ถ้าอยากให้พระเจ้าอวยพรเรา ลองถามคำถามนี้กับตัวเองทุกวัน
"พระเจ้าทรงพอพระทัยในความเชื่อของฉันหรือยัง"
หรือ
"ฉันต้องเชื่อขนาดไหนพระเจ้าถึงจะพอพระทัยฉัน"
ลองถามทุกวันดูนะ
การดำเนินชีวิตกับพระเจ้า
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
กรุณาอธิบายเพิ่มเติมด้วยครับ 

-
- โพสต์: 960
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm
งง หมายความถึงอะไร คือ อธิบายเพิ่มหน่อยก็ดีนะ
เรามันก็แค่ฝุ่นเล็กๆในสายพระเนตรของพระองค์
เราคิดว่าที่เราทำอยู่ทุกวันนี้มันดีพอแล้วหรือ?
คิดว่าความรู้สึกที่เราเป็นอยู่ในทุกวันนี้มันดีพอแล้วหรือ?
มนุษย์เอ๋ย เจ้าหยิ่งผยองว่าเจ้าเป้นเผ่าพันธุ์ที่ประเสริฐ ดีเลิศ และได้รับพระพรจากพระมากกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ ได้มีจิตใจที่จะคิดเอง รู้ดีรู้ชั่ว และเลือกที่จะทำได้ เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีรูปลักษณ์ตามพระฉายาของพระ งดงาม และสมบูรณ์ยิ่ง แต่ทุกวันนี้เราเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือ? เราดีมากขนาดนั้นเลยหรือ คงไม่ใช่แน่ เพราะเราไม่สามารถทำการดีอะไรได้เลยโดยปราศจากพระ ฉะนั้น เราจึงไม่สามารถเรียกได้ว่าเราเป็นคนดี เพราะสิ่งที่เราทำนั้น เราไม่ได้ทำด้วยตัวคนเดียว
. . . แล้วเราจะเหลืออะไรเล่า นอกจากความชั่วที่เราทำโดยไม่ฟังเสียงพระ ทำบาปต่างๆโดยรู้ตัวและเต็มใจ และทำจนเป็นนิสัยโดยที่ไม่คิดจะแก้ไขปรับปรุงตัว คิดว่าตัวเองนั้นดีแล้ว ถูกต้องแล้ว ฉันดี ฉันเก่ง ฉันใหญ่ แล้วก็เหยียดหยามคนอื่น ข่มเหงคนอื่น มองคนอื่นว่าไม่ดีไปเสียหมด โดยที่ไม่มองตัวเองเลยว่าดีหรือยัง ทำแบบนี้แล้วยังจะมีหน้่ามาบอกว่าเรายังเป็นลูกของพระบิดาอีกหรือ!!! . . . . . . . แต่พระบิดาก็ยังคงทรงอภัยให้เราเสมอ ไม่ว่าความผิดมันจะร้ายแรงและชั่วช้าเพียงใด ก็ยังทรงให้โอกาสเรากลับตัวอยู่เสมอ
เรามันก็แค่มนุษย์คนหนึ่ง คิดหรือว่าสิ่งดีดีที่เราทำนั้นมันจะลบล้างความผิดที่เราเคยทำได้
เราจึงควรที่จะระลึกว่า เราไม่สมควรที่จะได้รับอะไรจากพระเลย เพราะเราเป็นแค่คนบาป
แค่พระองค์ทรงเลี้ยงดูเราอยู่ทุกวัน ก็เป็นพระเมตตาที่ใหญ่หลวงมากแล้ว
ฉะนั้น...จงขอบคุณพระ มากกว่าี่ที่จะขอพรจากพระ
และจงพยายามเปลี่ยนตัวให้ดีขึ้น รักพระให้มากๆขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับการที่พระรักเรา และประทานพระพรที่มีค่ามากมายมหาศาลให้เรา
สันติภาพและความดี...แด่ทุกท่าน
เราคิดว่าที่เราทำอยู่ทุกวันนี้มันดีพอแล้วหรือ?
