ภาษารัสเซีย
สืบเนื่องจากที่ข้าพเจ้าเห็นว่าพี่น้องหลายคนสนใจภาษาต่างประเทศ และข้าพเจ้าก็สนใจด้วย ตอนนี้กำลังซุ่มศึกษาภาษารัสเซียอย่างสนุกสนาน ได้พบประเด็นที่น่าสนใจ อยากแบ่งปันให้พี่น้องที่สนใจได้เห็นภาพกว้างๆของภาษารัสเซีย จะได้เป็นข้อมูลตัดสินใจว่าจะเรียนหรือไม่เรียนอย่างไร
ประเด็นที่ 1
คำในภาษารัสเซียจะมีการเน้นเสียงหนัก โดยจะปรากฎเครื่องหมายเน้นเสียง เรียกว่า "อุดาเรเหนี่ย" โดยสระที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดและได้ยินชัดสุดเมื่อเวลาเปล่งเสียง ก็คือ สระ"โอ" ถ้าพยางค์ที่เป็นเสียงสระโอลงเสียงหนัก จะออกเสียงเป็น "โอ" เหมือนเดิม แต่ถ้าไม่ได้รับการลงเสียงหนัก จะเปลี่ยนไปออกเสียงเป็น "อะ" แทน เช่น
OKHO ลงเสียงหนักที่พยางค์ที่สอง ออกเสียงว่า อัคโน่ แปลว่า หน้าต่างบานเดียว
แต่
เมื่อเปลี่ยนเป็นพหูพจน์ อุดาเรเหนี่ย ย้ายที่ไปอยู่พยางค์หน้า OKHA ออกเสียงเป็น โอ๊คน่ะ แปลว่า หน้าต่างหลายบาน
DOMA ถ้าเน้นเสียงที่พยางค์หน้า ออกเสียงว่า โดม่ะ แปลว่า อยู่ที่บ้าน
แต่
ถ้าไปเน้นเสียงที่พยางค์หลัง ออกเสียงว่า ด๊ะม่า แปลว่า บ้านหลายหลัง
คำในภาษารัสเซียจะมีการเน้นเสียงหนัก โดยจะปรากฎเครื่องหมายเน้นเสียง เรียกว่า "อุดาเรเหนี่ย" โดยสระที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดและได้ยินชัดสุดเมื่อเวลาเปล่งเสียง ก็คือ สระ"โอ" ถ้าพยางค์ที่เป็นเสียงสระโอลงเสียงหนัก จะออกเสียงเป็น "โอ" เหมือนเดิม แต่ถ้าไม่ได้รับการลงเสียงหนัก จะเปลี่ยนไปออกเสียงเป็น "อะ" แทน เช่น
OKHO ลงเสียงหนักที่พยางค์ที่สอง ออกเสียงว่า อัคโน่ แปลว่า หน้าต่างบานเดียว
แต่
เมื่อเปลี่ยนเป็นพหูพจน์ อุดาเรเหนี่ย ย้ายที่ไปอยู่พยางค์หน้า OKHA ออกเสียงเป็น โอ๊คน่ะ แปลว่า หน้าต่างหลายบาน
DOMA ถ้าเน้นเสียงที่พยางค์หน้า ออกเสียงว่า โดม่ะ แปลว่า อยู่ที่บ้าน
แต่
ถ้าไปเน้นเสียงที่พยางค์หลัง ออกเสียงว่า ด๊ะม่า แปลว่า บ้านหลายหลัง
ประเด็นที่ 2
คำบุรุษสรรพนามในภาษารัสเซียมีดังต่อไปนี้
ยา แปลว่า ฉัน ดิฉัน เดี๊ยน ดั๊น ผม ตู ข้า ฯลฯ
ตึย์ แปลว่า แก เธอ เอ็ง เจ้า ฯลฯ
โอน แปลว่า เขาผู้ชาย (ใช้แทนคำนามเพศชาย ทั้งที่เป็นสิ่งที่มีชีวิตและสิ่งที่ไม่มีชีวิต)
อะน่า แปลว่า เขาผู้หญิง (ใช้แทนคำนามเพศหญิง ทั้งที่เป็นสิ่งที่มีชีวิตและสิ่งที่ไม่มีชีวิต)
อะโน่ แปลว่า มัน (ใช้แทนคำนามเพศกลาง)
มึย์ แปลว่า พวกเรา
วึย์ แปลว่า พวกเธอ พวกคุณ คุณ ท่าน
อะนี่ แปลว่า พวกเขาทั้งหลาย (ทั้งชายและหญิง)
คำบุรุษสรรพนามในภาษารัสเซียมีดังต่อไปนี้
ยา แปลว่า ฉัน ดิฉัน เดี๊ยน ดั๊น ผม ตู ข้า ฯลฯ
ตึย์ แปลว่า แก เธอ เอ็ง เจ้า ฯลฯ
โอน แปลว่า เขาผู้ชาย (ใช้แทนคำนามเพศชาย ทั้งที่เป็นสิ่งที่มีชีวิตและสิ่งที่ไม่มีชีวิต)
อะน่า แปลว่า เขาผู้หญิง (ใช้แทนคำนามเพศหญิง ทั้งที่เป็นสิ่งที่มีชีวิตและสิ่งที่ไม่มีชีวิต)
อะโน่ แปลว่า มัน (ใช้แทนคำนามเพศกลาง)
มึย์ แปลว่า พวกเรา
วึย์ แปลว่า พวกเธอ พวกคุณ คุณ ท่าน
อะนี่ แปลว่า พวกเขาทั้งหลาย (ทั้งชายและหญิง)
ประเด็นที่ 3
คำนามในภาษารัสเซียมี 3 เพศ
เพศชาย
มีข้อสังเกตคือจะลงท้ายพยัญชนะ เช่น ฌูรฺนาล แปลว่า นิตยสาร / โดม แปลว่า บ้าน / อุโร้ก แปลว่า บทเรียน ฯลฯ
