มารอฟังด้วยคนครับDeo Gratias เขียน: ถามคุณเจนนอกเรื่องนิดนึงนะคะ
กรีกออร์โธดอกซ์ กับ รัสเซียออร์โธดอกซ์ เหมือนหรือต่างกันอย่างไรคะ?

มารอฟังด้วยคนครับDeo Gratias เขียน: ถามคุณเจนนอกเรื่องนิดนึงนะคะ
กรีกออร์โธดอกซ์ กับ รัสเซียออร์โธดอกซ์ เหมือนหรือต่างกันอย่างไรคะ?
ถ้าจะตีความจากพระคัมภีร์จริงๆข้า-พระ-เจ้า เขียน:พระคัมภีร์ตอนนี้ผมเคยถามพ่อเหมือนกันjacky เขียน:ความเชื่อต่างกันกะ catholic ค่ะ แม้แต่การ ละสังขารของ พระนาง (เดี๋ยวมา อธิบายเพิ่มเติม ) ในเรื่ิอง พรหมจารีมารีย์ นั้น ทาง orthodox จะถือว่า พระนางบริสุทธิ ทางจิตวิญญาณAndreas เขียน: ผมก็เพิ่งเคยได้ยินจากคุณ Jacky ว่าแม่พระทรงมีบุตรอีกสองคนโดยวิธีตามธรรมชาติ หลังจากให้กำเนิดพระเยซูเจ้าแล้ว แต่ผมก็สงสัยว่าใครเป็นคนบอกคุณเช่นนั้น เพราะเท่าที่ผมพยายามสืบคนข้อความเชื่อเกี่ยวกับพระนางพรหมจารีมารีย์ของนิกายออร์โธดอกซ์นั้น ต่างก็สอนว่า นิกายนี้เชื่อว่าพระนางทรงเป็นพรหมจรรย์ทั้งก่อนและหลังจากการประสูติของพระเยซูเจ้า พระนางทรงเป็นพรหมจารีเสมอ Ever-Virgin Mary โดยตั้งแต่เยาว์วัยพระนางมารีย์ทรงตั้งพระทัยจะถือพรหมจรรย์ตลอดชีวิต เป็นข้ารับใช้พระเจ้า แต่เมื่อถึงวัยที่จะสมรสบรรดาญาติของให้พระนางมารีย์ทรงแต่งงาน พระนางจึงได้ทรงแต่งงานกับท่านยอเซฟ โดยท่านโยเซฟก็ยินยอมให้พระนางคงความเป็นพรหมจรรย์เอาไว้ต่อไป แม้แต่หลังจากการประสูติของพระเยซูเจ้า พระนางก็ยังทรงเป็นพรหมจรรย์เพื่ออุทิศตนแด่พระเจ้าต่อไป ผมไม่ทราบนะครับ ว่านิกายออร์โธดอกซ์จะมีความเชื่อเรื่องนี้แตกต่างกันอย่างไร
ค่ะ เพราะหลังจาก กำเนิดพระเยซูแล้ว พระนางก็มีบุตร อีกสอง-สามคน นะค่ะ ซึ่งเกิดโดย ธรรมชาติ ค่ะ แต่ ชีวิต พระนางไม่เคยทำบาป และพระเจ้ายังให้เกียรติพระนาง ที่จะให้เป็นพระมารดาของพระเยซูอีกด้วย อันนี้ ถามจาก นักบวช orthodox ค่ะ เรื่องความแตกต่างข้อเชื่อ ในเรื่อง แม่พระ ระหว่าง catholic และ orthodox เพราะรู้มาว่า พี่น้อง catholic จะถือในเรื่อง ศักสิทธิ นิรมล ตลอดกาล ของแม่พระ, ส่วน orthodox จะเชื่อ ความเป็นมุนษย์ในแบบ ธรรมชาติของ แม่พระ แม่พระได้รับการไถ่บาปคนแรก โดยพระเยซู และเชื่อว่าหลังจาก พระเยซู แม่พระมีบุตร อีก ตามนี้
ถ้าอ่านพระคำ ตอนที่ มัทธิว13:55 คนนี้เป็นลูกช่างไม้มิใช่หรือ มารดาของเขาชื่อมารีย์มิใช่หรือ และน้องชายของเขาชื่อยากอบ โยเสส ซีโมน และยูดาสมิใช่หรือ
มาระโก 6:3 คนนี้เป็นช่างไม้บุตรชายนางมารีย์มิใช่หรือ ยากอบ โยเสส ยูดาส และซีโมนเป็นน้องชายมิใช่หรือ และน้องสาวทั้งหลายของเขาก็อยู่ที่นี่กับเรามิใช่หรือ" เขาทั้งหลายจึงหมางใจในพระองค์
อย่างไรก็ตาม orthodox ทุกคนรักและเคารพ ให้เกียรติ แม่พระเสมอ ไม่น้อยไปกว่า ชาว catholic เลย ค่ะ แม้ว่าข้อเชื่อตรงนี้เราต่างกัน
ถ้าอยากศึกษาจริงๆ ให้มาที่วัดดีกว่า ค่ะ แนะนำ อยู่ราชวิถีซอย 22 มทำวัตร เ้ช้าเย็น คุณพ่อ อยู่ทุกวัน
พ่อบอกว่า ถ้าจะตีความตามตัวอักษรไม่ได้เพราะถ้าตีตามตัวอักษร ถ้าเช่นนั้นพระคัมภีร์ตอนอื่นๆก็จะ วุ่นวายแน่ๆ เช่น วิวรณ์ เป็นต้น
พี่น้องในที่นี้น่าจะหมายถึง ญาติ มิตร มากกว่า