คิดว่าความรู้สึกที่เราเป็นอยู่ในทุกวันนี้มันดีพอแล้วหรือ?
มนุษย์เอ๋ย เจ้าหยิ่งผยองว่าเจ้าเป้นเผ่าพันธุ์ที่ประเสริฐ ดีเลิศ และได้รับพระพรจากพระมากกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ ได้มีจิตใจที่จะคิดเอง รู้ดีรู้ชั่ว และเลือกที่จะทำได้ เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีรูปลักษณ์ตามพระฉายาของพระ งดงาม และสมบูรณ์ยิ่ง แต่ทุกวันนี้เราเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือ? เราดีมากขนาดนั้นเลยหรือ คงไม่ใช่แน่ เพราะเราไม่สามารถทำการดีอะไรได้เลยโดยปราศจากพระ ฉะนั้น เราจึงไม่สามารถเรียกได้ว่าเราเป็นคนดี เพราะสิ่งที่เราทำนั้น เราไม่ได้ทำด้วยตัวคนเดียว
. . . แล้วเราจะเหลืออะไรเล่า นอกจากความชั่วที่เราทำโดยไม่ฟังเสียงพระ ทำบาปต่างๆโดยรู้ตัวและเต็มใจ และทำจนเป็นนิสัยโดยที่ไม่คิดจะแก้ไขปรับปรุงตัว คิดว่าตัวเองนั้นดีแล้ว ถูกต้องแล้ว ฉันดี ฉันเก่ง ฉันใหญ่ แล้วก็เหยียดหยามคนอื่น ข่มเหงคนอื่น มองคนอื่นว่าไม่ดีไปเสียหมด โดยที่ไม่มองตัวเองเลยว่าดีหรือยัง ทำแบบนี้แล้วยังจะมีหน้่ามาบอกว่าเรายังเป็นลูกของพระบิดาอีกหรือ!!! . . . . . . . แต่พระบิดาก็ยังคงทรงอภัยให้เราเสมอ ไม่ว่าความผิดมันจะร้ายแรงและชั่วช้าเพียงใด ก็ยังทรงให้โอกาสเรากลับตัวอยู่เสมอ
เรามันก็แค่มนุษย์คนหนึ่ง คิดหรือว่าสิ่งดีดีที่เราทำนั้นมันจะลบล้างความผิดที่เราเคยทำได้
เราจึงควรที่จะระลึกว่า เราไม่สมควรที่จะได้รับอะไรจากพระเลย เพราะเราเป็นแค่คนบาป
แค่พระองค์ทรงเลี้ยงดูเราอยู่ทุกวัน ก็เป็นพระเมตตาที่ใหญ่หลวงมากแล้ว
ฉะนั้น...จงขอบคุณพระ มากกว่าี่ที่จะขอพรจากพระ
และจงพยายามเปลี่ยนตัวให้ดีขึ้น รักพระให้มากๆขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับการที่พระรักเรา และประทานพระพรที่มีค่ามากมายมหาศาลให้เรา
สันติภาพและความดี...แด่ทุกท่าน
-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
ขอบคุณ คุณ sasuke ค่ะ 
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
คอมพิวเตอร์ ทีวี เกมส์ ดารา นักร้อง ฟังได้ ชอบได้ แต่ถ้าติดจนถึงกับหมกหมุ่นอยู่กับมันมากๆ มันก็ทำให้ชีวิตกับพระลดลง
ผู้ทีเชื่อว่าพระองค์มีตัวตนจริงหรือรักพระองค์ต้องทำตามสิ่งที่พระองค์ได้บัญญัติสอนอยู่แล้วครับ เป็นเหตุผลง่ายๆ
ยอห์น14:23 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า "ถ้าผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะประพฤติตามคำของเรา และพระบิดาจะทรงรักเขา แล้วพระบิดากับเราจะมาหาเขา และจะอยู่กับเขา"
