วันฉลองนักบุญทั้งหลาย คริสเตียนฉลองเหมือนกันไหม
ใช่รำลึกถึงผู้ตายหรือเปล่าครับ
ทางพระศาสนจักรตะวันออกก็เหมือนกัน(แต่วันที่3พ.ย.ถ้าจำไม่ผิด)
ทางพระศาสนจักรตะวันออกก็เหมือนกัน(แต่วันที่3พ.ย.ถ้าจำไม่ผิด)
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ไม่คร้าบ....พี่ Phulasso ต้องจำไว้ว่า เรา/มาร์ติน ลูเธอ นำปฏิรูป จนกลายเป็นปฏิวัติ ก็เรื่อง รูปนักบุญทั้งหลายPhulasso เขียน:
คาทอลิกฉลองวันฉลองนักบุญทั้งหลายวันที่ 1 พ.ย.
คริสเตียนมีฉลองแบบเดียวกันไหมเอ่ย
เรา (โคตรบรรพบุรุษ ฮะ ) ได้ตัดทุกอย่างที่เคยทำมาด้วยกัน ก่อน ค.ศ.1517 ออกไปจากสารบบ คงกลัวว่าเป็นการบูชา idol ครับ พี่

แล้วเชื่อเรื่องไฟชำระไหมน้องJeab Agape เขียน:ไม่คร้าบ....พี่ Phulasso ต้องจำไว้ว่า เรา/มาร์ติน ลูเธอ นำปฏิรูป จนกลายเป็นปฏิวัติ ก็เรื่อง รูปนักบุญทั้งหลายPhulasso เขียน:
คาทอลิกฉลองวันฉลองนักบุญทั้งหลายวันที่ 1 พ.ย.
คริสเตียนมีฉลองแบบเดียวกันไหมเอ่ย
เรา (โคตรบรรพบุรุษ ฮะ ) ได้ตัดทุกอย่างที่เคยทำมาด้วยกัน ก่อน ค.ศ.1517 ออกไปจากสารบบ คงกลัวว่าเป็นการบูชา idol ครับ พี่![]()
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ไม่มีคร้าบ... (ไว้หาที่พี่พีพี เคยตอบ พี่มินนี่ ให้ หรือไม่ก็ต้องพิมพ์เองหนังสือมีคร้าบ)Phulasso เขียน:
แล้วเชื่อเรื่องไฟชำระไหมน้อง
ดังนั้นการคบกับพี่น้องคริสตังเนี่ยได้เปรียบ เพราะถ้าไฟชำระมีจริง พี่ๆ เพื่อนๆ คงภาวนาให้เจี๊ยบแน่ๆ (เชื่อเช่นนั้น )

แล้วเราจะเจอกันที่ไหนดีJeab Agape เขียน:ไม่มีคร้าบ... (ไว้หาที่พี่พีพี เคยตอบ พี่มินนี่ ให้ หรือไม่ก็ต้องพิมพ์เองหนังสือมีคร้าบ)Phulasso เขียน:
แล้วเชื่อเรื่องไฟชำระไหมน้อง
ดังนั้นการคบกับพี่น้องคริสตังเนี่ยได้เปรียบ เพราะถ้าไฟชำระมีจริง พี่ๆ เพื่อนๆ คงภาวนาให้เจี๊ยบแน่ๆ (เชื่อเช่นนั้น )![]()
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ทางช้างเผือกPhulasso เขียน:
แล้วเราจะเจอกันที่ไหนดี


พี่ว่าคาทอลิกกำไรกว่านะที่รู้จักคริสเตียนJeab Agape เขียน:ทางช้างเผือกPhulasso เขียน:
แล้วเราจะเจอกันที่ไหนดีแหม ก็ที่แทบพระบาทของพระเจ้านะสิ
![]()
เพราะเขาจะไปสวรรค์ตรงๆเลย
อย่างพี่พิจารณาความผิดตัวเอง
ไฟชำระก็เยี่ยมมากแล้ว
อยู่บนสวรรค์แล้วสวดให้ด้วยนะจ๊ะ
-
- โพสต์: 960
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm
Jeab Agape เขียน:ทางช้างเผือกPhulasso เขียน:
แล้วเราจะเจอกันที่ไหนดีแหม ก็ที่แทบพระบาทของพระเจ้านะสิ
![]()
แง๊ว ทางช้างเผือกเลยหรอ ทางช้างก้านหล้วยได้ปะเจี๊ยบ
-
- โพสต์: 187
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 21, 2007 9:59 pm
- ที่อยู่: นครศรีธรรมราช Nakhoosri-tammarat
- ติดต่อ:
ครับ คริสเตียนเรา ไม่มีวันฉลองนักบุญครับ จะมีวันสำคัญอยู่ 4-5 วันเดี่ยวจะนำมาลงพร้อมรายละเอียดครับ แท่แน่ๆเราไม่มีครับ วันฉลองนักบุญ หรือ ฉลองพระแม่มารีอา เราก็ไม่มีครับ ส่วนไฟชำระก็มีครับ แต่มีไว้ใช้กับเหล่าผู้ที่ไม่เชื่อในพระนามพระเยซูเท่านั้นครับ สำหรับศาสนิกชนที่เป็นผู้เชื่อเมื่อล่วงลับหลับไปเราก็จะไปอยู่ในพระนิเวศพระเป็นเจ้าเลยครับ(บางคณะว่าต้องรอการพิพากษา แต่บางคณะว่าไม่ต้องรอครับ คือตัดสินไปก่อนเลย สำหรับคณี่ต้องรอนั้น วิญญาณคนตายจะไปอยู่อีกที่ครับ เพื่อรอวันพิพากษา ครับ)
