มหัศจรรย์จากพระคัมภีร์ไบเบิ้ลต่อหญิงชาวพุทธ
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ได้ไปเจอหญิงหม่ายชาวพุทธคนหนึ่ง
ซึ่งเธอหย่ากับสามีมาประมาณ 10 ปีแล้ว (แต่ยังคงอยู่ด้วยกัน)
แต่เพิ่งมีปัญหาที่ทำให้อยู่ด้วยกันไม่ได้เป็นเวลา 4 ปีหลัง และเลวร้ายสุด คือ
สามีไม่ส่งเสียลูกคนโตซึ่งกำลังเรียนอยู่มหาลัย
ทำให้มีภาระสำหรับเธอเพิ่มขึ้น เธอมีลูก ชาย 2 คน ซึ่งเรียนอยู่ชั้นมัีธยม และมหาลัย
เธอไม่รู้ว่าจะหาคำตอบกับชีวิตอย่างไร สิ่งที่เธอคิดได้คือ ฟ้องร้องเพื่อให้ได้ทรัพย์สิน
บางส่วนกลับมา ... แต่ยังไม่รู้ผลว่า จะเป็นอย่างไร ได้หรือไม่ได้ ....
เธอมีคำถามในใจถึง 3 ข้ัอ ที่เธอไม่รู้จะหาคำตอบ ได้อย่างไร ...
ผมจึงนำพระคัมภีร์ให้เธอ และสอนวิธีการใช้
โดยให้เธออธิษฐาน และตั้งคำถามก่อนเปิดพระคัมภีร์
เมื่อเจอคำใดก่อน ให้จำเอาไว้ แล้วค่อยอ่าน ...
ให้จับความรู้สึกที่ได้จากสิ่งที่อ่าน ... และแล้วเรื่องก็เป็นดังนี้
เรื่องที่หนึ่ง
เธออธิษฐานถามว่า
"ลูกของเธอจะรักเธอไหม และลูกของเธอจะเป็นอย่างไร?"
ความรู้สึกของเธอที่ได้จากการอ่านบทพระคัมภีร์ช่วงนั้น บอกเธอว่า
"ลูกของเธอจะอยู่ในการอบรม เลี้ยงดูของเธอ เขาจะเชื่อฟัง และเป็นลูกที่ดี"
เรื่องที่สอง
เธออธิษฐานถามว่า
"อยากจะได้บ้านที่อยู่ร่วมกันกับสามีคืนมา อยากมีบ้าน ควรทำอย่างไร?"
ความรู้สึกของเธอที่ได้จากการอ่านบทพระคัมภีร์ช่วงนั้น บอกเธอว่า
"อย่าหวังในทรัพย์สมบัติในโลกนี้ อย่าพะวงกับสิ่งต่างๆ จงอยู่กับปัจจุบันและฐานะที่เป็นอยู่นี้เถิด"
เรื่องที่สาม
เธออธิษฐานถามว่า
"ฉันควรจะมีสามีใหม่ อยู่คนเดียว หรือกลับไปหาสามีเก่า?"
