แบ่งปันความหวัง...

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ม.ค. 08, 2008 7:50 am

ไม่มีอะไรมากครับ...
แต่ได้รับ FW MAIL ดีๆ ฉบับหนึ่ง ซึ่งหลายๆ ท่านคงเคยอ่านมาแล้ว เพราะเอชเองก็เคยอ่านมาแล้วหลายรอบมากๆ
แต่รู้สึกว่าอ่านกี่รอบก็รู้สึกดี ^^'
เลยเอามาแบ่งปันกัน ต่อไปถ้าเจออะไรทำนองนี้อีก จะเอามาลงอีกนะครับ มันให้ข้อคิดนิดหน่อยด้วย
คำเตือน .....กระทู้นี้เหมาะสำหรับเยาวชน ((โฮ๊ะๆๆๆ))
ปล. เอชไม่ใช่ผู้ชายอ่อนไหวมากกกกกก นะครับ ((ป้องกันตัวเอง)) เพียงแต่อ่านแล้วมัน give me something...จริงๆ นะ

1. การรักและไม่ได้รับรักตอบ เป็นทุกข์ แต่สิ่งที่ทุกข์ยิ่งกว่า คือการรักใครสักคน แต่ไม่มีความกล้าพอที่จะบอกให้คนคนนั้นรู้ และต้องมาเสียใจภายหลัง

2. พระเจ้าอาจจะต้องการให้เราพบคนที่ไม่ใช่..ก่อนที่จะมาพบคนที่ใช่ เพื่อเวลาเราพบคนคนนั้นแล้ว เราจะได้รู้สึกซาบซึ้งถึงพรที่ท่านประทานมา

3. ความรักคือความรู้สึกที่คุณยังห่วงใยใครสักคนอยู่ แม้จะแยกความรู้สึก ความลุ่มหลง และความสัมพันธ์แบบรักใคร่ออกไปแล้ว

4. สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต คือการพบคนที่มีความหมายอย่างมากสำหรับเรา แต่มาค้นพบภายหลังว่าเราไม่ได้ถูกกำหนดมาเพื่อสิ่งนั้น และจะต้องปล่อยให้ผ่านพ้นไป

5. เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลงประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดขึ้นแต่เราก็มัวแต่มองประตูที่ปิดลงไปแล้วเนิ่นนานจนกระทั่งเรามองไม่เห็นประตูที่เปิดไว้รอ

6. เพื่อนที่ดีที่สุดคือคนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไรกันสักคำ แต่สามารถเดินจากไปด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด

7. เป็นความจริงที่เราไม่สามารถรู้เลยว่าเรามีอะไรอยู่จนกว่าเราจะสูญเสียมันไป แต่ก็จริงอีกเช่นกันที่เราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปบ้างจนกระทั่งสิ่งนั้นเข้ามาหาเรา

8. การมอบความรักทั้งหมดให้ใครสักคนไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะรักเราตอบ อย่าหวังที่จะได้รักตอบ แต่จงรอให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ให้พอใจว่าอย่างน้อยมันก็ได้งอกงามขึ้นในใจของเราเอง

11. ความรักมักมาเยือนผู้ที่ยังคงหวัง ถึงแม้ว่าจะผิดหวัง และมาเยือนผู้ที่ยังคงเชื่อ ถึงแม้ว่าจะถูกทรยศหักหลัง และจะมาเยือนผู้ที่ยังคงรัก ถึงแม้จะเคยเจ็บปวดมาก่อน

12. การที่เราจะประทับใจใครนั้นใช้เวลาแค่เพียงนาที การที่เราจะชอบใครใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมง การที่เราจะรักใครใช้เวลาเพียงชั่ววัน แต่การที่จะลืมใครนั้นต้องใช้เวลาชั่วชีวิต

13. อย่ามองใครจากหน้าตา เพราะมันอาจหลอกเราได้ อย่ามองใครจากความร่ำรวย เพราะมันไม่จีรังยั่งยืน ให้มองหาคนที่ทำให้คุณยิ้มได้ เพราะเพียงยิ้มเดียว สามารถทำให้วันที่หม่นหมองกลับสดใส ขอให้คุณพบคนที่ทำให้คุณยิ้มได้

14. มีช่วงเวลาในชีวิตที่คุณคิดถึงใครสักคนจนกระทั่งอยากดึงเขา มาจากความฝันเพื่อกอดเอาไว้ขอให้คุณได้ฝันถึงคนพิเศษนั้น

15. ฝันถึงสิ่งที่คุณต้องการฝัน ไปในที่ที่คุณต้องการไป เป็นในสิ่งที่คุณต้องการเป็น เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว และมีโอกาสเดียวที่จะทำทุกสิ่งที่คุณต้องการ

