นี่เป็นบทเทศน์ของคุณพ่อมาร์เซล โนลท์ สำหรับพระสังฆราชที่มาประชุมกันที่ฟาติมาประเทศปอร์ตุเกส
เมื่อข้าพเจ้าได้รับเชิญให้มาเทศน์ ข้าพเจ้าจำพระวาจาของพระคริสตเจ้าที่ว่า: "พระจิตเจ้าจะตรัสในท่านและโดยท่าน" และเมื่อข้าพเจ้านึกถึงภาพอัครสาวกประกาศศาสนา ข้าพเจ้าไม่คิดว่าเขาทั้งหลายเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่งพร้อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องขยายเสียง เครื่องอัดเสียง ตู้เอกสาร เขาทั้งหลายไปเทศนาและปล่อยให้พระจิตเจ้าเป็นผู้พูด เพราะพระจิตเจ้าเป็นองค์ที่ทรงเปลี่ยนใจคนบาป ข้าพเจ้าวางใจในพระปรีชาญาณและความเข้มแข็งของพระจิตเจ้า
ทุกหนทุกแห่งข้าพเจ้าเทศน์เรื่องสารของพระแม่แห่งฟาติมา ข้าพเจ้าจะเทศน์อะไร? ข้าพเจ้าเทศน์สิ่งที่ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ข้าพเจ้าเทศน์สิ่งที่เป็นคำสั่งสอนที่สำคัญที่สุดของพระเยซูเจ้า และเมื่อพระเยซูคริสตเจ้าได้เสด็จมาในโลก พระองค์ได้เสด็จมาด้วยเหตุผลอันเดียว คือ การกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก
นักบุญยอห์นคริสโซสทม บิดาที่รักยิ่งของพระศาสนจักร ชอบพูดและเล่าซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า พระเยซูเจ้าทรงเทศน์ข้อความเชื่อคาทอลิกเกี่ยวกับนรกมากกว่าเรื่องอื่นๆ
บางคนพูดว่าเทศน์เรื่องสวรรค์ดีกว่า ข้าพเจ้าเชื่อว่าคนยิ่งรำพึงถึงข้อความเชื่อ ซึ่งเราเรียกว่านรก มากเท่าใด การรำพึงนั้นยิ่งผลิดอกออกผลแห่งการกลับใจมากเท่านั้น
นักบุญเบเนดิก ผู้ตั้งคณะเบเนดิกติน อยู่ที่กรุงโรมและพระจิตเจ้าได้บอกเขาว่า: "ท่านกำลังจะสูญเสียวิญญาณของท่าน" เขาได้ออกจากโรมและเข้าไปอยู่ในที่เปลี่ยว เพื่อรำพึงข้อความต่างๆในพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ เขาได้รำพึง สวดภาวนา และใช้โทษบาป และพระจิตเจ้าได้ดลใจให้ฝูงชนมาฟังเขาเทศนา ความศักดิ์สิทธิ์ดึงดูดวิญญาณ
ทำไมนักบุญออกัสตินได้เปลี่ยนชีวิตของเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือ? เพราะความกลัวนรก ข้าพเจ้าเทศน์บ่อยๆถึงนรก เพราะพระเยซูเจ้าและพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเราได้ขอให้ข้าพเจ้าเทศน์เรื่องนรกและเมื่อข้าพเจ้าเทศน์เกี่ยวกับนรก ท่านรู้สึก ท่านทราบว่าข้าพเจ้าเชื่อมั่นในความจริง เรื่องนรก ซึ่งเราเรียกว่า ข้อความเชื่อของพระศาสนาโรมันคาทอลิก
พระสันตะปาปาปิโอที่ 9 ผู้ซึ่งได้ประทานแก่เรา ข้อความเชื่อของพระศาสนาโรมันคาทอลิก: การปฏิสนธินิรมลทินของพระนางพรหมจารีมารีอา พระองค์ได้มอบหลักธรรมแก่เรา และทรงขอร้องนักเทศน์ทั้งหลายให้เทศน์เรื่องนรกบ่อยๆ และเทศน์เรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ
การนึกถึงนรกทำให้คนกลายเป็นนักบุญ น่าพิศวง นักบุญทั้งหลายกลัวตกนรก ท่านคูรีแห่งอาร์ก็กลัวตกนรก นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซูก็กลัวตกนรก นักบุญไซมอนสต๊อก อธิการใหญ่ของพระสงฆ์นักบวชคณะคาร์เมลได้ยืนยันว่า พระสงฆ์ของเขายังกลัวตกนรก ถึงแม้เขาทั้งหลายถือศีลอดอาหาร สวดภาวนา และดำรงชีวิตทิ้งความสุขสบายของโลกโดยสิ้นเชิง
พระนางมารีอา พระแม่แห่ภูเขาคาร์เมล ได้ประจักษ์แก่นักบุญไซมอนสต๊อก และตรัสกับเขาว่า: "จงอย่ากลัวอีกต่อไป แม่จะให้เสื้อพิเศษแก่นักบวชคณะคาร์เมล ทุกคนที่ตายสวมเสื้อนี้จะไม่ตกนรก"
ข้าพเจ้าสวมเสื้อจำพวกสีน้ำตาลข้างในเสื้อหล่อของข้าพเจ้า และยังมีเสื้อจำพวกอีกอันในกระเป๋ากางเกง เพราะข้าพเจ้าไม่ทราบว่า เมื่อไรคนจะมาเรียกข้าพเจ้าไปเทศน์ และเมื่อข้าพเจ้าเทศน์ ข้าพเจ้าก็เทศน์เรื่องการสวดลูกประคำและสวมเสื้อจำพวก
พระนางมารีอาได้ตรัสว่า: "โดยการสวดลูกประคำและสวมเสื้อจำพวก แม่จะกอบกู้โลก"
ไม่มีใครสามารถเทศนาได้ดีหมดทุกเรื่อง แต่พระเยซูเจ้าได้เชื้อเชิญข้าพเจ้าเทศน์เรื่องนรก มงซิงเญอร์องค์หนึ่งได้แนะนำข้าพเจ้าว่า: "มาร์เซล อย่าเทศน์เรื่องนรกเลย คนไม่ชอบฟังเรื่องนี้ เธอทำให้เขาทั้งหลายตกใจกลัว" และในฐานะเป็นเพื่อนกัน มงซิงเญอร์ได้บอกข้าพเจ้าว่า: "มาร์เซล ฉันไม่เคยเทศน์เรื่องนรก ดูตำแหน่งของฉัน ฉันไม่ควรเทศน์เรื่องนี้เด็จขาด"
หลังจากนิ่งเงียบชั่วครู่หนึ่ง ข้าพเจ้าได้จ้องมองหน้าท่านและพูดว่า: "มงซิงเญอร์, ท่านเดินบนถนนตรงไปนรกชั่วนิรันดร ท่านเทศน์เพื่อเอาใจสัตบุรุษ แทนที่ เอาพระทัยพระคริสตเจ้า"
ในพระคัมภีร์เก่า เมื่อพระเป็นเจ้าได้ส่งประกาศกมายังประชากรของพระองค์ พระองค์ต้องการตักเตือนเขาทั้งหลายให้หันกลับมาหาความจริง และความศักดิ์สิทธิ์ พระเยซูเจ้าได้เสด็จมา และเทศนา พระองค์ได้ส่งอัครสาวกของพระองค์เข้าไปในโลก เพื่อเทศน์พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
เจ้างูยักษ์ได้มาหว่านข้อความเชื่อที่มีพิษเป็นภัยอันตรายต่อความรอดของวิญญาณ และพระเยซูเจ้าได้ตัดสินพระทัยส่งพระมารดาสุดที่รักของพระองค์ พระราชินีแห่งประกาศก มายังโลกเพื่อทำลายความเชื่ออันชั่วร้ายของมัน ที่ต้องการทำให้พระศาสนจักรปั่นป่วน และบิดาของพระศาสนจักรได้เรียกมารดาพระเจ้าว่า ค้อนซึ่งทุบความเชื่อที่บ่อนทำลายพระศาสนจักรให้แหลกละเอียด
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 1917 พระนางมารีอาได้เสด็จมาที่ฟาติมาในฐานะประกาศกจากที่สูงสุด เพื่อกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก พระแม่ได้ปล่อยพระหัตถ์ 2 ข้างลง และทันใดนั้นเอง เด็ก 3 คนได้เห็นเหว ลึกลงไปในพื้นดิน
ลูซีอาบอกว่า เหวนั้นเป็นทะเลพระเพลิง ที่ซึ่งเธอได้เห็นรูปร่างมนุษย์ชายหญิงกำลังตะโกนร้องไห้อย่างหมดหวัง และผีปิศาจในรูปของสัตว์น่าเกลียดอย่างที่สุด ภาพที่เห็นนี้ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก จนเด็กๆเกือบจะขาดใจตาย ด้วยความตกใจกลัวอย่างสุดขีด
และพระนางมารีอาได้ตรัสกับเด็ก 3 คนว่า: "ลูกได้เห็นนรกแล้ว ที่ซึ่งวิญญาณของคนบาปน่าสงสารได้ตกลงไป" ทุกครั้งที่ ลูก สวดลูกประคำ จงสวดบทภาวนานี้หลังแต่ละทศ:
"ข้าแต่พระเยซูเจ้า
โปรดอภัยบาปของเรา
โปรดช่วยเราให้พ้นจากไฟนรก
โปรดนำวิญญาณทั้งมวลสู่สวรรค์
โดยเฉพาะ วิญญาณที่ต้องการพระเมตตาของพระองค์มากที่สุด
พระเจ้าข้า"
พระนางมารีอาได้เสด็จมาที่ฟาติมาเพื่อกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก ท่านคูรีแห่งอาร์ องค์อุปถัมภ์พระสงฆ์เจ้าวัด ชอบเทศน์เสมอๆว่า ความเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ที่สุดต่อเพื่อนมนุษย์ คือ การกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก วันหนึ่งเมื่อท่านฟังแก้บาปในวัดหลังเล็ก ปิศาจได้มาปรากฏตัวในรูปร่างของมนุษย์ผู้ชาย กำลังโมโหอย่างฉุนเฉียว และตะโกนดังลั่นว่า: "ข้าเกลียดแก, ข้าเกลียดแก เพราะแกได้ขโมยวิญญาณ 85,000 ดวงจากอุ้งมือของข้า"
พระคุณเจ้าที่เคารพรัก พระคาร์ดินัล และ เราพระสงฆ์ เมื่อเราปรากฎตัวหน้าบัลลังก์ยุติธรรมในวันพระพิพากษา พระเยซูเจ้าจะทรงถามเราว่า: "เราได้ให้ท่านเป็นพระสงฆ์ พระสังฆราช พระคาร์ดินัล พระสันตะปาปา ท่านได้กอบกู้วิญญาณกี่ดวง? ท่านได้ช่วยวิญญาณกี่ดวงรอดพ้นจากนรก?"
