วิธีสวดสายประคำแม่พระมหาทุกข์ 7 ประการ
เริ่มต้นที่กางเขนให้สวด:
+ เชิญเสด็จมาพระจิตเจ้าข้าฯ
+ ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า
+ ข้าแต่พระบิดา + วันทามารีอา 3 บท + สิริพึงมี
*** รำพึงทีละข้อ (ตั้งแต่ข้อที่ 1-7)
*** จบข้อรำพึงแต่ละข้อให้สวด:
+ พระมารดามหาทุกข์ ช่วยวิงวอนเทอญ
+ ข้าแต่พระบิดา + วันทามารีอา 7 บท + สิริพึงมี
บทรำพึงสายประคำ “แม่พระมหาทุกข์ ”
บทภาวนาเปิดการรำพึง
ใน มหาทุกข์ของพระนางพรหมจารีมารีอา เราเห็นภาพสะท้อนของความทรมาน และความทุกข์อันขมขื่นของพระคริสตเจ้าในส่วนที่เป็นมนุษย์ ดังเช่นพระนางมารีอาได้ยอมรับรหัสธรรมของพระคริสตเจ้าทั้งหมดเข้าสู่ชีวิต ของพระนาง
ให้เรามองเห็นการร่วมมีส่วนที่เลือนราง แต่เป็นการมีส่วนอย่างแท้จริงในมหาทรมานและการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ในเมื่อเราต้องการรับความเศร้าโศก มีความกลัว การถูกสบประมาท และความอับอายต่าง ๆ โดยระลึกเสมอว่า ถ้าเราปรารถนาจะติดตามพระองค์ เราต้องรับแบกไม้กางเขนทุกๆ วัน
เราจงสวดภาวนาเพื่อให้เรายอมรับกระแสเรียกของพระคริสตเจ้า และกลายเป็นผู้ร่วมทุกข์ทรมานกับพระมหาทรมานของพระองค์
มหาทุกข์ประการที่ 1 คำทำนายของผู้เฒ่าซีเมออน
“แล้ว ผู้เฒ่าซิเมออนได้อวยพรเขาทั้งหลาย และพูดกับพระนางมารีอาพระมารดาของพระองค์ว่า พระกุมารนี้ทรงบังเกิดมาเพื่อความพินาศและความรอดของคนเป็นจำนวนมากใน อิสราเอล พระองค์จะเป็นสัญลักษณ์แห่งการขัดแย้ง ดาบปลายแหลมจะทิ่มแทงดวงพระวิญญาณของพระนาง และดวงใจมากมายจะได้รับการดลใจ” (ลก.2:34-35)
รำพึง: ลูกมองเห็นภาพสีหน้าของแม่ที่วิตกกังวลอยู่ในใจกับคำทำนายของผู้เฒ่าซีเมออน นับแต่นี้ต่อไปแม่จะต้องเตรียมจิตใจให้พร้อมอยู่เสมอที่จะร่วมทุกข์กับพระ เยซูเจ้า เพราะแม่ได้ล่วงรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพระกุมารมาตั้งแต่ต้น เวลาที่แม่มีโอกาสจะได้ดูแลใกล้ชิดกับพระองค์นั้นช่างสั้นเหลือเกิน ไม่มีแม่คนไหนจะเป็นสุขได้เมื่อรู้ถึงกำหนดชะตาอันแสนเจ็บปวดของลูกที่รัก ยิ่งแห่งตน
โปรดนิ่งเงียบสักครู่หนึ่งเพื่อพิจาณาตามข้อรำพึงนั้น และฟังเสียงของแม่ในหัวใจของเรา
พระมารดามหาทุกข์ ช่วยวิงวอนเทอญ
(ข้าแต่พระบิดา + วันทามารีอา 7 บท + สิริพึงมี)
มหาทุกข์ประการที่ 2 การหลบหนีไปประเทศอียิปต์