16. ขอให้คุณมีความสุขมากพอที่จะทำให้คุณเป็นคนอ่อนหวาน ผ่านการทดสอบมามากพอที่จะทำให้คุณเข้มแข็ง มีความเศร้าโศกพอที่จะทำให้คุณยังคงความเป็นมนุษย์ และมีความหวังมากพอที่จะทำให้คุณเป็นสุข


9. มีสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยิน แต่คุณจะไม่ได้ยินมันจากปากของคนที่คุณอยากได้ยิน แต่อย่าทำตัวเป็นคนหูหนวกโดยไม่รับฟังสิ่งนั้นจากคนที่เขาบอกกับคุณจากหัวใจ

10. อย่าบอกลาถ้าคุณยังต้องการจะพยายามต่อไป อย่าท้อใจถ้าคุณยังรู้สึกว่าคุณไปไหว อย่าพูดว่าคุณไม่รักคนคนนั้นอีกแล้ว ถ้าคุณไม่สามารถทำใจ

17. เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าคุณรู้สึกว่าสิ่งนั้นจะทำให้คุณเจ็บปวด รู้ไว้เถอะว่าคนอื่นก็เจ็บปวดจากสิ่งเดียวกันเช่นกัน

18. คำพูดที่ไม่ได้ยั้งคิดอาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง คำพูดที่โหดร้ายอาจทำลายชีวิต คำพูดที่เหมาะกาละเทศะอาจลดความเครียด คำว่ารักอาจเยียวยาและทำให้มีสุข

19. จุดเริ่มของความรักคือการปล่อยให้คนที่เรารักเป็นตัวของตัวเอง อย่าดึงเขาจากภาพความเป็นเขา มิฉะนั้นจะหมายความว่ามันเป็นเพียงภาพสะท้อนของตัวเราที่ปรากฎในพวกเขา

20. คนที่มีความสุขที่สุดไม่ได้หมายความว่าเขามีสิ่งที่ดีที่สุด เพียงแต่เขาสามารถทำสิ่งที่เขามีให้ดีที่สุดได้ต่างหาก

21. ความสุขรออยู่เบื้องหน้าผู้ที่มีน้ำตา ผู้ที่เจ็บปวด ผู้ที่ค้นหา และผู้ที่พยายามแล้ว เพราะมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้จักคุณค่าของผู้คนที่ได้สัมผัสชีวิต

22. ความรักเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม งอกงามด้วยรอยจูบ และจบลงด้วยคราบน้ำตา

23. อนาคตที่สดใสมีรากฐานอยู่บนอดีตที่แสนเจ็บปวด คุณไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ดี ถ้าหากไม่รู้จักปล่อยวางความผิดพลาดในอดีต และความปวดใจ

24. คุณร้องไห้ตอนคุณเกิดในขณะที่คนรอบข้างกำลังยิ้ม จงมีชีวิตอยู่เพื่อเมื่อตอนคุณตาย คุณจะเป็นคนที่ยิ้ม ในขณะที่คนรอบข้างร้องไห้ให้คุณ

25. ความรักก็เหมือนกับการเสี่ยง คุณอาจจะต้องพบกับความล้มเหลว แต่ถ้าคุณไม่เสี่ยง คุณก็อาจจะต้องพบกับความล้มเหลวตลอดไป

26. ความรัก มักเหมือนแก้วบาง ถ้าหากคุณมือหนัก แก้วที่คุณถือ ก็อาจจะต้องแตกร้าวทุกครั้งที่คุณใช้มัน

27. ความรัก ง่ายที่เราจะหามัน แต่ยากที่จะรักษาเอาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป

รูปภาพ
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ม.ค. 08, 2008 8:07 am

การไม่ได้เป็นที่ "หนึ่ง" ในใจคนที่เรารักนั้น

ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสมอไป

การเป็นที่สอง ในใจเขานั้น ย่อมดีกว่าการเป็นที่สาม ที่สี่

หรือถึงแม้ว่า . . . เราจะเป็นที่สุดท้าย

แต่มันก็ยังดีกว่า การที่เราไม่ได้อยู่ในใจเขาคนนั้นเลยไม่ใช่หรือ






จงยิ้มให้ความรัก และ รักต่อไปเถอะ

แม้ว่า . . . รักนั้นอาจไม่ใช่ที่หนึ่ง

จนกว่าที่เรา จะบอกกับตัวเองว่า . . .

"เราทนอีกต่อไป ไม่ได้แล้ว

เราเหนื่อยกับรัก ที่เป็นเช่นนี้เหลือเกิน"





การรักใครสักคนนั้น . . .

