พี่ดูหนังตัวอย่างแล้วในโรงดูตลกขำๆ ดี เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วพี่ไปดูเรื่อง pirates of the caribbean ภาค2 ไปกับแม่กับน้องสาว ก็เห็นหลายคนเขาไปดูกับคู่รักอย่างน้องมายว่า ก็เป็นความใฝ่ฝันของหลายคนที่อยากไปดูภาพยนตร์ 2 ต่อ 2 กับแฟน พี่อายุจนขนาดนี่แล้วยังไม่เคยไปดูกับสาว 2 ต่อ 2 เลย ส่วนใหญ่ไม่ไปดูคนเดียวก็ไปดูกับแม่กับน้อง
พี่เดินอยู่หน้าโรงก็มีสาวกลุ่มหนึ่งมาซื้อตั๋ว แล้วพี่ก็ได้ยินสาวคนในกลุ่มพูดว่า "ทำยังไงดีเรายังไม่มีแฟนเลย" ดูท่าทางสาวคนนั้นวัย 24 รูปร่างน่าตาน่ารักเชียวน่าจีบเป็นแฟน เท่าที่รู้ทั้งสาวทั้งหนุ่มก็มีความปรารถนาอยากมีแฟนแต่ก็ยังหากันไม่ได้แล้วก็มากด้วย สังคมกรุงหรือสังคมเมืองก็อย่างนี้แหละครับ ส่วนใหญ่จะหากันยากหน่อย สังคมกรุงเราเป็นสังคมที่ต่างคนต่างอยู่ต่างทำงาน ยามเช้าทุกคนก็รีบๆ ไปทำงานเดี๋ยวสาย ตอนเย็นก็กลับบ้านมาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว บางคนก็ดูทีวี บางคนเล่นคอมฯ ก็แล้วแต่ความชอบ ถ้าออกเที่ยวหลังเลิกงานก็มีแต่ผู้หญิงกลางคืนหรือผู้หญิงบริการหาแฟนไม่ได้หรอกครับ หลายคนก็ปรารถนาว่าฟ้าจะส่งใครบางคนมาเดี๋ยวคงเจอ แล้วปีๆ ผ่านไปก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ก็ยังทำงานแบบเดิมชีวิตก็ยังใช้เหมือนเดิม บางคนเรียกว่า "แต่งกับงาน" ไม่ใช้ "แต่งงาน" แล้วก็มีเพลงสมัยใหม่ร้องด้วยที่น้องมายเคยโพสให้นะ นี่แหละครับสังคมชาวกรุง บางทีก็มีพวกหัวการค้าทำเป็นออนไลย์หาแฟนหาเพื่อนทางเน็ต ทางมือถือ พี่เคยเจอโฆษณาบ่อยๆ ขนาดเดินเข้าประตูห้างเขาก็มายืนแจกอยู่หน้าประตู โบชัวนี้ตอนนี้ยังอยู่ที่โต๊ะพี่เลย มีทั้งดาวน์โหลดรูปภาพลงมือถือ หาแฟนหาคู่อะไรก็ไม่รู้ไม่เคยเข้าไปดู
น้องจากอาชีพพนักงานประจำแล้ว ธุรกิจส่วนตัวเจ้าของร้านค้าขายของราคาแพงๆ สำหรับคนมีเงิน ก็ยิ่งยากอย่าคิดว่าจะจีบลูกค้าที่มาซื้อของได้เพราะถ้าเราแสดงท่าทีจีบเขาจะไม่เข้ามาซื้อของร้านเราอีกเลย นอกจากลูกค้าแล้วก็มีอีกคนที่ติดต่อกับเราคือสาวรับโทรศัพท์ที่บริษัทขายส่ง ถึงเขาจะรับโทรศัพท์เราเสียงหวานแต่เราก็ไม่เห็นหน้าเขา แล้วคุยกันเดือนละครั้ง 2 ครั้ง เฉพาะเวลาสั่งของเท่านั้นแค่ไม่กี่ประโยค แล้วคนที่มาส่งของส่วนใหญ่ก็เป็นเด็กหนุ่มเอาของมาส่งแล้วเอาบิลเก็บเงินมายื่นให้ การนั่งที่โต๊ะเก็บเงินเช้าเย็นอยู่อย่างนั้นวัน เสาร์ อาทิตย์ ก็หยุดปิดไม่ได้เพราะขายดีกว่าวันอื่นๆ ต้องร้องว่า "ไม่มีคนมาเปลียนช่วยคุมร้านเลย ไปโบสถ์ไม่ได้จะทำยังไงดี จะทนทรมานแห้งแล้งอย่างนี้อีกนานเท่าไรนี่ทนอยู่กับร้านนี้ไม่ไหว้แล้วนะอยากมีเมีย" เรื่องจริงครับ