ท่านคูรีแห่งอาร์ได้กอบกู้วิญญาณกว่า 85,000 ดวง เราได้กอบกู้วิญญาณกี่ดวง? เมื่อท่านอ่านเกี่ยวกับบิดาและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร นักบุญทั้งหลาย ท่านจะประทับใจอยู่สิ่งเดียว คือ เขาทุกคนเทศน์พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า สวรรค์ ไฟชำระ และไม่เคยพลาดที่จะเทศน์เรื่องนรก ข้อความเชื่อของพระศาสนาโรมันคาทอลิก
จงอ่านเกี่ยวกับบิดาและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร พระสงฆ์ อัครสาวกของพระเยซูคริสตเจ้า เขาทั้งหลายเทศน์เรื่องนรก ข้อความเชื่อของพระศาสนาคาทอลิก เพราะเมื่อเรารำพึงถึงนรก เราจะกลายเป็นนักบุญ
ข้าพเจ้าไม่ต้องการวิพากวิจารณ์พระสังฆราช แต่ข้าพเจ้าสลดใจมาก ในการเป็นพระสงฆ์มา 30 ปีข้าพเจ้าไม่เคยได้ยินพระสังฆราชแม้แต่องค์เดียว พระสังฆราชของข้าพเจ้า หรือองค์อื่นๆ เทศน์เรื่องนรก ข้อความเชื่อของพระศาสนาโรมันคาทอลิก ข้าพเจ้าคิดว่า ในประเทศอินเดียและที่อื่นๆ พระสังฆราชเทศน์เรื่องนรก แต่ในประเทศอเมริกา เราจะไม่เทศน์เรื่องนี้
ให้เราเทศน์ เพื่อกอบกู้วิญญาณ ไม่ใช่ เพื่อเอาใจผู้ฟัง
ในหลายสังฆมลทล ข้าพเจ้าได้ยินพระสังฆราชสวดลูกประคำ แต่ท่านทั้งหลายไม่ยอมสวดบทภาวนาเล็กๆของฟาติมาหลังแต่ละทศ เพราะว่า "คนไม่ชอบสวดบทนั้น"
เราเทศน์ในวัดไม่ใช่เพื่อเอาใจสัตบุรุษ แต่เพื่อกอบกู้วิญญาณ ไม่ให้เขาทั้งหลายตกนรกชั่วนิรันดร ข้าพเจ้าคิดว่าบทภาวนาเล็กๆ ที่พระแม่แห่งฟาติมาได้ประทานแก่เด็กๆเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 1917 เป็นบทภาวนาที่ทรงฤทธานุภาพ และสบพระทัยพระเป็นเจ้ายิ่งกว่าการรำพึงอย่างอื่น การรำพึงที่เราพระสงฆ์บันทึกไว้หรืออ่านออกเสียงเป็นสิ่งที่ดีงาม แต่ท่านทราบไหมว่า หลังแต่ละทศ มีบทรำพึงอะไรที่ทรงฤทธานุภาพ และศักดิ์สิทธิ์กว่าบทภาวนาของพระแม่แห่งฟาติมา? กรุณาสวดบทนั้น หลังแต่ละทศ ข้าพเจ้าเทศน์เรื่องนรกบ่อย เพื่อนรัก ท่านได้เล่าเรียนคำสอน ท่านได้รับพระพรจากพระเป็นเจ้า สำหรับข้าพเจ้า พระเยซูเจ้าต้องการข้าพเจ้า พระเยซูเจ้าขอร้องข้าพเจ้า พระเยซูอ้อนวอนข้าพเจ้า พระแม่แห่งฟาติมาอ้อนวอนข้าพเจ้าให้เทศน์เรื่องนรก
มีการเปิดเผยหลายสิ่งหลายอย่างในหนังสือศักดิ์สิทธิ์ และ โดยคำบัญชาจากพระเป็นเจ้า วิญญาณบางดวงในนรกได้มาพูดเพื่อช่วยเราให้มีความเชื่อมั่นคงยิ่งขึ้น และวิญญาณเหล่านั้นได้พูดว่า: "เรายอมอยู่ในนรกหนึ่งพันปี เรายอมอยู่ในนรกหนึ่งล้านปี ถ้าเรารู้ว่าวันหนึ่งเราสามารถออกจากนรกได้"
แต่ เพื่อนรัก เราจะต้องไม่เพียงรำพึงถึงการที่จะได้เห็นพระเป็นเจ้าในสวรรค์เท่านั้น เราจะต้องรำพึงถึงนรกชั่วนิรันดรด้วย ข้าพเจ้าได้ยินพระสงฆ์องค์หนึ่งในงานชุมนุมศาสนามีฆราวาสประมาณ 10,000 คนและพระสงฆ์ 300 องค์เข้าประชุม เขาได้เทศน์ว่า: "เพื่อนรัก พระเป็นเจ้าเป็นองค์ความรัก พระ องค์ทรงเมตตากรุณา และท่านจะได้เห็นพระเมตตาอันไม่มีขอบเขตของพระองค์ในวันโลกสิ้นพิภพ พระองค์จะปลดปล่อยวิญญาณทั้งมวลออกจากนรก"
นี่เป็นข้อความเชื่อที่ขัดกับการสั่งสอนของพระศาสนจักร พระสังฆราชก็ไม่ได้เอาพระสงฆ์องค์นั้น ออกจากการเทศน์ทันที แต่ยังอนุญาตให้เขาเทศนาต่อไปอย่างผิดข้อความเชื่อ ด้วยสติปัญญาอันเล็กน้อยของมนุษย์ เรายึดมั่นใน "หลักเหตุผลทางปรัชญาอันเล็กน้อยของเรา" พระเป็นเจ้าเป็นองค์ความรัก พระเป็นเจ้า คือ พระบิดาของเราผู้เปี่ยมด้วยความรัก พระองค์จะเอาปีเตอร์ตัวกระจ้อยร่อย โยนเข้าเตาไฟนรกได้อย่างไร? ทำไมการกระทำแบบนั้นจึงเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระเป็นเจ้า ผู้ซึ่งเป็นองค์ความรัก?
ท่านได้ยินการหลงผิดในข้อความเชื่อชนิดนี้กี่ครั้งแล้ว? เพื่อนรัก นรกมีจริง นรกเป็นอยู่ชั่วนิรันดร ข้าพเจ้าก็ตกนรกได้ ท่านก็ตกนรกได้ ถ้าพระเป็นเจ้าได้ทรงเรียกข้าพเจ้าไปรับรางวัลนิรันดรเมื่อหลายปีมาแล้ว ข้าพเจ้าคงได้อยู่ในนรกนานแล้ว ร้องไห้เศร้าโศกเสียใจ ส่งเสียงร้อง ไม่ใช่แค่หนึ่งล้านปี หรือหนึ่งพันล้านปี แต่ตลอดกาล
เพื่อแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อพระตรีเอกภาพ และพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเรา ข้าพเจ้าไปแก้บาปทุกสัปดาห์ ข้าพเจ้าสวดลูกประคำ 15 ทศและรำพึงถึงภาคลึกลับศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ต่างๆทุกวัน ข้าพเจ้าสวดบทภาวนาประจำวันของพระสงฆ์ ข้าพเจ้าสวมเสื้อจำพวกสีน้ำตาล และเทศน์เรื่องการสวดลูกประคำและสวมสายจำพวกให้ทุกคนฟัง ข้าพเจ้าเทศน์ให้พระสังฆราชฟัง เหมือนให้สัตบุรุษฟัง เพราะพระสังฆราชก็มีวิญญาณที่ต้องกอบกู้เช่นเดียวกัน
พระเยซูเจ้าได้เลือกสรรเราและแต่งตั้งเราเป็นพระสงฆ์ด้วยเหตุผลอันเดียวเท่านั้น เพื่อถวายเครื่องบูชาแด่พระบิดาเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ และกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก เมื่อข้าพเจ้าเทศน์ในการเข้าเงียบประจำปีของวัด ข้าพเจ้าจะจบการเทศน์ด้วยเรื่องนรก
ความศรัทธาต่อการสวดลูกประคำเป็นสัญลักษณ์แห่งการเลือกสรรของเบื้องบน
ข้าพเจ้าไม่ศักดิ์สิทธิ์ ข้าพเจ้าจึงสวดลูกประคำ สวมสายจำพวกสีน้ำตาล สวดบทภาวนาประจำวันของพระสงฆ์สัปดาห์ละ 7 วัน ถวายมิสซาทุกวัน แก้บาปทุกอาทิตย์ และหวังว่า (ข้าพเจ้ายังไม่แน่ใจ ไม่มีใครแน่ใจ) จะได้ไปสวรรค์ ไม่มีใครแน่ใจนอกจากว่าคนนั้นได้รับการเผยจากพระเป็นเจ้า ทำไมเราไม่วางใจในทุกสิ่งที่พระแม่แห่งฟาติมาได้ประทานแก่เรา: "ความศรัทธาต่อการสวดลูกประคำของแม่ เป็นสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่แห่งการเลือกสรรของเบื้องบน"?
