ช่วยแปลฝันให้ที !แปลก!
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
เกริ่นนิสนึง
======
แต่ก่อนผมจะมี รูปพระจิต ติดไว้ที่เสื้อเสมอ
แต่เนื่องจาก เพื่อนผม (เป็นพุทธ) มักจะเงินช็อตบ่อย (ทำงานธนาคาร)
และก็มีหลายคนในที่ทำงานไม่หวังดี ผมจึงให้รูปพระจิิตติดตัวไว้
ซึ่งเพื่อนเขาก็เรียกว่า "นางฟ้า" เหอๆ
เขาทำงานได้อย่างราบรื่นขึ้นมาตลอด จนปัจจุบันนี้ ไม่รู้ว่า ไปเอารูปนางฟ้าไปไว้ที่ไหน
ก็หมายความว่า หายไงครับ ไม่รู้ว่าเผลอวาง หรือ ถอดไว้ที่ไหน?
มันก็เป็นคำถามระหว่างผมกับเพื่อนว่า "หายไปไหน?" มาตลอด
และเมื่อคืน ดันฝันถึง รูปพระจิตรูปนี้
--------
ผมฝันว่า เปิดลิ้นชัก ที่ใดที่หนึ่ง ไม่ทราบแน่
แล้วเห็นรูปพระจิตอยู่ในนั้น ผมก็บอกกับเพื่อนในฝันว่า
เจอแล้ว! อยู่นี่เอง แต่เอ๊ะ มีอะไรหลุดออกมาจากรูปพระจิตหว่า?
ผมก็ใช้ปากของผมกัดวัสดุที่กำลังจะหลุดออกมาจากรูปพระจิต
กะว่า มันจะกลับเข้าไปติดที่เดิม
ผมดันรู้สึกว่า เหมือนมีอะไรอยู่ในปาก เหมือนฟันหลุดออกมาสักซี่
แต่พอคลายออกมาจากปาก ปรากฏว่าไม่ใช่ฟันอะครับ!
เป็นเข็มกลัดสีแดง รูปเดียวกับโลโก้ คณะพระมหาไถ่เลย
-------
เลยสงสัยเลยครับว่า จะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรเจ้าโลโก้ คณะพระมหาไถ่ เข็มกลัดสีแดง
และรูปพระจิตสีแดง
======
แต่ก่อนผมจะมี รูปพระจิต ติดไว้ที่เสื้อเสมอ
แต่เนื่องจาก เพื่อนผม (เป็นพุทธ) มักจะเงินช็อตบ่อย (ทำงานธนาคาร)
และก็มีหลายคนในที่ทำงานไม่หวังดี ผมจึงให้รูปพระจิิตติดตัวไว้
ซึ่งเพื่อนเขาก็เรียกว่า "นางฟ้า" เหอๆ
เขาทำงานได้อย่างราบรื่นขึ้นมาตลอด จนปัจจุบันนี้ ไม่รู้ว่า ไปเอารูปนางฟ้าไปไว้ที่ไหน
ก็หมายความว่า หายไงครับ ไม่รู้ว่าเผลอวาง หรือ ถอดไว้ที่ไหน?
มันก็เป็นคำถามระหว่างผมกับเพื่อนว่า "หายไปไหน?" มาตลอด
และเมื่อคืน ดันฝันถึง รูปพระจิตรูปนี้
--------
ผมฝันว่า เปิดลิ้นชัก ที่ใดที่หนึ่ง ไม่ทราบแน่
แล้วเห็นรูปพระจิตอยู่ในนั้น ผมก็บอกกับเพื่อนในฝันว่า
เจอแล้ว! อยู่นี่เอง แต่เอ๊ะ มีอะไรหลุดออกมาจากรูปพระจิตหว่า?
ผมก็ใช้ปากของผมกัดวัสดุที่กำลังจะหลุดออกมาจากรูปพระจิต
กะว่า มันจะกลับเข้าไปติดที่เดิม
ผมดันรู้สึกว่า เหมือนมีอะไรอยู่ในปาก เหมือนฟันหลุดออกมาสักซี่
แต่พอคลายออกมาจากปาก ปรากฏว่าไม่ใช่ฟันอะครับ!
เป็นเข็มกลัดสีแดง รูปเดียวกับโลโก้ คณะพระมหาไถ่เลย
-------
เลยสงสัยเลยครับว่า จะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรเจ้าโลโก้ คณะพระมหาไถ่ เข็มกลัดสีแดง
และรูปพระจิตสีแดง
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi


- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ตีความแบบมั่วๆมั่ง
"ผมฝันว่า เปิดลิ้นชัก ที่ใดที่หนึ่ง ไม่ทราบแน่
แล้วเห็นรูปพระจิตอยู่ในนั้น ผมก็บอกกับเพื่อนในฝันว่า
เจอแล้ว! อยู่นี่เอง แต่เอ๊ะ มีอะไรหลุดออกมาจากรูปพระจิตหว่า?
ผมก็ใช้ปากของผมกัดวัสดุที่กำลังจะหลุดออกมาจากรูปพระจิต
กะว่า มันจะกลับเข้าไปติดที่เดิม
ผมดันรู้สึกว่า เหมือนมีอะไรอยู่ในปาก เหมือนฟันหลุดออกมาสักซี่
แต่พอคลายออกมาจากปาก ปรากฏว่าไม่ใช่ฟันอะครับ!
เป็นเข็มกลัดสีแดง รูปเดียวกับโลโก้ คณะพระมหาไถ่เลย"
เป็นไปได้ไหมว่าพระจิตกำลังบอกให้คุณทำงานถวายตัวให้คณะพระมหาไถ่ (อาจจะเป็นบราเดอร์ หรือ พระสงฆ์เลย)
มั่วนะงับ ย้ำว่ามั่ว อิอิ
"ผมฝันว่า เปิดลิ้นชัก ที่ใดที่หนึ่ง ไม่ทราบแน่
แล้วเห็นรูปพระจิตอยู่ในนั้น ผมก็บอกกับเพื่อนในฝันว่า
เจอแล้ว! อยู่นี่เอง แต่เอ๊ะ มีอะไรหลุดออกมาจากรูปพระจิตหว่า?
ผมก็ใช้ปากของผมกัดวัสดุที่กำลังจะหลุดออกมาจากรูปพระจิต
กะว่า มันจะกลับเข้าไปติดที่เดิม
ผมดันรู้สึกว่า เหมือนมีอะไรอยู่ในปาก เหมือนฟันหลุดออกมาสักซี่
แต่พอคลายออกมาจากปาก ปรากฏว่าไม่ใช่ฟันอะครับ!
เป็นเข็มกลัดสีแดง รูปเดียวกับโลโก้ คณะพระมหาไถ่เลย"
เป็นไปได้ไหมว่าพระจิตกำลังบอกให้คุณทำงานถวายตัวให้คณะพระมหาไถ่ (อาจจะเป็นบราเดอร์ หรือ พระสงฆ์เลย)
มั่วนะงับ ย้ำว่ามั่ว อิอิ