ง่ายกว่าการตัดใจ จากใครสักคนนัก

การสบตา จากใครสักคนนั้น . . .

ย่อมมีความสุข กว่าการหลบตาใครสักคน เป็นแน่แท้

จะมีสักกี่คน ที่สามารถทำให้เรายิ้มได้ . . .

. . . อย่างสุดหัวใจ และเศร้าได้อย่างสุดหัวใจ





อย่า . . . โทษเขา ที่ไม่ได้รักเรา

อย่า . . . โทษพรหมลิขิตที่ทำให้เราเจอกัน แต่ไม่ได้ทำให้เรารักกัน

อย่า . . . โทษหัวใจตัวเองที่ไปรักเขา

อย่า . . . โทษกาลเวลาที่ทำให้เราเจอกันช้าไป

จงมีความสุข และยิ้มให้กับสิ่งต่าง ๆ เถอะ





ยิ้มให้กับคนที่เขาไม่รักเรา . . .

เพราะอย่างน้อยเขาก็คือ คนที่ได้รับความรักจากเรา





ยิ้มให้กับพรหมลิขิต ที่ทำให้เราเจอกัน ถึงแม้เราจะไม่ได้รักกัน . . .

เพราะอย่างน้อยพรมลิขิต ก็ยังได้ทำให้เราได้รู้จักกัน






ยิ้มให้กับหัวใจตัวเอง ที่ไปรักเขา. . .

เพราะอย่างน้อยหัวใจของเรา ก็ยังได้เรียนรู้กับความรัก






ยิ้มให้กับกาลเวลา ที่ทำให้เราเจอกันช้าไป . . .

เพราะอย่างน้อย ก็ยังทำให้เราได้เจอกัน
 





เราควรดีใจไม่ใช่หรือ ที่อย่างน้อยเรายังยิ้มให้กับคนที่เรารักได้

รูปภาพ
((น้ำเน่านิดๆ หวานได้อีก ฮ่าๆ))
แก้ไขล่าสุดโดย Alphonse เมื่อ อังคาร ม.ค. 08, 2008 8:11 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ม.ค. 08, 2008 8:25 am

การุณ ชายหนุ่มเป็นนักการตลาดของสินค้าอุปโภคบริโภคยี่ห้อหนึ่งของเมืองไทย เขาก็เหมือนกับหนุ่มสาวรุ่นใหม่ซึ่งเลือกที่จะใช้ชีวิตในเมืองโดยเลือกพักที่คอนโดมิเนียมกลางเมืองเพื่อลดเวลาเดินทางจากจากที่พักไปยังที่ทำงาน

พื้นเพเดิมของเขาเป็นคนต่างจังหวัดพ่อและแม่ของเขามีกิจการฟาร์มโคนมขนาดย่อมๆซึ่งเพียงพอที่จะส่งเขาเรียนจนจบปริญญาโททางด้านการตลาดจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศได้

เมื่อวานมารดาของเขาโทรศัพท์มาว่าจะมาเยี่ยมเขาที่กรุงเทพและจะถือโอกาสมาดูความเป็นอยู่ของเขาที่คอนโดด้วยซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่เขาอยากให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดเพราะสภาพห้องพักของเขา ก็ไม่ต่างจากชีวิตหนุ่มโสดทั่วไปคือหาความเป็นระเบียบไม่ได้ และบังเอิญสองสามวันนี้เขาเองต้องไปออกงานแสดงสินค้าที่ต่างจังหวัดทำให้ไม่มีเวลาที่จะปลูกผักชีห้องพักให้ดูดีได้ เขาได้แจ้งและฝากกุญแจไว้กับแม่บ้านของคอนโดให้ช่วยดูแลมารดาเขาขณะที่มาทำการสำรวจชีวิตความเป็นอยู่ของเขา...

การุณจอดรถในที่จอดรถของคอนโดก่อนเดินเข้าไปเพื่อขอกุญแจคืนจากแม่บ้าน

"ป้าแป๋ว วันนี้แม่ผมมาหรือเปล่า" ชายหนุ่มถามแม่บ้าน

"อู้ย มาสิคะคุณการุณ คุญแม่คุณหอบหิ้วผลไม้มาฝากพวกอิฉันจนทานกันไม่ไหวแล้วค่ะ" แม่บ้านตอบพร้อมกับลูบท้องให้ดู

"เอ่อ .. แล้ว ท่านว่ายังไงบ้าง.."การุณถามแบบระวัง

"อ๋อ ท่านมาประมาณสามชั่วโมงเองค่ะ ท่านบอกว่าท่านทิ้งโน๊ตให้คุณการุณบนห้องแล้วค่ะ" แม่บ้านบอก

การุณพยักหน้าและรับกุญแจจากแม่บ้านก่อนเดินไปขึ้นลิฟท์ด้วยท่าทางเซ็งๆปกติเขาและมารดาก็โทรศัพท์คุยกันถามสารทุกข์สุกดิบกันอยู่แล้วแต่ลองขั้นถึงเขียนโน๊ตนั่นแสดงวาเป็นคำสั่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้...