ความรู้สึกของเธอที่ได้จากการอ่านบทพระคัมภีร์ช่วงนั้น บอกเธอว่า
"จงทำตัวให้บริสุทธิ์ อยู่เป็นแม่ที่ดีของลูกๆ ต่อไป"
ผมรู้สึกถึงความมหัศจรรย์ของพระคัมภีร์ที่มีต่อหญิงคนนี้จริงๆ
เพราะทุกเรื่องที่เธอถาม หาคำตอบไม่ได้ พระคัมภีร์นั้นสามารถตอบให้เธอได้ทุกข้อ
ผมจึงบอกกับเธอว่า สิ่งที่ได้จากการอ่านพระคัมภีร์นี้ เป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องการจะสื่อสารกับเธอ
ถ้าหากต้องการให้มีชีวิตที่มีความสุขแล้ว ขอให้ดำเนินตามสิ่งที่พระเจ้าบอกเถิด
ผมบอกกับเธอว่า ถ้าหากเธอจะไม่เชื่อ ผมก็ไม่ว่ากระไร แต่ย้ำว่า สิ่งนี้คือ สิ่งที่เธอควรจะทำ
เธอก็เก็บสิ่งเหล่านี้ไปคิดต่อในใจ แต่ความรู้สึกของผมที่ได้ก็คือ
ผมได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องของพระเจ้า ต่อเขาแล้ว ผมดีใจเป็นที่สุด
ขอให้เธอนำพา ...คิิคิ
ซึ่งเธอหย่ากับสามีมาประมาณ 10 ปีแล้ว (แต่ยังคงอยู่ด้วยกัน)
แต่เพิ่งมีปัญหาที่ทำให้อยู่ด้วยกันไม่ได้เป็นเวลา 4 ปีหลัง และเลวร้ายสุด คือ
สามีไม่ส่งเสียลูกคนโตซึ่งกำลังเรียนอยู่มหาลัย
ทำให้มีภาระสำหรับเธอเพิ่มขึ้น เธอมีลูก ชาย 2 คน ซึ่งเรียนอยู่ชั้นมัีธยม และมหาลัย
เธอไม่รู้ว่าจะหาคำตอบกับชีวิตอย่างไร สิ่งที่เธอคิดได้คือ ฟ้องร้องเพื่อให้ได้ทรัพย์สิน
บางส่วนกลับมา ... แต่ยังไม่รู้ผลว่า จะเป็นอย่างไร ได้หรือไม่ได้ ....
เธอมีคำถามในใจถึง 3 ข้ัอ ที่เธอไม่รู้จะหาคำตอบ ได้อย่างไร ...
ผมจึงนำพระคัมภีร์ให้เธอ และสอนวิธีการใช้
โดยให้เธออธิษฐาน และตั้งคำถามก่อนเปิดพระคัมภีร์
เมื่อเจอคำใดก่อน ให้จำเอาไว้ แล้วค่อยอ่าน ...
ให้จับความรู้สึกที่ได้จากสิ่งที่อ่าน ... และแล้วเรื่องก็เป็นดังนี้
เรื่องที่หนึ่ง
เธออธิษฐานถามว่า
"ลูกของเธอจะรักเธอไหม และลูกของเธอจะเป็นอย่างไร?"
ความรู้สึกของเธอที่ได้จากการอ่านบทพระคัมภีร์ช่วงนั้น บอกเธอว่า
"ลูกของเธอจะอยู่ในการอบรม เลี้ยงดูของเธอ เขาจะเชื่อฟัง และเป็นลูกที่ดี"
เรื่องที่สอง
เธออธิษฐานถามว่า
"อยากจะได้บ้านที่อยู่ร่วมกันกับสามีคืนมา อยากมีบ้าน ควรทำอย่างไร?"
ความรู้สึกของเธอที่ได้จากการอ่านบทพระคัมภีร์ช่วงนั้น บอกเธอว่า
"อย่าหวังในทรัพย์สมบัติในโลกนี้ อย่าพะวงกับสิ่งต่างๆ จงอยู่กับปัจจุบันและฐานะที่เป็นอยู่นี้เถิด"
เรื่องที่สาม
เธออธิษฐานถามว่า
"ฉันควรจะมีสามีใหม่ อยู่คนเดียว หรือกลับไปหาสามีเก่า?"
