

............มีคนเป็นอันมากเอาเสื้อผ้าของตนปูลงตามถนนหนทาง บางคนก็ตัดใบไม้จากต้นไม้มาปู คนที่เดินไปข้างหน้า กับผู้ที่เดินตามมาข้างหลัง ก็โห่ร้องว่า "โฮซันนา!ขอให้ผู้ที่เสด็จมาในนามของพระเจ้าทรงพระเจริญ ความสุขสวัสดิ์จงมีแด่ราชอาณาจักรดาวิด บรรพบุรุษของเรา ราชอาณาจักรของท่านกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว โฮซันนา ณ สวรรค์สูงสุด!"

รูปภาพ
P:พี่น้องทั้งหลาย ให้เราทำตามอย่างประชนชนที่โห่ร้องรับเสด็จพระองค์
"ให้เราเดินทางไปในวิถีแห่งสันติสุข"(Procedamus in peace)
*ในมิสซาละตินสัตบุรุษจะต้องรับว่า เดชะพระคริสตเจ้า(อาแมน):In nomine Christi(Amen)

(มีต่อ)
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อาทิตย์ มี.ค. 29, 2009 2:08 am

Ad processionem(จากนั้นจะเป็นการ แห่)

รูปภาพ

(เพลงที่ 54)
Pueri Hebraeorum:เด็กชาวฮีบรู
Portantes ramos Olivarun,obviaverunt Domino:ถือกิ่งมะกอกไปรับเสด็จพระคริสตเจ้า
Clamantes et dicentes,Hosanna in excelsis:
พลางส่งเสียงโห่ร้องและกล่าวว่า"โฮซานนาพระเจ้าสูงสุด"

ส่วนไอ้ตัวหลังนี่ ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เข้าใจ เอาตามที่เขาอธิบายกันสากลแล้วกัน
http://www.encyclo.co.uk/define/EUOUAE

(เพลงลำนำ)
รูปภาพ

Pueri Hebraeorum:เด็กชาวฮีบรู
Vestimenta prosternebant in via:เอาเสื้อปูทางรับเสด็จ
Et dicentes,Hosanna Filio David:จงสาธุการแด่พระโอรสของดาวิด
Benedictus qui venit in nomine Domini:ขอถวายพรแด่ผู้มาในพระนามของพระเจ้า

(มีต่อ)
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อาทิตย์ มี.ค. 29, 2009 2:51 am

เพลงสรรเสริญพระคริสต์กษัตริย์:Hymnus ad Christum Regem
(เอาสำนวนตามที่ใช้กันใน วันอาทิตย์ใบลานเลยนะครับ)
http://www.youtube.com/watch?v=Sl3XEWLHMds


(ก่อ)
1.พระคือขัตติยาอิสราแอล..........ดาวิดวงศ์เด่นจรัสศรี
เสด็จมาในนามจอมโลกีย์............เป็นกษัตริย์ปฐพีครองวิญญาณ์
Israel est tu Rex,Davidis et inclyta proles,
Nomine qui in Domini,Rex benedicte venis

2.เทวัญทุกชั้นสรวงสวรรค์..........มนุษย์สัตว์สารพันทุกราศี
พร้อมกันสรรเสริญพระภูมี............สุขเกษมเปรมปรีดิ์น้อมวันทา
Caetus in excelsis te laudet caelicus omnis
Et mortalis homo,et cuncta creata simul

3.ชาวชนฮีบรูรู้กันวิ่ง.................ชูกิ่งปาล์มชัยในรัศมี
ฝ่ายเราเข้าเฝ้า ณ บัดนี้..............จงรักภักดีภาวนา
Plebs Hebraea tibi cum palmis obvia venit
Cum prece voto hymnis adsumus ecce tibi

4.พวกเขาเหล่านั้นร้องสรรเสริญ......พระใกล้เผชิญมรณ์วิถี
ฝ่ายเราถวายสดุดี......................เฉลิมราชย์สุทธีพระราชา
Hi tibi passuro solvebant munia laudis
Nos tibi regnanti pangimus ecce melos

5.พวกเราเป็นที่สบพระทัย............ศรัทธาข้าไซร้สมศักดิ์ศรี
วอนจอมราชัยได้ปรานี................ประทานสิ่งดีทรงเมตตา
Hi placuere tibi,placeat devotio nostra
Rex bone,Rex clemens,cui bona cuncta placent

