พระเจ้าเปี่ยนไป๋

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
† † † Hiruma Ryuichi † † †
โพสต์: 605
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 3:19 pm
ที่อยู่: พเนจร
ติดต่อ:

เสาร์ ก.ย. 05, 2009 7:08 pm

ผมได้อ่านในพระคำภีร์เก่าแล้ว

เห็นแต่พระเจ้าพาทำสงคราม พาฆ่า

(Exodus 12:29  ต่อมาในเวลาเที่ยงคืน พระเยโฮวาห์ทรงประหารบุตรหัวปีทุกคนในประเทศอียิปต์ ตั้งแต่พระราชบุตรหัวปีของฟาโรห์ผู้ประทับบนพระที่นั่ง จนถึงบุตรหัวปีของเชลยที่อยู่ในคุกใต้ดิน ทั้งลูกหัวปีของสัตว์เลี้ยงทุกตัว

Exodus 32:27 โมเสสจึงกล่าวแก่เขาว่า "พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสสั่งดังนี้ว่า `จงเอาดาบสะพายทุกคนแล้วจงไปมาตามประตูต่างๆทั่วค่าย ทุกๆคนจงฆ่าพี่น้องและมิตรสหายและเพื่อนบ้านของตัวเอง'"

Zechariah 13:9 เราจะเอาหนึ่งในสามนี้ใส่ในไฟและถลุงเขาเหมือนถลุงเงิน และลองดูเขาเหมือนทดลองทองคำ เขาจะร้องทูลออกนามของเราและเราจะฟังเขา เราจะกล่าวว่า `เขาทั้งหลายเป็นชนชาติของเรา' และเขาจะกล่าวว่า `พระเยโฮวาห์คือพระเจ้าของข้าพเจ้า'" )

อ่านแล้วรู้สึกว่า ทำไมพระเจ้าถึงได้ใจร้ายจังเลย T^T

แต่มาอ่านพระคัมภีร์ใหม่ปุ๊ป

แบบว่า

พระองค์ทรงเปลี่ยนโหมดไปเลยอ่า

ใจดี๊ใจดี

พูดถึงแต่ความรักเนอะ ^ ^


เลยอยากรุอ่ะคับ

ว่าพระเจ้าทำไปเปี่ยนไป๋???
† † † Hiruma Ryuichi † † †
โพสต์: 605
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 3:19 pm
ที่อยู่: พเนจร
ติดต่อ:

เสาร์ ก.ย. 05, 2009 7:10 pm

ไม่รุว่าใช่เพราะพระองค์มีลูก(พระเยซู)รึปล่าว

ได้เป็นพ่อเลยใจดีขึ้นอ่ะนะ

ขอคำตอบด้วยนะฮะ ^ ^
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

เสาร์ ก.ย. 05, 2009 7:14 pm

ตามความคิดเรา
1.คนสมัยก่อนมันดื้อกว่าสมัยนี้มากนัก พระองค์เลยต้องใช้วิธีเด็ดขาดหน่อย (อิทธิพลนับถือพระอื่นหัวรุนแรงก็มี พวกยึดถือแต่ตัวเองผู้เดียวก็มาก)

2.ทดสอบความเชื่อคนที่ได้ยินด้วยกระมัง เพราะอัศวินหลายคนสมัยก่อน หรือซามูไรก็ด้วย กษัตริย์หรือเจ้านายตัวเองทำอะไรขัดสายตาไปบ้าง มีสิทธิ์ต่อต้านด้วยเหตุผลส่วนตัวหรือ? ในเมื่อตัวเองสาบานว่าจะภักดีแล้ว (มนุษย์ด่าพระเจ้ากลับไม่ได้ก็เพราะมนุษย์เองก็เป็นนี่แล เป็นหนักกว่าด้วย)

3.(ฟังจากเพื่อนคริสเตียนมา ขัดใจบ้างก็ต้องยอมรับ) บางครั้งน้ำพระทัยพระเจ้า ก็ไม่สามารถอธิบายด้วยเหตุผลของมนุษย์ได้