อันนี้ ถ้าไปถามคุณพ่อ catholic ก็จะได้คำตอบแบบ ข้อเชื่อ catholic แต่ หากไปถามคุณพ่อ orthodox ก็จะได้ข้อเชื่อ แบบ orthodox นะค่ะข้า-พระ-เจ้า เขียน:พระคัมภีร์ตอนนี้ผมเคยถามพ่อเหมือนกันjacky เขียน:ความเชื่อต่างกันกะ catholic ค่ะ แม้แต่การ ละสังขารของ พระนาง (เดี๋ยวมา อธิบายเพิ่มเติม ) ในเรื่ิอง พรหมจารีมารีย์ นั้น ทาง orthodox จะถือว่า พระนางบริสุทธิ ทางจิตวิญญาณAndreas เขียน: ผมก็เพิ่งเคยได้ยินจากคุณ Jacky ว่าแม่พระทรงมีบุตรอีกสองคนโดยวิธีตามธรรมชาติ หลังจากให้กำเนิดพระเยซูเจ้าแล้ว แต่ผมก็สงสัยว่าใครเป็นคนบอกคุณเช่นนั้น เพราะเท่าที่ผมพยายามสืบคนข้อความเชื่อเกี่ยวกับพระนางพรหมจารีมารีย์ของนิกายออร์โธดอกซ์นั้น ต่างก็สอนว่า นิกายนี้เชื่อว่าพระนางทรงเป็นพรหมจรรย์ทั้งก่อนและหลังจากการประสูติของพระเยซูเจ้า พระนางทรงเป็นพรหมจารีเสมอ Ever-Virgin Mary โดยตั้งแต่เยาว์วัยพระนางมารีย์ทรงตั้งพระทัยจะถือพรหมจรรย์ตลอดชีวิต เป็นข้ารับใช้พระเจ้า แต่เมื่อถึงวัยที่จะสมรสบรรดาญาติของให้พระนางมารีย์ทรงแต่งงาน พระนางจึงได้ทรงแต่งงานกับท่านยอเซฟ โดยท่านโยเซฟก็ยินยอมให้พระนางคงความเป็นพรหมจรรย์เอาไว้ต่อไป แม้แต่หลังจากการประสูติของพระเยซูเจ้า พระนางก็ยังทรงเป็นพรหมจรรย์เพื่ออุทิศตนแด่พระเจ้าต่อไป ผมไม่ทราบนะครับ ว่านิกายออร์โธดอกซ์จะมีความเชื่อเรื่องนี้แตกต่างกันอย่างไร
ค่ะ เพราะหลังจาก กำเนิดพระเยซูแล้ว พระนางก็มีบุตร อีกสอง-สามคน นะค่ะ ซึ่งเกิดโดย ธรรมชาติ ค่ะ แต่ ชีวิต พระนางไม่เคยทำบาป และพระเจ้ายังให้เกียรติพระนาง ที่จะให้เป็นพระมารดาของพระเยซูอีกด้วย อันนี้ ถามจาก นักบวช orthodox ค่ะ เรื่องความแตกต่างข้อเชื่อ ในเรื่อง แม่พระ ระหว่าง catholic และ orthodox เพราะรู้มาว่า พี่น้อง catholic จะถือในเรื่อง ศักสิทธิ นิรมล ตลอดกาล ของแม่พระ, ส่วน orthodox จะเชื่อ ความเป็นมุนษย์ในแบบ ธรรมชาติของ แม่พระ แม่พระได้รับการไถ่บาปคนแรก โดยพระเยซู และเชื่อว่าหลังจาก พระเยซู แม่พระมีบุตร อีก ตามนี้
ถ้าอ่านพระคำ ตอนที่ มัทธิว13:55 คนนี้เป็นลูกช่างไม้มิใช่หรือ มารดาของเขาชื่อมารีย์มิใช่หรือ และน้องชายของเขาชื่อยากอบ โยเสส ซีโมน และยูดาสมิใช่หรือ
มาระโก 6:3 คนนี้เป็นช่างไม้บุตรชายนางมารีย์มิใช่หรือ ยากอบ โยเสส ยูดาส และซีโมนเป็นน้องชายมิใช่หรือ และน้องสาวทั้งหลายของเขาก็อยู่ที่นี่กับเรามิใช่หรือ" เขาทั้งหลายจึงหมางใจในพระองค์
อย่างไรก็ตาม orthodox ทุกคนรักและเคารพ ให้เกียรติ แม่พระเสมอ ไม่น้อยไปกว่า ชาว catholic เลย ค่ะ แม้ว่าข้อเชื่อตรงนี้เราต่างกัน
ถ้าอยากศึกษาจริงๆ ให้มาที่วัดดีกว่า ค่ะ แนะนำ อยู่ราชวิถีซอย 22 มทำวัตร เ้ช้าเย็น คุณพ่อ อยู่ทุกวัน
พ่อบอกว่า ถ้าจะตีความตามตัวอักษรไม่ได้เพราะถ้าตีตามตัวอักษร ถ้าเช่นนั้นพระคัมภีร์ตอนอื่นๆก็จะ วุ่นวายแน่ๆ เช่น วิวรณ์ เป็นต้น
พี่น้องในที่นี้น่าจะหมายถึง ญาติ มิตร มากกว่า
BoYz - The Series เขียน: ในหนังสือ "ข้าแต่พระบิดา"
มีเนื้อหาเกี่ยวกับ การแตกนิกายด้วย เท่าที่จำความได้นี่ เนื้อหาที่สื่อออกมาค่อนข้างที่จะ อยากให้เป็นหนึ่งเดียวในพระกาย
และที่สำคัญคือ ทุกๆๆครั้งที่มีการแตกสายความเชื่อ แตกนิกาย ความเชื่อก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
จริงๆ ถ้าออโธด๊อกส์เป็นคริสตจักรโบราณ ซึ่งแยกจากคาทอลิก เนื่องจากคาทอลิกเปลี่ยนเป็นสากลมากขึ้น ก็น่าจะคงไว้ซึ่งข้อเชื่อเดียวกันนะ
ผมเห็นด้วยในเรื่องที่ว่าแต่ละนิกายมีความข้อความเชื่อบางอย่างแตกต่างกัน ถกทั้งวันก็ไม่จบครับ พระคัมภีร์เป็นปรัชญา มันตีความหมายได้หลายอย่างครับ หนักแน่นในความเชื่อของตนเข้าไว้แล้วกัน แต่ถึงยังไงพระนางก็คือมารดาพระเจ้า ในทุกๆนิกายอยู่ดีครับjacky เขียน:อันนี้ ถ้าไปถามคุณพ่อ catholic ก็จะได้คำตอบแบบ ข้อเชื่อ catholic แต่ หากไปถามคุณพ่อ orthodox ก็จะได้ข้อเชื่อ แบบ orthodox นะค่ะข้า-พระ-เจ้า เขียน:พระคัมภีร์ตอนนี้ผมเคยถามพ่อเหมือนกันjacky เขียน: ความเชื่อต่างกันกะ catholic ค่ะ แม้แต่การ ละสังขารของ พระนาง (เดี๋ยวมา อธิบายเพิ่มเติม ) ในเรื่ิอง พรหมจารีมารีย์ นั้น ทาง orthodox จะถือว่า พระนางบริสุทธิ ทางจิตวิญญาณ