รวมไปถึงคำที่ลงท้ายด้วย "มฺแยกกี้ สน้าก" บางตัวด้วย (อนึ่งคำที่ลงท้ายด้วย "มฺแยกกี้ สน้าก" บางคำก็เป็นเพศหญิง ท่องจำเอาเอง) ที่เป็นเพศชายก็เช่น อูชิเทล แปลว่า ครูผู้ชาย / ปะรฺทเฟล แปลว่า กระเป๋า ฯลฯ ("มฺแยกกี้ สน้าก" คือ ตัวอักษรที่คล้ายตัวบี"b"ในภาษาอังกฤษขนาดเล็กๆ)
นอกจากนี้ยังรวมถึงคำที่ลงท้ายด้วยคำที่ลงท้าย "อี กร้าทกะเยีย" (ตัวที่ดูคล้ายตัวยู แต่มีเหลี่ยมมากว่า แล้วมีเครื่องหมายโค้งๆอยู่ข้างบน) ด้วย เช่น ตรัมไวย์ แปลว่า รถราง / มุเซย์ แปลว่า พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ
เพศหญิง
ข้อสังเกตว่าคำนามคำไหนเป็นคำนามเพศหญิง ให้ดูที่ท้ายคำว่าลงท้ายด้วยสระอา หรือสระยา หรือไม่ ถ้าใช่ เกือบทั้งหมดก็ถือเป็นคำนามเพศหญิง (อาจมีตัวยกเว้นอยู่ไม่กี่คำเท่านั้น) เช่น ขนีกะ แปลว่า หนังสือ / กะเซี้ยตตะ แปลว่า หนังสือพิมพ์ / เฌนน่ะ แปลว่า ภรรยา / ชโกล่ะ แปลว่า โรงเรียน / ซิมย่า แปลว่า ครอบครัว ฯลฯ นอกจากนี้ก็ยังมีคำที่ลงท้ายด้วย "มฺแยกกี้ สน้าก" อีกจำนวนหนึ่ง เช่น มัท แปลว่า มารดา / โด๊ช แปลว่า ลูกสาว ฯลฯ
เพศกลาง
ข้อสังเกตอยู่ที่ว่าคำนามเพศกลางจะลงท้ายด้วยสระโอ ไม่ว่าจะออกเสียงเป็นโอ หรือเป็นอะ (เนื่องจากไม่ได้ลงเสียงหนัก) ก็ตาม ตลอดจนคำที่ลงท้ายด้วยสระเยีย ก็ล้วนแต่เป็นคำนามเพศกลางทั้งนั้น เช่น อัคโน่ แปลว่า หน้าต่าง / ปิสโม่ แปลว่า จดหมาย / เมะโตร แปลว่า รถไฟใต้ดิน / ราดิโอ แปลว่า วิทยุ / โมเรีย แปลว่า ทะเล / วัสกริ๊สเซเนีย แปลว่า วันอาทิตย์ ฯลฯ อนึ่ง อาจมีตัวยกเว้นที่ต้องท่องจำเองบ้าง เช่น ตั๊กซี แปลว่า แท็กซี่ / เวรเมีย แปลว่า เวลา (คำนี้ลงท้ายด้วยสระยาก็จริง แต่ไม่ใช่เพศหญิง) / อิเมีย แปลว่า ชื่อ (คำนี้เหมือนกัน ลงท้ายด้วยสระยาก็จริง แต่เป็นเพศกลางซะนี่) / เมนฺยู แปลว่า เมนู ฯลฯ
อนึ่ง คำนามในภาษารัสเซีย แบ่งออกเป็น คำนามที่หมายถึงสิ่งมีชีวิต และคำนามที่หมายถึงสิ่งไม่มีชีวิต สำหรับคำนามที่หมายถึงสิ่งมีชีวิต ไม่มีปัญหา เพศก็จำแนกตามเพศชายหญิง ผู้เมีย ของนามนั้น (จึงปรากฎแต่เพศชายและเพศหญิง) แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งเพศชาย หญิง หรือกลาง ก็ตาม อันนี้ต้องท่องจำเอาเอง แต่ก็ไม่ยากเหมือนภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน ฯลฯ เพราะมีรูปคำให้สังเกตได้ ดูที่ตัวลงท้ายของคำนั้นๆเอา : xemo026 :
อสอง (เพราะอนึ่งไปแล้วข้างบน) คำนามเพศชายบางตัวลงท้ายด้วยสระอาก็จริง แต่ก็ยังถือเป็นเพศชายตามเพศธรรมชาติของคำนั้นๆ เช่น คุณปู่หรือคุณตา ภาษารัสเซีย เรียกว่า เดียดุชกา หรือ ปาปา ที่แปลว่า พ่อ เป็นต้น
คำนามในภาษารัสเซียมี 3 เพศ
เพศชาย
มีข้อสังเกตคือจะลงท้ายพยัญชนะ เช่น ฌูรฺนาล แปลว่า นิตยสาร / โดม แปลว่า บ้าน / อุโร้ก แปลว่า บทเรียน ฯลฯ
รวมไปถึงคำที่ลงท้ายด้วย "มฺแยกกี้ สน้าก" บางตัวด้วย (อนึ่งคำที่ลงท้ายด้วย "มฺแยกกี้ สน้าก" บางคำก็เป็นเพศหญิง ท่องจำเอาเอง) ที่เป็นเพศชายก็เช่น อูชิเทล แปลว่า ครูผู้ชาย / ปะรฺทเฟล แปลว่า กระเป๋า ฯลฯ ("มฺแยกกี้ สน้าก" คือ ตัวอักษรที่คล้ายตัวบี"b"ในภาษาอังกฤษขนาดเล็กๆ)
