ศีลแต่งงาน กับ ความรัก ช-ช
- BloodSweatAndTearz
- โพสต์: 254
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 12:49 pm
- ติดต่อ:
ผมเคยได้อ่านกระทู้หนึ่งในบอร์ดนี่ละรับแต่หามะเจอแล้ว พี่เขาบอกประมาณว่า
ช-ช รักกัน---ไม่บาป (อันนี่ผมเข้าใจนะ)
ช-ช มีอะไรกัน---บาปถ้ายังไม่ได้รับศีลสมรส... :huh:
คือ...ช-ช รับศีลสมรสได้ด้วหรอครับ อ่า สงสัยเฉยๆอ่ะครับ
ช-ช รักกัน---ไม่บาป (อันนี่ผมเข้าใจนะ)
ช-ช มีอะไรกัน---บาปถ้ายังไม่ได้รับศีลสมรส... :huh:
คือ...ช-ช รับศีลสมรสได้ด้วหรอครับ อ่า สงสัยเฉยๆอ่ะครับ
- BloodSweatAndTearz
- โพสต์: 254
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 12:49 pm
- ติดต่อ:
ผมก้อว่าอยู่sasuke เขียน: ช - ช รับศีลสมรสไม่ได้ครับ
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
ชาย - ชาย
หญิง - หญิง
หญิง - ชาย
มีอะไรกันโดยไม่ได้แต่งงานบาป
หญิง - หญิง
ชาย - ชาย
แต่งงานกันไม่ได้
หญิง - หญิง
หญิง - ชาย
มีอะไรกันโดยไม่ได้แต่งงานบาป
หญิง - หญิง
ชาย - ชาย
แต่งงานกันไม่ได้
แก้ไขล่าสุดโดย Jack Sparrow เมื่อ อาทิตย์ ม.ค. 27, 2008 5:29 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- ดานุ้งพุงระเบิด
- โพสต์: 518
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
- ที่อยู่: อุบลราชธานี
ถ้าตุ๊ดตู่แต่งงานกับทอมมี่ล่ะครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
จะมีหรอครับDanung เขียน: ถ้าตุ๊ดตู่แต่งงานกับทอมมี่ล่ะครับ

-
- โพสต์: 574
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
- ติดต่อ:
ก็ แ ต่ ง ไ ป เห อ ะ ! ! ! - * -
ไม่มีคำใดในพระคัมภีร์ฉบับภาษากรีก และภาษาฮีบรูที่มีความหมายเทียบได้กับคำว่า Homosexual ในภาษาอังกฤษ คำนี้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อเพียงศตวรรษเศษ และปรากฏครั้งแรกในพระคัมภีร์ฉบับ Revised Standard Version (1946)
พระคัมภีร์ คริสต์ศาสนา และ Homosexuality
พระคัมภีร์ คริสต์ศาสนา และ Homosexuality
บทนำ
จริงหรือที่พระคัมภีร์กล่าวถึง Homosexual? สมควรหรือไม่ที่พระศาสนจักร (Church) จะอวยพรแก่การสมรสของ Homosexual? สมควรหรือไม่ที่ Homosexual ที่อยู่ในความสัมพันธ์จะรับการบรรพชาเป็นบาทหลวง หรือแม้กระทั่งพระสังฆราช? ธรรมประเพณีว่าอย่างไร? เราควรจะบอกอะไรกับเพื่อน หรือญาติที่รักเพศเดียวกัน? ควรหรือที่คนเล่านั้นจะอยู่เป็นโสดชั่วชีวิต? เราทั้งหลายล้วนแล้วแต่เคยครุ่นคิดในคำถามเหล่านี้ในบางครั้ง บางโอกาส
งานศึกษานี้เป็นผลสำเร็จจากการวิจัย สนทนา และภาพสะท้อนจากการภาวนาอย่างร้อนรน การศึกษานี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายปีที่แล้วเมื่อข้าพเจ้าตัดสินใจว่าข้าพเจ้าต้องการรู้ว่าพระคัมภีร์พูดถึง Homosexual ว่าอย่างไร ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะแบ่งปันการศึกษานี้แก่ท่านด้วยข้อความจากพระคัมภีร์ทั้ง 6 ตอนที่ถูกอ้างถึงเป็นประจำเมื่อเอ่ยถึง Homosexual เช่นเดียวกับการสำรวจ Homosexuality ในบริบทของประเพณีของคริสตชน