ค่ะ เพราะหลังจาก กำเนิดพระเยซูแล้ว พระนางก็มีบุตร อีกสอง-สามคน นะค่ะ ซึ่งเกิดโดย ธรรมชาติ ค่ะ แต่ ชีวิต พระนางไม่เคยทำบาป และพระเจ้ายังให้เกียรติพระนาง ที่จะให้เป็นพระมารดาของพระเยซูอีกด้วย อันนี้ ถามจาก นักบวช orthodox ค่ะ เรื่องความแตกต่างข้อเชื่อ ในเรื่อง แม่พระ ระหว่าง catholic และ orthodox เพราะรู้มาว่า พี่น้อง catholic จะถือในเรื่อง ศักสิทธิ นิรมล ตลอดกาล ของแม่พระ, ส่วน orthodox จะเชื่อ ความเป็นมุนษย์ในแบบ ธรรมชาติของ แม่พระ แม่พระได้รับการไถ่บาปคนแรก โดยพระเยซู และเชื่อว่าหลังจาก พระเยซู แม่พระมีบุตร อีก ตามนี้
ถ้าอ่านพระคำ ตอนที่ มัทธิว13:55 คนนี้เป็นลูกช่างไม้มิใช่หรือ มารดาของเขาชื่อมารีย์มิใช่หรือ และน้องชายของเขาชื่อยากอบ โยเสส ซีโมน และยูดาสมิใช่หรือ
มาระโก 6:3 คนนี้เป็นช่างไม้บุตรชายนางมารีย์มิใช่หรือ ยากอบ โยเสส ยูดาส และซีโมนเป็นน้องชายมิใช่หรือ และน้องสาวทั้งหลายของเขาก็อยู่ที่นี่กับเรามิใช่หรือ" เขาทั้งหลายจึงหมางใจในพระองค์
อย่างไรก็ตาม orthodox ทุกคนรักและเคารพ ให้เกียรติ แม่พระเสมอ ไม่น้อยไปกว่า ชาว catholic เลย ค่ะ แม้ว่าข้อเชื่อตรงนี้เราต่างกัน
ถ้าอยากศึกษาจริงๆ ให้มาที่วัดดีกว่า ค่ะ แนะนำ อยู่ราชวิถีซอย 22 มทำวัตร เ้ช้าเย็น คุณพ่อ อยู่ทุกวัน
พ่อบอกว่า ถ้าจะตีความตามตัวอักษรไม่ได้เพราะถ้าตีตามตัวอักษร ถ้าเช่นนั้นพระคัมภีร์ตอนอื่นๆก็จะ วุ่นวายแน่ๆ เช่น วิวรณ์ เป็นต้น
พี่น้องในที่นี้น่าจะหมายถึง ญาติ มิตร มากกว่า
ถ้าจะมาถกกันในเรื่อง ศาสนศาสตร์ วันนี้ทั้งวันก็ไม่จบ เพราะเป็นความเห็นของแต่ละ นิกาย ค่ะ แต่สิ่ง หนึ่งที่เหมือนกันก็คือ ความ รักของ พระเจ้า และแม่พระ การให้เกียรติและบูชา
พระนาง ในฐานะพระมารดา ที่ยิ่งใหญ่ เสมอ
jacky เขียน:BoYz - The Series เขียน: ในหนังสือ "ข้าแต่พระบิดา"
มีเนื้อหาเกี่ยวกับ การแตกนิกายด้วย เท่าที่จำความได้นี่ เนื้อหาที่สื่อออกมาค่อนข้างที่จะ อยากให้เป็นหนึ่งเดียวในพระกาย
และที่สำคัญคือ ทุกๆๆครั้งที่มีการแตกสายความเชื่อ แตกนิกาย ความเชื่อก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
จริงๆ ถ้าออโธด๊อกส์เป็นคริสตจักรโบราณ ซึ่งแยกจากคาทอลิก เนื่องจากคาทอลิกเปลี่ยนเป็นสากลมากขึ้น ก็น่าจะคงไว้ซึ่งข้อเชื่อเดียวกันนะ
อันนี้ เจนไม่ขอออกความเห็นค่ะ เพราะข้อเขียนต่างๆ นั้น ขึ้นอยู่ว่าใครเขียน และใครมีอิทธิพล พูดไปไม่ดีเลยเดี๋ยวกลายมาเป็น ทะเลาะกันไปป่าวๆ อยากให้รักกันไว้ค่ะ เรามีกันอยู่แค่ ครึ่งเสี้ยวเดียว ของสังคมไทย จริงๆ
ตรงนี้ ที่นี่น่าจะรับความเชื่อจาก ทางโรมัน catholic จากข้ออ้างอิงนี้Andreas เขียน:
ต่อไปนี้เป็นคำแปลบทความที่ผมอ้างอิงเอาไว้ ซึ่งมาจากพระสังฆราชของออร์โธดอกซ์เอง ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า "แม่พระไม่เคยให้กำเนิดบุตรคนอื่น ๆ หลังจากที่ให้กำเนิดพระเยซูเจ้าแล้ว"
