ช่วยสวดภาวนาเผื่อเขาพระวิหารด้วยครับ
ข้าพเจ้าขอสวดให้คนไทยกับพี่น้องกัมพูชา
ป.ล. เเต่ไม่สวดให้ตัวเขาพระวิหารหรอกค่า มันเป็นหินเเละดิน หิ๊หิ๊
ป.ล. เเต่ไม่สวดให้ตัวเขาพระวิหารหรอกค่า มันเป็นหินเเละดิน หิ๊หิ๊
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ผมว่าน่าสวดเพื่อคนไทยกันเองมากกว่า คนไทยด้วยกันทุบตีกันยังกะหมูกะหมา ทีจังหวัดอะไรคงรุ้กัน ทำตัวเป็นพวกคนเถื่อน
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
จริง คนในชาติยังเป็นแบบนี้ นับประสาอะไรImmanuel (MichaelPaul) เขียน: ผมว่าน่าสวดเพื่อคนไทยกันเองมากกว่า คนไทยด้วยกันทุบตีกันยังกะหมูกะหมา ทีจังหวัดอะไรคงรุ้กัน ทำตัวเป็นพวกคนเถื่อน
5555 อายุไม่ถึงเจ้าคร่าๆๆๆๆๆ เดี๋ยวไปเเล้วหาฝั่งไม่เจอignatius เขียน:น้องเจนจ๋า...พูดจาน่ารักแบบนี้ มาออกทะเลกับพี่เถิด :cheesy: อิ อิ+Ecclēsia เขียน: ข้าพเจ้าขอสวดให้คนไทยกับพี่น้องกัมพูชา
ป.ล. เเต่ไม่สวดให้ตัวเขาพระวิหารหรอกค่า มันเป็นหินเเละดิน หิ๊หิ๊
สวดเพื่อคนไทยดีกว่าครับ
ปราสาทหลังนั้นก็คือ "เศษหินเก่าๆ" กองหนึ่ง
ที่ตั้งอยู่กลาง "ดงระเบิด" และ "ภูเขากันดารๆ" ลูกหนึ่ง
ส่วนตัว...ในเมื่อมันไม่สามารถเป็นสมบัติของมนุษยชาติร่วมกันได้
คนที่ไม่ได้สร้างมันขึ้นมาต่างอยากแสวงหาผลประโยชน์จากมัน
ทะเลาะกันมากนัก...บอมบ์ทิ้งก็จบแล้ว
เอ้า...สวดเพื่อคนไทยกันต่อไป
ปราสาทหลังนั้นก็คือ "เศษหินเก่าๆ" กองหนึ่ง
ที่ตั้งอยู่กลาง "ดงระเบิด" และ "ภูเขากันดารๆ" ลูกหนึ่ง
ส่วนตัว...ในเมื่อมันไม่สามารถเป็นสมบัติของมนุษยชาติร่วมกันได้
คนที่ไม่ได้สร้างมันขึ้นมาต่างอยากแสวงหาผลประโยชน์จากมัน
ทะเลาะกันมากนัก...บอมบ์ทิ้งก็จบแล้ว
เอ้า...สวดเพื่อคนไทยกันต่อไป
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
กัมพูชาเขาอยากได้ก็ยกให้ไปเฮ้อ!! ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองมันวุ่นวายมั่กๆ มีเรื่องกับประเทศเพื่อนบ้านตอนนี้มันเหมาะที่ไหน
ปล.ยังไงทุกสิ่งก็เป็นของพระเจ้า คนมาจับจองกันเองแบบนี้มันมะถูกเด้อ
ปล.ยังไงทุกสิ่งก็เป็นของพระเจ้า คนมาจับจองกันเองแบบนี้มันมะถูกเด้อ
-
- โพสต์: 960
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm
ก็อย่างว่านะ ผลประโยชน์ แต่ก็เฮ้อ ช่วงนี้ไม่อยากจะเปิดTVดูเล้ย
สำหรับเขาพระวิหาร เราไม่ควรมาพูดว่าเป็นของไทยอีกแล้วครับ
การที่เขาพระวิหารถูกศาลโลกตัดสินให้เป็นของกัมพูชา เป็นเพราะอ้างอิงจากแผนที่ตามสนธิสัญญาที่ไทยทำกับฝรั่งเศสตั้งแต่สมับร.5 ปี 1907
ซึ่งแม้ว่าตามหลักสากลที่นิยมแบ่งเขตแดนที่เป็นภูเขาตามสันปันน้ำซึ่งถ้าว่าตามนัยนี้เขาพระวิหารตั้งอยู่บนหน้าผาที่น่าจะถือว่าเป็นของฝั่งไทย แต่เส้นเขตแดนของเราในกรณีนี้ไม่ได้ยึดสันปันน้ำเป็นหลัก