หรือเจ้าของโรงงาน เจ้าของบริษัทจำกัด ญาติพี่วัยสี่สิบกว่าๆ แก่กว่าพี่ 7 ปี เขาเป็นเจ้าของโรงงานที่จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด มีพนังกงานทั้งออฟฟิส ทั้งพนักงานเครื่องจักร พนักงานห่อเป็นจำนวนมาก ทุกวันเขาก็ต้องนั้นอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวประจำ พอเลิกงานเขาก็ไปเที่ยวคาเฟ่ พี่บอก "ไปเที่ยวทำไมผู้หญิงพวกนั้นเราเป็นลูกพระเจ้า" เขาบอก "คนไม่มีเมียก็ต้องเที่ยวสิจะให้อดตายหรือยังไง ไม่เหมือนเอ็งนี่ศรัทธาผู้หญิงไม่เที่ยว" แต่น้องๆ เขามีแฟนตั้งแต่ยังเป็นนิสิตแต่ตัวเขาผมสีขาวแล้วยังหาแฟนไม่ได้ป้าพี่ก็อยากให้เขามีแฟน เจ้าตัวก็อยากมีแฟนแต่ก็ไม่เจอทั้งวันนั่งอยู่แต่ห้องทำงานส่วนตัว ข้างนอกก็มีพนักงานออฟฟิสนั่งเป็นแถว ญาติที่เป็นเจ้าของโรงงานเขาพึ่งได้แต่งงานปีนี้ เจอผู้หญิงเมื่อปีที่แล้ว เลยเลิกเที่ยวคาแฟ่เป็นเรื่องน่ายินดี
เวลาคนส่วนใหญ่จะมีวันหยุดก็เสาร์อาทิตย์หรือไม่ก็มีวันอาทิตย์วันเดียวนอกนั้นเป็นเวลาทำงานทำยังไงวันเสาร์อาทิตย์จะทำให้คนรู้จักกันหรือมีเพื่อนใหม่ๆ ได้นอกจากเพื่อนสมัยเรียนหรือเพีอนร่วมงานในที่ทำงาน พี่เคยอยู่คริสตจักรเก่าเขามีชมรม เช่น ชมรมนักดนตรี ศิลป์ ชมรมราม่า คริสตจักร์แห่งนั้นเขาร้อนรนผู้นำสั่งอะไรเขาก็ต้องรีบทำตามก็เลยมีคนเข้าชมรมกันเยอะ พี่ก็อยากให้คาทอลิกเรามีบาง แล้วพี่ก็เสนอพ่อเกรียงยศที่วัดบ้านเซเวียร์ให้ตั้งกลุ่มชมรมเพราะที่โบสถ์เรามีโรงยิมมีเนื้อที่เยอะ พ่อเกรียงยศก็เห็นด้วยก็ประชุมกัน ที่จริงพี่ก็มีจุดประสงค์แอบแฝงคือคิดจะหาแฟนผ่านกลุ่มนี้เหมือนกันดีกว่ายืนมองสาวหน้าโบสถ์แต่ไม่มีโอกาสจีบ ชมรมที่บ้านเซเวียร์ใหม่ๆ ก็มีคนมานิดหน่อยส่วนใหญ่มีแต่ฆรวาสที่พี่รู้จักดีอยู่แล้ว ส่วนฆรวาสอื่นเลิกวัดก็กลับ ไม่เห็นมีใครสนใจกันเลย แต่ก็มีฆรวาสน้ำใจดีหลายคนมาเป็นครูสอนให้ในชมรม ไม่ว่าจะกลุ่มดนตรี กลุ่มดวกไม้ดิน กลุ่มคอมฯ แต่ก็ไม่มีฆราวาสร่วมมือกันเลย ค่าเรียนค่าสอนก็ไม่คิด ครูเขามาแล้วมีคนมาเรียนมาร่วมกิจกรรมไม่กี่คนนานๆ ไปก็เลิก บางทีครูมาไมมีคนมาเรียน ทั้งประกาศทั้งติดบอร์ดที่หน้าวัดก็ยังมีคนมาไม่กีคนเลิกวัดแล้วต่างคนต่างกลับ