บางครั้งความจริงไม่ได้มีแต่เรื่องน่ายินดีนักหรอก นี่ก็ดีแค่ไหนแล้วที่พระองค์ใจดี เมตตาและให้โอกาสมนุษย์มากขนาดนี้ (ส่วนตัวคิดว่ามากเกินไปหน่อยด้วยซ้ำ แม้แต่กับคนเลวหลายพวกที่น่าจะตายไปเสียจะได้ไม่ต้องก่อกรรมทำเข็ญอีก ขณะเดียวกันพวกที่เป็นคนดีอยู่แต่ยังขาดความเชื่อ(แล้วเชื่อผิดขนาดมองพระเจ้าเป็นตัวร้าย) พระองค์ก็ยังรัก)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ecclēsia
โพสต์: 976
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ติดต่อ:

เสาร์ ก.ย. 05, 2009 8:45 pm

พระเยซูทรงเป็นพระเจ้าค่ะ เเล้วก็เป็นพระเจ้าเที่ยงเเท้ เเละทรงความรักมั่นคงมาตั้งเเต่ปฐมกาล
บทบาทของพระเป็นเจ้าต่อมนุษย์ในเเต่ละยุคสมัยต่างกัน ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ 
เหมือนกับ ในสมัยก่อนการทำสงครามเป็นเรื่องธรรมดา เเต่ในสมัยนี้ การทำสงครามเป็นเรื่องน่าสะพรึงกลัว ใครก่อ ก็โดนประณาม

ที่สำคัญต้องระลึกเสมอว่า สิ่งที่พระเป็นเจ้าเผยเเสดงในพันธสัญญาเดิม ยังไม่สำเร็จบริบูรณ์ ต้องมาสำเร็จในพระเยซู (พันธสัญญาใหม่)


-  อพย12.29  :พระเจ้าเป็นผู้ให้ชีวิต ดังนั้นหากพระองค์จะริบกลับคืน ก็เป็นสิทธิของพระองค์ 
อย่างไรก็ตามชาวอียิปต์ได้รับความตายบนโลกนี้ เเต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะได้รับความตายนิรันด์

-  อพย 32:27 :จริงๆพระคัมภีร์เต็มข้อเขียนดังนี้
โมเสสพูดว่า "พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ ให้เเต่ละคนคาบดาบไว้กับตัว จงเดินผ่านจากประตูด้านหนึ่ง
ไปถึงประตูอีกด้านหนึ่งของค่าย จงฆ่าผู้ที่ทำผิดไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง เพื่อนบ้านหรือญาติของตน..."

ถ้าอ่านทั้งหมดก็จะเข้าใจว่า พระเจ้าไม่ได้สั่งอะไรมั่วๆตามอารมณ์ ทั้งหมดก็เพื่อช่วยประชากรของพระองค์ต่างหาก
(จริงๆโมเสสถามเเล้วว่าใครอยู่ฝ่ายพระยาห์เวห์ให้ก้าวออกมา...ดังนั้นคนที่ไม่ก้าว ก็คือคนที่ใจเเข็ง ปฏิเสธพระเจ้าผู้ทรงช่วยเขาจากการเป็นทาสเอง)
อย่างไรก็ตาม...เราก็ไม่สามารถตัดสินได้อยู่ดีว่า เขาได้รับความตายนิรันด์ (ตกนรก) เพราะพระเป็นเจ้าทรงความยุติธรรม เเต่ก็เปี่ยมด้วยพระเมตตา

-  เศคาริยาห์ 13:9 พระเจ้าไม่ได้เผาเขาด้วย "ไฟ" (ที่ลุกเป็นไฟ, ไฟไหม้บ้าน, ภูเขาไฟ) จริงๆหรอกนะ
อาจจะทำนองเดียวกันกับ บุตรสิรา 2:5 "เพราะทองคำต้องถูกทดลองในไฟฉันใด ผู้ที่พระเป็นเจ้าพอพระทัย
ก็ต้องรับการทดลองให้ตกต่ำประหนึ่งอยู่ในไฟฉันนั้น..."