จะว่าฝรั่งเศสเอาเปรียบก็ได้ครับ แต่สมัยร.5 ประเทศสยามน่าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมเสียเปรียบเพื่อไม่ให้ฝรั่งเศสรุกรานไปมากกว่านี้
ในแง่ประวัติศาสตร์แม้ว่าคนไทยกะคนเขมรพูดกันคนละภาษาแต่มีความเป็นมาร่วมกันเรียกว่าจริงๆก็เป็นญาติห่างๆกันคล้ายๆกับลาวและล้านนา และปราสาทเขาพระวิหารสร้างขึ้นมาในยุคที่ชาวเขมรมีอำนาจปกครองดินแดนสุวรรณภูมิเกือบทั้งหมด รวมดินแดนที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบันเกือบทั้งหมด ประเทศลาว และตอนใต้ของเวียดนามและพม่า คิดตามนัยนี้จะว่าสร้างโดยราชโองการของกษัตริย์เขมรก็ไม่ผิด
หลังจากเขมรได้เอกราชจากฝรั่งเศสเขาก็มีความชอบธรรมที่จะถือสิทธิ์ในดินแดนที่ฝรั่งเศสเคยปกครองครับ ไม่ว่าดินแดนนั้นจะดูเหมือนกินเข้ามาในประเทศอะไรก็ตาม
การที่เขมรขอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารให้เป็นมรดกโลกจะทำให้คนรู้จักและมาเที่ยวมากขี้น โดยรวมน่าจะเป็นประโยชน์กับชาวศรีสะเกษด้วยซ้ำ
การยกเหตุผลข้างๆคูๆประเภทว่าปราสาทยอมให้เขมรแต่ดินใต้ปราสาทเป็นของไทย เป็นการพูดแบบนักเลงโตหาเรื่องวางเขื่องกับประเทศเพื่อนบ้าน ใช้ลัทธิชาตินิยมแบบผิดๆ เสี้ยมให้คนไทยเกลียดกันเองและเขม่นเพื่อนบ้านซึ่งไม่มีประโยชน์อันใดเลย
สำหรับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของนักการเมืองแม้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องแต่การจะตัดสินมนุษย์ตามประสามนุษย์ยังไงไม่มีอะไรแฟร์จริงๆหรอกครับ
การที่เขาพระวิหารถูกศาลโลกตัดสินให้เป็นของกัมพูชา เป็นเพราะอ้างอิงจากแผนที่ตามสนธิสัญญาที่ไทยทำกับฝรั่งเศสตั้งแต่สมับร.5 ปี 1907
ซึ่งแม้ว่าตามหลักสากลที่นิยมแบ่งเขตแดนที่เป็นภูเขาตามสันปันน้ำซึ่งถ้าว่าตามนัยนี้เขาพระวิหารตั้งอยู่บนหน้าผาที่น่าจะถือว่าเป็นของฝั่งไทย แต่เส้นเขตแดนของเราในกรณีนี้ไม่ได้ยึดสันปันน้ำเป็นหลัก
จะว่าฝรั่งเศสเอาเปรียบก็ได้ครับ แต่สมัยร.5 ประเทศสยามน่าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมเสียเปรียบเพื่อไม่ให้ฝรั่งเศสรุกรานไปมากกว่านี้
ในแง่ประวัติศาสตร์แม้ว่าคนไทยกะคนเขมรพูดกันคนละภาษาแต่มีความเป็นมาร่วมกันเรียกว่าจริงๆก็เป็นญาติห่างๆกันคล้ายๆกับลาวและล้านนา และปราสาทเขาพระวิหารสร้างขึ้นมาในยุคที่ชาวเขมรมีอำนาจปกครองดินแดนสุวรรณภูมิเกือบทั้งหมด รวมดินแดนที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบันเกือบทั้งหมด ประเทศลาว และตอนใต้ของเวียดนามและพม่า คิดตามนัยนี้จะว่าสร้างโดยราชโองการของกษัตริย์เขมรก็ไม่ผิด
หลังจากเขมรได้เอกราชจากฝรั่งเศสเขาก็มีความชอบธรรมที่จะถือสิทธิ์ในดินแดนที่ฝรั่งเศสเคยปกครองครับ ไม่ว่าดินแดนนั้นจะดูเหมือนกินเข้ามาในประเทศอะไรก็ตาม