ไม่ทราบเช่นกัน แต่อธิษฐานเปิดพระคัมภีร์ได้บทนี้
1คร 14:26-40 ระเบียบการใช้พระพรของพระจิตเจ้า
พี่น้องทั้งหลาย จะปฏิบัติอย่างไรดีเล่า เมื่อท่านมาชุมนุมกัน แต่ละคนอาจขับร้องสดุดี หรือสั่งสอน หรือเปิดเผยความจริง
หรือพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ หรืออธิบายความหมายของภาษานั้น ท่านจงปฏิบัติทั้งหมดนี้เพื่อเสริมสร้างเถิด
ถ้าจะต้องพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจจงพูดทีละคน และพูดเพียงสองหรือสามคนเป็นอย่างมากโดยให้คนหนึ่งอธิบายความหมาย
ถ้าไม่มีใครอธิบายความหมายได้ ผู้พูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจจงอย่าพูดในที่ชุมนุม จงพูดกับตนเองและกับพระเจ้า
ให้ผู้ประกาศพระวาจาสองหรือสามคนเท่านั้นพูด ขณะที่คนอื่นพิจารณาตัดสิน
แต่ถ้าคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ได้รับการเปิดเผยความจริงบางประการจากพระเจ้า ก็ให้ผู้พูดคนแรกหยุดพูด
ท่านทุกคนประกาศพระวาจาได้ แต่จงพูดทีละคน เพื่อทุกคนจะได้เรียนรู้และทุกคนจะได้รับกำลังใจ
ผู้ประกาศพระวาจาต้องควบคุมการใช้พระพรของตน
เพราะพระเจ้ามิทรงปรารถนาความวุ่นวาย แต่ทรงปรารถนาสันติ ตามธรรมเนียมปฏิบัติในพระศาสนจักรทุกแห่ง
ให้บรรดาสตรีอยู่เงียบ ๆ ในที่ชุมนุม เพราะพวกเธอไม่ได้รับอนุญาตให้พูด แต่ต้องอ่อนน้อมเชื่อฟังตามที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้
ถ้าพวกเธอต้องการคำอธิบาย ก็ให้ถามสามีขณะอยู่ที่บ้าน เพราะเป็นการไม่เหมาะสมที่สตรีจะพูดในที่ชุมนุม
พระวาจาของพระเจ้ามาจากท่านหรือ พระวาจามาถึงท่านเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นหรือ
ถ้าใครคิดว่าตนเป็นประกาศก หรือได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้า ก็ขอให้เขารับรู้ว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนถึงท่านเป็นพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ถ้าผู้ใดไม่ย่อมรับรู้ พระเจ้าก็ไม่ทรงรับรู้เขาด้วย
พี่น้องทั้งหลาย จงปรารถนาที่จะประกาศพระวาจา อย่าห้ามการพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ
และจงทำเช่นนี้อย่างเหมาะสมและเป็นระเบียบ
พี่บอมก็ไปใคร่ครวญดูนะครับ :emotion_057:
1คร 14:26-40 ระเบียบการใช้พระพรของพระจิตเจ้า
พี่น้องทั้งหลาย จะปฏิบัติอย่างไรดีเล่า เมื่อท่านมาชุมนุมกัน แต่ละคนอาจขับร้องสดุดี หรือสั่งสอน หรือเปิดเผยความจริง
หรือพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ หรืออธิบายความหมายของภาษานั้น ท่านจงปฏิบัติทั้งหมดนี้เพื่อเสริมสร้างเถิด
ถ้าจะต้องพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจจงพูดทีละคน และพูดเพียงสองหรือสามคนเป็นอย่างมากโดยให้คนหนึ่งอธิบายความหมาย
ถ้าไม่มีใครอธิบายความหมายได้ ผู้พูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจจงอย่าพูดในที่ชุมนุม จงพูดกับตนเองและกับพระเจ้า
ให้ผู้ประกาศพระวาจาสองหรือสามคนเท่านั้นพูด ขณะที่คนอื่นพิจารณาตัดสิน
แต่ถ้าคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ได้รับการเปิดเผยความจริงบางประการจากพระเจ้า ก็ให้ผู้พูดคนแรกหยุดพูด
ท่านทุกคนประกาศพระวาจาได้ แต่จงพูดทีละคน เพื่อทุกคนจะได้เรียนรู้และทุกคนจะได้รับกำลังใจ
ผู้ประกาศพระวาจาต้องควบคุมการใช้พระพรของตน
เพราะพระเจ้ามิทรงปรารถนาความวุ่นวาย แต่ทรงปรารถนาสันติ ตามธรรมเนียมปฏิบัติในพระศาสนจักรทุกแห่ง
ให้บรรดาสตรีอยู่เงียบ ๆ ในที่ชุมนุม เพราะพวกเธอไม่ได้รับอนุญาตให้พูด แต่ต้องอ่อนน้อมเชื่อฟังตามที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้
ถ้าพวกเธอต้องการคำอธิบาย ก็ให้ถามสามีขณะอยู่ที่บ้าน เพราะเป็นการไม่เหมาะสมที่สตรีจะพูดในที่ชุมนุม
พระวาจาของพระเจ้ามาจากท่านหรือ พระวาจามาถึงท่านเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นหรือ
ถ้าใครคิดว่าตนเป็นประกาศก หรือได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้า ก็ขอให้เขารับรู้ว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนถึงท่านเป็นพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ถ้าผู้ใดไม่ย่อมรับรู้ พระเจ้าก็ไม่ทรงรับรู้เขาด้วย
พี่น้องทั้งหลาย จงปรารถนาที่จะประกาศพระวาจา อย่าห้ามการพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ
และจงทำเช่นนี้อย่างเหมาะสมและเป็นระเบียบ
พี่บอมก็ไปใคร่ครวญดูนะครับ :emotion_057:
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ขอหมอเจี๊ยบทำนายบ้างครับ พี่บอมbomzaiya เขียน:
มันก็เป็นคำถามระหว่างผมกับเพื่อนว่า "หายไปไหน?" มาตลอด
และเมื่อคืน ดันฝันถึง รูปพระจิตรูปนี้
--------
ผมฝันว่า เปิดลิ้นชัก ที่ใดที่หนึ่ง ไม่ทราบแน่
แล้วเห็นรูปพระจิตอยู่ในนั้น ผมก็บอกกับเพื่อนในฝันว่า
เจอแล้ว! อยู่นี่เอง แต่เอ๊ะ มีอะไรหลุดออกมาจากรูปพระจิตหว่า?
ผมก็ใช้ปากของผมกัดวัสดุที่กำลังจะหลุดออกมาจากรูปพระจิต
กะว่า มันจะกลับเข้าไปติดที่เดิม
ผมดันรู้สึกว่า เหมือนมีอะไรอยู่ในปาก เหมือนฟันหลุดออกมาสักซี่
แต่พอคลายออกมาจากปาก ปรากฏว่าไม่ใช่ฟันอะครับ!
เป็นเข็มกลัดสีแดง รูปเดียวกับโลโก้ คณะพระมหาไถ่เลย
-------
เลยสงสัยเลยครับว่า จะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรเจ้าโลโก้ คณะพระมหาไถ่ เข็มกลัดสีแดง
และรูปพระจิตสีแดง
1.เพื่อยืนยันว่า จิตใจของพี่ที่บอมตกและเอียงไป เอียงมาจะเข้าที่ครับ ( พระจิตเจ้าสถิตกับท่าน...และท่านด้วย )ขออย่าหวั่นไหว
2. กำลังบอกว่า พี่บอม อย่าเอนเอียงไปหาคณะอื่น และสีแดง เป็นสีของพระโลหิต ที่ไหลจาก พระทัยของพระเยซูเจ้า (ไม่ใช่สีกลุ่ม ที่พี่... )
3.สิ่งดี ๆจะเกิดขึ้นในชีวิตพี่ แน่นอน // ฟันธง
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi

-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขี้งกเบ่เบ๋:+: seraphim :+: เขียน:ตีความแบบมั่วๆ เลย คิดจะนอกใจคณะไปทำงานอื่นเปล่าย่ะ พระจิตเจ้าเลยมาเตือนให้กลับที่เก่า
![]()

-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เอ่อ...ไปเปิดให้พี่บอมทำไมอ่ะครับ ใครเปิดแสดงว่าพระตรัสกับคนนั้นนะครับยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน: ไม่ทราบเช่นกัน แต่อธิษฐานเปิดพระคัมภีร์ได้บทนี้
1คร 14:26-40 ระเบียบการใช้พระพรของพระจิตเจ้า
พี่น้องทั้งหลาย จะปฏิบัติอย่างไรดีเล่า เมื่อท่านมาชุมนุมกัน แต่ละคนอาจขับร้องสดุดี หรือสั่งสอน หรือเปิดเผยความจริง
หรือพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ หรืออธิบายความหมายของภาษานั้น ท่านจงปฏิบัติทั้งหมดนี้เพื่อเสริมสร้างเถิด
ถ้าจะต้องพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจจงพูดทีละคน และพูดเพียงสองหรือสามคนเป็นอย่างมากโดยให้คนหนึ่งอธิบายความหมาย
ถ้าไม่มีใครอธิบายความหมายได้ ผู้พูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจจงอย่าพูดในที่ชุมนุม จงพูดกับตนเองและกับพระเจ้า
ให้ผู้ประกาศพระวาจาสองหรือสามคนเท่านั้นพูด ขณะที่คนอื่นพิจารณาตัดสิน
แต่ถ้าคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ได้รับการเปิดเผยความจริงบางประการจากพระเจ้า ก็ให้ผู้พูดคนแรกหยุดพูด
ท่านทุกคนประกาศพระวาจาได้ แต่จงพูดทีละคน เพื่อทุกคนจะได้เรียนรู้และทุกคนจะได้รับกำลังใจ
ผู้ประกาศพระวาจาต้องควบคุมการใช้พระพรของตน
เพราะพระเจ้ามิทรงปรารถนาความวุ่นวาย แต่ทรงปรารถนาสันติ ตามธรรมเนียมปฏิบัติในพระศาสนจักรทุกแห่ง
ให้บรรดาสตรีอยู่เงียบ ๆ ในที่ชุมนุม เพราะพวกเธอไม่ได้รับอนุญาตให้พูด แต่ต้องอ่อนน้อมเชื่อฟังตามที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้
ถ้าพวกเธอต้องการคำอธิบาย ก็ให้ถามสามีขณะอยู่ที่บ้าน เพราะเป็นการไม่เหมาะสมที่สตรีจะพูดในที่ชุมนุม
พระวาจาของพระเจ้ามาจากท่านหรือ พระวาจามาถึงท่านเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นหรือ
ถ้าใครคิดว่าตนเป็นประกาศก หรือได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้า ก็ขอให้เขารับรู้ว่าสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนถึงท่านเป็นพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ถ้าผู้ใดไม่ย่อมรับรู้ พระเจ้าก็ไม่ทรงรับรู้เขาด้วย
พี่น้องทั้งหลาย จงปรารถนาที่จะประกาศพระวาจา อย่าห้ามการพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ
และจงทำเช่นนี้อย่างเหมาะสมและเป็นระเบียบ
พี่บอมก็ไปใคร่ครวญดูนะครับ :emotion_057:
เพราะคนที่สวดขอพระแล้วเปิด พระก็จะตอบคำสวดภาวนานะครับ

ปล.เค้าเปิดให้กันได้ด้วยหรอครับ? แล้วทำไมยศต้องเปิดให้พี่บอม (คนเดียว) ด้วยหล่ะครับ? พีเห็นมา 2 กระทู้s แล้ว


ถามเล่น ๆ อย่าจริงจัง
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Batholomew เขียน:ขี้งกเบ่เบ๋:+: seraphim :+: เขียน:ตีความแบบมั่วๆ เลย คิดจะนอกใจคณะไปทำงานอื่นเปล่าย่ะ พระจิตเจ้าเลยมาเตือนให้กลับที่เก่า
![]()
![]()