ขอสันติสุขจงมีแด่ท่าน
เอเมน
ขอสันติสุขจงมีแด่ท่าน
เอเมน
Jeab บอกไม่มี น้องHSHH บอกมีHolysong_holyHill เขียน: ครับ คริสเตียนเรา ไม่มีวันฉลองนักบุญครับ จะมีวันสำคัญอยู่ 4-5 วันเดี่ยวจะนำมาลงพร้อมรายละเอียดครับ แท่แน่ๆเราไม่มีครับ วันฉลองนักบุญ หรือ ฉลองพระแม่มารีอา เราก็ไม่มีครับ ส่วนไฟชำระก็มีครับ แต่มีไว้ใช้กับเหล่าผู้ที่ไม่เชื่อในพระนามพระเยซูเท่านั้นครับ สำหรับศาสนิกชนที่เป็นผู้เชื่อเมื่อล่วงลับหลับไปเราก็จะไปอยู่ในพระนิเวศพระเป็นเจ้าเลยครับ(บางคณะว่าต้องรอการพิพากษา แต่บางคณะว่าไม่ต้องรอครับ คือตัดสินไปก่อนเลย สำหรับคณี่ต้องรอนั้น วิญญาณคนตายจะไปอยู่อีกที่ครับ เพื่อรอวันพิพากษา ครับ)
ขอสันติสุขจงมีแด่ท่าน
เอเมน
สงกะสัยต้องไปดูเองแล้วมั้ง
-
- โพสต์: 187
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 21, 2007 9:59 pm
- ที่อยู่: นครศรีธรรมราช Nakhoosri-tammarat
- ติดต่อ:
1 การสารภาพบาปนั้น เราสามารถสารภาพโดยตรงกับพระเจ้าเลยครับ โดยใช้พระนามของพระเยซู เป็นตังเชื่อมครับ เราก็สามารถอธิฐานขอการสารภาพบาปได้ทุกที่ทุกเวลาครับ เราไม่เน้นการที่มีปุโรหิตแล้วครับ เพราะเราเชื่อว่าพระเยซูคือปุโรหิตองค์เดียวครับ ดังนั้นการทูลขอต่างๆ เราก็ขอ(อธิฐาน)ในพระนามพระเยซูคริสต์ เจ้า อาเมนครับ ไม่ต้องสารภาพต่อคุณ พ่อ หรือคนอื่นๆครับ
2 เรื่องไฟชำระนั้น ก็คือการชำระบาปของเราในนรกครับ บางคณะไม่ใช้คำนี้ แต่ที่บอกว่ามีคือ คนที่ตายต้อง มี ที่ไป 2 ที่คือ
1ผู้ที่เชื่อในพระนาม ไปสวรรค์
2ผู้ที่ไม่เชื่อในพระนาม ก็ไปอยู่ที่ ไฟชำระบึงไฝนรก ที่เป็นไฟกรรมถัน ไม่ดับ ไม่มอด ไม่เผาไหม แต่จะลุกร้อยแผดเผา คนเหล่านั้นอยู่นิจนิรันครับ
ถ้ามีคำถามก็ถามมาได้ครับ ผมจะเอาข้อมูลมาตอบครับ
ขอสันติสุขจงมีแด่ท่าน
อาเมน
2 เรื่องไฟชำระนั้น ก็คือการชำระบาปของเราในนรกครับ บางคณะไม่ใช้คำนี้ แต่ที่บอกว่ามีคือ คนที่ตายต้อง มี ที่ไป 2 ที่คือ
1ผู้ที่เชื่อในพระนาม ไปสวรรค์
2ผู้ที่ไม่เชื่อในพระนาม ก็ไปอยู่ที่ ไฟชำระบึงไฝนรก ที่เป็นไฟกรรมถัน ไม่ดับ ไม่มอด ไม่เผาไหม แต่จะลุกร้อยแผดเผา คนเหล่านั้นอยู่นิจนิรันครับ
ถ้ามีคำถามก็ถามมาได้ครับ ผมจะเอาข้อมูลมาตอบครับ
ขอสันติสุขจงมีแด่ท่าน
อาเมน
-
- โพสต์: 960
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm
สารภาพกับพระเจ้าโดยตรงWindstruck เขียน: แล้วทำบาปสารภาพยังไงอะ![]()
-
- โพสต์: 187
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 21, 2007 9:59 pm
- ที่อยู่: นครศรีธรรมราช Nakhoosri-tammarat
- ติดต่อ:
ครับ
-
- โพสต์: 187
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 21, 2007 9:59 pm
- ที่อยู่: นครศรีธรรมราช Nakhoosri-tammarat
- ติดต่อ:
ก็ตัวอย่างเช่น
อธิษฐาน คือ การอ้อนวอนขอposted on 06 Jun 2005 17:45 by ambiguous in christianity (อยากจะเขียนมาตั้งแต่เห็นป้ายวันวิสาขะแล้วล่ะ ขอซะหน่อย)
