วิธีฝึกสมอง

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

เสาร์ ส.ค. 30, 2008 2:41 pm

1.จิบน้ำบ่อยๆ

สมองประกอบด้วยน้ำ 85 เปอร์เซ็นต์ เซลล์สมองก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เซลล์สมองเหี่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อยๆ
(อืมม
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

เสาร์ ส.ค. 30, 2008 2:47 pm

::001:: ขอบคุณจ้า
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

เสาร์ ส.ค. 30, 2008 5:52 pm

THANK YOU : xemo026 :
เห็นทีต้องจำเอาไปใช้เสียแล้ว พักนี้เลอะเลือนอย่างไรชอบกล ::010::
แก้ไขล่าสุดโดย Viridian เมื่อ เสาร์ ส.ค. 30, 2008 6:50 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

เสาร์ ส.ค. 30, 2008 8:25 pm

Viridian เขียน: THANK YOU : xemo026 :
เห็นทีต้องจำเอาไปใช้เสียแล้ว พักนี้เลอะเลือนอย่างไรชอบกล ::010::
::011:: ::011:: ::011::
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

เสาร์ ส.ค. 30, 2008 9:19 pm

ขอบคุณมากๆจ๊ะ  : xemo026 : รีบปฎิบัติด่วน : emo038 :
ช่วงนี้เหมือนเท็นเลย....นำ้น้อยย่อมแพ้ไฟ.. ::011::
ภาพประจำตัวสมาชิก
แบกะดิน
โพสต์: 1085
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 7:49 pm

อาทิตย์ ส.ค. 31, 2008 8:24 pm

อ่านและหิวน้ำเลย 55
ภาพประจำตัวสมาชิก
ŤaşArĐűŕ
โพสต์: 89
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 31, 2008 1:10 am
ติดต่อ:

อังคาร ก.ย. 02, 2008 10:46 pm

กิน ออริจินอลไตรเพปไทด์สิคับ  ::013::
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พุธ ก.ย. 03, 2008 5:12 am

ŤaşArĐűŕ เขียน: กิน ออริจินอลไตรเพปไทด์สิคับ  ::013::
แล้ว  tri-peptide มันจะไปสร้างเซลล์สมองเหรอคะ  หรือเอาไปสร้างอะไรคะ
tan
โพสต์: 390
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 13, 2008 8:47 pm
ติดต่อ:

พุธ ก.ย. 03, 2008 7:44 am

: emo102 :ดีจังสำหรับความรู้ดีๆครับ ผมเรียนิติอยู่ต้องหากลเม้ดในการจำพอดี : emo056 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
ŤaşArĐűŕ
โพสต์: 89
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 31, 2008 1:10 am
ติดต่อ:

พุธ ก.ย. 03, 2008 10:43 pm

ไม่ได้โฆษณานะ 

เอาแบบธรรมดาก้อคือ  มันก็คือกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อมนุษย์เราเนี่ยแหละ


กรดอะมิโน (amino acid) ประกอบด้วยอะตอมของธาตุคาร์บอน  ไฮโดรเจน  ออกซิเจนและไนโตรเจนนอกจากนี้บางชนิด
อาจประกอบด้วยอะตอมของธาตุอื่นๆ อีก เช่น ฟอสฟอรัส เหล็กและกำมะถัน เป็นตัน
กรดอะมิโนแต่ละชนิดสามารถต่อกันได้ด้วยพันธะโคเวเลนท์ที่มีชื่อเฉพาะว่า พันธะเพปไทด์ (peptide bond)  โครงสร้างซึ่ง
ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่ต่อกันเป็นสายนี้เรียกว่า เพปไทด์
พันธะเพปไทด์ คือ พันธะโคเวเลนท์ที่เกิดขึ้นระหว่าง C อะตอมในหมู่คาร์บอกซิล  ของกรดอะมิโนโมเลกุลหนึ่งยึด
กับ N อะตอม ในหมู่อะมิโน (-NH2) ของกรดอะมิโนอีกโมเลกุลหนึ่ง


สารที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 2 โมเลกุล เรียกว่า ไดเพปไทด์   
สารที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 โมเลกุล เรียกว่า  ไตรเพปไทด์    
สารที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนตั้งแต่ 100 โมเลกุลขึ้นไป เรียกว่า พอลิเพปไทด์นี้ว่า โปรตีน 
อนึ่งสารสังเคราะห์บางชนิดก็เกิดพันธะเพปไทด์เหมือนกัน เช่น ไนลอน ดังนี้

รูปภาพ

ก็คือว่ามันเป็นอาหารสมอง
ที่จิงไอ้สารอาหารพวกนี้มันพบในอาหารที่เรากินเนี่ยแหละคับ เพียงแต่มันสกัดออกมา
ถ้ายังไงก็ลองทำวิธีแบบผมดูก่อนนะคับ
1.นอนในช่วง 4 ทุ่ม
(ถ้าจำเป็นต้องนอนดึกก็แนะนำให้ใช้พลังงานน้อยที่สุด และถ้าทานอาหารให้เคี้ยวให้ละเอียดที่สุดครับ แล้วก็ดื่มน้ำเยอะๆ)
2.ทานอาหารให้ตรงเวลา
3.พักสายตาจากการจ้องอะไรบางอย่างนานๆ
4.ถ้าเครียดมากๆก็ให้นึกถึงหน้าไครก็ได้ครับ ที่เรารู้สึกดีเมื่อคิดถึง


