“ จิบชา “ โดย โอวตื๋ ( ตอนที่ 13-24 )

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ พ.ย. 25, 2024 6:37 pm

🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (13)

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠

ครั้งหนึ่ง พระสังฆราชจำต้องโดยสารรถแท็กซี่ไปเทศน์ตามโบสถ์สามแห่ง แต่ละแห่ง
ท่านก็เทศน์เรื่องแม่ยายของเปโตรไม่สบายเหมือนกันหมด คนขับแท็กซี่จึงได้ฟังเทศน์บท
เดิมถึงสามครั้งด้วยกัน
วันต่อมาแท็กซี่กำลังขับรถไปส่งผู้โดยสาร พอดีมีขบวนแห่ศพสวนทางมา
"ใครตายอีกละเนี่ย" ผู้โดยสารพูดขึ้นลอยๆ
"ผมว่าแม่ยายเปโตรแหงๆ" คนขับรถแท็กซี่ว่า
"ก็เมื่อวานพระคุณเจ้าท่านเทศน์ถึงเธอตั้งสามหนแน่ะ"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠

มิสซาวันอาทิตย์นี้ พ่อคำป่วนจะขึ้นเทศน์สอนว่าด้วยเรื่องโทษของการเล่นพนันขันต่อ
แต่พอคุณพ่อขึ้นไปบนธรรมาสน์ ก็มีเสียงจอแจดังมาจากที่นั่งแถวหลัง
"เงียบหน่อยสิ ทำอะไรกันน่ะ ทำไมเสียงดังจัง" พ่อคำป่วนถาม
"เอ่อ คือว่า พวกเรากำลังพนันกันว่า พ่อจะเทศน์ถึงสิบนาทีหรือเปล่าเท่านั้นเองครับ"
คนหนึ่งตะโกนมาจากแถวหลัง

💠 ตลกตกธรรมาสน์ : บทที่ 17 💠

คุณพ่อองค์หนึ่งประกาศในวัดหลังจากเทศน์เสร็จว่า อาทิตย์หน้าท่านจะเทศน์เรื่อง
การโกหก ขอให้บรรดาสัตบุรุษไปอ่านพระวรสารนักบุญมาร์โก บทที่ 17 มา
ครั้นถึงวันอาทิตย์ คุณพ่อทำมิสซามาถึงช่วงเทศน์ ก็ขึ้นธรรมาสน์ถามว่า มีใครบ้างไหม
ที่ได้อ่านบทอ่านที่มอบหมายให้ หลายต่อหลายคนยกมือกันสลอน "นี่แหละ" คุณพ่อว่า "พวกคน
เหล่านี้จะเป็นพวกที่พ่ออยากจะพูดถึงมากที่สุด รู้ซะนะว่า พระวรสารของนักบุญมาร์โกน่ะมีแค่สิบหกบท"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ : นี่หรือความเชื่อ? 💠

คุณพ่อเดินขึ้นธรรมาสน์ กล่าวว่า "พวกลูกที่รัก ที่พวกลูกมาชุมนุมกันในวัดวันนี้ ก็เพื่อสวด
วิงวอนขอฝนจากพระเป็นเจ้า พวกลูกเชื่อว่า พวกลูกจะได้รับตามที่พวกลูกขอหรือ?"
"พวกลูกเชื่อ" สัตบุรุษตอบรับกระหึ่มพร้อมเพรียง เหมือนพิธีรื้อฟื้นรับศีลล้างบาป
"ถ้าอย่างงั้น" คุณพ่อกล่าวต่อ "ทำไมไม่มีใครเอาร่มมาเลยสักคนล่ะ?"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ : ฝากคิดถึงด้วย 💠

สงฆ์หนุ่มได้รับมอบหมายให้เทศน์ในมิสซาวันอาทิตย์ ท่านเตรียมบทเทศน์ตามพระวรสาร
วันนั้นคือ เรื่อง "ลูกล้างผลาญ" ตั้งใจว่าจะให้ซาบซึ้งตรึงใจผู้ฟังที่สุด วันอาทิตย์มาถึง หลังจากอ่าน
พระวรสารจบ คุณพ่อเจ้าวัดก็นั่งลง สัตบุรุษทั้งวัดก็พากันนั่งลง สงฆ์หนุ่มของเรากระแอม แล้วเริ่ม
บทเทศน์ไปอย่างที่เตรียมมาด้วยความมั่นใจ จนเมื่อมาถึงตอนสำคัญ ลูกล้างผลาญเกิดความสำนึก
อยากจะคืนสู่บ้านตน
"ผมจะกลับไปหาพ่อของผม" สงฆ์หนุ่มพูดด้วยเสียงสอดใส่อารมณ์ แล้วก็พลันลืมตอนต่อไป
สัตบุรุษในในวัดเงียบกริบ "ผมจะกลับไปหาพ่อของผม" สงฆ์หนุ่มของเราย้ำประโยคเดิม พยายาม
คิดว่าคำพูดต่อไปเป็นอะไร แต่อนิจจา สมองของเขาว่างเปล่า ด้วยเสียงแหบเครือ เขาย้ำประโยค
เดิมอีก "ผมจะกลับไปหาพ่อของผม" พยายามเค้นสมองเต็มที่ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรให้เค้นเอา
เสียจริงๆ แล้ว ด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ สงฆ์หนุ่มของเราก็ตัดสินใจเดินกลับห้องซาคริสตี ที่อยู่หลังแท่น
ขณะที่เดินผ่านคุณพ่อเจ้าวัดที่นั่งอยู่ ท่านก็แตะแขนแล้วกระซิบว่า "ฝากความคิดถึงไปด้วยนะ"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ : เตือนแล้ว 💠

สงฆ์หนุ่มอีกองค์ (คงจะเป็นรุ่นเดียวกัน) ได้รับมอบหมายให้เทศน์ในมิสซาสำคัญเหมือนกัน
แต่องค์นี้ประหม่ามากกว่า พอขึ้นต้นบทเทศน์สำหรับเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสต์เจ้าว่า
"จงเตรียมตัวไว้ เราจะมาแล้ว" ก็เกร็งมือจับธรรมาสน์ไว้แน่น คิดอะไรไม่ออกอีก "จงเตรียมตัวไว้
เราจะมาแล้ว" ย้ำคำเดิมเพื่อถ่วงเวลา แต่ก็คิดไม่ออกอยู่ดี ตอนนี้มือเปลี่ยนจากเกร็งจับรรรมาสน์
เป็นเขย่า "จงเตรียมตัวไว้ เราจะมาแล้ว" ย้ำครั้งที่สามไม่ทันจบประโยค ทั้งคุณพ่อและธรรมาสน์ก็ล้ม
โครมลงมาจากพระแท่น ธรรมาสน์กระเด็นไปพาดกับที่คุกเข่าสัตบุรุษ เดชะบุญไม่ถูกใคร แต่ตัวคุณพ่อ
กลิ้งมาพาดบนตักสตรีใจศรัทธาผู้นั่งอยู่แถวหน้าสุด "ขอโทษครับ" คุณพ่อกล่าวเสียงแห้ง
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ" เธอตอบ "ความผิดอิฉันเอง คุณพ่ออุตส่าห์เตือนตั้ง 3 ครั้งแล้ว ก็ยังไม่ระวังตัวอีก"

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠

"ไม่มีนักเทศน์คนไหนเยี่ยมไปกว่ามดแดงเลย ทำไมเหรอ ก็เพราะมดมันพูดไม่ได้น่ะสิ"
(เบนจามิน แฟรงคลิน)

💠 ตลกตกธรรมาสน์ 💠

ขณะที่กำลังเทศน์อย่างออกรสออกชาตินั้น คุณพ่อก็สังเกตว่า ณ ที่นั่งแถวหน้าสุดนั้น สุภาพสตรี
ผู้หนึ่งกำลังนั่งหลับ คุณพ่อเรียกเด็กช่วยมิสซามากระซิบบอกให้ไปปลุกเธอคนนั้น แต่เด็กช่วยมิสซา
กลับสั่นหัว กระซิบตอบว่า
"คุณพ่อปลุกเองซิครับ พ่อทำให้เค้าหลับนี่"
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ จันทร์ พ.ย. 25, 2024 6:51 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ พ.ย. 25, 2024 6:50 pm

🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (14)

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

พระคุณเจ้าแก่แล้วหูตาก็ฝ้าฟาง จึงเลอะๆ เลือนๆ ไปบ้าง วันหนึ่ง ท่านเป็นประธานในพิธี
โปรดศีลกำลังผู้ใหญ่ เผอิญในกลุ่มผู้ที่มารับพิธีโปรดศีลกำลังนั้น ก็มีชายหัวล้านอ้วนล่ำคนหนึ่ง
และเมื่อถึงคราวชายหัวล้านเข้ามา พระคุณเจ้าก็เอามือวางบนหัวใสๆ ของเขา แล้วกล่าวเสียงดังว่า
"โปรดอวยพรหลักศิลาแห่งพระศาสนจักรต้นนี้เถิด พระเจ้าข้า"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠
สงฆ์หนุ่มผู้ร้อนรนเรียกเด็กหนุ่มท่าทางเหมือนขี้ยาคนหนึ่งมาหา ด้วยความปรารถนาที่จะ
ช่วยเหลือและแนะนำสั่งสอน ท่านถามเขาว่า "เธอมีปัญหาอะไรหรือ ถึงไม่ยอมอยู่บ้าน?"
เด็กหนุ่มตอบ "อ๋อ ปัญหาหรือครับ คือผมอยากรู้ว่าทำไมเราถึงเป็นโรคไขข้ออักเสบ"
สงฆ์หนุ่มเห็นว่าเป็นช่องทางที่จะสอนเด็กหนุ่มได้ จึงตอบว่า "โรคไขข้ออักเสบเกิดจากการ
เสพยาเสพติด การดื่มสุรา และมั่วสุมทางเพศ เธอต้องละเว้นจากสิ่งเหล่านี้ ไม่อย่างนั้นเธอ
จะเป็นโรคไขข้ออักเสบ"
"ผมน่ะหรือจะเป็น?" เด็กหนุ่มร้องอย่างตกใจ "ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นเลย"
"ถ้างั้นเธอถามพ่อทำไม?" สงฆ์หนุ่มสงสัย
"ที่ผมอยากรู้ว่าโรคนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง?" เด็กตอบ "เพราะแม่ผมบอกว่า พระสังฆราช
ของเรากำลังป่วยด้วยโรคนี้อยู่ฮะ"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠
ครั้งหนึ่ง เมื่อพระสังฆราชตรวจดูบัญชีวัดของสงฆ์หนุ่มท่านหนึ่ง ก็รู้สึกแปลกใจยิ่งนัก
เมื่อเห็นว่าที่ช่องรายจ่ายค่าอาหารสุนัขนั้นเป็นเงินจำนวนมากทีเดียว จึงเรียกสงฆ์หนุ่มเข้ามาสอบถาม
"คุณพ่อมีสุนัขกี่ตัว?"
"ห้าตัวครับ พระคุณเจ้า" สงฆ์หนุ่มตอบ
"ห้าตัวเชียวหรือ" พระสังฆราชตกใจ
"ทำไมคุณพ่อจึงเลี้ยงสุนัขไว้มากมายขนาดนั้น?"
"คืออย่างนี้ครับ...ผมมักจะถูกประจญล่อลวงในความบริสุทธิ์อยู่เสมอ ๆ และทุก ๆ ครั้งที่ถูก
ประจญ ผมก็จะออกไปวิ่งไล่สุนัข และการประจญก็หายไป"
พระสังฆราชชื่นชมในความตั้งใจดีของสงฆ์หนุ่มเป็นอันมาก และหลังจากนั้นไม่นาน สงฆ์หนุ่ม
ก็ได้รับจดหมายจากพระสังฆราช มีความว่า
"ขอคุณพ่อช่วยส่งสุนัขที่วิ่งเร็ว ๆ มาให้พ่อสัก 6 ตัว"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

พ่อจ่อยเขียนใบขอรับบริจาคส่งไปให้ลุงเขียม เศรษฐีขี้เหนียวประจำหมู่บ้าน หวังว่าจะ
ได้รับ บริจาคเงินจากแกบ้าง ที่สุด พ่อจ่อยก็ได้รับใบตอบรับกลับมา พร้อมกับเช็คเงินสดจำนวน
เงินยี่สิบบาท แกรู้สึกผิดหวังมาก ถึงกับอุทานออกมาว่า "เอ นี่เราจะเอาไปขึ้นเงิน หรือว่าจะเอาไป
ใส่กรอบแขวนข้างฝาดีวะนี่"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