“หลัง จากพระยาสามองค์ได้เดินทางกลับไปแล้ว เทวทูตของพระเจ้าได้ปรากฏกายแก่นักบุญยอเซฟในฝันและพูดว่า “จงลุกขึ้นรีบพาพระกุมารและพระมารดาของพระองค์เข้าไปในดินแดนอียิปต์ และอยู่ที่นั่นจนกว่าข้าพเจ้าจะมาส่งข่าวให้ท่าน เพราะเฮรอดกำลังตามฆ่าพระองค์” นักบุญยอเซฟได้ลุกขึ้นรีบพาพระกุมารและพระมารดาของพระองค์เข้าอียิปต์ในเวลา กลางคืน พระองค์ได้ประทับอยู่ที่นั่นจนเฮรอดหมดลมหายใจ” (มธ.2:13-14)
รำพึง: ลูกมองเห็นภาพของแม่ที่กำลังว้าวุ่นใจ เมื่อรู้ว่าภัยอันใหญ่หลวงกำลังใกล้เข้ามาถึงพระกุมารแล้ว แม่คิดอยู่เพียงสิ่งเดียวคือรีบพาพระกุมารออกไปให้พ้นจากที่นั่นให้เร็วที่ สุด ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จะเป็นเวลาอะไรก็ไม่สำคัญ จะลำบากแค่ไหนแม่ก็ทนได้ เพียงเพื่อความปลอดภัยของพระกุมารเท่านั้น และในที่สุดแม่ได้มอบความไว้วางใจทั้งหมดให้อยู่ในอ้อมพระหัตถ์ของพระบิดา เจ้าสวรรค์ตลอดการเดินทาง
โปรดนิ่งเงียบสักครู่หนึ่งเพื่อพิจาณาตามข้อรำพึงนั้น และฟังเสียงของแม่ในหัวใจของเรา
พระมารดามหาทุกข์ ช่วยวิงวอนเทอญ
(ข้าแต่พระบิดา + วันทามารีอา 7 บท + สิริพึงมี)
มหาทุกข์ประการที่ 3 การหายไปของพระเยซูเจ้าในพระวิหาร
“เมื่อ ศาสนกิจเสร็จเรียบร้อย เขาทั้งหลายได้กลับบ้าน และเด็กน้อยเยซูยังอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม บิดามารดาของพระองค์ไม่ทราบเรื่องนี้เลย คิดว่าพระองค์ทรงอยู่กับเพื่อนๆ ที่มาด้วยกัน ท่านทั้งสองได้ออกเดินทางเป็นเวลาหนึ่งวัน และเที่ยวเสาะหาพระองค์ในหมู่ญาติและคนรู้จัก เมื่อไม่พบพระองค์ท่าน ก็กลับเยรูซาเล็มเพื่อตามหาพระองค์” (ลก.2:43-45)
รำพึง: ลูกมองเห็นความวุ่นวายใจของแม่ที่ตามหาพระกุมาร ถามคนนั้นทีถามคนนี้ที มีแต่คนส่ายหน้า และไม่มีใครสักคนเลยที่บอกได้ว่าตอนนี้พระกุมารอยู่ที่ไหน ความเจ็บแปลบได้แล่นอยู่ในอก เมื่อแม่ได้ยอมจำนนว่าลูกหายไปไหนก็ไม่รู้ แต่ด้วยความเป็นแม่จึงยังคงหวังใจอย่างเข้าข้างตัวเองว่า อย่างน้อยพระกุมารก็คงจะยังอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม ถ้าไปตามที่นั่นคงจะเจอ ทำให้แม่ไม่สิ้นหวังและมีกำลังใจที่จะไปตามหาพระองค์ต่อไป
โปรดนิ่งเงียบสักครู่หนึ่งเพื่อพิจาณาตามข้อรำพึงนั้น และฟังเสียงของแม่ในหัวใจของเรา
พระมารดามหาทุกข์ ช่วยวิงวอนเทอญ
(ข้าแต่พระบิดา + วันทามารีอา 7 บท + สิริพึงมี)
มหาทุกข์ประการที่ 4 พระนางมารีอาพบพระเยซูเจ้าบนมรรคามหาทุกข์
“และฝูงชนมากมายได้ติดตามพระองค์ รวมทั้งกลุ่มสตรีผู้เป็นทุกข์โศกเศร้าแลร้องไห้ที่ เห็นพระองค์ถูกทรมานไร้ความปรานี” (ลก. 23:27)
