รับศิลล้างบาปหลังความตาย
พระเยซูเจ้าได้บอกกับ วาสุลา ไลเดน ในหนังสือ ชีวิตแท้ในพระเจ้า1 ว่า วิญญาณเหล่านี้ต้องได้รับศิลล้างบาปก่อนจึงจะเข้าอาณาจักรสวรรค์ได้ วาสุลา ก็ถามพระเยซูเจ้า ด้วยความแปลกใจว่า วิญญาณเหล่านี้ยังไม่เคยรับศิลล้างบาปหรือ พระองค์ตอบว่า ใช่ และพวกเขาก็ยินดีที่จะรับด้วย หมายเหตุ ผมเองเข้าใจว่าเป็นดวงวิญญาณที่เสียชีวิตไปแล้วและขณะนี้อยู่ในดินแดนหนึ่งที่ใกล้ ๆกับนรก เพราะพระองค์พาวาสุลา ไปชมนรก อยากทราบความเห็นของผู้รู้ท่านอื่น ๆ ครับ ว่าผมเข้าใจผิดหรือเปล่า
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
ตายแล้วตายเลยครับ
น่าจะทำนองนี้ครับ
1ปต 3:18-22 การเสด็จสู่แดนผู้ตายและการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า
(18)พระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพียงครั้งเดียวเพราะบาป พระองค์ผู้ทรงชอบธรรมสิ้นพระชนม์เพื่อคนอธรรม พระองค์จะทรงนำเราไปเฝ้าพระเจ้า พระองค์ทรงถูกประหารในสภาพมนุษย์ แต่พระจิตเจ้าประทานชีวิตให้พระองค์อีก (19)พระจิตเจ้ายังทรงนำพระองค์ไปประกาศความรอดพ้นแก่จิตที่ถูกจองจำ (20)ในกาลก่อน จิตเหล่านี้ไม่ยอมเชื่อฟังเมื่อพระเจ้าทรงอดทนรอคอย ขณะที่โนอาห์กำลังต่อเรือ ซึ่งช่วยชีวิตคนจำนวนน้อย นั่นคือเพียงแปดชีวิตให้รอดพ้นจากน้ำวินาศ (21)น้ำนั้นเป็นรูปแบบของศีลล้างบาปที่ช่วยท่านให้รอดพ้นในเวลานี้ มิใช่เป็นการชำระล้างมลทินทางร่างกาย แต่เป็นการวอนขอต่อพระเจ้าด้วยมโนธรรมบริสุทธิ์เดชะการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้า (22)ผู้เสด็จสู่สวรรค์และประทับ ณ เบื้องขวาของพระเจ้าโดยมีทูตสวรรค์ทั้งศักดิเทพและอิทธิเทพทั้งหลายอยู่ใต้พระอำนาจของพระองค์
สั้นๆง่ายๆว่า
พระเยซูสามารถทำได้ครับ
1ปต 3:18-22 การเสด็จสู่แดนผู้ตายและการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า
(18)พระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพียงครั้งเดียวเพราะบาป พระองค์ผู้ทรงชอบธรรมสิ้นพระชนม์เพื่อคนอธรรม พระองค์จะทรงนำเราไปเฝ้าพระเจ้า พระองค์ทรงถูกประหารในสภาพมนุษย์ แต่พระจิตเจ้าประทานชีวิตให้พระองค์อีก (19)พระจิตเจ้ายังทรงนำพระองค์ไปประกาศความรอดพ้นแก่จิตที่ถูกจองจำ (20)ในกาลก่อน จิตเหล่านี้ไม่ยอมเชื่อฟังเมื่อพระเจ้าทรงอดทนรอคอย ขณะที่โนอาห์กำลังต่อเรือ ซึ่งช่วยชีวิตคนจำนวนน้อย นั่นคือเพียงแปดชีวิตให้รอดพ้นจากน้ำวินาศ (21)น้ำนั้นเป็นรูปแบบของศีลล้างบาปที่ช่วยท่านให้รอดพ้นในเวลานี้ มิใช่เป็นการชำระล้างมลทินทางร่างกาย แต่เป็นการวอนขอต่อพระเจ้าด้วยมโนธรรมบริสุทธิ์เดชะการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้า (22)ผู้เสด็จสู่สวรรค์และประทับ ณ เบื้องขวาของพระเจ้าโดยมีทูตสวรรค์ทั้งศักดิเทพและอิทธิเทพทั้งหลายอยู่ใต้พระอำนาจของพระองค์
สั้นๆง่ายๆว่า
พระเยซูสามารถทำได้ครับ
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
รับพระเจ้าต้องรับตอนมีชีวิตอยู่ เพราะถ้าตายแล้วรับได้แบบนี้คนก็จะมีข้ออ้างว่าตายแล้วค่อยกลับใจก็ได้
ตอนนี้ใช้ชีวิตแบบที่อยากใช้ เชื่อสิ่งที่อยากเชื่อ เป็นสิ่งที่อยากเป็นไปก่อน
มีบางคนถามว่าแล้วยังงี้ก็ไม่ยุติธรรมกับคนที่เกิดก่อนพระเยซูสิ! หรือศาสดาที่เกิดก่อนพระเยซูไปสวรรค์ไหม?
