
ป้ายสีเหลืองทำไมเห็นบ่อยจังช่วงนี้
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เค้ามีมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอครับ 

ช่วงใกล้คริสตมาสละมั้งเลยประกาศเป็นพิเศษ
รู้สึกตะหงิดเล็กๆ บรรยาคริสตมาสมาฟังเรื่องหดหู่
รู้สึกตะหงิดเล็กๆ บรรยาคริสตมาสมาฟังเรื่องหดหู่

แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ธ.ค. 17, 2007 7:59 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 174
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ย. 25, 2006 12:14 pm
ช่ายๆ ช่วงนี้เหงป้ายสีเหลืองบ่อย
ยิ่งตามถนนตอนรถติดๆด้วยนะ
แท๊กซี่ป้ายทะเบียนเหลืองๆเต็มไปหมดเรย
ยิ่งตามถนนตอนรถติดๆด้วยนะ
แท๊กซี่ป้ายทะเบียนเหลืองๆเต็มไปหมดเรย

เคยเห็นติดอยู่บนต้นมะพร้าวแถวบ้านย่า
คนติดก็พยายามนะ ติดซะสูงเลย
คนติดก็พยายามนะ ติดซะสูงเลย
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ป้ายเหลือง ที่เห็นๆกันในเดือนนี้ มีคริสตชนกลุ่มหนึ่ง ในกลุ่มสหกิจคริสเตียน ต้นแบบมาจากญี่ปุ่น
เขาจะใช้การเผยแผ่ ถือป้าย โฆษณา ด้วยลำโพง เดินไปตามชุมชน หรือ สี่แยกไฟแดง ฯลฯ เพื่อการแพร่ธรรม
ดูแล้ว รกตา รกหู ดูแล้ว พวกเราส่วนใหญ่ไม่ชอบ และได้ตำหนิ ว่าน่าอาย ให้คนอื่นดูหมิ่นพระนามของพระเจ้า
เรามามองความจริง
1.เมื่อเขาได้รับ นิมิต (vision )ในการทำพันธกิจ ลักษณะนี้ ปีละครั้ง
2.คริสตชน โปรฯ ยังชัดเจนในพระมหาบัญชา เราเรียกว่า Great Commision ดังนั้นงานแพร่ธรรม จึงเป็นหน้าที่ของคริสตชน
-เพราะคนที่ไม่รู้จักพระเยซูเจ้า เขาจะรอดอย่างไรได้ เพราะเขาไม่เคยฟัง
-ถ้าเราไม่ยอมรับพระเยซูคริสต์ ต่อหน้าคนอื่นๆแล้วจะให้พระองค์ยอมรับเราอย่งไร
-เราไม่สนับสนุนให้คริสตชนพูดว่า "แพร่ธรรม ด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดี " เพราะการเป็นแบบอย่างที่ดีไม่ได้นำคนอื่นให้ถึงความรอด แต่การเป็นแบบอย่างที่ดี (คือการแสดงผลของพระจิตเจ้า)
และการประกาศเรื่อง ของพระเยซูคริสต์ นั่น ก็อีกเรื่องเดียวกัน พี่อยากถามว่าการบอกว่าเป็นแบบที่ดี แบบใหนถึงจะดี จนคนเห็นพระคริสต์ และในคำสอนของศาสนา
หรือความเชื่ออื่นก็สอนให้ ดำเนินชีวิต ที่ดี แต่เราคริสตชน "รอด ด้วย พระคุณ"
3.น้องๆ ที่นี่ หลายคนเป็นคริสตชนใหม่ คือรุ่นแรก ที่รับเชื่อ วางใจในพระเยซูคริสต์ พวกเราได้ต้อนรับพระเยซู เพราะการแพร่ธรรม มิใช่หรือ อย่างพี่พีพี ถ้าไม่มีใครแพร่ธรรม ก็ไม่ได้ยินเรื่อง
ของพระเยซู และไม่มีโอกาสกลับใจใหม่ต้อนรับพระองค์ แน่
4.อันที่จริง ไม่ทราบว่าพี่ น้องคาทอลิกเอง ทราบไหม ว่าทางพระศาสนจักรเอง ก็มีการรณรงค์ให้แพร่ธรรม ให้อ่านพระคัมภีร์ ในช่วง 10 ปีนี้ และปี 2007-2010 เป็นปีเน้นการอ่านพระวาจา
และหลายๆกลุ่ม ที่พี่พีพี เจอ เขาก็เน้น ให้ แพร่ธรรม
5.ช่วงนี้ เราคริสตจักร โปรเตสแตนต์ ฉวยโอกาส ในการประกาศ/แพร่ธรรม เกือบทุกคริสตจักร เพราะคริสต์มาสใครๆ ก็รู้จัก แต่ไม่ทราบว่ารู้จักแบบไหน เราจึงต้องการแนะนำคริสต์มาส
ตามที่พระเยซูเจ้าทรงเป็น และพระองค์ทรงเป็นของขวัญสำหรับโลก ฯลฯ