รำพึง: ลูกมองเห็นภาพของพระเยซูเจ้าถูกลากครูดไปตามพื้นถนนโดยมีกางเขนที่พระองค์ แบกไว้นั้นกดทับอยู่ ร่างกายของพระองค์มีแต่รอยบาดแผลฉีกขาด เลือดไหลท่วมตัว ผู้คนต่างส่งเสียงอย่างเกลียดชัง สาปแช่งพระองค์ และตะโกนบอกให้เอาไปประหาร แม่อยู่ที่นั่นมองเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง แม่เป็นทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส น้ำตาได้หลั่งไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย เพราะภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้านั้นคือพระบุตรสุดที่รักของแม่นั่นเอง โดยที่แม่ไม่สามารถที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้เมื่อเห็นลูกอยู่ในอันตราย ผู้ที่เป็นแม่ทั้งหลายคงจะเข้าใจถึงความรู้สึกนี้ดี เวลานั้นลูกรู้สึกเสียใจที่บาปของลูกทำให้พระเยซูเจ้าต้องทนทุกข์ทรมานขนาด นี้ และที่หนักที่สุดก็คือ ลูกได้ทำร้ายหัวใจของแม่ไปในเวลาเดียวกันนี้ด้วย ลูกขอโทษ
โปรดนิ่งเงียบสักครู่หนึ่งเพื่อพิจาณาตามข้อรำพึงนั้น และฟังเสียงของแม่ในหัวใจของเรา
พระมารดามหาทุกข์ ช่วยวิงวอนเทอญ
(ข้าแต่พระบิดา + วันทามารีอา 7 บท + สิริพึงมี)
มหาทุกข์ประการที่ 5 การตรึงพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน
“คน ใจร้ายได้ตรึงการเขนพระองค์ เมื่อพระเยซูคริสตเจ้าได้เห็นพระมารดาและอัครสาวก ที่รักยืนอยู่ใกล้ไม้กางเขนของพระองค์ พระองค์ตรัสกับพระนางมารีอาว่า “สตรีเอ๋ย นี่คือ ลูกของแม่” และกับนักบุญยอห์นว่า “นี่คือแม่ของท่าน” (ยน.19:25-27)
รำพึง: ลูกมองเห็นสายตาที่เหม่อลอยว่างเปล่าของแม่ด้วยหัวใจแตกสลาย มีแม่คนไหนบ้างที่จะไม่ร้องไห้อย่างขมขื่นเมื่อได้เห็นลูกต้องตายไปต่อหน้า ต่อตาอย่างทารุณโหดร้าย ถ้าแลกได้ในเวลานั้นแม่จะยินดีตายแทนพระองค์ ลูกได้รับความรู้สึกของแม่ทั้งหมดในเวลานั้นจนลูกต้องร้องไห้ออกมาอย่าง หนัก ลูกบอกกับแม่ว่า “ไม่ไหวแล้ว มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน” แต่แม่จะต้องอยู่และต้องเข้มแข็งเพื่อดูแลลูก ๆ ที่พระเยซูเจ้าทรงมอบหมายไว้ซึ่งรวมถึงคนบาปอย่างลูก ๆ ทุกคนด้วย
โปรดนิ่งเงียบสักครู่หนึ่งเพื่อพิจาณาตามข้อรำพึงนั้น และฟังเสียงของแม่ในหัวใจของเรา
พระมารดามหาทุกข์ ช่วยวิงวอนเทอญ
(ข้าแต่พระบิดา + วันทามารีอา 7 บท + สิริพึงมี)
มหาทุกข์ประการที่ 6 การถอดพระเยซูเจ้าลงจากไม้กางเขน