แต่ผมว่านะ ลองนั่งแบบใม่นึกอะไรในที่เงียบๆซัก 5 นาทีก็น่าจะทำให้สมองหายล้าแล้วนคับ

ว่างๆจะอธิบายละกันนะครับ เกี่ยวกับการทำงานในสมอง
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ก.ย. 03, 2008 11:02 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
yack
โพสต์: 816
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 11, 2008 11:01 am

พฤหัสฯ. ก.ย. 04, 2008 10:25 am

เป็นอย่างนี้นี่เอง จะลองนำไปใช้นะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

เสาร์ ก.ย. 06, 2008 7:26 am

ขอบคุณนะคะ สงสัยพี่ต้องกินแล้วมั้ง..
เพราะวิธีที่ให้มา ทำได้ไม่กี่อย่าง..ยิ่งนอนในช่วง สี่ทุ่มนี่
นับคืนได้เลย....ว่า 365 วันได้ไม่ถึง 10 คืนเลย : emo031 : ::010::  : emo073 :
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

เสาร์ ก.ย. 06, 2008 6:08 pm

ignatius เขียน: ขอบคุณนะคะ สงสัยพี่ต้องกินแล้วมั้ง..
เพราะวิธีที่ให้มา ทำได้ไม่กี่อย่าง..ยิ่งนอนในช่วง สี่ทุ่มนี่
นับคืนได้เลย....ว่า 365 วันได้ไม่ถึง 10 คืนเลย : emo031 : ::010::  : emo073 :
หัวอกเดียวกันเลยคับพี่ : xemo031 : ::008::
ภาพประจำตัวสมาชิก
ŤaşArĐűŕ
โพสต์: 89
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 31, 2008 1:10 am
ติดต่อ:

เสาร์ ก.ย. 06, 2008 7:53 pm

ผมกิน เปปทีนกับ บีอิ้งอยู่ ครับ
(ส่วนใหญ่จะบีอิ้งแบบ Mg เพราะเปปทีนมันแพง แต่มันจะได้ผลทันที)
เปปทีนที่เซเว่นมีขาย ที่วางไกล้ๆกับแผนกขายอาหารเสริมที่เขาแช่เอาไว้ ขวดละ 30 กว่าบาทมั้งคับ

สำหรับผมแล้วนั้น..เวลาพักผ่อนไม่คอยจะมีเท่าไร งานก็เยอะมาก มันก็เลยต้องทนกินครับ - -

สมองคนเรามีระดีบคลื่นอยู่ที่ประมาณ
10-20 Hz
เป็นระดับปรกติครับ ถ้าอารมณ์ดีหน่อยก็จะเหลือประมาณ 13 ครับ นั่นคือช่วงที่คนหลับครบ 8 ชั่วโมง
ถ้าเราไม่อยากให้มีตัวแปรให้เกิดความเครียดนะครับ อย่าคุยโทรศัพท์เกิน 1 ชั่วโมงครับ เพราะในคลื่นโทรศัพท์ มี
ระดับคลืนที่สูง ทำให้ปวดหัว (ระดับคลื่น98.5Hz ) ควรใช้สมอทอล์กคุยครับเพื่อลดระดับคลื่น
(อันนี้ก็มีส่วนนะจ้ะ^^ )

เป็นห่วงพี่ๆที่นิวมานาทุกคนนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ ก.ย. 06, 2008 7:55 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ignatius
.
.
โพสต์: 2597
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.พ. 07, 2008 12:48 pm

เสาร์ ก.ย. 06, 2008 8:30 pm

ขอบคุณมากนะคร๊าบที่ให้ข้อมูลและเป็นห่วง... : emo045 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

เสาร์ ก.ย. 06, 2008 8:40 pm

DO & DON’T สำหรับคนทำงานออฟฟิศ  ::004::

* กินข้าวกล้องเป็นประจำทุกวัน ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา เหมาะกับผู้ที่ต้องนั่งโต๊ะนานๆ เพราะในข้าวกล้องมีวิตามินบีและอีสูง จึงช่วยเพิ่มพลังสมองในการทำงาน แถมป้องกันโรคสมองเสื่อมในอนาคตได้ด้วย...ว้าว

* วิตามินบีหรือที่เรียกว่า “สารให้ความกระปรี้เปร่า” มีอยู่ในข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท จมูกข้าว ถั่ว เมล็ดทานตะวัน นม กล้วย ส้ม เป็นต้น

* วิตามินซีที่อยู่ในผักและผลไม้ เช่น ฝรั่ง สตรอเบอร์รี่ น้ำส้มคั้น มะละกอ บร็อคโคลี กะหล่ำปลี ถั่วงอก ฯลฯ มีส่วนสำคัญในการสร้างฮอร์โมนระงับความเครียดได้