พระคุณเจ้าเรียกสังฆานุกรจอมเหลาะแหละเข้าสัมภาษณ์ เพื่อตัดสินใจว่าควรให้เขารับ
ศีลบวช หรือไม่ สังฆานุกรของเราตอบคำถามได้ไม่ดีนัก จึงถูกคำสั่งให้กลับไปพักอยู่ที่บ้าน
"ทำไมพระคุณเจ้ายังไม่มีคำสั่งให้เอ็งบวชวะ?" พ่อของสังฆานุกรถามเมื่อเห็นเขากลับมาบ้าน
สังฆานุกรจอมเหลาะแหละตอบเสียงอ่อย
"พระคุณเจ้าท่านได้สั่งผมสองข้อครับ
ข้อแรกคือ ไม่ต้องกลับไปที่บ้านเณรอีกแล้ว
ข้อสองคือ ให้อยู่ที่บ้านนี่ตลอดไป"

💠 เฮฮาสภาวัด

คุณพ่อโก่ยเพิ่งเข้ามาทำงานในนิคมคนโรคเรื้อนได้สามสัปดาห์ ก่อนมาทำงาน คุณพ่ออธิการ
เตือนว่า อาการเริ่มแรกของโรคเรื้อนก็คือ ส่วนต่างๆ ในร่างกายจะไม่มีความรู้สึกเมื่อถูกสัมผัส ฉะนั้น
ขอให้ระวังตัวให้จงหนัก
วันหนึ่ง คุณพ่อโก่ยนั่งรถประจำทางเข้าไปในเมือง ที่นั่งข้างๆ มีหญิงสาวนั่งไปด้วย พอดีคุณพ่อ
รู้สึกคันหัวเข่า จึงเอื้อมมือไปเกา แต่แล้วคุณพ่อก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ เพราะท่านไม่มีความรู้สึกอะไรเลย
"โธ่ นี่พ่อคงติดโรคเรื้อนเข้าแล้ว เพราะพ่อเกาที่หัวเข่า แต่กลับไม่มีความรู้สึกอะไรเลย" คุณพ่อร้อง
ครวญกับหญิงสาว
"หนูว่าพ่อไม่ได้เป็นโรคเรื้อนหรอกค่ะ" หญิงสาวบอก
"เพราะที่พ่อเกาน่ะ มันเข่าหนู"

💠 เฮฮาสภาวัด : สวดได้ 💠

มิสชันนารีคนหนึ่ง เข้าไปเผยแพร่ศาสนาในป่า ขณะกำลังก้มหน้าก้มตาเดิน ก็มีหมีตัวเบ้อเริ่ม
โผล่ขึ้นมาขวางหน้า ด้วยจิตใจของนักแพร่ธรรม เขามองหมีตัวนั้น แล้วรำพึงออกมาดังๆ
ด้วยความสงสารว่า
"โธ่...สัตว์ที่น่าสมเพช เราอยากจะสอนให้เจ้ารู้จักพระ รู้จักการสวดภาวนาเหลือเกิน"
แต่อย่างไม่คาดฝัน เจ้าหมีตัวนั้น กลับตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า
"ผมสวดได้ ฟังนะ"
แล้วเจ้าหมีก็สวดออกมาว่า
"พระสวามีเจ้าข้า โปรดอวยพรแก่ข้าพเจ้า และอาหารที่จะรับประทานนี้..."

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

สงฆ์คาทอลิก ศาสนจารย์โปรแตสตันต์ และรับไบชาวยิวเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันมาก
ทั้งสามคนได้รับเชิญไปเสกรถยนต์ของท่านเศรษฐีในโอกาสที่ต่างกัน และเมื่อทั้งสามต่างได้มี
โอกาสที่จะพูดคุยกันถึงเรื่องเสกรถยนต์คันนี้
"ตอนเสกรถนะ ผมจะอ่านบทสวดเสียบทหนึ่ง แล้วค่อยพรมน้ำเสกเสียท่วมรถ" สงฆ์คาทอลิกว่า
"ตอนเสกรถเหรอ ผมก็จะร้องเพลงสุดดีเสียบท แล้วค่อยสวดยาวเหยียดพร้อมกันตรงหน้ารถ
นั่นแหละ" ศาสนจาจารย์โปรแตสตันต์ว่า
และพอถึงคราวของรับไบชาวยิว
"สมัยที่เขาเขียนพระคัมภีร์กันนั้น ยังไม่มีการประดิษฐ์คิดค้นรถยนต์ขึ้นมาเลย เราจึงไม่มีการ
สวดมนต์หรือร้องเพลงอะไรทั้งนั้น"
"อ้าว แล้วทำอะไรล่ะ?" เพื่อนสองคนถาม
"อ๋อ ก็คุณเคยได้ยินไหมว่า ในศาสนาของเรา ทารกที่เกิดใหม่จะถูกนำมาทำพิธี "ขริบ" กัน
ผมเลยทำพิธีคล้ายๆ กัน โดยตัดท่อไอเสียออกไปสามเซนติเมตร ถือเป็นอันเสร็จพิธี" รับไบว่า

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

พระสังฆราช เดินทางไปกับทัวร์แสวงบุญสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เมื่อไปถึงทะเลสาบกาลิลี
ท่านก็อยากจะนั่งเรือชมทัศนียภาพของทะเลสาบ จึงไปขอเช่าเรือ
"ถ้าพ่อขอเช่าเรือ จะคิดเท่าไหร่?" ท่านถามชาวเรือ
"ห้าสิบดอลลาร์ครับ" ชาวเรือตอบ
"ห้าสิบดอลลาร์!" พระคุณเจ้าร้อง
"พ่อไม่แปลกใจเลยที่พระเยซูเจ้าต้องเดินบนน้ำ"
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร พ.ย. 26, 2024 1:06 pm

🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (15)

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

พอคุณพ่อสมดุ่ยกลับมาจากส่งศีล ซิสเตอร์ดวงเดือนก็รายงานทันที
"คุณพ่อคะ วันนี้'เตอร์ทำขนมเบื้องไว้ให้คุณพ่อค่ะ แต่เจ้าแทงกิ้ว โดเบอร์แมนของคุณพ่อ
มันฟาดเสียเรียบเลย" ซิสเตอร์เสียงสะอึกสะอื้น
"โธ่ อย่าเสียใจไปเลยครับซิสเตอร์" คุณพ่อสมดุ่ยปลอบ
"พ่อว่า บางทีถ้าเราพาเจ้าแทงกิ้วไปหาหมอทัน มันคงจะปลอดภัยหรอก"

💠 เฮฮาสภาวัด : ความลับของอัศจรรย์ 💠

สงฆ์คาทอลิก ศาสนจารย์ และรับไบ ทุกท่านต่างก็ได้มีโอกาสมานั่งตกปลาในเรือลำเดียวกัน
ปรากฏว่าท่านทั้ง 3 นั่งตกปลาอยู่นานแล้ว ไม่ได้ปลาสักตัว สงฆ์คาทอลิกจึงลุกขึ้น แล้วเดินลงจากเรือ
มายืนอยู่บนผิวน้ำ แล้วเดินไปหยุดอยู่ที่กลางทะเลสาบ แล้วตกปลา ไม่นานนัก สงฆ์คาทอลิกก็ตกปลาได้
ศาสนจารย์เมื่อเห็นดังนั้น ท่านจึงลุกขึ้นบ้าง และเดินลงจากเรือ และยืนอยู่ที่ผิวน้ำ แล้วเริ่มเดินบน
ผิวน้ำไปหยุดยืนอยู่ที่อีกแห่งหนึ่ง ไม่นานนัก ศาสนจารย์ก็ตกปลาได้
รับไบมองด้วยตาที่เบิกกว้าง ตกลงใจจะเอาอย่างบ้าง แต่พอก้าวออกจากเรือ เขาก็จมผลุบลงในน้ำ
ครั้นตั้งหลัก ขึ้นบนเรือได้ เขาก็ลองดูใหม่ แต่แล้วก็จมอีกตามเคย
สงฆ์คาทอลิกเดินเข้ามากระซิบกับศาสนจารย์ว่า
"เราน่าจะบอกเขานะว่าแนวหินอยู่ตรงไหนบ้าง"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

พ่อบี้เป็นสงฆ์ประจำวัด ที่วัดคุณพ่อมีซิสเตอร์ขี้บ่นประจำอยู่ด้วย ซิสเตอร์แกชอบพูดแขวะคุณพ่อ
เป็นประจำ วันหนึ่งก็ถึงเวลาแก้เผ็ด เมื่อซิสเตอร์วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องทำงาน สะอึกสะอื้นเล่า
ให้พ่อบี้ฟังว่า
"พ่อคะ เมื่อคืน 'เตอร์ฝันร้ายค่ะ"
"ฝันว่าอะไรครับ 'เตอร์?" พ่อบี้ถาม
" 'เตอร์ฝันว่าถูกรถชนตายตั้งแต่ยังเป็นสาวค่ะ"
"โธ่! ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ 'เตอร์ก็รู้ดีนี่นาว่า มันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว" พ่อบี้ปลอบ

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

คุณพ่อสมปองเป็นคนขี้หลงขี้ลืม วันหนึ่งท่านเดินทางโดยสารรถไฟ นายตรวจมาขอดูตั๋ว
พ่อสมปองพยายามคลำกระเป๋าหาตั๋วของตนแต่ไม่พบ นายตรวจยืนรออยู่นานจนรู้สึกอึดอัด
"ไม่เป็นไรครับคุณพ่อ" นายตรวจว่า
"ผมเชื่อว่า คุณพ่อมีตั๋วจริงๆ" แล้วเขาก็เดินไป
ครู่ต่อมา นายตรวจเดินกลับมาก็ยังเห็นพ่อสมปองค้นหาตั๋วเป็นพัลวัน
"ผมบอกพ่อแล้วนี่ครับว่าผมเชื่อว่าพ่อมีตั๋วจริงๆ" นายตรวจเดินเข้าไปบอกให้คุณพ่อคลายใจ
"พ่อเข้าใจในความปรารถนาของเธอนะ แต่ยังไงพ่อก็ต้องหาตั๋วให้พบ" พ่อสมปองบอกอย่างกังวล
"เพราะพ่อไม่รู้ว่า พ่อต้องลงที่สถานีไหนน่ะสิ"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

พระคุณเจ้ารีบบึ่งรถไปให้ทันการประชุม ตำรวจทางหลวงจึงเปิดเหวอเรียกให้หยุดรถ ตำรวจ
วิ่งเหยาะๆ มาที่รถ พอกระจกเลื่อนลง เขาก็จำได้ว่าเป็นพระคุณเจ้าของเราอีกแล้ว
"โอ! พระคุณเจ้าอีกแล้วหรือครับนี่" เขาร้อง
"เออ! ดีที่ยังจำได้ แล้วอย่าลืมเสียล่ะ" พระคุณเจ้าตอบ แล้วรีบบึ่งรถออกไป

💠 เฮฮาสภาวัด : อยู่โน่นแน่ะ 💠

ซิสเตอร์ มารี โจเซฟ กลับเข้าไปในห้องเรียนชั้นประถม 4 ที่กำลังเอะอะเอ็ดตะโรกันสุดเหวี่ยง
คว้าได้คนตัวโตที่สุดใกล้มือ สั่งว่า "เธอไปยืนที่มุมห้อง คาบไม้บรรทัดไว้" ครั้นปราบความไม่สงบ
ในห้องได้ราบคาบ นักเรียนทุกคนนั่งกอดอก นิ่งเงียบกันหมดแล้ว ซิสเตอร์ก็ถามว่า
"ชั่วโมงนี้เป็นชั่วโมงคำสอน คุณพ่อดุ่ยศักดิ์ไปไหน? ทำไมปล่อยให้พวกเธอเล่นกันให้ห้องอย่างนี้"
ทุกคนนิ่ง ปล่อยให้ความเงียบปกคลุมห้อง จนที่สุดเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่นั่งหน้าสุดก็ยกมือขึ้น พูดว่า
"อยู่ที่มุมห้องไงคะ ก็ซิสเตอร์สั่งให้เค้าคาบไม้บรรทัดไว้"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

คุณพ่อสมดุ่ยซื้อนกแก้วช่างพูดมา แต่ท่านไม่ชอบใจนกแก้วตัวนี้เลย เพราะมันชอบพูดจา
หยาบคายอยู่เสมอ
"เอาละ" คุณพ่อบอกกับเจ้านกแก้ว
"ถ้าแกยังพูดจาหยาบคายอีก ฉันจะถอนขนบนหัวแกให้หมดเลย" ด้วยความกลัวสุดขีด
เจ้านกแก้วเลยเลิกพูดหยาบคายนับแต่นั้น
วันหนึ่งพระสังฆราชมาหาคุณพ่อเพื่อพูดคุยธุระกัน เผอิญเหลือบไปเห็นนกแก้ว ท่านก็ร้องทักขึ้นว่า
"ว่าไงเจ้าแก้ว... ไม่พูดไม่จาเลย"
"ผมไม่มีอะไรจะพูด" เจ้าแก้วว่า "แต่ดูจากหัวท่าน ผมพอจะเดาออกว่าท่านพูดอะไรมาบ้างแล้ว"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