คุณจะไม่ใช่คัมภีราจารย์ หรือคุณจะอ่านภาษากรีกได้หรือไม่ หรือคุณจะรอบรู้ หรือไม่รู้เลยเกี่ยวกับประเพณีของคริสตชน คุณก็สามารถติดตามงานศึกษา: พระคัมภีร์ คริสต์ศาสนา และ Homosexuality ได้
จริงหรือที่พระคัมภีร์กล่าวถึง Homosexual? สมควรหรือไม่ที่พระศาสนจักร (Church) จะอวยพรแก่การสมรสของ Homosexual? สมควรหรือไม่ที่ Homosexual ที่อยู่ในความสัมพันธ์จะรับการบรรพชาเป็นบาทหลวง หรือแม้กระทั่งพระสังฆราช? ธรรมประเพณีว่าอย่างไร? เราควรจะบอกอะไรกับเพื่อน หรือญาติที่รักเพศเดียวกัน? ควรหรือที่คนเล่านั้นจะอยู่เป็นโสดชั่วชีวิต? เราทั้งหลายล้วนแล้วแต่เคยครุ่นคิดในคำถามเหล่านี้ในบางครั้ง บางโอกาส
งานศึกษานี้เป็นผลสำเร็จจากการวิจัย สนทนา และภาพสะท้อนจากการภาวนาอย่างร้อนรน การศึกษานี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายปีที่แล้วเมื่อข้าพเจ้าตัดสินใจว่าข้าพเจ้าต้องการรู้ว่าพระคัมภีร์พูดถึง Homosexual ว่าอย่างไร ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะแบ่งปันการศึกษานี้แก่ท่านด้วยข้อความจากพระคัมภีร์ทั้ง 6 ตอนที่ถูกอ้างถึงเป็นประจำเมื่อเอ่ยถึง Homosexual เช่นเดียวกับการสำรวจ Homosexuality ในบริบทของประเพณีของคริสตชน
คุณจะไม่ใช่คัมภีราจารย์ หรือคุณจะอ่านภาษากรีกได้หรือไม่ หรือคุณจะรอบรู้ หรือไม่รู้เลยเกี่ยวกับประเพณีของคริสตชน คุณก็สามารถติดตามงานศึกษา: พระคัมภีร์ คริสต์ศาสนา และ Homosexuality ได้
Homosexual - เป็นคำในภาษาอังกฤษที่เป็นผสม เกิดจากการนำคำในภาษากรีกว่า Homo ที่แปลว่า เหมือนกัน (the same) กับคำภาษาละตินว่า Sexualis แปลว่า เพศ (sex) ทั้งนี้คำว่า Homosexual เป็นคำที่เกิดใหม่ และมิได้มีบัญญัติใช้จนกระทั่งเมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมานี้ ไม่ปรากฏว่ามีคำใดในพระคัมภีร์ฉบับภาษากรีก หรือภาษาฮีบรูที่มีความหมายเทียบได้กับคำในภาษาอังกฤษว่า Homosexual พระธรรมใหม่จากฉบับ 1946 Revised Standard Version เป็นฉบับแปลฉบับแรกที่ใช้คำว่า Homosexual
Sodomite
Sodomite
-
- โพสต์: 626
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
- ที่อยู่: bkk
มีดิ มิว แหมมมBatholomew เขียน:จะมีหรอครับDanung เขียน: ถ้าตุ๊ดตู่แต่งงานกับทอมมี่ล่ะครับ![]()
ปล.อันที่จิง มิวน่าจะตอบคำถามในกระทู้นี้ได้ดีกว่าใครนะ


-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ป้าเมลิสจะสื่อว่าอะไรmelis เขียน:มีดิ มิว แหมมมBatholomew เขียน:จะมีหรอครับDanung เขียน: ถ้าตุ๊ดตู่แต่งงานกับทอมมี่ล่ะครับ![]()
ปล.อันที่จิง มิวน่าจะตอบคำถามในกระทู้นี้ได้ดีกว่าใครนะ![]()
![]()

พิจารณาจากพระคัมภีร์
มีบทตอนจากเรื่องราวในพระคัมภีร์ที่ถูกใช้บ่อยๆ ในช่วงปีนี้ที่อ้างถึง Homosexuality ประกอบไปด้วย
ปฐมกาล 1-2 เรื่องราวการสร้างโลก