“โย เซฟอาริมาเธียที่ปรึกษาคณะบริหารชุมชน ได้เข้าพบข้าหลวงปิลาโตเพื่อขอนุญาต รับพระศพพระเยซูเจ้าไปฝังในคูหา โยเซฟและเพื่อนได้ยกพระองค์ลงจากไม้กางเขน และห่อหุ้มพระกายของพระองค์ด้วยผ้าลินิน” (มก.15:43-46)
รำพึง: ลูกมองเห็นความวุ่นวายใจของแต่ละคนที่ไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าปิลาโตจะยอมให้นำ พระศพของพระเยซูเจ้าลงมาจากไม้กางเขนหรือไม่ หรือจะปล่อยให้เป็นเหยื่อแร้งกาเพื่อประจานพระองค์ต่อไป เมื่อได้รับอนุญาตพวกเขาจึงปลดพระศพลงมา แม่ได้รับพระศพนั้นมากอดไว้แนบกับอก และมองดูรอยบาดแผลที่เกิดขึ้นจากความทารุณทั้งหลาย ลูกได้ยินเสียงของแม่ปลอบพระศพของพระเยซูเจ้าพร้อมทั้งน้ำตาว่า “ไม่เป็นไรแล้วนะลูกรัก ไม่เป็นไรแล้วลูก” พร้อมทั้งเห็นแม่เอามืออันสั่นเทาของแม่ลูบไล้พระศพอย่างปรานี ลูกรู้แล้วว่าแม่นี้รันทดใจเพียงใด
โปรดนิ่งเงียบสักครู่หนึ่งเพื่อพิจาณาตามข้อรำพึงนั้น และฟังเสียงของแม่ในหัวใจของเรา
พระมารดามหาทุกข์ ช่วยวิงวอนเทอญ
(ข้าแต่พระบิดา + วันทามารีอา 7 บท + สิริพึงมี)
มหาทุกข์ประการที่ 7 การฝังพระเยซูเจ้าในคูหา
“ใน สวนใกล้ที่ซึ่งพระองค์ถูกตรึงกางเขน มีคูหาใหม่ยังไม่ได้ใช้เลย ฉะนั้นตามธรรมเนียมยิว เขาทั้งหลายจำเป็นต้องฝังพระองค์โดยเร็ว” (ยน.29:41-42)
รำพึง: น้ำตาของแม่ได้เหือดหายไปหมดแล้ว ไม่มีเสียงร่ำไห้รอดมาจากริมฝีปากของแม่ เพราะน้ำตานั้นได้หลั่งไหลอยู่ข้างในหัวใจที่แตกสลายของแม่ พวกเขาได้นำพระศพไป างไว้บนแท่นหินในพระคูหา ลูกเห็นแม่จ้องมองแผ่นหินที่กำลังจะปิดลง ลูกได้ยินเสียงอันแสนเศร้าแผ่วเบาจากแม่ว่า “ลาก่อน... ลูกรักของแม่”
โปรดนิ่งเงียบสักครู่หนึ่งเพื่อพิจาณาตามข้อรำพึงนั้น และฟังเสียงของแม่ในหัวใจของเรา
พระมารดามหาทุกข์ ช่วยวิงวอนเทอญ
(ข้าแต่พระบิดา + วันทามารีอา 7 บท + สิริพึงมี)
บทปิดการภาวนา
ข้า แต่พระเป็นเจ้า พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์ได้ทรงนำการรักษามาสู่มวลมนุษย์ได้สำเร็จสิ้นแล้ว โดยอาศัยมหาทรมานและการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า ซึ่งพระมารดาของพระองค์ได้ร่วมมีส่วนด้วย ขอทรงโปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายผู้เป็น ประชากรของพระองค์ ได้รับการรักษาให้หายจากโรค และได้กลับคืนชีพจากอำนาจของบาป เข้าสู่ชีวิตนิรันดรตามที่พระเยซูเจ้าได้ทรงสัญญาไว้ พระองค์ผู้ดำรงชีพและครองราชย์ ร่วมกับพระองค์และพระจิต ในเวลานี้และตลอดนิรันดร อาแมน
(วันทามารีอา 3 บท)
บทนพวารแด่แม่พระมหาทุกข์