* น้ำมันปลา Omega-3 ในเนื้อปลาแซลมอน ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ไขข้ออักเสบ ช่วยลดอาการปวดรอบเดือนและระงับอาการซึมเศร้าเบื่อหน่ายจากการทำงานได้ด้วย

* ผักใบเขียวอย่างตำลึง คะน้า เป็นอาหารกลุ่มโครินที่มีวิตามินบี ซึ่งช่วยเพิ่มความจำและสมาธิ

* ดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวันจะทำให้ร่างกายสดชื่น สมองแจ่มใส ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลีย และตะคริว ทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสได้แม้อยู่ในห้องแอร์

* แนะนำให้ดื่มน้ำกระเจี๊ยบหรือน้ำมะนาวในช่วงบ่ายที่กำลังง่วง เพราะมีทั้งรสเปรี้ยวและหวาน มีวิตามินซีสูง แถมมีธาตุเหล็กอีกด้วย สำหรับน้ำใบบัวบก จริงๆ แล้วเป็นยาบำรุงแก้อ่อนเพลีย ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เสริมสร้างความจำและช่วยให้สมองทำงานได้ดี

* ทานของหวานหลังอาหารกลางวันช่วยเพิ่มความรู้สึกสดชื่นได้ยาวนานขึ้น การทานรสเปรี้ยวและหวานช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นในร่างกาย ถ้าตอนบ่ายง่วงอาจกินผลไม้รสเปรี้ยว อย่างมะม่วงหรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ เพื่อเพิ่มความกระตือรือร้นได้

* ถ้าทำงานที่ต้องใช้สายตานานๆ ต้องมีถั่วติดโต๊ะไว้ เพราะถั่วมีวิตามินบี2 บำรุงสายตาได้ดี

* ผู้หญิงช่วงมีรอบเดือน ร่างกายจะขาดธาตุเหล็ก จนทำให้เหนื่อยง่าย หงุดหงิด ไม่มีสมาธิ แนะนำให้ทานวิตามินซีควบคู่ไปกับการรับประทานเหล็ก จะเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น

* ชาเขียวช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่นและช่วยให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวสะอาดปลอดโปร่งขึ้น เพราะถุงชาช่วยลดมลพิษภายในอาคาร ซึ่งเป็นอาการป่วยที่มีสาเหตุมาจากการแพ้อากาศภายในอาคาร เช่น โรคภูมิแพ้ ผืนแดงตามร่างกาย เป็นต้น

* ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัดในมื้อเช้า เพราะตื่นเช้าขึ้นมาร่างกายยังอ่อนแอปรับตัวไม่ทัน ยิ่งถ้าตอนเช้าคุณมีประชุมด้วยละก็อาจเดือดร้อนเพราะท้องเดินได้

* จริงๆ แล้ว ผู้ที่ไม่มีเวลารับประทานอาหารเช้าหรือติดดื่มกาแฟ ควรดื่มน้ำผลไม้ 1 แก้ว แล้วค่อยดื่มกาแฟตาม เพราะการดื่มกาแฟโดยที่ไม่มีอะไรรองท้องจะช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าได้ไม่นาน หลังจากนั้นจะกลับมาง่วงเหมือนเดิม และไม่ควรดื่มกาแฟเกิน 3 แก้วต่อวัน และอย่าลืมว่าครีมกับน้ำตาลทำให้อ้วนได้

* ทางที่ดีหลีกเลี่ยงชาและกาแฟ โดยเฉพาะในช่วงเย็นถึงกลางคืน เพราะอาจทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ ส่งผลให้สมองพักผ่อนไม่เพียงพอ ผู้ที่ดื่มชา กาแฟ และสุรา เป็นประจำจะทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้น้อยกว่าที่ควร

* สำหรับมื้อเที่ยงควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มและมันจัด เพราะอาหารที่มีไขมันเยอะจะเกิดการสะสม ส่งผลให้ร่างกายเคลื่อนไหวช้า และก่อให้เกิดอาการหดหู่ ขาดความคล่องตัว

* เป็นความเชื่อผิดๆ ที่ว่ากินข้าวเหนียวจะทำให้ง่วง ในความเป็นจริง ข้าวเหนียวย่อยยากและใช้พลังงานสูงในการย่อย จนทำให้ร่างกายอ่อนเพลียหลังจากกินไปสักพักต่างหาก


ที่มา http://women.sanook.com/work/www/www_38807.php
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

เสาร์ ก.ย. 06, 2008 8:45 pm

ขอบคุณเล็กมากจ๊ะ : emo038 :
จริงๆ ถึงไม่ได้ทำงานออฟฟิศ ก็เอาไปใช้ได้เนอะ ::011::
ภาพประจำตัวสมาชิก
reccanohono
โพสต์: 1045
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
ที่อยู่: thailand

เสาร์ ก.ย. 06, 2008 8:46 pm

ใช่ค่าๆๆๆๆๆ  ::011::
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

เสาร์ ก.ย. 06, 2008 9:46 pm

ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ
ตอบกลับโพส