นอกจากนี้ยังรวมถึงคำที่ลงท้ายด้วยคำที่ลงท้าย "อี กร้าทกะเยีย" (ตัวที่ดูคล้ายตัวยู แต่มีเหลี่ยมมากว่า แล้วมีเครื่องหมายโค้งๆอยู่ข้างบน) ด้วย เช่น ตรัมไวย์ แปลว่า รถราง / มุเซย์ แปลว่า พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ
เพศหญิง
ข้อสังเกตว่าคำนามคำไหนเป็นคำนามเพศหญิง ให้ดูที่ท้ายคำว่าลงท้ายด้วยสระอา หรือสระยา หรือไม่ ถ้าใช่ เกือบทั้งหมดก็ถือเป็นคำนามเพศหญิง (อาจมีตัวยกเว้นอยู่ไม่กี่คำเท่านั้น) เช่น ขนีกะ แปลว่า หนังสือ / กะเซี้ยตตะ แปลว่า หนังสือพิมพ์ / เฌนน่ะ แปลว่า ภรรยา / ชโกล่ะ แปลว่า โรงเรียน / ซิมย่า แปลว่า ครอบครัว ฯลฯ นอกจากนี้ก็ยังมีคำที่ลงท้ายด้วย "มฺแยกกี้ สน้าก" อีกจำนวนหนึ่ง เช่น มัท แปลว่า มารดา / โด๊ช แปลว่า ลูกสาว ฯลฯ
เพศกลาง
ข้อสังเกตอยู่ที่ว่าคำนามเพศกลางจะลงท้ายด้วยสระโอ ไม่ว่าจะออกเสียงเป็นโอ หรือเป็นอะ (เนื่องจากไม่ได้ลงเสียงหนัก) ก็ตาม ตลอดจนคำที่ลงท้ายด้วยสระเยีย ก็ล้วนแต่เป็นคำนามเพศกลางทั้งนั้น เช่น อัคโน่ แปลว่า หน้าต่าง / ปิสโม่ แปลว่า จดหมาย / เมะโตร แปลว่า รถไฟใต้ดิน / ราดิโอ แปลว่า วิทยุ / โมเรีย แปลว่า ทะเล / วัสกริ๊สเซเนีย แปลว่า วันอาทิตย์ ฯลฯ อนึ่ง อาจมีตัวยกเว้นที่ต้องท่องจำเองบ้าง เช่น ตั๊กซี แปลว่า แท็กซี่ / เวรเมีย แปลว่า เวลา (คำนี้ลงท้ายด้วยสระยาก็จริง แต่ไม่ใช่เพศหญิง) / อิเมีย แปลว่า ชื่อ (คำนี้เหมือนกัน ลงท้ายด้วยสระยาก็จริง แต่เป็นเพศกลางซะนี่) / เมนฺยู แปลว่า เมนู ฯลฯ
อนึ่ง คำนามในภาษารัสเซีย แบ่งออกเป็น คำนามที่หมายถึงสิ่งมีชีวิต และคำนามที่หมายถึงสิ่งไม่มีชีวิต สำหรับคำนามที่หมายถึงสิ่งมีชีวิต ไม่มีปัญหา เพศก็จำแนกตามเพศชายหญิง ผู้เมีย ของนามนั้น (จึงปรากฎแต่เพศชายและเพศหญิง) แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งเพศชาย หญิง หรือกลาง ก็ตาม อันนี้ต้องท่องจำเอาเอง แต่ก็ไม่ยากเหมือนภาษาฝรั่งเศส เยอรมัน ฯลฯ เพราะมีรูปคำให้สังเกตได้ ดูที่ตัวลงท้ายของคำนั้นๆเอา : xemo026 :
อสอง (เพราะอนึ่งไปแล้วข้างบน) คำนามเพศชายบางตัวลงท้ายด้วยสระอาก็จริง แต่ก็ยังถือเป็นเพศชายตามเพศธรรมชาติของคำนั้นๆ เช่น คุณปู่หรือคุณตา ภาษารัสเซีย เรียกว่า เดียดุชกา หรือ ปาปา ที่แปลว่า พ่อ เป็นต้น
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ม.ค. 30, 2008 2:55 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Avec plaisir !necromancer เขียน: น่าสนมากๆ
เพราะรัสเซียกำลังเปิดประเทศ
แถมยังมีประเทศที่แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียตที่ใช้ภาษารัสเซียมากมาย
แต่ตอนนี้....ขอภาษาฝรั่งเศสให้รอดก่อน
พี่ตั้วช่วยด้วย....
Tu as des questions? Pose-les vite!!!
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ม.ค. 30, 2008 2:56 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พี่ว่า Alliance จะช่วยปลดปล่อยความโง่เง่าได้แค่ไหนอ่ะ???Florian เขียน:Avec plaisir !necromancer เขียน: น่าสนมากๆ
เพราะรัสเซียกำลังเปิดประเทศ
แถมยังมีประเทศที่แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียตที่ใช้ภาษารัสเซียมากมาย
แต่ตอนนี้....ขอภาษาฝรั่งเศสให้รอดก่อน
พี่ตั้วช่วยด้วย....
Tu as des question? Pose vite!!!
เอาแบบสามารถอ่านตำรากฎหมายภาษาฝรั่งเศสออกน่ะ???
