สันตะปาปาโกรธเมื่อเห็นรูปพระเยซูกลายเป็นกบ
พอดี อ่านเจอ ...
โป๊ปสุดกริ้ว!! ส่งจดหมายประณามรูปกบถูกตรึงกางเขน
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก อัดยับ รูปแกะสลักกบถูกตรึงกางเขน เป็นปฏิมากรรมทำร้ายความรู้สึกของคริสตชนแบบสุดๆ ชี้ชัด ไม้กางเขนเป็นเครื่องหมายแห่งความรักของพระเจ้าและเป็นสัญลักษณ์แห่งความรอด ไม่สมควรนำมาล้อเลียนเด็ดขาด ด้านผู้บริหารพิพิธภัณฑ์ยังหน้าทน บอกจะไม่ถอดรูปเก็บแน่นอน
หลังจากที่พิพิธภัณฑ์ในเมืองโบลซาโน่ ประเทศอิตาลี ได้จัดแสดงปฏิมากรรมงานแกะสลักของเหล่าจิตรกรชื่อดัง หนึ่งในนั้น มีรูปกบถูกตรึงกางเขน โดยมือข้างขวา ถูกตรึงพร้อมกระป๋องเบียร์ มือซ้ายตรึงพร้อมไข่ไก่ ขณะที่ดวงตาของมัน ถลนออกนอกเบ้า พร้อมกับแลบลิ้นยาวแบบน่าสมเพช งานแกะสลักชิ้นนี้ ได้ก่อให้เกิดการประท้วงอย่างหนักในอิตาลี เนื่องจากเป็นการล้อเลียนพระเยซูอย่างชัดเจน
ล่าสุด ฟร้านซ์ พาห์ล เจ้าหน้าที่เทศมนตรีโบลซาโน่ ได้ออกมาเปิดเผยว่า สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขผู้รักความถูกต้องของชาวคาทอลิก ทรงส่งจดหมายประณามการจัดแสดงรูปปั้นแกะสลักสุดอัปปรีย์นี้แล้ว โดยเนื้อหาภายในนั้น พระองค์ทรงเขียนขึ้นด้วยความกริ้วอย่างแท้จริง
"พระสันตะปาปาส่งจดหมายมาหาผม เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา พระองค์ให้กำลังใจพวกเราที่พยายามทำทุกทาง เพื่อถอดถอนงานอัปลักษณ์นี้ออกไป ขณะเดียวกัน พระองค์ทรงโกรธและเจ็บปวดมากที่มีคนนำไม้กางเขนเครื่องหมายแห่งความรักของพระเจ้าและยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความรอด มาล้อเลียนแบบไม่ห่วงใยความรู้สึกของศาสนิกชน" พาห์ล กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ทางด้านคณะผู้บริหารพิพิธภัณฑ์ก็ได้เรียกประชุมด่วน หลังมีผู้ชุมนุมมารวมตัวประท้วงอย่างหนัก กระนั้น ก็ยังยืนกรานจะคงปฏิมากรรมชิ้นนี้ไว้ต่อไป "ผลงานของ มาร์ติน คิปเปนแบร์เกอร์ จิตรกรชาวเยอรมันผู้ล่วงลับ จะได้รับการคงไว้ต่อไป นี่เป็นงานศิลปะ ดังนั้น เราควรมองด้วยเหตุผลทางศิลปะล้วนๆ"
ก่อนหน้านี้ พระสังฆราช วิลเฮล์ม เอ็กเกอร์ ประมุขผู้ล่วงลับแห่งสังฆมณฑลโบลซาโน่และเบรสซาโนเน่ เคยทำจดหมายมาร้องเรียนแล้ว เนื่องจากพื้นที่นี้ อยู่ในความรับผิดชอบของท่าน แต่ทว่า ผู้บริหารพิพิธภัณฑ์ก็ทำเฉยชา ไม่ตอบสนองคำขอร้องให้ถอดปฏิกรรมชิ้นนี้ออกแต่อย่างใด
โป๊ปสุดกริ้ว!! ส่งจดหมายประณามรูปกบถูกตรึงกางเขน
สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก อัดยับ รูปแกะสลักกบถูกตรึงกางเขน เป็นปฏิมากรรมทำร้ายความรู้สึกของคริสตชนแบบสุดๆ ชี้ชัด ไม้กางเขนเป็นเครื่องหมายแห่งความรักของพระเจ้าและเป็นสัญลักษณ์แห่งความรอด ไม่สมควรนำมาล้อเลียนเด็ดขาด ด้านผู้บริหารพิพิธภัณฑ์ยังหน้าทน บอกจะไม่ถอดรูปเก็บแน่นอน