"การุณ ลูกรัก แม่เห็นสภาพความเป็นอยู่ของลูกแล้ว แม่ไม่สบายใจมากกับความไม่มีระเบียบของลูกเป็นอย่างมาก แม่เข้าใจว่าลูกคงงานยุ่งมากห้องพักจึงรกรุงรังเต็มไปด้วยขยะซึ่งจะเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายต่างๆ ถึงแม้แม่จะรู้ว่าลูกไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งกับข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว แต่ครั้งนี้แม่ต้องขอไว้สักครั้งขอให้ลูกดำเนินการดังต่อไปนี้ถ้ายังคิดจะอยู่ที่นี่หรือไม่ก็กลับมาทำฟาร์มต่อที่บ้านเรา

ข้อหนึ่ง ลูกต้องปั้มกุญแจห้องสำรองหนึ่งดอกฝากไว้ที่แม่บ้าน
ข้อสอง แม่จะติดต่อเพื่อนแม่ที่มีกิจการรับทำความสะอาดให้ส่ง
แม่บ้านมาทำความสะอาดห้องลูกทุกวัน
ข้อสาม ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นของลูก

รักลูก
แม่ "


การุณอ่านโน๊ตที่แปะบนตู้เย็นก่อนที่จะถอนหายใจออกมา เขาเองไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งกับข้าวของส่วนตัวจริงๆ แม้ว่ามันจะสกปรกหรือรกอย่างไรก็ตามเมื่อเป็นคำสั่ง..เขาเองก็ต้องปฏิบัติแต่โดยดี


การุณเปิดประตูเข้าไปในห้องและก็ต้องตกใจเมื่อข้าวของภายในห้องถูกเก็บกวาดเหมือนโดนยกเค้า คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัวเขารู้ว่าวันนี้เป็นวันแรกที่แม่บ้านพิเศษที่มารดาเขาติดต่อไว้เข้ามาทำความสะอาดห้องของเขาเป็นวันแรก เขาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ชุดของเขาถูกแขวนอยู่บนราวอย่างเป็นระเบียบ เขาคิดว่าเขาได้กลิ่นหอมอ่อนๆลอยออกมาจากตู้เสื้อผ้าอีกด้วย

เช้าวันต่อมา การุณไปทำงานสายแต่เขาก็ไม่ลืมที่จะทิ้งโน๊ตให้กับแม่บ้านที่จะเข้ามาทำความสะอาดห้องของเขา


"ถึงคุณแม่บ้าน
ขอบคุณที่ช่วยทำความสะอาดห้องผมให้เป็นระเบียบ แต่ขอความกรุณาช่วยวางสิ่งของต่างๆให้เหมือนเดิมด้วย ผมหาข้าวของผมไม่เจอและเมื่อเช้าผมต้องไปทำงานสายเนื่องจากหากางเกงในไม่เจอ กว่าจะค้นเจอว่าคุณพับเก็บไว้ในลิ้นชักก็เลยเวลางานแล้ว
การุณ "

ตกเย็นเมื่อเขากลับมาเขาพบโน๊ตเล็กๆปิดไว้หน้าตู้เย็นมีใจความว่า



"ถึงคุณการุณ
ขอโทษที่ถือวิสาสะมาจัดข้าวของคุณแต่ทางเราได้รับการอนุญาตแล้วจากคุณแม่ของคุณให้เราจัดการได้ตามความเหมาะสม ถ้าคุณหาอะไรไม่เจอกรุณาทิ้งโน๊ตไว้ดิฉันจะบอกคุณเองว่าอะไรอยู่ตรงไหน คุณจะได้ไม่ต้องรื้อห้องให้มีสภาพเหมือนดิฉันยังไม่ได้เข้ามาทำ และหากจำเป็นช่วงนี้คุณอาจต้องตื่นเช้าขึ้นอีกนิดจะได้มีเวลาหาว่าอะไรอยู่ที่ไหนก่อนที่จะไปทำงานสาย
เพลิน"

เมื่อเขาอ่านโน๊ตออกจะขำอยู่นิดหน่อยที่แม่บ้านเหมือนจะงอนนิดๆที่เขาต่อว่าว่าหากางเกงในไม่เจอและรื้อห้องจนเหมือนเธอไม่ได้มาทำเขาและแม่บ้านใช้วิธีเขียนโน๊ตโต้ตอบกันอยู่อีกหลายวัน