(รับ)
ข้าแต่พระคริสตราชา..................ผู้ไถ่โลกานำวิถี
โปรดสดับรับคำสดุดี..................เฉลิมพระเกียรติรุจีกษัตรา
เยาวชนฮีบรูผู้มีบุญ....................ห้อมล้อมเจ้าพระคุณด้วยหรรษา
แห่แหนโห่ร้องซ้องศรัทธา............ชื่นชมทั่วหน้าสู่ธานี

(รับ)
Gloria Laus,et honor tibi sit
Rex Christe Redemptor:Cui puerile decus propsit Hosanna pium

แห่เข้าโบสถ์แล้ว
(มิสซาละตินจะให้สังฆานุกรเคาะประตูด้วยปลายไม้กางเขนแห่จากนั้นประตูจะเปิดออก ขับเพลง)

Responsorium: Ingrediente Domino
(รับ)
R:Ingrediente Domino in sanctum civitatem,Hebraeorum pueri resurrectionem vitae pronuntiantes *Cum ramis palmarum Hosanna clamabant in excelsis
ปางองค์พระคริสต์ สู่กรุงศักดิ์สิทธิ์ สัมฤทธิ์เจตนา
เยาวชนฮีบรู ต่างกรูกันมา พร้อมประกาศว่า เยซูทรงชัย
พระเจ้าชีวิต บำเพ็ญราชกิจ ล้วนน่าเลื่อมใส
พระจักคืนชนม์ ส่งผลเกรียงไกร พลางโบกปาล๋มไสว สาธุการพระบิดา

(ก่อ)
P:Cum audisset populus quod Jesus veniret Jerosolymam exierunt obviam ei.Cum ramis
เมื่อประชาชนได้ยินว่า พระเยซูเจ้าเสด็จมากรุงเยรูซาแล็ม จึงออกไปรับเสด็จพระองค์ ต่างโบกใบลานร้องว่า สาธุการแด่พระเจ้าสูงสุด

รูปภาพ


(มีต่อ)
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อาทิตย์ มี.ค. 29, 2009 3:21 am

เมื่อแห่เข้าอย่างสง่าแล้ว เริ่มมิสซาจากบทภาวนาของประธาน
(ถ้าเป็นจารีตละตินยาวกว่ามาก คือเริ่มเหมือนปกติ มีก่อนหน้ามิสซาอีก)

(ให้เราภาวนา)
"ข้าแต่พระผู้ทรงสรรพานุภาพสถิตนิรันดร พระองค์โปรดให้พระผู้ไถ่ข้าพเจ้าทั้งหลายทรงรับเอาเนื้อหนังบังเกิดเป็นมนุษย์ และสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เพื่อสอนมนุษยชาติให้ถือตามแบบฉบับความถ่อมองค์ของพระองค์ท่าน ขอทรงพระกรุณาโปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายมีความอดทนตามแบบฉบับที่ทรงวางไว้ จะได้สมที่จะได้กลับคืนชีพเหมือนกับพระองค์ท่านด้วย",
สูตร:ทั้งนี้ขอพึ่งพระบารมีพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรผู้ทรงจำเริญและครองราชย์เป็นพระเจ้าหนึ่งเดียวกับพระองค์และพระจิต ตลอดนิรันดร(อาแมน)

(Oremus)
"Omnipotens sempiterne Deus,qui humano generi ad imitandum humilitatis exemplum, Salvatorem nostrum carnem sumere et crucem subire fedisti;concede propitius, ut et patientiae ipsius habere documenta et resurrectionis consortia mereamur.Per,"
สูตร Per Dominum nostrum Iesum Christum.

(มีต่อ)
แก้ไขล่าสุดโดย Man of Macedonia เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 29, 2009 3:23 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อาทิตย์ มี.ค. 29, 2009 12:06 pm

บทนำขอบพระคุณ

P:พระเจ้าสถิตกับท่าน(Dominus vobiscum)
S:และสถิตกับท่านด้วย(Et cum spiritu tuo)
P:จงสำรวมใจระลึกถึงพระเจ้า(Sursum corda)
S:เรากำลังระลึกถึงพระองค์(Habemus ad Dominum)
P:ให้เราขอบพระคุณพระเจ้าพร้อมกันเถิด(Gratias agamus Domino Deo nostro)
S:เหมาะสมและชอบยิ่งนัก(Dignum et justum est)