จริงๆแล้วการอธิษฐานสำหรับคริสเตียนก็คือการคุยกับพระเจ้า ซึ่งคุยได้ทุกเรื่อง รวมถึงการสารภาพบาป/ขอการยกโทษ และการขอ
เคยอ่านจากหนังสือเล่มนึงว่า พระเจ้าต้องการให้เราขอ
การไม่ขอจากพระเจ้า เป็นการดูหมิ่นพระองค์อย่างหนึ่ง
เพราะมันเท่ากับว่าเราไม่เชื่อว่าพระเจ้าจะให้เราได้
และบางครั้งพระเจ้ามีพระพรมากมายจะให้เรา ซึ่งถ้าไม่ขอเราจะไม่ได้รับ
แต่ถ้าขอ พระเจ้าสามารถให้เราได้มากยิ่งกว่าที่เราคิด
แต่การขอก็ไม่ใช่ว่าไม่มีข้อแม้นะ
พระคัมภีร์บอกว่า ให้แสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า (น้ำพระทัยของพระเจ้า = สิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย) ก่อน แล้วไม่ว่าจะขออะไรก็ตามในนามของพระเยซูก็จะได้รับ
เงื่อนไขแค่นี้
แต่ยาก
เพราะมันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการขอของเรา
และหลายครั้ง (หรืออาจจะทุกครั้ง)
เราไม่รู้ว่าเราต้องการอะไร
หรือ เราไม่รู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับสถานการณ์นั้นๆ
ดังนั้นเราจะไม่ได้ทุกอย่างตามที่เราขอหรอก พูดตรงๆเลย
เหตุผลก็อย่างที่บอก เรามักไม่รู้ว่า อะไรดี และ อะไรดีที่สุด
เหตุผลอีกอย่างก็คือถ้าพระเจ้าให้เราอย่างที่เราขอทุกอย่างแบบจินนี่ในตะเกียงวิเศษ พระเจ้าก็คงไม่ใช่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ แต่เป็นแค่คนรับใช้ของเราสิ
เพราะฉะนั้นในการขอที่ถูกต้องตามพระคัมภีร์
คือขออย่างที่เราอยากได้ แต่ให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
(พูดง่ายๆก็คือ ลูกอยากได้แบบนี้นะ แต่ถ้าพระองค์ว่าไงก็ว่างั้นแหละ)
อันนี้ดูตัวอย่างได้จากคำอธิษฐานของพระเยซู
ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลายผู้สถิตในสวรรค์
ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เทิดทูนสักการะ
ขอให้อาณาจักรของพระองค์ได้รับการสถาปนาไว้
ขอให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จในโลกเช่นเดียวกับในสวรรค์
ขอโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในวันนี้
ขอทรงยกหนี้ให้ข้าพระองค์ทั้งหลาย
เหมือนที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ยกหนี้ให้ผู้ที่เป็นหนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายเช่นกัน
และขออย่าให้ข้าพระองค์ทั้งหลายล้มลงเมื่อถูกทดลอง
แต่ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นจากมารร้าย
อธิษฐาน คือ การอ้อนวอนขอposted on 06 Jun 2005 17:45 by ambiguous in christianity (อยากจะเขียนมาตั้งแต่เห็นป้ายวันวิสาขะแล้วล่ะ ขอซะหน่อย)
จริงๆแล้วการอธิษฐานสำหรับคริสเตียนก็คือการคุยกับพระเจ้า ซึ่งคุยได้ทุกเรื่อง รวมถึงการสารภาพบาป/ขอการยกโทษ และการขอ
เคยอ่านจากหนังสือเล่มนึงว่า พระเจ้าต้องการให้เราขอ
การไม่ขอจากพระเจ้า เป็นการดูหมิ่นพระองค์อย่างหนึ่ง
เพราะมันเท่ากับว่าเราไม่เชื่อว่าพระเจ้าจะให้เราได้
และบางครั้งพระเจ้ามีพระพรมากมายจะให้เรา ซึ่งถ้าไม่ขอเราจะไม่ได้รับ