ปฐมกาล 19:1-9 เรื่องราวของเมืองโสโดม
เลวีนิติ 18:22, 20:13 บัญญัติศักดิ์สิทธิ์
โรม 1:24-27 จดหมายนักบุญเปาโล
1 โครินธ์ 6:9 จดหมายนักบุญเปาโล
1 ทิโมธี 1:10 จดหมายนักบุญเปาโล
มีบทตอนจากเรื่องราวในพระคัมภีร์ที่ถูกใช้บ่อยๆ ในช่วงปีนี้ที่อ้างถึง Homosexuality ประกอบไปด้วย
ปฐมกาล 1-2 เรื่องราวการสร้างโลก
ปฐมกาล 19:1-9 เรื่องราวของเมืองโสโดม
เลวีนิติ 18:22, 20:13 บัญญัติศักดิ์สิทธิ์
โรม 1:24-27 จดหมายนักบุญเปาโล
1 โครินธ์ 6:9 จดหมายนักบุญเปาโล
1 ทิโมธี 1:10 จดหมายนักบุญเปาโล
ตอนที่ 1: เรื่องราวของเมืองโสโดม (ปฐมกาล 19:1-9)
ทูตสวรรค์สององค์มาถึงเมืองโสโดมในเวลาเย็น โลทได้นั่งอยู่ที่ประตูเมืองโสโดม เมื่อโลทเห็นแล้วก็ลุกขึ้นไปพบทูตเหล่านั้นและได้ก้มหน้าของเขาลงถึงดิน 2แล้วเขากล่าวว่า "ดูเถิด เจ้านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่านโปรดกรุณาแวะไปบ้านผู้รับใช้ของท่าน ค้างแรมคืนนี้ ล้างเท้าของท่าน แล้วท่านจะได้ตื่นแต่เช้าเดินทางต่อไป" ทูตเหล่านั้นกล่าวว่า "อย่าเลย แต่พวกเราจะค้างแรมที่ถนนในคืนนี้" 3เขาได้รบเร้าทูตเหล่านั้นอย่างมาก ทูตเหล่านั้นจึงแวะเข้าไปในบ้านของเขา และเขาจึงจัดการเลี้ยงทูตเหล่านั้น ทำขนมปังไร้เชื้อและทูตเหล่านั้นจึงรับประทาน 4แต่ก่อนที่ทูตเหล่านั้นเข้านอน พวกผู้ชายเมืองนั้นคือพวกผู้ชายชาวเมืองโสโดม ทั้งแก่และหนุ่ม ทุกคนจากทุกสารทิศ มาล้อมเรือนนั้นไว้ 5พวกเขาเรียกโลทและพูดกับเขาว่า "ผู้ชายเหล่านั้นซึ่งมาหาท่านคืนนี้อยู่ที่ไหน จงนำเขาเหล่านั้นออกมาให้พวกเราเพื่อพวกเราจะได้สมสู่กับเขา" 6โลทก็ออกทางประตูไปหาพวกนั้นและปิดประตูหลังจากที่เขาออกไปแล้ว 7และกล่าวว่า "พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน อย่ากระทำชั่วช้าเช่นนี้เลย 8ดูเถิด ข้าพเจ้ามีบุตรสาวสองคนซึ่งไม่เคยสมสู่กับชายเลย ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน ขอให้ข้าพเจ้านำพวกเธอออกมาให้ท่าน ให้ท่านกระทำแก่พวกเธอตามที่เห็นชอบในสายตาของท่านเถิด เพียงแต่อย่ากระทำอะไรแก่ชายเหล่านี้เลย เพราะเหตุว่าพวกเขาเหล่านี้เข้ามาอยู่ใต้ร่มชายคาของข้าพเจ้า" 9พวกเขาพูดว่า "ถอยไป" และพวกเขาพูดอีกว่า "คนนี้เข้ามาอาศัยอยู่และเขาจะมาตั้งตัวเป็นผู้พิพากษา บัดนี้เราจะทำการชั่วร้ายกับท่านยิ่งกว่าคนเหล่านั้น" พวกเขาจึงผลักคนนั้นโดยแรงคือโลทนั่นเอง และเข้ามาใกล้เพื่อพังประตู (ปฐก. 19:1-9)
เรื่องราวของเมืองโสโดมเป็นเรื่องแรกที่ควรเอ่ยถึงในฐานะที่เป็นศูนย์กลางของการศึกษาเรื่องราวของ Homosexuality ทั้งนี้เราต้องเข้าใจบริบทของเรื่องราวเสียก่อน กล่าวคือ จากเรื่องนี้ พระเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์ 2 องค์มาเตือนหลานชายของอับราฮาม คือ โลท เกี่ยวกับการทำลายล้างเมืองโสโดมที่จะมาถึง หากเราหยุดพิจารณา ณ จุดนี้จะพบว่า แม้ก่อนการมาถึงของทูตสวรรค์ พระเจ้าก็ทรงมีพระประสงค์ที่จะทำลายล้างเมืองโสโดมอยู่แล้ว ดังนั้นเหตุผลที่จะใช้ในการทำลายเมืองนั้นย่อมต้องเกี่ยวข้องกับบาปของเมืองโสโดมที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเหตุการณ์นี้
