เรื่อง หมอดู

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ ม.ค. 30, 2008 12:15 am

Gray Cat Mobster เขียน:
อันตน เขียน:
necromancer เขียน: ลองไปเดินเล่นแถวฝั่งนู้น (ศิริราช) สิครับ
เยอะแยะไป
::015::
มาจากสถานเสาวภากันหรือยังไงวุ้ย พวกนี้
หลุดมาจากเขาดินครับ
งั้นต้องรีบคลานเข้าทำเนียบ
ว่าแต่...ในนั้นมีไก่จ๋าให้เขมือบป่ะ
อิอิ
:+:Regina Pacis:+:
.
.
โพสต์: 944
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm

พุธ ม.ค. 30, 2008 2:24 am

สำหรับตัวเองแล้ว ประสบการณ์ตรงก็คือ
ตอนเด็กๆที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรนักก็เคยไปดูหมอค่ะ

ที่ร้านหมอดูจะมีแต่คนหน้าตาดูไม่สบายใจเต็มไปหมด
ไม่มีใครสักคนที่ดูแจ่มใสร่าเริงปกติดีจะเดินเข้าร้านหมอดู
โดยเฉพาะร้านหมอดูราคาถูกจะเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในหมู่เด็กวัยรุ่นผู้หญิง..
เพราะว่าสาวๆส่วนใหญ่จะไปดูดวงเรื่องความรัก
ไปถามกับหมอดูว่าคนนั้นจะรักเราจริงไหม คนนี้เราจะได้มาเป็นแฟนไหม
แล้วเมื่อไหร่ดวงเนื้อคู่จะเกิดอะไรประมาณนั้น
ตอนไปหาหมอดูนั้นความรู้สึกจะเหมือนว่าเวลาไปดูหมอแล้ว
เรามีเพื่อนคุย ที่เป็นผู้ใหญ่ ที่เค้าเหมือนจะเข้าใจเรา
และก็พูดให้เราฟังแต่สิ่งดีๆเกี่ยวกับตัวเราทั้งนั้น
แล้วเราก็จะสบายใจไปได้เปราะหนึ่ง สักวันสองวันหลังจากกลับมา

พอโตขึ้นหน่อยก็เริ่มรู้อะไรมากขึ้นค่ะ
ครั้งล่าสุดที่ไปดูหมอก็ประมาน 5 ปีที่แล้วเห็นจะได้
เพราะว่ารู้สึกว่าหนักจริงๆไม่รู้จะคุยกับใครก็ อ่ะ หมอดูก็ได้
ปรากฏว่าคราวนั้นเป็นคราวที่ไปดูหมอแล้ว ไม่สบายใจเลยค่ะ
ไม่ได้เพราะว่าเค้าพูดออกมาไม่ดี แต่เป็นเพราะว่า รู้สึกผิดต่อพระค่ะ
เพราะได้เรียนรู้ว่าศาสนาเราไม่ได้สอนให้เชื่ออะไรแบบนี้
ก็เลยมาแก้บาปค่ะโดยบอกว่าได้ไปดูดวงมา..
แล้วก็ได้ข้อคิดดีๆจากคุณพ่อเลยทำให้ตั้งแต่นั้นมา
ไม่เคยไปดูดวงอีกเลยค่ะ

ประสบการณ์เหล่านั้นสอนให้ได้เรียนรู้ว่า
การที่เรามีเรื่องราวไม่สบายใจในชีวิต
หรือเป็นเรื่องที่เราหวังว่าจะได้แล้วไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้สักที
แล้วเราขอพระให้ได้ในสิ่งที่เราหวัง
บางที...สิ่งที่เราขอพระก็อาจจะมาช้า
ไม่ทันใจเรา หรือไม่เป็นไปตามที่เราหวัง
แต่ให้เราเชื่ออย่างหนึ่งว่า...
สิ่งที่พระให้ แม้ว่าจะมาช้าไปนิด
คลาดเคลื่อนกับที่เราคิดไว้บ้าง
แต่นั่นก็คือน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า
และขอให้เราน้อมรับน้ำพระทัยพระองค์ค่ะ




: xemo026 :




สำหรับเพื่อนของ เจ้าของกระทู้ที่นับถือศาสนาอื่น
อาจจะมีอะไรบางอย่างที่เค้าทำไปเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่ให้กระเจิดกระเจิง

แต่สำหรับเพื่อนที่เป็นศาสนาคริสต์
ลองแนะนำเค้าว่า...
เค้ามี พระเป็นเจ้าอยู่กับตัว แล้วเค้ายังจะไปหาสิ่งอื่นใด
ก่อนไปหาหมอดู..ลองให้เค้าชลอใจและสวดภาวนา
เพื่อความสงบของจิตใจที่เพิ่มมากขึ้นค่ะ


ปล. ลองสงบใจแล้วเปิดพระคัมภีร์ดูค่ะ
บางทีพระคัมภีร์ก็ไขความกระจ่างให้ชีวิตเราได้ดีกว่าหมอดูเป็นล้านเท่าเลยค่ะ   ::004::  ::004:: 
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ม.ค. 30, 2008 2:41 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พุธ ม.ค. 30, 2008 9:05 am

:+:Regina Pacis:+: เขียน:

ปล. ลองสงบใจแล้วเปิดพระคัมภีร์ดูค่ะ
บางทีพระคัมภีร์ก็ไขความกระจ่างให้ชีวิตเราได้ดีกว่าหมอดูเป็นล้านเท่าเลยค่ะ   ::004::  ::004:: 



ใช่เลยครับ ^^ หลายครั้งที่กังวลใจเราสามารถคุยกะ"ผู้นำชีวิต" เราได้โดยตรงไม่ต้องไปผ่านคนกลางให้เสียเงิน  ::011::
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ ม.ค. 30, 2008 1:07 pm

Immanuel (MichaelPaul) เขียน: สมัยสอบเอ็นสะท้าน เค้ากล่าวไว้ว่า หากผู้หญิงคนไหนอยากได้หมอ (ในความหมายว่าเอ็นต์ติดหมอ) ให้เลือกคณะพยาบาล แล้วพอจบแล้วไปทำงานจะได้หมอเอง  ::011:: เข้าใจกันไหมหว่า

: emo018 : : emo018 : : emo018 :
:+:Regina Pacis:+:
.
.
โพสต์: 944
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm

ศุกร์ ก.พ. 01, 2008 5:44 pm

necromancer เขียน:
Immanuel (MichaelPaul) เขียน: สมัยสอบเอ็นสะท้าน เค้ากล่าวไว้ว่า หากผู้หญิงคนไหนอยากได้หมอ (ในความหมายว่าเอ็นต์ติดหมอ) ให้เลือกคณะพยาบาล แล้วพอจบแล้วไปทำงานจะได้หมอเอง  ::011:: เข้าใจกันไหมหว่า

: emo018 : : emo018 : : emo018 :

::010::
In the name of father
โพสต์: 719
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
ที่อยู่: กาญจนบุรี

เสาร์ ก.พ. 02, 2008 4:59 pm

อย่ากลัวที่จะคุยกับพระเจ้า :angel:
ตอบกลับโพส