หลังจากที่พิพิธภัณฑ์ในเมืองโบลซาโน่ ประเทศอิตาลี ได้จัดแสดงปฏิมากรรมงานแกะสลักของเหล่าจิตรกรชื่อดัง หนึ่งในนั้น มีรูปกบถูกตรึงกางเขน โดยมือข้างขวา ถูกตรึงพร้อมกระป๋องเบียร์ มือซ้ายตรึงพร้อมไข่ไก่ ขณะที่ดวงตาของมัน ถลนออกนอกเบ้า พร้อมกับแลบลิ้นยาวแบบน่าสมเพช งานแกะสลักชิ้นนี้ ได้ก่อให้เกิดการประท้วงอย่างหนักในอิตาลี เนื่องจากเป็นการล้อเลียนพระเยซูอย่างชัดเจน
ล่าสุด ฟร้านซ์ พาห์ล เจ้าหน้าที่เทศมนตรีโบลซาโน่ ได้ออกมาเปิดเผยว่า สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขผู้รักความถูกต้องของชาวคาทอลิก ทรงส่งจดหมายประณามการจัดแสดงรูปปั้นแกะสลักสุดอัปปรีย์นี้แล้ว โดยเนื้อหาภายในนั้น พระองค์ทรงเขียนขึ้นด้วยความกริ้วอย่างแท้จริง
"พระสันตะปาปาส่งจดหมายมาหาผม เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา พระองค์ให้กำลังใจพวกเราที่พยายามทำทุกทาง เพื่อถอดถอนงานอัปลักษณ์นี้ออกไป ขณะเดียวกัน พระองค์ทรงโกรธและเจ็บปวดมากที่มีคนนำไม้กางเขนเครื่องหมายแห่งความรักของพระเจ้าและยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความรอด มาล้อเลียนแบบไม่ห่วงใยความรู้สึกของศาสนิกชน" พาห์ล กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ทางด้านคณะผู้บริหารพิพิธภัณฑ์ก็ได้เรียกประชุมด่วน หลังมีผู้ชุมนุมมารวมตัวประท้วงอย่างหนัก กระนั้น ก็ยังยืนกรานจะคงปฏิมากรรมชิ้นนี้ไว้ต่อไป "ผลงานของ มาร์ติน คิปเปนแบร์เกอร์ จิตรกรชาวเยอรมันผู้ล่วงลับ จะได้รับการคงไว้ต่อไป นี่เป็นงานศิลปะ ดังนั้น เราควรมองด้วยเหตุผลทางศิลปะล้วนๆ"
ก่อนหน้านี้ พระสังฆราช วิลเฮล์ม เอ็กเกอร์ ประมุขผู้ล่วงลับแห่งสังฆมณฑลโบลซาโน่และเบรสซาโนเน่ เคยทำจดหมายมาร้องเรียนแล้ว เนื่องจากพื้นที่นี้ อยู่ในความรับผิดชอบของท่าน แต่ทว่า ผู้บริหารพิพิธภัณฑ์ก็ทำเฉยชา ไม่ตอบสนองคำขอร้องให้ถอดปฏิกรรมชิ้นนี้ออกแต่อย่างใด
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
สื่อความสมองน้อยของจิตรกร
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
เฮ้อออออ น่าเผามันทั้งพิพิธภัณฑ์
(กำลังอารมณ์ร้อนต้องขออภัยป
(กำลังอารมณ์ร้อนต้องขออภัยป
ให้เครดิตที่มานิดนึงครับ
http://catholicworldtour.spaces.live.com/blog/cns!EA91C1C5E2FBFD4F!3065.entry
http://catholicworldtour.spaces.live.com/blog/cns!EA91C1C5E2FBFD4F!3065.entry
(ในที่สุด ก็รู้แล้วว่า ศิลปินที่เขาสร้างงานชิ้นนี้ เขาจะสื่ออะไร)
The 1990 wooden sculpture shows the crucified frog nailed through the feet and hands like Jesus Christ. The frog, eyes popping and tongue sticking out, wears a loincloth and holds a mug of beer and an egg in its hands.