ปล. เมื่อศึกษาพระคัมภีร์ให้พยายามนึกว่า พระคัมภีร์บอกอะไรเรา เเละควรอ่านย้อนไปข้างหน้า, เลยไปข้างหลังด้วย
หรือการตีความ บางครั้งตีความตรงตัวอักษรก็ไม่ใช่

พระอวยพรนะค๊า  : xemo026 :
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ ก.ย. 05, 2009 8:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Deo Gratias
โพสต์: 1100
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm

อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 12:14 am

"ความรักมั่นคงของพระเจ้าไม่เคยหยุดยั้ง และพระเมตตาของพระเจ้าไม่มีสิ้นสุด" (พคค.3:22)

จากที่อ่านเห็นปัญหาอยู่ 2 ประเด็นใหญ่ๆ

ประเด็นแรก ปัญหาเรื่องพระลักษณะของพระเจ้าระหว่างความยุติธรรมกับความรัก

พระลักษณะของพระเจ้ามีหลายอย่าง แต่ละอย่างสมบูรณ์ในพระองค์ และจะขัดแย้งกันเองไม่ได้ 
ดังนั้นนอกจากจะทรงเป็นพระเจ้าแห่งความรักแล้วพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแห่งความยุติธรรมด้วย

พระเจ้าไม่ได้เปลี่ยนไป แต่มนุษย์ต่างหากที่เปลี่ยน ถ้าตั้งแต่ปฐมกาลมนุษย์ไม่เลือกที่จะละเมิด
แต่เลือกที่จะเชื่อฟังพระเจ้า สิ่งเลวร้ายทั้งหลายก็จะไม่เกิดขึ้น

แต่เมื่อมนุษย์เลือกที่จะทำบาป จึงสมควรแก่โทษอยู่แล้ว
"เพราะว่าทุกคนทำบาป และเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า" (รม.3:23)
"เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย"(รม.6:23)


แต่พระเจ้าก็ยังเปี่ยมด้วยความรัก และไม่ประสงค์ให้มนุษย์คนใดพินาศ (มธ.18:14)
จึงสัญญาจะประทานพระบุตร(พระเยซู)มาตายบนไม้กางเขน เพื่อช่วยผู้ที่เชื่อให้รอด

นี่เป็นการ "สับเปลี่ยน" ที่ดีเลิศ แสดงถึงพระลักษณะด้านความรักและความยุติธรรม
ของพระเจ้าในเวลาเดียวกันอย่างสมบูรณ์ พระพิโรธต่อบาปที่มีต่อมนุษย์ก็ไม่ได้หายวับไปเฉยๆ
แต่ไปตกอยู่ที่กางเขนของพระเยซูที่ทรงรับแทนเราไว้ทั้งหมดด้วยความรัก
และคริสตชนก็รับความชอบธรรมจากพระคริสต์มาทันทีที่เชื่อในพระองค์

ประเด็นที่ 2 ปัญหาเรื่องตรีเอกานุภาพ

ถ้าจะบอกว่าพระเจ้า "มีลูก" แล้วใจดี : emo036 : ฟังแล้วรู้สึกสะดุ้งโหยงๆ ยังไงไม่รู้
เพราะพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์(พระจิต)
เป็นพระเจ้าองค์เดียวกันใน 3 พระภาค

พระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้าและทรงเป็นพระเจ้าในแง่ของพระตรีเอกภาพ
พระองค์ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาและพระจิตตั้งแต่นิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาล

"ในปฐมกาลพระวาทะดำรงอยู่ และพระวาทะทรงสถิตอยู่
กับพระเจ้าและพระวาทะทรงเป็นพระเจ้า" (ยน.1:1)


ดังนั้นความเป็นพระบุตรของพระเจ้าของพระเยซู
จึงไม่ใช่ "ทรงมีลูก" แบบมนุษย์เรา

ศึกษาเพิ่มเติมเรื่องพระตรีเอกภาพ :
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=3835.0
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=5603.0
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 11:18 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zaliaus
โพสต์: 640
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 07, 2007 1:03 am
ที่อยู่: ...

อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 4:21 am

พระเจ้าไม่น่าเปลี่ยนไป๋นะ

ก็ "พระองค์เป็นซึ่งพระองค์เป็น"

มนุษย์เองที่เปลี่ยนไป๋

พิจารณาดูสมัยนี้ โหมดโหดๆของพระเจ้าก็ยังฟังก์ชันอยู่

เพียงแต่เปลี่ยน theme เท่านั้นเอง

มี HIV มี นิวเคลียร์ มี หวัด2009 (พระเจ้าอัพเดทมากๆ)
† † † Hiruma Ryuichi † † †
โพสต์: 605
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 3:19 pm
ที่อยู่: พเนจร
ติดต่อ:

อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 10:45 am

ขอบคุณนะฮะสำหรับทุกคำตอบ

ผมเริ่มเข้าใจในพระองค์มากขึ้นแล้วฮะ ^ ^

ส่วนตรงนี้
†Ecclēsia เขียน: -  อพย 32:27 :จริงๆพระคัมภีร์เต็มข้อเขียนดังนี้
โมเสสพูดว่า "พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ ให้เเต่ละคนคาบดาบไว้กับตัว จงเดินผ่านจากประตูด้านหนึ่ง
ไปถึงประตูอีกด้านหนึ่งของค่าย จงฆ่าผู้ที่ทำผิดไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง เพื่อนบ้านหรือญาติของตน..."

ถ้าอ่านทั้งหมดก็จะเข้าใจว่า พระเจ้าไม่ได้สั่งอะไรมั่วๆตามอารมณ์ ทั้งหมดก็เพื่อช่วยประชากรของพระองค์ต่างหาก
(จริงๆโมเสสถามเเล้วว่าใครอยู่ฝ่ายพระยาห์เวห์ให้ก้าวออกมา...ดังนั้นคนที่ไม่ก้าว ก็คือคนที่ใจเเข็ง ปฏิเสธพระเจ้าผู้ทรงช่วยเขาจากการเป็นทาสเอง)
อย่างไรก็ตาม...เราก็ไม่สามารถตัดสินได้อยู่ดีว่า เขาได้รับความตายนิรันด์ (ตกนรก) เพราะพระเป็นเจ้าทรงความยุติธรรม เเต่ก็เปี่ยมด้วยพระเมตตา
ผมได้อ่านเนื้อหามาจาก http://www.holyzone.net/news/

ถ้าผิดพลาดอย่างไรช่วยกันบอกเว็บมาสเตอร์ของเว็บนี้ด้วยนะฮะ

ถ้าคำสอนที่ผมอ่านมาผิดพลาดประการใดก็ขอโปรดอภัยให้ด้วยนะฮะ ^ ^
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ecclēsia
โพสต์: 976
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
ติดต่อ:

อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 2:50 pm

ไม่ผิดหรอกงับ เเค่พิมพ์ไม่ครบบทเฉยๆค่ะ  : emo045 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 4:34 pm

วิธีการตีความพระคัมภีร์ตามแบบคาทอลิกนะครับ

1. ต้องไม่พยายามเอาสาระทางประวัติศาสตร์มากไปกว่า หรือเหนือกว่าคำสอนเรื่องความรอด และสิ่งที่เกี่ยวกับความรอด

