ขอคำภาวนาค่ะ

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
PrinzSchweini
โพสต์: 31
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2009 3:10 pm

ศุกร์ ก.ย. 04, 2009 11:37 pm

คือว่า ตอนนี้รู้สิกว่าจิตตกมาก
มีหลายอย่างที่ทำให้คิดแบบนี้ค่ะ
1. เวลาอยู่บ้านเสาร์-อาทิตย์ หน้าที่ของหนูคือการทำงานบ้านเกือบทุกอย่าง (เน้นค่ะว่า เกือบ!)
แล้วพอเวลาแม่กับน้ากลับมาบ้าน ก็ต้องมีข้อให้บ่นในตัวหนูอยู่เรื่อยไป เช่น ทำไมโต๊ะคอมยังไม่เก็บให้เรียบร้อย
ทั้งๆที่ตอนนั้นหนูจัดโต๊ะคอมให้เป็นระเบียบดีแล้ว หรือแม้แต่ซักผ้า ซึ่งหนูต้องซักผ้าของคนทั้งบ้าน
ไม่มีแม้แต่ใครที่จะยื่นมือมาช่วยหนู ปล่อยให้หนูนั่งซักนั่นซักนี่คนเดียว (เครื่องซักผ้าพอช่วยได้ แต่เวลาตากผ้าอาการหนัก)

2. เวลาที่หนูมีงานใช้คอม(ซึ่งเดี๋ยวนี้ต้องทุกวัน เพราะงานเด็ก ม.5 เยอะมาก)ก็จะต้องถูกหาว่า งานเงินไม่ได้ทำหรอก แชทกับผู้ชายมากกว่า
ซึ่งตรงนี้มันทิ่มแทงจิตใจมากๆ เพราะตัวหนูก็ขยัน อยากทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จทันเวลา โดนอย่างนี้เข้าไปก็เคยไปแอบร้องไห้ค่ะว่าทำไมไม่มีใครเข้าใจเลย อีกอย่างค่ะ คือเวลาน้อง (อายุ 13) ใช้คอม ซึ่งยืนดูอยู่ข้างหลังทุกวัน เป็นการดาวน์โหลดพวกรูปนักร้องเกาหลีซะมากกว่า
และชอบมาขัดเวลาทำงานว่า "ขอใช้คอมก่อนได้ไหม" หนูก็ให้ไป เพราะอยากให้ทำงานให้เสร็จ ภาระจะได้ไม่ต้องมาตกที่หนูซึ่งเป็นพี่คนโต ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น หนูจะเป็นคนโดนเต็มๆ แต่ซ้ำร้ายในขณะที่น้องนั่งดาวน์โหลดรูปดงบัง เอสเจ บิ๊กแบง อะไรทั้งหลายแหล่ก็เถอะ ไม่มีใครที่จะปริปากบ่น แต่ในขณะที่หนูกำลัง search งานในกูเกิ้ล ผลที่ได้มันกลับกันค่ะ

3. ข้อนี้ค่ะที่เจ็บใจที่สุด เวลาว่างๆหนูชอบอ่านหนังสือ และดูทีวีพวกสารคดีที่มีความรู้ต่างๆ ถ้าพ่อหนูไปทำงานที่สงขลาเมื่อไหร่ละก็ ทีวีหนูจะไม่ได้ดูเพื่อพักผ่อนเลย พอหนูมาเปิดเพื่ออยากดูอะไรที่มีสาระ ก็จะต้องไม่วายโดนน้าหรือแม่บ่นว่าเอาแต่ดูทีวี หนังสือหนังหาไม่ยอมอ่าน เกรดออกมาก็แย่(ทั้งๆที่หนูได้ 3.6 เนี่ยนะ) แต่ก็ไม่มีใครเข้าใจสักที

หนูก็คิดในใจนะคะว่าทุกคนเห็นหนูเป็นอะไร เข้าใจว่าอยากให้หนูได้ดี แต่แบบนี้มันเกินไปไหม หนูเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งที่อยากมีชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ไม่ใช่ว่าตัวเป็นเด็ก สมองเป็นผู้ใหญ่ ไปขอคำปรึกษาใครก็แทบจะไม่มีใครที่ให้คำปลอบประโลมจิตใจได้เลย

จึงอยากมาขอคำภาวนาจากที่แห่งนี้ ทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไพศาล ที่เป็นสถานที่พักพิงของลูกแกะจำนวนมากมาย และเพื่อแสวงหาสิ่งที่สำคัญแห่งจิตใจ

ขอบคุณค่ะ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

เสาร์ ก.ย. 05, 2009 3:10 am

พี่จะสวดให้นะคะ  : emo045 :

เอาหูทวนลมนะลูก อย่าไปใส่ใจกับคำพูดที่คนอื่นเค้ามาว่าเรา แล้วเราก็พิจารณาแล้วว่า มันไม่จริง เค้าไม่เข้าใจ ก็ยิ้มๆให้เค้า อย่าไปถือสา ...  เข้มแข็งไว้นะลูกนะ  : emo027 : ....  ถ้าเค้าว่า ได้เกรดน้อย 3.6 ถือว่าน้อย เราก็รับไว้ คราวหน้าก็ทำให้ได้ 4.00  : emo045 :  คิดซะว่า เค้าอยากให้เราได้ดีนะคะ  : emo045 :

