อยากให้เพื่อน ๆ อ่านนะครับ พอดีได้อ่านจาก pantip.com ชอบมาก ๆ
ความคิดเห็นที่ 28
คือการทดลองของCERN ที่นำโปรตรอนมาวิ่งชนกันน่ะ มันจำลองการเกิดเหตุการ BIG BANG แบบย่อยๆ
ว่าจักรวาลนี้มันเกิดจากการระเบิดของอนุภาค
แล้วทีนี้มันก็ขัดกันกับความเชื่อที่บอกว่าพระเจ้าสร้างโลกไง
ถ้าพระเจ้าสร้างโลกมาจริง ก็ต้องสร้างให้มันเสร็จเรยทีเดียว
จะทำให้มันระเบิด ให้มันร้อนตั้งนานเป็นล้านๆปีทำไม จริงป่ะ
......................................
ตอบข้อหลังก่อนน่ะครับ ว่า ที่ว่า ถ้าพระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างจริง
ทำไม ไม่สร้างให้เสร็จทีเดียวเลย จริงไหม ทำไมต้องรอ
ก็ต้องตอบว่า ไม่จริง
แม้แต่ในพระคัมภีร์ก็ได้พูดชัดว่า การทรงสร้างนั้นใช้ระยะเวลา
ทั้งหมด 7 วัน ซึ่งวันในที่นี้ ก็ยังตีความไม่ได้ด้วยว่า หมายถึง
วันตามแบบเวลาของเรา หรือ วันเพื่อเป็นการแสดงภาพ เพราะ ..
เปโตร ผู้เป็นอัครสาวกของพระเยซูคริสต์ เคยกล่าวว่า
วันหนึ่งของพระเจ้าก็ยาวนานเหมือนพันวันของมนุษย์
และในปฐมกาลได้ล่าวว่า ในวันที่ 7 พระเจ้าทรงหยุดพักจากการทรงสร้าง
และตั้งให้เป็นวันสะบาโต แต่ .. พระคัมภีร์ไม่ได้บอกว่ามีวันที่ 8 หรือ
ไม่ได้บอกว่า พระเจ้าทรงหยุดจากการพักเมื่อไหร่ แม้แต่น้อย
หากนี่ยังคงเป็นวันที่ 7 คือ วันแห่งการหยุดพักจากการทรงสร้างของพระเจ้า
นั่น แปลว่า วันที่ 7 ของพระองค์ ยาวนานมากกว่า 5 พันปี นับแต่ยุคของโมเสส ผู้เป็นผู้บันทึกการทรงสร้างของพระเจ้า และ ยาวนานกว่า 6 พันปี นับจากยุคของอับราฮับ และยาวนานกว่านั้น ถ้าจะนับแต่ยุคของอาดัม
ดังนั้นการบอกว่า วัน ในการสร้าง ย่อมยากที่จะแปลความว่า วัน
หมายถึง 1 วัน และ 1 คืน เพราะนั่นคือภาพลักษณ์ ที่ทำให้เราเข้าใจได้ว่า
การทรงสร้างแต่ละขั้นตอนนั้น มีวาระ มีช่วงระยะเวลา ที่สร้าง และ หยุดสร้าง
ส่วนเรื่องการทดลองต่าง ๆ
จะบอกว่าขัดแย้งกับความเชื่อเรื่องพระเจ้านั้น ย่อมเป็นข้อสรุปที่ง่ายเกินไป
พระคัมภีร์ไม่ได้ระบุว่าการเกิดของโลกเกิดอย่างไร ระบุเพียงว่า
เมื่อ พระเจ้าตรัส มันก็เกิดขึ้น ดังนั้น ย่อมไม่ได้หมายความว่า พระเจ้าสร้างโลก เหมือนที่เร้าสร้างบ้าน ดังนั้น ทุกวิธีการย่อมเป็นไปได้ เมื่อพระเจ้าทรงตรัส และ แน่นอน เป็นที่แน่ชัดว่า หากว่าพระเจ้าทรงสร้างทุกอย่างขึ้นในเวลาเดียวกันทันที ทำไม พระคัมภีร์จึงต้องระบุว่า ทรงสร้างสิ่งทั้งหมดถึง 6 วัน แปลว่า พระเจ้าทรงให้มีการพัก อยู่เสมอ ๆ ระหว่างการสร้าง
และการสร้างก็มีรูปแบบวิธีการที่ไม่มีผู้ใดบนโลกนี้เคยเห็น
ว่าพระเจ้าทรงสร้างอย่างไร พระเจ้าไม่ได้ค่อยๆ ใช้มือปั้นโลก
แต่ทรงใช้พระวาทะ ตรัส ดังนั้น เมื่อตรัสแล้วเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครรู้
ที่สำคัญ หากการเกิดของทฤษฏี Big Bang เป็นความจริง
นั่นย่อมมีข้อพิสูจน์อีกประการหนึ่งคือ การทำให้โปรตอนมาวิ่งชนกัน
ย่อมต้องมีบุคคลผู้ควบคุมให้เกิด เหมือนอย่างที่มนุษย์พยายามจำลอง
มนุษย์เป็นผู้ควบคุม และ หากเป็นความจริง ก็ต้องมีพระผู้ควบคุมการยิงในเวลานั้นเช่นกัน
การระเบิดที่รุนแรง ย่อมไม่ใช่เป็นจุดกำเนิดทั้งหมดของโลก
ก๊าซธรรมชาติต่างๆ น้ำ อากาศ สิ่งมีชีวิต องค์ประกอบอื่นๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องพูดถึงด้วย
และเป็นเรื่องที่น่าพิศวงเพียงใด ที่เราได้รู้ว่า
พระเจ้าทรงวางโลกนี้ในจุดที่ถูกต้องขนาดไหน
เพราะหากโลกเขยิบใกล้ดวงอาทิตย์กว่านี้อีกนิดเดียว ความร้อน และ รังสียูวี จะฆ่าทำลายสิ่งมีชีวิตทั้งหมดตายสิ้น
และเช่นเดียวกัน หากเขยิบออกกว่านี้อีกเพียงนิดเดียว ฤดูหนาวจะยาวนานขึ้น สิ่งมีชีวิตจะตายหมดเช่นกัน
คงเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ หากเราจะบอกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่มีการควบคุม
แต่เป็นไปโดยความบังเอิญ และ ยังคงบังเอิญจนทุกวันนี้
เพราะในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต ไม่มีการควบคุม มันย่อมมีโอกาส
ที่จะเป็น หรือ ไปอย่างไรก็ได้ ในเมื่อระบบสุริย เป็นไปโดยความบังเอิญ
แต่เราเชื่อว่าพระเจ้าทรงวางรากฐานของโลกนี้ไว้แล้ว
และพระเจ้าทรงควบคุม ดูแลทุกอย่าง อย่างเหมาะสม
สมกับที่พระองค์ได้ทรงตรัสเมื่อแรกเริ่มทรงสร้างโลกว่า
"ดียิ่งนัก"
จากคุณ : PLATTINUM - [ 10 ก.ย. 51 16:43:31 ]
อ้างอิง
http://www.pantip.com/cafe/religious/to ... 83764.html