แต่ถ้าขอ พระเจ้าสามารถให้เราได้มากยิ่งกว่าที่เราคิด
แต่การขอก็ไม่ใช่ว่าไม่มีข้อแม้นะ
พระคัมภีร์บอกว่า ให้แสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า (น้ำพระทัยของพระเจ้า = สิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย) ก่อน แล้วไม่ว่าจะขออะไรก็ตามในนามของพระเยซูก็จะได้รับ
เงื่อนไขแค่นี้
แต่ยาก
เพราะมันขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการขอของเรา
และหลายครั้ง (หรืออาจจะทุกครั้ง)
เราไม่รู้ว่าเราต้องการอะไร
หรือ เราไม่รู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับสถานการณ์นั้นๆ
ดังนั้นเราจะไม่ได้ทุกอย่างตามที่เราขอหรอก พูดตรงๆเลย
เหตุผลก็อย่างที่บอก เรามักไม่รู้ว่า อะไรดี และ อะไรดีที่สุด
เหตุผลอีกอย่างก็คือถ้าพระเจ้าให้เราอย่างที่เราขอทุกอย่างแบบจินนี่ในตะเกียงวิเศษ พระเจ้าก็คงไม่ใช่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ แต่เป็นแค่คนรับใช้ของเราสิ
เพราะฉะนั้นในการขอที่ถูกต้องตามพระคัมภีร์
คือขออย่างที่เราอยากได้ แต่ให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า
(พูดง่ายๆก็คือ ลูกอยากได้แบบนี้นะ แต่ถ้าพระองค์ว่าไงก็ว่างั้นแหละ)
อันนี้ดูตัวอย่างได้จากคำอธิษฐานของพระเยซู
ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลายผู้สถิตในสวรรค์
ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เทิดทูนสักการะ
ขอให้อาณาจักรของพระองค์ได้รับการสถาปนาไว้
ขอให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จในโลกเช่นเดียวกับในสวรรค์
ขอโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในวันนี้
ขอทรงยกหนี้ให้ข้าพระองค์ทั้งหลาย
เหมือนที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ยกหนี้ให้ผู้ที่เป็นหนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายเช่นกัน
และขออย่าให้ข้าพระองค์ทั้งหลายล้มลงเมื่อถูกทดลอง
แต่ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นจากมารร้าย
-
- โพสต์: 187
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 21, 2007 9:59 pm
- ที่อยู่: นครศรีธรรมราช Nakhoosri-tammarat
- ติดต่อ:
การสารภาพบาป ก็พูดตามตรงต่อพระเจ้า
เช่นที่ผมมักใช้บ่อยๆ เช่น
สาธุการแด่พระเจ้า
ถึงข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลายผู้สถิตในสวรรค์
ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เทิดทูนสักการะ
ขอให้อาณาจักรของพระองค์ได้รับการสถาปนาไว้
ขอให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จในโลกเช่นเดียวกับในสวรรค์
ขอโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในวันนี้
ขอทรงยกหนี้ให้ข้าพระองค์ทั้งหลาย
เหมือนที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ยกหนี้ให้ผู้ที่เป็นหนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายเช่นกัน
และขออย่าให้ข้าพระองค์ทั้งหลายล้มลงเมื่อถูกทดลอง
แต่ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นจากมารร้าย
ข้าแต่พระองค์ ข้าพระองค์ขอสารภาพความผิดบาป.................