6.พบเจอคนเหล่านี้อย่ารำคาญ ควรภาวนาให้เขา เพราะพี่ถือว่าพวกเขา กล้าหาญ ในการแพร่ธรรม ถ้าเขาทำผิดกฏบ้านเมือง ไม่ต้องห่วง ทางราชการจัดการเขาแน่นอน
7.พวกเราคริสตชน อย่าไป อยู่กลุ่มเดียว กับพวกมาร คือขัดขวาง การแพร่ธรรมของเขา
8.อย่าได้เป็นผู้พิพากษา กัน ขอพระเยซูเจ้า เป็นผู้พิพากษา
9. จุดประสงค์ หลักการ ของเว็บบอร์ด นี้ เพื่อการแพร่ธรรม การอภิบาล การเสริมสร้าง การหนุนใจ ซึ่ง เรา ผู้ก่อตั้งได้รับนิมิต จากพระเจ้า ให้แพร่ธรรมลักษณะนี้
ซึ่ง คนที่ไม่ได้รับนิมิต ร่วมกับเรา จะมา ตำหนิ และอับอายเพราะเรา ก็ไม่สวมควร ค่ะ
10. ให้เราอ่าน พระคัมภีร์ใหม่ ทั้งเล่ม จะเป็น ข่าวดี โดยเฉพาะ 4 เล่มแรก เราคริสเตียน เรียก พระกิตติคุณ = ข่าวประเสริฐ = คือเรื่องราวของพระเยซู พระผู้ไถ่
อ่านจดหมาย นักบุญเปาโล ทั้งชีวิต ก็เพื่อการแพร่ธรรม
มัทธิว บทที่ 28
28:18 พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาใกล้ ตรัสแก่เขาทั้งหลายว่า "พระเจ้าทรงมอบอำนาจอาชญาสิทธิ์ทั้งหมดในสวรรค์และบนแผ่นดินให้แก่เรา
28:19 เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต
28:20 จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราได้ให้แก่ท่าน แล้วจงทราบเถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ"
มาระโก บทที่ 16
16:15 พระองค์ตรัสแก่เขาว่า "ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีแก่มนุษย์ทั้งปวง
16:16 ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ
16:17 ผู้ที่เชื่อจะทำอัศจรรย์เหล่านี้ได้ คือจะขับไล่ปิศาจในนามของเรา จะพูดภาษาใหม่ๆ ได้
16:18 จะจับงูได้ และถ้าดื่มยาพิษก็จะไม่ได้รับอันตราย เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่านั้นก็จะหายจากโรคภัย"
กิจการอัครทูต บทที่ 1
8 แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม
ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก
เขาจะใช้การเผยแผ่ ถือป้าย โฆษณา ด้วยลำโพง เดินไปตามชุมชน หรือ สี่แยกไฟแดง ฯลฯ เพื่อการแพร่ธรรม
ดูแล้ว รกตา รกหู ดูแล้ว พวกเราส่วนใหญ่ไม่ชอบ และได้ตำหนิ ว่าน่าอาย ให้คนอื่นดูหมิ่นพระนามของพระเจ้า
เรามามองความจริง
1.เมื่อเขาได้รับ นิมิต (vision )ในการทำพันธกิจ ลักษณะนี้ ปีละครั้ง
2.คริสตชน โปรฯ ยังชัดเจนในพระมหาบัญชา เราเรียกว่า Great Commision ดังนั้นงานแพร่ธรรม จึงเป็นหน้าที่ของคริสตชน
-เพราะคนที่ไม่รู้จักพระเยซูเจ้า เขาจะรอดอย่างไรได้ เพราะเขาไม่เคยฟัง
-ถ้าเราไม่ยอมรับพระเยซูคริสต์ ต่อหน้าคนอื่นๆแล้วจะให้พระองค์ยอมรับเราอย่งไร
-เราไม่สนับสนุนให้คริสตชนพูดว่า "แพร่ธรรม ด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดี " เพราะการเป็นแบบอย่างที่ดีไม่ได้นำคนอื่นให้ถึงความรอด แต่การเป็นแบบอย่างที่ดี (คือการแสดงผลของพระจิตเจ้า)
และการประกาศเรื่อง ของพระเยซูคริสต์ นั่น ก็อีกเรื่องเดียวกัน พี่อยากถามว่าการบอกว่าเป็นแบบที่ดี แบบใหนถึงจะดี จนคนเห็นพระคริสต์ และในคำสอนของศาสนา
หรือความเชื่ออื่นก็สอนให้ ดำเนินชีวิต ที่ดี แต่เราคริสตชน "รอด ด้วย พระคุณ"