การที่เขมรขอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารให้เป็นมรดกโลกจะทำให้คนรู้จักและมาเที่ยวมากขี้น โดยรวมน่าจะเป็นประโยชน์กับชาวศรีสะเกษด้วยซ้ำ
การยกเหตุผลข้างๆคูๆประเภทว่าปราสาทยอมให้เขมรแต่ดินใต้ปราสาทเป็นของไทย เป็นการพูดแบบนักเลงโตหาเรื่องวางเขื่องกับประเทศเพื่อนบ้าน ใช้ลัทธิชาตินิยมแบบผิดๆ เสี้ยมให้คนไทยเกลียดกันเองและเขม่นเพื่อนบ้านซึ่งไม่มีประโยชน์อันใดเลย
สำหรับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของนักการเมืองแม้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องแต่การจะตัดสินมนุษย์ตามประสามนุษย์ยังไงไม่มีอะไรแฟร์จริงๆหรอกครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
หวัดดีครับพี่หมอ สุขสบายดีไหมครับ เดี๋ยวนี้ประจำ รพ.ของจว.ไหนครับ :cheesy:
สถานการณ์บ้านเมือง ของเรา ให้อ่าน พระคัมภีร์เก่า ชุด "ประกาศก" จะรู้เช่นเห็นชาติ ความบาปช้าสามานของมนุษย์ ทั้งหลาย
แต่สิ่งเดียวเท่านั้น ที่แก้ไขปัญหาได้ หรือการถ่อมใจ กลับใจใหม่ วิงวอนขอการช่วยเหลือ และช่วยกู้จากองค์พระผู้เป็นเจ้า ครับ
หน้าที่ของเราคริสตชน คือ อธิษฐาน ภาวนา อธิษฐานภาวนา และอธิษฐานภาวนา พระเมตตานั้นเป็นของพระเจ้า ครับ :cheesy:
สถานการณ์บ้านเมือง ของเรา ให้อ่าน พระคัมภีร์เก่า ชุด "ประกาศก" จะรู้เช่นเห็นชาติ ความบาปช้าสามานของมนุษย์ ทั้งหลาย
แต่สิ่งเดียวเท่านั้น ที่แก้ไขปัญหาได้ หรือการถ่อมใจ กลับใจใหม่ วิงวอนขอการช่วยเหลือ และช่วยกู้จากองค์พระผู้เป็นเจ้า ครับ
หน้าที่ของเราคริสตชน คือ อธิษฐาน ภาวนา อธิษฐานภาวนา และอธิษฐานภาวนา พระเมตตานั้นเป็นของพระเจ้า ครับ :cheesy:
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
ขอหนุนใจ ผู้แสดงความเห็นก่อนหน้านี้ ด้วยพระวาจา
ดังนี้
"ฝ่ายเราบอกท่าน จงอธิษฐานเผื่อศัตรูของท่าน หากท่านรักแต่ผู้ที่รักท่านจะได้บำเหน็จอะไร แม้คนต่างชาติก็ทำเช่นนั้น"
----------------
ส่วนตัวคิดว่า ถ้าจะภาวนาเผื่อเรื่องนี้.. ประเด็นน่าจะเป็นเรื่องความสงบสุขและสันติสุขในใจของทั้งสองฝ่ายมากกว่านะครับ อิอิ
ไม่ควรคิด ว่า จะสวดให้กับไทยเท่านั้น ..แบบนั้น จะไม่ได้บำเหน็จอะรายเยยน้าาา
ส่วนเขาพระวิหารหรอ... หิน ดิน ทราย... บลาๆ บลาๆๆ
ดังนี้
"ฝ่ายเราบอกท่าน จงอธิษฐานเผื่อศัตรูของท่าน หากท่านรักแต่ผู้ที่รักท่านจะได้บำเหน็จอะไร แม้คนต่างชาติก็ทำเช่นนั้น"
----------------
ส่วนตัวคิดว่า ถ้าจะภาวนาเผื่อเรื่องนี้.. ประเด็นน่าจะเป็นเรื่องความสงบสุขและสันติสุขในใจของทั้งสองฝ่ายมากกว่านะครับ อิอิ
ไม่ควรคิด ว่า จะสวดให้กับไทยเท่านั้น ..แบบนั้น จะไม่ได้บำเหน็จอะรายเยยน้าาา
ส่วนเขาพระวิหารหรอ... หิน ดิน ทราย... บลาๆ บลาๆๆ
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