แล้วทูตสวรรค์ก็มาถึงยังเมืองโสโดม และโลทก็ให้การต้อนรับยังบ้านของตน และเลี้ยงอาหารอีกด้วย จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ก็เข้าล้อมบ้าน และถามถึงทูตสวรรค์ที่มาพำนักยังบ้านของโลท และตะโกนว่า "ผู้ชายเหล่านั้นซึ่งมาหาท่านคืนนี้อยู่ที่ไหน จงนำเขาเหล่านั้นออกมาให้พวกเราเพื่อพวกเราจะได้สมสู่กับเขา" (ปฐก. 19:5) โลทปฏิเสธ และเสนอลูกสาวทั้งสองให้แทนโดยให้เหตุผลว่า ดูเถิด ข้าพเจ้ามีบุตรสาวสองคนซึ่งไม่เคยสมสู่กับชายเลย ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน ขอให้ข้าพเจ้านำพวกเธอออกมาให้ท่าน ให้ท่านกระทำแก่พวกเธอตามที่เห็นชอบในสายตาของท่านเถิด เพียงแต่อย่ากระทำอะไรแก่ชายเหล่านี้เลย เพราะเหตุว่าพวกเขาเหล่านี้เข้ามาอยู่ใต้ร่มชายคาของข้าพเจ้า (ปฐก. 19:8) กลุ่มชายฉกรรจ์ยืนกรานในความต้องการเดิมและพยายามพังประตูเข้าไป จบท้ายด้วยทูตสวรรค์ดึงตัวโลทเข้าไปในบ้านและทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์ตาบอด
เหนือสิ่งอื่นใด ในการตีความเราต้องตีกรอบอยู่ในเรื่องราวของสถานการณ์ทั้งหมด สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นรูปแบบหนึ่งของการข่มขืน กลุ่มชายฉกรรจ์ต้องการที่จะกระทำชำเรา หรือ “รุมโทรม” ทูตสวรรค์ สถานการณ์นี้เชื่อมโยงกับการใช้กำลังอันน่าหวั่นวิตก หลายความเห็นอ้างว่าการที่โลทเสนอลูกสาวทั้งสองให้แทนทูตสวรรค์ (บุรุษเพศ) นั้นแสดงว่า การมีเพศสัมพันธ์แบบ Homosexual นั่นร้ายแรงกว่าการมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม (ในบริบทว่า การมีเพศสัมพันธ์นอกการสมรส: ผู้แปลอธิบาย) กระนั้นโลทกลับให้เหตุผลของการกระทำนั้นว่า เพียงแต่อย่ากระทำอะไรแก่ชายเหล่านี้เลย เพราะเหตุว่าพวกเขาเหล่านี้เข้ามาอยู่ใต้ร่มชายคาของข้าพเจ้า (ปฐก. 19:8) ในปัจจุบันนั้นข้อความดังกล่าวไม่อาจเป็นที่เข้าใจได้ แต่ในยุคสมัยของโลทนั้น การให้ความดูแลผู้อื่น (Hospitality) อาจถือได้ว่า เป็นมโนคติที่ศักดิ์สิทธิ์ (Sacred Concept) และนั่นเป็นการสร้างความแตกต่าง (Distinction) จากคำกว่าของโลทในลักษณะที่ว่า ผู้มาเยือนนั้นเป็นแขกของตน
อย่างไรก็ตาม หากยอมรับว่าการสร้างความแตกต่าง (Distinction) เป็นมาด้วยเพศ เราอาจได้ข้อสรุปเดียวว่า การข่มขืนทูตสวรรค์แบบ Homosexual ย่อมเลวร้ายกว่าการข่มขืนเพศเดียวกัน การใช้เรื่องราวนี้เพื่อประณามความรัก และคู่รักแบบ Homosexual จึงเป็นการอธิบายที่ไม่ตรง และอยู่นอกเหนือโครงร่างทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นรูปแบบการอธิบายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ดังที่ เจฟฟรี่ เอส ซิลเกอร์ อ้างอิงถึงการบิดเบือนของเนื้อหานี้ในงานเขียนของเขาชื่อ เทววิทยาวันนี้ ว่า “บาปของการเป็นชู้ของดาวิดกับนางบัทเชบาไม่ได้ทำให้การมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม (ในบริบทว่า การมีเพศสัมพันธ์นอกการสมรส: ผู้แปลอธิบาย) เป็นความผิดบาป