ผมประหลาดใจที่คุณ Jacky บอกว่า คริสตจักรออร์โธดอกซ์ของคุณสอนว่าแม่พระมีลูกอีกสองสามคนกับนักบุญโยเซฟ เพราะผมได้ทราบมานานแล้วว่าในความเชื่อนี้ ทางออร์โธดอกซ์เชื่อเหมือนคาทอลิก ว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นบุตรคนเดียวของพระแม่มารีย์ และพระนางทรงเป็นพรหมจารีเสมอทั้งกายและวิญญาณ ผมจึงคิดว่าคุณ Jacky อาจจะเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนไปในข้อความเชื่อนี้ ผมจึงอยากให้คุณ Jacky ลองไปศึกษาเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง เพราะถ้าหากเชื่อไม่ถูกต้อง จะเป็นอะไรที่ต้องรีบแก้ไขโดยด่วนครับ เพราะท่านสังฆราชของออร์โธดอกซ์เองก็ยังเชื่อไม่เหมือนที่คุณ Jacky เชื่ออยู่ในเวลานี้ ผมไม่ได้หมายถึงทางคาทอลิกนะครับ
การทรงเป็นพรหมจารีเสมอของพระมารดาพระเจ้า (On the Ever-Virginity of the Theotokos (Mother of God)
โดย Archbishop Lazar Puhalo (ท่านเป็นพระสังฆราชเกษียรของพระศาสนจักรออร์โธดอกซ์แห่งแคนาดา ที่ชื่อเสียงในด้านงานเขียนทางเทววิทยา)
เวปไซต์อัครสังฆมณฑลที่ท่านเคยปกครอง http://www.archdiocese.ca/e_bishop/archbishop.htm
พระศาสนจักรออร์โธดอกซ์ประกาศยืนยันเสมอมาว่าพระนางมารีย์พระมารดาของพระเจ้า ทรงเป็นพรหมจารีเสมอ ข้อความที่อ้างถึง “บุตรชายคนแรกของพระนางมารีย์ (Mary's "Firstborn)” ได้ถูกตีความอย่างผิด ๆ นับไม่ถ้วนจากผู้ที่สอนผิด
“และเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับเธอจนกระทั่งเธอได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรก” (มัทธิว 1:25)
ข้อความนี้ดูเหมือนว่าจะได้รับการแปลว่า “เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับเธอจนกระทั่งหลังจาก...” อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ได้หมายความเช่นนั้น ภาษากรีกคำว่า “eos” ระบุความหมายที่แท้จริงของ “เขาไม่ได้มีสัมพันธ์ทางเพศกับเธอตั้งแต่ก่อนที่เธอจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตร” ผู้นิพนธ์พระวรสารประกาศความจริงนี้เพื่อที่จะยืนยันกับเราว่า นักบุญโยเซฟไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการปฏิสนธิของพระเยยซูเจ้า การใช้คำว่า “eos ou” ไม่ได้เรียกร้องความเข้าใจว่า นักบุญโยเซฟได้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับพระนางมารีย์หลังจากที่พระคริสตเจ้าได้ประสูติแล้ว มันเพียงแต่ระบุว่า ในการประสูติของพระเยซูเจ้า นักบุญโยเซฟไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับพระนางมารีย์ตั้งแต่ก่อนหน้าจนกระทั่งพระประสูติกาลของของพระเยซูเจ้า ดังนั้นท่านจึงไม่ได้เป็นบิดาแท้ของพระเยซูเจ้า นี่เป็นเพียงการใช้คำโดยทั่วไป ซึ่งเป็นแบบมาตรฐานและคุ้นเคยในการแสดงออก การใช้คำแบบนี้ และมีความหมายในทำนองเดียวกันนี้ ยังพบได้ในที่อื่น ๆ ของพระคัมภีร์ ซึ่งเป็นการแสดงออกที่ใช้เป็นมาตรฐาน และมันไม่ได้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนในสิ่งที่ผู้มิใช่ออร์โธดอกซ์อ้างว่ามันหมายความอย่างนั้น ในหนังสือซามูเอล ฉบับที่ 2 6:23 เช่น “และมิลคาล ธิดาของกษัตริย์ซาอูล ไม่มีบุตรจนกระทั่ง (eos)เธอถึงแก่กรรม” เธอได้มีบุตรหลังจากเธอถึงแก่กรรมแล้วหรือไม่? ไม่ใช่อย่างแน่นอน และนักบุญโยเซฟก็ไม่ได้ “มีความสัมพันธ์” กับพระนางมารีย์ หลังจากที่พระเยซูเจ้าประสูติแล้ว ในหนังสือปฐมกาล 8:7 “โนอาห์ได้ส่งอีกาตัวหนึ่งออกไป แล้วมันก็ไม่บินกลับมาอีกเลย จนกระทั่ง (eos) หลังจากน้ำลดไปจากแผ่นดิน” เราทราบจากพระคัมภีร์ว่าอีกาไม่ได้บินกลับไปที่เรือ พระคัมภีร์บันทึกว่ามันไม่บินกลับมา “จนกระทั่งหลังจาก” แต่ในความเป็นจริง มันไม่ได้บินกลับมาอีกเลย พระคัมภีร์ยังระบุว่า “โยเซฟไม่ได้มีสัมพันธ์ทางเพศกับเธอ จนกระทั่งเธอได้ให้กำเนินบุตรชาย....” แต่ในความเป็นจริง โยเซฟไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเธอเลย ในตัวอย่างอื่น ๆ พระคัมภีร์กล่าวว่า “ พระเจ้าทรงตรัสกับองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าว่า “เชิญประทับนั่งเบื้องขวาของเรา จนกว่า(eos) เราจะทำให้ศัตรูของท่านให้เป็นที่รองพระบาทของท่าน” (มาร์โก 12:36) นี่หมายความว่า พระคริสตเจ้าจะทรงประทับเบื้องขวาของพระบิดา เมื่อศัตรูของพระองค์โดนปราบให้ราบคาบไปแล้วหรือ? หามิได้ ดังนั้นพระคัมภีร์จึงไม่ได้หมายความว่า “ โยเซฟไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับพระนางมารีย์ จนกระทั่งหลังจากที่เธอได้ให้กำเนิดบุตรคนแรก แล้วหลังจากนั้นถึงมีความสัมพันธ์กัน” พระคัมภีร์กล่าวเพียงว่า “เขาไม่ได้มีความสัมพันธ์กับเธอจนกระทั่งเธอได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรก” ซึ่งพระคัมภีร์ต้องการสื่อความหมายเพียงแค่ ท่านโยเซฟไม่ได้มีส่วนเกี่ยวของกับการปฏิสนธิของพระเยซูเจ้า ท่านไม่ได้เป็นบิดาทางสายเลือดของพระเยซูเจ้า
ธรรมประเพณีศักดิ์สิทธิ์ตระหนักถึงสิ่งนี้ โดยได้รับมาจากคำพยานยืนยันของพระนางมารีย์เอง เหมือนเช่นธรรมประเพณีอื่น ๆ ในพระศาสนจักร ทั้งได้รับการทรงนำและปกป้องจากการประทับอยู่ของพระจิตเจ้า ตามธรรมบัญัติของโมเสส พระนางมารีย์ทรงเป็นคู่หมั้นของท่านโยเซฟ ซึ่งท่านเป็นคนสูงวัย อาจจะมีศักดิ์เป็นลุงของพระนางมารีย์ (เช่นเดียวกับที่พระจิตเจ้าทรงนำเราในธรรมประเพณี) ดังนั้น การสมรสของท่านทั้งสองจึงเป็นการแต่งงานตามธรรมบัญญัติของโมเสส (ตามนิตินัย) ซึ่งมิได้อนุญาตให้มีเพศสัมพันธ์กัน เพราะพระนางมารีย์เป็นผู้ให้กำเนิดบุตรหัวปี ซึ่งเป็นพระเมสซิยาห์ คำว่า “บุตรหัวปี” ก็มีความหมายในตัวของมันเองอยู่แล้ว อาจจะหมายถึงบุตรคนเดียว ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีบุตรคนอื่น ๆ ตามมาอีก ตามกฎของโมเสสบุตรหัวปีของคนและสัตว์มีความสำคัญเป็นพิเศษในทางศาสนา และนี่คือเห็นผลที่เน้นการบุตรหัวปีของพระเยซูเจ้า
และที่สุด ท่านอาจจะถามว่า “ตามธรรมชาติ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่พระนางมารีย์จะยังคงรักษาความเป็นพรหมจรรย์เอาไว้หลังจากที่ให้กำเนิดพระเยซูเจ้าแล้ว?” พระคัมภีร์ได้ให้คำตอบง่าย ๆ ไว้ว่า “สำหรับมนุษย์เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้า ทุกอย่างเป็นไปได้” (มัทธิว 19:26)
ความหมายและตัวตนของพี่น้องของพระเยซูเจ้า
ใครคือ “พี่น้องขององค์พระผู้เป็นเจ้า”(มัทธิว 12:46-47) แล้วถ้าพระองค์มีพี่น้อง ทำไมเราจึงเรียก พระมารดาพระเจ้าว่า “พรหมจารีเสมอ”?
พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่กล่าวถึงพี่น้องของพระเยซูเจ้าหลายครั้ง โดยมีสี่ครั้งที่ระบุชื่อ เพื่ออธิบายว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นนั้นไม่ยาก เพราะพระคัมภีร์ระบุชื่อของพวกเขาสี่คน พร้อมทั้งระบุว่าใครเป็นบิดามารดาของพวกเขาด้วย
มัทธิว (13:55) และมาร์โก (6:3) l,ได้ให้รายชื่อพี่น้องของพระเยซูเจ้าไว้ คือ ยากอบ, โยเสส, ซีมอน และยูดาห์
เราทราบอย่างแน่นอนว่า ยากอบและโยเสสไม่ใช่บุตรของพระนางมารีย์และนักบุญโยเซฟ เพราะพระคัมภีร์ระบุว่า พวกเขาเป็นบุตรของมารีย์อีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นภรรยาของ อัลเฟอัสหรือเคลโอปัส (มัทธิว 27:56 ; มาร์โก15:40) ยากอบก็เช่นกัน ถูกระบุว่าเป็นบุตรของอัลเฟอัส ในรายชื่อของบรรดาอัครสาวก (มัทธิว 10:3 ; มาร์โก 3:18 ; ลูกา 6:15 ; กิจการ 1:13) ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องเหล่านี้ รวมทั้งบรรดาน้องสาวด้วย มักถูกพบในบริบทของธรรมเนียมการใช้ภาษาฮีบรู - อะราเมอิก เพราะแม้กระทั่งลูกพี่ลูกน้องก็ยังเรียกว่าเป็นพี่น้อง กรณีนี้ยังเหมือนกันในภาษากรีกและสลาฟ หรือแม้ในวัฒนธรรมปัจจุบัน ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องคาดเดาเลย เพราะมันเป็นสิ่งที่เรารู้เป็นอย่างดีจากครอบครัวและชีวิตของเราเอง