ขอทำความเข้าใจไหมนะ ว่า ชาว "ขอม" กับ ชาว "เขมร" ไม่ใช่กลุ่มเดียวกันsansrepos เขียน: สำหรับเขาพระวิหาร เราไม่ควรมาพูดว่าเป็นของไทยอีกแล้วครับ
การที่เขาพระวิหารถูกศาลโลกตัดสินให้เป็นของกัมพูชา เป็นเพราะอ้างอิงจากแผนที่ตามสนธิสัญญาที่ไทยทำกับฝรั่งเศสตั้งแต่สมับร.5 ปี 1907
ซึ่งแม้ว่าตามหลักสากลที่นิยมแบ่งเขตแดนที่เป็นภูเขาตามสันปันน้ำซึ่งถ้าว่าตามนัยนี้เขาพระวิหารตั้งอยู่บนหน้าผาที่น่าจะถือว่าเป็นของฝั่งไทย แต่เส้นเขตแดนของเราในกรณีนี้ไม่ได้ยึดสันปันน้ำเป็นหลัก
จะว่าฝรั่งเศสเอาเปรียบก็ได้ครับ แต่สมัยร.5 ประเทศสยามน่าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมเสียเปรียบเพื่อไม่ให้ฝรั่งเศสรุกรานไปมากกว่านี้
ในแง่ประวัติศาสตร์แม้ว่าคนไทยกะคนเขมรพูดกันคนละภาษาแต่มีความเป็นมาร่วมกันเรียกว่าจริงๆก็เป็นญาติห่างๆกันคล้ายๆกับลาวและล้านนา และปราสาทเขาพระวิหารสร้างขึ้นมาในยุคที่ชาวเขมรมีอำนาจปกครองดินแดนสุวรรณภูมิเกือบทั้งหมด รวมดินแดนที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบันเกือบทั้งหมด ประเทศลาว และตอนใต้ของเวียดนามและพม่า คิดตามนัยนี้จะว่าสร้างโดยราชโองการของกษัตริย์เขมรก็ไม่ผิด
หลังจากเขมรได้เอกราชจากฝรั่งเศสเขาก็มีความชอบธรรมที่จะถือสิทธิ์ในดินแดนที่ฝรั่งเศสเคยปกครองครับ ไม่ว่าดินแดนนั้นจะดูเหมือนกินเข้ามาในประเทศอะไรก็ตาม
การที่เขมรขอขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารให้เป็นมรดกโลกจะทำให้คนรู้จักและมาเที่ยวมากขี้น โดยรวมน่าจะเป็นประโยชน์กับชาวศรีสะเกษด้วยซ้ำ
การยกเหตุผลข้างๆคูๆประเภทว่าปราสาทยอมให้เขมรแต่ดินใต้ปราสาทเป็นของไทย เป็นการพูดแบบนักเลงโตหาเรื่องวางเขื่องกับประเทศเพื่อนบ้าน ใช้ลัทธิชาตินิยมแบบผิดๆ เสี้ยมให้คนไทยเกลียดกันเองและเขม่นเพื่อนบ้านซึ่งไม่มีประโยชน์อันใดเลย
สำหรับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของนักการเมืองแม้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องแต่การจะตัดสินมนุษย์ตามประสามนุษย์ยังไงไม่มีอะไรแฟร์จริงๆหรอกครับ
เขาพระวิหารสร้างในสมัย ขอมเรืองอำนาจ ไม่ใช่ เขมร เรืองอำนาจ
นอกจาก เขาพระวิหารแล้ว ยังมีปราสาท หลายแห่ง ในประเทศไทย ที่อยู่ในสมัยขอม ในนครศรีธรรมราชก็มี
บุรีรัมย์ก็มี ดังนั้น จะบอกว่า เป็นของเขมร ก็ไม่ถูกนัก
แต่ถ้าเขาพระวิหาร จะไปเป็นของเขมร ก็เชิญเถิด
แต่เผอิญว่า มันเป็นชนวน ที่ต่อเนื่องให้เสียดินแดน ต่อไปอีก
เช่น บันได ก็ควรเป็นของเขมร
เนื้อที่ รอบๆ อีก 4 กม. ก็ควรเป็นของเขมร
รวมถึง พื้นที่ในทะเล ... ที่จะถูกอ้างในลักษณะเดียวกันอีก
ตรงนี้ที่สำคัญกว่า เพราะว่า เขมร เป็นประเภทที่ ได้คืบจะเอาศอก นะครับ
แต่สมัยที่ฝรั่งเศส มาเอาดินแดนเขมรไป ใน ร.5 (มั้ง) ที่ให้ไป ก็เพราะ
ฝรั่งเศสรู้จักพออะ พอเท่าที่เป็นประเทศเขมร ไง ...
