เค้กหย่าต่างจากเค้กแต่งงานอย่างไร
[img]http://blog.sanook.com/PortalPics/_fwma ... 3-1[1].jpg[/img]
[img]http://blog.sanook.com/PortalPics/_fwma ... /k5[1].jpg[/img]
[img]http://blog.sanook.com/PortalPics/_fwma ... 2-1[1].jpg[/img]
[img]http://blog.sanook.com/PortalPics/_fwma ... 4-1[1].jpg[/img]
[img]http://blog.sanook.com/PortalPics/_fwma ... 1-1[1].jpg[/img]
[img]http://blog.sanook.com/PortalPics/_fwma ... /k6[1].jpg[/img]
[img]http://blog.sanook.com/PortalPics/_fwma ... /k5[1].jpg[/img]
[img]http://blog.sanook.com/PortalPics/_fwma ... 2-1[1].jpg[/img]
[img]http://blog.sanook.com/PortalPics/_fwma ... 4-1[1].jpg[/img]
[img]http://blog.sanook.com/PortalPics/_fwma ... 1-1[1].jpg[/img]
[img]http://blog.sanook.com/PortalPics/_fwma ... /k6[1].jpg[/img]
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อังคาร ก.ค. 08, 2008 9:33 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ไอเดียเจ๋งมาก ๆ ครับ
ก็ครีเอทนะ แต่ว่า 