ทูตสวรรค์สององค์มาถึงเมืองโสโดมในเวลาเย็น โลทได้นั่งอยู่ที่ประตูเมืองโสโดม เมื่อโลทเห็นแล้วก็ลุกขึ้นไปพบทูตเหล่านั้นและได้ก้มหน้าของเขาลงถึงดิน 2แล้วเขากล่าวว่า "ดูเถิด เจ้านายของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่านโปรดกรุณาแวะไปบ้านผู้รับใช้ของท่าน ค้างแรมคืนนี้ ล้างเท้าของท่าน แล้วท่านจะได้ตื่นแต่เช้าเดินทางต่อไป" ทูตเหล่านั้นกล่าวว่า "อย่าเลย แต่พวกเราจะค้างแรมที่ถนนในคืนนี้" 3เขาได้รบเร้าทูตเหล่านั้นอย่างมาก ทูตเหล่านั้นจึงแวะเข้าไปในบ้านของเขา และเขาจึงจัดการเลี้ยงทูตเหล่านั้น ทำขนมปังไร้เชื้อและทูตเหล่านั้นจึงรับประทาน 4แต่ก่อนที่ทูตเหล่านั้นเข้านอน พวกผู้ชายเมืองนั้นคือพวกผู้ชายชาวเมืองโสโดม ทั้งแก่และหนุ่ม ทุกคนจากทุกสารทิศ มาล้อมเรือนนั้นไว้ 5พวกเขาเรียกโลทและพูดกับเขาว่า "ผู้ชายเหล่านั้นซึ่งมาหาท่านคืนนี้อยู่ที่ไหน จงนำเขาเหล่านั้นออกมาให้พวกเราเพื่อพวกเราจะได้สมสู่กับเขา" 6โลทก็ออกทางประตูไปหาพวกนั้นและปิดประตูหลังจากที่เขาออกไปแล้ว 7และกล่าวว่า "พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน อย่ากระทำชั่วช้าเช่นนี้เลย 8ดูเถิด ข้าพเจ้ามีบุตรสาวสองคนซึ่งไม่เคยสมสู่กับชายเลย ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน ขอให้ข้าพเจ้านำพวกเธอออกมาให้ท่าน ให้ท่านกระทำแก่พวกเธอตามที่เห็นชอบในสายตาของท่านเถิด เพียงแต่อย่ากระทำอะไรแก่ชายเหล่านี้เลย เพราะเหตุว่าพวกเขาเหล่านี้เข้ามาอยู่ใต้ร่มชายคาของข้าพเจ้า" 9พวกเขาพูดว่า "ถอยไป" และพวกเขาพูดอีกว่า "คนนี้เข้ามาอาศัยอยู่และเขาจะมาตั้งตัวเป็นผู้พิพากษา บัดนี้เราจะทำการชั่วร้ายกับท่านยิ่งกว่าคนเหล่านั้น" พวกเขาจึงผลักคนนั้นโดยแรงคือโลทนั่นเอง และเข้ามาใกล้เพื่อพังประตู (ปฐก. 19:1-9)
เรื่องราวของเมืองโสโดมเป็นเรื่องแรกที่ควรเอ่ยถึงในฐานะที่เป็นศูนย์กลางของการศึกษาเรื่องราวของ Homosexuality ทั้งนี้เราต้องเข้าใจบริบทของเรื่องราวเสียก่อน กล่าวคือ จากเรื่องนี้ พระเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์ 2 องค์มาเตือนหลานชายของอับราฮาม คือ โลท เกี่ยวกับการทำลายล้างเมืองโสโดมที่จะมาถึง หากเราหยุดพิจารณา ณ จุดนี้จะพบว่า แม้ก่อนการมาถึงของทูตสวรรค์ พระเจ้าก็ทรงมีพระประสงค์ที่จะทำลายล้างเมืองโสโดมอยู่แล้ว ดังนั้นเหตุผลที่จะใช้ในการทำลายเมืองนั้นย่อมต้องเกี่ยวข้องกับบาปของเมืองโสโดมที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเหตุการณ์นี้