....................................................................
.....................................................................
ขอพระองค์ทรงอภัยในความผิดบาปที่ข้าพระองค์ได้กระทำลง ขอพระเมตตานำทางข้าพระองค์ ขอที่ข้าพระองค์จะเดินหันหนีจากซึ่งบาปนี้ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ที่ จะหันหลังให้กับความบาปที่จะไม่กลับไปทำเช่นนั้นอีก ขอทรงเมตตา
ข้าแต่พระองค์ ขอบพระคุณพระองค์ที่ ทรงไถ่ข้าพระองค์ทั้งหลาย ด้วยโลหิตของพระองค์ ขอขอบคุณพระองค์
อธิฐานทูลขอ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า
อาเมน
ซึ่งแต่ละคนก็จะใช้ไม่เหมือนกันเพราะเราไมแบบที่ต้องใช้ในการสารภาพ เราจะใช้คำพูดที่ออกมาจากใจที่สำนึกจริงๆ ดังนั้นคำพูดในการสารภาพนั้น ของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน
ขอสันติสุขจงมีแด่ท่าน
อาเมน
(บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัว ไม่อนุญาติให้นำใช้อ้างอิงได้แต่ประการใด )
เช่นที่ผมมักใช้บ่อยๆ เช่น
สาธุการแด่พระเจ้า
ถึงข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลายผู้สถิตในสวรรค์
ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เทิดทูนสักการะ
ขอให้อาณาจักรของพระองค์ได้รับการสถาปนาไว้
ขอให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จในโลกเช่นเดียวกับในสวรรค์
ขอโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในวันนี้
ขอทรงยกหนี้ให้ข้าพระองค์ทั้งหลาย
เหมือนที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ยกหนี้ให้ผู้ที่เป็นหนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายเช่นกัน
และขออย่าให้ข้าพระองค์ทั้งหลายล้มลงเมื่อถูกทดลอง
แต่ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้พ้นจากมารร้าย
ข้าแต่พระองค์ ข้าพระองค์ขอสารภาพความผิดบาป.................
....................................................................
.....................................................................