เห็นด้วยครับ ลึก ๆ เเล้ว เจ็บปวด โดยเฉพาะคนที่เป็นลูก
แต่เป็นไปได้นะครับว่าเขาเห็นกันดาษดื่นเเล้ว ก็เลยถือเป็นเรื่องธรรมดา
แต่มันเป็นความธรรมที่ไม่ค่อยจะน่าจดจำเท่าไหร่นัก
จากประสบการณ์ของผมเอง ผม ก็เป็นคนที่หย่ากับภรรยานะครับ แต่พอเราห่างกันผมกลับคิดได้ว่า
สิ่งที่เราขาดหายไปในช่วงที่อยู่ด้วยกัน คือชีวิต พระ
หลังจากนั้นผมก็เริ่มเปลี่ยนเเปลงตัวเองสวดภาวนา ให้ครอบครัวของเรา ประมาณ 1 ปี ความสัมพันธ์ของเราก็ค่อย ๆ ดีขึ้น เราเริ่มพูดคุยกันเรื่องการให้อภัย ความรัก ความห่วงใย และความหวังของเราแต่ละคน
และตอนนี้ เราก็ยังทำอยู่ และสถานการณ์ของครอบครัวเราก็ค่อย ๆ ดีขึ้น ครับ
ผมคิดว่า ชีวิตคู่ที่ต้องหย่าร้างกัน ก็เนื่องมาจากการไม่เอาความรักของพระนำทางชีวิต มัวเเต่เอาเวลาไปคิดถึงเรื่องของตัวเองเสียมาก
อย่างไรก็ตาม ใครที่เเต่งงานเเล้วและกำลังจะเลิกกัน ขอให้คิดใหม่นะครับ ขอให้ขอความสว่างจากพระจิตเจ้า มาก ๆ และคุณ่จะได้คำตอบและทางออกที่เหมาะสมที่สุด
ส่วนคู่ที่ดีอยู่ ก็ให้พยายามหาเวลาสวดภาวนาด้วยกัน และภาวนาซึ่งกันเเละกันครับ
ไม่รู้ว่าจิ่งจังมากไปหรือเปล่า
แต่เป็นไปได้นะครับว่าเขาเห็นกันดาษดื่นเเล้ว ก็เลยถือเป็นเรื่องธรรมดา
แต่มันเป็นความธรรมที่ไม่ค่อยจะน่าจดจำเท่าไหร่นัก
จากประสบการณ์ของผมเอง ผม ก็เป็นคนที่หย่ากับภรรยานะครับ แต่พอเราห่างกันผมกลับคิดได้ว่า
สิ่งที่เราขาดหายไปในช่วงที่อยู่ด้วยกัน คือชีวิต พระ
หลังจากนั้นผมก็เริ่มเปลี่ยนเเปลงตัวเองสวดภาวนา ให้ครอบครัวของเรา ประมาณ 1 ปี ความสัมพันธ์ของเราก็ค่อย ๆ ดีขึ้น เราเริ่มพูดคุยกันเรื่องการให้อภัย ความรัก ความห่วงใย และความหวังของเราแต่ละคน
และตอนนี้ เราก็ยังทำอยู่ และสถานการณ์ของครอบครัวเราก็ค่อย ๆ ดีขึ้น ครับ
ผมคิดว่า ชีวิตคู่ที่ต้องหย่าร้างกัน ก็เนื่องมาจากการไม่เอาความรักของพระนำทางชีวิต มัวเเต่เอาเวลาไปคิดถึงเรื่องของตัวเองเสียมาก
อย่างไรก็ตาม ใครที่เเต่งงานเเล้วและกำลังจะเลิกกัน ขอให้คิดใหม่นะครับ ขอให้ขอความสว่างจากพระจิตเจ้า มาก ๆ และคุณ่จะได้คำตอบและทางออกที่เหมาะสมที่สุด
ส่วนคู่ที่ดีอยู่ ก็ให้พยายามหาเวลาสวดภาวนาด้วยกัน และภาวนาซึ่งกันเเละกันครับ
ไม่รู้ว่าจิ่งจังมากไปหรือเปล่า
คิดดีๆอย่างนี้ ก็ดีมากแล้วครับผมDominic เขียน: เห็นด้วยครับ ลึก ๆ เเล้ว เจ็บปวด โดยเฉพาะคนที่เป็นลูก
แต่เป็นไปได้นะครับว่าเขาเห็นกันดาษดื่นเเล้ว ก็เลยถือเป็นเรื่องธรรมดา
แต่มันเป็นความธรรมที่ไม่ค่อยจะน่าจดจำเท่าไหร่นัก
จากประสบการณ์ของผมเอง ผม ก็เป็นคนที่หย่ากับภรรยานะครับ แต่พอเราห่างกันผมกลับคิดได้ว่า
สิ่งที่เราขาดหายไปในช่วงที่อยู่ด้วยกัน คือชีวิต พระ
หลังจากนั้นผมก็เริ่มเปลี่ยนเเปลงตัวเองสวดภาวนา ให้ครอบครัวของเรา ประมาณ 1 ปี ความสัมพันธ์ของเราก็ค่อย ๆ ดีขึ้น เราเริ่มพูดคุยกันเรื่องการให้อภัย ความรัก ความห่วงใย และความหวังของเราแต่ละคน
และตอนนี้ เราก็ยังทำอยู่ และสถานการณ์ของครอบครัวเราก็ค่อย ๆ ดีขึ้น ครับ
ผมคิดว่า ชีวิตคู่ที่ต้องหย่าร้างกัน ก็เนื่องมาจากการไม่เอาความรักของพระนำทางชีวิต มัวเเต่เอาเวลาไปคิดถึงเรื่องของตัวเองเสียมาก
อย่างไรก็ตาม ใครที่เเต่งงานเเล้วและกำลังจะเลิกกัน ขอให้คิดใหม่นะครับ ขอให้ขอความสว่างจากพระจิตเจ้า มาก ๆ และคุณ่จะได้คำตอบและทางออกที่เหมาะสมที่สุด
ส่วนคู่ที่ดีอยู่ ก็ให้พยายามหาเวลาสวดภาวนาด้วยกัน และภาวนาซึ่งกันเเละกันครับ
ไม่รู้ว่าจิ่งจังมากไปหรือเปล่า
เอาใจช่วยนะครับ ขอให้พระอวยพรDominic เขียน: เห็นด้วยครับ ลึก ๆ เเล้ว เจ็บปวด โดยเฉพาะคนที่เป็นลูก
แต่เป็นไปได้นะครับว่าเขาเห็นกันดาษดื่นเเล้ว ก็เลยถือเป็นเรื่องธรรมดา
แต่มันเป็นความธรรมที่ไม่ค่อยจะน่าจดจำเท่าไหร่นัก
จากประสบการณ์ของผมเอง ผม ก็เป็นคนที่หย่ากับภรรยานะครับ แต่พอเราห่างกันผมกลับคิดได้ว่า
สิ่งที่เราขาดหายไปในช่วงที่อยู่ด้วยกัน คือชีวิต พระ
หลังจากนั้นผมก็เริ่มเปลี่ยนเเปลงตัวเองสวดภาวนา ให้ครอบครัวของเรา ประมาณ 1 ปี ความสัมพันธ์ของเราก็ค่อย ๆ ดีขึ้น เราเริ่มพูดคุยกันเรื่องการให้อภัย ความรัก ความห่วงใย และความหวังของเราแต่ละคน
และตอนนี้ เราก็ยังทำอยู่ และสถานการณ์ของครอบครัวเราก็ค่อย ๆ ดีขึ้น ครับ
ผมคิดว่า ชีวิตคู่ที่ต้องหย่าร้างกัน ก็เนื่องมาจากการไม่เอาความรักของพระนำทางชีวิต มัวเเต่เอาเวลาไปคิดถึงเรื่องของตัวเองเสียมาก
อย่างไรก็ตาม ใครที่เเต่งงานเเล้วและกำลังจะเลิกกัน ขอให้คิดใหม่นะครับ ขอให้ขอความสว่างจากพระจิตเจ้า มาก ๆ และคุณ่จะได้คำตอบและทางออกที่เหมาะสมที่สุด
ส่วนคู่ที่ดีอยู่ ก็ให้พยายามหาเวลาสวดภาวนาด้วยกัน และภาวนาซึ่งกันเเละกันครับ
ไม่รู้ว่าจิ่งจังมากไปหรือเปล่า
ผมลูกสองแล้ว ที่บ้านก็มีปัญหาบ้างตามประสาครอบครัว แต่เมื่อถึงจุดสุดๆ เราจะจับมือกันอธิษฐาน สวด แล้วก็คุยกัน
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
แบบการ์ตูน ไง ไอ้ตัวที่เคยชนะในชีวิตจริง จะเป็นผู้พ่ายแพ้ในการ์ตูน+Ecclēsia เขียน: เเต่ทำไมต้องเป็นฝ่ายหญิงชนะ???![]()
เราว่าเค้กนี้คงเป็นไอเดียของพวก feminist แน่ๆ :evil:
อ่าว กรรม 555Jeab Agape เขียน:แบบการ์ตูน ไง ไอ้ตัวที่เคยชนะในชีวิตจริง จะเป็นผู้พ่ายแพ้ในการ์ตูน+Ecclēsia เขียน: เเต่ทำไมต้องเป็นฝ่ายหญิงชนะ???![]()
เราว่าเค้กนี้คงเป็นไอเดียของพวก feminist แน่ๆ :evil:
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ไม่จริงครับ การเป็นอิสระอยู่ที่ใจเราต่างหากmelon เขียน: เค้กหย่าคือการฉลองสำหรับคนที่ต้องการเป็นอิสระอีกครั้งค่ะ

- reccanohono
- โพสต์: 1045
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
- ที่อยู่: thailand
อันที่ใส่สีแดงทำเหมือนเลือดนั่น น่ากลัวอ่า 
เห็นแล้วไม่กล้าทานแน่ๆ

เห็นแล้วไม่กล้าทานแน่ๆ