ตั้งใจทำดีต่อไปนะหนูนะ ... รับรอง ... อยู่ ม.5 หนูขยัน มุมานะได้ขนาดนี้ อนาคตหนูไปได้ไกลแน่ๆ เชื่อพี่นะ  : emo045 :  และก็หมั่นสวดให้กับทุกคนในบ้านนะคะ พี่จะช่วยสวดด้วยจ้ะ  : emo045 :

พระอวยพรค่ะ  : xemo026 :
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

เสาร์ ก.ย. 05, 2009 8:56 am

เป็นกำลังใจให้ครับ

ลองคิดในมางกลับกัน ท่านทั้งสองคนอยากให้น้องได้ดีนะครับ
ท่านจึงคอยสอน คอยเตือนเรา
เราเอง บางทีอาจจะรู้สึกอึดอัดไปบ้าง แต่เราต้องอดทนนะครับ
ลองสวดภาวนา ขอบคุณพระเจ้าที่ได้ทรงประทานแม่และน้าที่น่ารัก
ที่คอยหวังดีกับเราเสมอครับ

อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับน้องเลยครับ
เราเป็นพี่คนโต ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องเห็นครับ
ไม่ว่าจะเห็นหรือไม่เห็นก็ตามครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
P
.
.
โพสต์: 1383
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 10:10 pm
ที่อยู่: เมืองไทย

เสาร์ ก.ย. 05, 2009 9:33 am

สมัยผมยังวัยรุ่นก็โดนครับ (ตอนนี้พ้นมาแล้วสองสามปี) เรื่องงานบ้าน ทั้งกวาด ทั้งถู แต่โชคดีที่เรื่องซักผ้ารีดผ้าซักรองเท้า(ผ้าใบ) รับผิดชอบต่อของตัวเองก็พอ ไม่ต้องเผื่อแผ่ไปถึงคนทั้งบ้าน แต่บ้านผมไม่มีเครื่องซักผ้า ดังนั้น ก็เอาเรื่องพอดู และมีหน้าที่อื่นที่หนัก แต่ไม่ได้มาทุกอาทิตย์ เช่น ตัดหญ้า และกวาดสนาม (สนามก็กว้าง ต้นไม้เยอะ มะม่วง มะไฟ ลำไย ชมพู่ ฝรั่ง โกสน ฯลฯ กวาดทีได้ใบไม้แห้งเป็นกองๆสูงเกือบเท่าเอว) .. อะไรประมาณนี้

แต่...

พอพ้นช่วงมัธยม ต้องเร่ร่อนไปเรียน ม. ต่างเมือง ก็สามารถดูแลตัวเองได้ เรื่องพวกนี้สบายมากเพราะเราทำจนชินแล้ว

แถม

มันเป็นหน้าที่ของลูก "ที่โตแล้ว" ที่จะทำอะไรเพื่อพ่อแม่บ้างครับ เรื่องการดูแลบ้าน ถ้าเราไม่ทำ จะโยนให้คุณแม่ทำงั้นเหรอ เราไม่ชอบ คิดว่าคุณพ่อคุณแม่ท่านจะชอบหรือเปล่า เรายินดีจะผลักภาระนี้"คืน"ให้กับคุณพ่อคุณแม่ ผู้ซึ่งนอกจากเรื่องที่เราจะ"คืน"ให้กับท่านแล้ว ท่านยังมีภาระอื่นอีกมากมาย อย่างกระนั้นหรือ

เอาง่ายๆแบบไม่ต้องคิดเลย ก็เช่น

- ต้องทำงานหาเลี้ยงดู"คนทั้งบ้าน" ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่ค่ากับข้าว แต่ค่าใช้จ่ายทุกอย่างของ"ทั้งครอบครัว" (ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าผ่อนบ้าน & ผ่อนรถ-ถ้ามี ค่าเสื้อผ้าคนในบ้าน ค่าหยูกค่ายาเวลามีใครป่วย ค่าหนังสือ & ค่าเทอมลูก เงินที่ให้ลูกๆใช้ ฯลฯ สาธยายกันไม่จบไม่สิ้น)

- ต้องทำกับข้าวให้ "คนทั้งบ้าน"กิน (ซึ่งหมายถึง วันๆทำงานมาเหนื่อยๆแล้ว ยังต้องไปจับจ่ายซื้อหาอาหาร แล้วยังต้องมานั่งทำให้กินกันอีก เสร็จแล้วต้องล้างจานเก็บโต๊ะให้ท่านๆด้วยหรือเปล่าอันนี้ก็ขึ้นกับสามัญสำนึกของคนในบ้านแล้ว เช้ามาก็ต้องแหกตาตื่นมาทำให้ลูกๆกินให้ทันก่อนไปโรงเรียนอีก)