อันนี้ไม่มีใครรู้ อยู่ที่ว่าในเหตุการณ์ 1ปต 3:18-22 ที่พระเยซูเสด็จไปประกาศกับวิญญาณเหล่านี้เขาเชื่อหรือไม่ ถ้าเขาเชื่อเขาก็รอด
การประกาศกับวิญญาณมีครั้งนั้นครั้งเดียวสำหรับคนที่เกิดก่อนพระเยซูเท่านั้น หลังจากนั้นต้องรับเชื่อตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น
ตอนนี้ใช้ชีวิตแบบที่อยากใช้ เชื่อสิ่งที่อยากเชื่อ เป็นสิ่งที่อยากเป็นไปก่อน
มีบางคนถามว่าแล้วยังงี้ก็ไม่ยุติธรรมกับคนที่เกิดก่อนพระเยซูสิ! หรือศาสดาที่เกิดก่อนพระเยซูไปสวรรค์ไหม?
อันนี้ไม่มีใครรู้ อยู่ที่ว่าในเหตุการณ์ 1ปต 3:18-22 ที่พระเยซูเสด็จไปประกาศกับวิญญาณเหล่านี้เขาเชื่อหรือไม่ ถ้าเขาเชื่อเขาก็รอด
การประกาศกับวิญญาณมีครั้งนั้นครั้งเดียวสำหรับคนที่เกิดก่อนพระเยซูเท่านั้น หลังจากนั้นต้องรับเชื่อตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น
ลองมาฟัง คำตอบของนักบุญเปาโลนะครับsutham เขียน: เป็นไปได้ไหมครับว่าพระองค์ตรัสถึงวิญญาณที่อยู่ในศาสนาอื่น ๆ ยังไม่สามารถเข้าสู่สวรรค์ได้จำต้องรับศิลล้างบาป เพื่อรับสถานะบุตรบุญธรรมจึงจะมีสิทธิรับมรดกสวรรค์เป็นรางวัล
รม 2:12-16 ธรรมบัญญัติไม่ช่วยให้รอดพ้น
ทุกคนที่ทำบาปโดยไม่รู้จักธรรมบัญญัติจะพินาศไปโดยไม่มีธรรมบัญญัติ แต่ผู้ที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติและกระทำบาป จะถูกพิพากษาตามธรรมบัญญัติ
เพราะผู้ที่พระเจ้าจะทรงบันดาลความชอบธรรมนั้น ไม่ใช่ผู้ที่ได้ยินได้ฟังธรรมบัญญัติเท่านั้น แต่เป็นผู้ที่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติด้วย
ดังนั้น เมื่อคนต่างชาติซึ่งไม่รู้จักธรรมบัญญัติ และประพฤติตามข้อกำหนดของธรรมบัญญัติจากสามัญสำนึก
แม้พวกเขาจะไม่รู้จักธรรมบัญญัติ พวกเขาก็เป็นธรรมบัญญัติสำหรับตนเอง
พวกเขาแสดงให้เห็นสิ่งที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ในใจตามมโนธรรมและบางครั้งความคิดตามเหตุผลที่กล่าวโทษก็ป้องกันพวกเขา
ในวันที่พระเจ้าทรงตัดสินพิพากษาความคิดที่เร้นลับของมนุษย์ทุกคนด้วยเดชะพระเยซูคริสตเจ้า ตามข่าวดีที่ข้าพเจ้าได้ประกาศไว้
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ ก.ค. 24, 2009 10:28 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ผมไม่เห็นว่าเราควรจำกัดสิทธิ์ของพระเจ้าขนาดนั้นนะครับ การที่ยกบทนี้มาเพื่อจะบอกว่าถ้าพระองค์จะทำก็ทำได้ เพราะในเคสนั้นคือเกิดก่อนพระเยซูไม่เคยเจอพระองค์เลยล้างบาปไม่ได้ แต่ในปัจจุบันยังมีอีกกรณีคือการไม่มีโอกาศได้รู้จักพระองค์ หรือรู้จักแบบผิดๆเลยเข้าใจผิดฯลฯDeo Gratias เขียน: รับพระเจ้าต้องรับตอนมีชีวิตอยู่ เพราะถ้าตายแล้วรับได้แบบนี้คนก็จะมีข้ออ้างว่าตายแล้วค่อยกลับใจก็ได้
ตอนนี้ใช้ชีวิตแบบที่อยากใช้ เชื่อสิ่งที่อยากเชื่อ เป็นสิ่งที่อยากเป็นไปก่อน
มีบางคนถามว่าแล้วยังงี้ก็ไม่ยุติธรรมกับคนที่เกิดก่อนพระเยซูสิ! หรือศาสดาที่เกิดก่อนพระเยซูไปสวรรค์ไหม?