The museum said the 3-foot (1-meter) -tall sculpture has nothing to do with religion, but is an ironic self-portrait of the artist and an expression of his angst.
"With humor and a tragicomic sense, which belongs to art since the times of Greek tragedy, Kippenberger ... faces his condition of suffering, which he expresses in many works, also, for example, in a video in which he crucifies himself," the museum said in a statement.
(ป.ล. Kippenberger นี่คือชื่อเจ้าของผลงานชาวเยอรมัน เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1997 แล้วค่ะ)
อันนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของข่าว สามารถไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://news.yahoo.com/s/ap/20080828/ap_ ... ified_frog
แต่ถึงจะรู้เหตุผลที่เขาจะสื่องานชิ้นนี้ ก็รับไม่ได้อยู่ดี...
เมื่อกี้ไปเห็นรูปมาแล้วด้วย น่าเกลียดมาก!!!!!!!!!!!!!
ให้ตายเถอะ...
The 1990 wooden sculpture shows the crucified frog nailed through the feet and hands like Jesus Christ. The frog, eyes popping and tongue sticking out, wears a loincloth and holds a mug of beer and an egg in its hands.
The museum said the 3-foot (1-meter) -tall sculpture has nothing to do with religion, but is an ironic self-portrait of the artist and an expression of his angst.
"With humor and a tragicomic sense, which belongs to art since the times of Greek tragedy, Kippenberger ... faces his condition of suffering, which he expresses in many works, also, for example, in a video in which he crucifies himself," the museum said in a statement.
(ป.ล. Kippenberger นี่คือชื่อเจ้าของผลงานชาวเยอรมัน เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1997 แล้วค่ะ)
อันนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของข่าว สามารถไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://news.yahoo.com/s/ap/20080828/ap_ ... ified_frog
แต่ถึงจะรู้เหตุผลที่เขาจะสื่องานชิ้นนี้ ก็รับไม่ได้อยู่ดี...
เมื่อกี้ไปเห็นรูปมาแล้วด้วย น่าเกลียดมาก!!!!!!!!!!!!!
ให้ตายเถอะ...
แก้ไขล่าสุดโดย Viridian เมื่อ ศุกร์ ส.ค. 29, 2008 5:01 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Holy เขียน: ให้เครดิตที่มานิดนึงครับ
http://catholicworldtour.spaces.live.com/blog/cns!EA91C1C5E2FBFD4F!3065.entry
ขอบคุณครับพี่
ถ้าให้มองตามศิลปะแล้ว ... ไม่สวยเลยนะ (แถมมีความหมายไม่ดี และความสบายใจอีกด้วย)
ถ้าให้ความหมายถึงศิลปะที่ดีแล้ว ต้องเป็นงานที่จรรโลงใจ มีการสร้างสรรค์ที่ดี มีประโยชน์ ให้แง่คิดและเป็นความดีงาม ทำให้ผู้ชมมีความสบายใจ
และมีคุณค่าในตัวของมันเอง ... อย่างนี้ถึงเรียกว่าศิลปะที่ดีที่แท้จริง
ถ้าให้ความหมายถึงศิลปะที่ดีแล้ว ต้องเป็นงานที่จรรโลงใจ มีการสร้างสรรค์ที่ดี มีประโยชน์ ให้แง่คิดและเป็นความดีงาม ทำให้ผู้ชมมีความสบายใจ
และมีคุณค่าในตัวของมันเอง ... อย่างนี้ถึงเรียกว่าศิลปะที่ดีที่แท้จริง
งานทางศีลปะย้อมมีความหมายในตนเอง เราโกรธเมื่อเห็รในอดีตมีคนเคยนำพระพุทธรูปมาทำงานศีลหรือทำอนาจารเช่นกัน
สัญลักษณ์ทางศาสนาจึงควรงดเว้น ไม่นำมาทำเป็นปฎิมากรรมไม่ว่าของศาสนาอะไรทุกศาสนาของใครคนนั้นก็รัก
เพราะคนในสังคมที่ขาดอารมณ์ทางศีลปะก็มีนะ และศีลปะก็ตีความได้หลายแนว จึงเป็นการเสี่ยงที่จะทำโดยส่วนตัวได้โกรธแต่ก็ไม่เห็นด้วย