พระนางได้ประทานแก่เราหลักประกันอีกอย่างหนึ่งว่า: "ใครที่ตายสวมเสื้อนี้จะไม่ทรมานในไฟชั่วนิรันดร" ถ้าพระสังฆราชแค่องค์เดียวในกลุ่มของท่าน ที่ได้มาที่ฟาติมา และกลับไปยังสังฆมลทลของท่านและวิงวอนประชากรของท่าน: "ข้าพเจ้าเป็นพระสังฆราชของท่าน ข้าพเจ้าอยู่นี่เพื่อ กอบกู้วิญญาณของท่านให้พ้นจากนรก โปรดยอมรับ ฟัง และรำพึงถึง คำสั่งสอนของข้าพเจ้า ในวันนี้ และพระสงฆ์ของข้าพเจ้า โปรดเลียนแบบพระสังฆราชของท่าน จงเทศน์เรื่องนรก"
ถ้าท่านเพียงทำสิ่งนี้ ท่านก็จะทำกิจเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่แห่งชีวิตสงฆ์ของท่าน เป็นการบรรลุผลงานของพระสังฆราช
จงเทศน์เรื่องนรก แล้วพระเยซูเจ้าจะอวยพระพรท่าน พระองค์จะให้อภัยความอ่อนแอของท่าน พระองค์จะให้อภัยบาปของท่านถ้าท่านเทศน์เรื่องนรก โดยการเทศน์เรื่องนรก ท่านจะทำกิจเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่เพราะสัตบุรุษที่ฟังท่านเทศน์จะมีความเชื่อ เขาทั้งหลายจะเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ และจะไปแก้บาป
นักบุญไปแก้บาป, นักบุญไปแก้บาป! และคนที่ไปแก้เสมอๆกลายเป็นนักบุญ
หมายเหตุ: บทเทศน์นี้ทำให้เรานึกถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ ขณะพระองค์แขวนอยู่บนไม้กางเขนด้วยตะปู 3 ตัว บนพระเศียรมีมงกุฎหนาม บนพระกายจากพระเศียรจดปลายพระบาทเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและบาดแผล หลายคนที่เดินผ่านไปได้สบประมาทพระองค์ คนหนึ่งได้พูดจาเยาะเย้ยว่า: "พระองค์ได้ช่วยคนอื่นให้รอด แต่พระองค์ทรงช่วยตัวเองไม่รอด" เป็นคำพูดที่นักบวชทั้งหลายรวมทั้งฆราวาสด้วย โดยเฉพาะผู้ซึ่งทำงานกอบกู้วิญญาณ ควรรำพึงบ่อยๆ แล้วท่านทั้งหลายจะได้เจริญชีวิตในความศักดิ์สิทธิ์ และนำวิญญาณหลายๆดวงมาถวายแด่องค์พระคริสตเจ้า รวมทั้งวิญญาณของท่านด้วย
(2) นรกมีจริง และเราอาจจะต้องไปที่นั่น
นี่เป็นบทเทศน์ของคุณพ่อมาร์เซล โนลท์ สำหรับพระสังฆราชที่มาประชุมกันที่ฟาติมาประเทศปอร์ตุเกส
เมื่อข้าพเจ้าได้รับเชิญให้มาเทศน์ ข้าพเจ้าจำพระวาจาของพระคริสตเจ้าที่ว่า: "พระจิตเจ้าจะตรัสในท่านและโดยท่าน" และเมื่อข้าพเจ้านึกถึงภาพอัครสาวกประกาศศาสนา ข้าพเจ้าไม่คิดว่าเขาทั้งหลายเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่งพร้อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องขยายเสียง เครื่องอัดเสียง ตู้เอกสาร เขาทั้งหลายไปเทศนาและปล่อยให้พระจิตเจ้าเป็นผู้พูด เพราะพระจิตเจ้าเป็นองค์ที่ทรงเปลี่ยนใจคนบาป ข้าพเจ้าวางใจในพระปรีชาญาณและความเข้มแข็งของพระจิตเจ้า
ทุกหนทุกแห่งข้าพเจ้าเทศน์เรื่องสารของพระแม่แห่งฟาติมา ข้าพเจ้าจะเทศน์อะไร? ข้าพเจ้าเทศน์สิ่งที่ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ข้าพเจ้าเทศน์สิ่งที่เป็นคำสั่งสอนที่สำคัญที่สุดของพระเยซูเจ้า และเมื่อพระเยซูคริสตเจ้าได้เสด็จมาในโลก พระองค์ได้เสด็จมาด้วยเหตุผลอันเดียว คือ การกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก
นักบุญยอห์นคริสโซสทม บิดาที่รักยิ่งของพระศาสนจักร ชอบพูดและเล่าซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า พระเยซูเจ้าทรงเทศน์ข้อความเชื่อคาทอลิกเกี่ยวกับนรกมากกว่าเรื่องอื่นๆ
บางคนพูดว่าเทศน์เรื่องสวรรค์ดีกว่า ข้าพเจ้าเชื่อว่าคนยิ่งรำพึงถึงข้อความเชื่อ ซึ่งเราเรียกว่านรก มากเท่าใด การรำพึงนั้นยิ่งผลิดอกออกผลแห่งการกลับใจมากเท่านั้น
นักบุญเบเนดิก ผู้ตั้งคณะเบเนดิกติน อยู่ที่กรุงโรมและพระจิตเจ้าได้บอกเขาว่า: "ท่านกำลังจะสูญเสียวิญญาณของท่าน" เขาได้ออกจากโรมและเข้าไปอยู่ในที่เปลี่ยว เพื่อรำพึงข้อความต่างๆในพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ เขาได้รำพึง สวดภาวนา และใช้โทษบาป และพระจิตเจ้าได้ดลใจให้ฝูงชนมาฟังเขาเทศนา ความศักดิ์สิทธิ์ดึงดูดวิญญาณ
ทำไมนักบุญออกัสตินได้เปลี่ยนชีวิตของเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือ? เพราะความกลัวนรก ข้าพเจ้าเทศน์บ่อยๆถึงนรก เพราะพระเยซูเจ้าและพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเราได้ขอให้ข้าพเจ้าเทศน์เรื่องนรกและเมื่อข้าพเจ้าเทศน์เกี่ยวกับนรก ท่านรู้สึก ท่านทราบว่าข้าพเจ้าเชื่อมั่นในความจริง เรื่องนรก ซึ่งเราเรียกว่า ข้อความเชื่อของพระศาสนาโรมันคาทอลิก
พระสันตะปาปาปิโอที่ 9 ผู้ซึ่งได้ประทานแก่เรา ข้อความเชื่อของพระศาสนาโรมันคาทอลิก: การปฏิสนธินิรมลทินของพระนางพรหมจารีมารีอา พระองค์ได้มอบหลักธรรมแก่เรา และทรงขอร้องนักเทศน์ทั้งหลายให้เทศน์เรื่องนรกบ่อยๆ และเทศน์เรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ
การนึกถึงนรกทำให้คนกลายเป็นนักบุญ น่าพิศวง นักบุญทั้งหลายกลัวตกนรก ท่านคูรีแห่งอาร์ก็กลัวตกนรก นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซูก็กลัวตกนรก นักบุญไซมอนสต๊อก อธิการใหญ่ของพระสงฆ์นักบวชคณะคาร์เมลได้ยืนยันว่า พระสงฆ์ของเขายังกลัวตกนรก ถึงแม้เขาทั้งหลายถือศีลอดอาหาร สวดภาวนา และดำรงชีวิตทิ้งความสุขสบายของโลกโดยสิ้นเชิง
เนื้อหายังไม่จบ เชิญอ่านต่อใน บทเทศน์เรื่องนรก 2 เพื่อวิญญาณคุณจะได้รอด อ่านซะ
รวม บทเทศน์เรื่องนรก
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
แก้ไขล่าสุดโดย Prod Pran เมื่อ อังคาร พ.ค. 13, 2008 8:31 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
พระนางมารีอา พระแม่แห่ภูเขาคาร์เมล ได้ประจักษ์แก่นักบุญไซมอนสต๊อก และตรัสกับเขาว่า: "จงอย่ากลัวอีกต่อไป แม่จะให้เสื้อพิเศษแก่นักบวชคณะคาร์เมล ทุกคนที่ตายสวมเสื้อนี้จะไม่ตกนรก"
ข้าพเจ้าสวมเสื้อจำพวกสีน้ำตาลข้างในเสื้อหล่อของข้าพเจ้า และยังมีเสื้อจำพวกอีกอันในกระเป๋ากางเกง เพราะข้าพเจ้าไม่ทราบว่า เมื่อไรคนจะมาเรียกข้าพเจ้าไปเทศน์ และเมื่อข้าพเจ้าเทศน์ ข้าพเจ้าก็เทศน์เรื่องการสวดลูกประคำและสวมเสื้อจำพวก
พระนางมารีอาได้ตรัสว่า: "โดยการสวดลูกประคำและสวมเสื้อจำพวก แม่จะกอบกู้โลก"
ไม่มีใครสามารถเทศนาได้ดีหมดทุกเรื่อง แต่พระเยซูเจ้าได้เชื้อเชิญข้าพเจ้าเทศน์เรื่องนรก มงซิงเญอร์องค์หนึ่งได้แนะนำข้าพเจ้าว่า: "มาร์เซล อย่าเทศน์เรื่องนรกเลย คนไม่ชอบฟังเรื่องนี้ เธอทำให้เขาทั้งหลายตกใจกลัว" และในฐานะเป็นเพื่อนกัน มงซิงเญอร์ได้บอกข้าพเจ้าว่า: "มาร์เซล ฉันไม่เคยเทศน์เรื่องนรก ดูตำแหน่งของฉัน ฉันไม่ควรเทศน์เรื่องนี้เด็จขาด"
หลังจากนิ่งเงียบชั่วครู่หนึ่ง ข้าพเจ้าได้จ้องมองหน้าท่านและพูดว่า: "มงซิงเญอร์, ท่านเดินบนถนนตรงไปนรกชั่วนิรันดร ท่านเทศน์เพื่อเอาใจสัตบุรุษ แทนที่ เอาพระทัยพระคริสตเจ้า"
ในพระคัมภีร์เก่า เมื่อพระเป็นเจ้าได้ส่งประกาศกมายังประชากรของพระองค์ พระองค์ต้องการตักเตือนเขาทั้งหลายให้หันกลับมาหาความจริง และความศักดิ์สิทธิ์ พระเยซูเจ้าได้เสด็จมา และเทศนา พระองค์ได้ส่งอัครสาวกของพระองค์เข้าไปในโลก เพื่อเทศน์พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
เจ้างูยักษ์ได้มาหว่านข้อความเชื่อที่มีพิษเป็นภัยอันตรายต่อความรอดของวิญญาณ และพระเยซูเจ้าได้ตัดสินพระทัยส่งพระมารดาสุดที่รักของพระองค์ พระราชินีแห่งประกาศก มายังโลกเพื่อทำลายความเชื่ออันชั่วร้ายของมัน ที่ต้องการทำให้พระศาสนจักรปั่นป่วน และบิดาของพระศาสนจักรได้เรียกมารดาพระเจ้าว่า ค้อนซึ่งทุบความเชื่อที่บ่อนทำลายพระศาสนจักรให้แหลกละเอียด
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 1917 พระนางมารีอาได้เสด็จมาที่ฟาติมาในฐานะประกาศกจากที่สูงสุด เพื่อกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก พระแม่ได้ปล่อยพระหัตถ์ 2 ข้างลง และทันใดนั้นเอง เด็ก 3 คนได้เห็นเหว ลึกลงไปในพื้นดิน
ลูซีอาบอกว่า เหวนั้นเป็นทะเลพระเพลิง ที่ซึ่งเธอได้เห็นรูปร่างมนุษย์ชายหญิงกำลังตะโกนร้องไห้อย่างหมดหวัง และผีปิศาจในรูปของสัตว์น่าเกลียดอย่างที่สุด ภาพที่เห็นนี้ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก จนเด็กๆเกือบจะขาดใจตาย ด้วยความตกใจกลัวอย่างสุดขีด
และพระนางมารีอาได้ตรัสกับเด็ก 3 คนว่า: "ลูกได้เห็นนรกแล้ว ที่ซึ่งวิญญาณของคนบาปน่าสงสารได้ตกลงไป" ทุกครั้งที่ ลูก สวดลูกประคำ จงสวดบทภาวนานี้หลังแต่ละทศ:
"ข้าแต่พระเยซูเจ้า
โปรดอภัยบาปของเรา
โปรดช่วยเราให้พ้นจากไฟนรก
โปรดนำวิญญาณทั้งมวลสู่สวรรค์
โดยเฉพาะ วิญญาณที่ต้องการพระเมตตาของพระองค์มากที่สุด
พระเจ้าข้า"
พระนางมารีอาได้เสด็จมาที่ฟาติมาเพื่อกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก ท่านคูรีแห่งอาร์ องค์อุปถัมภ์พระสงฆ์เจ้าวัด ชอบเทศน์เสมอๆว่า ความเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ที่สุดต่อเพื่อนมนุษย์ คือ การกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก วันหนึ่งเมื่อท่านฟังแก้บาปในวัดหลังเล็ก ปิศาจได้มาปรากฏตัวในรูปร่างของมนุษย์ผู้ชาย กำลังโมโหอย่างฉุนเฉียว และตะโกนดังลั่นว่า: "ข้าเกลียดแก, ข้าเกลียดแก เพราะแกได้ขโมยวิญญาณ 85,000 ดวงจากอุ้งมือของข้า"
พระคุณเจ้าที่เคารพรัก พระคาร์ดินัล และ เราพระสงฆ์ เมื่อเราปรากฎตัวหน้าบัลลังก์ยุติธรรมในวันพระพิพากษา พระเยซูเจ้าจะทรงถามเราว่า: "เราได้ให้ท่านเป็นพระสงฆ์ พระสังฆราช พระคาร์ดินัล พระสันตะปาปา ท่านได้กอบกู้วิญญาณกี่ดวง? ท่านได้ช่วยวิญญาณกี่ดวงรอดพ้นจากนรก?"