แล้วทูตสวรรค์ก็มาถึงยังเมืองโสโดม และโลทก็ให้การต้อนรับยังบ้านของตน และเลี้ยงอาหารอีกด้วย จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ก็เข้าล้อมบ้าน และถามถึงทูตสวรรค์ที่มาพำนักยังบ้านของโลท และตะโกนว่า "ผู้ชายเหล่านั้นซึ่งมาหาท่านคืนนี้อยู่ที่ไหน จงนำเขาเหล่านั้นออกมาให้พวกเราเพื่อพวกเราจะได้สมสู่กับเขา" (ปฐก. 19:5) โลทปฏิเสธ และเสนอลูกสาวทั้งสองให้แทนโดยให้เหตุผลว่า ดูเถิด ข้าพเจ้ามีบุตรสาวสองคนซึ่งไม่เคยสมสู่กับชายเลย ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่าน ขอให้ข้าพเจ้านำพวกเธอออกมาให้ท่าน ให้ท่านกระทำแก่พวกเธอตามที่เห็นชอบในสายตาของท่านเถิด เพียงแต่อย่ากระทำอะไรแก่ชายเหล่านี้เลย เพราะเหตุว่าพวกเขาเหล่านี้เข้ามาอยู่ใต้ร่มชายคาของข้าพเจ้า (ปฐก. 19:8) กลุ่มชายฉกรรจ์ยืนกรานในความต้องการเดิมและพยายามพังประตูเข้าไป จบท้ายด้วยทูตสวรรค์ดึงตัวโลทเข้าไปในบ้านและทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์ตาบอด
เหนือสิ่งอื่นใด ในการตีความเราต้องตีกรอบอยู่ในเรื่องราวของสถานการณ์ทั้งหมด สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นรูปแบบหนึ่งของการข่มขืน กลุ่มชายฉกรรจ์ต้องการที่จะกระทำชำเรา หรือ “รุมโทรม” ทูตสวรรค์ สถานการณ์นี้เชื่อมโยงกับการใช้กำลังอันน่าหวั่นวิตก หลายความเห็นอ้างว่าการที่โลทเสนอลูกสาวทั้งสองให้แทนทูตสวรรค์ (บุรุษเพศ) นั้นแสดงว่า การมีเพศสัมพันธ์แบบ Homosexual นั่นร้ายแรงกว่าการมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม (ในบริบทว่า การมีเพศสัมพันธ์นอกการสมรส: ผู้แปลอธิบาย) กระนั้นโลทกลับให้เหตุผลของการกระทำนั้นว่า เพียงแต่อย่ากระทำอะไรแก่ชายเหล่านี้เลย เพราะเหตุว่าพวกเขาเหล่านี้เข้ามาอยู่ใต้ร่มชายคาของข้าพเจ้า (ปฐก. 19:8) ในปัจจุบันนั้นข้อความดังกล่าวไม่อาจเป็นที่เข้าใจได้ แต่ในยุคสมัยของโลทนั้น การให้ความดูแลผู้อื่น (Hospitality) อาจถือได้ว่า เป็นมโนคติที่ศักดิ์สิทธิ์ (Sacred Concept) และนั่นเป็นการสร้างความแตกต่าง (Distinction) จากคำกว่าของโลทในลักษณะที่ว่า ผู้มาเยือนนั้นเป็นแขกของตน
อย่างไรก็ตาม หากยอมรับว่าการสร้างความแตกต่าง (Distinction) เป็นมาด้วยเพศ เราอาจได้ข้อสรุปเดียวว่า การข่มขืนทูตสวรรค์แบบ Homosexual ย่อมเลวร้ายกว่าการข่มขืนเพศเดียวกัน การใช้เรื่องราวนี้เพื่อประณามความรัก และคู่รักแบบ Homosexual จึงเป็นการอธิบายที่ไม่ตรง และอยู่นอกเหนือโครงร่างทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นรูปแบบการอธิบายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ดังที่ เจฟฟรี่ เอส ซิลเกอร์ อ้างอิงถึงการบิดเบือนของเนื้อหานี้ในงานเขียนของเขาชื่อ เทววิทยาวันนี้ ว่า “บาปของการเป็นชู้ของดาวิดกับนางบัทเชบาไม่ได้ทำให้การมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม (ในบริบทว่า การมีเพศสัมพันธ์นอกการสมรส: ผู้แปลอธิบาย) เป็นความผิดบาป
สิ่งที่น่าสนใจที่ (ไม่) เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์
1 โครินธ์ 6:9
(KJVA) Know ye not that the unrighteous shall not inherit the kingdom of God? Be not deceived: neither fornicators, nor idolaters, nor adulterers, nor effeminate, nor abusers of themselves with mankind,