"ถึงคุณป้าเพลิน
ผมขอโทษที่หงุดหงิดไป คุณป้าจัดห้องผมได้ตามสะดวกแต่ช่วยบอกด้วยว่าอะไรอยู่ตรงไหน ถุงเท้าคู่ใหม่แกะกล่องของผมอยู่ตรงไหน
การุณ"


"ถึงคุณการุณ
ดิฉันไม่สูงอายุขนาดจะเป็นป้าคุณ กรุณาเรียกดิฉันว่าเพลินเฉยๆค่ะ ถุงเท้าคู่ใหม่ของคุณดิฉันซักและตากไว้ที่ระเบียงเมื่อวานซึ่งวันนี้ได้นำมาเก็บที่ลิ้นชักล่างสุดในตู้เสื้อผ้าแล้ว ต่อไปคุณควรจะซักชุดที่เพิ่งซื้อมาใหม่ก่อนใส่เพื่ออนามัยที่ดีค่ะ พรุ่งนี้ดิฉันต้องนำผ้าม่านไปซักเนื่องจากสกปรกแล้วหากคุณต้องการผ้าม่านผืนใหม่ในระหว่างที่ผืนเดิมซักอยู่กรุณาทิ้งเงินไว้ให้ดิฉันด้วยและดิฉันจะนำเงินทอนและใบเสร็จมาให้ แต่ถ้าคุณนอนไม่มีผ้าม่าน
ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ
เพลิน"

.
"ถึงคุณเพลิน
ขอโทษที่เพิ่มอายุให้คุณโดยไม่รู้ตัว ผมเคยใส่เสื้อผ้าที่ซื้อทันที่โดยไม่ซักมาหลายครั้งแล้วโดยไม่มีอาการระคายเคืองแต่อย่างใดอาจเป็นเพราะผิวหนังผมมีความต้านทานมากกว่าคนอื่นๆ ผมทิ้งตังค์ค่าผ้าม่านให้คุณพันนึงน่าจะพอนะ ผมนอนโดยไม่ใช้ผ้าม่านไม่ได้เพราะส่วนใหญ่ผมจะแก้ผ้านอน กลัวห้องฝั่งตรงข้ามหัวใจวาย

การุณ"


"ถึงคุณการุณ
คุณจะใส่เสื้อผ้าแบบคันๆก็เรื่องของคุณค่ะดิฉันแค่ทำตามหน้าที่ สำหรับผ้าม่านราคาสี่ร้อยยี่สิบบาทค่ะ ดิฉันต่อรองจากหกร้อย ส่วนเงินทอนที่เหลือดิฉันซื้อชุดนอนบางๆให้คุณหนึ่งชุด คิดว่าใส่สบายและไม่อึดอัด คุณควรเปลี่ยนนิสัยแก้ผ้านอนค่ะ อุดจาดตาแก่ผู้พบเห็น ดิฉันประมาณขนาดจากเสื้อผ้าในตู้หากใส่ไม่ได้ยังไงบอกด้วยนะคะจะไปเปลี่ยนให้ สุดท้ายเหลือเงินทอนสามสิบบาท ดิฉันวางไว้ให้ที่โต๊ะทำงานพร้อมใบเสร็จค่ะ
เพลิน"



"ถึงคุณเพลิน
ขอบคุณสำหรับชุดนอนใหม่ใส่สบายดีจริงๆถ้าไม่รบกวนเกินไปช่วยซื้อให้ผมอีกสักสองชุดได้ไหม ผมเตรียมเงินให้คุณอีกพันนึงส่วนเงินทอนคุณเก็บไปได้เลยไม่เป็นไร อ้อ ช่วยซื้อกาแฟให้ผมด้วยอะไรก็ได้ แต่เป็นแบบต้มนะอีกห้าร้อยบาทน่าจะพอ
การุณ"


"ถึงคุณการุณ
ดีใจที่คุณชอบชุดนอนใหม่ค่ะดิฉันซื้อเพิ่มมาให้อีกสองตัวตามที่คุณบอกส่วนกาแฟดิฉันซื้อของชาวดอยมาให้แบบมีเดียมไม่ขมจนเกินไปและซื้อกระดาษกรองเพิ่มให้แล้วเพราะของเดิมกำลังจะหมด เงินทอนดิฉันวางไว้ที่เดิมพร้อมใบเสร็จ เรารับเงินที่เหลือไม่ได้ค่ะเป็นกฏ
เพลิน"