ท่านคูรีแห่งอาร์ได้กอบกู้วิญญาณกว่า 85,000 ดวง เราได้กอบกู้วิญญาณกี่ดวง? เมื่อท่านอ่านเกี่ยวกับบิดาและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร นักบุญทั้งหลาย ท่านจะประทับใจอยู่สิ่งเดียว คือ เขาทุกคนเทศน์พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า สวรรค์ ไฟชำระ และไม่เคยพลาดที่จะเทศน์เรื่องนรก ข้อความเชื่อของพระศาสนาโรมันคาทอลิก
จงอ่านเกี่ยวกับบิดาและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร พระสงฆ์ อัครสาวกของพระเยซูคริสตเจ้า เขาทั้งหลายเทศน์เรื่องนรก ข้อความเชื่อของพระศาสนาคาทอลิก เพราะเมื่อเรารำพึงถึงนรก เราจะกลายเป็นนักบุญ
ข้าพเจ้าไม่ต้องการวิพากวิจารณ์พระสังฆราช แต่ข้าพเจ้าสลดใจมาก ในการเป็นพระสงฆ์มา 30 ปีข้าพเจ้าไม่เคยได้ยินพระสังฆราชแม้แต่องค์เดียว พระสังฆราชของข้าพเจ้า หรือองค์อื่นๆ เทศน์เรื่องนรก ข้อความเชื่อของพระศาสนาโรมันคาทอลิก ข้าพเจ้าคิดว่า ในประเทศอินเดียและที่อื่นๆ พระสังฆราชเทศน์เรื่องนรก แต่ในประเทศอเมริกา เราจะไม่เทศน์เรื่องนี้
ให้เราเทศน์ เพื่อกอบกู้วิญญาณ ไม่ใช่ เพื่อเอาใจผู้ฟัง
ในหลายสังฆมลทล ข้าพเจ้าได้ยินพระสังฆราชสวดลูกประคำ แต่ท่านทั้งหลายไม่ยอมสวดบทภาวนาเล็กๆของฟาติมาหลังแต่ละทศ เพราะว่า "คนไม่ชอบสวดบทนั้น"
เราเทศน์ในวัดไม่ใช่เพื่อเอาใจสัตบุรุษ แต่เพื่อกอบกู้วิญญาณ ไม่ให้เขาทั้งหลายตกนรกชั่วนิรันดร ข้าพเจ้าคิดว่าบทภาวนาเล็กๆ ที่พระแม่แห่งฟาติมาได้ประทานแก่เด็กๆเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 1917 เป็นบทภาวนาที่ทรงฤทธานุภาพ และสบพระทัยพระเป็นเจ้ายิ่งกว่าการรำพึงอย่างอื่น การรำพึงที่เราพระสงฆ์บันทึกไว้หรืออ่านออกเสียงเป็นสิ่งที่ดีงาม แต่ท่านทราบไหมว่า หลังแต่ละทศ มีบทรำพึงอะไรที่ทรงฤทธานุภาพ และศักดิ์สิทธิ์กว่าบทภาวนาของพระแม่แห่งฟาติมา? กรุณาสวดบทนั้น หลังแต่ละทศ ข้าพเจ้าเทศน์เรื่องนรกบ่อย เพื่อนรัก ท่านได้เล่าเรียนคำสอน ท่านได้รับพระพรจากพระเป็นเจ้า สำหรับข้าพเจ้า พระเยซูเจ้าต้องการข้าพเจ้า พระเยซูเจ้าขอร้องข้าพเจ้า พระเยซูอ้อนวอนข้าพเจ้า พระแม่แห่งฟาติมาอ้อนวอนข้าพเจ้าให้เทศน์เรื่องนรก
มีการเปิดเผยหลายสิ่งหลายอย่างในหนังสือศักดิ์สิทธิ์ และ โดยคำบัญชาจากพระเป็นเจ้า วิญญาณบางดวงในนรกได้มาพูดเพื่อช่วยเราให้มีความเชื่อมั่นคงยิ่งขึ้น และวิญญาณเหล่านั้นได้พูดว่า: "เรายอมอยู่ในนรกหนึ่งพันปี เรายอมอยู่ในนรกหนึ่งล้านปี ถ้าเรารู้ว่าวันหนึ่งเราสามารถออกจากนรกได้"
แต่ เพื่อนรัก เราจะต้องไม่เพียงรำพึงถึงการที่จะได้เห็นพระเป็นเจ้าในสวรรค์เท่านั้น เราจะต้องรำพึงถึงนรกชั่วนิรันดรด้วย ข้าพเจ้าได้ยินพระสงฆ์องค์หนึ่งในงานชุมนุมศาสนามีฆราวาสประมาณ 10,000 คนและพระสงฆ์ 300 องค์เข้าประชุม เขาได้เทศน์ว่า: "เพื่อนรัก พระเป็นเจ้าเป็นองค์ความรัก พระ องค์ทรงเมตตากรุณา และท่านจะได้เห็นพระเมตตาอันไม่มีขอบเขตของพระองค์ในวันโลกสิ้นพิภพ พระองค์จะปลดปล่อยวิญญาณทั้งมวลออกจากนรก"
นี่เป็นข้อความเชื่อที่ขัดกับการสั่งสอนของพระศาสนจักร พระสังฆราชก็ไม่ได้เอาพระสงฆ์องค์นั้น ออกจากการเทศน์ทันที แต่ยังอนุญาตให้เขาเทศนาต่อไปอย่างผิดข้อความเชื่อ ด้วยสติปัญญาอันเล็กน้อยของมนุษย์ เรายึดมั่นใน "หลักเหตุผลทางปรัชญาอันเล็กน้อยของเรา" พระเป็นเจ้าเป็นองค์ความรัก พระเป็นเจ้า คือ พระบิดาของเราผู้เปี่ยมด้วยความรัก พระองค์จะเอาปีเตอร์ตัวกระจ้อยร่อย โยนเข้าเตาไฟนรกได้อย่างไร? ทำไมการกระทำแบบนั้นจึงเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระเป็นเจ้า ผู้ซึ่งเป็นองค์ความรัก?
ท่านได้ยินการหลงผิดในข้อความเชื่อชนิดนี้กี่ครั้งแล้ว? เพื่อนรัก นรกมีจริง นรกเป็นอยู่ชั่วนิรันดร ข้าพเจ้าก็ตกนรกได้ ท่านก็ตกนรกได้ ถ้าพระเป็นเจ้าได้ทรงเรียกข้าพเจ้าไปรับรางวัลนิรันดรเมื่อหลายปีมาแล้ว ข้าพเจ้าคงได้อยู่ในนรกนานแล้ว ร้องไห้เศร้าโศกเสียใจ ส่งเสียงร้อง ไม่ใช่แค่หนึ่งล้านปี หรือหนึ่งพันล้านปี แต่ตลอดกาล
เพื่อแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อพระตรีเอกภาพ และพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเรา ข้าพเจ้าไปแก้บาปทุกสัปดาห์ ข้าพเจ้าสวดลูกประคำ 15 ทศและรำพึงถึงภาคลึกลับศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ต่างๆทุกวัน ข้าพเจ้าสวดบทภาวนาประจำวันของพระสงฆ์ ข้าพเจ้าสวมเสื้อจำพวกสีน้ำตาล และเทศน์เรื่องการสวดลูกประคำและสวมสายจำพวกให้ทุกคนฟัง ข้าพเจ้าเทศน์ให้พระสังฆราชฟัง เหมือนให้สัตบุรุษฟัง เพราะพระสังฆราชก็มีวิญญาณที่ต้องกอบกู้เช่นเดียวกัน
พระเยซูเจ้าได้เลือกสรรเราและแต่งตั้งเราเป็นพระสงฆ์ด้วยเหตุผลอันเดียวเท่านั้น เพื่อถวายเครื่องบูชาแด่พระบิดาเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ และกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก เมื่อข้าพเจ้าเทศน์ในการเข้าเงียบประจำปีของวัด ข้าพเจ้าจะจบการเทศน์ด้วยเรื่องนรก
ความศรัทธาต่อการสวดลูกประคำเป็นสัญลักษณ์แห่งการเลือกสรรของเบื้องบน
ข้าพเจ้าไม่ศักดิ์สิทธิ์ ข้าพเจ้าจึงสวดลูกประคำ สวมสายจำพวกสีน้ำตาล สวดบทภาวนาประจำวันของพระสงฆ์สัปดาห์ละ 7 วัน ถวายมิสซาทุกวัน แก้บาปทุกอาทิตย์ และหวังว่า (ข้าพเจ้ายังไม่แน่ใจ ไม่มีใครแน่ใจ) จะได้ไปสวรรค์ ไม่มีใครแน่ใจนอกจากว่าคนนั้นได้รับการเผยจากพระเป็นเจ้า ทำไมเราไม่วางใจในทุกสิ่งที่พระแม่แห่งฟาติมาได้ประทานแก่เรา: "ความศรัทธาต่อการสวดลูกประคำของแม่ เป็นสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่แห่งการเลือกสรรของเบื้องบน"?
