มิวสงสัย ( อีกแล้ว )

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
mew
โพสต์: 383
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 15, 2009 1:46 pm
ที่อยู่: บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

อังคาร ต.ค. 27, 2009 7:49 pm

พระคุณการุณย์ คืออะไรครับ  : xemo016 :

พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ กับไม่ครบบริบูรณ์ แตกต่างกันอย่างไรอ่าครับ  : xemo017 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 27, 2009 9:57 pm

ถ้าตอบแบบให้คนพุทธเข้าใจ ก็อาจจะอธิบายได้ว่า พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ คือ การที่พระเจ้าทรงอโหสิกรรมให้กับมนุษย์ที่สำนึกผิด กลับใจ พระองค์ก็ทรงยกหนี้บาปกรรมทั้งหมดให้ ไม่ต้องไปชดใช้อีกไม่ว่าในภพนี้หรือภพหน้า ส่วนพระคุณการรุณย์ไม่ครบบริบูรณ์ หรือบางส่วน ก็เป็นการอภัยในโทษบาปให้บางส่วน ไม่ได้ให้อภัยทั้งหมด สำหรับการประทานพระคุณการุณย์ก็เป็นหน้าที่ของพระศาสนจักรที่จะให้ในโอกาสสำคัญ และผู้ขอรับได้ทำตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
synner
โพสต์: 455
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ส.ค. 22, 2009 10:27 pm

อังคาร ต.ค. 27, 2009 10:08 pm

mew เขียน: พระคุณการุณย์ คืออะไรครับ  : xemo016 :

พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ กับไม่ครบบริบูรณ์ แตกต่างกันอย่างไรอ่าครับ  : xemo017 :
อ่านแล้วพอเข้าใจมะคุณมิว
ภาพประจำตัวสมาชิก
mew
โพสต์: 383
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 15, 2009 1:46 pm
ที่อยู่: บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

อังคาร ต.ค. 27, 2009 10:31 pm

แล้วใครเป็นคนกำหนดอ่าคับ ว่าทำอย่างนี้จะได้รับพระคุณการุณย์  : xemo017 :

และถ้าการที่พระเจ้าทรงอโหสิกรรมให้กับมนุษย์ที่สำนึกผิด กลับใจ

พระองค์ก็ทรงยกหนี้บาปกรรมทั้งหมดให้ ไม่ต้องไปชดใช้ อย่างนี้ก็ไม่ต้องไป

รับอภัยบาปจากบาทหลวงหรอครับ  : xemo017 :
Ebenizer
โพสต์: 25
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ค. 15, 2008 11:20 pm

อังคาร ต.ค. 27, 2009 11:21 pm

แล้วใครเป็นคนกำหนดอ่าคับ ว่าทำอย่างนี้จะได้รับพระคุณการุณย์ 
พระศาสนจักรเป็นผู้กำหนดคับ


ส่วนว่า 
และถ้าการที่พระเจ้าทรงอโหสิกรรมให้กับมนุษย์ที่สำนึกผิด กลับใจ

พระองค์ก็ทรงยกหนี้บาปกรรมทั้งหมดให้ ไม่ต้องไปชดใช้ อย่างนี้ก็ไม่ต้องไป

รับอภัยบาปจากบาทหลวงหรอครับ

ถ้าเราสำนึกผิดอย่างจริงจัง และกลับใจอย่างจริงใจแล้ว บาปนั้นก็ย่อมหลุดออกจากผลของความเสียใจที่ได้กระทำบาปของเราคับ

เพียงแต่ว่า การที่เราไปสารภาพบาปกับพระสงฆ์เพราะว่า พระเยซูเจ้าได้มอบอำนาจกับพระสงฆ์ไว้ ให้ท่านสามารถทำการ "ลบ" บาปของเราได้คับ

โดยเราสารภาพกับพระสงฆ์ แล้วสวดภาวนา และใช้โทษบาปตามที่พระสงฆ์กำหนด และไม่กลับไปทำบาปนั้น ๆ ซ้ำอีกคับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Edwardius
โพสต์: 1392
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 12, 2006 3:02 pm
ที่อยู่: Lamphun, Thailand