เเค่ ไทย อังกฤษ ละติน ลูกก็จะตายอยู่เเล้วค่ะ
พระคุณเจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
พระคุณเจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ประเด็นที่ 4
คำกริยาภาษารัสเซียต้องมีการกระจายรูปไปตามประธานต่างๆ จะมาใช้ดิบๆบ่ได้ เช่น กริยา ระโบตัท แปลว่า ทำงาน จะมาใช้เป็น ระโบตัท ดิบๆอย่างนี้กับประธานทุกตัวไม่ด้ายยยยยยยย จะต้องกระจายรูป คำกริยาที่ยังไม่กระจาย จะเรียกว่า อินฟินิตีฟ นะจ๊ะ
วิธีการกระจายคำกริยา
ก่อนอื่นขอกล่าวถึงการกระจายคำกริยากลุ่มที่ 1 ก่อน คำกริยากลุ่มที่ 1 จะเป็นคำกริยาที่ลงท้าย ด้วย สระอา+แต+มฺแยกกี้ สน้าก (ATb) เช่น คำกริยา ระโบตัท ที่แปลว่า ทำงาน จะกระจายดังนี้
1. ตัด T และ b ท้ายคำออกไป
2. เติมตัวลงท้ายดังนี้ ใช้กับบุรุษที่หนึ่งเอกพจน์ (ยา) เติม ยู / ใช้กับบุรุษที่สองเอกพจน์ (ตึย์) เติม เยช / ใช้กับบุรุษที่สามเอกพจน์ (โอน อะน่า อะโน่) เติม เยท / ใช้กับบุรุษที่หนึ่งพหูพจน์ (มึย์) เติม เยียม / ใช้กับบุรุษที่สองพหูพจน์+เอกพจน์สุภาพ (วึย์) เติม เยียตเตียะ / และใช้กับบุรุษที่สามพหูพจน์ (อะนี่) เติม ยุท ดังนี้
ยา ระโบตะยู แปลว่า เดี๊ยนทำงาน ข้าพเจ้าทำงาน ฯลฯ
ตึย์ ระโบตะเยช แปลว่า แกทำงาน เธอทำงาน ฯลฯ
โอน / อะน่า ระโบตะเยช แปลว่า เขาผู้ชาย / เขาผู้หญิงทำงาน
มึย์ ระโบตะเยียม แปลว่า พวกเราทำงาน
วึย์ ระโบตะเยียตเตียะ แปลว่า พวกเธอทำงาน พวกคุณทำงาน คุณทำงาน ท่านทำงาน ฯลฯ
อะนี่ ระโบตะยุท แปลว่า พวกเขาทั้งหลายทำงาน
3. คำกริยากลุ่มที่หนึ่ง นอกจาก ระโบตัท แล้ว ก็ยังมีอีกมากมาย เช่น ชิตัท แปลว่า อ่าน / สะลูชั่ท แปลว่า ฟัง / เดียหลัท แปลว่า ทำ/ กุเหลียท แปลว่า เดินเล่น ก็ผันรูปในทำนองเดียวกับ ระโบตัท เลย เช่น
พวกเราฟัง ก็พูดว่า มึย์ สะลูชาเยียม / พวกเขาทั้งหลายเดินเล่น ก็พูดว่า อะนี่ กุเลียยุท เป็นต้น
คำกริยากลุ่มที่สอง คือคำกริยาที่ลงท้ายด้วย สระอิ+แต+มฺแยกกี้ สน้าก (UTb) ไว้โอกาสหน้าค่อยพูดถึง
คำกริยาภาษารัสเซียต้องมีการกระจายรูปไปตามประธานต่างๆ จะมาใช้ดิบๆบ่ได้ เช่น กริยา ระโบตัท แปลว่า ทำงาน จะมาใช้เป็น ระโบตัท ดิบๆอย่างนี้กับประธานทุกตัวไม่ด้ายยยยยยยย จะต้องกระจายรูป คำกริยาที่ยังไม่กระจาย จะเรียกว่า อินฟินิตีฟ นะจ๊ะ
วิธีการกระจายคำกริยา
ก่อนอื่นขอกล่าวถึงการกระจายคำกริยากลุ่มที่ 1 ก่อน คำกริยากลุ่มที่ 1 จะเป็นคำกริยาที่ลงท้าย ด้วย สระอา+แต+มฺแยกกี้ สน้าก (ATb) เช่น คำกริยา ระโบตัท ที่แปลว่า ทำงาน จะกระจายดังนี้
1. ตัด T และ b ท้ายคำออกไป
2. เติมตัวลงท้ายดังนี้ ใช้กับบุรุษที่หนึ่งเอกพจน์ (ยา) เติม ยู / ใช้กับบุรุษที่สองเอกพจน์ (ตึย์) เติม เยช / ใช้กับบุรุษที่สามเอกพจน์ (โอน อะน่า อะโน่) เติม เยท / ใช้กับบุรุษที่หนึ่งพหูพจน์ (มึย์) เติม เยียม / ใช้กับบุรุษที่สองพหูพจน์+เอกพจน์สุภาพ (วึย์) เติม เยียตเตียะ / และใช้กับบุรุษที่สามพหูพจน์ (อะนี่) เติม ยุท ดังนี้
ยา ระโบตะยู แปลว่า เดี๊ยนทำงาน ข้าพเจ้าทำงาน ฯลฯ
ตึย์ ระโบตะเยช แปลว่า แกทำงาน เธอทำงาน ฯลฯ
โอน / อะน่า ระโบตะเยช แปลว่า เขาผู้ชาย / เขาผู้หญิงทำงาน
มึย์ ระโบตะเยียม แปลว่า พวกเราทำงาน
วึย์ ระโบตะเยียตเตียะ แปลว่า พวกเธอทำงาน พวกคุณทำงาน คุณทำงาน ท่านทำงาน ฯลฯ
อะนี่ ระโบตะยุท แปลว่า พวกเขาทั้งหลายทำงาน
3. คำกริยากลุ่มที่หนึ่ง นอกจาก ระโบตัท แล้ว ก็ยังมีอีกมากมาย เช่น ชิตัท แปลว่า อ่าน / สะลูชั่ท แปลว่า ฟัง / เดียหลัท แปลว่า ทำ/ กุเหลียท แปลว่า เดินเล่น ก็ผันรูปในทำนองเดียวกับ ระโบตัท เลย เช่น
พวกเราฟัง ก็พูดว่า มึย์ สะลูชาเยียม / พวกเขาทั้งหลายเดินเล่น ก็พูดว่า อะนี่ กุเลียยุท เป็นต้น
คำกริยากลุ่มที่สอง คือคำกริยาที่ลงท้ายด้วย สระอิ+แต+มฺแยกกี้ สน้าก (UTb) ไว้โอกาสหน้าค่อยพูดถึง
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ม.ค. 30, 2008 2:57 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ได้ไม่น้อยเชียวน้อง เพราะพี่เคยไปเรียนที่นั่นเหมือนกันนะ มีพี่คนหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิด แกทำงานที่สำนักงานกฤษฎีกาตรงประตู มธ. ออกไปทางท่าพระอาทิตย์น่ะ แกเก่งสุดในห้องทีเดียว ถ้าไม่เกิดประโยชน์ พี่แกจะมานั่งเรียนจนได้ดิบได้ดีอย่างนั้นรึnecromancer เขียน:พี่ว่า Alliance จะช่วยปลดปล่อยความโง่เง่าได้แค่ไหนอ่ะ???Florian เขียน:Avec plaisir !necromancer เขียน: น่าสนมากๆ
เพราะรัสเซียกำลังเปิดประเทศ
แถมยังมีประเทศที่แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียตที่ใช้ภาษารัสเซียมากมาย
แต่ตอนนี้....ขอภาษาฝรั่งเศสให้รอดก่อน
พี่ตั้วช่วยด้วย....