เรามีตัวอย่างที่สมบูรณ์สำหรับกรณีนี้จากพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม คำที่ใช้บรรยายความสัมพันธ์ของอับราฮัมกับโลท ในหนังสือปฐมกาล 14:16 "adelphi" ในภาษากรีก ซึ่งแปลได้ว่า “พี่น้อง” ในภาษาอังกฤษ แต่อย่างไรก็ตาม เราก็รู้ว่าโลทเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องของอับราฮัม เราพยายามแปลคำภาษากรีก "adelphos" และ "adelphi" จากคำภาษาอะราเมอิคที่เราไม่รู้จัก และไม่มีใครรู้ว่าความหมายที่ถูกต้องคืออะไร ซึ่งมันมาถึงเราในภาษากรีกและภาษาอังกฤษตามลำดับ ในคำว่า “พี่น้อง”
หากดูตามที่ระบุในพระคัมภีร์ คงน่าจะไม่มีพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกับพระเยซูเจ้า มิฉะนั้น พระองค์ก็มิจะทรงมอบพระมารดาของพระองค์ให้อยู่ในความดูแลของนักบุญยอห์น ผู้นิพนธ์พระวรสาร(ยอห์น19:26) ที่เชิงไม้กางเขน ที่จริงหากพระองค์ทรงทำเช่นนั้น ก็เท่ากับเป็นการที่พระองค์ทรงไม่ให้ความเคารพกับพี่น้องของพระองค์อย่างยิ่ง ที่จะให้พวกเขาเป็นผู้ดูแลมารดาของตน ในคำทำนายจากพระคัมภีร์ พันธสัญญาเดิม ได้อธิบายถึงการแต่งงานแบบถือพรหมจรรย์ และการเป็นพรหมจารีเสมอของพระมารดาของพระคริสตเจ้า และเราก็มีประจักษ์พยานขององค์พระจิตเจ้าที่ตรัสกับพระศาสนจักรว่าพระนางมารีย์ “ทรงเป็นพรหมจารีเสมอ” (หนึ่งในข้อเชื่อเกี่ยวกับพระนางมารีย์)
นอกจากหลักฐานจากพระคัมภีร์ที่ว่าในธรรมเนียมของฮีบรู “พี่น้องชายหญิง” ไม่จำเป็นต้องหมายถึง “พี่น้องร่วมบิดามารดา” ธรรมประเพณีของเราชาวออร์โธดอกซ์สอนเราว่า พระนางพรหมจารีมารีย์ทรงเป็นธิดาคนเดียวของนักบุญโยอากิมและนักบุญอันนา แต่ใน ยอห์น 19:25 กล่าวว่า” พระมารดาของพระเยซูเจ้าทรงยืนอยู่ข้างไม้กางเขนของพระองค์พร้อมกับน้องสาวของพระนาง มารีย์ภรรยาของเคลโอพัส และมารีย์ชาวมักดาลา” ถ้าพระวัติศาสตร์พระศาสนจักรของเราถูกต้อง เหตุใดพระนางมารีย์ถึงได้มีน้องสาว? ข้อสงสัยแรกของเราคือ ผู้หญิงทั้งสองนั้นมีชื่อมารีย์เหมือนกัน !ไม่มีครอบครัวใดที่ตั้งชื่อลูกสาวสองคนของตนเองด้วยชื่อเดียวกัน! ดังนั้น นี่คือหลักฐานว่าความสัมพันะระหว่างสตรีสองคนนี้ต้องเป็นอะไรที่แตกต่างจากความหมายของคำว่า “น้องสาว” ในภาษาปัจจุบัน
ข้อสงสัยที่สอง ก็คือ พระคัมภีร์ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า สตรีนี้ชื่อมารีย์ภรรยาของเคลโอพัส หรืออัลเฟอัสในภาษาอะราเมอิค ที่พระเยซูเจ้าทรงใช้พูด ดังนั้นที่มีการเรียก “พี่น้อง” ของพระเยซูเจ้าที่พบใน มาร์โก 6:3 จึงมีความหมายเป็นอย่างอื่นอย่างชัดเจน คือ เป็นบุตรของมารีย์ภรรยาของเคลโอพัส ที่มีศักดิ์เป็น “น้องสาว” ของพระนางมารีย์
ดังนั้น พระคัมภีร์จึงแสดงให้เห็นว่า “พี่น้อง” ของพระเยซูเจ้า จึงไม่ใช่ “พี่น้องร่วมบิดามารดา” ของพระองค์ แต่มีความสัมพันธ์ทางใดทางหนึ่งกับพระองค์แน่นอน และไม่มีหลักฐานจากพระคัมภีร์ที่ระบุว่าพระนางมารีย์ทรงให้กำเนิดบุตรคนอื่น ๆ อีก นอกจากพระเยซูเจ้า พระเจ้าของเรา
เห็นพระองค์ทรงประสูติเป็นทารกน้อยที่เบธเลเฮม เชิญสรรพสิ่งสรรเสริญพระองค์!
ขอพระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าของเรา
jacky เขียน: อันนี้ ถ้าไปถามคุณพ่อ catholic ก็จะได้คำตอบแบบ ข้อเชื่อ catholic แต่ หากไปถามคุณพ่อ orthodox ก็จะได้ข้อเชื่อ แบบ orthodox นะค่ะ
ถ้าจะมาถกกันในเรื่อง ศาสนศาสตร์ วันนี้ทั้งวันก็ไม่จบ เพราะเป็นความเห็นของแต่ละ นิกาย ค่ะ แต่สิ่ง หนึ่งที่เหมือนกันก็คือ ความ รักของ พระเจ้า และแม่พระ การให้เกียรติและบูชา
พระนาง ในฐานะพระมารดา ที่ยิ่งใหญ่ เสมอ
เห็นด้วยกับคุณเจนค่ะjacky เขียน: อันนี้ เจนไม่ขอออกความเห็นค่ะ เพราะข้อเขียนต่างๆ นั้น ขึ้นอยู่ว่าใครเขียน และใครมีอิทธิพล พูดไปไม่ดีเลยเดี๋ยวกลายมาเป็น ทะเลาะกันไปป่าวๆ อยากให้รักกันไว้ค่ะ เรามีกันอยู่แค่ ครึ่งเสี้ยวเดียว ของสังคมไทย จริงๆ
ตกลงตามนี้นะครับ ..? หรือยังไงอีก เหอๆAndreas เขียน:
พระนางมารีย์ผู้ทรงเป็นพรหมจารีตลอดกาล
คำสอนของโรมันคาทอลิก และออร์โธดอกซ์ตะวันออก สอนว่าพระนางมารีย์ไม่ได้ทรงเป็นพรหมจารีเพียงแค่การการให้กำเนิดพระเยซูเจ้าเท่านั้น แต่พระนางยังคงรักษาความเป็นพรหมจารีจนตลอดชีวิตของพระนาง โปรเตสแตนท์บางกลุ่มก็เชื่อเช่นเดียวกัน รวมทั้ง ลูเธอร์ สวิงลี่ และคาลวิน แต่โปรเตสแตนท์รุ่นใหม่เชื่อว่าหลังจากนั้นพระนางทรงมีบุตรคนอื่น ๆ กับท่านโยเซฟอีก เพราะพระคัมภีร์กล่าวถึงพี่น้องของพระเยซูเจ้า คาทอลิกและออร์โธดอกซ์อธิบายการอ้างถึงพี่น้องของพระเยซูเจ้านี้ว่า หมายถึงญาติที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง (พี่น้องเลี้ยง)หรือเป็นบุตรที่เกิดจากการแต่งงานคราวก่อนของท่านโยเซฟ
ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่ออร์โธดอกซ์ไทยจะมีความเชื่อที่ผิดเพี้ยนไปจากออร์โธดอกซ์อื่น ๆ ทั่วโลกครับ
อันนี้ทราบค่ะ แต่ พระศาสนจักร Orthodox ไม่ยอมรับ ข้อเชื่อนี้ ค่ะ เพราะถือว่าเป็นของ ใหม่และมาจาก วาติกันAndreas เขียน: วันที่ 8 ธันวาคม ทางคาทอลิกจัดให้เป็นวันสมโภชการปฏิสนธินิรมลของแม่นางมารีย์ ซึ่งประกาศอย่างเป็นทางการโดยสมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ในปี ค.ศ. 1854 ซึ่งที่จริงแล้ว พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกได้มีการฉลองการปฏิสนธินิรมลของแม่พระตั้งแต่ ค.ศ.1476 ในสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาซิสตุสที่ 4 และพระนางพรหมจารีมารีย์ได้ประจักษ์มาที่เมืองลูรดส์ ประเทศฝรั่งเศษเมื่อไป ค.ศ 1858 หรือเพียง 4 ปี หลังจากที่สมเด็จพระสันตะปาปาประกาศข้อความเชื่อนี้ นักบุญแบร์นาแดตถามผู้ที่ประจักษ์มาหาเธอว่า "ท่านชื่ออะไร" สตรีนั้นตอบเธอว่า " "I am the Immaculate Conception" (Qué soï era immaculado councepcioũ)" "ฉันคือการปฏิสนธินิรมล" ซึ่งในขณะนั้น แบร์นาแดตเป็นเพียงเด็กหญิงยากจนไร้การศึกษา และไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนเลย
หยุดโต้เถียงก้ับคุณ jacky เถอะครับพี่เพชรAndreas เขียน:
ต่อไปนี้เป็นคำแปลบทความที่ผมอ้างอิงเอาไว้ ซึ่งมาจากพระสังฆราชของออร์โธดอกซ์เอง ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า "แม่พระไม่เคยให้กำเนิดบุตรคนอื่น ๆ หลังจากที่ให้กำเนิดพระเยซูเจ้าแล้ว"
ผมประหลาดใจที่คุณ Jacky บอกว่า คริสตจักรออร์โธดอกซ์ของคุณสอนว่าแม่พระมีลูกอีกสองสามคนกับนักบุญโยเซฟ เพราะผมได้ทราบมานานแล้วว่าในความเชื่อนี้ ทางออร์โธดอกซ์เชื่อเหมือนคาทอลิก ว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นบุตรคนเดียวของพระแม่มารีย์ และพระนางทรงเป็นพรหมจารีเสมอทั้งกายและวิญญาณ ผมจึงคิดว่าคุณ Jacky อาจจะเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนไปในข้อความเชื่อนี้ ผมจึงอยากให้คุณ Jacky ลองไปศึกษาเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง เพราะถ้าหากเชื่อไม่ถูกต้อง จะเป็นอะไรที่ต้องรีบแก้ไขโดยด่วนครับ เพราะท่านสังฆราชของออร์โธดอกซ์เองก็ยังเชื่อไม่เหมือนที่คุณ Jacky เชื่ออยู่ในเวลานี้ ผมไม่ได้หมายถึงทางคาทอลิกนะครับ
อันนี้ ต้องขอยอม รับความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ แม่พระ นะค่ะ คือ เราเชื่อ เหมือน catholic ว่าพระนาง ไม่เคยมีลูก อันนี้ เสียใจจริงๆยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน:หยุดโต้เถียงก้ับคุณ jacky เถอะครับพี่เพชรAndreas เขียน:
ต่อไปนี้เป็นคำแปลบทความที่ผมอ้างอิงเอาไว้ ซึ่งมาจากพระสังฆราชของออร์โธดอกซ์เอง ซึ่งระบุไว้ชัดเจนว่า "แม่พระไม่เคยให้กำเนิดบุตรคนอื่น ๆ หลังจากที่ให้กำเนิดพระเยซูเจ้าแล้ว"
ผมประหลาดใจที่คุณ Jacky บอกว่า คริสตจักรออร์โธดอกซ์ของคุณสอนว่าแม่พระมีลูกอีกสองสามคนกับนักบุญโยเซฟ เพราะผมได้ทราบมานานแล้วว่าในความเชื่อนี้ ทางออร์โธดอกซ์เชื่อเหมือนคาทอลิก ว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นบุตรคนเดียวของพระแม่มารีย์ และพระนางทรงเป็นพรหมจารีเสมอทั้งกายและวิญญาณ ผมจึงคิดว่าคุณ Jacky อาจจะเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนไปในข้อความเชื่อนี้ ผมจึงอยากให้คุณ Jacky ลองไปศึกษาเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง เพราะถ้าหากเชื่อไม่ถูกต้อง จะเป็นอะไรที่ต้องรีบแก้ไขโดยด่วนครับ เพราะท่านสังฆราชของออร์โธดอกซ์เองก็ยังเชื่อไม่เหมือนที่คุณ Jacky เชื่ออยู่ในเวลานี้ ผมไม่ได้หมายถึงทางคาทอลิกนะครับ
พี่ต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่า
แม้นิกายออธอดอกซ์ แม้จะมีที่มามาจากคาทอลิก
แต่ระบอบของเขาไม่ได้มี Metropolitan(มหานคร)เดียว เหมือนที่นิกายโรมันคาทอลิคมีนครวาติกัน
แต่นิกายออธอดอกซ์มี metropolitan 15สาย
ซึ่งก็มีความเชื่อแตกต่างกันในปลีกย่อย
จึงไม่แปลกครับ ที่พี่เพชรจะเจอเอกสารของ คานาดาออธอดอกซ์รับรองการเป็นพรหมจารีย์เสมอของแม่พระ
แต่รัสเซียออธอดอกซ์สายซึ่งคุณjacky สังกัดอยู่ไม่ยอมรับ
ถ้าเป็นความเข้าใจผิดของคุณ Jacky ก็ไม่เป็นไรครับ สรุปคือในเรื่อง Ever virginity ของพระนางมารีย์เราเชื่อเหมือนกัน ส่วนเรื่องอื่น เราเคารพซึ่งกันและกันครับjacky เขียน:
ต้อง ขออภัยในความเข้าใจ ผิด เรื่อง Virgin นะค่ะ หวังว่า แม่พระคงให้อภัย ในเรื่อง การไม่ยอมรับ นั้น จะเป็นเรื่อง การปฏิสนธินิรมล ของ แม่พระ ค่ะ
ขอโทษครับ ไม่เข้าใจตรงนี้ยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน: แต่นิกายออธอดอกซ์มี metropolitan 15สาย
ซึ่งก็มีความเชื่อแตกต่างกันในปลีกย่อย
ถ้าเป็น สาย Eastren orthodox นั้นความเชื่อจะไม่ ต่างกัน เลย ตรงนี้ เจนบอกแล้ว่า เข้าใจผิด แต่ที่ orthodox ไม่ยอมรับในเรื่ิอง ปฎิสนธินิลมนBoYz - The Series เขียน:ขอโทษครับ ไม่เข้าใจตรงนี้ยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน: แต่นิกายออธอดอกซ์มี metropolitan 15สาย
ซึ่งก็มีความเชื่อแตกต่างกันในปลีกย่อย
15 สายที่ว่า นี่เป็นลักษณะ เป็นสายแบบเดียวกันกับ โปรเตสแตนหรือป่าวครับ
ครับๆๆถามเฉยๆๆๆ กำลังเรียนรู้ข้อมูลหนะครับ อิอิjacky เขียน:ถ้าเป็น สาย Eastren orthodox นั้นความเชื่อจะไม่ ต่างกัน เลย ตรงนี้ เจนบอกแล้ว่า เข้าใจผิด แต่ที่ orthodox ไม่ยอมรับในเรื่ิอง ปฎิสนธินิลมนBoYz - The Series เขียน:ขอโทษครับ ไม่เข้าใจตรงนี้ยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน: แต่นิกายออธอดอกซ์มี metropolitan 15สาย
ซึ่งก็มีความเชื่อแตกต่างกันในปลีกย่อย
15 สายที่ว่า นี่เป็นลักษณะ เป็นสายแบบเดียวกันกับ โปรเตสแตนหรือป่าวครับ
ส่วน 15 สังฆมลทน นั้นความเชื่อ ไม่ต่างกันค่ะ ยืนยันได้
-*- น่าแปลกที่ ดูเหมือนว่าลูกพี่ลูกน้องห่าง ๆ ของเรา (อิสลาม) กลับเชื่อเรื่องการปฏิสนธินิรมลของแม่พระjacky เขียน:ถ้าเป็น สาย Eastren orthodox นั้นความเชื่อจะไม่ ต่างกัน เลย ตรงนี้ เจนบอกแล้ว่า เข้าใจผิด แต่ที่ orthodox ไม่ยอมรับในเรื่ิอง ปฎิสนธินิลมนBoYz - The Series เขียน:ขอโทษครับ ไม่เข้าใจตรงนี้ยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน: แต่นิกายออธอดอกซ์มี metropolitan 15สาย
ซึ่งก็มีความเชื่อแตกต่างกันในปลีกย่อย
15 สายที่ว่า นี่เป็นลักษณะ เป็นสายแบบเดียวกันกับ โปรเตสแตนหรือป่าวครับ
ส่วน 15 สังฆมลทน นั้นความเชื่อ ไม่ต่างกันค่ะ ยืนยันได้
อิสลามไม่ได้เชื่อนะImmanuel (MichaelPaul) เขียน:-*- น่าแปลกที่ ดูเหมือนว่าลูกพี่ลูกน้องห่าง ๆ ของเรา (อิสลาม) กลับเชื่อเรื่องการปฏิสนธินิรมลของแม่พระjacky เขียน:ถ้าเป็น สาย Eastren orthodox นั้นความเชื่อจะไม่ ต่างกัน เลย ตรงนี้ เจนบอกแล้ว่า เข้าใจผิด แต่ที่ orthodox ไม่ยอมรับในเรื่ิอง ปฎิสนธินิลมนBoYz - The Series เขียน: ขอโทษครับ ไม่เข้าใจตรงนี้
15 สายที่ว่า นี่เป็นลักษณะ เป็นสายแบบเดียวกันกับ โปรเตสแตนหรือป่าวครับ
ส่วน 15 สังฆมลทน นั้นความเชื่อ ไม่ต่างกันค่ะ ยืนยันได้