สัญลักษณ์ทางศาสนาจึงควรงดเว้น ไม่นำมาทำเป็นปฎิมากรรมไม่ว่าของศาสนาอะไรทุกศาสนาของใครคนนั้นก็รัก
เพราะคนในสังคมที่ขาดอารมณ์ทางศีลปะก็มีนะ และศีลปะก็ตีความได้หลายแนว จึงเป็นการเสี่ยงที่จะทำโดยส่วนตัวได้โกรธแต่ก็ไม่เห็นด้วย
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
แย่มากครับ 

- reccanohono
- โพสต์: 1045
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
- ที่อยู่: thailand
ผลงานไม่มีอะไรให้น่าชื่นชมเลย



-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
นี่ถ้าเป็นอิสลามคงโดนเผาไปแล้วครับ :cheesy:
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi

ปล.จริงๆ อยากเข้ามาด่า แต่ด่าไปก็เท่านั้น มันคงไม่ได้ยิน

Jeab Agape เขียน:
นี่ถ้าเป็นอิสลามคงโดนเผาไปแล้วครับ :cheesy:
นั้นสิครับ ที่อิสลามไม่เห็นใครกล้าแตะต้องเลย
แต่ผมมองว่า นี้คือสิ่งบ่งบอกถึงความเชื่อและความศรัทธาต่อคาทอลิกและพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศตะวันตกนะครับ ในเมื่อคนมันไม่เคารพ และไม่เชื่อ ดังนั้นมันจึงไม่เกรงใจไงครับ ตอบง่ายๆ
แสดงว่าหัวใจฝรั่ง เป็นหัวใจที่เย็นชา ไร้ศรัทธา และถ่อยสถุทครับ ตัวเองได้เกิดในประเทศที่สังคม และวัฒนธรรม เอื้อให้เสริมศรัทธาได้ทุกอย่างเกี่ยวพระเยชูเจ้า(ขนาดคนไทยพุทธ บางคนว่าเลวๆชั่ว มันยังมีความกลัวบาปกลัวกรรม ยังมีความเคารพพระ และประมุขในศาสนาเขาบ้าง) แต่ฝรั่งทำแบบนี้ได้ แสดงว่าใจถ่อยสถุทสุดสุดครับ ไร้ศรัทธา ไร้เมตตา และไร้ความรักครับ
หากผ่าอกฝรั่งออกมาได้ ของเหลวในหัวใจมันคงเป็นน้ำหมึกสีดำแน่ๆเลย พวกมันถึงเป็นคนแบบนี้กัน(ขนาดในวัดคาทอลิกมันยังเหยียดผิวเลย แสดงว่าในหัวใจมัน มีแต่น้ำแข็งและน้ำหมึกสีดำหมุนเวียนอยู่ หาได้มีเลือดมีเนื้อ และมีความรักแบบพระเยชูเจ้าสอนไม่)
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ปล.ฝรั่งเลวร้ายกว่าแขก สถุทที่สุดในบรรดาทุกเผ่าพันธ์ในโลกนี้ รวมทั้งเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ ขนาดคนเข้าวัด มันยังไร้น้ำใจเลย บ่งบอกถึงความเป็นอสรพิษของมันจริงๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Pry-Kaew เมื่อ เสาร์ ส.ค. 30, 2008 9:36 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
คิดไปคิดมา บวกกับประสบการณ์ที่เคยอยู่ประเทศฝรั่ง และเจอฝรั่งทีคิดว่าวัดคาทอลิกคือที่สำหรับฝรั่งเท่านั้น(ผมเจอแบบนี้มา4ปี เก้าเดือน ของทุกมิซซาวันอาทิตย์ แต่พวกมันก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยจริงๆ) บวกกับเรื่องกบตายบนไม้กางเขน จนโป๊ปปรอทแตก เลยสรุปว่า
1.ฝรั่งเป็นชนชาติที่หัวใจมีแต่น้ำแข็ง และระบบไหลเวียนในหัวใจนั้น คือน้ำหมึกสีดำที่ไหลเวียน หาใช่เลือดไม่ในหัวใจเขา เพราะความเย็นชาและไร้ความรักความเมตตา คือสิ่งบ่งบอก แม้นกระทั่งในวัดคาทอลิกก็ตาม
2.ฝรั่งคือชนชาติที่คิดว่าตัวเองฉลาดที่สุด เก่งที่สุด คนอื่นโง่หมด กระจอกหมด(แถมฝรั่งมองว่าตนเองคือ Superior คนอื่นคือMinority หรือ Animal)และที่น่าแปลก ในวัดคาทอลิก ที่ที่เป็นที่ประทับของพระเยชูเจ้า กับเห็นการแสดงออกในเรื่องนี้ มากกว่าสังคมทั่วๆไปอีก สงสัยว่าหัวใจของอเมริกันคาทอลิก คงมีแต่น้ำพิษของงูเห่า ผสมน้ำพิษงูจงอาง เป็นของเหลวที่หมุนเวียนอยุ่ในระบบหัวใจแน่นอน มันถึงได้ใจร้ายและเย็นชา แถมด้วยอีโกสูงขนาดนี้ ทั้งๆที่ก็อยู่ใกล้พระมากกว่าคนอเมริกัน ที่ไม่เชื่อพระเจ้า *******(ปี๊บบบบบบบบบบบบบบบบ ระบบเซนเซอร์ค่ะ)!!!!!!!!!