ขอพระองค์ทรงอภัยในความผิดบาปที่ข้าพระองค์ได้กระทำลง ขอพระเมตตานำทางข้าพระองค์ ขอที่ข้าพระองค์จะเดินหันหนีจากซึ่งบาปนี้ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ที่ จะหันหลังให้กับความบาปที่จะไม่กลับไปทำเช่นนั้นอีก ขอทรงเมตตา
ข้าแต่พระองค์ ขอบพระคุณพระองค์ที่ ทรงไถ่ข้าพระองค์ทั้งหลาย ด้วยโลหิตของพระองค์ ขอขอบคุณพระองค์
อธิฐานทูลขอ ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า
อาเมน
ซึ่งแต่ละคนก็จะใช้ไม่เหมือนกันเพราะเราไมแบบที่ต้องใช้ในการสารภาพ เราจะใช้คำพูดที่ออกมาจากใจที่สำนึกจริงๆ ดังนั้นคำพูดในการสารภาพนั้น ของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน
ขอสันติสุขจงมีแด่ท่าน
อาเมน
(บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัว ไม่อนุญาติให้นำใช้อ้างอิงได้แต่ประการใด )
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
วันวาเลนไทน์นี่ถือเป็นวันฉลองนักบุญมั้ยครับ
คิดว่าไม่น่าใช่นะครับ เพราะพ่อผมเป็นโปรฯ ก็ไม่เคยมีคำว่าไฟชำระ มีแต่คำว่านรกหรือบึงไฟไปเลย และผมก็คิดว่าถ้าจะใช้ในความหมายว่าตกตลอด ก็ไม่น่าใช้คำว่าไฟชำระครับ เพราะการชำระแปลว่าทำให้สะอาด เปรียบไปเหมือนการขัดพื้น ขัดเพราะมีความหวังว่า วันหนึ่ง มันจะสะอาด ถ้าสะอาดแล้วก็หยุดขัด เหมือนไฟชำระ เมื่อครบกำหนดหรือวิญญาณสะอาดแล้วต้องหยุด ถ้าไม่ยอมหยุดแปลว่าไม่สะอาดซะที และถ้าไม่สะอาดไปตลอดต้องขัดตลอดจะทำความสะอาดทำไม แต่ถ้าหวังว่าวันหนึ่งจะสะอาดพ้นโทษ เราจึงควรเรียกว่าการชำระได้Holysong_holyHill เขียน: 1 การสารภาพบาปนั้น เราสามารถสารภาพโดยตรงกับพระเจ้าเลยครับ โดยใช้พระนามของพระเยซู เป็นตังเชื่อมครับ เราก็สามารถอธิฐานขอการสารภาพบาปได้ทุกที่ทุกเวลาครับ เราไม่เน้นการที่มีปุโรหิตแล้วครับ เพราะเราเชื่อว่าพระเยซูคือปุโรหิตองค์เดียวครับ ดังนั้นการทูลขอต่างๆ เราก็ขอ(อธิฐาน)ในพระนามพระเยซูคริสต์ เจ้า อาเมนครับ ไม่ต้องสารภาพต่อคุณ พ่อ หรือคนอื่นๆครับ
2 เรื่องไฟชำระนั้น ก็คือการชำระบาปของเราในนรกครับ บางคณะไม่ใช้คำนี้ แต่ที่บอกว่ามีคือ คนที่ตายต้อง มี ที่ไป 2 ที่คือ
1ผู้ที่เชื่อในพระนาม ไปสวรรค์
2ผู้ที่ไม่เชื่อในพระนาม ก็ไปอยู่ที่ ไฟชำระบึงไฝนรก ที่เป็นไฟกรรมถัน ไม่ดับ ไม่มอด ไม่เผาไหม แต่จะลุกร้อยแผดเผา คนเหล่านั้นอยู่นิจนิรันครับ
ถ้ามีคำถามก็ถามมาได้ครับ ผมจะเอาข้อมูลมาตอบครับ
ขอสันติสุขจงมีแด่ท่าน
อาเมน
มธ 5:26
เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ท่านจะออกจากคุกไม่ได้ จนกว่าท่านจะชำระหนี้จนเศษสตางค์สุดท้าย
---จากบทนี้สะท้อนเรื่องไฟชำระ เพราะยังมีความหวังว่าเมื่อใช้หนี้หมด จะออกมาได้ เป็นการทำโทษแค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งครับ
เท่าที่ทราบ คณะโปรฯทั่วไปจะไม่ใช้คำว่าไฟชำระกับนรกครับ และเพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกครับว่ามีการเรียกนรกว่าไฟชำระ คิดว่าผู้แปลอาจมีเจตนาต้องการปฏิเสธเรื่องไฟชำระในพระศาสนจักรคาทอลิค จึงควบรวมว่าเป็นนรกไปเลย