เทียบ,มีอะไรใน"พิธีบูชาขอบพระคุณ(มิสซา)"
http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... 88#p112488

บทเริ่มขอบพระคุณ

............เป็นการเหมาะสม,ถูกต้อง,แท้จริง ทั้งเป็นมิ่งมงคลบันดาลให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้รอด ที่จะขอบพระคุณพระองค์ตลอดกาล ณ ทุกสถานแห่งหน ข้าแต่พระบิดาเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์สถิตนิรันดร,พระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ เดชะพระบารมีของพระคริสตเจ้าทั้งหลาย

............พระองค์ท่านมิได้ทรงกระทำผิดแต่ประการใด แต่ก็ได้ทรงยอมรับทรมานเพื่อคนอสัตย์อธรรม ได้ทรงรับโทษอย่างอยุติธรรมเพื่อคนชั่วช้าสามานย์ การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ท่านได้ชำระล้างข้าพเจ้าทั้งหลายให้พ้นบาป การกลับคืนพระชนม์ของพระองค์ท่าน ทำให้ข้าพเจ้าทั้งหลายกลับเป็นผู้ชอบธรรม

............ดังนั้น ข้าพเจ้าทั้งหลายพากันถวายพระเกียรติสดุดี พร้อมกับเทพนิกรและบรรดานักบุญเป็นนิจกาล ว่าดังนี้

Vere dignum et jestum est,aequum et salutare,nos tibi semper,et ubique gratias agere:Domine sancte,Pater omnipotens,aeterne Deus,Qui salutem humani generis in ligno crucis constituisti: ut unde morsoriebatur,inde vita resurgeret:et qui ligno vincebat,in ligno quoque vinceretur:per Christum Dominum nostrum.Per quem majestatem tuam laudant angeli,adorant dominations,tremunt potestatis.Caeli caelorumque virtutes ac beata seraphim,socia exsultatione concelebrant.Cum quibus et nostras voces,ut admitti Jubeas deprecamur,supplici confessione dicentes.

(มีต่อ)
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อาทิตย์ เม.ย. 05, 2009 9:32 pm

บทอ่านที่ 1:บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ (อิสยาห์ 50:4-7)

............พระเจ้าได้ประทานให้ข้าพเจ้ามีลิ้น เหมือนลิ้นของผู้ที่พระองค์ทรงสอน เพื่อข้าพเจ้าจะได้รู้จักตอบแก่ผู้ที่เบื่อหน่าย พระองค์ทรงเตรียมคำพูดไว้ให้ข้าพเจ้า ทุกๆเช้า พระองค์ทรงปลุกข้าพเจ้าให้ลุกขึ้นมาฟัง ให้ฟังเหมือนกับผู้ที่พระองค์ทรงสอนไว้ พระเจ้าทรงเปิดหูข้าพเจ้า

............ฝ่ายข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ทัดทานสิ่งใด ไม่หันหลังหนี ข้าพเจ้าหันหลังให้แก่ผู้โบยตีข้าพเจ้าและหันหน้าให้แก่ผู้ที่ดึงเคราข้าพเจ้าออก ข้าพเจ้าไม่ปิดหน้าเพื่อหนีความสบประมาท และการถ่มน้ำลายรด พระเจ้าเสด็จมาช่วยเหลือข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะไม่ได้รับความสบประมาท ดังนั้น ข้าพเจ้าจะลอยหน้าลอยตาของข้าพเจ้าเหมือนหินเหล็กไฟ ข้าพเจ้าทราบว่า ข้าพเจ้าจะไม่ได้รับความอับอาย

การอธิบายแบ่งปัน

1."ข้าพเจ้าจะได้รู้จักตอบแก่ผู้ที่เบื่อหน่าย"