อันนี้ไม่มีใครรู้ อยู่ที่ว่าในเหตุการณ์ 1ปต 3:18-22 ที่พระเยซูเสด็จไปประกาศกับวิญญาณเหล่านี้เขาเชื่อหรือไม่ ถ้าเขาเชื่อเขาก็รอด
การประกาศกับวิญญาณมีครั้งนั้นครั้งเดียวสำหรับคนที่เกิดก่อนพระเยซูเท่านั้น หลังจากนั้นต้องรับเชื่อตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น
ถ้าพระองค์จะทำแบบนี้กับพวกเขาบ้างก้ไม่ใช่ว่าเป้นไปไม่ได้นะครับ
การต้องรับเชื่อเมื่อมีชีวิตควร+ไปกับเงื่อนไขว่าได้รู้จักและได้รับการประกาศแล้ว
ฮบ 10:26
เมื่อได้รับความรู้อย่างดีถึงความจริงแล้ว ถ้าเรายังจงใจทำบาปอีก ก็จะไม่มีเครื่องบูชาชดเชยบาปใดช่วยได้อีกต่อไป
แต่กับคนที่ไม่มีโอกาส หรือไม่รู้ ผมเชื่อมั่นว่าพระเจ้าไม่ตัดสินผู้ไม่รู้ด้วยมาตรฐานเดียวกับคนที่รู้หรอกครับ
ถ้าเขาจะได้โอกาสเมื่อพบพระองค์ในเวลาที่เขาตาย แล้วพระองค์จะให้โอกาสเขาได้เลือกในตอนนั้น ก็ไม่แปลกเลยนะครับ และพระเมตตาแบบนี้ไปกันได้ดีกับพระยุติธรรมด้วย
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
ขอบคุณครับ,พระอวยพรยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน:ลองมาฟัง คำตอบของนักบุญเปาโลนะครับsutham เขียน: เป็นไปได้ไหมครับว่าพระองค์ตรัสถึงวิญญาณที่อยู่ในศาสนาอื่น ๆ ยังไม่สามารถเข้าสู่สวรรค์ได้จำต้องรับศิลล้างบาป เพื่อรับสถานะบุตรบุญธรรมจึงจะมีสิทธิรับมรดกสวรรค์เป็นรางวัล
รม 2:12-16 ธรรมบัญญัติไม่ช่วยให้รอดพ้น
ทุกคนที่ทำบาปโดยไม่รู้จักธรรมบัญญัติจะพินาศไปโดยไม่มีธรรมบัญญัติ แต่ผู้ที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติและกระทำบาป จะถูกพิพากษาตามธรรมบัญญัติ
เพราะผู้ที่พระเจ้าจะทรงบันดาลความชอบธรรมนั้น ไม่ใช่ผู้ที่ได้ยินได้ฟังธรรมบัญญัติเท่านั้น แต่เป็นผู้ที่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติด้วย
ดังนั้น เมื่อคนต่างชาติซึ่งไม่รู้จักธรรมบัญญัติ และประพฤติตามข้อกำหนดของธรรมบัญญัติจากสามัญสำนึก
แม้พวกเขาจะไม่รู้จักธรรมบัญญัติ พวกเขาก็เป็นธรรมบัญญัติสำหรับตนเอง
พวกเขาแสดงให้เห็นสิ่งที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ในใจตามมโนธรรมและบางครั้งความคิดตามเหตุผลที่กล่าวโทษก็ป้องกันพวกเขา
ในวันที่พระเจ้าทรงตัดสินพิพากษาความคิดที่เร้นลับของมนุษย์ทุกคนด้วยเดชะพระเยซูคริสตเจ้า ตามข่าวดีที่ข้าพเจ้าได้ประกาศไว้
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
ค่ะHoly เขียน:ผมไม่เห็นว่าเราควรจำกัดสิทธิ์ของพระเจ้าขนาดนั้นนะครับ การที่ยกบทนี้มาเพื่อจะบอกว่าถ้าพระองค์จะทำก็ทำได้ เพราะในเคสนั้นคือเกิดก่อนพระเยซูไม่เคยเจอพระองค์เลยล้างบาปไม่ได้ แต่ในปัจจุบันยังมีอีกกรณีคือการไม่มีโอกาศได้รู้จักพระองค์ หรือรู้จักแบบผิดๆเลยเข้าใจผิดฯลฯDeo Gratias เขียน: รับพระเจ้าต้องรับตอนมีชีวิตอยู่ เพราะถ้าตายแล้วรับได้แบบนี้คนก็จะมีข้ออ้างว่าตายแล้วค่อยกลับใจก็ได้
ตอนนี้ใช้ชีวิตแบบที่อยากใช้ เชื่อสิ่งที่อยากเชื่อ เป็นสิ่งที่อยากเป็นไปก่อน
มีบางคนถามว่าแล้วยังงี้ก็ไม่ยุติธรรมกับคนที่เกิดก่อนพระเยซูสิ! หรือศาสดาที่เกิดก่อนพระเยซูไปสวรรค์ไหม?