2. พระคัมภีร์ไม่ใช่หนังสือประวัติศาสตร์ แต่มีประวัติศาสตร์แฝงอยู่ในหนังสือ

3. พระคัมภีร์ได้รับการดลใจจากพระเจ้าทุกอย่างจึงถูกต้อง แต่ในส่วนที่พระคัมภีร์ก็มีผู้เขียนเป็นมนุษย์ทำให้พระคัมภีร์มีความผิดพลาดได้

4. ความผิดพลาดในพระคัมภีร์ไม่ได้ทำให้สาระในคำสอนหายไป ตรงกันข้าม ทำให้เราเห็นพระอานุภาพของพระองค์มากขึ้น

ฯลฯ

สำหรับเรื่องนี้ คพ. ออสการ์ ลูกฟาร์ ได้อธิบายไว้ในหนังสือ A Catholic Guide to Bible ว่า

สิ่งที่ผู้เขียนหนังสือเหล่านั้นพยายามจะสื่อก็คือ

1. เราต้องรักพระเจ้าด้วยสุดจิตใจ

2. ชนต่างชาติ หรือชนต่างศาสนาอาจเป็นเหตุของความผิดเพี้ยนทางความเชื่อ หรือกระัทั่งการหันหลังให้พระเจ้า

3. พระเจ้าไม่ได้ทรงเปลี่ยนแปลง แต่เป็นมุมมองของมนุษย์ที่เปลี่ยนไป และความอ่อนแอของมนุษย์ ก็ทำให้การตีความพระวาจาผิดเพี้ยนไปได้เช่นกัน

ในเรื่องการฆ่าให้ตาย หรือคำสั่งฆ่าของพระเจ้านั้น เป็นมุมมองที่ไม่สมบูรณ์ทางเทววิทยา (ตามที่คุณพ่อออสการ์อธิบาย)

ในอดีตก่อนที่หนังสือตระกูลเดียวกับปรีชาญาณ (Psalms/Proberbs/Job/BenSirach/Wisdom/Songs of Salomon etc.) จะถูกเขียนขึ้นมา

ความคิดทางเทววิทยาก็คือ พระเจ้าเป็นบ่อเกิด (Causing) ของทั้่งสิ่งดีและไม่ได้ (อันนี้ก๊ถูกนะ) แต่ไม่ได้หมายความว่า พระองค์ทรงทำการไม่ดี

แต่จริงๆ แล้วเป็นเพราะ พระองค์ทรงอนุญาต (Allowing) ให้ความไม่ดีเกิดขึ้นได้ ไม่เข้าใจก็ไปอ่าน Job ครับ

เพราะ Job ไม่ได้ป่วยเพราะพระเจ้าทรงทำ แต่เพราะพระเจ้าทรงอนุญาตให้มารทำให้ Job ป่วยได้

...ถ้าไม่เข้าใจ ถามเพิ่มได้ครับ ตอนนี้ (ที่ผมตอบ) ไม่รู้จะตอบยาวไปถึงไหนยังไง?...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Deo Gratias
โพสต์: 1100
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm

อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 6:29 pm

Ryuichi เขียน: ขอบคุณนะฮะสำหรับทุกคำตอบ

ผมเริ่มเข้าใจในพระองค์มากขึ้นแล้วฮะ ^ ^

ส่วนตรงนี้
†Ecclēsia เขียน: -  อพย 32:27 :จริงๆพระคัมภีร์เต็มข้อเขียนดังนี้
โมเสสพูดว่า "พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ ให้เเต่ละคนคาบดาบไว้กับตัว จงเดินผ่านจากประตูด้านหนึ่ง
ไปถึงประตูอีกด้านหนึ่งของค่าย จงฆ่าผู้ที่ทำผิดไม่ว่าจะเป็นพี่น้อง เพื่อนบ้านหรือญาติของตน..."