ถ้าสมมุติว่า ได้เขาพระวิหารไป แล้ว ก็จบ ก็โอเค
แต่มันแปลกตรงนี้ ดูจากภูมิประเทศ นะ
ฝั่งเขมรเนี่ย เป็นหน้าผา ส่วนทางไทยเป็นที่ราบสูง สูงขึ้นไปเรื่่อยๆ จนถึงตัวปราสาท
หากจะเปรียบเป็นบ้านคน ก็คล้ายๆ กับ
บ้าน 2 หลังที่เคยเป็นญาติกัน มาก่อน
สมัยพี่ๆ น้องๆ กัน รู้ว่า โฉนดใครเป็นโฉนดใครแน่นอน
แต่พอ มีของบางอย่างของนาย ข มาวางทับที่ตรงนั้น (ซึ่งเป็นพื้นดินของนาย ก)
พอ นาย ก กับ นาย ข ตายไป
ลูกหลาน ของ นาย ก และ นาย ข ก็อ้าง กรรมสิทธิ์
ด้วยเหตุผลต่างๆ กัน ไม่ลงรอยกัน
และมันเป็นเหตุทำให้ นาย ข สามารถ อ้างกรรมสิทธิ์ว่า สิ่งที่วางอยู่นั้น
นอกจากเป็นของเขาแล้ว พื้นที่ก็เป็นของเขาด้วย
และที่สำคัญ ไอ้เสาหินปักหลัก มันดันขยับได้ด้วย ผมเคยเจอมากับตัว
จนพ่อผม ก็ปล่อยให้เลยตามเลย ขี้เกียจมีปากมีเสียง ก็ยอมมีเนื้อที่เล็กลง
หน่อยนึง ... เซ็งไหมละคับพี่น้อง ...
เขาพระวิหารก็เช่นกัน เมื่อได้ปราสาทไปแล้ว
พอผ่านยุคนี้ไป ก็จะอ้างว่า ปราสาทเป็นของฉัน
พ้ื้นที่ก็ต้องเป็นของฉันด้วย และก็จะเป็นแบบนี้เรื่อยๆ
ถ้า เขาพระวิหาร มันรื้อถอน หรือขยับ ไปได้
ผม (ถ้ามีอำนาจ) คงจะบอกว่า ก็รื้อถอน เอาไปวางใน
ดินแดนของคุณเถิด ...
ฉันไม่อยากได้เจ้าวิหารหรอก แต่ภูเขาเนี่ย มันทั้งลูก
มันเป็นที่ของฉานนน...
พอเข้าใจรึยัง ครับ ...