3.น้องๆ ที่นี่ หลายคนเป็นคริสตชนใหม่ คือรุ่นแรก ที่รับเชื่อ วางใจในพระเยซูคริสต์ พวกเราได้ต้อนรับพระเยซู เพราะการแพร่ธรรม มิใช่หรือ อย่างพี่พีพี ถ้าไม่มีใครแพร่ธรรม ก็ไม่ได้ยินเรื่อง
ของพระเยซู และไม่มีโอกาสกลับใจใหม่ต้อนรับพระองค์ แน่
4.อันที่จริง ไม่ทราบว่าพี่ น้องคาทอลิกเอง ทราบไหม ว่าทางพระศาสนจักรเอง ก็มีการรณรงค์ให้แพร่ธรรม ให้อ่านพระคัมภีร์ ในช่วง 10 ปีนี้ และปี 2007-2010 เป็นปีเน้นการอ่านพระวาจา
และหลายๆกลุ่ม ที่พี่พีพี เจอ เขาก็เน้น ให้ แพร่ธรรม
5.ช่วงนี้ เราคริสตจักร โปรเตสแตนต์ ฉวยโอกาส ในการประกาศ/แพร่ธรรม เกือบทุกคริสตจักร เพราะคริสต์มาสใครๆ ก็รู้จัก แต่ไม่ทราบว่ารู้จักแบบไหน เราจึงต้องการแนะนำคริสต์มาส
ตามที่พระเยซูเจ้าทรงเป็น และพระองค์ทรงเป็นของขวัญสำหรับโลก ฯลฯ
6.พบเจอคนเหล่านี้อย่ารำคาญ ควรภาวนาให้เขา เพราะพี่ถือว่าพวกเขา กล้าหาญ ในการแพร่ธรรม ถ้าเขาทำผิดกฏบ้านเมือง ไม่ต้องห่วง ทางราชการจัดการเขาแน่นอน
7.พวกเราคริสตชน อย่าไป อยู่กลุ่มเดียว กับพวกมาร คือขัดขวาง การแพร่ธรรมของเขา
8.อย่าได้เป็นผู้พิพากษา กัน ขอพระเยซูเจ้า เป็นผู้พิพากษา
9. จุดประสงค์ หลักการ ของเว็บบอร์ด นี้ เพื่อการแพร่ธรรม การอภิบาล การเสริมสร้าง การหนุนใจ ซึ่ง เรา ผู้ก่อตั้งได้รับนิมิต จากพระเจ้า ให้แพร่ธรรมลักษณะนี้
ซึ่ง คนที่ไม่ได้รับนิมิต ร่วมกับเรา จะมา ตำหนิ และอับอายเพราะเรา ก็ไม่สวมควร ค่ะ
10. ให้เราอ่าน พระคัมภีร์ใหม่ ทั้งเล่ม จะเป็น ข่าวดี โดยเฉพาะ 4 เล่มแรก เราคริสเตียน เรียก พระกิตติคุณ = ข่าวประเสริฐ = คือเรื่องราวของพระเยซู พระผู้ไถ่
อ่านจดหมาย นักบุญเปาโล ทั้งชีวิต ก็เพื่อการแพร่ธรรม
มัทธิว บทที่ 28
28:18 พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาใกล้ ตรัสแก่เขาทั้งหลายว่า "พระเจ้าทรงมอบอำนาจอาชญาสิทธิ์ทั้งหมดในสวรรค์และบนแผ่นดินให้แก่เรา
28:19 เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนาม พระบิดา พระบุตร และพระจิต
28:20 จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราได้ให้แก่ท่าน แล้วจงทราบเถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ"
มาระโก บทที่ 16
16:15 พระองค์ตรัสแก่เขาว่า "ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีแก่มนุษย์ทั้งปวง
16:16 ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น ผู้ที่ไม่เชื่อจะถูกตัดสินลงโทษ
16:17 ผู้ที่เชื่อจะทำอัศจรรย์เหล่านี้ได้ คือจะขับไล่ปิศาจในนามของเรา จะพูดภาษาใหม่ๆ ได้
16:18 จะจับงูได้ และถ้าดื่มยาพิษก็จะไม่ได้รับอันตราย เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่านั้นก็จะหายจากโรคภัย"
กิจการอัครทูต บทที่ 1
8 แต่ท่านทั้งหลายจะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดช เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม
ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
ตอบตามตรงเลยนะคับ พี่ Prod Pran
ใจจริงก็อยากจะประกาศแบบนั้นบ้างเหมือนกัน
แต่สมัยนี้ทำแบบนั้น ก็คงจะไม่เหมาะอะคับ
แต่ถ้าถามว่า ติติงเขาไหม ผมไม่ติติงนะ...
แต่ถ้าจะถามว่า มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ไหม ผมบอกได้เลยว่า มี ...