“พระ แม่มหาทุกข์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ราชินีแห่งมรณสักขีทั้งหลาย พระแม่ทรงประทับอยู่ภายใต้กางเขน เพื่อทรงเป็นพยานถึงพระมหาทรมานขององค์พระบุตรผู้ที่ กำลังสิ้นพระชนม์
โปรดทอดพระเนตรมายังลูกด้วยความเมตตาสงสาร ด้วยว่าขณะนี้ ลูกกำลังพิจารณาถึงมหาทุกข์ของพระแม่ ลูกขอถวายคำวิงวอนไว้ในพระวิหารแห่งดวงพระ หฤทัยอันบาดเจ็บของพระแม่
ลูกจะขอความช่วยเหลือจากผู้ใดเล่า ถ้ามิใช่พระแม่ผู้ทรงพระเมตตา พระแม่ผู้ดื่มด่ำกับความทุกข์อย่างมหันต์ขององค์พระบุตร
ลูกจะหันหน้าไปหาผู้ใดอีกเล่าถ้ามิใช่พระแม่ พระแม่มหาทุกข์ผู้ทรงมีส่วนร่วมกับ
ความทุกข์ขององค์พระบุตร มาตั้งแต่เมื่อครั้งพระองค์ได้ทรงบังเกิด ตราบจนกระทั่งสิ้นพระชนม์
พระ บิดาเจ้าทรงเลือกสรรพระแม่ ให้เป็นพระมารดาแห่งพระบุตรของพระองค์ พระองค์ทรงอนุญาตให้ดาบแห่งมหาทุกข์ ได้ทิ่มแทงทะลุดวงพระหฤทัยของพระแม่
ใน มหาทุกข์อันมากมายเหลือคณนานับ ที่ทำให้พระแม่ต้องรับทนทุกข์ทรมานนี้ ขอพระแม่ได้โปรดให้ลูก สามารถอดทนรับความทุกข์ทรมานของลูก ณ บัดนี้ด้วยเทอญ
เพื่อถวายเกียรติและพระสิริรุ่งโรจน์แด่องค์พระบุตร เพื่อความรอดแห่งวิญญาณ ของลูกที่ได้รับการไถ่โทษบาปจากพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระแม่ ขอพระแม่โปรดทรง พระกรุณาสดับฟังตามคำวิงวอนของลูก ณ บัดนี้ด้วยเทอญ
บัดนี้ จงเสนอคำวิงวอนของท่านแด่พระแม่…”
หมาย เหตุ: นพวารเป็นการวิงวอนอธิษฐานอย่างต่อเนื่องรวม 9 วัน ซึ่งเป็นการตอบสนอง ต่อคำสอนของพระเยซูเจ้าของเรา เกี่ยวกับการวิงวอนอธิษฐานอย่างต่อเนื่อง กล่าวกันว่า นพวารครั้งแรกนั้นได้กระทำติดต่อกันเป็นเวลา 9 วัน โดยแม่พระและบรรดาสานุศิษย์ได้ ร่วมกันสวดภาวนาเพื่อเตรียมต้อนรับการเสด็จมาขององค์พระจิตเจ้า เริ่มตั้งแต่วันสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ จนถึงวันอาทิตย์สมโภชพระจิตตาคม
โอ้พระแม่แผ่เมตตาเป็นอาจิณ
โอ้พระแม่แผ่เมตตาเป็นอาจิณ ทั่วทุกแดนแผ่นดินชนทุกถิ่นพึ่งพา
ชาวเรากราบกรานแทบพระบาทา สมเพชเมตตาตามคำลูกวิงวอน
ชาวเรากราบกรานวันทาพระมารดร โปรดช่วยอวยพรตามลูกวิงวอนเทอญ
วิธีสวดสายประคำแม่พระมหาทุกข์ 7 ประการ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
- reccanohono
- โพสต์: 1045
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ส.ค. 03, 2008 7:06 pm
- ที่อยู่: thailand
ขอบพระคุณค่ะ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
อ้าว..กำ...
เคยเอาลงแล้วเหรอ

เคยเอาลงแล้วเหรอ



