Florian เขียน:
งานฉลองวัดอัครเทวดาราฟาแอล ปากน้ำ
ข้าพเจ้าไปร่วมฉลองวัดปากน้ำหลังจากที่ตั้งใจจะไม่ไปร่วมงานที่คนมืดฟ้ามัวดินที่ไหนอีก แต่ก้อดไม่ได้ที่จะต้องไปอีก เพราะเคยไปวัดปากน้ำแล้วประตูปิด เอามือแงะก็เปิดไม่ออก เลยดำริว่าต้องมาดูให้เห็นกับตาให้ได้ว่าข้างในหน้าตาเป็นอย่างไร ก็ได้เห็นสมใจนึกบางลำพู โดยครั้งนี้มีเลขานุการิณีติดตามข้าพเจ้าไปด้วยอีกสองนาง
ขออนุญาต เอาจากอีกกระทู้มาลงนะคะ

ว่าแต่ว่า เลขานุการิณี นี่ใครเหรอคะพี่ตั้ว
จากการที่ได้ไปฉลองวัดในครั้งนี้ รู้สึกประทับใจมากจริงๆค่ะ

เพราะถือว่าเป็นการผจญภัยเล็กน้อย จนถึงปานกลางของข้าพเจ้าและพี่เท็นทศ

พอเราได้พบกันที่ท่าเรือ เราก็ออกมานั่งสามล้อถีบเจ้าค่า (ถ้าท่านพี่เท็นมิได้มาด้วย ข้าพเจ้าคงมิกล้านั่งรถถีบคนเดียวแน่ๆ

)
พอถึงปากซอยเข้าวัด ก็ต้องเกิดอาการ โอ้โห เล้กน้อย เนื่องจากท่านพี่เท็นได้ชี้ให้ดู ป้ายผ้าต่างที่แขวนอยู่ด้านบน
แจ้งว่าตรงไหนสำหรับที่จอดรถของพระสงฆ์ ช่างอลังการยิ่งนัก
พอเข้ามา เราก็เลี้ยวซ้ายเข้ามาที่ส่วนของโรงเรียนกันก่อน ก็ต้องแปลกใจอีกครั้ง
เพราะมีการเลี้ยงอาหารรอบเช้าด้วย มีข้าวต้มปลากระพง (แต่ตอนช้าพเจ้าไปขอ ปลาหมด

เลยเอาข้าวกับน้ำซุปพอ น้ำซุปอร่อยมากค่า

)
แล้วก็มีร้านค้ามากมาย ข้าพเจ้าเลยได้แผ่นเพลงมา 2แผ่น ส่วนพี่เท็นทศเรานั้น ได้ไม้กางเขนมา
ซึ่งเจ้าของร้านยืนยันแล้วว่า เหงื่อ(เกลือ)ไม่กัด โดนน้ำก็ไม่ลอก
และแล้วรถท่านพระคาร์ดินัลก็มาถึง มีวงโยฯเล่นดนตรีต้อนรับท่านด้วยค่ะ เราสองศรีพี่น้องก็เลย ได้ยืนชมและฟังเพลงด้วย

แล้วเราทั้งสองก็รีบกลับไปที่ที่นั่งในวัดค่ะ และพิธีก็เริ่ม ในวัดสวยมากค่ะ มีการออกแบบที่แปลกตา และที่พี่สาวข้าพเจ้าสังเกตได้คือ
ตู้ศีลมหาสนิทค่ะ เป็นแบบที่แปลกตา แต่ก็สวยมากค่ะ

(ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ชม เนื่องจากกล้องมือถือข้าพเจ้ามิสามารถซูมถึงค่า )
เมื่อเสร็จพิธี เราทั้งสองก็ออกมาแห่อัครเทวดาราฟาแอลค่ะ โดยทิ้งพี่ตั้วไว้ในวัด (เนื่องจากพี่ตั้วท่านไม่ชอบคนเยอะค่ะ)
แดดแรงมากค่ะ แต่เราก็ไม่หวั่น ร่วมขบวนแห่ไปด้วย

ถึงแม้ว่าพอกลับมาแล้ว แขนจะเป็นรอยขอบก็ตาม
หลังจากเสร็จพิธีเรียบร้อย ก็มาถึงช่วงสำคัญ (เอ๊ะ ยังไง

) นั่นคือรับประทานอาหารค่า
พี่เท็นทศสาวสวยบอบบางของเรา ทานไปแค่ขนมหวานรวมมิตรถ้วยเดียวเท่านั้น เนื่องจากร้อนมากจนทานไรไม่ลง

แต่ข้าพเจ้านั้น พุงป่องเจ้าค่า

อาหารมากมายหลายชนิดมากค่ะ อิ่มเลย
ขากลับตั้งใจว่าจะแวะเที่ยวเมืองโบราณ กับพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ แต่เนื่องจากแดดอันร้อนระอุ จนแทบจะละลายกันแล้ว
จึงต้องยกเลิกไปโดยปริยาย แต่เราก็ยังร่วมลุยต่อ โดยการนั่งรถแท๊กซี่ค่า เย็นๆ ไว้ก่อน ไม่ไหวแล้วร้อน

มุ่งหน้าไปวัดราชินีแห่งสันติสุขแทนค่ะ ขณะที่ไปถึงนั้น วัดเงียบมากค่ะ (ก็วันหยุดนี่เนอะ

)
แต่พระใจดีมากค่ะ ที่ได้ส่งคุณลุงใจดี (คิดว่าท่านคงเป็นคนดูแลวัด) ได้มาเปิดประตูวัดให้ค่ะ

วัดสวยมาก อย่างที่ถ่ายรูปมาให้ชม แสงแดดส่องใส่กระจกสีฟ้า ทำให้วัดดูโรแมนติคมากเลยค่ะ
คิดว่า ถ้าทำพิธีตอนกลางคืน คงสวยมากแน่ๆ
พี่น้องท่านใด เคยไปวัดไหนกันมาบ้าง อย่าลืมมาแบ่งปันกันบ้างนะคะ
เผื่อข้าพเจ้าจะได้ลองไปผจญภัยดูบ้าง
ขอพระอวยพรค่า