ไม่ใช่เพียงแค่ีการทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี (ข้อนี้ทำได้ยาก)
ให้สังเกตจากการที่พระเจ้าได้เลือก เครื่องมืออันไร้ประสิทธิภาพ มาประกาศพระวาจาของพระองค์
แสดงว่า ผู้ที่ประกาศพระวาจา มักจะมีปัญหาในตัวเองเสมอ
บางคน ก็อารมณ์รุนแรง บ้างก็พูดจาไม่เข้าหู บ้างก็เคยผิดลูกผิดเมีย
บ้างก็เสพสิ่งเสพติด บ้างก็เคยฆ่าคนมา ... บ้างก็อยู่ในศีลในธรรม แต่ตกอยู่ในสภาพลำบาก
บ้างก็พิการ เป็นต้น
ดังนั้น การที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีเพื่อให้การประกาศพระวาจาออกไปนั้น ทำได้ยากมาก
แต่การที่จะออกไปป่าวประกาศ แบบนั้น ก็อาจจะไม่ดีนักนะคับ
บาปชนิดหนึ่งที่ทางคาทอลิกกลัวกันมากคือ "บาปสะดุด"
การที่ทำให้คนอื่นสะดุดและคิดในทางไม่ดี เป็นบาปอันร้ายกาจมากเหมือนกัน
ซึ่งการประกาศแบบนี้ ไม่เหมาะกับประเทศไทย (ในความคิดของผม และคาทอลิกบางท่าน)
แต่เหมาะกับบางประเทศ ผมจึงคิดว่า การประกาศพระวาจาที่เหมาะกับประเทศไทยต้องเป็นวิธีอื่น
ที่กลมกลืน แยบยล นะคับ
เพราะคนไทย เป็นประเทศที่มีพระพุทธศาสนา
พูดตามตรงก็คือ คนไทยส่วนใหญ่ เป็นคนมีจิตใจดี เมตตา กรุณา
ซึ่งก็คือ เป็นคนมีใจรัก ... หรือมีความรัก นั่นเอง...
ซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงสอน ...
สิ่งนี้ก็หมายความว่า คนไทยส่วนใหญ่ ได้ปฏิบัติตามสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงสอน
ในมุมหนึ่งไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีมาในจิตใจของเขาเอง...
สิ่งที่เขาขาดก็คือ การที่เขาไม่รู้ว่า คำว่า "ธรรมชาติสร้างมา กฎธรรมชาติ" หรือคำหลายๆ คำ
เช่น ดวงชะตา, เวรกรรม, ทุกข์ทรมาน, ความสุข ฯลฯ
เกิดจากสิ่งที่เรียกว่า การกระทำของมนุษย์ กับความสัมพันธ์กับพระเจ้า
ซึ่ง ในคริสต์เราไม่มี ธรรมชาติสร้างมา แต่มี พระเจ้าสร้างมา และกฎที่พระเจ้าทรงบัญญัติไว้
ดวงชะตาไม่มี มีแต่ เจตน์จำนงเสรี และการเฆี่ียนสอนจากพระเจ้า
เวรกรรม ไม่มี แต่เป็นผลโดยตรงที่มนุษย์กระทำในขณะนั้น
ทุกข์ทรมาน ไม่ได้แปลว่า มาจากเวรกรรมชาติปางก่อน แต่หลายครั้งมาจากการเฆี่ยนสอนจากพระเจ้า
จากอะไรหลายๆ อย่าง ระหว่างมนุษย์และพระัเจ้า
ความสุขเกิดจากพระพร พระหรรษทาน จากพระเจ้า ที่บันดาลให้ ให้แล้วไม่ทวงคืน
แต่มนุษย์จะรักษาไว้อย่างไร เท่านั้น?
อ้างจากบทเทศน์ของ คพ. ยุทธนา ... พ่อได้เทศน์ว่า
คนไทย ด้านการปฏิบัติดีอยู่แล้ว แต่ส่วนหัว หรือส่วนความคิด ยังไม่ถูกต้องนัก
ดังนั้น การที่จะให้เขารู้จักพระเจ้าที่ถูกต้อง ควรจะต้องเปลี่ยน ในส่วนด้านความคิด
ปรับแต่งความคิดให้เรียกหา พระเจ้า และไว้ใจในพระองค์
ตัวอย่างในการประกาศ
"
คุณช่วยเหลือ คนชราคนนี้ข้ามถนน ดีจัง
ผมยินดีด้วย คุณเป็นคนมีจิตใจเมตตากรุณา
คุณรู้หรือไม่ พระเจ้าของเราก็มีจิตใจเช่นนี้แหละ นี่แหละเรียกว่า ความรัก
และพระองค์ก็พอใจในกิจการดีของคุณที่ช่วยเหลือ คนชรา ผู้นี้
ถึงแม้ว่า คุณไม่ได้เชื่อพระเจ้ามาก่อน
แต่พระเจ้ารักคุณมานานแล้ว รักมาก่อนที่ตัวคุณเองเกิดเสียอีก
พระองค์เฝ้ามองคุณอยู่ และสนับสนุนให้คุณทำดีเสมอมา
จากการรับรู้ของผม ผมรับรู้ได้ว่า พระเจ้าทรงยินดียิ่งกับคุณ
คุณอาจแปลกใจ สงสัย หรือรำคาญบ้าง กับสิ่งที่ผมบอกคุณ
แต่ไม่เป็นไรนิ ... อยากให้คุณรู้ว่า คุณมีพระเจ้า ที่รักคุณมากอยู่ด้วย
คุณกำลังช่วยเหลือพระองค์อยู่ เพราะการที่คุณได้ช่วยเหลือ
คนชรา ผู้นี้ คุณก็ช่วยเหลือพระองค์อยู่
ขอพระเจ้าอวยพร นะคับ
"
แต่ก็อีกแหละคับ พี่ Prod Pran พระองค์ก็อาจมีผู้ประกาศในลักษณะที่พี่ว่า
เหมือนกัน ... มีไว้ให้เป็นพยานไงละ
ถ้าไม่มีใครเริ่มทำแบบนั้น ... พวกเราก็คงไม่ถูกกระตุ้นให้ประกาศพระวาจา
เพราะเขาทำให้พวกเราอาย อายเพราะความไม่กล้า
แต่ตอนนี้ก็บอกตามตรงเลยว่า พระเจ้ากำลังให้ทั้งคาทอลิก โปรฯ ออธอด็อกส์
หรือแม้แต่ ศาสนาอื่น ประกาศพระวาจา ในรูปแบบที่เขาเป็น อยู่
ผมรับรู้ในเรื่องแบบนี้ได้ ... เชื่อพระเจ้าเถิด
พระองค์กำลังทำงานแบบนี้จริงๆ
บันดาลใจ
ใจจริงก็อยากจะประกาศแบบนั้นบ้างเหมือนกัน
แต่สมัยนี้ทำแบบนั้น ก็คงจะไม่เหมาะอะคับ
แต่ถ้าถามว่า ติติงเขาไหม ผมไม่ติติงนะ...