"ถึงเคุณเพลิน
คุณเป็นแม่บ้านที่ทันสมัยมากรู้เรื่องกาแฟดีจริงๆ กาแฟที่ซื้อมาหอมมากอีกสองวันผมผมจะพาเพื่อนมาดูบอลและกินเลี้ยงที่ห้องคุณช่วยเตรียมสถานที่และถ้าไม่ลำบากมากช่วยซื้อกับข้าวซักสองสามอย่างเตรียมไว้ให้ได้มั้ยส่วนค่าใช้จ่ายผมออกให้พิเศษเลย
การุณ
ปล ชื่อคุณนี่หมายถึง รำเพลิน รำเต้ย อะไรอย่างนั้นหรือเปล่า "


"ถึงคุณการุณ
ดิฉันชอบทานกาแฟค่ะ ส่วนอาหารดิฉันพอจะทำได้เครื่องครัวคุณมีอยู่ครบแต่ดูท่าทางไม่เคยได้ใช้งานเลย คิดว่าคุณคงทานกับแกล้มกันเสียมากกว่าอาหารหนักๆ ดิฉันจะทำ สลัดใส้กรอก ข้าวเกรียบ และน้ำส้มให้นะคะ ส่วนเครื่องดื่มไม่ทราบว่าคุณจะทานอะไร รบกวนหามาเองเพราะดิฉันไม่สันทัดเรื่องของมึนเมาค่าใช้จ่ายดิฉันจะแจ้งให้ทราบภายหลังค่ะ
เพลิน
ปล ชื่อดิฉัน หมายถึง ความสบายใจในสิ่งที่ทำค่ะ"


"ถึงคุณเพลิน
เพื่อนๆฝากชมคุณว่าทำสลัดได้อร่อยมาก ขอโทษสำหรับสภาพห้องที่รกไปนิด วันพรุ่งนี้คุณช่วยเก็บกวาดให้เอี่ยมเลยนะ พอดีจะมีแขกพิเศษมาน่ะ ...แล้วก็คุณช่วยเก็บอะไรๆที่เคยเป็นร่องรอยว่ามีผู้หญิงเคยมาที่ห้องผมออกให้หมดเลยนะ รบกวนหน่อย..
การุณ"


"ถึงคุณการุณ
ดิฉันเก็บทุกซอกทุกมุมตามที่คุณบอกแล้ว ใต้เตียงพบหนังสือปลุกใจเสือป่าที่คุณซ่อนไว้กับลิปติกถูกๆด้ามหนึ่ง นอกนั้นเรียบร้อยดีส่วนหนังสือปลุกใจเสือป่าดิฉันหาที่เก็บไม่ได้เลยเรียกแม่บ้านเอาไปขายพร้อมหนังสือพิมพ์เก่าแล้วเงินที่ขายได้วางไว้ที่เดิม
เพลิน"


ถึงแม่บ้าน
ชั้นชื่อประภาศรี เป็นแฟนคุณการุณ ที่เธอมาทำความสะอาดก็ดูเรียบร้อยดีแต่ช่วยใช้ดอกไม้สดเช่นกุหลาบหอมหรือกล้วยไม้ ใส่แจกันแทนต้นดอกไม้เล็กๆของเธอด้วย ดูสดใสกว่า ถ้าเธอเจอข้าวของเครื่องใช้ของชั้นที่ไม่ได้เอากลับไปเธอช่วยเก็บเข้าตู้ที่เดียวกับของคุณการุณด้วย ชั้นคงมาที่นี่บ่อยขึ้น
ประภาศรี"


"ถึงคุณการุณ
ดิฉันเพิ่งทราบว่าคุณไม่ชอบดอกฟอร์เกทมีน๊อต ดิฉันได้นำกลับและหาดอกกุหลาบมาใส่แจกันแทนแล้วตามที่แฟนคุณบอก แต่คุณแม่คุณบอกว่าคุณแพ้พวกดอกไม้แห้ง ดิฉันจะพยายามเปลี่ยนให้ทุกวัน รบกวนช่วยบอกแฟนคุณด้วยว่าให้เก็บข้าวของดีๆหน่อยถ้าหายไปจะมาว่าดิฉันได้
เพลิน"


"ถึงคุณเพลิน
ต้องขอโทษด้วยที่ประภาศรีมาวุ่นวายกับคุณ ช่วยเอากระถางฟอร์เกทมีน๊อตของคุณกลับมาได้มั้ย ผมชอบมันมากกว่าดอกกุหลาบ และผมแพ้ดอกไม้แห้งจริงๆ(ทำไมคุณถึงรู้จากแม่ผมได้)ส่วนข้าวของของประภาศรีถ้าเธอลืมไว้คุณช่วยแยกไว้ให้ผมด้วยผมจะได้เอาไปคืน แล้วก็ เค้าไม่ใช่แฟนผมนะ(ถ้าแม่ผมถามบอกว่าผมยังไม่มีแฟนนะ)ตกลงคุณขายเสือป่าคอลเล็กชั่นของผมไปจริงๆเหรอ
การุณ"