คุณพ่อสมจ๋ายไปเยี่ยมเพื่อนสนิทที่บ้านนอก เพื่อนชวนให้คุณพ่อค้างคืนด้วยกันเสียเลย แต่ครอบครัว
ของเพื่อนก็มีเด็กมากเหลือเกิน ห้องนอนมีอยู่ห้องเดียว แถมมีเตียงเดียวเสียด้วย คุณพ่อสมจ๋ายทำหน้างงๆ
ไม่รู้จะนอนตรงไหน
ตอนแรกลูกชายคนโตง่วงนอน เขาเลยบอกแม่ให้พาไปที่เตียง แม่ก็พาเข้าไปในห้อง ประเดี๋ยวเขา
ก็หลับสนิท
ต่อมาลูกชายคนรองง่วงบ้าง เขาบอกแม่ให้พาไปที่เตียง แม่เลยอุ้มลูกชายคนโตลงจากเตียง
วางไว้บนพื้น แล้วอุ้มลูกชายคนรองขึ้นไปนอนแทนบนเตียง
เมื่อลูกคนต่อๆ มาร้องบอกว่าง่วงนอน แม่ก็จะเอาลูกที่หลับอยู่บนเตียงลงไปนอนบนพื้น แล้วให้ลูก
คนต่อๆ มาขึ้นไปนอนแทน พอแม่อุ้มลูกคนสุดท้องวางบนพื้นแล้ว จึงหันมาเชิญคุณพ่อสมจ๋ายให้ขึ้นเตียง
"ไม่ต้องหรอกครับ ผมนอนบนพื้นเลยดีกว่า" คุณพ่อสมจ๋ายตอบทันควัน

💠 เฮฮาสภาวัด
พระสังฆราชเข้าไปทานอาหารค่ำในภัตตาคารแห่งหนึ่ง จานซุปถูกยกมาแล้ว
ท่านลองชิมรส แล้วหันไปถามบริกรว่า "นี่ซุปอะไร?"
"ซุปไก่ครับ" บริกรตอบ
"พ่อว่าเธอน่าจะเอาซุปนี้กลับไปให้ไก่เดินผ่านอีกรอบดีกว่านะ " พระคุณเจ้าแนะนำ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ธ.ค. 02, 2024 1:49 pm

🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (16)

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

พระสันตะปาปารู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้า กับบรรดาสงฆ์ที่ชอบเรียกร้องให้สงฆ์มีสิทธิ
แต่งงานได้เป็นอย่างยิ่ง ท่านวิตกถึงเรื่องนี้มาก กระทั่งวันหนึ่ง ขณะรำพึงเช้าอยู่ พระเป็นเจ้าได้
เสด็จมาหา ท่านจึงถามพระองค์ว่า
"พระเจ้าครับ พระสงฆ์ควรมีสิทธิ์แต่งงานไหมครับ?"
"มีสิทธิ์อยู่ แต่ไม่ใช่ในช่วงชีวิตของเธอ" พระเจ้าตอบ
"แล้วพวกพระสังฆราชละครับ" โป๊ปถาม "พวกเขามีสิทธิ์จะแต่งงานไหม?"
"มีสิทธิ์อยู่ แต่ไม่ใช่ช่วงชีวิตของฉัน" พระเจ้าตอบ

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

เช้าวันอาทิตย์ แม่เคาะประตูห้องนอนของลูกชายที่ยังหลับอุตุอยู่บนเตียง ทั้งที่จะแปดโมงแล้ว
"นี่ลูก...ตื่นได้แล้วจ้ะ" แม่ตะโกนบอก
"ระฆังวัดตีแล้ว"
"ทำไมผมต้องตื่นด้วยละครับ?" ลูกชายตอบเสียงงัวเงีย
"แม่ลองให้เหตุผลผมมาสักสองสามข้อสิ"
"ก็ได้...ประการแรก วันนี้เป็นวันอาทิตย์ และก็ถึงเวลามิสซาแล้ว ประการที่สอง ลูกอายุ 40 ปีแล้ว
อายุมากพอควรที่จะไปร่วมมิสซาวันอาทิตย์ และประการที่สาม ลูกเป็นเจ้าอาวาสของวัดนี้นะจ๊ะ! "

💠 เฮฮาสภาวัด 💠
พ่อสมจ๋ายชอบอ้างโน่นอ้างนี้ เพื่อให้สัตบุรุษทำบุญกันวันละสามเวลา
วันหนึ่งแกบอกกับสัตบุรุษที่หน้าวัดว่า "พ่อจะดูแลพี่น้อง เหมือนนายชุมพาดูแลลูกแกะที่น่ารักเลยทีเดียว"
"พวกเราไม่ใช่ลูกแกะที่น่ารักหรอกครับ" ชายคนหนึ่งบอกเสียงเหนื่อยหน่าย
"อ้าว ไม่เป็นลูกแกะที่น่ารัก แล้วเป็นอะไรล่ะ?" พ่อสมจ๋ายงง
"เป็นลูกแกะที่ถูกตัดขนแล้วน่ะครับ"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠
ช่วงโฮมวีคที่พระสงฆ์กลับเข้าศูนย์ใหญ่ พ่อได้เจอกับพ่อเด่ เลยถามว่า
"เฮ้ เด่ คืนพรุ่งนี้ว่างปะ" พ่อโด่ถาม
"ว่างดิ" พ่อเด่ตอบ
"แล้วคืนวันศุกร์ล่ะ"
"ว่างเหมือนกัน"
"แล้วคืนวันเสาร์ล่ะ"
"วันเสาร์ อั้วต้องไปทำมิสซาที่วัดบ้านห้วยฯ"
"ว้า อั๊วกะจะชวนลื้อไปเลี้ยงข้าวเย็นวันนั้นพอดี เสียดายจังเลยเนอะ"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠
คุณพ่อเครายาวกำลังคุยกับสัตบุรุษนายหนึ่งอย่างออกรส
สัตบุรุษมองหน้าคุณพ่อแวบหนึ่ง แล้วบอกว่า "พ่อครับผมรู้ด้วยละว่า เมื่อเช้าคุณพ่อทานอะไร?"
"จริงเรอะ!" พ่อเครายาวทำท่าประหลาดใจ "เธอรู้ได้ไง?"
"ก็มีเส้นหมี่ติดอยู่ที่เคราของคุณพ่อนี่ครับ"
"โธ่! ไม่ใช่หรอก นั่นมันมื้อเช้าเมื่อวานตะหาก"

💠 เฮฮาสภาวัด : สักเพลงได้ไหม 💠
หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับมิสซาหลายรอบในวันอาทิตย์ คุณพ่อก็นั่งเอนหลังกับโซฟาตัวโปรด
หยิบหนังสือ "อิสระ" ขึ้นมา หวังจะอ่านให้รื่นใจคลายเหนื่อย แต่พลันเสียงไวโอลินเอื๊ยดอ๊อดแบบมือ
ฝึกหัดก็ดังมาจากบ้านหลังข้างๆ ชะรอยเสียงนั้นจะเสียดหูเหล่าสุนัขวัด พวกมันจึงพากันประสานเสียง
โหยหวนขึ้นเป็นพักๆ ตามเสียงเพลง คุณพ่อพลิกอ่าน "จิบชา" ไปได้สองเรื่อง ก็มิอาจจะทนต่อไปได้อีก
ท่านจึงลุกขึ้นเดินไปริมรั้ว ตะโกนถามว่า
"นี่เธอ ได้โปรดเล่นเพลงที่เจ้าพวกหมาของพ่อไม่รู้จักได้ไหม?"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

เมื่อครั้งทุ่งตะวันตกยังเต็มไปด้วยคาวบอย หนุ่มใหญ่หน้ากร้าน คล้าย
บัฟฟอร์โล บิล เดินเข้ามาในบาร์เหล้า ร้องสั่งว่า "ไอ้น้อง เอานมผสมเหล้าอย่างแรงมาให้ข้า ใส่วิสกี้
สี่แป๊กเลยนะโว้ย" ว่าแล้วก็ขอตัวเดินขึ้นไปอาบน้ำ บอกว่า เดี๋ยวจะลงมาจัดการ สักประเดี๋ยวก็มีชาย
อีกคนเดินเข้ามา สวมชุดดำสีมอ ๆ ท่าทางเหนื่อยอ่อน เขาเดินเข้าไปที่บาร์ กระซิบเบา ๆ ว่า "บ๋อย ผม
เป็นนักเทศน์ที่เดินทางไปเรื่อย ๆ นี่ก็เพิ่งเข้าไปเทศน์ในเขตทะเลทรายมาอาทิตย์เต็ม ๆ ขาดแคลนทั้ง
อาหารและน้ำดื่ม ตอนนี้เหลืออยู่เหรียญเดียวเอง ไม่ทราบว่าคุณจะมีนมสักแก้วราคาหนึ่งเหรียญบ้างมะ?
"นี่ครับนม คุณพ่อไม่เคยเป็นหนี้ผมสักเก๊เดียว ดังนั้นคุณพ่อย่อมได้รับเครื่องดื่มนี้ไปฟรี ๆ ครับ"
คุณพ่อคาวบอยของเรายกนมแก้วใหญ่ขึ้นดื่มอย่างช้า ๆ แกดื่มโดยไม่ได้หยุดหายใจเลย
พอหมดแก้ว ก็เลียริมฝีปาก อุทานว่า
"โอ มายก๊อด บ๋อยเอ๋ย ถ้าแม่วัวตัวนี้ออกลูกเป็นตัวเมียละก็ พ่อขอซื้อเชื่อไว้เลยนะ"
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ธ.ค. 02, 2024 1:56 pm

🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (17 )

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

คุณพ่อดุ่ยของเราคลั่งไคล้ ไทเกอร์ วูด มากเมื่อถึงคราวพักร้อนประจำปี คุณพ่อดุ่ยจึง
ตัดสินใจไปเล่นกอล์ฟที่สนามดังแห่งหนึ่งที่ ไทเกอร์ วูด เคยมาเล่นบ่อย ๆ
คุณพ่อตีมาเรื่อย จนมาถึงหลุมปราบเซียนประจำสนาม แคดดี้บอกว่า "เวลาไทเกอร์ วูด
มาถึงหลุมนี้ เขาจะใช้เหล็กตีเบอร์ 3 ขณะตีลูก ปากก็ขมุบขมิบสวดไปด้วย"
"ผมจะลองทำอย่างวูดบ้าง" คุณพ่อดุ่ยรับคำ แต่ปรากฏว่าลูกลอยลิ่วลงน้ำไปเฉยเลย
"พระเจ้าคงไม่ฟังคำภาวนาของผมแหงๆ" คุณพ่อแก้ตัว
"ผมว่าพระเจ้าคงได้ยินคำภาวนาของพ่ออยู่หรอก" แคคดี้ว่า "แต่เวลาไทเกอร์ วูด
เขาสวดน่ะ เขาก้มหน้ามองลูกครับ"

💠 เฮฮาสภาวัด : พ่อเจ้าวัดเปิดใจ 💠

"คุณคงไม่รู้ว่าพ่อปลัดของผมกวนโอ๊ยขนาดไหน วันก่อนผมกำลังจะเขียนจดหมาย
เหลือบไป เห็นเขากำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ เลยถามว่า
"วันนี้วันที่เท่าไหร่?"
"ไม่รู้สิ" พี่ท่านว่า
"ก็ดูที่หัวหนังสือพิมพ์หน่อยไม่ได้หรือว่าวันไหนแล้ว" ผมรู้สึกเหลือทน
"ไม่ได้หรอก นี่มันหนังสือพิมพ์ของเมื่อวาน" พี่ท่านตอบหน้าตาย

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

สงฆ์แองกลิกันองค์หนึ่งต้องมาขอความช่วยเหลือจากพ่อสมดุ่ย ซึ่งเป็นสงฆ์คาทอลิก
สงฆ์ท่านนั้นบอกว่าให้ไปช่วยปราบผีที่บ้านหน่อย พ่อสมดุ่ยเลยถามขึ้นอย่างขำๆ ว่า
"พ่อก็เป็นพระสงฆ์นะครับ ยังจะมาขอให้ผมไปช่วยปราบผีอีก ว่าแต่ว่าผีตัวนี้มันน่ากลัว
มากหรือครับ"
"มันน่ากลัวตั้งแต่ยังไม่ตายแล้วล่ะ เพราะมันเป็นผีเมียผมเอง" สงฆ์แองกลิกันตอบ
ด้วยความสยอง