แต่ถ้าจะถามว่า มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ไหม ผมบอกได้เลยว่า มี ...
ไม่ใช่เพียงแค่ีการทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี (ข้อนี้ทำได้ยาก)
ให้สังเกตจากการที่พระเจ้าได้เลือก เครื่องมืออันไร้ประสิทธิภาพ มาประกาศพระวาจาของพระองค์
แสดงว่า ผู้ที่ประกาศพระวาจา มักจะมีปัญหาในตัวเองเสมอ
บางคน ก็อารมณ์รุนแรง บ้างก็พูดจาไม่เข้าหู บ้างก็เคยผิดลูกผิดเมีย
บ้างก็เสพสิ่งเสพติด บ้างก็เคยฆ่าคนมา ... บ้างก็อยู่ในศีลในธรรม แต่ตกอยู่ในสภาพลำบาก
บ้างก็พิการ เป็นต้น
ดังนั้น การที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีเพื่อให้การประกาศพระวาจาออกไปนั้น ทำได้ยากมาก
แต่การที่จะออกไปป่าวประกาศ แบบนั้น ก็อาจจะไม่ดีนักนะคับ
บาปชนิดหนึ่งที่ทางคาทอลิกกลัวกันมากคือ "บาปสะดุด"
การที่ทำให้คนอื่นสะดุดและคิดในทางไม่ดี เป็นบาปอันร้ายกาจมากเหมือนกัน
ซึ่งการประกาศแบบนี้ ไม่เหมาะกับประเทศไทย (ในความคิดของผม และคาทอลิกบางท่าน)
แต่เหมาะกับบางประเทศ ผมจึงคิดว่า การประกาศพระวาจาที่เหมาะกับประเทศไทยต้องเป็นวิธีอื่น
ที่กลมกลืน แยบยล นะคับ
เพราะคนไทย เป็นประเทศที่มีพระพุทธศาสนา
พูดตามตรงก็คือ คนไทยส่วนใหญ่ เป็นคนมีจิตใจดี เมตตา กรุณา
ซึ่งก็คือ เป็นคนมีใจรัก ... หรือมีความรัก นั่นเอง...
ซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงสอน ...
สิ่งนี้ก็หมายความว่า คนไทยส่วนใหญ่ ได้ปฏิบัติตามสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงสอน
ในมุมหนึ่งไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีมาในจิตใจของเขาเอง...
สิ่งที่เขาขาดก็คือ การที่เขาไม่รู้ว่า คำว่า "ธรรมชาติสร้างมา กฎธรรมชาติ" หรือคำหลายๆ คำ
เช่น ดวงชะตา, เวรกรรม, ทุกข์ทรมาน, ความสุข ฯลฯ
เกิดจากสิ่งที่เรียกว่า การกระทำของมนุษย์ กับความสัมพันธ์กับพระเจ้า
ซึ่ง ในคริสต์เราไม่มี ธรรมชาติสร้างมา แต่มี พระเจ้าสร้างมา และกฎที่พระเจ้าทรงบัญญัติไว้
ดวงชะตาไม่มี มีแต่ เจตน์จำนงเสรี และการเฆี่ียนสอนจากพระเจ้า
เวรกรรม ไม่มี แต่เป็นผลโดยตรงที่มนุษย์กระทำในขณะนั้น
ทุกข์ทรมาน ไม่ได้แปลว่า มาจากเวรกรรมชาติปางก่อน แต่หลายครั้งมาจากการเฆี่ยนสอนจากพระเจ้า
จากอะไรหลายๆ อย่าง ระหว่างมนุษย์และพระัเจ้า
ความสุขเกิดจากพระพร พระหรรษทาน จากพระเจ้า ที่บันดาลให้ ให้แล้วไม่ทวงคืน
แต่มนุษย์จะรักษาไว้อย่างไร เท่านั้น?