-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ไม่ได้มั่วนะครับ พูดจริง (แย่งกันเห็น ๆ):+: seraphim :+: เขียน:Batholomew เขียน:ขี้งกเบ่เบ๋:+: seraphim :+: เขียน:ตีความแบบมั่วๆ เลย คิดจะนอกใจคณะไปทำงานอื่นเปล่าย่ะ พระจิตเจ้าเลยมาเตือนให้กลับที่เก่า
![]()
![]()
งกไงย่ะ ของซีซาร์ต้องคืนให้ซีซาร์ดิ ซี้ซั่วจะมามั่วเอาของเขาได้ไง เดี๊ยะ
![]()

เห็นด้วยกับน้องเจี๊ยบนะคะJeab Agape เขียน:ขอหมอเจี๊ยบทำนายบ้างครับ พี่บอมbomzaiya เขียน:
มันก็เป็นคำถามระหว่างผมกับเพื่อนว่า "หายไปไหน?" มาตลอด
และเมื่อคืน ดันฝันถึง รูปพระจิตรูปนี้
--------
ผมฝันว่า เปิดลิ้นชัก ที่ใดที่หนึ่ง ไม่ทราบแน่
แล้วเห็นรูปพระจิตอยู่ในนั้น ผมก็บอกกับเพื่อนในฝันว่า
เจอแล้ว! อยู่นี่เอง แต่เอ๊ะ มีอะไรหลุดออกมาจากรูปพระจิตหว่า?
ผมก็ใช้ปากของผมกัดวัสดุที่กำลังจะหลุดออกมาจากรูปพระจิต
กะว่า มันจะกลับเข้าไปติดที่เดิม
ผมดันรู้สึกว่า เหมือนมีอะไรอยู่ในปาก เหมือนฟันหลุดออกมาสักซี่
แต่พอคลายออกมาจากปาก ปรากฏว่าไม่ใช่ฟันอะครับ!
เป็นเข็มกลัดสีแดง รูปเดียวกับโลโก้ คณะพระมหาไถ่เลย
-------
เลยสงสัยเลยครับว่า จะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรเจ้าโลโก้ คณะพระมหาไถ่ เข็มกลัดสีแดง
และรูปพระจิตสีแดง
1.เพื่อยืนยันว่า จิตใจของพี่ที่บอมตกและเอียงไป เอียงมาจะเข้าที่ครับ ( พระจิตเจ้าสถิตกับท่าน...และท่านด้วย )ขออย่าหวั่นไหว
2. กำลังบอกว่า พี่บอม อย่าเอนเอียงไปหาคณะอื่น และสีแดง เป็นสีของพระโลหิต ที่ไหลจาก พระทัยของพระเยซูเจ้า (ไม่ใช่สีกลุ่ม ที่พี่... )
3.สิ่งดี ๆจะเกิดขึ้นในชีวิตพี่ แน่นอน // ฟันธง
วางใจในพระนะคะ น้องบอม พระจะประทานทุกสิ่งที่เราขาด แต่ในทิศทางของพระองค์นะ
พระองค์รู้และเข้าใจความรู้สึก ความคิดของเราทั้งหมด อย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยนะ

-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
เพิ่งเข้ามาอ่านเจอ "หัวข้อ" น่าสนใจดีนะ เลยขอแบ่งปันเล็กๆน้อยๆบ้าง
ความฝัน หรือ นิมิต บางอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา คือ บางสิ่งที่พระต้องการจะบอกให้เรารู้ แต่เราจะค่อยๆรู้เอง เพราะพระบิดาจะค่อยๆเปิดเผย หรือ อธิบาย ความหมายของความฝันให้เรารู้ทีละเล็กทีละน้อย ตามแต่ความพร้อมของแต่ละบุคคล แล้วพระจะค่อยๆบอกให้เรารู้เองว่าต้องการให้เราทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
ความกังวลใจในความฝันนั้นไม่ดีแน่ แต่ต้องสวดขอความสว่างจากพระจิต ให้พระองค์ค่อยๆอธิบายบอกเราตามความพร้อมของเราเอง การสวดภาวนาเป็นการเตรียมพร้อมของจิตใจเพื่อที่จะรับฟังพระองค์
แต่ดูจากระยะเวลาที่ผ่านมา คิดว่าคุณคงจะได้รับความเข้าใจจากพระไปเรียบร้อยแล้วหล่ะ ..ใช่ไหมหล่ะ?
คราวหน้าช่วยบอกวันและเวลาที่ฝันด้วยนะคะ
ขอพระอวยพร
ความฝัน หรือ นิมิต บางอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา คือ บางสิ่งที่พระต้องการจะบอกให้เรารู้ แต่เราจะค่อยๆรู้เอง เพราะพระบิดาจะค่อยๆเปิดเผย หรือ อธิบาย ความหมายของความฝันให้เรารู้ทีละเล็กทีละน้อย ตามแต่ความพร้อมของแต่ละบุคคล แล้วพระจะค่อยๆบอกให้เรารู้เองว่าต้องการให้เราทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
ความกังวลใจในความฝันนั้นไม่ดีแน่ แต่ต้องสวดขอความสว่างจากพระจิต ให้พระองค์ค่อยๆอธิบายบอกเราตามความพร้อมของเราเอง การสวดภาวนาเป็นการเตรียมพร้อมของจิตใจเพื่อที่จะรับฟังพระองค์
แต่ดูจากระยะเวลาที่ผ่านมา คิดว่าคุณคงจะได้รับความเข้าใจจากพระไปเรียบร้อยแล้วหล่ะ ..ใช่ไหมหล่ะ?
คราวหน้าช่วยบอกวันและเวลาที่ฝันด้วยนะคะ
ขอพระอวยพร
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
พระจิตมีรูปด้วยหรอ งง ไม่เคยได้ยินอ่าาา อธิลาก่อน(bye) ให้ฟังหน่อยจิ :rolleyes:
ที่ จขกท. กล่าวถึง "รูปพระจิต" คงหมายถึง รูปนกพิราบ ที่เป็นสัญลักษณ์หนึ่งของพระจิตน่ะค่ะ 

หากใครสนใจอยากรู้เรื่องสัญลักษณ์ของพระจิตเพิ่มเติม เชิญอ่านได้ที่นี่ค่ะ
http://www.catholic.or.th/article/arcti ... ti009.html