"ถึงคุณการุณ
ดิฉันนำกระถางฟอร์เกทมีน๊อตมาให้แล้ว ส่วนข้าวของคุณประภาศรีดิฉันแยกไว้ให้แล้วมีตลับแป้ง ลิปสติก ต่างหู ดิฉันเก็บไว้ในกล่องที่โต๊ะเครื่องแป้งของคุณค่ะ สำหรับเสือป่าคอลเล็กชั่นของคุณดิฉันขายไปแล้วจริงๆ คำไหนคำนั้นค่ะ

เพลิน"


"ถึงแม่บ้าน

ข้าวของที่เธอเก็บไว้ยังขาดนาฬิกาอีกหนึ่งเรือน ของแท็คฮอยเออร์ฉันเข้าใจว่าเธอคงเก็บไว้ เพราะฉันทิ้งไว้พร้อมๆกับข้าวของอย่างอื่น นาฬิกาเรือนนั้นฉันรักมากหากเธออยากได้นาฬิกาฉันจะขอให้คุณการุณซื้อของถูกๆให้เธอซักเรือน ช่วยเอานาฬิกาฉันคืนมาด้วยมิฉะนั้นฉันจะแจ้งความแล้วไอ้ดอกไม้บ้าที่ฉันสั่งให้เอาไปทิ้งทำไมยังมาอยู่บนโต๊ะอีกช่วยเอาไปทิ้งด้วย
ประภาศรี"


"ถึงคุณการุณ
เรื่องนาฬิกาดิฉันไม่ทราบจริงๆ ของทั้งหมดที่มี ก็มีตามที่ดิฉันบอกดิฉันได้รับการสั่งสอนมารับรองไม่ลักขโมยใครแน่ และหากคุณจะให้แฟนคุณมาดูถูกดิฉันอย่างนี้ดิฉันขอลาออก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะหนีนะคะเพราะดิฉันไม่ได้เอานาฬิกาของเธอไปจริงๆส่วนกระถางฟอร์เกทมีน๊อตดิฉันยกให้คุณจะทำยังไงกับมันก็แล้วแต่ ดิฉันมีกำหนดทำงานให้คุณวันสุดท้ายปลายสัปดาห์หน้า แต่ถ้าคุณไม่พอใจดิฉันสามารถเปลี่ยนแม่บ้านคนใหม่ให้คุณได้ค่ะ
เพลิน"


ถึงเพลิน

เรื่องนาฬิกาผมรู้แล้วว่าคุณไม่ได้เอาไปเพราะผมเห็นประภาศรีเธอใส่อยู่พอผมไปทักเธอโวยวายใหญ่หาว่าผมปกป้องคุณไม่มี
คุณสมบัติผู้ดีเลยสักนิดผมคงไม่เลือกคนแบบนี้มาเป็นแฟนแน่ซึ่งผมขอเลิกกับเธอไปแล้ว ...ผมไม่ต้องการเปลี่ยนแม่บ้านคนใหม่ แล้วทำไมคุณถึงจะทำงานถึงปลายสับดาห์หน้าเท่านั้นล่ะ ผมคุยกับคุณป้าเจ้าของบริษัทได้นะท่านเป็นเพื่อนคุณแม่ผมให้คุณทำงานต่อไปเรื่อยๆก็ได้ ส่วนต้นฟอร์เกทมีน๊อตน่ะผมจะดูแลรดน้ำมันเองรบกวนคุณช่วยเอามันเข้าร่มตอนบ่ายๆบ้างเท่านั้นล่ะ ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายพรุ่งนี้รบกวนคุณซื้อยาลดไข้ให้ผมซักแผงนะ ปวดหัวจัง...