อ้างจากบทเทศน์ของ คพ. ยุทธนา ... พ่อได้เทศน์ว่า
คนไทย ด้านการปฏิบัติดีอยู่แล้ว แต่ส่วนหัว หรือส่วนความคิด ยังไม่ถูกต้องนัก
ดังนั้น การที่จะให้เขารู้จักพระเจ้าที่ถูกต้อง ควรจะต้องเปลี่ยน ในส่วนด้านความคิด
ปรับแต่งความคิดให้เรียกหา พระเจ้า และไว้ใจในพระองค์
ตัวอย่างในการประกาศ
"
คุณช่วยเหลือ คนชราคนนี้ข้ามถนน ดีจัง
ผมยินดีด้วย คุณเป็นคนมีจิตใจเมตตากรุณา
คุณรู้หรือไม่ พระเจ้าของเราก็มีจิตใจเช่นนี้แหละ นี่แหละเรียกว่า ความรัก
และพระองค์ก็พอใจในกิจการดีของคุณที่ช่วยเหลือ คนชรา ผู้นี้
ถึงแม้ว่า คุณไม่ได้เชื่อพระเจ้ามาก่อน
แต่พระเจ้ารักคุณมานานแล้ว รักมาก่อนที่ตัวคุณเองเกิดเสียอีก
พระองค์เฝ้ามองคุณอยู่ และสนับสนุนให้คุณทำดีเสมอมา
จากการรับรู้ของผม ผมรับรู้ได้ว่า พระเจ้าทรงยินดียิ่งกับคุณ
คุณอาจแปลกใจ สงสัย หรือรำคาญบ้าง กับสิ่งที่ผมบอกคุณ
แต่ไม่เป็นไรนิ ... อยากให้คุณรู้ว่า คุณมีพระเจ้า ที่รักคุณมากอยู่ด้วย
คุณกำลังช่วยเหลือพระองค์อยู่ เพราะการที่คุณได้ช่วยเหลือ
คนชรา ผู้นี้ คุณก็ช่วยเหลือพระองค์อยู่
ขอพระเจ้าอวยพร นะคับ
"
แต่ก็อีกแหละคับ พี่ Prod Pran พระองค์ก็อาจมีผู้ประกาศในลักษณะที่พี่ว่า
เหมือนกัน ... มีไว้ให้เป็นพยานไงละ
ถ้าไม่มีใครเริ่มทำแบบนั้น ... พวกเราก็คงไม่ถูกกระตุ้นให้ประกาศพระวาจา
เพราะเขาทำให้พวกเราอาย อายเพราะความไม่กล้า
แต่ตอนนี้ก็บอกตามตรงเลยว่า พระเจ้ากำลังให้ทั้งคาทอลิก โปรฯ ออธอด็อกส์
หรือแม้แต่ ศาสนาอื่น ประกาศพระวาจา ในรูปแบบที่เขาเป็น อยู่
ผมรับรู้ในเรื่องแบบนี้ได้ ... เชื่อพระเจ้าเถิด
พระองค์กำลังทำงานแบบนี้จริงๆ
บันดาลใจ
แก้ไขล่าสุดโดย bomzaiya เมื่อ อังคาร ธ.ค. 18, 2007 10:46 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ผมคิดว่า นั่นเป็นวิธีการแสดงความเชื่อ และการเผยแพร่อย่างหนึ่ง
และอดทึ่งไม่ได้เวลาไปต่างจังหวัด แล้วเจอป้ายติดอยู่บนต้นตาล ซึ่งสูงมาก
ทึ่งจริงๆ
และอดทึ่งไม่ได้เวลาไปต่างจังหวัด แล้วเจอป้ายติดอยู่บนต้นตาล ซึ่งสูงมาก
ทึ่งจริงๆ
เข้ามาเห็นด้วยกับคุณ bomzaiya ครับ
ผมว่าการประกาศพระกิตติคุณจะต้องเข้าใจบริบทวัฒนธรรมด้วย ไม่เพียงแต่นั้นใจจริงเท่านั้น
เราไม่สงสัยในความตั้งใจ และยังภาวนาอธิษฐานเผื่อเขา และอยากที่จะประกาศอย่างจริงจัง
แต่ "ด้วยวิธีการ" จะทำให้เขาเปิดใจหรือปิดใจตลอดไปอีกนานก็ได้นะครับ
ผมว่าต้องกลับไปที่คริสเตียนสหกิจกลุ่มนั้น แล้ว feedback ให้เขาครับ จะทำ poll ก็ได้เพื่อให้เกิดความหนักแน่นในความเห็น เพื่อเขาจะประกาศอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลครับ
สำหรับผม ผมใช้วิธีตรงๆ จากพระคัมภีร์ครับ คือการประกาศเล่าเรื่องพระกิตติคุณไปเลย และเป็นแบบอย่างชีวิตที่ดีในการเดินติดตามพระเจ้าครับ
ผมว่าการประกาศพระกิตติคุณจะต้องเข้าใจบริบทวัฒนธรรมด้วย ไม่เพียงแต่นั้นใจจริงเท่านั้น
เราไม่สงสัยในความตั้งใจ และยังภาวนาอธิษฐานเผื่อเขา และอยากที่จะประกาศอย่างจริงจัง
แต่ "ด้วยวิธีการ" จะทำให้เขาเปิดใจหรือปิดใจตลอดไปอีกนานก็ได้นะครับ
ผมว่าต้องกลับไปที่คริสเตียนสหกิจกลุ่มนั้น แล้ว feedback ให้เขาครับ จะทำ poll ก็ได้เพื่อให้เกิดความหนักแน่นในความเห็น เพื่อเขาจะประกาศอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลครับ
สำหรับผม ผมใช้วิธีตรงๆ จากพระคัมภีร์ครับ คือการประกาศเล่าเรื่องพระกิตติคุณไปเลย และเป็นแบบอย่างชีวิตที่ดีในการเดินติดตามพระเจ้าครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
สิ่งที่ควบคู่ไปกับการประกาศข่าวดี
คพ.ประเสริฐ โลหะวิระยะศิริ C.Ss.R.