หากใครสนใจอยากรู้เรื่องสัญลักษณ์ของพระจิตเพิ่มเติม เชิญอ่านได้ที่นี่ค่ะ

http://www.catholic.or.th/article/arcti ... ti009.html
เอสก็มีประสบการณ์คล้ายๆกันค่ะ ต้องบอกก่อนว่าเอสเป็นชาวพุทธ ที่เชื่อในพระเจ้า เพราะตอนเอสอยู่อนุบาล ถึง ป.หก เอสได้อยู่โรงเรียนที่เป็นคาทอลิก ได้ซึมซับอะไรต่างๆมาบ้าง พอเข้ามัธยมเอสก็ไม่ได้สัมผัสกับความเป็นคาทอลิกอีกเลย แต่เหตุการณ์กลับเกิดเมือตอนเอสอยู่ม.ปลายค่ะ วันหนึ่งเอสฝันว่าตัวเองยืนอยู่บนสนามหญ้าหน้าโรงเรียน ที่อยู่ตอนอนุบาล - ประถม ฉับพลันก็มีชายคนหนึ่งแตะไหล่เอสจากด้านหลังและบอกว่า เราจะทำอัศจรรย์แก่เจ้า ทันใดนั้นเอสรู้สึกว่าตัวเองลอยไปบนฟ้าอยู่นิ่งๆ นานเหมือนกัน เห็นในฝันว่าเอสลอยสูงมากทีเดียว จากนั้นเอสก็ค่อยๆกลับสู่พื้นพอถึงพื้นเอสรู้สึกว่าตัวเองนอนหงายบนสนามหญ้า หันศีรษะไปทางด้านซ้ายของตัวเองก็พบแผ่นกระดาษเล็กๆสีขาวเขียนด้วยหมึกสีนำเงินว่า "เยซู" แล้วเอสก็สะดุ้งตื่นค่ะ จริงๆแล้วก่อนหน้านั้นเอสฝันเห็นโรงเรียนค่อนข้างบ่อยเหมือนเป็นสถานที่ที่มีอะไรสักอย่างนะคะ หลังจากนั้นประมาณ 3 ปีเอสก็ได้รู้จักกับเพื่อนคนนึงที่เป็นคาทอลิก ช่วงที่คบกับเค้าเอสได้ไปประกอบศาสนกิจของคาทอลิกด้วย เอสรู้ว่าเอสได้ทำความรู้จักพระเจ้าถึงสองครั้งในช่วงชีวิต เอสเลยรู้สึกว่าพระเจ้ากำลังเรียกเอสอยู่หรือเปล่า เพื่อนๆช่วยแปลความฝันให้เอสด้วยคนนะคะ
ถ้ารู้สึกว่า พระเป็นเจ้าเรียก ก็ลองมาสัมผัสมั้ยคะ เพราะสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ พระเจ้าเรียกหรือไม่ สิ่งสำคัญคือ เราตอบรับหรือเปล่าเอส เขียน: เอสก็มีประสบการณ์คล้ายๆกันค่ะ ต้องบอกก่อนว่าเอสเป็นชาวพุทธ ที่เชื่อในพระเจ้า เพราะตอนเอสอยู่อนุบาล ถึง ป.หก เอสได้อยู่โรงเรียนที่เป็นคาทอลิก ได้ซึมซับอะไรต่างๆมาบ้าง พอเข้ามัธยมเอสก็ไม่ได้สัมผัสกับความเป็นคาทอลิกอีกเลย แต่เหตุการณ์กลับเกิดเมือตอนเอสอยู่ม.ปลายค่ะ วันหนึ่งเอสฝันว่าตัวเองยืนอยู่บนสนามหญ้าหน้าโรงเรียน ที่อยู่ตอนอนุบาล - ประถม ฉับพลันก็มีชายคนหนึ่งแตะไหล่เอสจากด้านหลังและบอกว่า เราจะทำอัศจรรย์แก่เจ้า ทันใดนั้นเอสรู้สึกว่าตัวเองลอยไปบนฟ้าอยู่นิ่งๆ นานเหมือนกัน เห็นในฝันว่าเอสลอยสูงมากทีเดียว จากนั้นเอสก็ค่อยๆกลับสู่พื้นพอถึงพื้นเอสรู้สึกว่าตัวเองนอนหงายบนสนามหญ้า หันศีรษะไปทางด้านซ้ายของตัวเองก็พบแผ่นกระดาษเล็กๆสีขาวเขียนด้วยหมึกสีนำเงินว่า "เยซู" แล้วเอสก็สะดุ้งตื่นค่ะ จริงๆแล้วก่อนหน้านั้นเอสฝันเห็นโรงเรียนค่อนข้างบ่อยเหมือนเป็นสถานที่ที่มีอะไรสักอย่างนะคะ หลังจากนั้นประมาณ 3 ปีเอสก็ได้รู้จักกับเพื่อนคนนึงที่เป็นคาทอลิก ช่วงที่คบกับเค้าเอสได้ไปประกอบศาสนกิจของคาทอลิกด้วย เอสรู้ว่าเอสได้ทำความรู้จักพระเจ้าถึงสองครั้งในช่วงชีวิต เอสเลยรู้สึกว่าพระเจ้ากำลังเรียกเอสอยู่หรือเปล่า เพื่อนๆช่วยแปลความฝันให้เอสด้วยคนนะคะ