พระนางได้ประทานแก่เราหลักประกันอีกอย่างหนึ่งว่า: "ใครที่ตายสวมเสื้อนี้จะไม่ทรมานในไฟชั่วนิรันดร" ถ้าพระสังฆราชแค่องค์เดียวในกลุ่มของท่าน ที่ได้มาที่ฟาติมา และกลับไปยังสังฆมลทลของท่านและวิงวอนประชากรของท่าน: "ข้าพเจ้าเป็นพระสังฆราชของท่าน ข้าพเจ้าอยู่นี่เพื่อ กอบกู้วิญญาณของท่านให้พ้นจากนรก โปรดยอมรับ ฟัง และรำพึงถึง คำสั่งสอนของข้าพเจ้า ในวันนี้ และพระสงฆ์ของข้าพเจ้า โปรดเลียนแบบพระสังฆราชของท่าน จงเทศน์เรื่องนรก"
ถ้าท่านเพียงทำสิ่งนี้ ท่านก็จะทำกิจเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่แห่งชีวิตสงฆ์ของท่าน เป็นการบรรลุผลงานของพระสังฆราช
จงเทศน์เรื่องนรก แล้วพระเยซูเจ้าจะอวยพระพรท่าน พระองค์จะให้อภัยความอ่อนแอของท่าน พระองค์จะให้อภัยบาปของท่านถ้าท่านเทศน์เรื่องนรก โดยการเทศน์เรื่องนรก ท่านจะทำกิจเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่เพราะสัตบุรุษที่ฟังท่านเทศน์จะมีความเชื่อ เขาทั้งหลายจะเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ และจะไปแก้บาป
นักบุญไปแก้บาป, นักบุญไปแก้บาป! และคนที่ไปแก้เสมอๆกลายเป็นนักบุญ
หมายเหตุ: บทเทศน์นี้ทำให้เรานึกถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ ขณะพระองค์แขวนอยู่บนไม้กางเขนด้วยตะปู 3 ตัว บนพระเศียรมีมงกุฎหนาม บนพระกายจากพระเศียรจดปลายพระบาทเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและบาดแผล หลายคนที่เดินผ่านไปได้สบประมาทพระองค์ คนหนึ่งได้พูดจาเยาะเย้ยว่า: "พระองค์ได้ช่วยคนอื่นให้รอด แต่พระองค์ทรงช่วยตัวเองไม่รอด" เป็นคำพูดที่นักบวชทั้งหลายรวมทั้งฆราวาสด้วย โดยเฉพาะผู้ซึ่งทำงานกอบกู้วิญญาณ ควรรำพึงบ่อยๆ แล้วท่านทั้งหลายจะได้เจริญชีวิตในความศักดิ์สิทธิ์ และนำวิญญาณหลายๆดวงมาถวายแด่องค์พระคริสตเจ้า รวมทั้งวิญญาณของท่านด้วย
ข้าพเจ้าสวมเสื้อจำพวกสีน้ำตาลข้างในเสื้อหล่อของข้าพเจ้า และยังมีเสื้อจำพวกอีกอันในกระเป๋ากางเกง เพราะข้าพเจ้าไม่ทราบว่า เมื่อไรคนจะมาเรียกข้าพเจ้าไปเทศน์ และเมื่อข้าพเจ้าเทศน์ ข้าพเจ้าก็เทศน์เรื่องการสวดลูกประคำและสวมเสื้อจำพวก
พระนางมารีอาได้ตรัสว่า: "โดยการสวดลูกประคำและสวมเสื้อจำพวก แม่จะกอบกู้โลก"
ไม่มีใครสามารถเทศนาได้ดีหมดทุกเรื่อง แต่พระเยซูเจ้าได้เชื้อเชิญข้าพเจ้าเทศน์เรื่องนรก มงซิงเญอร์องค์หนึ่งได้แนะนำข้าพเจ้าว่า: "มาร์เซล อย่าเทศน์เรื่องนรกเลย คนไม่ชอบฟังเรื่องนี้ เธอทำให้เขาทั้งหลายตกใจกลัว" และในฐานะเป็นเพื่อนกัน มงซิงเญอร์ได้บอกข้าพเจ้าว่า: "มาร์เซล ฉันไม่เคยเทศน์เรื่องนรก ดูตำแหน่งของฉัน ฉันไม่ควรเทศน์เรื่องนี้เด็จขาด"
หลังจากนิ่งเงียบชั่วครู่หนึ่ง ข้าพเจ้าได้จ้องมองหน้าท่านและพูดว่า: "มงซิงเญอร์, ท่านเดินบนถนนตรงไปนรกชั่วนิรันดร ท่านเทศน์เพื่อเอาใจสัตบุรุษ แทนที่ เอาพระทัยพระคริสตเจ้า"
ในพระคัมภีร์เก่า เมื่อพระเป็นเจ้าได้ส่งประกาศกมายังประชากรของพระองค์ พระองค์ต้องการตักเตือนเขาทั้งหลายให้หันกลับมาหาความจริง และความศักดิ์สิทธิ์ พระเยซูเจ้าได้เสด็จมา และเทศนา พระองค์ได้ส่งอัครสาวกของพระองค์เข้าไปในโลก เพื่อเทศน์พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
เจ้างูยักษ์ได้มาหว่านข้อความเชื่อที่มีพิษเป็นภัยอันตรายต่อความรอดของวิญญาณ และพระเยซูเจ้าได้ตัดสินพระทัยส่งพระมารดาสุดที่รักของพระองค์ พระราชินีแห่งประกาศก มายังโลกเพื่อทำลายความเชื่ออันชั่วร้ายของมัน ที่ต้องการทำให้พระศาสนจักรปั่นป่วน และบิดาของพระศาสนจักรได้เรียกมารดาพระเจ้าว่า ค้อนซึ่งทุบความเชื่อที่บ่อนทำลายพระศาสนจักรให้แหลกละเอียด
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 1917 พระนางมารีอาได้เสด็จมาที่ฟาติมาในฐานะประกาศกจากที่สูงสุด เพื่อกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก พระแม่ได้ปล่อยพระหัตถ์ 2 ข้างลง และทันใดนั้นเอง เด็ก 3 คนได้เห็นเหว ลึกลงไปในพื้นดิน
ลูซีอาบอกว่า เหวนั้นเป็นทะเลพระเพลิง ที่ซึ่งเธอได้เห็นรูปร่างมนุษย์ชายหญิงกำลังตะโกนร้องไห้อย่างหมดหวัง และผีปิศาจในรูปของสัตว์น่าเกลียดอย่างที่สุด ภาพที่เห็นนี้ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก จนเด็กๆเกือบจะขาดใจตาย ด้วยความตกใจกลัวอย่างสุดขีด
และพระนางมารีอาได้ตรัสกับเด็ก 3 คนว่า: "ลูกได้เห็นนรกแล้ว ที่ซึ่งวิญญาณของคนบาปน่าสงสารได้ตกลงไป" ทุกครั้งที่ ลูก สวดลูกประคำ จงสวดบทภาวนานี้หลังแต่ละทศ:
"ข้าแต่พระเยซูเจ้า
โปรดอภัยบาปของเรา
โปรดช่วยเราให้พ้นจากไฟนรก
โปรดนำวิญญาณทั้งมวลสู่สวรรค์
โดยเฉพาะ วิญญาณที่ต้องการพระเมตตาของพระองค์มากที่สุด
พระเจ้าข้า"
พระนางมารีอาได้เสด็จมาที่ฟาติมาเพื่อกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก ท่านคูรีแห่งอาร์ องค์อุปถัมภ์พระสงฆ์เจ้าวัด ชอบเทศน์เสมอๆว่า ความเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ที่สุดต่อเพื่อนมนุษย์ คือ การกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก วันหนึ่งเมื่อท่านฟังแก้บาปในวัดหลังเล็ก ปิศาจได้มาปรากฏตัวในรูปร่างของมนุษย์ผู้ชาย กำลังโมโหอย่างฉุนเฉียว และตะโกนดังลั่นว่า: "ข้าเกลียดแก, ข้าเกลียดแก เพราะแกได้ขโมยวิญญาณ 85,000 ดวงจากอุ้งมือของข้า"
พระคุณเจ้าที่เคารพรัก พระคาร์ดินัล และ เราพระสงฆ์ เมื่อเราปรากฎตัวหน้าบัลลังก์ยุติธรรมในวันพระพิพากษา พระเยซูเจ้าจะทรงถามเราว่า: "เราได้ให้ท่านเป็นพระสงฆ์ พระสังฆราช พระคาร์ดินัล พระสันตะปาปา ท่านได้กอบกู้วิญญาณกี่ดวง? ท่านได้ช่วยวิญญาณกี่ดวงรอดพ้นจากนรก?"