ข่าวดีที่พระเยซูเจ้าทรงหมายถึง คือ ข่าวที่บอกว่าพระเป็นเจ้า พระบิดาทรงรักมนุษย์ พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาตามพระฉายาของพระองค์ (ปฐก 1:27) พระองค์ทรงรักและทรงห่วงใยเสมอ แม้ว่ามนุษย์จะทำบาป ผิดต่อพระองค์ พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งมนุษย์ พระองค์ยังทรงส่งพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์มากอบกู้มนุษย์ และนำมนุษย์กลับไปหาพระองค์และสิ่งที่ควบคู่ไปกับการประกาศข่าวดี คือ การขับไล่จิตชั่ว และการรักษา (มธ 10:1, ลก 9:1)
ถ้าใครสักคนหนึ่งบอกว่ารักเรา แต่ไม่เคยแสดงออกอะไรเลยว่ารักเรา เราคงจะไม่เชื่อคำพูดของเขา ซึ่งเป็นสิ่งธรรมดาสำหรับมนุษย์ที่ต้องการสิ่งที่พิสูจน์ว่าเขารักเราจริง คงจะเป็นเหตุผลนี้ที่พระเยซูเจ้าทรงมอบอำนาจการไล่ผีและการรักษาให้กับศิษย์ของพระองค์ เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์และเป็นประจักษ์พยานว่าพระบิดาทรงรักมนุษย์จริง ๆ ให้อภัยมนุษย์เสมอ และเป็นการประกาศว่าพระอาณาจักรมาถึงแล้ว
การไล่ผี เป็นการแสดงว่าพระเป็นเจ้า ทรงมีอำนาจเหนือปีศาจและจิตชั่วต่าง ๆ และเป็นเครื่องหมายแสดงว่า พระอาณาจักรของพระเป็นเจ้ามาถึงแล้ว (มก 3:22
คพ.ประเสริฐ โลหะวิระยะศิริ C.Ss.R.
ข่าวดีที่พระเยซูเจ้าทรงหมายถึง คือ ข่าวที่บอกว่าพระเป็นเจ้า พระบิดาทรงรักมนุษย์ พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาตามพระฉายาของพระองค์ (ปฐก 1:27) พระองค์ทรงรักและทรงห่วงใยเสมอ แม้ว่ามนุษย์จะทำบาป ผิดต่อพระองค์ พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งมนุษย์ พระองค์ยังทรงส่งพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์มากอบกู้มนุษย์ และนำมนุษย์กลับไปหาพระองค์และสิ่งที่ควบคู่ไปกับการประกาศข่าวดี คือ การขับไล่จิตชั่ว และการรักษา (มธ 10:1, ลก 9:1)
ถ้าใครสักคนหนึ่งบอกว่ารักเรา แต่ไม่เคยแสดงออกอะไรเลยว่ารักเรา เราคงจะไม่เชื่อคำพูดของเขา ซึ่งเป็นสิ่งธรรมดาสำหรับมนุษย์ที่ต้องการสิ่งที่พิสูจน์ว่าเขารักเราจริง คงจะเป็นเหตุผลนี้ที่พระเยซูเจ้าทรงมอบอำนาจการไล่ผีและการรักษาให้กับศิษย์ของพระองค์ เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์และเป็นประจักษ์พยานว่าพระบิดาทรงรักมนุษย์จริง ๆ ให้อภัยมนุษย์เสมอ และเป็นการประกาศว่าพระอาณาจักรมาถึงแล้ว
การไล่ผี เป็นการแสดงว่าพระเป็นเจ้า ทรงมีอำนาจเหนือปีศาจและจิตชั่วต่าง ๆ และเป็นเครื่องหมายแสดงว่า พระอาณาจักรของพระเป็นเจ้ามาถึงแล้ว (มก 3:22
Jesus Christ isn't CocaCola Or Pepsi that must be adverist.but Jesus christ is best.