พี่เองเคยถูกเจ้าแม่กวนอิมเรียกในความฝัน (เค้าว่านะ) ฝันว่า มีเด็กสองคนมาบอกว่า "พี่ๆ เจ้าแม่ให้มาเรียกพี่ บอกว่า พี่ปฎิบัติธรรมได้" พี่ก็ถาม "เจ้าแม่ไหน แล้วพี่จะไปยังไง พี่เป็นคริสต์" (ตอนนั้นยังไม่ได้ล้างบาปนะคะ แต่รู้สึกว่า เรามาทางนี้แล้ว แต่พระไม่เคยเรียกทางความฝันนะ) เด็กสองคนเค้าก็บอกว่า "ไม่รู้สิพี่ เจ้าแม่ให้มาบอกแค่นี้" พี่ตื่นมาก็งง (นอนกลางวันนะ) แต่แถวบ้านมีเหมือนเป็นวัดจีน แล้วเค้าเพิ่งทำพิธี ก็เลยไปดูว่า มันเกิดอะไรขึ้น ปรากฎว่า ตอนนั้นเค้าเลิกพิธีกลับกันหมดแล้ว เหลือคนทำความสะอาดแค่คนเดียว แล้วจู่ๆ ก็มีพี่คนนึงโทรเข้ามา พี่เค้าก็บอกว่า "เด็กสองคนนั้นคือ เด็กรับใช้เจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่เรียกน้อง" พี่ก็งงๆ ไม่ได้ปฎิเสธนะ แต่กลับมาคิด มาคิดถึงแม่พระเรา ตอนนั้นไม่เคยเห็นอัศจรรย์แม่พระ แต่รู้อย่างเดียวคือ แม่พระรักเรามาก แล้วสุดท้าย พี่ก็เลือกแม่พระ เลือกคนที่รักเราที่สุด เห็นว่า เราเป็นคนบาป เห็นเป็นลูก และก็ไปบอกที่วัดจีนว่า หนูไม่ไปนะคะ
ถามว่า ตอนนั้นเหมือนเป็นอัศจรรย์มั้ย จะว่าเป็นก็เป็นนะ เพราะอะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น แต่เราเป็นมนุษย์ทีมีอิสระในการเลือก มีความคิด มีสติ และเรามีสิทธิ์ทั้งที่จะเลือกรับ หรือปฎิเสธได้
เราจะเจอเสียงเรียกสารพัดนะคะ ดังนั้น สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่า ใครมาเรียกเรา แต่สิ่งสำคัญคือ การเลือกของเรา และการตอบสนองของเราค่ะ เรามีสิทธิ์ที่จะไปศึกษา แสวงหา และสุดท้ายจึงตัดสินใจเลือก

พระอวยพรนะคะ

อ่านแล้ว รู้สึกดีมากเลยครับผมBuddy เขียน:
ถ้ารู้สึกว่า พระเป็นเจ้าเรียก ก็ลองมาสัมผัสมั้ยคะ เพราะสิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ พระเจ้าเรียกหรือไม่ สิ่งสำคัญคือ เราตอบรับหรือเปล่า ::001::
พี่เองเคยถูกเจ้าแม่กวนอิมเรียกในความฝัน (เค้าว่านะ) ฝันว่า มีเด็กสองคนมาบอกว่า "พี่ๆ เจ้าแม่ให้มาเรียกพี่ บอกว่า พี่ปฎิบัติธรรมได้" พี่ก็ถาม "เจ้าแม่ไหน แล้วพี่จะไปยังไง พี่เป็นคริสต์" (ตอนนั้นยังไม่ได้ล้างบาปนะคะ แต่รู้สึกว่า เรามาทางนี้แล้ว แต่พระไม่เคยเรียกทางความฝันนะ) เด็กสองคนเค้าก็บอกว่า "ไม่รู้สิพี่ เจ้าแม่ให้มาบอกแค่นี้" พี่ตื่นมาก็งง (นอนกลางวันนะ) แต่แถวบ้านมีเหมือนเป็นวัดจีน แล้วเค้าเพิ่งทำพิธี ก็เลยไปดูว่า มันเกิดอะไรขึ้น ปรากฎว่า ตอนนั้นเค้าเลิกพิธีกลับกันหมดแล้ว เหลือคนทำความสะอาดแค่คนเดียว แล้วจู่ๆ ก็มีพี่คนนึงโทรเข้ามา พี่เค้าก็บอกว่า "เด็กสองคนนั้นคือ เด็กรับใช้เจ้าแม่กวนอิม เจ้าแม่เรียกน้อง" พี่ก็งงๆ ไม่ได้ปฎิเสธนะ แต่กลับมาคิด มาคิดถึงแม่พระเรา ตอนนั้นไม่เคยเห็นอัศจรรย์แม่พระ แต่รู้อย่างเดียวคือ แม่พระรักเรามาก แล้วสุดท้าย พี่ก็เลือกแม่พระ เลือกคนที่รักเราที่สุด เห็นว่า เราเป็นคนบาป เห็นเป็นลูก และก็ไปบอกที่วัดจีนว่า หนูไม่ไปนะคะ
ถามว่า ตอนนั้นเหมือนเป็นอัศจรรย์มั้ย จะว่าเป็นก็เป็นนะ เพราะอะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น แต่เราเป็นมนุษย์ทีมีอิสระในการเลือก มีความคิด มีสติ และเรามีสิทธิ์ทั้งที่จะเลือกรับ หรือปฎิเสธได้
