ยินดีเหลือเกินในความใจก้าง...เอ๊ยใจกว้าง ที่ให้พี่อยู่ได้อย่างสบายใจทั้งสองคณะ
จริงๆแล้วพี่นั้น...เนื่องจากอยู่คณะศาสนสัมพันธ์มาก่อนและยังเป็นอยู่ จึงเป็นเหตุให้พี่ยึดมั่น ตามสังคายนาวาติกันที่สอง
ว่าด้วยเรื่องการปรองดองกัน ระหว่างผู้ที่ต่างในความเชื่อ อย่างเฉกเช่น ท่านสมาชิกคณะทั้งสองที่มีจุดเด่นของตนเอง
อย่างไม่มีข้อเหลือมลำ้กัน
ที่น้องฟิมอธิบาย...ความงามจากใจนั้น ก็ทราบซึ้งใจ แต่ขณะเดียวกัน..
ปีนี้เป็นปีนักบุญเปาโลทางคณะของเราควรจะเดินตามรอยท่าน ในการประกาศพระวาจา
การเดินทาง จึงเป็นกิจการที่สำคัญ สิ่งต่างๆที่ทางคณะได้ส่งไป แม้ลอยคอกลางทะเลบนเรือ...เอ่อ ว่ายนำ้ไม่เป็นง่ะ
แต่ถ้าเพื่อการประกาศออร่าและสนับสนุนออร่าให้สวยสุกใสไปทั่วพื้นพิภพก็คงต้องเป็นหน้าที่ของศาสนบริเกินเป็นแม่นมั่น
อันว่า ศาสนบริเกินนี้ก็คงมีแต่พี่ที่พอจะกระเดือกไปได้...จึงขอทำหน้าที่นี้ต่อไปก่อน
ขอขอบพระคุณในความเมตตาเอื้อเฟื้อเตือนด้านชีวิตจิต
การออกทะเลห่างไกลจากคณะนั้น...ออร่าจะจางหาย...
พี่จะหมั่นใช้มโนธรรมกลั่นกรองนำ้ทะเลให้เป็นนำ้กร่อย...และจากนำ้กร่อย..จะค่อยกลั่นให้เป็นนำ้จืด...ต้มอีกนิดสองนิด
...กลายเป้น...อื๋ย !







ไม่ใช่แล้ว....ผิดเรื่อง

เอ๊า สรุปเลยล่ะกัน จะเข้ามาฝั่งเพื่อแก้แบบแล้วกัน ขอนัดท่านล่วงหน้าเลย...
ขออำลา...เอ่...เอ้....
พี่โอ๋ ศาสนบริเกิน (ผู้ถือสายประคำให้ท่าน อดูดไปแลลนน์)
คณะหยาดฟ้ามาเลริน(มอลโร) จรุงกลิ่นมารีย์....นิกรอุปถัมภ์นิรันดร์ (ยังหาต่อให้ไม่ได้....ค่ะ)
ปล.ถือเอาดื้อเสียว่านี่คือคำชม...แม้ฟังดูทะแม่ง ทะแม่ง "คารมคมหัก" คมมันคงหักไม่ได้ ถ้าไม่ลับคงมีแต่ทื่อจ๊ะ