ความรู้สึกของเธอที่ได้จากการอ่านบทพระคัมภีร์ช่วงนั้น บอกเธอว่า
"จงทำตัวให้บริสุทธิ์ อยู่เป็นแม่ที่ดีของลูกๆ ต่อไป"
ผมรู้สึกถึงความมหัศจรรย์ของพระคัมภีร์ที่มีต่อหญิงคนนี้จริงๆ
เพราะทุกเรื่องที่เธอถาม หาคำตอบไม่ได้ พระคัมภีร์นั้นสามารถตอบให้เธอได้ทุกข้อ
ผมจึงบอกกับเธอว่า สิ่งที่ได้จากการอ่านพระคัมภีร์นี้ เป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องการจะสื่อสารกับเธอ
ถ้าหากต้องการให้มีชีวิตที่มีความสุขแล้ว ขอให้ดำเนินตามสิ่งที่พระเจ้าบอกเถิด
ผมบอกกับเธอว่า ถ้าหากเธอจะไม่เชื่อ ผมก็ไม่ว่ากระไร แต่ย้ำว่า สิ่งนี้คือ สิ่งที่เธอควรจะทำ
เธอก็เก็บสิ่งเหล่านี้ไปคิดต่อในใจ แต่ความรู้สึกของผมที่ได้ก็คือ
ผมได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องของพระเจ้า ต่อเขาแล้ว ผมดีใจเป็นที่สุด
ขอให้เธอนำพา ...คิิคิ
สิ่งนี้ชี้ว่าพระจิตเจ้าทำงานในตัวเธอ เพราะแม้แต่คาทอลิคเองก็ไม่ใช่ทุกคนที่สุ่มเปิดและอ่านพระคัมภีร์แล้วจะเข้าใจคำตอบได้
และสิ่งที่เธอจะทราบหรือไม่ก็ไม่รู้ก็คือ พระเจ้ารักเธอมาก และดูแลชีวิตเธอตั้งแต่เธอยังเป็นคนต่างศาสนา พิสูจน์ว่า พระเจ้าเป็น "ความจริง" ไม่ใช่เป็นเรื่องศาสนาเท่านั้น และพิสูจน์ว่า "พระเจ้ารักเธอ"
กจ 10:47
และสิ่งที่เธอจะทราบหรือไม่ก็ไม่รู้ก็คือ พระเจ้ารักเธอมาก และดูแลชีวิตเธอตั้งแต่เธอยังเป็นคนต่างศาสนา พิสูจน์ว่า พระเจ้าเป็น "ความจริง" ไม่ใช่เป็นเรื่องศาสนาเท่านั้น และพิสูจน์ว่า "พระเจ้ารักเธอ"
กจ 10:47
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
ไบเบิ้ลเป็นคำตอบของชีวิตจริงๆ เราคริสตชนเองก็อย่าหลงลืมไปหล่ะว่ามีสิ่งที่ดีที่สุดอยู่ใกล้ๆ เรา
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบคุณพระเจ้าครับ
ต้องอาศัยพระจิตเจ้านำทางด้วยครับ เพราะบางครั้งบางคนตีความคำตอบนั้นไม่ออก หรือตีความผิดตอน ซึ่งมีผลมาจากตัวตนของเราด้วยว่า มีอิทธิพลมากจนขัดขวางการทำงานของพะระจิตเจ้า หรือเราปล่อยวางมากพอที่พระจิตเจ้าจะทำงานกับเราอย่างแท้จริงpelouse เขียน: โอ้ ทุกคนที่ตั้งคำถามจะได้รับคำตอบใช่ไหม หรือแล้วแต่พระ งั้นแสดงว่าเรามีคลังคำตอบที่มสามารถตอบได้ทุกคำถามใช่ไหมเนีย
ทำไมน้า ใกล้เกลือ กินด่าง คนเรา
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
ถูกต้องครับHoly เขียน:ต้องอาศัยพระจิตเจ้านำทางด้วยครับ เพราะบางครั้งบางคนตีความคำตอบนั้นไม่ออก หรือตีความผิดตอน ซึ่งมีผลมาจากตัวตนของเราด้วยว่า มีอิทธิพลมากจนขัดขวางการทำงานของพะระจิตเจ้า หรือเราปล่อยวางมากพอที่พระจิตเจ้าจะทำงานกับเราอย่างแท้จริงpelouse เขียน: โอ้ ทุกคนที่ตั้งคำถามจะได้รับคำตอบใช่ไหม หรือแล้วแต่พระ งั้นแสดงว่าเรามีคลังคำตอบที่มสามารถตอบได้ทุกคำถามใช่ไหมเนีย
ทำไมน้า ใกล้เกลือ กินด่าง คนเรา
ขอบคุณพระเจ้า
- Ї Maid C@fe
- โพสต์: 30
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ พ.ค. 17, 2008 2:27 pm
- ที่อยู่: Saint Francis Xavier Church
- ติดต่อ:
How wonderful it is
ขอขอบคุณพระเจ้าค่ะ