ถ้าอ่านทั้งหมดก็จะเข้าใจว่า พระเจ้าไม่ได้สั่งอะไรมั่วๆตามอารมณ์ ทั้งหมดก็เพื่อช่วยประชากรของพระองค์ต่างหาก
(จริงๆโมเสสถามเเล้วว่าใครอยู่ฝ่ายพระยาห์เวห์ให้ก้าวออกมา...ดังนั้นคนที่ไม่ก้าว ก็คือคนที่ใจเเข็ง ปฏิเสธพระเจ้าผู้ทรงช่วยเขาจากการเป็นทาสเอง)
อย่างไรก็ตาม...เราก็ไม่สามารถตัดสินได้อยู่ดีว่า เขาได้รับความตายนิรันด์ (ตกนรก) เพราะพระเป็นเจ้าทรงความยุติธรรม เเต่ก็เปี่ยมด้วยพระเมตตา
ผมได้อ่านเนื้อหามาจาก http://www.holyzone.net/news/

ถ้าผิดพลาดอย่างไรช่วยกันบอกเว็บมาสเตอร์ของเว็บนี้ด้วยนะฮะ

ถ้าคำสอนที่ผมอ่านมาผิดพลาดประการใดก็ขอโปรดอภัยให้ด้วยนะฮะ ^ ^
ลิงค์ที่ให้มานั่นเป็นพระคัมภีร์ไม่ผิดหรอกค่ะ แต่อาจจะเอามาไม่ครบอย่างที่น้องเจนบอก
แต่ถ้าอ่านเวปนั้น(คำสอนหรือส่วนอื่นที่ไม่ใช่ข้อพระคัมภีร์)แล้วยังไม่เข้าใจ งง สงสัย ข้องใจ
ก็ลองแอดคุยไปกับเวปมาสเตอร์ของเวปนั้นสิคะ สงสัยอะไรก็ถามไปเลย ท่านออกจะใจดี
เชื่อว่าจะได้คำตอบที่อยากรู้อยากแจ่มแจ้งแน่นอนค่ะ  : emo027 :
วอ
โพสต์: 1153
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 7:36 pm

อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 7:34 pm

เคยมีหนังสือของคริสเตียนพูดเรื่องนี้อ่ะนะ แต่อธิบายไม่ถูก
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 10:44 pm

จากที่ผมเคยอ่าน สารของพระบิดา (หนังสือ "พระบิดาตรัสกับลูกๆ ของพระองค์")

พระองค์มิได้ทรงเปลี่ยนไปเลยครับ พระองค์ยังทรงเป็นพระบิดาผู้เปี่ยมไปด้วยความรักอันไร้ขอบเขต

ในพันธสัญญาเดิม ความชั่วได้ท่วมท้นดวงใจมนุษย์ ซึ่งเราไม่อาจรู้ได้ว่าเลวร้ายแค่ไหน

(แต่คาดว่าน่าจะประมาณเหมือนกับในยุคนี้)

และพระองค์ได้ส่งบรรดาประกาศกให้มาเตือนพวกเขาแล้ว แต่พวกเขาก็ยังดื้อด้าน สร้างความปั่นป่วนไม่รู้สิ้น

ด้วยพระยุติธรรมของพระองค์ พระองค์จึงต้องเข้มงวดเพื่อปรามพวกเขา

พระองค์ทรงจำเป็นต้องส่งภัยพิบัติมายังโลก เพื่อชำระล้างมนุษย์ให้บริสุทธิ์ผ่านความทุกข์ยาก

โดยการทำลายล้างทรัพย์สมบัติของเขา หรือแม้กระทั่งความตาย

ดังที่เหตุการณ์น้ำท่วมมหาวินาศ การทำลายล้างเมืองโซดอมและกอมมะราห์ สงครามระหว่างมนุษย์ และอื่นๆ

แต่เมื่อพระองค์ได้ส่งพระผู้ไถ่  พระผู้ช่วยให้รอด ลงมาบังเกิด  ตามที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้