เราจะเจอเสียงเรียกสารพัดนะคะ ดังนั้น สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่า ใครมาเรียกเรา แต่สิ่งสำคัญคือ การเลือกของเรา และการตอบสนองของเราค่ะ เรามีสิทธิ์ที่จะไปศึกษา แสวงหา และสุดท้ายจึงตัดสินใจเลือก ::001::
พระอวยพรนะคะ
เพื่อนผม ก็ถูกพระเป็นเจ้าเรียกเหมือนกันครับ
เขาก็เล่าให้ผมฟังเหมือนกัน
ผมเลยแนะนำให้เขาเค้ามาศึกษาที่นี่อยู่ครับผม
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
อืม... อ่านตรงนี้แล้วก็เลยนึกได้ว่า ตัวเองก็เคยมีประสบการณ์คล้าย ๆ อย่างนี้เหมือนกัน ขออนุญาตเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นการแบ่งปันเล็ก ๆ น้อย ๆ นะคะBuddy เขียน: พี่เองเคยถูกเจ้าแม่กวนอิมเรียกในความฝัน (เค้าว่านะ) ฝันว่า มีเด็กสองคนมาบอกว่า "พี่ๆ เจ้าแม่ให้มาเรียกพี่ บอกว่า พี่ปฎิบัติธรรมได้" พี่ก็ถาม "เจ้าแม่ไหน แล้วพี่จะไปยังไง พี่เป็นคริสต์" (ตอนนั้นยังไม่ได้ล้างบาปนะคะ แต่รู้สึกว่า เรามาทางนี้แล้ว แต่พระไม่เคยเรียกทางความฝันนะ) เด็กสองคนเค้าก็บอกว่า "ไม่รู้สิพี่ เจ้าแม่ให้มาบอกแค่นี้" พี่ตื่นมาก็งง (นอนกลางวันนะ)
คือ... ตอนที่อายุประมาณ 12-13 ปี ไปทำธุระกับคุณแม่ในที่แห่งหนึ่ง นั่งรออยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเหมือนถูกเรียกหรือทัก ให้หันไปมอง พอหันไปก็เจอรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมวางบูชาอยู่ ไม่ใกล้ไม่ไกลนักพอมองเห็นได้ชัดเจน(แต่ตอนแรกไม่ทันสังเกตว่าที่นี่เขานับถือเจ้าแม่กวนอิม) ด้วยความเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็ยิ้มหวานแล้วบอกในใจออกไปว่า มีแม่มารีย์แล้วค่ะ พอทำธุระเสร็จก็กลับบ้านไม่มีอะไร
จริงๆ คนที่ได้รับศีลล้างบาปแล้ว จะมีการคุ้มครองเยอะนะคะ พระหรรษทานจากศีลล้างบาปเยอะมาก เป็นตราประทับว่า เราเป็นของพระองค์เสมอ แต่อย่างไรก็ตามถึงพระจะดึงเราแค่ไหน ถ้าใจเราไม่อยู่ ก็ไม่มีใครเอาเราอยู่เช่นกันkroksomboon เขียน:อืม... อ่านตรงนี้แล้วก็เลยนึกได้ว่า ตัวเองก็เคยมีประสบการณ์คล้าย ๆ อย่างนี้เหมือนกัน ขออนุญาตเล่าสู่กันฟัง เพื่อเป็นการแบ่งปันเล็ก ๆ น้อย ๆ นะคะBuddy เขียน: พี่เองเคยถูกเจ้าแม่กวนอิมเรียกในความฝัน (เค้าว่านะ) ฝันว่า มีเด็กสองคนมาบอกว่า "พี่ๆ เจ้าแม่ให้มาเรียกพี่ บอกว่า พี่ปฎิบัติธรรมได้" พี่ก็ถาม "เจ้าแม่ไหน แล้วพี่จะไปยังไง พี่เป็นคริสต์" (ตอนนั้นยังไม่ได้ล้างบาปนะคะ แต่รู้สึกว่า เรามาทางนี้แล้ว แต่พระไม่เคยเรียกทางความฝันนะ) เด็กสองคนเค้าก็บอกว่า "ไม่รู้สิพี่ เจ้าแม่ให้มาบอกแค่นี้" พี่ตื่นมาก็งง (นอนกลางวันนะ)
คือ... ตอนที่อายุประมาณ 12-13 ปี ไปทำธุระกับคุณแม่ในที่แห่งหนึ่ง นั่งรออยู่ดี ๆ ก็รู้สึกเหมือนถูกเรียกหรือทัก ให้หันไปมอง พอหันไปก็เจอรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมวางบูชาอยู่ ไม่ใกล้ไม่ไกลนักพอมองเห็นได้ชัดเจน(แต่ตอนแรกไม่ทันสังเกตว่าที่นี่เขานับถือเจ้าแม่กวนอิม) ด้วยความเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็ยิ้มหวานแล้วบอกในใจออกไปว่า มีแม่มารีย์แล้วค่ะ พอทำธุระเสร็จก็กลับบ้านไม่มีอะไร