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

ใครๆ ก็บอกว่า พ่อสมดุ่ยหน้าตาเหมือนดารา "หม่ำ จ๊กมก" วันหนึ่งขณะที่คุณพ่อกำลังจะ
เดินเข้าไปซื้อของในร้านค้า ก็เห็นสตรีใจศรัทธาสองคนกำลังซุบซิบกัน ทั้งสองซุบซิบดังมากจน
เข้าหู คุณพ่อว่า "นั่นแน่ะ พ่อสมดุ่ยแน่ๆ เลย" คุณพ่อเลยหันไปทักทาย แล้วบอกว่า
"เอ คุณทั้งสองคงไม่ใช่สัตบุรุษวัดผมนี่ครับ ผมไม่เห็นหน้าพวกคุณเลย แล้วคุณรู้จักผมได้ไงครับนี่"
"คืองี้ค่ะ" คนหนึ่งว่า "สัตบุรุษวัดคุณพ่อมาเล่าให้เราฟังว่า คุณพ่อวัดเขาหน้าเหมือน
หม่ำ จ๊กม๊ก มาก เราเลยคิคว่า คุณพ่อต้องเป็นคุณพ่อสมดุ่ยแน่ๆ"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

คืนวันหนึ่ง โจรกระจอกกระโดดจากพุ่มไม้มาขวางหน้าชายคนหนึ่ง ใช้ปืนจี้เอวชายคนนั้น ตะคอกว่า
"เอาเงินของแกมาให้หมด"
ชายคนนั้นทำใจดีสู้โจร บอกว่า "อย่าทำพ่อเลยนะ พ่อดูแลอาสนวิหารตรงหัวมุมถนนนั่นเอง"
"งั้นเอาเงินของข้าคืนมา"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

ครั้งที่คุณพ่อจอห์น ผู้พิสมัยศิลปะเดินทางไปปารีส เพื่อชมศิลปะแบบนามธรรม (หรือที่เรียกว่า
แอ๊บแตก) เพื่อหาซื้อมาเก็บไว้ คุณพ่อแกเดินเลือกอยู่นาน จนไปสะดุดอยู่ที่ภาพหนึ่งเป็นภาพจุดดำๆ
ขาวๆ มีกรอบทำด้วยทองแดง คุณพ่อเลยติดต่อพนักงาน ถามราคาทันที พนักงานในร้านหันไปมอง
ภาพนั้น แล้วเงียบไป
"คงราคาแพงเลยใช่ไหม คุณถึงไม่บอกผม บอกมาเถอะ ผมสู้ราคาแน่"
พนักงานหันไปมองภาพนั้นอีกครั้ง แล้วบอกคุณพ่อเบาๆ ว่า
"เอ่อ คุณครับ นั่นมันแผงสวิตช์ไฟน่ะครับ เราคงขายให้คุณไม่ได้หรอก"

💠 เฮฮาสภาวัด 💠

ขณะรับประทานอาหารอยู่ สังฆราชรู้สึกไม่สบอารมณ์ เมื่อมีขอทานแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าหยาบๆ
คาดเอวแบบฤษี มาคุกเข่าขอเศษอาหาร สังฆราชจึงถามไปว่า
"ลูกเอ๋ย ทำไมลูกไม่ไปทำงานหาเลี้ยงชีพล่ะ"
ขอทานตอบ
"ผมเก็บขยะ ล้างรถ เพื่อแลกกับอาหารในแต่ละมื้อแล้วครับ"
พระคุณเจ้าเริ่มหงุดหงิด แล้วถามต่อไปว่า
"แล้วทำไมยังมาขอทานอีกล่ะ"
ขอทานตอบอย่างภูมิใจว่า
"เพราะนี่เป็นกฎข้อที่สองของนักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซีครับ"

💠 เฮฮาสภาวัด : มาเซอร์ เธอเหนือเมฆ 💠

วัดของผมอยู่ติดกับบ้านพักของพวกมาเซอร์ อธิการบ้าน ท่านชอบมายืมข้าวของเครื่องใช้
จุกจิกที่บ้านของผมเป็นประจำ และวันนี้เธอก็มาอีกแล้ว
"เอ่อ คุณพ่อคะ เซอร์เห็นเครื่องตัดหญ้าของคุณพ่อมันจอดอยู่เฉยๆ ไม่ทราบว่า วันอาทิตย์นี้
คุณพ่อจะใช้เครื่องตัดหญ้าเครื่องนั้นหรือเปล่า?"
"แหมบังเอิญจริงๆ ครับ สนามหญ้าที่หน้าวัดมันเริ่มรกแล้ว ผมคิดว่า วันอาทิตย์นี้ผมจะตัด
หญ้าพอดีเลย" ผมหาข้ออ้างมากันท่าคุณแม่อธิการจนได้
"นึกแล้วเชียวว่าวันอาทิตย์นี้คุณพ่อจะตัดหญ้าทั้งวันแน่ๆ คงไม่ได้ออกไปไหนใช่ไหมคะ"
"เอ่อ คงงั้นละครับ" ผมยังงงว่าเธอจะมาไม้ไหน
"งั้นวันอาทิตย์นี้ ขอยืมรถปิกอัพไปขนของหน่อยนะคะ จอดไว้ว่างๆ อยู่แล้วนี่คะ คุณพ่อ"
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ธ.ค. 02, 2024 2:06 pm

🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (18)

💠 เฮฮาสภาวัด : ความซื่อสัตย์ 💠

เศรษฐีชราผู้รู้ตัวว่ากำลังจะตาย เรียกทนายความ หมอ และพระสงฆ์มาข้างเตียง
"เขาพูดกันว่า คนเราตายแล้วเอาเงินทองติดตัวไปไม่ได้หรอก แต่ผมอยากจะลองดู
ผมจะให้ซองที่บรรจุเงินสามแสนบาทแก่พวกท่านคนละซอง ขอให้เอาซองนี้ทิ้งลงในหลุมศพ
ของผม เวลาที่จะเอาดินกลบโลง"
ในพิธีฝังศพ ทั้งสามคนต่างก็โยนซองที่ตนได้รับลงไปในหลุม
ระหว่างเดินกลับบ้าน ทนายความก็สารภาพว่า "ผมจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อรักษาลูกที่ป่วย
ผมเอาเงินออกมาแสนหนึ่ง โยนลงไปในหลุมแค่สองแสน"
หมอสารภาพบ้าง "ผมก็กำลังต้องการใช้เงิน เพื่อเพิ่มเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล เลยเอา
ออกมาสองแสน โยนลงไปแค่แสนเดียว"
คุณพ่อมองหน้าคนทั้งสองแล้วพูดยิ้มๆ "พ่อก็ต้องการเงินสร้างวัด พ่อโยนลงไปในหลุมทั้ง
สามแสนบาทนั่นแหละ แต่เป็นเช็คนะ"

💠 เฮฮาสภาวัด : เป็นอะไรดี 💠

อาบี หนุ่มยิว อายุครบ 16 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ฉายแววออกมาเลยว่า โตขึ้นเขาจะเลือกทางเดิน
เส้นใด แม่ของอาบีออกจะวิตกในเรื่องนี้ นางบอกเล่าความกังวลให้เพื่อนบ้านฟัง เพื่อนบ้านก็ช่าง
ดีใจหาย เขาให้คำแนะนำว่า "เอาอย่างนี้สิ ก่อนที่อาบีจะกลับจากโรงเรียมตอนบ่าย คุณนายจงเอา
ธนบัตร วิสกี้ และพระคัมภีร์วางไว้บนโต๊ะ คอยสังเกตดูว่า เขาจะเลือกหยิบอะไร ถ้าเขาหยิบธนบัตร
แสดงว่าเขาควรเป็นนักธุรกิจ เพราะสนใจเรื่องเงินทอง ถ้าหยิบเหล้ามารินดื่ม เขาก็ชอบสังคม ควรใ
ห้เขาอยู่ในวงการบันเทิง แต่ถ้าเลือกพระคัมภีร์ โอ...แม่นแล้ว เขาอยากจะเป็นรับไบ"
แม่ของอาบีเห็นด้วย จึงได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อย จากนั้นก็แอบซุ่มสังเกตอยู่นอกหน้าต่าง
พร้อมกับเพื่อนบ้านแสนดีคนนั้น แล้วภาพที่ปรากฏแก่สายตาของคนทั้งสอง เมื่ออาบีเดินเข้ามาในห้อง
ก็คือ เขาหยิบธนบัตรใส่กระเป๋า รินเหล้าดื่ม และหนีบพระคัมภีร์ไว้ใต้แขน เดินเข้าห้องไป
แม่ของอาบีและเพื่อนบ้านผู้หวังดีหันมามองหน้ากัน แล้วพูดออกมาแทบจะพร้อมเพรียงกันว่า
"เขาจะเป็นสงฆ์คาทอลิก!"

💠 เฮฮาสภาวัด : รับรางวัลไปเลย 💠

คุณพ่อเดินผ่านกลุ่มเด็กๆ ที่กำลังนั่งเล่นอะไรกันอยู่ มีลูกสุนัขตัวเล็กๆ อยู่กลางวง
"ทำอะไรกันเอ่ย?" คุณพ่อทัก
"พวกเรากำลังเล่นเกมโกหกกันครับ" พวกเด็กบอก "ใครเล่าเรื่องที่โกหกมากที่สุดจะได้
ลูกสุนัขตัวนี้ไป"
"นี่ๆ ฟังพ่อนะ" คุณพ่อคิดว่าควรจะมีการอบรมกันนิดหน่อย "ตอนที่พ่ออายุเท่าพวกเธอน่ะ
แม้แต่จะคิดโกหก พ่อก็ไม่เคย"
"คุณพ่อชนะ" พวกเด็กๆ ร้อง
"เอาลูกสุนัขไปเลยครับ"

💠 เฮฮาสภาวัด : ดีขึ้นบ้าง 💠

หลังจากที่ทำงานกับพวกมนุษย์กินคนในเกาะนิวกินีเป็นเวลาหลายปี ในที่สุด คุณพ่อ
มิสชันนารี ก็ได้รับผู้ช่วย พระสงฆ์หนุ่มที่ถูกแต่งตั้งเดินทางมาพบท่านด้วยอาการหนาวๆ ร้อนๆ
เขาถามพ่อมิสชันนารีว่า
"ผมได้ยินว่าคนที่นี่ยังกินเนื้อมนุษย์อยู่ คุณพ่อแน่ใจหรือว่า พวกเขาพร้อมที่จะรับเรื่องศาสนา"
คุณพ่อมิสชันนารีตบไหล่สงฆ์หนุ่ม กล่าวว่า
"พวกเขาดีขึ้นมากแล้วล่ะ เดี๋ยวนี้นะ ทุกวันศุกร์พวกเขากินแต่ชาวประมงเท่านั้น"

💠 เฮฮาสภาวัด : ข่าวดีกำลังสอง 💠

คุณพ่อผู้ศรัทธาองค์หนึ่งค่อนข้างเป็นกังวลว่า คนจะได้ขึ้นสวรรค์หรือไม่ ท่านตกลงใจถาม
เทวดารักษาตัวให้ลองไปสืบค้นให้ที หลายวันต่อมา อารักขเทวดาก็มาแจ้งข่าว
"มีข่าวดี และข่าวดีกำลังสอง"
"ข่าวดี และข่าวดีกำลังสอง??" คุณพ่อทวนคำงงๆ
"ใช่แล้ว ข่าวดีก็คือ คุณพ่อจะได้ขึ้นสวรรค์แน่นอน ส่วนข่าวดีกำลังสองนั้น..
. " ท่านเทวดาหยุดนิดนึง อมยิ้ม "ก็คือว่า เป็นวันพรุ่งนี้นี่แหละ"

💠 เฮฮาสภาวัด : อย่างละครึ่ง 💠

คุณพ่อองค์หนึ่งซึ่งเคยเป็นพระสงฆ์ประจำกองทัพ เล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่ง ท่านอยากจะ
เพิ่มเติมเครื่องใช้ที่จำเป็น ภายในวัดน้อยสำหรับพวกทหาร จึงเขียนรายงานเสนอขอต่อผู้บังคับบัญชา
ดังนี้
ที่คุกเข่า 40 ที่
ม้านั่ง 40 ตัว
ภาพเดินรูป 14 ภาพ
แต่เป็นเรื่องปกติ ที่สิ่งของตามรายการที่สั่งไป จะได้รับการอนุมัติเพียงอย่างละครึ่งเท่านั้น
คำตอบที่คุณพ่อได้รับ คือ
อนุมัติที่คุกเข่า 20 ที่
ม้านั่ง 20 ตัว
ภาพเดินรูป 7 ภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ธ.ค. 02, 2024 2:15 pm

🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (19)