ด้วยการสิ้นพระชนม์ของพระคริสตเจ้า บาปของโลกจึงได้รับการชำระทั้งสิ้นแล้ว

พระบิดาจึงไม่ทรงชำระล้างโลกอีก เพราะเห็นแก่พระคริสตเจ้า

โดยทางพระบุตรนี้ เรามนุษย์เลยได้กลับเป็นบุตรของพระบิดาอีกครั้ง

นี่จึงเป็น พันธสัญญาใหม่ ที่พระองค์ได้มอบให้เรามนุษย์

เราจึงไม่ถูกตัดสินด้วยพระยุติธรรมอีกต่อไป แต่ถูกตัดสินด้วยความรักเยี่ยงบิดาของพระองค์

แต่ถ้าเราไม่กลับใจ ยังรักความชั่ว เราก็ต้องถูกตัดสินด้วยพระยุติธรรมครับ ...



1คร 15:22

มนุษย์ทุกคนตายเพราะอาดัมฉันใด มนุษย์ทุกคนก็จะกลับมีชีวิตเพราะพระคริสตเจ้าฉันนั้น

กาลาเทีย 4:4-7

4:4 แต่เมื่อครบกำหนดแล้ว พระเจ้าก็ทรงใช้พระบุตรของพระองค์มาประสูติจากสตรีเพศ และทรงถือกำเนิดใต้พระราชบัญญัติ
4:5 เพื่อจะทรงไถ่คนเหล่านั้นที่อยู่ใต้พระราชบัญญัติ เพื่อให้เราได้รับฐานะเป็นบุตร
4:6 และเพราะท่านเป็นบุตรแล้ว พระเจ้าจึงทรงใช้พระวิญญาณแห่งพระบุตรของพระองค์เข้ามาในใจของท่าน ร้องว่า "อับบา" คือพระบิดา
4:7 เหตุฉะนั้นท่านจึงไม่ใช่ทาสอีกต่อไป แต่เป็นบุตร และถ้าเป็นบุตรแล้วท่านก็เป็นทายาทของพระเจ้าโดยทางพระคริสต์

แก้ไขล่าสุดโดย Cho เมื่อ อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 10:51 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 11:10 pm

ลูกที่ทำตัวไม่ดีโดนพ่อสั่งสอน  ก็มักจะบ่นว่าพ่อเข้มงวด


แต่ลูกที่เชื่อฟังพ่อและเป็นลูกที่ดี  ก็มักจะมีจิตใจอ่อนโดยนย่อมบอกว่าพ่อเป็นพ่อที่น่ารักมีเมตตา





พระเจ้าไม่ได้เปลี่ยน  แต่มนุษย์ต่างหาก
ภาพประจำตัวสมาชิก
My Hope
โพสต์: 735
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 8:42 am
ติดต่อ:

เสาร์ ก.ย. 12, 2009 4:58 pm

ความคิดของผมนะครับ ผมคิดว่าที่พระเจ้าทรงทำเช่นนั้น เพราะฟาโรห์ดื้อดึง ไม่ยอมปลดปล่อยชาวอิสราแอลให้เป็นอิสระ พระเจ้าเลยทรงลงโทษ ภัยพิบัติ10ประการ ฟาโรห์ไม่สะทบสะท้าน แต่พอภัยพิบัติข้อที่10 ภัยพิบัติ ลูกหัวปี พระเจ้าทรงลงมาสังหารลูกหัวปี ฟาโรห์จึงยอม ปลดปล่อย ชาวอิสราแอลให้เป็นอิสระ
ภาพประจำตัวสมาชิก
negai
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ค. 14, 2009 9:37 pm

ศุกร์ ก.ย. 18, 2009 4:28 pm

Ryuichi เขียน: ผมได้อ่านในพระคำภีร์เก่าแล้ว

เห็นแต่พระเจ้าพาทำสงคราม พาฆ่า

(Exodus 12:29  ต่อมาในเวลาเที่ยงคืน พระเยโฮวาห์ทรงประหารบุตรหัวปีทุกคนในประเทศอียิปต์ ตั้งแต่พระราชบุตรหัวปีของฟาโรห์ผู้ประทับบนพระที่นั่ง จนถึงบุตรหัวปีของเชลยที่อยู่ในคุกใต้ดิน ทั้งลูกหัวปีของสัตว์เลี้ยงทุกตัว