ท่านคูรีแห่งอาร์ได้กอบกู้วิญญาณกว่า 85,000 ดวง เราได้กอบกู้วิญญาณกี่ดวง? เมื่อท่านอ่านเกี่ยวกับบิดาและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร นักบุญทั้งหลาย ท่านจะประทับใจอยู่สิ่งเดียว คือ เขาทุกคนเทศน์พระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า สวรรค์ ไฟชำระ และไม่เคยพลาดที่จะเทศน์เรื่องนรก ข้อความเชื่อของพระศาสนาโรมันคาทอลิก
จงอ่านเกี่ยวกับบิดาและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร พระสงฆ์ อัครสาวกของพระเยซูคริสตเจ้า เขาทั้งหลายเทศน์เรื่องนรก ข้อความเชื่อของพระศาสนาคาทอลิก เพราะเมื่อเรารำพึงถึงนรก เราจะกลายเป็นนักบุญ
ข้าพเจ้าไม่ต้องการวิพากวิจารณ์พระสังฆราช แต่ข้าพเจ้าสลดใจมาก ในการเป็นพระสงฆ์มา 30 ปีข้าพเจ้าไม่เคยได้ยินพระสังฆราชแม้แต่องค์เดียว พระสังฆราชของข้าพเจ้า หรือองค์อื่นๆ เทศน์เรื่องนรก ข้อความเชื่อของพระศาสนาโรมันคาทอลิก ข้าพเจ้าคิดว่า ในประเทศอินเดียและที่อื่นๆ พระสังฆราชเทศน์เรื่องนรก แต่ในประเทศอเมริกา เราจะไม่เทศน์เรื่องนี้
ให้เราเทศน์ เพื่อกอบกู้วิญญาณ ไม่ใช่ เพื่อเอาใจผู้ฟัง
ในหลายสังฆมลทล ข้าพเจ้าได้ยินพระสังฆราชสวดลูกประคำ แต่ท่านทั้งหลายไม่ยอมสวดบทภาวนาเล็กๆของฟาติมาหลังแต่ละทศ เพราะว่า "คนไม่ชอบสวดบทนั้น"
เราเทศน์ในวัดไม่ใช่เพื่อเอาใจสัตบุรุษ แต่เพื่อกอบกู้วิญญาณ ไม่ให้เขาทั้งหลายตกนรกชั่วนิรันดร ข้าพเจ้าคิดว่าบทภาวนาเล็กๆ ที่พระแม่แห่งฟาติมาได้ประทานแก่เด็กๆเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 1917 เป็นบทภาวนาที่ทรงฤทธานุภาพ และสบพระทัยพระเป็นเจ้ายิ่งกว่าการรำพึงอย่างอื่น การรำพึงที่เราพระสงฆ์บันทึกไว้หรืออ่านออกเสียงเป็นสิ่งที่ดีงาม แต่ท่านทราบไหมว่า หลังแต่ละทศ มีบทรำพึงอะไรที่ทรงฤทธานุภาพ และศักดิ์สิทธิ์กว่าบทภาวนาของพระแม่แห่งฟาติมา? กรุณาสวดบทนั้น หลังแต่ละทศ ข้าพเจ้าเทศน์เรื่องนรกบ่อย เพื่อนรัก ท่านได้เล่าเรียนคำสอน ท่านได้รับพระพรจากพระเป็นเจ้า สำหรับข้าพเจ้า พระเยซูเจ้าต้องการข้าพเจ้า พระเยซูเจ้าขอร้องข้าพเจ้า พระเยซูอ้อนวอนข้าพเจ้า พระแม่แห่งฟาติมาอ้อนวอนข้าพเจ้าให้เทศน์เรื่องนรก
มีการเปิดเผยหลายสิ่งหลายอย่างในหนังสือศักดิ์สิทธิ์ และ โดยคำบัญชาจากพระเป็นเจ้า วิญญาณบางดวงในนรกได้มาพูดเพื่อช่วยเราให้มีความเชื่อมั่นคงยิ่งขึ้น และวิญญาณเหล่านั้นได้พูดว่า: "เรายอมอยู่ในนรกหนึ่งพันปี เรายอมอยู่ในนรกหนึ่งล้านปี ถ้าเรารู้ว่าวันหนึ่งเราสามารถออกจากนรกได้"
แต่ เพื่อนรัก เราจะต้องไม่เพียงรำพึงถึงการที่จะได้เห็นพระเป็นเจ้าในสวรรค์เท่านั้น เราจะต้องรำพึงถึงนรกชั่วนิรันดรด้วย ข้าพเจ้าได้ยินพระสงฆ์องค์หนึ่งในงานชุมนุมศาสนามีฆราวาสประมาณ 10,000 คนและพระสงฆ์ 300 องค์เข้าประชุม เขาได้เทศน์ว่า: "เพื่อนรัก พระเป็นเจ้าเป็นองค์ความรัก พระ องค์ทรงเมตตากรุณา และท่านจะได้เห็นพระเมตตาอันไม่มีขอบเขตของพระองค์ในวันโลกสิ้นพิภพ พระองค์จะปลดปล่อยวิญญาณทั้งมวลออกจากนรก"
นี่เป็นข้อความเชื่อที่ขัดกับการสั่งสอนของพระศาสนจักร พระสังฆราชก็ไม่ได้เอาพระสงฆ์องค์นั้น ออกจากการเทศน์ทันที แต่ยังอนุญาตให้เขาเทศนาต่อไปอย่างผิดข้อความเชื่อ ด้วยสติปัญญาอันเล็กน้อยของมนุษย์ เรายึดมั่นใน "หลักเหตุผลทางปรัชญาอันเล็กน้อยของเรา" พระเป็นเจ้าเป็นองค์ความรัก พระเป็นเจ้า คือ พระบิดาของเราผู้เปี่ยมด้วยความรัก พระองค์จะเอาปีเตอร์ตัวกระจ้อยร่อย โยนเข้าเตาไฟนรกได้อย่างไร? ทำไมการกระทำแบบนั้นจึงเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของพระเป็นเจ้า ผู้ซึ่งเป็นองค์ความรัก?
ท่านได้ยินการหลงผิดในข้อความเชื่อชนิดนี้กี่ครั้งแล้ว? เพื่อนรัก นรกมีจริง นรกเป็นอยู่ชั่วนิรันดร ข้าพเจ้าก็ตกนรกได้ ท่านก็ตกนรกได้ ถ้าพระเป็นเจ้าได้ทรงเรียกข้าพเจ้าไปรับรางวัลนิรันดรเมื่อหลายปีมาแล้ว ข้าพเจ้าคงได้อยู่ในนรกนานแล้ว ร้องไห้เศร้าโศกเสียใจ ส่งเสียงร้อง ไม่ใช่แค่หนึ่งล้านปี หรือหนึ่งพันล้านปี แต่ตลอดกาล
เพื่อแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อพระตรีเอกภาพ และพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเรา ข้าพเจ้าไปแก้บาปทุกสัปดาห์ ข้าพเจ้าสวดลูกประคำ 15 ทศและรำพึงถึงภาคลึกลับศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ต่างๆทุกวัน ข้าพเจ้าสวดบทภาวนาประจำวันของพระสงฆ์ ข้าพเจ้าสวมเสื้อจำพวกสีน้ำตาล และเทศน์เรื่องการสวดลูกประคำและสวมสายจำพวกให้ทุกคนฟัง ข้าพเจ้าเทศน์ให้พระสังฆราชฟัง เหมือนให้สัตบุรุษฟัง เพราะพระสังฆราชก็มีวิญญาณที่ต้องกอบกู้เช่นเดียวกัน
พระเยซูเจ้าได้เลือกสรรเราและแต่งตั้งเราเป็นพระสงฆ์ด้วยเหตุผลอันเดียวเท่านั้น เพื่อถวายเครื่องบูชาแด่พระบิดาเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ และกอบกู้วิญญาณให้พ้นจากนรก เมื่อข้าพเจ้าเทศน์ในการเข้าเงียบประจำปีของวัด ข้าพเจ้าจะจบการเทศน์ด้วยเรื่องนรก
ความศรัทธาต่อการสวดลูกประคำเป็นสัญลักษณ์แห่งการเลือกสรรของเบื้องบน
ข้าพเจ้าไม่ศักดิ์สิทธิ์ ข้าพเจ้าจึงสวดลูกประคำ สวมสายจำพวกสีน้ำตาล สวดบทภาวนาประจำวันของพระสงฆ์สัปดาห์ละ 7 วัน ถวายมิสซาทุกวัน แก้บาปทุกอาทิตย์ และหวังว่า (ข้าพเจ้ายังไม่แน่ใจ ไม่มีใครแน่ใจ) จะได้ไปสวรรค์ ไม่มีใครแน่ใจนอกจากว่าคนนั้นได้รับการเผยจากพระเป็นเจ้า ทำไมเราไม่วางใจในทุกสิ่งที่พระแม่แห่งฟาติมาได้ประทานแก่เรา: "ความศรัทธาต่อการสวดลูกประคำของแม่ เป็นสัญลักษณ์อันยิ่งใหญ่แห่งการเลือกสรรของเบื้องบน"?