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พฤหัสฯ. พ.ย. 01, 2007 12:31 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 187
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 21, 2007 9:59 pm
- ที่อยู่: นครศรีธรรมราช Nakhoosri-tammarat
- ติดต่อ:
ไม่ทราบนะ เเต่ที่คริสตจักรผม ไม่มีครับ
วันที่14กุมภา เป้นวันฉลองนักบุญวาเลนไทน์ แต่...วันวาเลนไทน์ที่โลกหมายถึงนั้น ไม่ใช่วันฉลองนักบุญ แต่เป้นวันที่อิงชื่อท่านมาส่งเสริมการขายช๊อกโกแลตและเรื่องรักใคร่ของหนุ่มสาวครับLike_a_Heaven เขียน: วันวาเลนไทน์นี่ถือเป็นวันฉลองนักบุญมั้ยครับ
อ่านนี่นะคะLike_a_Heaven เขียน: วันวาเลนไทน์นี่ถือเป็นวันฉลองนักบุญมั้ยครับ
http://www.catholic.or.th/spiritual/art ... /va03.html
-
- โพสต์: 187
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 21, 2007 9:59 pm
- ที่อยู่: นครศรีธรรมราช Nakhoosri-tammarat
- ติดต่อ:
Holy เขียน:คิดว่าไม่น่าใช่นะครับ เพราะพ่อผมเป็นโปรฯ ก็ไม่เคยมีคำว่าไฟชำระ มีแต่คำว่านรกหรือบึงไฟไปเลย และผมก็คิดว่าถ้าจะใช้ในความหมายว่าตกตลอด ก็ไม่น่าใช้คำว่าไฟชำระครับ เพราะการชำระแปลว่าทำให้สะอาด เปรียบไปเหมือนการขัดพื้น ขัดเพราะมีความหวังว่า วันหนึ่ง มันจะสะอาด ถ้าสะอาดแล้วก็หยุดขัด เหมือนไฟชำระ เมื่อครบกำหนดหรือวิญญาณสะอาดแล้วต้องหยุด ถ้าไม่ยอมหยุดแปลว่าไม่สะอาดซะที และถ้าไม่สะอาดไปตลอดต้องขัดตลอดจะทำความสะอาดทำไม แต่ถ้าหวังว่าวันหนึ่งจะสะอาดพ้นโทษ เราจึงควรเรียกว่าการชำระได้Holysong_holyHill เขียน: 1 การสารภาพบาปนั้น เราสามารถสารภาพโดยตรงกับพระเจ้าเลยครับ โดยใช้พระนามของพระเยซู เป็นตังเชื่อมครับ เราก็สามารถอธิฐานขอการสารภาพบาปได้ทุกที่ทุกเวลาครับ เราไม่เน้นการที่มีปุโรหิตแล้วครับ เพราะเราเชื่อว่าพระเยซูคือปุโรหิตองค์เดียวครับ ดังนั้นการทูลขอต่างๆ เราก็ขอ(อธิฐาน)ในพระนามพระเยซูคริสต์ เจ้า อาเมนครับ ไม่ต้องสารภาพต่อคุณ พ่อ หรือคนอื่นๆครับ
2 เรื่องไฟชำระนั้น ก็คือการชำระบาปของเราในนรกครับ บางคณะไม่ใช้คำนี้ แต่ที่บอกว่ามีคือ คนที่ตายต้อง มี ที่ไป 2 ที่คือ
1ผู้ที่เชื่อในพระนาม ไปสวรรค์
2ผู้ที่ไม่เชื่อในพระนาม ก็ไปอยู่ที่ ไฟชำระบึงไฝนรก ที่เป็นไฟกรรมถัน ไม่ดับ ไม่มอด ไม่เผาไหม แต่จะลุกร้อยแผดเผา คนเหล่านั้นอยู่นิจนิรันครับ
ถ้ามีคำถามก็ถามมาได้ครับ ผมจะเอาข้อมูลมาตอบครับ
ขอสันติสุขจงมีแด่ท่าน
อาเมน
มธ 5:26
เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ท่านจะออกจากคุกไม่ได้ จนกว่าท่านจะชำระหนี้จนเศษสตางค์สุดท้าย
---จากบทนี้สะท้อนเรื่องไฟชำระ เพราะยังมีความหวังว่าเมื่อใช้หนี้หมด จะออกมาได้ เป็นการทำโทษแค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งครับ