Tu as des question? Pose vite!!!
เอาแบบสามารถอ่านตำรากฎหมายภาษาฝรั่งเศสออกน่ะ???
จริงๆ จากประสบการณ์ของพี่ การเรียนภาษาอยู่ที่ตัวเราเองเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด สำคัญกว่าเรียนที่ไหน หรือใครสอนซะอีกนะ มีน้องคนหนึ่งไม่เคยเข้าเรียนภาษาอิตาเลียนในห้องเรียนนะ แต่เขาเรียนแบบครูพักลักจำ อ่านเอง ศึกษาเอง อะไรอย่างนี้ ประกอบกับเขาทำงานนำนักท่องเที่ยวอิตาเลียนเที่ยวเมืองไทย อะไรทำนองนี้ เขาก็เลยมีโอกาสฝึกๆๆๆ ฝึกบ่อยๆ ไม่เข้าใจ ก็ถามคนอิตาเลียน พูดไม่ถูก ก็ให้คนอิตาเลียนแก้ให้ เดี๋ยวนี้ก็พูดอิตาเลียนได้คล่องน้ำไหลไฟดับ คนอิตาเลียนชมเปาะ
น้องเอชก็ทำได้ ไม่ต้องเข้าเรียนที่สมาคมฯก็เก่งฝรั่งเศสได้ ถ้าใจรัก มุ่งมั่น แต่ถ้าไปเรียน ก็จะมีตัวช่วย มีครูเจ้าของภาษา (สมาคมฯไม่เห็นใช้ครูไทยเลย) ได้บรรยากาศ ได้เพื่อนร่วมห้องมาช่วยกันเรียน กระตุ้นกันและกัน ที่สำคัญต้องทำด้วยใจรัก แล้วจะไปด้วยสวย เรียนได้ดี มีความสุขน่ะน้อง
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ม.ค. 30, 2008 2:53 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เราอยากไปศาสนสัมพันธ์กับรัสเชียนออร์โธดอกซ์ ก็ต้องเรียนไว้หน่อย จะได้ไม่หน้าแตก คราวก่อนไปเยือนคริสตจักรออร์โธดอกซ์ ใบ้แทบรับประทาน เหน็บเอย ตะคริวเอยกระโดดเกาะปาก คราวหน้าจะต้อง กะวะรีท ปะ รูสกี้ ให้ได้เลย อิ อิ+Ecclesia+ เขียน: เเค่ ไทย อังกฤษ ละติน ลูกก็จะตายอยู่เเล้วค่ะ
พระคุณเจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
ขอบคุณพี่ตั้วค่ะ กำลังอยากรู้เรื่องภาษารัสเซียอยู่พอดี
ประเด็นที่ 5
คำนามการกที่ 4
เวลาคำนามในภาษารัสเซียต้องทำหน้าที่เป็นกรรมตรงของประโยค จะมีการเปลี่ยนรูป(หรือไม่เปลี่ยน)ตามกฎของภาษา โดยรูปเดิมก่อนเปลี่ยนจะเรียกว่ารูปการกที่ 1 (ซึ่งจะใช้เป็นประธานของประโยค) ส่วนรูปที่เปลี่ยนก็จะเรียกเป็นรูปการกที่ 4 ดังนี้
ถ้าคำนามเป็นสิ่งไม่มีชีวิต เพศชายและเพศกลาง ไม่ต้องเปลี่ยนรูป แต่ถ้าเป็นเพศหญิง ต้องเปลี่ยน โดยถ้าคำนามเพศหญิงนั้นลงท้ายด้วยสระอา ให้เปลี่ยนสระอาท้ายคำเป็นสระอู ถ้าลงท้ายด้วยสระยา ให้เปลี่ยนสระยาเป็นสระยู เช่น ฌุรฺนาล แปลว่า นิตยสาร ถ้าพูดว่า อันโตนอ่านนิตยสาร ฌุรฺนาล ก็คงรูปเดิมเหมือนตอนเป็นการกที่ 1 หรือ วิทยุ คือ ราดิโอ เป็นเพศกลาง ถ้าต้องการพูดว่า เซรฺเกฟังวิทยุ ราดิโอ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงรูป แต่ แต่ และแต่ ถ้าเป็นคำนามเพศหญิง เช่น กะเซี้ยตตะ เวลาพูดว่า มารียาอ่านหนังสือพิมพ์ อันนี้"หนังสือพิมพ์"เป็นกรรมตรงแล้วใช่ปะ เป็นการกที่ 4 ก็ต้องเปลี่ยนจาก กะเซี้ยตตะ เป็น กะเซี้ยตตู้ หรือ ดนตรี ภาษารัสเซียเรียกว่า มูซึกะ เวลาพูดว่า อันนาฟังดนตรี อันนี้"ดนตรี"เป็นกรรมตรงแล้วเหมือนกันใช่ปะ ก็จะต้องเปลี่ยนรูปจาก มูซึกะ เป็น มูซึกู
ฝในกรณีของคำนามที่บ่งถึงสิ่งมีชีวิต เพศชาย ถ้าลงท้ายด้วยพยัญชนะ เติม สระอา ได้ทันที เช่น บร๊าต แปลว่า พี่ชายหรือน้องชาย เวลาเป็นการกที่ 4 เปลี่ยนรูปเป็น บร๊าตตา / ถ้าลงท้ายด้วย "มฺแยกกี้ สน้าก" ให้ตัด "มฺแยกกี้ สน้าก" ทิ้ง แล้วเติม สระยา เช่น อูชีเทล แปลว่า ครูผู้ชาย เวลาเป็นการกที่ 4 ก็จะเปลี่ยนเป็น อูชีเทลเลีย // ถ้าเป็นเพศหญิง มีการเปลี่ยนเหมือนกรณีของคำนามที่บ่งถึงสิ่งไม่มีชีวิต คือ เปลี่ยนสระอาเป็นสระอู / สระยาเปลี่ยนเป็นสระยู เช่น มามา ที่แปลว่า แม่ ก็เปลี่ยนเป็น มามู เป็นต้น