............เรามนุษย์ โดยเฉพาะ คริสตชนเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเจิมแล้วให้มีพละกำลัง(ศีลกำลัง) นักบุญฟรังซิส อัสซีซี บอกเราผ่านบทภาวนาว่า "ข้าแต่พระเจ้า,ข้าพเจ้าเป็นเครื่องมือนำสันติ" เราจะเป็นเครื่องมือที่ดีไม่ได้ ถ้าเราไม่นบนอบ และสิ่งที่จะเกิดขึ้นพร้อมกับความนบนอบคือ "ความรัก" เราจะรู้จักตอบ ได้ก็ต่อเมื่อ เรามีความนบนอบ เพราะคำพูดที่ออกมาจากใจ ถ้ามันประกอบด้วยอารมณ์และความจองหองยโส มันไม่น่าฟัง มันไม่ใช่การรู้จักตอบ อย่าลืมว่า เราต้องรักเพื่อนพี่น้องด้วย!เรารักพระเจ้าอย่างเดียวไม่ได้ พระองค์ไม่ประสงค์เช่นนั้น พระองค์ประสงค์ให้เราเห็นพระองค์,ซึ่งคือพระเยซูคริสตเจ้าในตัวพี่น้องด้วย

2."พระองค์ทรงเตรียมคำพูดไว้ให้ข้าพเจ้า"

............คำนี้ บ่งถึง การทำงานของพระจิตเจ้าในตัวเรา สำหรับพระสงฆ์จะมีคำกล่าวว่า"Personale Christe:พระคริสตเจ้าทรงตรัสผ่านเรา" พระสงฆ์เป็นตัวแทนของพระคริสตเจ้า ณ แผ่นดิน ท่านมีหน้าที่ดูแลวิญญาณของเรา ซึ่งคือการมอบเมล็ดพันธุ์แห่งปรีชาญาณให้เรา อันจะมีผลให้วิญญาณเราเร่าร้อนที่จะรับใช้พระเป็นเจ้าทั้งครบ ตามขีดความสามารถของเราแต่ละคน เพราะฉะนั้น เราทั้งหลายแพร่ข่าวดีได้ตลอดเวลา ถ้าเราเปิดใจ ขจัดความบกพร่องบางอย่าง แผ้วทางกิเลสที่ขึ้นรก ให้พระจิตเจ้าทรงจำเริญในเราได้ คำพูดในบทอ่านนี้จะสมบูรณ์ได้อย่างแท้จริง (และบังเกิดผลแก่วิญญาณมากมาย)

3."พระเจ้าทรงเปิดหูข้าพเจ้า"
http://www.catholic.or.th/events/news/n ... ist07.html

............พระศาสนจักรรำลึกเรื่องนี้ ในพิธีเอฟฟาธา(แปลว่า จงเปิดเถิด,เทียบ มาระโก 7:31-37) หลายคนในที่นี้ คงจะรู้จักพิธีนี้ดี ในกระบวนการ RCIA ซึ่งพิธีนี้ใกล้เข้ามาอีกครั้งแล้วในวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้น เราทั้งหลายมีหน้าที่โดยสมบูรณ์ เพราะ"เราได้ศึกษาชีวิตของพระคริสตเจ้าแล้ว และเราจะยึดมั่นในข้อความเชื่อ ทั้งประกาศให้ผู้อื่นได้ทราบและเจริญชีวิตตามน้ำพระทัยของพระองค์"(บทภาวนาพิธีเอฟฟาธาของประธาน) ทั้งเราเองยังมั่นใจว่า "ข้าพเจ้าพร้อมแล้วพระเจ้าข้า ข้าพเจ้ายินดีทำตามน้ำพระทัย"

............ทั้งการเปิดหูยังบ่งถึง พระองค์ทรงให้เรามีปรีชาญาณรอบรู้ พบเห็นสิ่งต่างๆนานา จะเรียกว่า พระองค์ทรงเรียกร้องให้เรา"เปิดหูเปิดตา"ก็ว่าได้ แต่ก่อนจะเปิดหูเปิดตาได้ พระศาสนจักรเตือนเราเรื่องความนบนอบและพระหรรษทาน ฉะนั้น เรานำเรื่องเหล่านี้มาผนวกเข้าด้วยกัน จะทำให้เราซาบซึ้งในความหมาย และร่วมรื้อฟื้นคำสัญญาศีลล้างบาปของเรา ทั้งชื่นชมยินดีกับสมาชิกใหม่ในพระศาสนจักรได้อย่างแท้จริง

"ทรงให้ข้าพเจ้ามีลิ้น,ทรงเตรียมคำพูดให้ข้าพเจ้า,ทรงเปิดหูข้าพเจ้า"
แล้วเราใช้สิ่งเหล่านั้นทำอะไร?เพื่อพระองค์หรือไม่?เป็นประโยชน์มากหรือน้อย?
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อาทิตย์ เม.ย. 05, 2009 9:52 pm