💠 จิปาถะนิยาย : ชีวิตนี้ต้องเลือก 💠

ชายคนหนึ่งได้รับมรดกเป็นมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไขที่เขาต้องเลือกว่า จะรับเอา
มรดกที่อยู่ที่ประเทศชิลีหรือประเทศบราซิล เขาเลือกเอาบราซิล โชคร้าย! เพราะปรากฏว่า ในชิลีนั้น
ที่ดินที่จะเป็นมรดกของเขานั้น เพิ่มพูนมูลค่าขึ้นอีกด้วยแร่ยูเรเนียมและทองคำ ซึ่งเพิ่งจะขุดพบ เมื่อ
อยู่ในบราซิล เขาต้องเลือกว่าจะเอามรดกที่เป็นกาแฟหรือชา เขาเลือกเอาชา โชคร้าย! ราคาของชา
ตกลงต่ำสุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่ราคาขายของกาแฟ ก็พุ่งสูงลิบลิ่วอย่างไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน
เขาหมดตัว
เขาขายนาฬิกาเอาเงินเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน เขามีเงินพอที่จะบินไปลอสแอนเจลิสหรือนิวยอร์ก
เขาเลือกเอานิวยอร์ก โชคร้ายเช่นเคย! เพราะเครื่องบินที่จะไปลอสแอนเจลิสนั้น เป็นเครื่องซุปเปอร์
เจ็ทใหม่เอี่ยมอ่อง แอร์โฮสเตสก็สาวและสวย ส่วนเครื่องที่จะไปนิวยอร์กเป็นฟอร์ต ปี 1928 ซึ่งกว่า
จะบินขึ้นได้ ก็วิ่งวนอยู่ครึ่งค่อนวันในสนามบิน ซ้ำบนเครื่องก็ระงมไปด้วยเสียงกระจองอแงของลูก
เล็กเด็กแดง
เมื่อเครื่องบินบินเหนือภูเขาแอนดีส ใบพัดข้างหนึ่งก็หลุดออก ชายผู้โชคร้ายคลานเข้าไป
หากัปตันในห้องนักบิน
"ผมน่ะตัวซวย" เขาบอก
"ถ้าอยากให้ใครๆ รอดล่ะก็ เอาชูชีพมาให้ผมเถอะ"
กัปตันตกลง แต่เสริมว่า "บนเครื่องมีชูชีพเเค่ 2 ชุด คุณต้องเลือกเอาชุดใดชุดหนึ่ง" เขาเลือกได้
ชุดหนึ่ง สวมแล้วกระโดดลงมา กระแสลมอื้ออึงพัดผ่านไปอย่างรุนแรง เขาพยายามกุมสติให้มั่นคง
และเลือกดึงเชือกที่อยู่ทางซ้ายสุดแรง ปรากฏว่าเชือกนั้นเป็นเปื่อยยุ่ยอยู่แล้ว มันขาดหลุดร่วงลงไป
เขาจึงกระตุกเชือกเส้นทางขวา ร่มกางแต่ทว่ามีรูกลวงโบ๋ ไม่ได้ปะทะปะทังอากาศแม้แต่น้อย เขาร้อง
ออกมาสุดเสียงว่า
"นักบุญฟรังซิส ช่วยลูกด้วย"
มีมือมหึมาโผล่ออกมาจากก้อนเมฆ คว้าเอวของเขาไว้ แล้วก็มีเสียงกระซิบแผ่วๆ ตามมาว่า
"ฟรังซิสไหน? ฟรังซิสเซเวียร์ หรือฟรังซิส อัสซีซี"

💠 จิปาถะนิยาย : ไม่รู้จะพูดยังไงดี 💠
ชายคนหนึ่งถามเพื่อนผู้ไม่ได้เจอกันมาหลายปีว่า
"ภรรยาคุณสบายดีหรือ"
"เค้าอยู่ในสวรรค์แล้ว" เพื่อนตอบ
"โอ...ขอแสดงความยินดีด้วย"
ว่าไปอย่างนั้นแล้ว เขาก็คิดได้ว่าไม่สมควร จึงเปลี่ยนว่า
"เอ้อ ผมหมายถึงผมเสียใจด้วยน่ะครับ"
แต่นี่ก็ยิ่งร้ายลงไปอีก เขาอึกอัก ที่สุดก็หลุดออกมาว่า
"ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี"

💠 จิปาถะนิยาย : ดูใจกัน 💠

บนเครื่องบินขนาดเล็กลำนั้น มีผู้โดยสาร อันประกอบด้วย นักวิทยาศาสตร์ผู้ลือนาม
มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่ง (แต่ถี่เหนียว) เซลล์แมน และพระสงฆ์คาทอลิก รวมทั้งกัปตันด้วยกันเป็น
5 คน เมื่อเครื่องบินลำนี้ขึ้นจากสนามบินได้ไม่ถึงชั่วโมง กัปตันก็วิ่งพรวดพราดออกจากห้อง
นักบิน เขาพูดด้วยเสียงตะโกนว่า
"เครื่องยนต์ขัดข้อง จะพุ่งโหม่งโลกในอีก 3 นาที มีร่มชูชีพอยู่ 4 ชุด ผมในฐานะที่เป็นกัปตัน
จำเป็นต้องนำข่าวเรื่องเครื่องบินเสียไปรายงาน"
ว่าแล้วเขาก็หยิบร่มชูชีพชุดหนึ่งขึ้นมาสวม กระโดดลงจากเครื่องไป คนต่อมาที่หยิบร่มชูชีพได้แก่
นักวิทยาศาสตร์ เขาบอกเหตุผลอย่างรวบรัดว่า
"ผมเพิ่งจะค้นพบสูตรใหม่ ที่สามารถควบคุมพลังงานนิวเคลียร์ได้อย่างเด็ดขาด คนนับล้านๆ
รอคอยผมอยู่" แล้วเขาก็กระโดดลงไป
ผู้โดยสารที่เหลือทั้งสามคนมองตากันไปมา แล้วมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งก็กระแอมเบา ๆ พูดขึ้นว่า
"ผมมีกิจการที่จะต้องดูแลหลายอย่าง หากขาดผมไป คนนับแสนๆ ต้องถูกลอยแพแน่" เขาก้มลงหยิบ
ชูชีพขึ้นสวม ก้าวไปที่ปากประตู หันกลับมาพูดว่า
"โชคดีนะครับ" แล้วเขาก็โผลงไป
"เอ้อ... " คุณพ่อกระแอมบ้าง "...พ่อคิดว่า..."
เซลล์แมนยกมือขึ้นห้าม เขาก้มลงหยิบร่มชูชีพขึ้น สวมให้ท่าน คุณพ่อรู้สึกกระอักกระอ่วนใจมาก
"คือ...พ่อคิดว่า..."
"เร็วๆ เข้าเถิดครับคุณพ่อ" เขาช่วยท่านสวมจนเสร็จ แล้วก็ก้มลงหยิบร่มซูชีพขึ้นมาอีกชุดสวมให้ตัวเอง
"ผมเป็นเซลล์ขายของเล่นเด็ก ร่มชูชีพที่เศรษฐีนั่นคว้าไปเมื่อกี้นะ เป็นของตัวอย่างที่ผมเอามาด้วย"

💠 จิปาถะนิยาย 💠
ในดินแดนของมนุษย์กินคน ถ้าคุณเคยบุกป่าฝ่าดงเข้าไปถึง คุณจะเห็น "เนื้อต้ม"
ที่ปิดราคาเอาไว้ดังนี้
เนื้อนักการเมือง 25 ดอลลาร์
เนื้อคนนำทาง 5 ดอลลาร์
เนื้อนายพราน 4 ดอลลาร์
เนื้อมิสชันนารี 1 ดอลลาร์
เมื่อถูกถามว่า ทำไมจึงตั้งราคาแตกต่างกันเช่นนี้ ท่านหัวหน้าเผ่าขมวดคิ้ว กระทุ้งหอก
กับพื้น ตอบเสียงคำรามว่า "ขึ้นกับความยากง่ายในการทำความสะอาด แฮ่"

💠 จิปาถะนิยาย 💠

หนุ่มนายหนึ่งต้องกลุ้มอกกลุ้มใจหลังจากแต่งงานได้ไม่นาน เพราะภรรยาของเขานั้น
ไม่ถูกกับแม่สามีเอาเสียเลย เธอมีนกแก้วแสนฉลาดเป็นสัตว์เลี้ยง และมันก็ถูกเสี้ยมสอนให้พูด
ต่อว่าต่อขานแม่สามีเป็นประจำ ทุกครั้งที่ภรรยาของชายหนุ่มพูดว่า
"ฉันอยากให้แม่ผัวตายเร็วๆ จังเลย"
เจ้านกแก้วก็จะตอบว่า "ใช่ ยายแก่น่าจะตายได้แล้ว"
วันหนึ่ง ภรรยาสาวขอตัวกลับไปเยี่ยมบ้านเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ชายหนุ่มเห็นว่า
นี่เป็นโอกาสดี ที่จะไปปรึกษาหาทางแก้ไขกับคุณพ่อเจ้าอาวาส
"สบายใจได้เลย" พระสงฆ์ว่า
"ตอนนี้ภรรยาเธอไม่อยู่หลายวัน เธอเอานกแก้วของพ่อไปที่บ้าน ให้มันอยู่ในกรงเดียวกับ
นกแก้วของภรรยาเธอ แล้วแบบอย่างที่ดีของนกแก้วของพ่อ จะทำให้นกแก้วที่บ้านเธอเลิกพูดจา
อย่างนั้นเสียที"
ชายหนุ่มกระทำตามที่คุณพ่อเจ้าวัดสั่งทุกประการ เมื่อภรรยาสาว กลับมาจากเยี่ยมบ้าน
เธอรีบตรงไปที่กรงนกแก้ว และพูดว่า
"ฉันอยากให้แม่ผัวตายเร็วๆ จังเลย"
"พระเจ้าข้า โปรดสดับฟังเทอญ" นกแก้วแสนรู้ตอบ

💠 จิปาถะนิยาย : คำคมคาวบอย 💠
จงรักศัตรู แต่อย่าลืมขยันหยอดน้ำมันปืนด้วยละกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ธ.ค. 02, 2024 2:24 pm

🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ ( 20)

💠 จิปาถะนิยาย 💠

ชาวนาผู้ยากจนต้องประสบภัยพิบัติของความแห้งแล้ง จนพืชผลของตนเองเสียหายหมดสิ้น
จึงหันไปขอความช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้า เขาเขียนจดหมายหาพระองค์ พร่ำพรรณาถึงโชคชะตา
และความเดือดร้อนที่ตนได้รับ พร้อมกับลงท้ายขอให้พระเป็นเจ้าช่วยมา 5,000 บาท เพื่อนำไปชำระ
หนี้ก่อนที่จะถูกยึดที่ดิน และเขาส่งจดหมายนั้นไปทางไปรษณีย์ จ่าหน้าซองถึงพระเจ้า
เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์รู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเห็นจดหมายฉบับนั้น เขาจึงเปิดออกอ่าน และรู้สึก
ประทับใจในความเชื่อและความวางใจของชาวนาผู้นี้มาก เขาจึงเรี่ยไรเงินเพื่อนบ้าน ได้เป็นจำนวน
4,000 บาท และจัดส่งไปให้ชาวนาผู้นั้น
ชาวนามีความยินดียิ่งนักเมื่อได้รับจดหมายตอบ แต่เขาก็รู้สึกไม่พอใจที่ได้รับเงินเพียง
4,000 บาท เขาจึงเขียนจดหมายตอบไปว่า
"พระเจ้าที่รักยิ่ง ผมได้รับเงินที่พระองค์ส่งมาเรียบร้อยแล้ว แต่น่าเสียดายที่เงินหายไป
1,000 บาท สงสัยว่าเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ขโมยเงินไป"

💠 จิปาถะนิยาย 💠

สมชาย : นี่น้อง ทำไมน้องต้องเอานิ้วแม่โป้งกดลงบนเนื้อสเต็กของพี่ด้วยล่ะ?
เด็กเสิร์ฟ : ก็ผมไม่อยากให้มันตกพื้นอีกนี่ครับ

💠 จิปาถะนิยาย 💠

คู่ผัวเมียหนุ่มสาวไปปรึกษาคุณพ่อเจ้าอาวาสเกี่ยวกับเรื่องปัญหาชีวิตคู่ของตน ฝ่ายเมียว่า
ผัวเป็นคนที่ทำอะไรไม่ได้ความ เห็นแล้วน่าตำหนิไปเสียหมด ผัวก็ว่าเมียน่าตำหนิไปทุกเรื่องเช่นกัน
"พ่อว่า คนสองคนอยู่ด้วยกัน มันก็มีข้อดีข้อเสียพอๆ กันนั้นแหละครับ"
คุณพ่อเจ้าอาวาสพยายามไกล่เกลี่ย
"พ่อว่า คุณทั้งสองน่าจะยอมรับความไม่ดีของกันและกัน คนละครึ่ง ห้าสิบห้าสิบเป็นไง"
ข้างเมียตอบตกลงยอมรับข้อเสนอนี้ แต่ฝ่ายผัวกลับไม่ยอม เขาให้เหตุผลว่า
"พ่อจะให้ผมยอมรับความผิดแบบห้าสิบห้าสิบได้ยังไงครับ ก็ห้าสิบแรกเป็นของเธอ
แล้วอีกห้าหลังเป็นของแม่เธอ"