Exodus 32:27 โมเสสจึงกล่าวแก่เขาว่า "พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสสั่งดังนี้ว่า `จงเอาดาบสะพายทุกคนแล้วจงไปมาตามประตูต่างๆทั่วค่าย ทุกๆคนจงฆ่าพี่น้องและมิตรสหายและเพื่อนบ้านของตัวเอง'"

Zechariah 13:9 เราจะเอาหนึ่งในสามนี้ใส่ในไฟและถลุงเขาเหมือนถลุงเงิน และลองดูเขาเหมือนทดลองทองคำ เขาจะร้องทูลออกนามของเราและเราจะฟังเขา เราจะกล่าวว่า `เขาทั้งหลายเป็นชนชาติของเรา' และเขาจะกล่าวว่า `พระเยโฮวาห์คือพระเจ้าของข้าพเจ้า'" )

อ่านแล้วรู้สึกว่า ทำไมพระเจ้าถึงได้ใจร้ายจังเลย T^T

แต่มาอ่านพระคัมภีร์ใหม่ปุ๊ป

แบบว่า

พระองค์ทรงเปลี่ยนโหมดไปเลยอ่า

ใจดี๊ใจดี

พูดถึงแต่ความรักเนอะ ^ ^


เลยอยากรุอ่ะคับ

ว่าพระเจ้าทำไปเปี่ยนไป๋???

พระคัมภีร์ใหม่ส่วนใหญ่จะมีเรื่องความรักของพระเจ้าก็จริง แต่การทุกข์ทรมานของพระเยซูทำให้เรารู้ว่าพระเจ้ารักเรามากแค่ไหน และเป็นความรักที่เหนือความเข้าใจของเรา นั่นคือความเจ็บปวดอันแสนสาหัสของพระเยซูคริสต์

บางคนอาจไม่เข้าใจว่าทำไมพระเจ้าต้องให้พระเยซูตายอย่างทุกข์ทรมานเช่นนี้ แต่เพราะนี่เป็นความคิดของเรา ไม่ใช่ความคิดของพระเจ้า  พระเจ้าคิดอีกแบบ เราคิดอีกแบบ
พระเจ้ามีพระประสงค์ให้พระเยซูมาตาย แต่บางคนอาจคิดว่าพระเจ้าใจร้าย

แม้แต่พระเยซูก็ไม่ได้คิดเหมือนเราเลย พระองค์ทรงน้อมรับพระประสงค์ของพระบิดาทุกอย่างแม้จะต้องตายก็ยอม
แต่มนุษย์เรามักเหมือนกับเปโตรที่เขาบอกพระเยซูว่าอย่าให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับพระองค์ แต่พระเยซูกลับต่อว่าเปโตรเพราะเขาไม่ได้คิดแบบพระเจ้า แต่คิดแบบมนุษย์  ดังนั้นถ้าเราเอาความคิดของเราเป็นหลัก เราก็จะมองพระเจ้าผิดเพี้ยนไป

ในพระคัมภีร์เดิมพระเจ้าทรงสถิตอยู่กับผู้ที่น้อมรับเข้าหาพระองค์ แต่ความจริงแล้วพระองค์รักมนุษย์ทุกคน เพียงแต่ว่าพระองค์ต้องทำทุกสิ่งให้เป็นไปตามแผนการของพระองค์ที่วางไว้ ส่วนมนุษย์ที่ไม่เชื่อฟังและเป็นปฏิปักษ์แล้วตายไป พระเจ้าอาจช่วยวิญญาณพวกเขาหลังจากตายไปแล้วก็ได
ตอบกลับโพส