เน้นอีกครั้งนะคะ
ดังนั้น ทุกอย่างอยู่ที่การเลือกของเราค่ะ ไม่ใช่ว่า ใครมาเรียกแล้วก็ไป เราต้องคิด ต้องดูว่า เค้าเป็นใคร แล้วเราชอบมั้ย จากนั้นก็ตัดสินใจ ถึงพระเยซูเจ้ามาเรียก เราก็ต้องคิด เราต้องลองไปสัมผัสเค้าก่อน แล้วตัดสินใจ

การเป็นคริสตชน เราต้องดำเนินชีวิตสวนกระแสโลกอยู่แล้ว ถ้าเราไม่มีตรงนี้แต่แรก มีอะไรแปลกๆ อัศจรรย์ หรือว่า ดูดี สังคมเค้าทำแบบนั้น เราก็ทำตามเค้า ด้วยเหตุผลว่า ใครๆเค้าก็ทำกัน ไม่เห็นมีอะไรเลย มันก็จะทำให้เราไม่เข้มแข็งในความเชื่อได้ .... น้ำใจอิสระเป็นของที่พระเจ้าให้เรามา เป็นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ขอให้ใช้นะคะ

พระอวยพรค่ะ

จริงๆแล้วเอสยังรู้สึกสับสนอยู่เลยค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อในพระเจ้า หรือว่ามีใครเรียกก็ไป เพราะว่าความฝันนี้ก็นานมากประมาณห้าปีแล้ว แต่เอสก็สัมผัสกับความเป็นพุทธมาตลอดชีวิตเช่นกัน เหมือนมีหนังสือที่ดีมากสองเล่มให้อ่าน แต่เราก็ไม่สามารถอ่านหนังสือพร้อมกันทั้งสองเล่มได้ เอสก็สัมผัสกับความเป็นคาทอลิคมากพอควรรับรู้อะไรต่างๆ สายประคำก็สวด มิซซาก็เคยเข้า เรียนก็เคยเรียน (เป็นวิชาศีลธรรม ตอนอยู่โรงเรียนคริสต์นะคะ) แต่ขณะเดียวกันเอสก็ได้ประกอบศาสนกิจของชาวพุทธ ได้อ่านพระไตรปิฎกเช่นเดียวกัน ตอนนี้เอสเลยรู้สึกสับสนค่ะ ตัดสินใจอะไรไม่ถูกเลยเอส เขียน: เอสก็มีประสบการณ์คล้ายๆกันค่ะ ต้องบอกก่อนว่าเอสเป็นชาวพุทธ ที่เชื่อในพระเจ้า เพราะตอนเอสอยู่อนุบาล ถึง ป.หก เอสได้อยู่โรงเรียนที่เป็นคาทอลิก ได้ซึมซับอะไรต่างๆมาบ้าง พอเข้ามัธยมเอสก็ไม่ได้สัมผัสกับความเป็นคาทอลิกอีกเลย แต่เหตุการณ์กลับเกิดเมือตอนเอสอยู่ม.ปลายค่ะ วันหนึ่งเอสฝันว่าตัวเองยืนอยู่บนสนามหญ้าหน้าโรงเรียน ที่อยู่ตอนอนุบาล - ประถม ฉับพลันก็มีชายคนหนึ่งแตะไหล่เอสจากด้านหลังและบอกว่า เราจะทำอัศจรรย์แก่เจ้า ทันใดนั้นเอสรู้สึกว่าตัวเองลอยไปบนฟ้าอยู่นิ่งๆ นานเหมือนกัน เห็นในฝันว่าเอสลอยสูงมากทีเดียว จากนั้นเอสก็ค่อยๆกลับสู่พื้นพอถึงพื้นเอสรู้สึกว่าตัวเองนอนหงายบนสนามหญ้า หันศีรษะไปทางด้านซ้ายของตัวเองก็พบแผ่นกระดาษเล็กๆสีขาวเขียนด้วยหมึกสีนำเงินว่า "เยซู" แล้วเอสก็สะดุ้งตื่นค่ะ จริงๆแล้วก่อนหน้านั้นเอสฝันเห็นโรงเรียนค่อนข้างบ่อยเหมือนเป็นสถานที่ที่มีอะไรสักอย่างนะคะ หลังจากนั้นประมาณ 3 ปีเอสก็ได้รู้จักกับเพื่อนคนนึงที่เป็นคาทอลิก ช่วงที่คบกับเค้าเอสได้ไปประกอบศาสนกิจของคาทอลิกด้วย เอสรู้ว่าเอสได้ทำความรู้จักพระเจ้าถึงสองครั้งในช่วงชีวิต เอสเลยรู้สึกว่าพระเจ้ากำลังเรียกเอสอยู่หรือเปล่า เพื่อนๆช่วยแปลความฝันให้เอสด้วยคนนะคะ
ถ้ามีคนมาตีฝันให้ว่า นี่พระเยซูเจ้าเรียกนะ เป็นพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าให้เอสมาเป็นคริสต์ จะมามั้ยคะเอส เขียน:จริงๆแล้วเอสยังรู้สึกสับสนอยู่เลยค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อในพระเจ้า หรือว่ามีใครเรียกก็ไป เพราะว่าความฝันนี้ก็นานมากประมาณห้าปีแล้ว แต่เอสก็สัมผัสกับความเป็นพุทธมาตลอดชีวิตเช่นกัน เหมือนมีหนังสือที่ดีมากสองเล่มให้อ่าน แต่เราก็ไม่สามารถอ่านหนังสือพร้อมกันทั้งสองเล่มได้ เอสก็สัมผัสกับความเป็นคาทอลิคมากพอควรรับรู้อะไรต่างๆ สายประคำก็สวด มิซซาก็เคยเข้า เรียนก็เคยเรียน (เป็นวิชาศีลธรรม ตอนอยู่โรงเรียนคริสต์นะคะ) แต่ขณะเดียวกันเอสก็ได้ประกอบศาสนกิจของชาวพุทธ ได้อ่านพระไตรปิฎกเช่นเดียวกัน ตอนนี้เอสเลยรู้สึกสับสนค่ะ ตัดสินใจอะไรไม่ถูกเลยเอส เขียน: เอสก็มีประสบการณ์คล้ายๆกันค่ะ ต้องบอกก่อนว่าเอสเป็นชาวพุทธ ที่เชื่อในพระเจ้า เพราะตอนเอสอยู่อนุบาล ถึง ป.หก เอสได้อยู่โรงเรียนที่เป็นคาทอลิก ได้ซึมซับอะไรต่างๆมาบ้าง พอเข้ามัธยมเอสก็ไม่ได้สัมผัสกับความเป็นคาทอลิกอีกเลย แต่เหตุการณ์กลับเกิดเมือตอนเอสอยู่ม.ปลายค่ะ วันหนึ่งเอสฝันว่าตัวเองยืนอยู่บนสนามหญ้าหน้าโรงเรียน ที่อยู่ตอนอนุบาล - ประถม ฉับพลันก็มีชายคนหนึ่งแตะไหล่เอสจากด้านหลังและบอกว่า เราจะทำอัศจรรย์แก่เจ้า ทันใดนั้นเอสรู้สึกว่าตัวเองลอยไปบนฟ้าอยู่นิ่งๆ นานเหมือนกัน เห็นในฝันว่าเอสลอยสูงมากทีเดียว จากนั้นเอสก็ค่อยๆกลับสู่พื้นพอถึงพื้นเอสรู้สึกว่าตัวเองนอนหงายบนสนามหญ้า หันศีรษะไปทางด้านซ้ายของตัวเองก็พบแผ่นกระดาษเล็กๆสีขาวเขียนด้วยหมึกสีนำเงินว่า "เยซู" แล้วเอสก็สะดุ้งตื่นค่ะ จริงๆแล้วก่อนหน้านั้นเอสฝันเห็นโรงเรียนค่อนข้างบ่อยเหมือนเป็นสถานที่ที่มีอะไรสักอย่างนะคะ หลังจากนั้นประมาณ 3 ปีเอสก็ได้รู้จักกับเพื่อนคนนึงที่เป็นคาทอลิก ช่วงที่คบกับเค้าเอสได้ไปประกอบศาสนกิจของคาทอลิกด้วย เอสรู้ว่าเอสได้ทำความรู้จักพระเจ้าถึงสองครั้งในช่วงชีวิต เอสเลยรู้สึกว่าพระเจ้ากำลังเรียกเอสอยู่หรือเปล่า เพื่อนๆช่วยแปลความฝันให้เอสด้วยคนนะคะ


ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะ อย่าเพิ่งสับสน มีสองเล่ม ก็อ่านสองเล่ม เป็นประโยชน์กับเราด้วยที่เราได้รู้ทั้งสองอย่าง เหมือนคนที่เค้าเรียนศาสนาเปรียบเทียบไงคะ แต่ถ้าอ่านไม่ไหว ก็เลือกอ่านเล่มเดียวก็พอ ไม่ต้องกลัวว่า เราจะเลือกเล่มผิด เพราะถ้าผิด มันจะมีอะไรบอกให้เราต้องกลับไปหยิบอีกเล่มอยู่ดี

คนเราต้องตัดสินใจนะคะ ถึงตัดสินใจผิด ก็ต้องตัดสินใจ และถ้ามันยังไม่ถึงเวลาต้องตัดสินใจ ก็ไม่ต้องตัดสินใจ พระเป็นเจ้ารู้จักเรามากที่สุด เพราะพระองค์สร้างเรามา ถ้าพระองค์จะเรียกเราจริงและถึงเวลาที่เราต้องตามพระองค์จริงๆ พระองค์จะมีวิธีเชิญชวนเราค่ะ

มีพระคัมภีร์มาฝากนะคะ
ยน. 1:27 แกะของเราฟังเสียงของเรา เรารู้จักพระองค์เพราะเสียงของพระองค์ เราเดินตามพระองค์ เพราะเสียงของพระองค์
พระอวยพรนะคะ