💠 จิปาถะนิยาย 💠

เหรียญห้าบาทกับธนบัตรใบละห้าร้อยคุยกัน ใบห้าร้อยอวดว่า มันได้ไปเที่ยวตามสถานที่
หรูหราหลายแห่ง ภัตตาคารเอย โรงแรมชั้นหนึ่งเอย และใครๆ ที่ได้ครอบครองมัน ต่างก็เก็บรักษา
มันไว้อย่างดีกันทั้งนั้น เหรียญห้าฟังแล้วก็ยิ้มๆ ตอบว่า
"ฉันไม่ได้ไปเที่ยวไหนต่อไหนมากมายอย่างนายหรอก แต่ฉันก็ได้ร่วมมิสซาเสมอๆ "

💠 จิปาถะนิยาย 💠

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในมิสซาวันฉลองสำคัญวันหนึ่ง สัตบุรุษเบียดเสียดยัดเยียดกันแน่นวัด
จนแทบจะไม่มีที่ขยับตัว สักพักหญิงสาวคนหนึ่งก็เป็นลม ผู้คนยิ่งชุลมุนกันยกใหญ่ เพราะต้องเปิด
ทาง ให้ที่ว่างสำหรับแบกหามเธอออกไปพยาบาล ดิฉันซึ่งเพิ่งจะจบคอร์สอบรมเรื่องการปฐมพยาบาล
มาหมาดๆ มองเห็นแล้ว รู้สึกขันแกมสมเพชหน่อยๆ โธ่... นี่ถ้าเพียงแต่เธอจะรู้จักหลักการง่ายๆ
เมื่อหน้ามืดให้พยายามก้มศีรษะลงต่ำๆ เท่านั้นแหละ
แล้วทันใด ผู้ชายคนที่นั่งข้างดิฉันก็หัวทิ่มลงกับที่คุกเข่า ดิฉันรีบใช้มือกดศีรษะเขาไว้ กระซิบ
บอกเขาให้พยายามก้มศีรษะไว้ระหว่างเข่า เลือดจะได้แล่นลงศีรษะ เขาพยายามดิ้นอึกอัก แต่ดิฉัน
ก็กดศีรษะเขาไว้เสียแน่น ภรรยาของเขาซึ่งนั่งอยู่อีกข้างหนึ่ง กลับยกมือปิดปากหัวเราะเสียยกใหญ่
ดิฉันอดรู้สึกเคืองขึ้นมาไม่ได้ ดูสิ นอกจะไม่ช่วยอะไรแล้ว หล่อนยังเห็นเป็นเรื่องขันไปเสียอีก
ทันทีนั้น เขาก็สะบัดศีรษะหลุดจากมือของดิฉันได้ ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ เขาพูดกับดิฉันว่า
"คุณผู้หญิง กรุณาปล่อยผมตามลำพังได้มั้ย ผมจะเก็บหมวกของผม"

💠 จิปาถะนิยาย 💠

ถ้าวันหนึ่งเราต้องคุกเข่าลงข้างเตียงเพื่อขอบคุณพระเจ้า สำหรับสิ่งดีๆ
ที่พระองค์ประทานให้ เราคงไม่ได้หลับได้นอนกัน

💠 จิปาถะนิยาย : ดีกว่า 💠
ในช่วงที่มีการสังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 พระสังฆราชจากอเมริกา 4 องค์ ได้โดยสารไปกับ
เครื่องบินลำหนึ่งเพื่อไปกรุงโรม หลังจากที่เครื่องบินออกจากสนามบินได้ไม่นาน ก็มีเสียงกัปตัน
ประกาศออกลำโพงว่า "ผู้โดยสารทุกท่านโปรดทราบ ผมเสียใจที่จะต้องแจ้งให้ทราบว่า เครื่องยนต์
เครื่องหนึ่งของเราเกิดขัดข้อง และหยุดทำงานแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์อีก 3 เครื่องที่เหลือ
ยังทำงานอย่างดีเยี่ยม"
บรรดาผู้โดยสารต่างมีสีหน้าไม่ค่อยดีไปตามๆ กัน สุภาพสตรีวัยชราผู้หนึ่งเรียกแอร์โฮสเตส
มาถามอย่างค่อนข้างกลัวว่า "หนูแน่ใจนะว่าเราจะไม่เป็นอันตราย?"
แอร์โฮสเตสยิ้มตอบ "ไม่มีอันตรายแน่คะ มาดาม เครื่องยนต์ 3 เครื่องที่เหลือของเรา ทำงาน
แทนได้อย่างไร้กังวล นอกจากนี้ ดูนั่นสิคะ เรายังมีพระสังฆราชเดินทางมาด้วยถึง 4 องค์แน่ะ"
มาดามคนนั้นนิ่งไปพัก แล้วตอบด้วยเสียงดังขนาดได้ยินกันหลายแถวผู้โดยสาร
"ชั้นว่าให้มีเครื่องยนต์ 4 เครื่อง แล้วมีสังฆราช 3 องค์ ดีกว่าจะมีสังฆราช 4 องค์
แต่เหลือเครื่องยนต์แค่ 3 เครื่องนะ"

💠 จิปาถะนิยาย 💠

พระเยซูเจ้าไปดูการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมคาทอลิกกับโปรเตสแตนต์ พอทีม
โปรเตสแตนต์ทำประตูได้ พระองค์ก็ส่งเสียงร้องดีใจ และพอทีมคาทอลิกทำประตูได้บ้าง
พระองค์ก็ไชโยโห่ฮิ้วไปกับเขาด้วย ชายที่อยู่ข้างๆ มองพระองค์อย่างสงสัย
"คุณเชียร์ทีมไหนกันแน่" เขาถามพระองค์
พระเยซูเจ้ายิ้มให้เขา "ผมไม่เชียร์ทีมไหนทั้งนั้นล่ะ ผมมาเพื่อความสนุกสนานกับการแข่งขัน"
ชายคนนั้นสะบัดหน้าพรืด
"พวกอเทวะ" เขาว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ธ.ค. 06, 2024 8:25 pm

🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (21)

💠 จิปาถะนิยาย : โอย... 💠

พลมารีย์ 3 ท่านไปเยี่ยมสัตบุรุษผู้หนึ่ง ซึ่งกำลังพักฟื้นหลังหลักจากการผ่าตัดในช่องท้อง
หลังจากชวนกันสวดสายประคำ และสวดขอพรสำหรับผู้ป่วยแล้ว ทุกคนก็หันมาสนทนาเกี่ยวกับ
เรื่องการผ่าตัด
"นี่นะคะ" พลมารีย์ท่านแรกเล่า
"ดิฉันได้ยินมาว่า หลังการผ่าตัดครั้งหนึ่ง พวกหมอลืมฟองน้ำไว้ท้องของคนให้ เลยต้อง
ผ่าท้องเขาอีกครั้ง เพื่อเอาฟองน้ำนั้นออกมา"
"แหม..." พลมารีย์ท่านที่สองเล่าบ้าง
"ยังไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ ญาติของเดี๋ยนสิคะ หมอลืมกรรไกรไว้ค่ะ ต้องวางยาสลบ กรีดท้อง
เย็บแผลกันใหม่อีกหน น่าหวาดเสียวจริงๆ"
พลมารีย์ท่านที่สามกำลังจะเล่า ก็พอดีประตูห้องเปิดออก คุณหมอคนที่ทำการผ่าตัดยื่นหน้า
เข้ามาถามว่า
"ขอโทษครับ มีใครเห็นรองเท้าแตะของผมบ้างมั้ย ?"
"โอย... " คนไข้คราง แล้วเป็นลมไปในบัดดล

💠 จิปาถะนิยาย 💠
หนุ่ม : ขอเบอร์โทรศัพท์คุณได้ไหมครับ ผมจะได้ไทรไปหา
สาว : ก็ไปดูในสมุดโทรศัพท์สิยะ
หนุ่ม : ไม่เป็นไรครับ งั้นบอกชื่อคุณก็ได้
สาว : อยู่ในสมุดโทรศัพท์เหมือนกันนั่นแหละ

💠 จิปาถะนิยาย 💠

หลังจากตีสอง สมชายก็ปิดร้าน แล้วกลับบ้านไปนอน แต่พอเผลอหลับไปแป๊บหนึ่ง
เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น มีเสียงงัวเงียดังมาว่า
"เฮ สมชาย พรุ่งนี้แกมาเปิดร้านกี่โมงวะ?" สมชายตะโกนด่ากรอกไป แล้ววางสายกลับไป
นอนต่อ แต่อีกสองนาทีต่อมา เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก มีเสียงงัวเงียมาตามสาย
"เฮ สมชาย พรุ่งนี้แกมาเปิดร้านกี่โมงวะ?"
"นี่ฟังนะ ไอ้ขี้เมา" สมชายชักโมโห
"ถึงข้าจะเปิดร้านกี่โมง ข้าก็จะไม่ยอมให้เอ็งเข้ามาในร้านเลย คอยดู"
แต่เสียงเมาๆ นั้น ตอบว่า
"ยังไงก็เอาเถอะ ตอนนี้ข้าไม่อยากเข้าแล้ว ข้าอยากออก"

💠 จิปาถะนิยาย : ท่านใจดีจริง ๆ 💠

สตรีใจศรัทธานางหนึ่ง สวดวิงวอนต่อนักบุญยอแซฟ ขอให้สามีของนางซึ่งกำลังป่วยอยู่
ได้หายเป็นปรกติ ผลปรากฏว่า สามวันต่อมา เขาก็ถึงแก่กรรม
หลังจากพิธีฝังศพผ่านไปเรียบร้อยแล้ว นางได้มานั่งครุ่นคิดเงียบๆ แล้วในที่สุดก็ยิ้มออกมา
บอกกับตัวเองว่า "ท่านนักบุญนี่ใจดีแท้ๆ ประทานให้มากกว่าที่ขอเสียอีก"

💠 จิปาถะนิยาย 💠

กัปตันเรือสำราญจัดงานปาร์ตี้ให้กับลุงเชย ฮีโร่ผู้อาจหาญ กระโดดลงไปช่วยหญิงสาวซึ่ง
พลัดตกลงไปในทะเล
"ให้ลุงแกพูดอะไรหน่อยสิ เอาเลยลุง" พวกผู้โดยสารเรียกร้อง
"ก็ได้ๆ" ลุงเชยยืนขึ้นช้าๆ
"แต่ก่อนที่ผมจะกล่าวอะไร ขอผมได้พบผู้ปรารถนาดีที่ผลักผมลงไปหน่อยได้ไหมครับ"

💠 จิปาถะนิยาย :ข้อรำพึงล้ำลึก 💠

ก่อนมิสซาเย็นของทุกๆ วัน วัดของเรามีธรรมเนียมอันน่ารักอย่างหนึ่ง คือจะมีการสวด
สายประคำร่วมกันก่อน และคุณพ่อเจ้าวัดคนขยันของเราก็เข้าร่วมไม่เคยขาด ท่านจะเป็นผู้ก่อ
สวดเอง และก่อข้อรำพึงล้ำลึกประจำวันด้วย วันนั้นเป็นวันศุกร์ หลังจากก่อข้อรำพึงสำหรับสาย
ประคำทศที่สามเสร็จ แม่บ้านก็วิ่งมากระซิบว่า พระสังฆราชโทรศัพท์ทางไกลมาจากอุดรฯ ขอพูด
กับคุณพ่อด่วน คุณพ่อจึงหันไปถามสุภาพสตรีสูงวัยที่คุกเข่าอยู่ข้างๆ ว่า จะช่วยก่อข้อรำพึงแทนพ่อ
ได้ไหม พ่อจะไปไม่นานนัก คุณป้ารับปากว่าได้
ปรากฏว่าคุณพ่อต้องพูดธุระกับพระสังฆราชนานกว่าที่คิด แล้วเมื่อกลับเข้ามาในวัดอีกครั้ง
คุณพ่อก็ได้ยินเสียงก่อข้อรำพึงว่า
"ข้อรำพึงข้อที่ยี่สิบสอง ยูดาสใช้มีดแทงปอนติอัส ปีลาต"

💠 จิปาถะนิยาย 💠

"ไอ้หลานเอ้ย ไปสะพานควายคิดเท่าไร?" บ้านนอกเข้ากรุงลุงเชยถามคนขับแท๊กซี่
"กิโลเมตรแรก คิดยี่สิบห้าบาท กิโลฯ ต่อๆ ไปผมคิดลุงกิโลฯ ละห้าบาท"
"งั้นกิโลฯ แรก หลานขับไปก่อนเลยนะ ลุงจะวิ่งตามรถไป"

💠 จิปาถะนิยาย 💠

เมียช้างเท้าหน้า : ถ้าคุณรำคาญเวลาฉันร้องเพลงนัก ทำไมไม่ออกไปยืนที่นอกชานเสียล่ะ?
ผัวช้างเท้าหลัง : ไม่ละ ฉันไม่อยากให้เพื่อนบ้านเข้าใจผิดคิดว่า ฉันชอบตบตีเมียตัวเอง