ที่น่าสนใจ ก็คือ คำนามที่ต้องเปลี่ยนรูปนี้ ไม่เพียงแต่คำสามานยนามทั่วไป แต่รวมไปถึงวิสามานยนามหรือชื่อเฉพาะด้วย ชื่อคนก็ไม่เว้น เช่น อันโตน เมื่อเป็นการกที่ 4 ก็ต้องเปลี่ยนเป็น อันโตน่า / มักซิม เปลี่ยนเป็นการกที่ 4 ก็จะเป็น มักซิมา / มาช่า เมื่อเปลี่ยนเป็นการกที่ 4 ก็ต้องเป็น มาชู / อันนา เปลี่ยนเป็นการกที่ 4 ก็เป็น อันนู ฯลฯ
ชื่อหนุ่มสาวไทยทั้งหลายก็ไม่เว้นนะ โดนไปด้วย เช่น ถ้าคุณชื่อนางสาวประภัสรา แล้วใช้เป็นกรรมตรงของประโยค (การกที่ 4 นั่นแหละ) ก็จะกลายเป็นนางสาวประภัสรู เช่น ถ้าพูดว่า อันโตนรักประภัสรา (รัก ในรูปเอกพจน์บุรุษที่สาม คือ ลฺยูบิต) ก็จะเป็น อันโตน ลฺยูบิท ประภัสรู หรือ คุณผู้ชายทั้งหลายก็โดนเหมือนกันนะ เช่น ถ้าพูดว่า นีน่ารักสมศักดิ์ ก็จะเป็น นีน่า ลฺยูบิท สมศักดิ์กา (Somsaka)
ในบอร์ดเรานี้ ก็น่าลองนำชื่อมาทำเป็นการกที่ 4 ดูนะ อิ อิ
คำนามการกที่ 4
เวลาคำนามในภาษารัสเซียต้องทำหน้าที่เป็นกรรมตรงของประโยค จะมีการเปลี่ยนรูป(หรือไม่เปลี่ยน)ตามกฎของภาษา โดยรูปเดิมก่อนเปลี่ยนจะเรียกว่ารูปการกที่ 1 (ซึ่งจะใช้เป็นประธานของประโยค) ส่วนรูปที่เปลี่ยนก็จะเรียกเป็นรูปการกที่ 4 ดังนี้
ถ้าคำนามเป็นสิ่งไม่มีชีวิต เพศชายและเพศกลาง ไม่ต้องเปลี่ยนรูป แต่ถ้าเป็นเพศหญิง ต้องเปลี่ยน โดยถ้าคำนามเพศหญิงนั้นลงท้ายด้วยสระอา ให้เปลี่ยนสระอาท้ายคำเป็นสระอู ถ้าลงท้ายด้วยสระยา ให้เปลี่ยนสระยาเป็นสระยู เช่น ฌุรฺนาล แปลว่า นิตยสาร ถ้าพูดว่า อันโตนอ่านนิตยสาร ฌุรฺนาล ก็คงรูปเดิมเหมือนตอนเป็นการกที่ 1 หรือ วิทยุ คือ ราดิโอ เป็นเพศกลาง ถ้าต้องการพูดว่า เซรฺเกฟังวิทยุ ราดิโอ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงรูป แต่ แต่ และแต่ ถ้าเป็นคำนามเพศหญิง เช่น กะเซี้ยตตะ เวลาพูดว่า มารียาอ่านหนังสือพิมพ์ อันนี้"หนังสือพิมพ์"เป็นกรรมตรงแล้วใช่ปะ เป็นการกที่ 4 ก็ต้องเปลี่ยนจาก กะเซี้ยตตะ เป็น กะเซี้ยตตู้ หรือ ดนตรี ภาษารัสเซียเรียกว่า มูซึกะ เวลาพูดว่า อันนาฟังดนตรี อันนี้"ดนตรี"เป็นกรรมตรงแล้วเหมือนกันใช่ปะ ก็จะต้องเปลี่ยนรูปจาก มูซึกะ เป็น มูซึกู
ฝในกรณีของคำนามที่บ่งถึงสิ่งมีชีวิต เพศชาย ถ้าลงท้ายด้วยพยัญชนะ เติม สระอา ได้ทันที เช่น บร๊าต แปลว่า พี่ชายหรือน้องชาย เวลาเป็นการกที่ 4 เปลี่ยนรูปเป็น บร๊าตตา / ถ้าลงท้ายด้วย "มฺแยกกี้ สน้าก" ให้ตัด "มฺแยกกี้ สน้าก" ทิ้ง แล้วเติม สระยา เช่น อูชีเทล แปลว่า ครูผู้ชาย เวลาเป็นการกที่ 4 ก็จะเปลี่ยนเป็น อูชีเทลเลีย // ถ้าเป็นเพศหญิง มีการเปลี่ยนเหมือนกรณีของคำนามที่บ่งถึงสิ่งไม่มีชีวิต คือ เปลี่ยนสระอาเป็นสระอู / สระยาเปลี่ยนเป็นสระยู เช่น มามา ที่แปลว่า แม่ ก็เปลี่ยนเป็น มามู เป็นต้น
ที่น่าสนใจ ก็คือ คำนามที่ต้องเปลี่ยนรูปนี้ ไม่เพียงแต่คำสามานยนามทั่วไป แต่รวมไปถึงวิสามานยนามหรือชื่อเฉพาะด้วย ชื่อคนก็ไม่เว้น เช่น อันโตน เมื่อเป็นการกที่ 4 ก็ต้องเปลี่ยนเป็น อันโตน่า / มักซิม เปลี่ยนเป็นการกที่ 4 ก็จะเป็น มักซิมา / มาช่า เมื่อเปลี่ยนเป็นการกที่ 4 ก็ต้องเป็น มาชู / อันนา เปลี่ยนเป็นการกที่ 4 ก็เป็น อันนู ฯลฯ