(TKJV) ท่านไม่รู้หรือว่าคนอธรรมจะไม่ได้รับอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก อย่าหลงเลย คนล่วงประเวณี คนถือรูปเคารพ คนผิดผัวเมียเขา คนนิสัยเหมือนผู้หญิงหรือคนที่เป็นกะเทย
(GNT-V) η ουκ οιδατε οτι αδικοι βασιλειαν θεου βασιλειαν ου κληρονομησουσιν μη πλανασθε ουτε πορνοι ουτε ειδωλολατραι ουτε μοιχοι ουτε μαλακοι ουτε αρσενοκοιται
ในปี 1508 พระคัมภีร์ฉบับวายคลิฟฟ์ที่ใช้ภาษาอังกฤษสมัยกลาง แปลคำภาษากรีก arsenokoitai (αρσενοκοιται) ใน 1โครินธ์ 6:9 ออกมาเป็นภาษาอังกฤษสมัยกลางว่า
1 โครินธ์ 6:9
(KJVA) Know ye not that the unrighteous shall not inherit the kingdom of God? Be not deceived: neither fornicators, nor idolaters, nor adulterers, nor effeminate, nor abusers of themselves with mankind,
(TKJV) ท่านไม่รู้หรือว่าคนอธรรมจะไม่ได้รับอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก อย่าหลงเลย คนล่วงประเวณี คนถือรูปเคารพ คนผิดผัวเมียเขา คนนิสัยเหมือนผู้หญิงหรือคนที่เป็นกะเทย
(GNT-V) η ουκ οιδατε οτι αδικοι βασιλειαν θεου βασιλειαν ου κληρονομησουσιν μη πλανασθε ουτε πορνοι ουτε ειδωλολατραι ουτε μοιχοι ουτε μαλακοι ουτε αρσενοκοιται
ในปี 1508 พระคัมภีร์ฉบับวายคลิฟฟ์ที่ใช้ภาษาอังกฤษสมัยกลาง แปลคำภาษากรีก arsenokoitai (αρσενοκοιται) ใน 1โครินธ์ 6:9 ออกมาเป็นภาษาอังกฤษสมัยกลางว่า
เปล่าจ้า เป็นงานศึกษา ที่นั่งแปลไว้เฉยๆnecromancer เขียน: ทำวิทยานิพนธ์เรื่องนี้เลยฮะ
เป็นการเพิ่มพูนความรู้
![]()
ที่ทำอยู่ตอนนี้เรื่อง การเบียดเบียนศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในประเทศไทยในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม
คำสำคัญ: arsenokoitai (αρσενοκοιται)
1 ทิโมธี 1:10
(KJVA) For whoremongers, for them that defile themselves with mankind, for menstealers, for liars, for perjured persons, and if there be any other thing that is contrary to sound doctrine;
(TKJV) คนล่วงประเวณี พวกกะเทย ผู้ร้ายลักคน คนโกหก คนทวนสบถ และอะไรๆที่ขัดกับคำสอนอันถูกต้อง
(GNT-V) πορνοις αρσενοκοιταις ανδραποδισταις ψευσταις επιορκοις και ει τι ετερον τη υγιαινουση διδασκαλια αντικειται
คำนามนี้ถูกสร้างขึ้นจากการรวมกันของคำคุณศัพท์อุปสรรคหน้าในภาษากรีก (Adjectival Prefix) ของคำว่า ผู้ชาย (arseno-,αρσενο) และคำภาษากรีกว่า เตียงนอน (koitai, κοιται) ในรูปพหูพจน์ ตามศัพท์แล้วจะถอดรูปออกมาได้เป็น Male Beds ซึ่งพบใน 1 ทิโมธี 1:10 และ 1 โครินธ์ 6:9 และเป็นเพียง 22 ส่วนในพระคัมภีร์ที่เป็นภาษากรีก และไม่ปรากฏในบทอื่นๆ อีกเลย
