วอ เขียน:
แงเครื่องดนตรีไม่เป็นเลยสักชิ้น (ไม่ถนัดการปฏิบัติทุกชนิด

)
จะเล่าให้ฟัง
ตอนพี่เป็นยุวชนเห็นรุ่นพี่อนุชนเล่นกีตาร์ก็อยากเล่น แต่พอเล่นครั้งแรกก็คิดว่าตัวเองต้องเล่นไม่ได้ตลอดชีวิต
ใครสอนกี่ครูก็เล่นไม่ได้ เพราะใจคิดว่าไม่ได้ จนพี่จะเรียนเป็นผู้รับใช้จำเป็นต้องสอบเครื่องดนตรี
ให้ผ่านอย่างน้อย 1 ชิ้น ตอนแรกคิดว่าสอบไม่ผ่านแน่ แต่ยังไงก็ต้องผ่านให้ได้ บวกกับความจำเป็นในหน้าที่ที่ถูกเรียกร้องให้ต้องเล่นได้และในที่สุดก็เล่นเป็น
ร้องเพลงก็เหมือนกันตอนเป็นยุวชนพี่เคยสมัครเข้าทีมนมัสการเพราะอยากร้องเพลงกับพวกพี่ๆ
พอหัวหน้าทีมรู้ว่าพี่ร้องเพลงเพี้ยนเค้าให้พี่อยู่ตำแหน่งเสริม(ไมค์แทบจะไม่เปิด) โดยที่ไม่เคยเป็นต้นเสียงหรือร้องคนเดียว ต่อมาพี่ร้องเพี้ยนหนักเข้าเค้าก็ย้ายพี่ไปทำหน้าที่สารบัญเพลงแทน จากนั้นมาพี่กลัวการร้องเพลง
จนกระทั้งหัดเล่นกีตาร์ก็จำเป็นต้องร้องเพลงไปด้วย พอสอบกีตาร์ไหนจะอายที่เล่นไม่เป็น ยังต้องอายที่ร้องเพลงเพี้ยนอีกต่างหาก แต่ในที่สุดพอเล่นกีตาร์ได้ เสียงที่เคยร้องเพี้ยนมากๆ ชนิดหาคีย์ไม่เจอก็ค่อยๆ ปรับมาตามคีย์กีตาร์ที่เล่น ถึงแม้จะยังไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่จุดที่มาถึงนี้ก็เป็นสิ่งที่พี่เองก็คิดไม่ถึง พี่ไม่คิดว่าพี่จะเป็นผู้นำเพลงสรรเสริญและเป็นต้นเสียงนำที่ประชุมใหญ่ร้องเพลงคนเดียวเหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้ แม้บางครั้งจะมีพลาดบ้างก็ตาม
หนุนใจน้องว่าในความคิดของเราคิดว่าเราทำไม่ได้นี่แหละดีแล้ว
เพราะถ้าเมื่อเราทำได้ขึ้นมาเราจะได้รู้ว่าสิ่งนั้นพระเจ้าเป็นผู้ประทานให้
"จงขอแล้วจะได้" อธิษฐานขอพระเจ้าแล้วหมั่นฝึกซ้อมหรือเรียนจากผู้รู้
ถ้าเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า เมื่อถึงเวลาน้องจะเล่นหรือร้องได้เอง
และเมื่อพระเจ้าให้แล้วก็อย่าลืมขอบคุณพระเจ้า
และใช้สิ่งที่พระเจ้าให้นั้นถวายเกียรติแด่พระองค์
ขอพระเจ้าเสริมกำลังให้น้องนะคะ