เท่าที่ทราบ คณะโปรฯทั่วไปจะไม่ใช้คำว่าไฟชำระกับนรกครับ และเพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกครับว่ามีการเรียกนรกว่าไฟชำระ คิดว่าผู้แปลอาจมีเจตนาต้องการปฏิเสธเรื่องไฟชำระในพระศาสนจักรคาทอลิค จึงควบรวมว่าเป็นนรกไปเลย
ครับแก้ไขครับ คือนรกครับ โทรไปถาม ศ บ แล้ว ตกนรกลูกเดียวครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
แหม im ถามเจี๊ยบก็บอกให้ได้ คริสต์โปรฯ มีแต่บึงไฟนรกครับHolysong_holyHill เขียน:
ครับแก้ไขครับ คือนรกครับ โทรไปถาม ศ บ แล้ว ตกนรกลูกเดียวครับ
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
โปรเตสแตนท์บางคริสตจักรก้อจัดเคมเปญจ์วันวาเลนไทน์อ่ะครับ
ผมแอบงงไปเลย ^ ^"
ผมแอบงงไปเลย ^ ^"
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เคมเปญจ์ที่น้องพูดถึง น่าจะจัดงานเป็นการประกาศพระกิตติคุณ :cheesy:Like_a_Heaven เขียน: โปรเตสแตนท์บางคริสตจักรก้อจัดเคมเปญจ์วันวาเลนไทน์อ่ะครับ
ผมแอบงงไปเลย ^ ^"
เนื่องจากคริสตจักรโปรฯยังให้ความสำคัญของการประกาศข่าวดี หรือการแพร่ธรรม เราจึงใช้โอกาสต่างๆ
เช่นถ้าวันวาเลนไทน์ เป็นสัญญลักษณ์ของความรัก เราจัดเพื่อประกาศเรื่องความรัก ของชายคนหนึ่ง
ที่ยิ่งใหญ่กว่านักบุญวาเลนติโน ยอมให้ทั้งชีวิต แก่มนุษย์ทุกคน ชายคนนั้นคือ "พระเยซูเจ้า"
คริสตมาส เราก็จัดประกาศคริสตมาส เล่าถึงเด็กชายคนหนึ่งที่ทั้งโลกรู้จักแล้ว แต่ใช้ประโยชน์จากพระนามของพระองค์หากิน
รื่นเริง เด็กคนนั้น คือองค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงถ่อมพระกายลงมาบังเกิดในรางหญ้า เพื่อเป็นของขวัญให้กับโลก
นอกจากนั้น ยังมีวันพ่อ วันแม่ งานศพ งานแต่งงาน สงกรานต์ ลอยกระทง เป็นต้น
และไม่มีโอกาส คนด่าก็ประกาศ ไม่ด่าก็ประกาศ เพราะเป้าหลัก คือทำตามพระมหาบัญชา ของพระเยซูคริสต์
มัทธิว 28.18-20
18พระเยซูจึงเสด็จเข้ามาใกล้แล้วตรัสกับเขาว่า
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
อันที่จริง คาทอลิกนะดีแล้วรอบขอบกว่า ถ้าเกิดไปตรงได้ พวกพี่ก็ไปทันที เพราะความเชื่อ ว่า "เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีใครไปหาพระบิดา ได้นอกจากมาทางเรา" แต่ถ้ามีแดนชำระ พวกพี่น้องคาทอลิก ก็ไปถึงสวรรค์ก่อน เพราะมีคนสวดให้ ประจำ แต่เราโปรฯดิ ต้องคอยPhulasso เขียน:พี่ว่าคาทอลิกกำไรกว่านะที่รู้จักคริสเตียนJeab Agape เขียน:ทางช้างเผือกPhulasso เขียน:
แล้วเราจะเจอกันที่ไหนดีแหม ก็ที่แทบพระบาทของพระเจ้านะสิ
![]()
เพราะเขาจะไปสวรรค์ตรงๆเลย
อย่างพี่พิจารณาความผิดตัวเอง
ไฟชำระก็เยี่ยมมากแล้ว
อยู่บนสวรรค์แล้วสวดให้ด้วยนะจ๊ะ
วัน all saints :cheesy:
ในความคิดผมกับการที่เจอพี่น้องโปรหลายคน
น่าจะเรียกว่าฉลองทุกวันเพราะสิ่งสำคัญที่พระเจ้าให้เหล่าธรรมิกชนนั่นคือความรัก^^!
น่าจะเรียกว่าฉลองทุกวันเพราะสิ่งสำคัญที่พระเจ้าให้เหล่าธรรมิกชนนั่นคือความรัก^^!