อังคาร ต.ค. 27, 2009 11:46 pm

การที่พระยกโทษบาป ไม่ใช่การอโหสิกรรมครับ

ดูที่มา และความแตกต่างของศัพท์ด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ ต.ค. 28, 2009 10:50 am

mew เขียน: แล้วใครเป็นคนกำหนดอ่าคับ ว่าทำอย่างนี้จะได้รับพระคุณการุณย์  : xemo017 :

และถ้าการที่พระเจ้าทรงอโหสิกรรมให้กับมนุษย์ที่สำนึกผิด กลับใจ

พระองค์ก็ทรงยกหนี้บาปกรรมทั้งหมดให้ ไม่ต้องไปชดใช้ อย่างนี้ก็ไม่ต้องไป

รับอภัยบาปจากบาทหลวงหรอครับ  : xemo017 :
เงื่อนไขการรับพระคุณการุณย์ ก็ต้องมีการรับศีลอภัยบาปจากบาทหลวง และการรับศีลมหาสนิทครับ ดังนั้น การจะรับพระคุณการุณย์ได้จึงต้องมีการสารภพาบาปกับบาทหลวงครับ ไม่ใช่อยู่ดี ๆ จะได้รับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ ต.ค. 28, 2009 10:56 am

Edwardius เขียน: การที่พระยกโทษบาป ไม่ใช่การอโหสิกรรมครับ

ดูที่มา และความแตกต่างของศัพท์ด้วยครับ

ผมก็เห็นว่าความหมายคล้ายกัน จึงเอามาอธิบายให้คนที่นับถือศาสนาพุทธนะครับ
คำว่า อโหสิกรรม มาจากคำ ๒ คำ คือ อโหสิ เป็นคำภาษาบาลีแปลว่า " ได้มีแล้ว " หมายความว่า ได้ให้ผลเสร็จสิ้นแล้ว กับคำว่า กรฺม ซึ่งเป็นคำภาษาสันสกฤต แปลว่า การกระทำ หมายถึงการกระทำที่มีเจตนา อโหสิกรรม แปลรวมกันว่า กรรมที่ไม่ส่งผลแก่ผู้กระทำกรรมอีกต่อไป

ตามหลักพระพุทธศาสนา บุคคลที่ทำกรรมดีหรือกรรมชั่วโดยมีเจตนาในการทำกรรมนั้นจะต้องได้รับผลกรรมตามสมควรแก่การกระทำของตน คนที่ทำร้ายผู้อื่นคนที่คดโกงหรือฉ้อราษฎร์บังหลวงก็จะได้รับผลกรรมนั้น เช่น ตนเองได้รับโทษถูกจำคุก หรือลูกหลานประสบเคราะห์ร้ายต่างๆ ทำให้ตนต้องเสียใจทุกข์ทรมานเพราะการสูญเสีย หรือแม้ไม่ได้รับกรรมในชาตินี้ กรรมก็จะติดตามไปส่งผลในภพหน้า



แต่กรรมที่ทำไว้นั้นถ้าเป็นกรรมเบาอาจจะไม่ส่งผลก็ได้ หากทำให้กรรมนั้นเป็นอโหสิกรรม วิธีทำกรรมให้เป็นอโหสิกรรมวิธีหนึ่งคือการยกโทษให้ เช่น เมื่อเราประพฤติล่วงเกินผู้อื่นด้วยกาย วาจา หรือใจ แล้วไปขอให้ผู้ที่เราประพฤติล่วงเกินยกโทษให้ เมื่อท่านยกโทษให้แล้วก็ถือว่ากรรมนั้นเป็นอโหสิกรรม ไม่ให้ผลอีกต่อไปทั้งในภพนี้และภพหน้า

ในภาษาไทยคำว่า อโหสิกรรม จึงกลายมามีความหมายว่า การเลิกแล้วต่อกัน การไม่เอาโทษกัน การเลิกจองเวรกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
เลย์
โพสต์: 1845
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
ติดต่อ:

พุธ ต.ค. 28, 2009 1:15 pm

น้องมิวพอจะเข้าใจมากขึ้นไหมครับ  : xemo016 :

วันอาทิตย์ถ้าน้องมิวอยู่ว่างๆ ลองไปร่วมมิสซา ที่วัดคาทอลิกใกล้บ้านนะครับ  : xemo026 :
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

พุธ ต.ค. 28, 2009 5:27 pm

พระคุณการุญ
คุณพ่อจำเนียร กิจเจริญ

คุณการุญ หมายถึง  การให้อภัยโทษ
ตอบกลับโพส