ฮีบรู 11:1 ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง
ยอห์น14:23 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า "ถ้าผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะประพฤติตามคำของเรา และพระบิดาจะทรงรักเขา แล้วพระบิดากับเราจะมาหาเขา และจะอยู่กับเขา"
ฮีบรู 11:1 ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง
เรื่องชีวิตฝ่ายจิตสำคัญที่สุด เราสนทนาพูดคุยกับพระมากแค่ไหน เรารู้สึกอบอุ่นที่มีพระเจ้าเป็นเพื่อนมากแค่ไหน เราสำผัสพระจิตได้มากแค่ไหน จิตวิญญาณเรามีความไวไหมเมื่อพระจิตเข้ามาโดยเฉพาะในศีลมหาสนิทมากแค่ไหน
เมื่อเราเดินกับพระแล้วเราไม่ควรหันหลังกลับ พี่ยังจำพระคัมภีร์ท่อนนี้ได้ขึ้นใจ แต่ดันลืมเลขหัวข้อพระคัมภีร์ หุหุ "ผู้ใดจับคันไถแล้วหันหลังกลับไม่สมควรกับแผ่นดินของพระเจ้า" คนที่เดินกับพระเจ้าคือคนฉลาดถึงแม้ว่ามารซาตานจะใส่ความคิดให้บางทีเราคิดไม่ดีหรือห่างไกลจากพระแต่เมื่อเรามุ่งมั่นที่จะเดินกับพระ แล้วมีชีวิตที่สนทนากับพระวันต่อวันคุยกับพระจนติดเป็นนิสัย วันไหนไม่คุยกับพระเราจะรู้สึกเหง้า ไม่มีที่ระบาย เช่นวันนี้เราไม่สบายใจเรื่องนี้ ถึงเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็มาพูดคุยกับพระ เช่น ไปซื้อ ดีวีดี มาแล้วมันมีรอย อยากจะเปลี่ยนแต่ไม่รู้ว่าที่ร้านเขาให้เปลี่ยยหรือเปล่า ถ้าเราคุยต่อหน้ารูปแม่พระแล้วเราจะสบายใจ พอไปถึงร้าน ร้านเขาตอนรับเราอย่างดีบอกไม่เป็นไรครับเอามาเปลี่ยนได้ครับ บริการดี เราก็มีประสบการวันต่อวันกับพระเจ้า อยากบอกว่าปัญหาทุกเรื่องไม่ว่าเล็กหรือใหญ่อย่าเก็บไว้คนเดียวให้บอกให้พระฟังแล้วฝากไว้กับพระให้พระจัดการให้ พระเจ้าเป็นทางออกของเราทุกเรื่องไม่ใช่แค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ทุกๆ เรื่องที่เราเจอปัญหา ทุกๆ เรื่องที่เราไม่สบายใจ เราบอกกับพระเจ้า พี่บอกกับพระรูปแม่พระและพระกุมารเยซูเสมอเวลาเจอเรื่องที่ไม่สบายใจ แม้ขนาดดอกไม้ที่พี่ปลูกพี่ยังเอามาบอกแม่พระเลย บอกว่าจะทำยังไงดีแดดมันแรงมันร้อน กล้วยไม้มันก็ใบเหลืองแล้ว ในที่สุดก็ได้สแลมมาติด แล้วถ้าปลูกแล้วมันมีปัญหาอีกพี่ก็บอกต่อปน้ารูปแม่พระอีก แม้แต่เครื่องคอมพิวเตอร์มีปัญหาด้านซอฟแวร์ เครื่องพี่ไม่ใช่ว่าคุย พี่ใช้มาตั้งแต่ปี 2002 ใช้ทุกวัน ทั้งวันทั้งคืนเล่นถึงดึก พวกฮาร์ดแวร์มันไม่เคยเสียเลย น้องชายพี่เปิดร้านเน็ตคอมพิวเตอร์ซื้อมาปี 2005 เดี๋ยวเครื่องนี้เสีย เครื่องนู้นเสียต้องซ้อมกันอยู่บ่อยๆ ก็เป็นสิ่งที่แปลกพี่ว่าพระเจ้าคุ้มครองพี่ ของใช้บางอย่างพี่อย่างในห้องถ้าพี่อยากได้พระก็ให้เลยนะ พระเจ้าใจดี