ชื่อหนุ่มสาวไทยทั้งหลายก็ไม่เว้นนะ โดนไปด้วย เช่น ถ้าคุณชื่อนางสาวประภัสรา แล้วใช้เป็นกรรมตรงของประโยค (การกที่ 4 นั่นแหละ) ก็จะกลายเป็นนางสาวประภัสรู เช่น ถ้าพูดว่า อันโตนรักประภัสรา (รัก ในรูปเอกพจน์บุรุษที่สาม คือ ลฺยูบิต) ก็จะเป็น อันโตน ลฺยูบิท ประภัสรู หรือ คุณผู้ชายทั้งหลายก็โดนเหมือนกันนะ เช่น ถ้าพูดว่า นีน่ารักสมศักดิ์ ก็จะเป็น นีน่า ลฺยูบิท สมศักดิ์กา (Somsaka)
ในบอร์ดเรานี้ ก็น่าลองนำชื่อมาทำเป็นการกที่ 4 ดูนะ อิ อิ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ม.ค. 31, 2008 9:24 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
โดนพ่อโอเล็ก(ไล่)ให้ไปเรียนภาษารัสเซีย เฮียเรียนที่ไหนอะ
-
- โพสต์: 626
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
- ที่อยู่: bkk
ภาษาที่เรียนยาก พูดยากเป็นอันดับหนึ่ง คือภาษานี้หรือเปล่าอ่า พี่ตั้ว :huh: :huh:
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เราว่าภาษา "คน" นะ เพราะว่าป้าเมลิสฟังไม่รู้เรื่องmelis เขียน: ภาษาที่เรียนยาก พูดยากเป็นอันดับหนึ่ง คือภาษานี้หรือเปล่าอ่า พี่ตั้ว :huh: :huh:
ว่าตัวเอง "แก่ เค็ม หนังเหนียว"
เคยมีคนไปถามกันในบอร์ดแห่งหนึ่ง ลืมไปแล้วว่าบอร์ดไหน คำถามมีอยู่ว่า "ภาษาอะไรยากที่สุดในโลก" มีคนมาตอบกันหลากหลาย ดังนี้melis เขียน: ภาษาที่เรียนยาก พูดยากเป็นอันดับหนึ่ง คือภาษานี้หรือเปล่าอ่า พี่ตั้ว :huh: :huh:
แนวคิดที่ 1 บอกว่าภาษาจึนสิครับ เนี่ยน่ะ ยากที่สุด เพราะอักษรมีเป็นพันเป็นหมื่น จำกันไม่หวาดไม่ไหว มีตัวเต็มแบบที่ใช้กันในไต้หวัน และแบบตัวย่อแบบที่ใช้กันในแผ่นดินใหญ่
แนวคิดที่ 2 บอกว่าภาษาอาหรับสิคะ เนี่ยน่ะ ยากที่สุด เพราะอักษรมีลักษณะเฉพาะตัว เขียนจากขวามาซ้ายอีกต่างหาก หนังสืออาหรับต้องเปิดจากด้านขวามาด้านซ้าย อ่านก็ต้องอ่านจากด้านขวามาด้านซ้าย แถมพอเลยขั้นพื้นฐานไปแล้ว ไม่ใส่สระอีกแน่ะ เวลาอ่าน ผู้อ่านต้องใส่สระเอาเอง มีเพศมีพจน์ ปัจจุบันกาล อดีตกาล อะไร ยากออกค่ะ
แนวคิดที่ 3 บอกว่าภาษารัสเซียสิยะ ยากสุดๆ ขนานแท้และดั้งเดิมเลยล่ะย่ะ ลำพังอักษรไม่เท่าไร 33 ตัว พอท่องจำกันได้ แต่ไวยากรณ์นี่สุดโหด คำนามต้องเปลี่ยนไปตามการก ขนาดชื่อคน ชื่อเฉพาะยังต้องเปลี่ยนเลย คำกริยาก็ต้องผันไปตามบุรุษสรรพนาม แถมยังมี ปัจจุบัน อดีต อนาคต วุ่นวาย
แนวคิดที่ 4 อันนี้เป็นแนวคิดผสม กล่าวคือ เสนอชื่อภาษาที่ตนเองเคยเรียนมาแล้วว่ายาก ก็เช่น ภาษาเยอรมัน เป็นต้น
ข้าพเจ้าเคยได้รู้จักป้าท่านหนึ่ง แกมีลูกสาวเป็นแอร์โฮสเตส แกบอกว่า แกต้องการพักผ่อน จะไปเที่ยวต่างประเทศ ก็เลยมาเรียนภาษาต่างประเทศเก็บประสบการณ์ไว้ เผื่อเวลาไปเที่ยว จะได้เที่ยวได้สนุกสนาน ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจไว้ว่า แกเห็นว่าภาษาจีนที่ใครว่ายาก แกไม่เห็นว่าจะยากตรงไหน แค่ท่องตัวอักษรได้ ก็ได้แล้ว ตอนที่คุยกับแกนั้น แกกำลังเรียนภาษาเยอรมันอยู่ แกบอกว่าภาษาเยอรมันยังยากกว่าอีก นอกจากนี้ แกก็ยังไปเรียนภาษาอาหรับด้วย ซึ่งแกก็ว่าไม่ยาก (ที่ว่าไม่ยากนั้น อาจเป็นเพราะว่าอาจารย์ใจดี สอนให้เข้าใจได้ง่าย แกก็เลยคิดว่าไม่ยากก็เป็นได้)
สำหรับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเคยเรียนภาษาจีนมาก่อน เห็นด้วยกับคุณป้าเต็มสตีม เพราะภาษาจีนไม่มีอะไรเลย นอกจากตัวอักษรที่แสนจำยากและมีให้จำเยอะ โครงสร้างพื้นฐาน ก็คล้ายๆภาษาไทย (มีต่างไปบ้างในบางจุด เช่น ภาคขยายคำนามอยู่หน้าคำนาม ฯลฯ) และพอเรียนขั้นสูงไปอาจเจอโครงสร้างภาษาที่มีอิทธิพลจากภาษาจีนโบราณบ้าง อันนี้ก็อาจยากอยู่หน่อย นอกนั้นก็ไม่เห็นต้องมานั่งผันคำกริยา ไม่มีtense ไม่มีการเปลี่ยนรูปคำนามไปตามการกต่างๆ ไม่มีการเปลี่ยนคำนามจากรูปเอกพจน์เป็นพหูพจน์อะไรเลย ฉะนั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าในแง่ของไวยากรณ์ภาษารัสเซียน่าจะยากกว่าภาษาจีน ส่วนภาษาจีนก็จะยากกว่าในแง่ของตัวอักษร และถ้าเป็นฝรั่งหรือญี่ปุ่นมาเรียน ก็จะยากเหมือนกับภาษาไทย คือยากในเรื่องของวรรณยุกต์ไปด้วย แต่สำหรับพี่ไทย เรียนภาษาจีนรึ วรรณยุกต์ไม่ยากเท่าไรเลย
สำหรับภาษาอาหรับ ข้าพเจ้าวางแผนจะเรียนในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แล้วจะมาแบ่งปันว่ายากง่ายเป็นลำดับต่อไป
สนองกิเลสน้องเอช ดังนี้necromancer เขียน:ขอเป็นแพนเค๊กได้ป่ะล่ะFlorian เขียน: นึกออกละ น้องเอช ไง
ถ้าบอกว่า ซอนย่ารักเอช ก็ต้องพูดว่า ซอนย่า ลุบลู เอชชา
หมวยอินเตอร์
โซชอบมากๆ
แพนเค้ก สะโมตริ๊ท เอชชา
แปลว่า แพนเค้กดูเอช
สะโมเตรี๊ยท มาจาก อินฟินิตีฟ สะมะตรี๊ท แปลว่า "ดู"
แต่ไม่รู้น้องเอชทำอะไรนะ แพนเค้ก ถึงได้มาดู อิ อิ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ม.ค. 31, 2008 11:35 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
ภาษารัสเซียคำเดียวที่รู้จัก Vodka 555+ อร่อยนะ
- A G N E A U
- โพสต์: 97
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 10:22 pm
พี่พูดได้กี่ภาษาอ่าครับ?? พี่Florian
Vous parlez francais? ca tombe bien ...... veuillez vous m'apprenez par chatter ??
Vous parlez francais? ca tombe bien ...... veuillez vous m'apprenez par chatter ??
- ~KaThaRoS~
- โพสต์: 792
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
- ที่อยู่: Bkk
- ติดต่อ:
พี่ตั๊วว แล้ว คำว่า นู๋รี่รักตาต้าอ่ะ พูดว่าไงเหรอค่ะ คิคิ หุหุFlorian เขียน:สนองกิเลสน้องเอช ดังนี้necromancer เขียน:ขอเป็นแพนเค๊กได้ป่ะล่ะFlorian เขียน: นึกออกละ น้องเอช ไง
ถ้าบอกว่า ซอนย่ารักเอช ก็ต้องพูดว่า ซอนย่า ลุบลู เอชชา
หมวยอินเตอร์
โซชอบมากๆ
แพนเค้ก สะโมตริ๊ท เอชชา
แปลว่า แพนเค้กดูเอช
สะโมเตรี๊ยท มาจาก อินฟินิตีฟ สะมะตรี๊ท แปลว่า "ดู"
แต่ไม่รู้น้องเอชทำอะไรนะ แพนเค้ก ถึงได้มาดู อิ อิ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ด้วย~KaThaRoS~ เขียน:พี่ตั๊วว แล้ว คำว่า นู๋รี่รักตาต้าอ่ะ พูดว่าไงเหรอค่ะ คิคิ หุหุFlorian เขียน:สนองกิเลสน้องเอช ดังนี้necromancer เขียน: ขอเป็นแพนเค๊กได้ป่ะล่ะ
หมวยอินเตอร์
โซชอบมากๆ
แพนเค้ก สะโมตริ๊ท เอชชา
แปลว่า แพนเค้กดูเอช
สะโมเตรี๊ยท มาจาก อินฟินิตีฟ สะมะตรี๊ท แปลว่า "ดู"
แต่ไม่รู้น้องเอชทำอะไรนะ แพนเค้ก ถึงได้มาดู อิ อิ
-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
Nativity เขียน: ก็อมมงตัลเเลวู้
ซา วา เบียง แมรค ซิ