ความหมายของคำว่า arsenokoitai ใน 1 ทิโมธี 1:10 และ 1 โครินธ์ 6:9 ยังคงเป็นที่ถกเถียงเนื่องจากความคลุมเครือของคำ และการขาดแหล่งศึกษาภายนอกที่จะให้ความกระจ่างในความหมายของมัน จึงทำได้เพียงสร้างความหมายจากเนื้อหาที่มี
ตอนที่ 2: 1 ทิโมธี 1: 8-10
1 ทิโมธี 1:10
(KJVA) For whoremongers, for them that defile themselves with mankind, for menstealers, for liars, for perjured persons, and if there be any other thing that is contrary to sound doctrine;
(TKJV) คนล่วงประเวณี พวกกะเทย ผู้ร้ายลักคน คนโกหก คนทวนสบถ และอะไรๆที่ขัดกับคำสอนอันถูกต้อง
(GNT-V) πορνοις αρσενοκοιταις ανδραποδισταις ψευσταις επιορκοις και ει τι ετερον τη υγιαινουση διδασκαλια αντικειται
คำนามนี้ถูกสร้างขึ้นจากการรวมกันของคำคุณศัพท์อุปสรรคหน้าในภาษากรีก (Adjectival Prefix) ของคำว่า ผู้ชาย (arseno-,αρσενο) และคำภาษากรีกว่า เตียงนอน (koitai, κοιται) ในรูปพหูพจน์ ตามศัพท์แล้วจะถอดรูปออกมาได้เป็น Male Beds ซึ่งพบใน 1 ทิโมธี 1:10 และ 1 โครินธ์ 6:9 และเป็นเพียง 22 ส่วนในพระคัมภีร์ที่เป็นภาษากรีก และไม่ปรากฏในบทอื่นๆ อีกเลย
ความหมายของคำว่า arsenokoitai ใน 1 ทิโมธี 1:10 และ 1 โครินธ์ 6:9 ยังคงเป็นที่ถกเถียงเนื่องจากความคลุมเครือของคำ และการขาดแหล่งศึกษาภายนอกที่จะให้ความกระจ่างในความหมายของมัน จึงทำได้เพียงสร้างความหมายจากเนื้อหาที่มี
ตอนที่ 2: 1 ทิโมธี 1: 8-10
ไม่รู้เรื่องเดียวกันไหม
เกย์ และ ไบเซกชวล
ถ้าไม่มีท่าทางแสดงออกมาแต่ใจเป็นบาปไหม
แล้วถ้าแสดงออกมาแต่ไม่มีเพศสัมพันธ์ บาปไหม
เกย์ และ ไบเซกชวล
ถ้าไม่มีท่าทางแสดงออกมาแต่ใจเป็นบาปไหม
แล้วถ้าแสดงออกมาแต่ไม่มีเพศสัมพันธ์ บาปไหม
-
- โพสต์: 574
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
- ติดต่อ:
อึ๋ย !!! และยังงี้จะหวังอีกอะป่าวอะ ?
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เป็นเกย์ไม่บาปครับ ไม่ว่าแสดงออกหรือไม่ แต่การใช้เพศสัมพันธ์ก่อนรับศีลสมรสบาปหมดครับGray Cat Mobster เขียน: ไม่รู้เรื่องเดียวกันไหม
เกย์ และ ไบเซกชวล
ถ้าไม่มีท่าทางแสดงออกมาแต่ใจเป็นบาปไหม
แล้วถ้าแสดงออกมาแต่ไม่มีเพศสัมพันธ์ บาปไหม

อ่อ...ดีจริงEdwardius เขียน:เปล่าจ้า เป็นงานศึกษา ที่นั่งแปลไว้เฉยๆnecromancer เขียน: ทำวิทยานิพนธ์เรื่องนี้เลยฮะ
เป็นการเพิ่มพูนความรู้
![]()
ที่ทำอยู่ตอนนี้เรื่อง การเบียดเบียนศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในประเทศไทยในสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม
ได้ทำเรื่องที่เราสนใจเป็นพิเศษได้ขนาดนั้น
- BloodSweatAndTearz
- โพสต์: 254
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 27, 2007 12:49 pm
- ติดต่อ:
รักแห่งสยาม มั้งพี่ คุ้นๆnecromancer เขียน:anhaiice เขียน: อึ๋ย !!! และยังงี้จะหวังอีกอะป่าวอะ ?
:huh: :huh: :huh:

อ่าช่วยสรุปได้มะครับผมอ่านแล้ว กงก่ง งง จังเลยครับ แต่เข้าใจหลักแล้วละเรื่อง ทุศีลสมรส แต่ เรื่อง ตีความนิ งงๆ