"แม่ครับ

ผมเขียนจดหมายถึงแม่เพราะมีเรื่องให้แม่ช่วยเหลือ ที่ไม่โทรมาก็เพราะอยากให้เห็นว่านี่เป็นเรื่องจริงจังพอๆกับทีแม่ทิ้งโน๊ตไว้ให้ผม เรื่องแม่บ้านที่แม่ติดต่อคุณป้าเพื่อนแม่ให้มาทำความสะอาดห้องผมน่ะครับพอดีเมื่อวานผมปวดหัว มีไข้เลยไม่ได้ไปทำงาน ก็เลยได้พบผู้หญิงที่มาทำความสะอาดห้องผม ผมนึกว่าเธอจะเป็นคนมีอายุหน่อย และเหมือนแม่บ้านทั่วไป แต่นี่สวยเช้งเลยแม่ เธอชื่อเพลิน เป็นลูกสาวคุณป้าพลอยเพื่อนแม่นั่นแหละ ตอนนี้เธอเรียนคหกรรมปีสามกำลังจะขึ้นปีสี่และมาฝึกงานที่บริษัทของคุณป้าพลอย คุณป้าเลยให้มาดูแลห้องผม เธอกำลังจะเปิดเทอมต้นเดือนหน้าและคงไม่ได้มาจัดห้องให้อีก ผมจะบอกคุณแม่ว่า ผมไม่ต้องการแม่บ้านคนอื่นอีก รบกวนแม่ช่วยพาผมไปแนะนำคุณป้าพลอยหน่อยได้มั้ย ผมตั้งใจจะต่อสัญญาน้องเพลินเป็นแม่บ้านถาวรของผม ส่วนในระหว่างนี้ผมสัญญากับแม่ว่าผมจะเก็บกวาดทำความสะอาดห้องเองไม่ให้มีตำหนิใดๆเลยเป็นการตอบแทนนะแม่นะ

จากลูกสุดที่รัก"


::012::
Alphonse
โพสต์: 1792
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 23, 2006 10:45 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ม.ค. 08, 2008 8:29 am

                  เขาชอบดำ.......เธอชอบขาว

                        เขาชอบเพลงมันส์ๆ........เธอฟังเพลงสบายๆ

                        เขาตัวสูง........เธอไม่สูง

                        เขาเก่งกีฬา.........เธอไม่เคยวิ่งทันใครเค้า

                        เขาชอบฝน......เธอกลัวเสียงฟ้าร้อง

                        เขามีความจำดี........เธอลืมง่าย

                  เขาเป็นคนเงียบๆ ไม่เรื่องมาก..........เธอร่าเริงและจำเป็นต้องมีคนอยู่รอบด้าน

                        เขาเป็นคนเก็บความรู้สึก........เธออ่อนไหวง่าย

                        เขาน้ำตาซึมเพราะมองไม่เห็นค่าของตัวเอง....เธอร้องไห้ให้ความเดียวดายที่เกาะกุมหัวใจ

                        เขาชอบเก็บตัวอยู่คนเดียวในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ.....เธอชอบมิตรภาพที่ใครต่อใครมอบให้



                      แต่กระนั้น
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

อังคาร ม.ค. 08, 2008 4:45 pm

: xemo029 : ยาวเหลือเกินน้องเอช แต่กริ๊สสสส สลบ...ข้อ 2 ไปก่อน เดี๋ยวจะตามมาเก็บรายละเอียดเมื่อมีเวลา  : emo038 :
mapisit
โพสต์: 107
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ย. 19, 2007 9:49 pm
ที่อยู่: ปากปล่องเหวแห่งไฟ
ติดต่อ:

อังคาร ม.ค. 08, 2008 10:22 pm

เอชเอ๊ย

ยาวไปลูก บางทีบทความยาวๆ แม้เนื้อหาน่าอ่าน แต่ก็ไม่ดึงดูดใจ

เหอะๆ จะค่อยๆอ่านแล้วเม้นให้
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พฤหัสฯ. ม.ค. 10, 2008 11:23 am

:+: seraphim :+: เขียน: : xemo029 : ยาวเหลือเกินน้องเอช แต่กริ๊สสสส สลบ...ข้อ 2 ไปก่อน เดี๋ยวจะตามมาเก็บรายละเอียดเมื่อมีเวลา  : emo038 :
มีเลศนัยนะครับ ทำไมต้องข้อ 2 ::011::
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

พฤหัสฯ. ม.ค. 10, 2008 1:26 pm

Batholomew เขียน:
:+: seraphim :+: เขียน: : xemo029 : ยาวเหลือเกินน้องเอช แต่กริ๊สสสส สลบ...ข้อ 2 ไปก่อน เดี๋ยวจะตามมาเก็บรายละเอียดเมื่อมีเวลา  : emo038 :
มีเลศนัยนะครับ ทำไมต้องข้อ 2 ::011::

::018:: แหมๆๆๆ ทำเป็นรู้ทัน ก็เห็นมีข้อเดียวที่เกี่ยวกับพระเจ้าอ่ะจ๊ะพ่อคู๊ณ ::004::
B-berrie
โพสต์: 69
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 28, 2007 7:59 am
ที่อยู่: ชานเมือง กรุงเทพฯ

พฤหัสฯ. ม.ค. 10, 2008 3:16 pm

ชอบเรื่องของการุณและแม่บ้านมากเลย  อ่านไปยิ้มไป    ::001::  ::004:: คลายเครียดดีกว่า หนัง..ก่อนบ่ายฯ อีกค่ะ

::012::  ::013::  ::017::
ตอบกลับโพส