

ข้าพเจ้าตั้งชื่อกระทู้เช่นนี้เพื่อสะกิดต่อมอยากรู้อยากเห็นของผู้ที่เข้ามาอ่านเท่านั้น อิ อิ
แต่เรื่องที่ข้าพเจ้าจะเล่านั้นก็เกี่ยวกับขนมหวานแสนอร่อยของไทยที่ชื่อ "ขนมชั้น"
มีอยู่วันหนึ่งในขณะที่ข้าพเจ้ากำลังนั่งรถเมล์ไปมหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก รถเมล์กำลังจอดติดไฟแดงบนสะพานเหนือคลองแสนแสบแถวๆตลาดบางกะปิ ข้าพเจ้ากำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ (อย่ามาถามว่าคิดอะไรอยู่ เพราะลืมไปแล้วเหมือนกันว่ากำลังเพลินอยู่กับความคิดเรื่องใด

โอว...ผู้ชายหน้าโหดคนหนึ่ง เอามือล้วงเข้าไปในถุงก๊อบแก๊บที่วางบนตัก ขยุ้มขยำเหมือนจะพยายามหยิบอะไรออกมาสักอย่าง พร้อมกับเสียงกรอบๆแกรบๆของการขยำขยุ้มถูกถุงก๊อบแก๊บ คำตอบก็เฉลยออกมาว่าที่กระทาชายนายนั้นหยิบออกมาก็คือ ถุงบรรจุขนมชั้นสีเขียวน่ารับประทาน ข้าพเจ้ามั่นใจว่าขนมชั้นดังกล่าว พี่แกก็คงซื้อหามาจากตลาดบางกะปินั่นแหละ ข้าพเจ้าจับจ้องดูอย่างสนอกสนใจ สอดรู้สอดเห็น อยากรู้ว่ากระทาชายนายนั้นจะทำอะไรกับขนมชั้นชิ้นนั้น เพราะข้าพเจ้าก็เป็นคนหนึ่งที่โปรดปรานขนมชั้นมาก นัยหนึ่ง ข้าพเจ้าก็ลุ้นว่าตานั่นจะโยนขนมชั้นมาเจือจานหมูน้อยเพื่อนยากอย่างข้าพเจ้ากินร่วมเป็นกุศลกรรมกับเขาด้วยหรือไม่ การณ์กลับเป็นว่าพี่ท่านบรรจงเปิดปากถุงพลาสติกใสที่ใส่ขนมชั้นนั้น แล้วเอาปากงับลงไป เห็นหน้าโหดๆอย่างนั้น ข้าพเจ้านึกว่าพี่แกจะงับแล้วกระเดือกลงคอไปรวดเดียวหมดชิ้น แต่ที่ไหนได้ พี่แกแบ่งกินทีละครึ่ง โดยลอกออกมากินก่อนครึ่งหนึ่ง แล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย แล้วจึงกินที่เหลือ โอโห กินอย่างมีศิลปะเสียด้วย จริงๆ ถ้าจะให้ดีเด็ดกว่านี้ ต้องกินแบบประเพณีนิยม ลอกกินทีละชั้นๆ จึงจะได้อารมณ์หอมหวานของขนมชั้นถึงกึ๋น
ข้าพเจ้าได้ข้อคิดว่า ดูคนที่หน้าไม่ได้ แม้หน้าจะโหด แต่อาจจิตใจดี และแม้หน้าจะโหด ก็หิวเป็นเหมือนกัน และแม้หน้าจะโหด แต่ก็รักที่จะกินของอร่อยเหมือนคนหน้าตาอิ่มบุญ และแม้หน้าจะโหด ก็กินอาหารอย่างมีศิลป์ได้เหมือนกัน
ดูคนอย่าดูที่ภายนอก แต่ให้ดูที่ภายใน พระเจ้าก็ทอดพระเนตรมองพวกเราที่ภายในเช่นกัน พระคัมภีร์ว่าไว้