เมื่อเราเดินกับพระแล้วเราไม่ควรหันหลังกลับ พี่ยังจำพระคัมภีร์ท่อนนี้ได้ขึ้นใจ แต่ดันลืมเลขหัวข้อพระคัมภีร์ หุหุ "ผู้ใดจับคันไถแล้วหันหลังกลับไม่สมควรกับแผ่นดินของพระเจ้า" คนที่เดินกับพระเจ้าคือคนฉลาดถึงแม้ว่ามารซาตานจะใส่ความคิดให้บางทีเราคิดไม่ดีหรือห่างไกลจากพระแต่เมื่อเรามุ่งมั่นที่จะเดินกับพระ แล้วมีชีวิตที่สนทนากับพระวันต่อวันคุยกับพระจนติดเป็นนิสัย วันไหนไม่คุยกับพระเราจะรู้สึกเหง้า ไม่มีที่ระบาย เช่นวันนี้เราไม่สบายใจเรื่องนี้ ถึงเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็มาพูดคุยกับพระ เช่น ไปซื้อ ดีวีดี มาแล้วมันมีรอย อยากจะเปลี่ยนแต่ไม่รู้ว่าที่ร้านเขาให้เปลี่ยยหรือเปล่า ถ้าเราคุยต่อหน้ารูปแม่พระแล้วเราจะสบายใจ พอไปถึงร้าน ร้านเขาตอนรับเราอย่างดีบอกไม่เป็นไรครับเอามาเปลี่ยนได้ครับ บริการดี เราก็มีประสบการวันต่อวันกับพระเจ้า อยากบอกว่าปัญหาทุกเรื่องไม่ว่าเล็กหรือใหญ่อย่าเก็บไว้คนเดียวให้บอกให้พระฟังแล้วฝากไว้กับพระให้พระจัดการให้ พระเจ้าเป็นทางออกของเราทุกเรื่องไม่ใช่แค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ทุกๆ เรื่องที่เราเจอปัญหา ทุกๆ เรื่องที่เราไม่สบายใจ เราบอกกับพระเจ้า พี่บอกกับพระรูปแม่พระและพระกุมารเยซูเสมอเวลาเจอเรื่องที่ไม่สบายใจ แม้ขนาดดอกไม้ที่พี่ปลูกพี่ยังเอามาบอกแม่พระเลย บอกว่าจะทำยังไงดีแดดมันแรงมันร้อน กล้วยไม้มันก็ใบเหลืองแล้ว ในที่สุดก็ได้สแลมมาติด แล้วถ้าปลูกแล้วมันมีปัญหาอีกพี่ก็บอกต่อปน้ารูปแม่พระอีก แม้แต่เครื่องคอมพิวเตอร์มีปัญหาด้านซอฟแวร์ เครื่องพี่ไม่ใช่ว่าคุย พี่ใช้มาตั้งแต่ปี 2002 ใช้ทุกวัน ทั้งวันทั้งคืนเล่นถึงดึก พวกฮาร์ดแวร์มันไม่เคยเสียเลย น้องชายพี่เปิดร้านเน็ตคอมพิวเตอร์ซื้อมาปี 2005 เดี๋ยวเครื่องนี้เสีย เครื่องนู้นเสียต้องซ้อมกันอยู่บ่อยๆ ก็เป็นสิ่งที่แปลกพี่ว่าพระเจ้าคุ้มครองพี่ ของใช้บางอย่างพี่อย่างในห้องถ้าพี่อยากได้พระก็ให้เลยนะ พระเจ้าใจดี
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ จันทร์ ม.ค. 21, 2008 2:36 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.