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
1.ฝรั่งเป็นชนชาติที่หัวใจมีแต่น้ำแข็ง และระบบไหลเวียนในหัวใจนั้น คือน้ำหมึกสีดำที่ไหลเวียน หาใช่เลือดไม่ในหัวใจเขา เพราะความเย็นชาและไร้ความรักความเมตตา คือสิ่งบ่งบอก แม้นกระทั่งในวัดคาทอลิกก็ตาม
2.ฝรั่งคือชนชาติที่คิดว่าตัวเองฉลาดที่สุด เก่งที่สุด คนอื่นโง่หมด กระจอกหมด(แถมฝรั่งมองว่าตนเองคือ Superior คนอื่นคือMinority หรือ Animal)และที่น่าแปลก ในวัดคาทอลิก ที่ที่เป็นที่ประทับของพระเยชูเจ้า กับเห็นการแสดงออกในเรื่องนี้ มากกว่าสังคมทั่วๆไปอีก สงสัยว่าหัวใจของอเมริกันคาทอลิก คงมีแต่น้ำพิษของงูเห่า ผสมน้ำพิษงูจงอาง เป็นของเหลวที่หมุนเวียนอยุ่ในระบบหัวใจแน่นอน มันถึงได้ใจร้ายและเย็นชา แถมด้วยอีโกสูงขนาดนี้ ทั้งๆที่ก็อยู่ใกล้พระมากกว่าคนอเมริกัน ที่ไม่เชื่อพระเจ้า *******(ปี๊บบบบบบบบบบบบบบบบ ระบบเซนเซอร์ค่ะ)!!!!!!!!!
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ก.ย. 01, 2008 1:39 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- thanachard
- โพสต์: 134
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 30, 2007 3:00 pm
- ที่อยู่: ฺBangkok, Thailand
พี่พรายแก้วครับ ผมว่าอย่าด่าเหมารวมหมดซิครับPry-Kaew เขียน: ..................
1.ฝรั่งเป็นชนชาติที่หัวใจมีแต่น้ำแข็ง และระบบไหลเวียนในหัวใจนั้น คือน้ำหมึกสีดำที่ไหลเวียน หาใช่เลือดไม่ในหัวใจเขา เพราะความเย็นชาและไร้ความรักความเมตตา คือสิ่งบ่งบอก แม้นกระทั่งในวัดคาทอลิกก็ตาม
2.ฝรั่งคือชนชาติที่คิดว่าตัวเองฉลาดที่สุด เก่งที่สุด คนอื่นโง่หมด กระจอกหมด(แถมฝรั่งมองว่าตนเองคือ Superior คนอื่นคือMinority หรือ Animal)
.................