สารวัดแม่พระลูกประคำ(กาลหว่าร์)
ปีที่ 29 ฉบับที่ 14 ประจำวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม 2009
อาทิตย์มหาทรมาน(แห่ใบลาน)


เห็นว่า เป็นบทความที่สรุปดีจึงนำมาแบ่งปัน

บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
(คุณพ่อเปโตร สุรสิทธิ์ ชุ่มศรีพันธ์)


พ่อขอถือโอกาสถ่ายทอดสิ่งที่ใครคนหนึ่งเขารวบรวม"คำพูดของพระเยซูเจ้า"
ที่พระองค์ตรัสขณะที่อยู่บนกางเขนพร้อมทั้งความหมายสั้นๆประกอบ
บางทีอาจทำให้เราเข้าใจดีขึ้นว่า "ทำไมพระองค์จึงทรงเลือกจะตายเช่นนี้"

"พระบิดาเจ้าข้า โปรดอภัยความผิดแก่เขา เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร"(ลูกา 23:34)
*พระองค์กำลังปฏิบัติ ตามที่พระองค์ได้ทรงสอนเรื่อง จงรักศัตรู จงเรียนรู้ที่จะให้อภัย

"วันนี้ ท่านจะอยู่กับเราในสวรรค์"(ลูกา 23:43)
*นี่คือ ความรักต่อคนบาป ที่สำนึกผิด การกลับใจไม่เคยสายเกินไป แม้ในเวลาแห่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต โจรข้างขวาของพระเยซูเจ้าเป็นตัวอย่างในเรื่องนี้

"นี่คือลูกของแม่,นี่คือแม่ของท่าน"(ยอห์น 19:26-27)
*พระองค์กำลังแสดงถึงความรักต่อครอบครัวและเพื่อน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นพื้นฐานของชีวิตของมนุษย์ทุกคนที่ต้องมี แต่พระองค์กำลังขยายความหมายของครอบครัวและเพื่อนไปจนสุดปลายแผ่นดิน

"เรากระหาย"(ยอห์น 19:28)
*มิใช่หมายเพียงความกระหายน้ำตามธรรมชาติฝ่ายร่างกายเท่านั้น แต่ยังหมายถึง พระองค์กระหายความรักของเรามนุษย์ และเสียงร้องของพระองค์นี้ยังคงก้องกังวานอยู่เสมอโดยเฉพาะในบ้านของผู้ยากไร้

"ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้า,ทำไมพระองค์จึงทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าเล่า"(มัทธิว 27:46)
*ดูเหมือนพระองค์กำลังตัดพ้อต่อว่าพระเจ้า เหมือนพระองค์กำลังสูญสิ้นศรัทธา แต่แท้ที่จริง พระองค์กำลังสะท้อนให้มนุษย์ได้คิดและค้นพบความจริงว่า ไม่มีความทุกข์ใดใหญ่หลวงกว่าชีวิตที่ปราศจากพระเจ้าอยู่ด้วย เพราะชีวิตที่ปราศจากพระเจ้า ย่อมปราศจากพละกำลังและไร้ความหมายนั่นเอง

"สำเร็จบริบูรณ์"(ยอห์น 19:30)
*พระวาจานี้บ่งบอกถึงความรักของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์ทุกคนไม่เว้นใคร เพราะหากเว้นใครสักคนย่อมจะสำเร็จบริบูรณ์มิได้ เราทุกคนได้รับการไถ่ให้รอดแล้ว หน้าที่ของเราคือ การรักษาความรอดนั้นให้คงอยู่ในชีวิตของเราแต่ละคนต่อไป

"พระบิดาเจ้าข้า,ข้าพเจ้ามอบจิตของข้าพเจ้าไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์"(ลูกา 23:46)
*นี่คือ รางวัลของความรัก คือการได้ชมพระพักตร์พระบิดา ชื่นชมความรักของพระองค์ตลอดนิรันดร สวรรค์นั่นเอง
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อาทิตย์ เม.ย. 05, 2009 11:11 pm

"ขอรับใช้ ชีวิตข้าขอรับใช้ ชีวิตข้าขอมอบให้ โอ!ข้าเป็นของพระองค์ของพระองค์"
(เพลง"ขอรับใช้",คุณพ่อออกัสติน โมลิ่ง,S.J)
ตอบกลับโพส