ถ้าจะถกเถียงเอาชนะเด็ดขาดในเรื่องการเมืองและประวัติศาสตร์กันในนี้เกรงว่าจะยาวครับ
เอาว่ามีหลักฐานหลายๆอย่างบ่งชี้ว่าชาวขอมเป็นบรรพบุรุษของชาวเขมรและน่าจะเป็นชาวไทยจำนวนมากด้วย
การพยายามจะบอกว่าขอมเจริญมาก่อนและขอมไม่ใช่เขมรเป็นความพยายามของนักประวัติศาสตร์ไทยที่เป็นพวกชาตินิยมแบบคลั่งชาติซึ่งเริ่มมาในสมัยเผด็จการทหาร เขาต้องการให้คนไทยคิดว่าตัวเองไม่ได้ลอกเลียนแบบวัฒนธรรมมาจากเขมร ทั้งที่จริงๆแล้วศิลปวัฒนธรรมไทยภาคกลางและอีสานกับเหนือตอนล่างก็แทบไม่ต่างจากกัมพูชาเลยสักนิด
เอาว่ามีหลักฐานหลายๆอย่างบ่งชี้ว่าชาวขอมเป็นบรรพบุรุษของชาวเขมรและน่าจะเป็นชาวไทยจำนวนมากด้วย
การพยายามจะบอกว่าขอมเจริญมาก่อนและขอมไม่ใช่เขมรเป็นความพยายามของนักประวัติศาสตร์ไทยที่เป็นพวกชาตินิยมแบบคลั่งชาติซึ่งเริ่มมาในสมัยเผด็จการทหาร เขาต้องการให้คนไทยคิดว่าตัวเองไม่ได้ลอกเลียนแบบวัฒนธรรมมาจากเขมร ทั้งที่จริงๆแล้วศิลปวัฒนธรรมไทยภาคกลางและอีสานกับเหนือตอนล่างก็แทบไม่ต่างจากกัมพูชาเลยสักนิด
ถ้าอ่านประวัติศาสตร์ไทยเท่าที่เรียนมาสมัยมัธยมก็ไม่แปลกถ้าจะเข้าใจว่าขอมไม่ใช่เขมร มีความเชื่อผิดๆสารพัดอย่างถูกสอนมาให้เราเชื่อเพื่อใช้ความรักชาติของเราให้เป็นประโยชน์กับชนชั้นปกครองไทย
เขมรเป็นชาติที่มีอารยธรรมความเจริญมาก่อนชาวสยามและลาว แต่มีรุ่งก็มีเสื่อม หลังการเสื่อมของอาณาจักรเขมรในคศว.ที่ 13 ชาวสยามได้ตั้งอาณาจักรสุโขทัย และอยุธยา ชาวลาวได้ตั้งอาณาจักรล้านนาและล้านช้างขึ้น
แผ่นดินอีสานเกือบทั้งหมด ไม่นับ จ.นครราชสีมาและบุรีรัมย์ เดิมเป็นของอาณาจักรเขมรหรือขอม ต่อมาเป็นของลาวล้านช้าง ต่อมาชาวสยามได้เข้ายึดเป็นเมืองขึ้นในสมัยพระเจ้าตากสินฯ ร้อยกว่าปีต่อมาฝรั่งเศสมาล่าอาณานิคมเขาก็มาบีบให้สยามยกดินแดนลาวส่วนใหญ่ให้ไป
ทุกวันนี้คนลาวมากกว่า 60-70% ด้วยซ้ำกลายมาเป็นคนไทยอีสาน คือประมาณ 15 ล้านคน มากกว่าในประเทศลาวซะอีก
จริงๆแล้วเส้นเขตแดน ชาติ และอธิปไตย เป็นสิ่งสมมติ มันเป็นเพียงเส้นแบ่งเขตผลประโยชน์ของชนชั้นนำในแต่ละรัฐเท่านั้น
มันไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญอันใดเลยกับคุณภาพชีวิต ความสุขของมวลมนุษย์ แม้แต่น้อย
พวกคลั่งชาติชอบบอกว่าเมืองไทยเราเสียดินแดนไปเท่านั้นเท่านี้เรื่องไร้สาระไม่ควรนำมาคิดทั้งนั้น
ดินแดนที่มีอยู่ตอนนี้มีตรงไหนบ้างที่บอกได้ว่าเป็นไทยแท้ๆ และคนไทยจริงๆหน้าตาเป็นยังไง
ประชากรไทยนับคร่าวๆ เป็นเชื้อสายสยาม ลาว และจีน อย่างละประมาณ 30% จริงๆก็มีเขมรปนพอสมควร โดยเฉพาะคนภาคกลาง อีสานตอนล่าง ภาคใต้ซึ่งสีผิวจะคล้ำหน่อย นอกนั้นก็เป็นมลายูอิสลาม ชนกลุ่มน้อยตามชายแดน พวกลูกครึ่งและอื่นๆ
เขมรเป็นชาติที่มีอารยธรรมความเจริญมาก่อนชาวสยามและลาว แต่มีรุ่งก็มีเสื่อม หลังการเสื่อมของอาณาจักรเขมรในคศว.ที่ 13 ชาวสยามได้ตั้งอาณาจักรสุโขทัย และอยุธยา ชาวลาวได้ตั้งอาณาจักรล้านนาและล้านช้างขึ้น