แล้วพวกเขาจะรู้ข่าวดีได้อย่างไร
-ด้วยชีวิต พระเยซุเจ้าไม่ได้อยู่ที่ไม้กางเขนห้อยคอแต่ต้องอยู่ในใจคริสตชน
งั้นพวกเขาก็รู้แค่เราเป็นคนคริสต์ที่ดีเท่านั้นเองหละสิ เขาไม่รู้เบื้องหลังเรา
-มุมมองผม เทียบในพระธรรมยอห์น คนตาบอดแต่กำเนิดแม้มองไม่เห็นพระเยซูเจ้า ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น แต่เมื่อพระเยซูเจ้าทรงรักษาเขาให้หาย เขาเชื่อแน่ชัดว่าทรงเป็นประกาศกเป็นบุตรของพระเจ้าทั้งที่เขาไม่เห็นด้วยซ้ำไป แต่ทำไมธรรมาจารย์ที่ทั้งเห็นพระเยซูรู้จักพระเยซู ทำไมเขาไม่เชื่อหละ
แล้วคนอื่นจะรอดได้ไงหละ
-เราเองควรถามตัวเองว่าพระเยซูเจ้าอยู่ในใจเราจริงๆ หรือแค่เราเห็นด้วยในคำสอนศาสนาคริสต์
แล้วพวกเขาจะรู้ข่าวดีได้อย่างไร
-ด้วยชีวิต พระเยซุเจ้าไม่ได้อยู่ที่ไม้กางเขนห้อยคอแต่ต้องอยู่ในใจคริสตชน
งั้นพวกเขาก็รู้แค่เราเป็นคนคริสต์ที่ดีเท่านั้นเองหละสิ เขาไม่รู้เบื้องหลังเรา
-มุมมองผม เทียบในพระธรรมยอห์น คนตาบอดแต่กำเนิดแม้มองไม่เห็นพระเยซูเจ้า ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น แต่เมื่อพระเยซูเจ้าทรงรักษาเขาให้หาย เขาเชื่อแน่ชัดว่าทรงเป็นประกาศกเป็นบุตรของพระเจ้าทั้งที่เขาไม่เห็นด้วยซ้ำไป แต่ทำไมธรรมาจารย์ที่ทั้งเห็นพระเยซูรู้จักพระเยซู ทำไมเขาไม่เชื่อหละ
แล้วคนอื่นจะรอดได้ไงหละ
-เราเองควรถามตัวเองว่าพระเยซูเจ้าอยู่ในใจเราจริงๆ หรือแค่เราเห็นด้วยในคำสอนศาสนาคริสต์
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เปลี่ยนชื่อ อีกแล้ว



-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Jeab Agape เขียน:
เปลี่ยนชื่อ อีกแล้ว![]()
![]()


-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
:+: seraphim :+: เขียน:Jeab Agape เขียน:
เปลี่ยนชื่อ อีกแล้ว![]()
![]()
ทำไมต้องทำตกใจขนาดนั้น ทำเรื่องปกติให้เป็นเรื่องแปลกไปได้
![]()

-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Jeab Agape เขียน::+: seraphim :+: เขียน:Jeab Agape เขียน:
เปลี่ยนชื่อ อีกแล้ว![]()
![]()
ทำไมต้องทำตกใจขนาดนั้น ทำเรื่องปกติให้เป็นเรื่องแปลกไปได้
![]()
ตกใจสิ มันจะเปลี่ยนอะไรกันหนักหนา อีกหน่อย อาจจะเปลี่ยนเป็น "คริสต์ต้านป้ายเหลือง"

-
- โพสต์: 626
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
- ที่อยู่: bkk
ปล่อยเขาเหอะ ช่วงนี้เปมิกาฟีเวอร์ เค้ากาลังอินเทรนด์อยู่ ด้วยการเปลี่ยนชื่อแบบเปมิกา 

กำลังจะบอกเลยค่ะJeab Agape เขียน:
เปลี่ยนชื่อ อีกแล้ว![]()
![]()
เปลี่ยนอีกเเล้วหรือนี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ยังจำได้เลย ตอนใช้ชื่อ R O M E ยังบอกว่า ชื่อนี้เจ๋งสุด ไม่เปลี่ยนเเละ
เเต่ก็เปลี่ยนมาอีก ทั้ง สายลม winstruck จนมาถึง กำเนิดพระเยซู
ข้าพเจ้าขอทำนายว่า พอถึงช่วงปัสกา ก็ต้องเปลี่ยนอีกเเน่ๆ

-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เปลี่ยนบ่อย ๆ จะกลายเป็นว่าไม่มีใครจำได้นะครับNativity เขียน: ตามซีซัน คับจะได้ไม่เบื่อกันคับ![]()
ผมคนนึงที่จำไม่ได้เลย เหมือนทำผิดแล้วหนีคดี

- ~KaThaRoS~
- โพสต์: 792
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
- ที่อยู่: Bkk
- ติดต่อ:
ก็งี้แหละ คนมันใจโลเลNativity เขียน: ตามซีซัน คับจะได้ไม่เบื่อกันคับ![]()




ท่านหญิงในบอร์ดทั้งหลาย ควรระวังตัว...~KaThaRoS~ เขียน:ก็งี้แหละ คนมันใจโลเลNativity เขียน: ตามซีซัน คับจะได้ไม่เบื่อกันคับ![]()
![]()
เห็นอะไรก็โลเล เปลี่ยนแปลงง่ายย
![]()
![]()

คนมันใจโลเล เห็นด้วยอย่างแรง 55+
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
แหมๆๆ ทำเป็น ซีซัน เช้นจ์ เดือนมกรา ก็เป็น New Year ดิ :sad:Nativity เขียน: ตามซีซัน คับจะได้ไม่เบื่อกันคับ![]()