เรานับถือศาสนาพุทธ และมีอภิญญา คือมีฤทธิ์ทางใจ เราใช้จิตพูดคุยกับเทวดาได้ ตอนเราอายุ 17 ปี ทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาปรากฏและอยู่กับเรา ท่านพูดถึงพระเจ้าและพระเยซู แต่ใจเราอคติและต่อต้านอย่างมาก เราก็ไม่เชื่อ ทูตสวรรค์บอกว่าให้เชื่อในพระเจ้า และทำตามน้ำพระทัยของพระองค์ ซึ่งเราคิดว่ามันงี่เง่ามากๆเลย เพราะว่าพนะพุทธเจ้าบอกว่าอัตตาหิ อัตตาโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งของตน ใจเราดื้อด้านและไม่รับฟัง ทูตสวรรค์ปรากฏตัวบ่อยจนเหมือนเป็นเพื่อน
ตัวเราแต่ก่อนนั้นเป็นคนอัตตาสูง ทิฏฐิมานะก็สูง เพราะว่าเป็นคนที่ทำอะไรก็สำเร็จอย่างง่าย ไม่เคยล้มเหลว และยึดถือเรื่องทางโลกเป็นดั่งพระเจ้าของตน วันหนึ่งพระเจ้าบันดาลให้ทุกอย่างเป็นอย่างตรงข้าม เราสูญเสียทุกอย่าง เรียนไม่จบ สุขภาพแย่ลง ทำอะไรก็ผิดพลาดไปหมด เป็นที่นินทาของคน โดนคนซ้ำเติม ผิดใจกับครอบครัวตัวเอง เราพยายามอดทน สู้ และผ่านช่วงเวลาเลวร้ายไปให้ได้ เราสูญเสียทุกอย่างและคิดว่าตัวเองสู้ต่อไปไม่ไหวแล้ว และในวันหนึ่ง ในวินาทีที่คิดว่าตัวเองยอมแพ้แล้ว และคิดจะจบทุกสิ่งทุกอย่างด้วยการฆ่าตัวตาย เราร้องไห้อย่างหนักอย่างที่เค้าบอกว่าน้ำตาเป็นสายเลือด และทูตสวรรค์ก็ปรากฏตัวขึ้น และทูตสวรรค์ก็พูดภาษาแปลกๆที่เราไม่รู้จัก สมองแปลไม่ออก แต่ว่าใจเรารับรู้ สิ่งที่ท่านพูดทำให้เราร้องไห้และทำให้เรารู้ว่าเราไม่ได้ถูกทอดทิ้ง ท่านทำให้เรานิ่งลงและหลับไป เป็นการหลับจริงๆครั้งแรกในระยะเวลา 2 ปี
เมื่อตื่นขึ้นมา โลกของเราก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง เราเชื่อทูตสวรรค์ และพระเยซู และพระเจ้า เราเชื่อว่าพระเจ้ามีจริง แต่ว่าก็ไม่รู้ว่าจะปฏิบัติตนอย่างไร ก็ไม่เคยเรียนรู้เรื่องพระเจ้า แล้วจิตใจเราก็ยังหยาบ ยังมีความดื้อด้านเหลืออยู่ แม้จะโดนตีสั่งสอนอย่างหนักมาเป็นเวลา 2ปี
หลังจากนั้นอีก 1 ปี พระเจ้าย้ายเรามาอยู่ต่างประเทศ ชีวิตตอนนี้ก็พลิกผันไปอีก เพราะว่าต้องปรับตัวใหม่ ไม่มีเพื่อนและครอบครัว ไม่ชินกับสภาพอากาศ อาหาร คือว่าก็ลำบากแต่จำเป็นต้องสู้และอดทน ก็เก็บกดพอสมควร แล้ววันหนึ่งก็มีหมอสอนศาสนาของพยานพระยะโฮวามากดกริ่งหน้าบ้าน เขามาพูดเรื่องพระเจ้า และถามว่าอยากเรียนเกี่ยวกับพระเจ้าไหม เขาจะมาสอนที่บ้าน เราอยากเรียนอยู่พอดี ก็เลยบอกว่าเรียนก็ดี อาทิตย์ถัดมา เขาก็มาสอน เราก็ไม่เข้าใจเลยว่าเขาพูดอะไรของเขา แต่ก็อดทนเรียนเพราะว่าพูดไปแล้ว เขาก็มาที่บ้านทุกอาทิตย์ เวลาเขาถามอะไร เราก็ตอบอย่างที่เขาอยากให้ตอบ ใจจริงนะไม่เชื่อหรอก เพราะว่าไม่เข้าใจไง
แล้ววันหนึ่งพวกเขาก็มาอีก พอเรียนเสร็จ เราไปส่งเขากลับที่หน้าบ้าน พอลากันเสร็จ เขาจากไป เรารู้สึกหน้ามืด จะเป็นลม เบลอๆ มีบางอย่างบังคับตัวเราไปนอนที่เตียง พอล้มลงนอน มีบางสิ่งปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเรา เราสัมผัสได้ แล้วเราก็ร้องไห้อย่างเด็กๆ น้ำตาน้ำมูกไหล เราก้มหน้าลงด้วยความเกรงกลัว เราเหลือบตามองกลัวสิ่งนั้นจะรู้ สิ่งนั้นสว่างมากๆ ยิ่งใหญ่มากๆ แล้วก็เป็นความรักความเมตตาอย่างมหาศาล สิ่งนั้นพูดกับเรา สิ่งนั้นอยู่กับเราประมาณ 10 นาที สิ่งนั้นละลายความทุกข์ของเราไปกับน้ำตา สิ่งนั้นจากไปแล้วเราก็รู้ว่าสิ่งนั้นคือ พระเจ้า
จากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ 10ปีมาแล้ว พระเจ้าเปลี่ยนเราเป็นคนละคน และชีวิตที่เหลืออยู่มีเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าเท่านั้น