พระนางได้ประทานแก่เราหลักประกันอีกอย่างหนึ่งว่า: "ใครที่ตายสวมเสื้อนี้จะไม่ทรมานในไฟชั่วนิรันดร" ถ้าพระสังฆราชแค่องค์เดียวในกลุ่มของท่าน ที่ได้มาที่ฟาติมา และกลับไปยังสังฆมลทลของท่านและวิงวอนประชากรของท่าน: "ข้าพเจ้าเป็นพระสังฆราชของท่าน ข้าพเจ้าอยู่นี่เพื่อ กอบกู้วิญญาณของท่านให้พ้นจากนรก โปรดยอมรับ ฟัง และรำพึงถึง คำสั่งสอนของข้าพเจ้า ในวันนี้ และพระสงฆ์ของข้าพเจ้า โปรดเลียนแบบพระสังฆราชของท่าน จงเทศน์เรื่องนรก"
ถ้าท่านเพียงทำสิ่งนี้ ท่านก็จะทำกิจเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่แห่งชีวิตสงฆ์ของท่าน เป็นการบรรลุผลงานของพระสังฆราช
จงเทศน์เรื่องนรก แล้วพระเยซูเจ้าจะอวยพระพรท่าน พระองค์จะให้อภัยความอ่อนแอของท่าน พระองค์จะให้อภัยบาปของท่านถ้าท่านเทศน์เรื่องนรก โดยการเทศน์เรื่องนรก ท่านจะทำกิจเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่เพราะสัตบุรุษที่ฟังท่านเทศน์จะมีความเชื่อ เขาทั้งหลายจะเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ และจะไปแก้บาป
นักบุญไปแก้บาป, นักบุญไปแก้บาป! และคนที่ไปแก้เสมอๆกลายเป็นนักบุญ
หมายเหตุ: บทเทศน์นี้ทำให้เรานึกถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้าในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ ขณะพระองค์แขวนอยู่บนไม้กางเขนด้วยตะปู 3 ตัว บนพระเศียรมีมงกุฎหนาม บนพระกายจากพระเศียรจดปลายพระบาทเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและบาดแผล หลายคนที่เดินผ่านไปได้สบประมาทพระองค์ คนหนึ่งได้พูดจาเยาะเย้ยว่า: "พระองค์ได้ช่วยคนอื่นให้รอด แต่พระองค์ทรงช่วยตัวเองไม่รอด" เป็นคำพูดที่นักบวชทั้งหลายรวมทั้งฆราวาสด้วย โดยเฉพาะผู้ซึ่งทำงานกอบกู้วิญญาณ ควรรำพึงบ่อยๆ แล้วท่านทั้งหลายจะได้เจริญชีวิตในความศักดิ์สิทธิ์ และนำวิญญาณหลายๆดวงมาถวายแด่องค์พระคริสตเจ้า รวมทั้งวิญญาณของท่านด้วย
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
จากสารฟาติมา แม่พระได้ประจักษ์แก่เด็กเลี้ยงแกะ 3 คน ได้เปิดเผยให้พวกเขาเหล่านั้นเห็นภาพนรก
พระสังฆราชได้ขอร้องให้ซิสเตอร์ลูซีอา หนึ่งในสามคนที่ได้เห็นแม่พระประจักษ์ที่ฟาติมา ประเทศปอร์ตุเกส ผู้ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ ให้เขียนรายละเอียดเกี่ยวกับภาพนรก ซึ่งพระนางพรหมจารีมารีอาได้อนุญาตให้ เด็ก 3 คนเห็น เธอได้เขียนในหนังสือบันทึกเล่มที่ 4 ดังนี้ :
"ตามคำสั่งที่ได้รับจากพระสังฆราช และเพื่อสนองคำปรารถนาของคุณพ่อ ดร. กาแลมบา ข้าพเจ้าเริ่มงานเขียนใหม่ ยกเว้นความลับ ซึ่งข้าพเจ้ามิได้รับอนุญาตให้เปิดเผยในปัจจุบัน ข้าพเจ้าจะเล่าทุกสิ่ง และไม่ปิดบังอะไรเลย นอกจากว่า ข้าพเจ้าอาจจะลืมบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ค่อยสำคัญนัก"
หลังจากเธอเขียนเรื่องเทวดาประจักษ์ 3 ครั้ง และการประจักษ์ 2 ครั้งแรกของแม่พระในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนของปี 1917 เธอได้อ้างอิงถึงความลับที่แม่พระได้ทรงเปิดเผยในเดือนกรกฎาคม 1917 แล้วเธอได้เขียนว่า:
"และแม่พระได้ตรัสต่อว่า: "จงทำพลีกรรมเพื่อคนบาป และทุกครั้งที่ทำพลีกรรม ให้สวดบทนี้: "พระเยซูเจ้าข้า ข้าพเจ้าถวายพลีกรรมนี้ เพื่อความรักต่อพระองค์ การกลับใจของคนบาป และการชดเชยบาปที่ผิดต่อดวงพระทัยนิรมลทินของพระนางมารีอา"" และขณะที่แม่พระได้ตรัสคำเหล่านี้ พระนางได้กางพระหัตถ์ออกไป เหมือนอย่างที่ได้ทรงทำเมื่อ 2 เดือนมาแล้ว ลำแสงได้พุ่งทะลุพื้นโลก เราได้เห็นทะเลเพลิง ผีปิศาจและวิญญาณมนุษย์จมดิ่งลงในพระเพลิงนี้ เหมือนถ่านไฟที่ร้อนระอุ ทั้งหมดถูกเผาไหม้จนเกรียม หรือมีสีเหลืองแดง ลอยอยู่ในเปลวไฟ ถูกพัดขึ้นไปข้างบน เปลวไฟแลบออกมาจากตัว พร้อมด้วยควัน แล้วก็หล่นลงไปเหมือนประกายไฟของพระเพลิงมหึมา ในสภาพไร้น้ำหนักหรือขาดดุลภาพ ท่ามกลางเสียงร้องครวญคราง ด้วยความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง ซึ่งทำให้พวกเรากลัวจนตัวสั่น (เนื่องจากภาพนี้ที่ได้เห็น คนที่อยู่รอบข้างได้ยินข้าพเจ้าร้องสุดเสียง) เรามองเห็นผีปิศาจอย่างชัดเจน มันมีรูปร่างน่าหวาดหลัว เหมือนสัตว์ป่าดุร้าย ที่ไม่มีใครเคยรู้จักมาก่อน มีสีดำคล้ำ เหมือนถ่านหินที่ร้อนระอุคุอยู่ในเตาไฟ พวกเราตกใจกลัวอย่างสุดขีด มองขึ้นหาแม่พระ ขอความช่วยเหลือจากพระนาง ผู้ซึ่งตรัสกับเราอย่างอ่อนโยนและเศร้าๆว่า:
"ลูกได้เห็นนรกแล้ว ที่ซึ่งวิญญาณของคนบาปน่าสงสารได้ตกลงไป เพื่อช่วยคนบาปพ้นจากนรก พระเป็นเจ้าทรงปรารถนาให้โลกยึดมั่นในความศรัทธาต่อดวงพระทัยนิรมลทินของแม่ ถ้าคริสตชนทำตามที่แม่บอกลูก วิญญาณมากมายจะรอด และจะมีสันติภาพทั่วโลก สงครามกำลังจะยุติ (หมายถึงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง) แต่ถ้ามนุษย์ยังไม่เลิกทำเคืองพระหฤทัยของพระเป็นเจ้า จะเกิดสงครามอีกครั้ง ที่น่ากลัวยิ่งกว่านี้ ในสมณะสมัยของพระสันตะปาปาปิโอที่ 11 เมื่อลูกเห็นกลางคืนสว่างไสวด้วยแสงลึกลับ ให้ลูกรู้ว่า นี่คือสัญลักษณ์ที่พระเป็นเจ้าทรงประทานแก่ลูก พระองค์กำลังจะลงโทษโลกแห่งอาชญากรรม ด้วยสงคราม ความอดหยาก และการเบียดเบียนพระศาสนจักรและบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์"
"เพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้มิให้เกิดขึ้น แม่จะมาขอให้ถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงพระทัยนิรมลทินของแม่ และการรับศีลมหาสนิทชดเชยบาปในวันเสาร์ต้นเดือน ถ้าคริสตชนเชื่อฟังแม่ ประเทศรัสเซียจะกลับใจ และจะมีสันติภาพทั่วโลก มิฉะนั้น รัสเซียจะเผยแพร่ความผิดไปทั่วโลก เป็นสาเหตุให้เกิดสงคราม และการเบียดเบียนพระศาสนจักร คนชอบธรรมจะได้เป็นมรณสักขี บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะทุกข์ยากลำบากใจ หลายๆประเทศจะถูกทำลาย ในที่สุด ดวงพระทัยนิรมลทินของแม่จะมีชัยชนะ บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะถวายประเทศรัสเซียแด่แม่ รัสเซียจะกลับใจ และโลกจะมีสันติภาพชั่วระยะเวลาหนึ่ง"
หมายเหตุ: พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 พร้อมกับพระสังฆราชทั่วโลก ได้ถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงพระทัยนิรมลทินของแม่พระ หลังจากนั้นลัทธิคอมมิวนิสต์ได้ล่มสะลาย ประเทศรัสเซียได้กลับใจ และโลกได้มีสันติภาพแค่ไม่กี่ปี แล้วก็เกิดสงครามในที่หลายแห่งของโลก เช่น สงครามอิราค สงครามบอสเนีย สงครามตะวันออกกลาง สงครามบอลข่าน สงครามในทวีปอัฟริกา สงครามอินโดนีเซียและการแยกดินแดนออกไปเป็นประเทศเอกราช สงครามเช็กเนีย การต่อสู้กันของนิกายโปรเตสตันและชาวคาทอลิกในประเทศไอร์แลนด์ การปฏิวัติรัฐประหารในหลายประเทศ การผนวกธิเบตเข้าเป็นดินแดนของแผ่นดินใหญ่จีน การเบียดเบียนศาสนาคาทอลิกในเประเทศอินเดีย การเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในเอเซียภาคตะวันออกเฉียงใต้ ความเสื่อมโทรมทางศีลธรรม เช่น การแต่งงานที่ไม่ถูกต้องตามพระบัญญัติของพระเป็นเจ้า การหย่าล้าง การทำแท้ง เด็กๆประกอบอาชญากรรมเหมือนผู้ใหญ่ เช่น การใช้อาวุธปืนในการฆ่าคน การติดยาเสพติด ฯลฯการฆ่าตัวตายของวัยรุ่น การช่วยคนชราหรือคนที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรังฆ่าตัวตาย "วัฒนะธรรมแห่งชีวิต" ถูกแทนที่ด้วย "วัฒนะธรรมแห่งความตาย" การก่อการร้ายทั่วโลก การโจรกรรมและการวางระเบิดเครื่องบินโดยสาร การแพร่เชื้อโรคเอดส์ไปทั่วโลกและคนในทวีป
อัฟริกาติดโรคนี้มากที่สุด และอื่นๆ