อันนี้ไม่มีใครรู้ อยู่ที่ว่าในเหตุการณ์ 1ปต 3:18-22 ที่พระเยซูเสด็จไปประกาศกับวิญญาณเหล่านี้เขาเชื่อหรือไม่ ถ้าเขาเชื่อเขาก็รอด
การประกาศกับวิญญาณมีครั้งนั้นครั้งเดียวสำหรับคนที่เกิดก่อนพระเยซูเท่านั้น หลังจากนั้นต้องรับเชื่อตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น
ถ้าพระองค์จะทำแบบนี้กับพวกเขาบ้างก้ไม่ใช่ว่าเป้นไปไม่ได้นะครับ
การต้องรับเชื่อเมื่อมีชีวิตควร+ไปกับเงื่อนไขว่าได้รู้จักและได้รับการประกาศแล้ว
ฮบ 10:26
เมื่อได้รับความรู้อย่างดีถึงความจริงแล้ว ถ้าเรายังจงใจทำบาปอีก ก็จะไม่มีเครื่องบูชาชดเชยบาปใดช่วยได้อีกต่อไป
แต่กับคนที่ไม่มีโอกาส หรือไม่รู้ ผมเชื่อมั่นว่าพระเจ้าไม่ตัดสินผู้ไม่รู้ด้วยมาตรฐานเดียวกับคนที่รู้หรอกครับ
ถ้าเขาจะได้โอกาสเมื่อพบพระองค์ในเวลาที่เขาตาย แล้วพระองค์จะให้โอกาสเขาได้เลือกในตอนนั้น ก็ไม่แปลกเลยนะครับ และพระเมตตาแบบนี้ไปกันได้ดีกับพระยุติธรรมด้วย
สำหรับคนที่ไม่เคยได้ยินเรื่อพระเยซูหรือคนที่ตายในขณะที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ เช่น เด็กเล็กๆ ทารกที่แท๊ง คนปัญญาอ่อน ฯลฯ
เราคงไม่ไปตัดสินว่าเขารอดไม่รอด แต่เราเชื่อในพระเมตตาของพระเจ้าค่ะ เป็นสิทธิของพระองค์

แล้วถ้าเกิดว่าก่อนตายยังไม่ได้รับศีลล้างบาปละครับ หรือ ตายก่อนรับศีลล้างบาป แต่มีความเชื่อในพระองค์ เชื่อในมหาทรมานของพระองค์ เชื่อว่า พระองค์เป็นผู้ช่วยให้เรารอด ละครับ
เขาเรียกว่าล้างบาปด้วยพระจิตเจ้าแล้ว~@เด็กสายศิลป์@~ เขียน: แล้วถ้าเกิดว่าก่อนตายยังไม่ได้รับศีลล้างบาปละครับ หรือ ตายก่อนรับศีลล้างบาป แต่มีความเชื่อในพระองค์ เชื่อในมหาทรมานของพระองค์ เชื่อว่า พระองค์เป็นผู้ช่วยให้เรารอด ละครับ
ออ เข้าใจแล้วครับ พี่holyHoly เขียน:เขาเรียกว่าล้างบาปด้วยพระจิตเจ้าแล้ว~@เด็กสายศิลป์@~ เขียน: แล้วถ้าเกิดว่าก่อนตายยังไม่ได้รับศีลล้างบาปละครับ หรือ ตายก่อนรับศีลล้างบาป แต่มีความเชื่อในพระองค์ เชื่อในมหาทรมานของพระองค์ เชื่อว่า พระองค์เป็นผู้ช่วยให้เรารอด ละครับ