- ต้องมานั่งปวดหัวว่าลูกจะไปเล่นบอร์ดนิวมานาแล้วจะโดน นาย P@newmana ล่อลวงไปไหนแบบที่มีกรณีต่างๆปรากฎในหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆหรือเปล่า โชคดีหน่อยก็แค่เอาไปขายแรงงาน แย่ลงไปหน่อยก็โดนจับเรียงคิว โชคร้ายหน่อยก็โดนจับส่งออกไปขายบริการต่างประเทศ ชาตินี้ไม่รู้จะมีวันพ้นนรกออกมาได้ยังไง รักลูกก็รัก ห่วงลูกก็ห่วง เห็นลูกเล่นเน็ตทีไร ใจคอหายทุกที ไม่ให้เล่นก็ไม่ได้ กลัวมันไม่ทันโลก สู้คนอื่นเขาไม่ได้ แต่พอให้เล่น ก็กลัว ใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ แต่ไม่รู้จะเตือนยังไง เลยแทงกั๊กไว้ก่อน ว่าลูกมันแชทกับผู้ชาย มันจะได้ไม่ทำ มันจะเกลียดเราก็ช่างมันเถอะ ดีกว่าให้มันโดนเขาหลอก ยังไงเราก็รักมัน

- ต้องมานั่งปวดหัวว่าลูกจะมีอนาคตกับเขาไหมนี่ โลกทุกวันนี้มันก็แข่งขันกันจะตายอยู่แล้ว มหาลัยบางแห่ง ไอ้แค่ 3.6 ยังจิ๊บๆ (สูงกว่านี้ยังมีโดน reject เลย ตอนสัมภาษณ์รับตรง) ลูกเรามันก็ ม. 5 แล้ว มันจะได้ต่อมหาลัยไหมนี่ ถ้ามันไม่ได้ต่อล่ะ มันจะมีอนาคตดีๆกับเขาไหม หรือมันต้องเป็นเด็กล้างจานอยู่ปากซอยบ้านเรา โอ๊ย เครียด กลัวมันจะไม่ได้ดี

ฯลฯ

...

แต่ช่างมันเถอะครับ คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูเรามาแค่ 10 กว่าปี ยังซักผ้ากันเองได้โดยไม่มีเรา ยังเช็ดฉี่เช็ดอึให้เราได้ตอนเราอายุน้อยๆ ยังเลี้ยงดูให้ชีวิตทุกคนในครอบครัวไม่ลำบากได้ หาที่เรียนให้ลูก พาลูกๆไปรพ.ยามเจ็บป่วย หาเสื้อผ้าดีๆให้ลูกใส่ หาทุกอย่างที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ให้ลูกเสมอ ฯลฯ ท่านทำโดยไม่มีเราได้ กะอีแค่งานบ้านทั้งหลาย หรือต่อให้ต้องซักผ้าให้คนทั้งบ้าน คิดว่าท่านจะทำไม่ได้เหรอครับ Bring it on! เอามาเลย โยนๆคืนมาเลย ไอ้อย่างอื่นที่ต้องทำต้องรับผิดชอบมันหนักกว่ากันกี่เท่าก็ไม่รู้ แค่นี้มันจิ๊บจ๊อย ทำไมจะรับมือไม่ได้

แต่จะเสียใจที่ "ลูกโตแล้ว ทำไมไม่คิดจะแบ่งเบาภาระบ้าง" หรือเปล่า อันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกัน

พ่อแม่ร้อยละ 99.99 รักลูก สรรหาสิ่งที่ดีที่สุดที่จะหาได้มาให้ลูกเสมอ ตามกำลังที่ตนมี และสิ่งที่วัดได้เลยว่าพ่อแม่รักเราเพียงใด ก็คือ พอสิ่งที่ดีที่สุดมันขึ้นกับตัวลูก ซื้อหากันไม่ได้ ถ้าลูกไม่ทำก็จะไม่ได้สิ่งที่ดีที่สุดนั้น ก็ยอมสวมบทเป็นมารร้าย บังคับให้ลูกทำอะไรที่อาจจะ"ขัดใจลูก" ณ เวลานั้น ยอมให้คนที่ตนรักบ่นว่าตัวเอง เพื่อให้คนที่ตนรักได้ดี

"มันจะไม่ชอบเราก็ช่างมัน ขอเพียงวันนึงมันได้ดี เราก็มีความสุขแล้ว ส่วนมันจะคิดได้หรือเปล่าว่าเรารักมัน ก็สุดแท้แต่มันแล้ว"

เกลียดเราก็ได้ ขอเพียงมันได้ดีมีความสุข แค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว ..

เอ ..หรือว่านี่คือ "ความรักที่ไร้ข้อแม้" ที่ชาวบ้านเขาลือกัน..
Holy Bible
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm

เสาร์ ก.ย. 05, 2009 11:06 am

อดทนไว้นะครับ ผมว่าซักวันคุณพ่อกับคุณแม่ต้องเข้าใจพี่อย่างแน่นอน
ตอบกลับโพส