แผ่นดินอีสานเกือบทั้งหมด ไม่นับ จ.นครราชสีมาและบุรีรัมย์ เดิมเป็นของอาณาจักรเขมรหรือขอม ต่อมาเป็นของลาวล้านช้าง ต่อมาชาวสยามได้เข้ายึดเป็นเมืองขึ้นในสมัยพระเจ้าตากสินฯ ร้อยกว่าปีต่อมาฝรั่งเศสมาล่าอาณานิคมเขาก็มาบีบให้สยามยกดินแดนลาวส่วนใหญ่ให้ไป
ทุกวันนี้คนลาวมากกว่า 60-70% ด้วยซ้ำกลายมาเป็นคนไทยอีสาน คือประมาณ 15 ล้านคน มากกว่าในประเทศลาวซะอีก
จริงๆแล้วเส้นเขตแดน ชาติ และอธิปไตย เป็นสิ่งสมมติ มันเป็นเพียงเส้นแบ่งเขตผลประโยชน์ของชนชั้นนำในแต่ละรัฐเท่านั้น
มันไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญอันใดเลยกับคุณภาพชีวิต ความสุขของมวลมนุษย์ แม้แต่น้อย
พวกคลั่งชาติชอบบอกว่าเมืองไทยเราเสียดินแดนไปเท่านั้นเท่านี้เรื่องไร้สาระไม่ควรนำมาคิดทั้งนั้น
ดินแดนที่มีอยู่ตอนนี้มีตรงไหนบ้างที่บอกได้ว่าเป็นไทยแท้ๆ และคนไทยจริงๆหน้าตาเป็นยังไง
ประชากรไทยนับคร่าวๆ เป็นเชื้อสายสยาม ลาว และจีน อย่างละประมาณ 30% จริงๆก็มีเขมรปนพอสมควร โดยเฉพาะคนภาคกลาง อีสานตอนล่าง ภาคใต้ซึ่งสีผิวจะคล้ำหน่อย นอกนั้นก็เป็นมลายูอิสลาม ชนกลุ่มน้อยตามชายแดน พวกลูกครึ่งและอื่นๆ
ถ้าผมจะสวดภาวนาเพื่อส่วนรวม ผมไม่เคยคิดจะสวดให้ประเทศชาติเลยสักนิด เพราะผมถือว่าประเทศชาติมันไม่ได้มีความหมายในลักษณะประชาชาติ แต่มันจะหมายถึงรัฐชาติเสียมากกว่า
ผมจะสวดภาวนาให้สังคม โดยเฉพาะคนยากไร้ คนด้อยโอกาส คนทีี่่มีทุกข์ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ ไม่สนใจคนๆนั้นจะเชื้อชาติ สัญชาติหรือศาสนาอะไร นิยมลัทธิการเมืองแบบไหน
ผมจะสวดภาวนาให้สังคม โดยเฉพาะคนยากไร้ คนด้อยโอกาส คนทีี่่มีทุกข์ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ ไม่สนใจคนๆนั้นจะเชื้อชาติ สัญชาติหรือศาสนาอะไร นิยมลัทธิการเมืองแบบไหน
ตัวอย่างหนึ่งของนักวิชาการที่อยากเห็นสันติภาพมากกว่าศักดิ์ศรีประเทศที่ถูกพวกกลุ่มการเมืองคลั่งชาติก่อกระแสครับ
จดหมายเปิดผนึก นักวิชาการด้านอุษาคเนย์
คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
กรุงเทพฯ สยาม/ประเทศไทย
กรกฎาคม 2551
เรื่อง จุดยืนทางวิชาการต่อกรณี
จดหมายเปิดผนึก นักวิชาการด้านอุษาคเนย์
คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
กรุงเทพฯ สยาม/ประเทศไทย
กรกฎาคม 2551
เรื่อง จุดยืนทางวิชาการต่อกรณี
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
ก็เห็นด้วยนะครับsansrepos เขียน: ถ้าผมจะสวดภาวนาเพื่อส่วนรวม ผมไม่เคยคิดจะสวดให้ประเทศชาติเลยสักนิด เพราะผมถือว่าประเทศชาติมันไม่ได้มีความหมายในลักษณะประชาชาติ แต่มันจะหมายถึงรัฐชาติเสียมากกว่า
ผมจะสวดภาวนาให้สังคม โดยเฉพาะคนยากไร้ คนด้อยโอกาส คนทีี่่มีทุกข์ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ ไม่สนใจคนๆนั้นจะเชื้อชาติ สัญชาติหรือศาสนาอะไร นิยมลัทธิการเมืองแบบไหน
แต่ขอสมมุติเหตุการณ์สักอย่าง เทียบเคียงกับ เขาพระวิหารนะ
ถ้าเรามีของบางอย่าง ซึ่ง ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ซึ่งต่างก็อ้างสิทธิ์ ว่าเป็นของๆ ตน
วิธีการที่จะทำให้เกิดสันติ ก็คือ ประกาศให้ของสิ่งนีั้น เป็นของ กลาง ไม่สามารถเป็นเจ้าของได้โดยใคร!