💠 จิปาถะนิยาย 💠

คุณครูสมศรีถูกตำรวจจับ เพราะขับรถฝ่าไฟแดง เมื่อต้องขึ้นศาล ผู้พิพากษาก็บอกว่า
"คุณเป็นครูใช่ไหม? ผมรอโอกาสนี้มานานแล้ว อยากนั่งพิพากษาครูสักคนมาตั้งนานแล้ว
เอาละ ครูไปนั่งที่โต๊ะนั่น แล้วคัดคำว่า 'ฉันขับรถฝ่าไฟแดง' มา 500 จบ"

💠 จิปาถะนิยาย 💠

ยอดชายยืนอยู่ที่หัวมุมถนนอย่างกระวนกระวายใจ พอดีธงทิวผ่านมาเจอ จึงเข้าไปถาม
สารทุกข์สุกดิบ
"เฮ้ย ยอดชาย เอ็งมายืนทำอะไรวะ?"
"ก็รอเมียข้าน่ะสิ"
"เมียเอ็งไปไหนเหรอ?"
"ข้านัดกับเมียข้าที่นี่เมื่อบ่ายสอง นี่ก็บ่ายสี่กว่าไปแล้ว เค้าอาจจะเกิดอุบัติเหตุ อาจจะถูกจับ
ไปเรียกค่าไถ่ หรืออาจจะกำลังชอปปิ้งอยู่ก็ได้ โธ่! พระเจ้า ขออย่าให้กำลังชอปปิ้งอยู่เลย"

💠 จิปาถะนิยาย 💠

กระต่ายน้อยขี้สงสัยเที่ยวไล่ถามเพื่อนกระต่ายว่า กระต่ายอย่างเรานั้นเกิดมาได้อย่างไร
แต่ไม่มีใครยอมตอบกระต่ายน้อยเลย เขาจึงตัดสินใจไปถามแม่กระต่าย
"แม่ฮะ ผมเกิดมาจากไหนฮะ?"
แม่กระต่ายกอดกระต่ายน้อย แล้วว่า
"นักมายากลก็ดึงลูกออกมาจากหมวกน่ะสิ ทีหลังลูกไม่ควรถามเรื่องพรรค์นี้อีกนะจ๊ะ"
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ธ.ค. 06, 2024 8:28 pm

🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (22)

💠 จิปาถะนิยาย : เข้าใจผิด 💠

หญิงสาวคนหนึ่งมาปรึกษากับคุณพ่อว่า ตัวเธอกลัวว่าตนเองกำลังตกอยู่ในบาปความหยิ่ง
ยะโสอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
"ทำไมลูกจึงกลัวอย่างนั้นล่ะ" คุณพ่อถามอย่างอ่อนโยน
"ก็ทุกครั้งที่หนูมองในกระจก และเห็นใบหน้าของตัวเอง หนูอดคิดไม่ได้ว่านั่นเป็นใบหน้าที่
สวยงามมาก ๆ เลย"
"เลิกกังวลเถอะ " คุณพ่อให้ความมั่นใจแก่เธอ
"นั้นไม่ใช่บาปหรอก มันเป็นความเข้าใจผิดเท่านั้นเอง"

💠 จิปาถะนิยาย : ท่านถามดี 💠

ชายคนหนึ่งเข้าไปตัดผม เพื่อเตรียมสำหรับการเดินทางไปยุโรป
"จะไปไหนบ้างล่ะครับ?" ช่างตัดผมชวนคุย
"ลอนดอน ปารีส และโรม"
"โอ๊ย! คุณจะเซ็งที่สุดเลยล่ะครับ" ช่างตัดผมว่าพร้อมกับขยับกรรไกรกิ๊กๆ
"ลอนดอนมีแต่หมอก ปารีสก็มีแต่คน และโรม เชอะ... ทำไมใครๆ ถึงอยากจะไปกันนักนะ
นี่คุณคงหวังว่าจะได้พบโป๊ปด้วยน่ะสิ ผมจะบอกให้ คุณจะเห็นพระองค์จากที่ไกลๆ สักครึ่งกิโลเมตร
เห็นจะได้"
เมื่อชายคนนั้นกลับจากการเดินทาง และเข้าไปตัดผมอีกครั้งที่ร้านเดิม
"การเดินทางเป็นอย่างไงบ้างครับ..?" ช่างตัดผมจำเขาได้
"ยอดเยี่ยม ในลอนดอนแสงแดดอบอุ่น และอากาศสดชื่นมาก ปารีสก็แสนจะครึกครื้น และ
เมื่อไปถึงโรม ผมก็ได้เข้าเฝ้าโป๊ปอย่างชนิดถึงเนื้อถึงตัวเลยล่ะ พระองค์ยังอวยพรผม และพูดกับ
ผมด้วยซ้ำไป"
"พระองค์พูดว่ายังไงบ้างล่ะครับ...?"
ช่างตัดผมยกกรรไกรค้าง
"อืม... ตอนพี่ผมคุณคุกเข่าลง พระองค์ทรงวางมือบนศีรษะของผม แล้วก็พูดว่า...
ลูกไปตัดผมทรงสุดเห่ยนี้มาจากที่ไหนกัน...?"

💠 จิปาถะนิยาย 💠

เรื่องนี้เกี่ยวกับชาติโน้นชาตินี้ครับ เศรษฐีคนหนึ่งมีลูกหนี้หลายคน เขาถามลูกหนี้แต่ละคน
เศรษฐี : แดง นายเป็นหนี้ฉันสองพัน นายจะใช้หนี้ฉันยังไง
แดง : ชาติหน้าฉันจะเกิดเป็นแม่ไก่ ออกไข่ใช้หนี้นาย
เศรษฐี : ดำ นายเป็นหนี้ฉันห้าพัน นายจะใช้หนี้ฉันยังไง
ดำ : ชาติหน้าฉันจะเกิดเป็นสุนัขรับใช้ เฝ้าบ้านให้นาย
เศรษฐี : เขียว นายเป็นหนี้ฉันหมื่นนึง นายจะใช้หนี้ฉันยังไง
เขียว : ชาติหน้าฉันจะเกิดเป็นม้า ให้นายใช้งานควบขี่ แถมคอยเทียมรถให้นายด้วย
เศรษฐี : เหลืองนายเป็นหนี้ฉันสองหมื่น นายจะใช้หนี้ฉันยังไง
เหลือง : ชาติหน้าฉันจะเป็นวัวเป็นควาย เอาหลังสู้ฟ้าหน้าสู่ดิน ทำงานหนักใช้หนี้นาย
เศรษฐี : แล้วนายละ โก่ย นายเป็นหนี้ฉันอยู่แสนนึง นายจะใช้หนี้ฉันยังไง
โก่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงว่า : งั้นชาติหน้าฉันขอเกิดเป็นพ่อนายก็แล้วกัน ฉันจะทำงานหาเงินเลี้ยงดู
นายจนโตเลย

💠 จิปาถะนิยาย : พจนานุกรม ฉบับ กวนนานุกวน 💠

เงินทอง ไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิตเรา จึงไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับมันเป็นอันดับหนึ่ง แต่เชื่อได้เลยว่า
มันไม่ไกลไปกว่าอันดับสองแน่

💠 จิปาถะนิยาย : ประโยชน์ของศาสนา 💠
"หลังจากเวลาหลายร้อยหลายพันปี นับแต่เรามีศาสนากันมา โลกนี้ก็ยังคงเลวร้ายอยู่" ชาย
คนหนึ่งพูดกับพ่อเจ้าวัดของเขา
"แล้วอย่างนี้ ศาสนาจะมีประโยชน์อะไรกัน?"
"พ่อเข้าใจๆ" พ่อเจ้าวัดผงกศีรษะหงึกหงัก "เธอลองมองดูพวกเด็กๆ ที่กำลังเล่นกันนั้นสิ เราก็มี
สบู่และน้ำมานานหลายร้อยหลายพันปีเหมือนกัน แต่พวกเด็กๆ ก็ยังคงสกปรกเสมอ ถ้ำงั้นสบู่กับน้ำ
จะมีประโยชน์อะไรกัน?"
"ที่สบู่กับน้ำไม่มีประโยชน์ ก็เพราะพวกเด็กไม่ยอมใช้"
"ถูกต้องๆ" คุณพ่อผงกศีรษะหงึกหงัก

💠 จิปาถะนิยาย 💠

คุณนายเหมี่ยวพาอัครเดช ลูกชายวัยรุ่นบังเกิดเกล้า ไปมิสซาวันอาทิตย์
หลังจากที่เขาไม่ได้มาโบสถ์เกือบสามปีแล้ว
พอเสร็จพิธี คุณนายเหมี่ยวถามอัครเดชว่า พิธีมิสซาเป็นยังไงบ้าง
อัครเดชตอบเนือยๆ ว่า "ดนตรีก็เพราะดีอยู่หรอก เสียอยู่อย่างเดียว มีโฆษณาเยอะไปหน่อย"

💠 จิปาถะนิยาย : ตัวแทน 💠

เรือกำลังจะจมมิจมเเหล่ กัปตันร้องถามลูกเรือ
"มีใครสวดเป็นบ้างไหม"
ลูกเรือคนหนึ่งยกมือ
"ดีแล้ว" กัปตันว่า "แกลงมือสวดได้ พวกเราที่เหลือจะสวมชูชีพ มันขาดไปชุดนึงน่ะ"

💠 จิปาถะนิยาย 💠

การไปโบสถ์ก็เหมือนการเข้าปั๊มน้ำมัน... ในวันอาทิตย์คุณจะรู้สึกว่ามีน้ำมันอยู่เต็มถัง แต่พอ
วันเสาร์ละก็ เครื่องยนต์จะเริ่มติดขัด น้ำมันใกล้หมด แล้วก็ถึงเวลาที่คุณต้องแวะเข้าปั๊มอีกครั้ง

💠 จิปาถะนิยาย 💠

ในช่วงท้ายๆ ของชีวิตนักเขียนใหญ่ มีคนเห็นเขานั่งอ่านพระคัมภีร์ ยังความประหลาดใจมา
ให้ผู้ใกล้ชิดเป็นอันมาก เพื่อนฝูงจึงถามนักเขียนใหญ่ว่า "เฮ้ย ในที่สุดนายก็ยอมหันมาสนใจเรื่อง
ศาสนาแล้วใช่ไหม?"
"เปล่าๆ" นักเขียนใหญ่ปฏิเสธพัลวัน
"กันกำลังหาที่จับผิดพระคัมภีร์ตะหากเล่า"
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ธ.ค. 09, 2024 6:48 pm

🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (23)

💠 จิปาถะนิยาย 💠

ลุงหำมีลูกชายสี่คน แต่มีลูกคนเล็กเท่านั้น ที่จากบ้านทุ่งเข้าไปทำงานในเมืองใหญ่ และเขาก็
กลายเป็นมหาเศรษฐี งานในเมืองใหญ่วุ่นวายมาก ทำให้เขาไม่มีเวลากลับไปเยี่ยมพ่อ เขาเลยเขียน
จดหมายไปบอกพี่ๆ ถ้าพ่อตาย เขาจะรับเป็นภาระเรื่องจัดการงามศพของพ่อเอง ต่อมาเมื่อสิ้นลุงหำ
พี่ๆ ทางบ้านก็ส่งบิลค่าทำศพมาเก็บกับน้องคนเล็ก แต่เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่า ในแต่ละเดือนต่อมา
เขาก็ต้องจ่ายเงินในการนี้อีก เดือนละ 800 บาท เขาเลยเขียนจดหมายไปถามพี่ชายว่า ทำไมถึงมีบิลค่า
ทำศพพ่อทุกเดือนเลย
พี่ๆ เลยเขียนจดหมายมาบอกว่า "ก็ไหนๆ เอ็งจะออกเงินค่าทำศพให้แล้ว พวกข้าเลยเช่าชุดสูท
ให้พ่อใส่น่ะ แกจะได้ตายอย่างสมเกียรติหน่อย"

💠 จิปาถะนิยาย 💠

สามยอดขี้ตืดมาร่วมมิสซาวันอาทิตย์ พวกเขาวางแผนกันว่า เมื่อคุณพ่อเทศน์จบ จะออกไปนอกวัด
เพื่อจะได้ไม่ต้องใส่เงินถุงทาน แต่ด้วยเหตุผลบางประการ ทำให้คนเก็บถุงทานเห็นออกมาเก็บทาน
ในระหว่างการเทศน์
เพื่อแก้ไขสถานการณ์ ยอดขี่ตืดคนหนึ่งจึงแสร้งเป็นลม และให้เพื่อนอีกสองคนแบกตนออกจากวัด

💠 จิปาถะนิยาย 💠
ลุงเฉิ่มเป็นคนศรัทธา แกมาวัดทุกวันอาทิตย์ เผอิญช่วงนี้ใกล้จะฉลองวัด พ่อเจ้าวัดเลยสั่งให้มีการ
ซ่อมแซมตัวโบสถ์เป็นการใหญ่ หน้าวัดก็สั่งให้เทปูนทำเป็นถนนอย่างสวยงาม สายวันอาทิตย์ ลุมเฉิ่มก็ยัง
มาวัดเช่นเคย แกเห็นมีประกาศติดอยู่ที่หน้าประตู แต่ประกาศอยู่ไกลมาก ลุมเฉิ่มเลยเดินเข้าไปใกล้ๆ
เพื่อจะอ่านประกาศ พอเดินไปถึงประตู ก็อ่านประกาศว่า "พื้นปูนหน้าวัดยังไม่แห้ง กรุณาเดินเข้าทางประตูข้าง
ลงชื่อ พ่อเจ้าวัด..."