เหมือนกับที่ พธม.ที่ภูเก็ต ปิดสนามบิน คนต่างชาติก็เหมาว่าเป็นชาวภูเก็ตทั้งหมด
ซึ่งผมว่ามันไม่ถูกต้องเลย เพราะเป็นเพียงแค่การกระทำของคนกลุ่มเดียวเท่านั้น
ผมว่าคนที่ดีๆ ก็ยังมี แต่จะมีมากหรือมีน้อย นั่นเป็นอีกเรื่อง
ส่วนถ้าพวกเขาจะมองคนไทยเป็นสัตว์ชั้นต่ำอย่างไรก็ตาม เราไม่ควรสนใจ
ยิ่งสนใจมาก ยิ่งทำให้ใจเราปวดมากขึ้น จนทำให้ใจเราหักเหออกจากทางของพระองค์ได้
ส่วนเรื่องกบบนไม้กางเขงนี้ ผมไม่เห็นด้วยเลยครับ
ยิ่งตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ในอิตาลีซึ่งอยู่ใกล้กรุงโรมแล้ว ยิ่งไม่สมควรครับ
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจจะสะท้อนถึงความเป็นประชาธิปไตยของอิตาลีก็ได้ ว่าแต่ละคนมีอิสระ เสรีภาพ
แต่ผมคิดว่าความอิสระนั้นก็ย่อมมีขอบเขต มีกฎ ไม่ใช่ว่าทำอะไรก็ได้ไปซะหมด
ป.ล.ผมไม่ใช่คาทอลิก ถ้าความคิดเห็นของผมขัดแย้งอย่างไรต้องขออภัยด้วยครับ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi


-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
มันอาจจะดีในทางที่ผู้คนได้รู้จักพระเจ้าครับ:+: seraphim :+: เขียน:สังเกตมะทุกครั้งที่มีเรื่องราวแบบนี้ พระเจ้าของเราก็จะเป็นที่รู้จักมากมายยิ่งขึ้น
ปล.จริงๆ อยากเข้ามาด่า แต่ด่าไปก็เท่านั้น มันคงไม่ได้ยิน![]()
และมันอาจไม่ดีตรงที่เขาไม่เข้าใจพระเจ้าอย่างถูกต้องครับ
ถึงผมจะยังไม่ค่อยรู้เรื่องพระเจ้ามาก แต่รู้ว่าพระเจ้ารักเรา เราควรมีความเชื่อ ก็น่าเพียงพอแล้วเพราะอื่นๆมันจะตามมาเอง

-
- โพสต์: 363
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 12, 2008 10:21 pm
- ที่อยู่: World
เอ่อ - -"
เจ้าของพิพิธพัน เค้าไม่ใช่ คริสต์หรอครับ -*-
ทำไปได้
เจ้าของพิพิธพัน เค้าไม่ใช่ คริสต์หรอครับ -*-
ทำไปได้
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
พี่แก้ว ใจเย็น ๆ ค่ะ
จิงก็ไปอเมริกามา ได้เจอฝรั่งที่ยังมีความศรัทธา และรักพระ
อดอาหาร พลีกรรม และให้การต้อนรับขับสู้เราอย่างดี และมีน้ำใจ
พี่แก้วอาจจะไปอยุ่ในถิ่นฝรั่งเหยียดผิวมา เลยมีทัศนะคติแบบนี้
แต่จิงก็ไปอเมริกามา และ เจอฝรั่งน่ารัก และ ศรัทธาอยู่
ถ้าจะพูดถึงการเหยียดชาติ ไร้น้ำใจ เห้นแก่ตัวเนี่ย
มันก็มีมันทุกชาติ และ ทุกยุคสมัยแหละค่ะพี่
แม้แต่ชาติไทยเราตอนนี้ ก็จะตีกันตายอยู่แล้ว
แทนที่พี่แก้วจะโกรธแค้น อารมณ์พุ่งแบบนี้ หันมาสวดให้เขาเถอะค่ะ
พี่แก้ว...ขอให้ตอบด้วยความรักนะคะ
จิงก็ไปอเมริกามา ได้เจอฝรั่งที่ยังมีความศรัทธา และรักพระ
อดอาหาร พลีกรรม และให้การต้อนรับขับสู้เราอย่างดี และมีน้ำใจ
พี่แก้วอาจจะไปอยุ่ในถิ่นฝรั่งเหยียดผิวมา เลยมีทัศนะคติแบบนี้
แต่จิงก็ไปอเมริกามา และ เจอฝรั่งน่ารัก และ ศรัทธาอยู่
ถ้าจะพูดถึงการเหยียดชาติ ไร้น้ำใจ เห้นแก่ตัวเนี่ย
มันก็มีมันทุกชาติ และ ทุกยุคสมัยแหละค่ะพี่
แม้แต่ชาติไทยเราตอนนี้ ก็จะตีกันตายอยู่แล้ว
แทนที่พี่แก้วจะโกรธแค้น อารมณ์พุ่งแบบนี้ หันมาสวดให้เขาเถอะค่ะ
พี่แก้ว...ขอให้ตอบด้วยความรักนะคะ

แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ก.ย. 01, 2008 11:35 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.