และไม่มีใคร (มือที่สาม) จะมายึดครอบครองได้
แต่ ทั้งสอง จักต้องใช้ประโยชน์ร่วมกันได้
ในกรณีนี้ หมายความว่า ประสาทเขาพระวิหาร ในแนวพื้นที่ (ที่เหมาะสม)
จะต้องเป็นของ ทั้ง 2 ประเทศ โดยให้สิทธิ์ ทั้ง 2 ประเทศ แสวงหาผลประโยชน์
ในพื้นที่ดังกล่าว ตามความเหมาะสม ไม่เหลื่อมล้ำกัน น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด
....
แต่ถ้าจะยึดศิลปะ ว่าศิลปะนี้ต้องเป็นของประเทศนี้ และดินแดน ต้องเป็นของประเทศเจ้าของวัฒนธรรมด้วย
ดังนั้น บุรีรัมย์ ที่มีปราสาทพรมรุ้ง ก็ต้องเป็นของเขมร และอีกหลายๆ ที่ก็ต้องเป็นของเขมร
แล้ว ถ้าหากมี ศิลปะ ไทย ไปโผล่ ที่ต่างประเทศ ดินแดนนั้นก็คงต้องเป็นของไทยไปด้วย
ซึ่ง ไม่ถูกหลักนะครับ! ...
แต่อย่างไรก็ตาม จะเป็นการสร้างลัทธิชาตินิยมหรือไม่ ไม่สำคัญ
แต่ที่สำคัญ เราจะทำอย่างไร ในการช่วยชาติของเรา
แบ่งเบาภาระของในหลวง ...ให้มากที่สุด ... นั่นคือสิ่งสำคัญ
หากพระองค์ท่านมีความสุข เพราะคนในชาติรักกัน ... เกื้อกูลกัน
ถึงแม้เราจะเสียดินแดน สักนิด แต่เรารักกันมากขึ้น ... ก็คุ้มกว่า
แต่หากจะบอกว่า จะไม่สนใจในความเป็นชาติเลย ก็หาพูดแบบนี้ได้
เพราะหากไม่มีประเทศชาตินี้ เราคงไม่ได้มาอยู่ร่วมใต้ร่มพระบารมีของในหลวง
และอยู่เย็นเป็นสุขมานานขนาดนี้
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
วิธีการอีกอันหนึ่งที่นำไปสู่สันติ คือเสียสละbomzaiya เขียน:ก็เห็นด้วยนะครับsansrepos เขียน: ถ้าผมจะสวดภาวนาเพื่อส่วนรวม ผมไม่เคยคิดจะสวดให้ประเทศชาติเลยสักนิด เพราะผมถือว่าประเทศชาติมันไม่ได้มีความหมายในลักษณะประชาชาติ แต่มันจะหมายถึงรัฐชาติเสียมากกว่า
ผมจะสวดภาวนาให้สังคม โดยเฉพาะคนยากไร้ คนด้อยโอกาส คนทีี่่มีทุกข์ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ ไม่สนใจคนๆนั้นจะเชื้อชาติ สัญชาติหรือศาสนาอะไร นิยมลัทธิการเมืองแบบไหน
แต่ขอสมมุติเหตุการณ์สักอย่าง เทียบเคียงกับ เขาพระวิหารนะ
ถ้าเรามีของบางอย่าง ซึ่ง ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ซึ่งต่างก็อ้างสิทธิ์ ว่าเป็นของๆ ตน
วิธีการที่จะทำให้เกิดสันติ ก็คือ ประกาศให้ของสิ่งนีั้น เป็นของ กลาง ไม่สามารถเป็นเจ้าของได้โดยใคร!
และไม่มีใคร (มือที่สาม) จะมายึดครอบครองได้
แต่ ทั้งสอง จักต้องใช้ประโยชน์ร่วมกันได้
เสียสละ การยึดมั่นถือมั่น การถือของเขาของเรา
ผู้ที่เสียสละเพื่อสันติภาพ น่าจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรพระเจ้านะ