💠 จิปาถะนิยาย : ไหวแน่เหรอ 💠
เมื่อเสร็จสิ้นพิธีในโบสถ์ เสร็จสิ้นงานเลี้ยง ก็ถึงเวลาแห่งการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ของคู่บ่าวสาว
ทั้งสองเดินเคียงคู่กันในโรงแรมหรูหราที่จองไว้ ฝ่ายเจ้าสาวหน้าแดงด้วยความขวยเขิน เมื่อเห็นสายตา
ของผู้คนจับจ้องเธออยู่ เธอกระซิบกระมิดกระเมี้ยนกับเจ้าบ่าวว่า
"ให้เราทำท่าเหมือนแต่งงานกันมานานแล้วนะ"
"เอางั้นเหรอ" เจ้าบ่าวว่า "แต่เธอแน่ใจรึว่า จะแบกกระเป๋าสามใบนี่ไหว"

💠 จิปาถะนิยาย : คำภาวนาของคนซื่อ (แต่งก) 💠
พระบิดาเจ้าข้า ขอพระองค์โปรดให้ลูกมีเงินสักห้าล้านบาท ด้วยเงินจำนวนนี้ ลูกจะเอาไปช่วยคน
ยากจนหนึ่งล้านบาท แต่ถ้าพระองค์ไปแน่ใจในตัวลูก ขอให้พระองค์ประทานเงินแก่ลูกสี่ล้านบาท ส่วนอีก
หนึ่งล้านบาทนั้น ขอพระองค์ประทานให้แก่คนยากจนเอาเองก็แล้วกัน"

💠 จิปาถะนิยาย : ใครใหญ่กว่ากัน 💠
"พ่อเรานะ เป็นหมอชันสูตรศพด้วยล่ะ" แกะดำบอก
"พ่อนายก็เก่งมากน่ะสิ" แกะขาวเสริม
"ใช่ คนจะตายส่วนใหญ่ผ่านมือพ่อเราทั้งนั้นแหละ" แกะคำคุย
"คนจะตายทั้งหมดก็ผ่านมือพ่อเราทั้งนั้น" แกะขาวคุยบ้าง
"จริงเรอะ! พ่อนายเป็นหมออะไรล่ะ?"
"เปล่า พ่อเราเป็นสัปเหร่อ" แกะขาวตอบ

💠 จิปาถะนิยาย : คาถากันแม่บ้านใจศรัทธา 💠
บางคนไปวัด ก็เพื่อจะดูว่า ใครบ้างที่ให้ยอมไป

💠 จิปาถะนิยาย 💠
ดาราสาวสองพันปีเพิ่งจะจบบทสุดท้ายของหนังสืออัตชีวประวัติของเธอ ในฮอลลีวูด
ใครๆ ก็รู้ว่าดาราสาวคนนี้โง่เง่าจะตายไป เพื่อนดาราคนหนึ่งจึงถามเธอว่า
"ฉันเห็นหนังสือของเธอแล้ว
ใครเขียนให้เธอหรือ?"
"หวังว่าเธอคงสนุกกับมันนะ" ดาราสาวว่า
"แต่ใครอ่านให้เธอฟังล่ะ?"

💠 จิปาถะนิยาย 💠
"เอ็งมาสายอีกแล้ว?" เสียงเจ้าของร้านถามไอ้เล็ก
"ผมนอนเพลินไปหน่อยครับ เฮีย" ไอ้เล็กว่า
"อะไรวะ ขนาดที่บ้าน เอ็งยังนอนอีกหรือ !!" เฮียร้องเสียงหลง

💠 จิปาถะนิยาย 💠
ชายหนุ่มผู้ยากจนเดินเข้าไปในวัดเพื่อสวดภาวนา เพื่อวอนขอความช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้า
เผอิญเหลือบไปเห็นกระเป๋าเงินวางอยู่บนที่นั่งข้างๆ เมื่อมองดูรอบๆ ไม่เห็นใครอยู่แถวนั้นเลย เขาจึง
เงยหน้าขึ้น รำพึงขึ้นเบาๆ ว่า "โอ! พระเจ้า นี่เป็นการประจญจากปีศาจ หรือเป็นการตอบรับคำภาวนา
ของกระผมกันแน่"

💠 จิปาถะนิยาย : เอากะพี่เขาหน่อย 💠
สมจ๋ายมาที่วัด แล้วบนบานต่อหน้ารูปพระเยซูว่า "พระเยซูครับ ผมขอให้ถูกหวยซักงวดเถอะ
ถ้าได้รางวัลที่หนึ่งสักสามล้านละก็ ผมจะบริจาคสร้างศาลาอเนกประสงค์ให้เลยละครับ"
หลังจากนั้นไม่นาน สมจ๋ายก็ถูกหวยจริงๆ แต่เป็นรางวัลที่สาม ได้เจ็ดแสนบาท สมจ๋ายรีบเข้าไป
ที่วัดอีก อธิษฐานเบาๆ ที่หน้ารูปพระเยซูว่า "พระเยซูครับ งวดนี้ผมได้มาเจ็ดแสนแล้ว แต่ผมจะไม่บอก
ใครหรอกว่า พระองค์ยังติดผมอยู่อีกสองล้านสามแสน"
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ธ.ค. 09, 2024 6:51 pm

🍵จิบชา🍵
โดย โอวตี๋

ตอนที่ (24)

💠 จิปาถะนิยาย 💠
หนุ่มหนึ่งเข้ามาในคลินิก บอกคุณหมอว่า "หมอครับ ผมมีอาการปวดหัวอย่างแรงตลอด
เวลาเลย คุณหมอพอมีวิธีรักษาบ้างไหมครับ"
"มี" หมอตอบ "แต่หมอต้องตรวจอาการของคุณเสียก่อนนะ บอกหมอซิ คุณดื่มเหล้ามาก
เกินไปรึเปล่า?"
"เหล้า?" ชายหนุ่มบอกเสียงขุ่น "ผมไม่เคยแตะต้องของสกปรกพรรค์นั้นหรอก"
"สูบบุหรี่ไหมล่ะ?"
"ผมคิดว่าการสูบบุหรี่เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ในชีวิตของผมไม่เคยแตะบุหรี่เลย"
"หมอรู้สึกลำบากใจนิดหน่อยที่จะถาม เเต่...คุณก็รู้ว่านิสัยผู้ชายเป็นไง? คุณเคยไปเที่ยว
ซุกซนตอนกลางคืนบ้างไหม?"
"ไม่เด็ดขาดครับ ผมจะไปทำไม ผมเข้านอนอย่างช้าที่สุด 4 ทุ่ม ทุกวัน"
"บอกหมอซิ อาการปวดศีรษะของคุณ มันเจ็บแปลบเหมือนมีอะไรมากดหรือเปล่า?"
"ใช่ครับ" หนุ่มตอบ "มันเจ็บแปลบเหมือนมีอะไรมากด"
"งั้นหมอวินิจจัยโรคออกแล้วล่ะ ปัญหาของคุณคือ รัศมีของคุณรัดแน่นเกินไปนั่นเอง
วิธีเดียวที่จะรักษามันได้คือ คลายมันออกซะบ้างนะ"

💠 จิปาถะนิยาย : พลีกรรม 💠
ชายในชุดดำกระโดดออกมาจากพุ่มไม้ ทิ่มปืนพกในมือเข้าที่ชายโครงของชายเคราะห์ร้าย
ที่เดินผ่านมา "ยกมือขึ้น" ชายเคราะห์ร้ายทำตาม เสื้อคลุมเขาร่นลงมา เผยให้เห็นคอเสื้อที่เป็น
คอปลอก โจรจึงรู้ว่าเขาเป็นพระสงฆ์ เขาลดปืนลง ถอนใจกล่าว "ขอโทษครับ คุณพ่อ ผมไม่อยาก
จี้พระสงฆ์หรอก แม้จะต้องการเงินมากเพียงใดก็ตาม"
คุณพ่อยักไหล่ "ไม่เป็นไรหรอก" แล้วดึงบุหรี่ออกมายื่นให้โจรคนนั้น "บุหรี่หน่อยมั้ย?"
"ไม่ละครับขอบคุณ" เขากัดฟันตอบ "ผมอดบุหรี่ในเทศกาลมหาพรตครับ"

💠 จิปาถะนิยาย : จิตแพทย์หมายเลขเจ็ด 💠
จิตแพทย์ต้องการตรวจสอบคนไข้ใหม่ จึงป้อนคำถาม
"คุณรู้ไหมว่า แมวมีกี่หู"
"สองหู" คนไข้ตอบ
"แล้วแมวมีกี่ตา"
"สองครับ"
"เอาละ ทีนี้แมวมีกี่ขา"
คนไข้ฉุนขาด โพล่งว่า
"นี่คุณหมอไม่เคยเห็นแมวหรือไงครับ"

💠 จิปาถะนิยาย 💠
หลังจากเข้าอบรมพระคัมภีร์ด้วยกัน สามีก็ปฏิเสธที่จะช่วยภรรยาล้างจาน โดยอ้าง
พระคัมภีร์ที่ว่า "ไม่ได้ทรงสร้างผู้ชายจากผู้หญิง แต่ได้ทรงสร้างผู้หญิงจากผู้ชาย และไม่ได้ทรง
สร้างผู้ชายไว้สำหรับผู้หญิง แต่สร้างผู้หญิงไว้สำหรับผู้ชาย" (1คร. 11 : 8-9)
ฝ่ายภรรยาจึงอ้างถึงหนังสือพงษ์กษัตริย์ฉบับที่ 2 บทที่ 13 ที่ว่า "เราจะล้างกรุงเยรูซาเล็ม
อย่างที่ชายผู้นั้นล้างชามและพลิกคว่ำ"

💠 จิปาถะนิยาย : ใช้โทษบาป 💠
คณะกายกรรมเดินทางไปเปิดการแสดงที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง เด็กคาทอลิกในคณะกายกรรม
เข้าไปแก้บาปที่วัดประจำหมู่บ้าน พระสงฆ์บอกกับเขาว่า "พ่อคิดว่าลูกไม่ใช่คนที่นี่ใช่ไหม พ่อไม่
เคยเห็นลูกมาก่อน"
นักกายกรรมตอบ "ครับ คุณพ่อ ผมเดินทางมากับคณะกายกรรม ผมเป็นนักแสดงผาดโผน"
คุณพ่อสงสัย "แล้วเวลาแสดง ลูกต้องทำอย่างไรบ้าง ไหนลองทำให้พ่อดูหน่อยซิ"
นักกายกรรมเริ่มด้วยการตีลังกากลับหลัง เดินด้วยแขน ตีลังกาเป็นล้อเกวียน
หญิงชราที่ยืนอยู่ในแถว หันไปพูดกับคนข้างหลังว่า "ถ้านั่นเป็นกิจใช้โทษบาปละก็
ชั้นเห็นจะต้องกลับไปเปลี่ยนกางเกงที่บ้านก่อน"

💠 จิปาถะนิยาย : แม้ในเวลาสุดท้าย 💠
หลังจากได้รับศีลทาสุดท้ายเรียบร้อย พ่อเฒ่าก็เรียกบรรดาลูกเมียเข้ามาสั่งเสีย
"ร้านค้าของเรา มอบให้สมชายดูแล"
"สมชาย" เมียอุทาน
"ทำไมไม่ให้สมปอง สมปองฉลาดกว่าเยอะ"
พ่อเฒ่าพยักหน้าอย่างระโหย
"ก็ได้ แต่รถบรรทุกให้สมศักดิ์"
"แต่สมบูรณ์ต้องการมากกว่านะ พ่อ เขามีครอบครัวใหญ่" เมียค้านอีก
"เอ้า...ให้สมบูรณ์" แต่บ้านในต่างจังหวัดของเราน่ะให้สมเกียรติ"
"โธ่...พ่อ พ่อก็รู้ว่าสมเกียรติน่ะเกลียดบ้านนอกจะตาย สมพิศสิที่อยากได้"
"นี่แม่" พ่อเฒ่าคำราม "ใครกันแน่ที่จะตาย เธอหรือฉัน หา!"

💠 จิปาถะนิยาย : คำแขวะคนขี้เหนียว 💠
ถ้าคุณโง่พอที่จะยกให้เงินเป็นพระเจ้าละก็ มันจะคอยตามรังควานคุณเหมือนปีศาจเลยล่ะ
ตอบกลับโพส