พระสังฆราชได้ขอร้องให้ซิสเตอร์ลูซีอา หนึ่งในสามคนที่ได้เห็นแม่พระประจักษ์ที่ฟาติมา ประเทศปอร์ตุเกส ผู้ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ ให้เขียนรายละเอียดเกี่ยวกับภาพนรก ซึ่งพระนางพรหมจารีมารีอาได้อนุญาตให้ เด็ก 3 คนเห็น เธอได้เขียนในหนังสือบันทึกเล่มที่ 4 ดังนี้ :
"ตามคำสั่งที่ได้รับจากพระสังฆราช และเพื่อสนองคำปรารถนาของคุณพ่อ ดร. กาแลมบา ข้าพเจ้าเริ่มงานเขียนใหม่ ยกเว้นความลับ ซึ่งข้าพเจ้ามิได้รับอนุญาตให้เปิดเผยในปัจจุบัน ข้าพเจ้าจะเล่าทุกสิ่ง และไม่ปิดบังอะไรเลย นอกจากว่า ข้าพเจ้าอาจจะลืมบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ค่อยสำคัญนัก"
หลังจากเธอเขียนเรื่องเทวดาประจักษ์ 3 ครั้ง และการประจักษ์ 2 ครั้งแรกของแม่พระในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนของปี 1917 เธอได้อ้างอิงถึงความลับที่แม่พระได้ทรงเปิดเผยในเดือนกรกฎาคม 1917 แล้วเธอได้เขียนว่า:
"และแม่พระได้ตรัสต่อว่า: "จงทำพลีกรรมเพื่อคนบาป และทุกครั้งที่ทำพลีกรรม ให้สวดบทนี้: "พระเยซูเจ้าข้า ข้าพเจ้าถวายพลีกรรมนี้ เพื่อความรักต่อพระองค์ การกลับใจของคนบาป และการชดเชยบาปที่ผิดต่อดวงพระทัยนิรมลทินของพระนางมารีอา"" และขณะที่แม่พระได้ตรัสคำเหล่านี้ พระนางได้กางพระหัตถ์ออกไป เหมือนอย่างที่ได้ทรงทำเมื่อ 2 เดือนมาแล้ว ลำแสงได้พุ่งทะลุพื้นโลก เราได้เห็นทะเลเพลิง ผีปิศาจและวิญญาณมนุษย์จมดิ่งลงในพระเพลิงนี้ เหมือนถ่านไฟที่ร้อนระอุ ทั้งหมดถูกเผาไหม้จนเกรียม หรือมีสีเหลืองแดง ลอยอยู่ในเปลวไฟ ถูกพัดขึ้นไปข้างบน เปลวไฟแลบออกมาจากตัว พร้อมด้วยควัน แล้วก็หล่นลงไปเหมือนประกายไฟของพระเพลิงมหึมา ในสภาพไร้น้ำหนักหรือขาดดุลภาพ ท่ามกลางเสียงร้องครวญคราง ด้วยความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง ซึ่งทำให้พวกเรากลัวจนตัวสั่น (เนื่องจากภาพนี้ที่ได้เห็น คนที่อยู่รอบข้างได้ยินข้าพเจ้าร้องสุดเสียง) เรามองเห็นผีปิศาจอย่างชัดเจน มันมีรูปร่างน่าหวาดหลัว เหมือนสัตว์ป่าดุร้าย ที่ไม่มีใครเคยรู้จักมาก่อน มีสีดำคล้ำ เหมือนถ่านหินที่ร้อนระอุคุอยู่ในเตาไฟ พวกเราตกใจกลัวอย่างสุดขีด มองขึ้นหาแม่พระ ขอความช่วยเหลือจากพระนาง ผู้ซึ่งตรัสกับเราอย่างอ่อนโยนและเศร้าๆว่า:
"ลูกได้เห็นนรกแล้ว ที่ซึ่งวิญญาณของคนบาปน่าสงสารได้ตกลงไป เพื่อช่วยคนบาปพ้นจากนรก พระเป็นเจ้าทรงปรารถนาให้โลกยึดมั่นในความศรัทธาต่อดวงพระทัยนิรมลทินของแม่ ถ้าคริสตชนทำตามที่แม่บอกลูก วิญญาณมากมายจะรอด และจะมีสันติภาพทั่วโลก สงครามกำลังจะยุติ (หมายถึงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง) แต่ถ้ามนุษย์ยังไม่เลิกทำเคืองพระหฤทัยของพระเป็นเจ้า จะเกิดสงครามอีกครั้ง ที่น่ากลัวยิ่งกว่านี้ ในสมณะสมัยของพระสันตะปาปาปิโอที่ 11 เมื่อลูกเห็นกลางคืนสว่างไสวด้วยแสงลึกลับ ให้ลูกรู้ว่า นี่คือสัญลักษณ์ที่พระเป็นเจ้าทรงประทานแก่ลูก พระองค์กำลังจะลงโทษโลกแห่งอาชญากรรม ด้วยสงคราม ความอดหยาก และการเบียดเบียนพระศาสนจักรและบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์"
"เพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้มิให้เกิดขึ้น แม่จะมาขอให้ถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงพระทัยนิรมลทินของแม่ และการรับศีลมหาสนิทชดเชยบาปในวันเสาร์ต้นเดือน ถ้าคริสตชนเชื่อฟังแม่ ประเทศรัสเซียจะกลับใจ และจะมีสันติภาพทั่วโลก มิฉะนั้น รัสเซียจะเผยแพร่ความผิดไปทั่วโลก เป็นสาเหตุให้เกิดสงคราม และการเบียดเบียนพระศาสนจักร คนชอบธรรมจะได้เป็นมรณสักขี บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะทุกข์ยากลำบากใจ หลายๆประเทศจะถูกทำลาย ในที่สุด ดวงพระทัยนิรมลทินของแม่จะมีชัยชนะ บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์จะถวายประเทศรัสเซียแด่แม่ รัสเซียจะกลับใจ และโลกจะมีสันติภาพชั่วระยะเวลาหนึ่ง"
หมายเหตุ: พระสันตะปาปาจอห์นปอลที่ 2 พร้อมกับพระสังฆราชทั่วโลก ได้ถวายประเทศรัสเซียแด่ดวงพระทัยนิรมลทินของแม่พระ หลังจากนั้นลัทธิคอมมิวนิสต์ได้ล่มสะลาย ประเทศรัสเซียได้กลับใจ และโลกได้มีสันติภาพแค่ไม่กี่ปี แล้วก็เกิดสงครามในที่หลายแห่งของโลก เช่น สงครามอิราค สงครามบอสเนีย สงครามตะวันออกกลาง สงครามบอลข่าน สงครามในทวีปอัฟริกา สงครามอินโดนีเซียและการแยกดินแดนออกไปเป็นประเทศเอกราช สงครามเช็กเนีย การต่อสู้กันของนิกายโปรเตสตันและชาวคาทอลิกในประเทศไอร์แลนด์ การปฏิวัติรัฐประหารในหลายประเทศ การผนวกธิเบตเข้าเป็นดินแดนของแผ่นดินใหญ่จีน การเบียดเบียนศาสนาคาทอลิกในเประเทศอินเดีย การเกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในเอเซียภาคตะวันออกเฉียงใต้ ความเสื่อมโทรมทางศีลธรรม เช่น การแต่งงานที่ไม่ถูกต้องตามพระบัญญัติของพระเป็นเจ้า การหย่าล้าง การทำแท้ง เด็กๆประกอบอาชญากรรมเหมือนผู้ใหญ่ เช่น การใช้อาวุธปืนในการฆ่าคน การติดยาเสพติด ฯลฯการฆ่าตัวตายของวัยรุ่น การช่วยคนชราหรือคนที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรังฆ่าตัวตาย "วัฒนะธรรมแห่งชีวิต" ถูกแทนที่ด้วย "วัฒนะธรรมแห่งความตาย" การก่อการร้ายทั่วโลก การโจรกรรมและการวางระเบิดเครื่องบินโดยสาร การแพร่เชื้อโรคเอดส์ไปทั่วโลกและคนในทวีป
อัฟริกาติดโรคนี้มากที่สุด และอื่นๆ
อ่านแล้วต้องขอเสื้อจำพวกจากน้องส้มแล้วJacqueline เขียน: พระนางมารีอา พระแม่แห่ภูเขาคาร์เมล ได้ประจักษ์แก่นักบุญไซมอนสต๊อก และตรัสกับเขาว่า: "จงอย่ากลัวอีกต่อไป แม่จะให้เสื้อพิเศษแก่นักบวชคณะคาร์เมล ทุกคนที่ตายสวมเสื้อนี้จะไม่ตกนรก"
ข้าพเจ้าสวมเสื้อจำพวกสีน้ำตาลข้างในเสื้อหล่อของข้าพเจ้า และยังมีเสื้อจำพวกอีกอันในกระเป๋ากางเกง เพราะข้าพเจ้าไม่ทราบว่า เมื่อไรคนจะมาเรียกข้าพเจ้าไปเทศน์ และเมื่อข้าพเจ้าเทศน์ ข้าพเจ้าก็เทศน์เรื่องการสวดลูกประคำและสวมเสื้อจำพวก
พระนางมารีอาได้ตรัสว่า: "โดยการสวดลูกประคำและสวมเสื้อจำพวก แม่จะกอบกู้โลก"
..โปรดภาวนาเพื่อเราคนบาป
บัดนี้และเมื่อจะตาย อาแมน
เคยได้ยินว่า มีชายคนหนึ่งทิ้งวัดไปJacqueline เขียน: พระนางได้ประทานแก่เราหลักประกันอีกอย่างหนึ่งว่า: "ใครที่ตายสวมเสื้อนี้จะไม่ทรมานในไฟชั่วนิรันดร" ถ้าพระสังฆราชแค่องค์เดียวในกลุ่มของท่าน ที่ได้มาที่ฟาติมา และกลับไปยังสังฆมลทลของท่านและวิงวอนประชากรของท่าน: "ข้าพเจ้าเป็นพระสังฆราชของท่าน ข้าพเจ้าอยู่นี่เพื่อ กอบกู้วิญญาณของท่านให้พ้นจากนรก โปรดยอมรับ ฟัง และรำพึงถึง คำสั่งสอนของข้าพเจ้า ในวันนี้ และพระสงฆ์ของข้าพเจ้า โปรดเลียนแบบพระสังฆราชของท่าน จงเทศน์เรื่องนรก"
ถ้าท่านเพียงทำสิ่งนี้ ท่านก็จะทำกิจเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่แห่งชีวิตสงฆ์ของท่าน เป็นการบรรลุผลงานของพระสังฆราช
จงเทศน์เรื่องนรก แล้วพระเยซูเจ้าจะอวยพระพรท่าน พระองค์จะให้อภัยความอ่อนแอของท่าน พระองค์จะให้อภัยบาปของท่านถ้าท่านเทศน์เรื่องนรก โดยการเทศน์เรื่องนรก ท่านจะทำกิจเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่เพราะสัตบุรุษที่ฟังท่านเทศน์จะมีความเชื่อ เขาทั้งหลายจะเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ และจะไปแก้บาป
นักบุญไปแก้บาป, นักบุญไปแก้บาป! และคนที่ไปแก้เสมอๆกลายเป็นนักบุญ
(2) นรกมีจริง และเราอาจจะต้องไปที่นั่น
นี่เป็นบทเทศน์ของคุณพ่อมาร์เซล โนลท์ สำหรับพระสังฆราชที่มาประชุมกันที่ฟาติมาประเทศปอร์ตุเกส
พระสงฆ์ขอให้เขารำพึงทุกวันว่า
สวรรค์ นรก ชั่วนิรันดร
หลังจากนั้น เขาได้กลับใจมาขอแก้บาปรับศีลอย่างดี
ขอแม่พระเป็นที่พึ่งเสมอไป
-
- โพสต์: 574
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
- ติดต่อ:
แล้วเสื้อนี้ใส่แบบที่รับศีลสง่าหรอครับ ไม่รำคาญหรอครับ