ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
-
satoshi_b1

- โพสต์: 291
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 14, 2009 1:34 pm
ศุกร์ พ.ค. 29, 2009 11:01 am
คือว่าไปอ่านจาก พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม มา มีบทหนึ่งบอกว่าสมณะอาโรน มีลูกได้ และสามารถมีภรรยาได้
แล้วทำใมตอนนี้นักบวชถึงไม่มีแฟนล่ะครับ งง จัง

-
tan

- โพสต์: 390
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 13, 2008 8:47 pm
-
ติดต่อ:
ศุกร์ พ.ค. 29, 2009 11:06 am
เพราะว่าเป็นกฏของพระศาสนจักรครับ เพื่อให้คุรพ่อสามารถทำงานแก่พระสาสนจักนได้เต็มที่ครับ
อีกประกานเพื่อที่ท่านจะได้อุทิศตนแด่พระเจ้าได้ทั้งครบครับ ยอมเป็นขันทีเพื่อเห็นแก่อาณาจักรสวรรค์
-
Batholomew
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ศุกร์ พ.ค. 29, 2009 12:05 pm
tan เขียน:
เพราะว่าเป็นกฏของพระศาสนจักรครับ เพื่อให้คุรพ่อสามารถทำงานแก่พระสาสนจักนได้เต็มที่ครับ
อีกประกานเพื่อที่ท่านจะได้อุทิศตนแด่พระเจ้าได้ทั้งครบครับ ยอมเป็นขันทีเพื่อเห็นแก่อาณาจักรสวรรค์
ขออนุญาตแก้ไข เพื่อการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องครับ
เพราะว่าเป็นกฏของพระศาสนจักรครับ เพื่อให้
คุณพ่อสามารถทำงานแก่พระ
ศาสนจักรได้เต็มที่ครับ
อีก
ประการเพื่อที่ท่านจะได้อุทิศตนแด่พระเจ้าได้ทั้งครบครับ ยอมเป็นขันทีเพื่อเห็นแก่อาณาจักรสวรรค์

-
Zion
- ~@
- โพสต์: 3777
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
-
ติดต่อ:
ศุกร์ พ.ค. 29, 2009 1:38 pm
บาทหลวงของคาทอลิก ยึดตามคำสอนของนักบุญเปาโลครับ
"ข้าพเจ้าต้องการให้ทุกคนถือโสดเหมือนข้าพเจ้า แต่พระเจ้าประทานพระพรพิเศษให้แต่ละคน
คนหนึ่งได้รับพระพรนี้ และอีกคนหนึ่งได้รับพระพรนั้น
"ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้เพื่อประโยชน์ของท่านเอง มิใช่เพื่อจำกัดสิทธิของท่าน
แต่เพื่อให้ท่านดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง อุทิศตนแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้โดยปราศจากความกังวล "
1 โครินธ์ 7: 7,35
-
Ecclēsia

- โพสต์: 976
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
- ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
-
ติดต่อ:
ศุกร์ พ.ค. 29, 2009 1:46 pm
ในสมัยก่อนมีได้นะคะ เเต่หลังจากเกิดปัญหามากมาย(ที่ไม่อยากจะขุดขึ้นมา) พระศาสนจักรจึงออกกฎว่าให้ถือโสด
เพื่ออุทิศตนสำหรับงานของพระเจ้าอย่างเต็มที่ ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการดูเเลภรรยา หรือบุตร
satoshi_b1 เขียน:
แล้วถ้าเรามีครอบครัวมาก่อนสามารถเป็นได้ป่าว
เป็นไปได้ค่ะ หากคู่ชีวิตของท่านพระยกไปเเล้ว ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดขึ้นอยู่การพูดคุยกับผู้ใหญ่ของคณะ ค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 29, 2009 2:10 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
satoshi_b1

- โพสต์: 291
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 14, 2009 1:34 pm
-
Buddy

- โพสต์: 3057
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
- ที่อยู่: USA
-
APaladin

- โพสต์: 204
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 1:59 am
เสาร์ พ.ค. 30, 2009 4:43 am
satoshi_b1 เขียน:
งี้ก้อมีสิทธิ์ดิ อิๆๆๆ
แล้วทำใมต้องทำตามีประกายขนาดนั้นด้วยดีใจไรนักนาเหอๆ

แปลกคนจิง

-
Jeab Agape
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เสาร์ พ.ค. 30, 2009 6:49 am
ตั้งข้อสังเกต นะครับ คุณ ซาโตชิ ชอบตั้งกระทู้แนวนี้นะครับ เรื่องเพศ เรื่องการแต่งงาน แต่เราก็ยังตอบ ฮึ
คงย้อนกลับ ไป 800 ปีก่อนโน้น เจ๊ฟิม น่าจะก็อปคำตอบของ ท่านพ่อจั่วมานะครับ เจี๊ยบเคยอ่าน ที่ท่านตอบไว้ที่อิสระรายปักษ์
-
satoshi_b1

- โพสต์: 291
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.พ. 14, 2009 1:34 pm
เสาร์ พ.ค. 30, 2009 12:00 pm
ไม่ได้ตั้งใจจะถามเรื่องเพศนะครับ แค่ว่ามันสงสัยนะครับ อย่างเมือคืมผมก้อพูดเรื่องนี้กับคนนอกศาสนา แบบว่าแทบจะเถียงกันเลย
เพราะว่าผมเป็นเชื่อพระเจ้า แต่เค้าไม่เชื่อ แต่ผมก้อจนมุม เลยตอบไปว่าแล้วแต่จะคิด อิๆๆ ก้อเค้านักวิชาการณ์เนอะผมว่าถ้ามาเจอคนนั้นนี้คงตอบได้แน่ ๆ เลย