นอกจากวันหยุดเสาร์อาทิตย์แล้วก็มีเวลาหลังเลิกงานแต่โอกาสหาเพื่อนก็ยากอีกนะครับ พูดถึงเล่นกีฬา สมัยก่อนพี่ก็ไปกับพี่เขยไปซ้อมตีก๊อบ ตีอยู่หลายลัง ตีไป ตีไป หมดแล้วก็ตีลังใหม่ตีมันอยู่อย่างนั้นแหละครับไม่เห็นมีใครมายุ่งกับเราเลยมีแต่พนักงานเอาลังมาตั้งให้ แล้วคนที่ตีส่วนใหญ่ก็มีแต่ผู้ชายทั้งนั้นไม่เห็นมีสาวเลยแห้งแล้ง แต่ถ้าบางคนชอบฟุตบอลก็ไปเล่นอาจได้เพื่อนแต่ก็ผู้ชายอีกนะครับ แต่ถ้าอยากเจอสาวๆ น่ารักๆ หมวยๆ อย่างสเปกพี่ก็ต้องเที่ยวพวก อาร์ซีเอ อะไรอย่างนั้นแต่พี่ไม่เห็นด้วยนะครับอย่าไปเลย พี่ก็ไม่เคยไปเหมือนกัน พี่เคยผ่านสถานบริการพวกนี้ที่แถว อสมท. แล้วก็ถนนสายบ้านพี่ แค่ผ่านหน้าประตูนะ สาววัยรุ่นน่ารักๆ บาดใจพี่ทั้งนั้นเลยคงไปเที่ยวกันนะครับ แม้แต่สถานบริการตอนกลางคืนชั้นล่านของโรงแรมชั้นหนึ่งที่พี่ไปพักตอนแสวงบุญ ก็มีเด็กวัยรุ่นน่ารักๆ เยอะครับรวมทั้งนักร้องด้วย พี่แค่ผ่านเห็นเขาใส่สุดชั้นในอย่างเดียวนะครับทูพีชน่าราก..มากครับๆ คล้ายๆ สเปกพีเลย พี่ชอบผู้หญิงน่ารักดูท่าทางพวกนี้เป็นนิสิต เด็กระดับปริญญาตรีพี่มองออกครับ นอนกลางคืนพี่นอนในโรงแรมพี่ก็นอนคิดนะ ทำไมสาวๆน่าตาดีๆ มาทำอาชีพอย่างนี้กันเยอะ ซึ่งสมัยก่อนไม่เคยมี แต่สมัยนี้บ้านเราคล้ายๆ ญี่ปุ่นที่ชอบเอาเด็กน่ารักๆ มาถ่ายแบบอะไรอย่างนี้แล้วมันก็สเปกเราเสียด้วย สาวสวยพี่ไม่กลัวพี่กลัวน่ารักครับเพราะน่ารักนี่สิบาดใจ แล้วคืนนั้นในโรงแรมพี่ก็นอนไม่ค่อยหลับเพราะไปกังวลว่า สาวน่ารักๆ ความรู้ดีๆ ทำไมถึงมาทำงานอย่างนี้ พี่อาจพูดความจริงไปเสียหน่อยก็เป็นคนเปิดเผยอย่างนี้แหละครับตรงไปตรงมาคิดอย่างไรก็พูดออกไปเหมือนเอาความรับตัวเองมาขาย ถ้าเที่ยวหลังเลิกงานก็มีแต่สาวอย่างนี้แหละครับไม่แนะนำ
พี่เองก็กังวลเรื่องหาคู่แต่ถ้าพี่ไม่ไว้วางใจพระพี่ก็ต้องกระวนกระวายมากกว่านี้ เพราะตัวเองอายุ 37 ยังไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย จะฝึกซ้อมเอาใจสาวช้อมแล้วซ้อมอีกก็ยังไม่มีสาวใดเข้ามา ไม่ใช้ฝึกซ้อมสาวจนตาเขียวนะครับเดี๋ยวจะหาว่าพี่เห็นสาวๆ เป็นกระสอบทรายไม่กล้าเข้ามาเป็นแฟนพี่ยุ้งเลย ซ้อมเอาใจนะครับ ยังไงพี่วางใจพระ คนต่างศาสนาเขาบอก "ฟ้าลิขิต" หรือ "เป็นคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน" ศาสนาพุธบอก "เคยทำบุญร่วมกันมาชาติที่แล้วชาตินี้คงเจอกัน" หรือเป็น "บุพเพสันนิวาสที่ฟ้าประทานให้" แต่ที่จริงแล้วไม่มีฟ้า ไม่มีชาติไหนทั้งนั้น เป็นน้ำพระทัยพระครับที่จะให้ใครแต่งงานกับใครนะครับ ถ้าคิดอย่างนี้แล้วก็ทำให้เราเบาใจขึ้นนะครับ ถ้าไม่เช่นนั้นพี่จะกระวันกระวายใจมากกว่านี้ (เขียนไปๆ ยาวอีกแล้วครัล

)
