รวมกระทู้น้องเจนจิรา
ผมเคยวาดโดจินชิ เขียนๆงวาดๆไว้ว่า.....
โดราเอมอนโดนโนบิตะหลอกด้วยหนู จนหัวใจวาย เครื่องยนต์ช็อต
โดเรมี่มาช่วยซ่อม จนทุกอย่างดีทุกประการเพียงแค่ โดราเอมอนจะกลายเป็นคนไข้ โรคประสาท
จึงส่งไปบ้าน"หลังคาแดง"
โนบิตะเสียใจจึงประดิษ "หูแมว" สำเร็จ จึงไปให้โดราเอม่อน
โดราเอม่อนดีใจ อาการป่วยจึงหายไปอย่าปริทิ้ง
แต่ทว่า.....
เมื่อโดเรม่อนใส่หูแมวปุ๊บ พลังLolicon+Nekocon ก็แพร่เข้าสู่ร่ายกาย
ทำให้โดราเอม่อนผันตนเองเป็นโอตาขุนิยมเด็กLoli จนกลายมาเป็น
"ผู้ก่อตั้ง สมาคมพรากผู้เยาว์แห่งชาติ(หน้า)"
เอวัง....
เสียดายที่ไฟล์ที่วาด หายไปหมดอะ
โดราเอมอนโดนโนบิตะหลอกด้วยหนู จนหัวใจวาย เครื่องยนต์ช็อต
โดเรมี่มาช่วยซ่อม จนทุกอย่างดีทุกประการเพียงแค่ โดราเอมอนจะกลายเป็นคนไข้ โรคประสาท
จึงส่งไปบ้าน"หลังคาแดง"
โนบิตะเสียใจจึงประดิษ "หูแมว" สำเร็จ จึงไปให้โดราเอม่อน
โดราเอม่อนดีใจ อาการป่วยจึงหายไปอย่าปริทิ้ง
แต่ทว่า.....
เมื่อโดเรม่อนใส่หูแมวปุ๊บ พลังLolicon+Nekocon ก็แพร่เข้าสู่ร่ายกาย
ทำให้โดราเอม่อนผันตนเองเป็นโอตาขุนิยมเด็กLoli จนกลายมาเป็น
"ผู้ก่อตั้ง สมาคมพรากผู้เยาว์แห่งชาติ(หน้า)"
เอวัง....
เสียดายที่ไฟล์ที่วาด หายไปหมดอะ
-
- โพสต์: 363
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 12, 2008 10:21 pm
- ที่อยู่: World
BloodyCross เขียน:ก็ตอนเดียวกับในเครดิทของ จขกท.นี่ครับ†PricELiFE† เขียน:
แต่ผมเคยอ่านตอนจบที่ พี่ ๆ พูดมาหมดแล้ว แล้วก็เคยอ่านอีกแบบหนึ่งด้วย
ตอนที่โดราเอม่อน แบตหมด โนบิตะเลยเรียกโดเรมี่ มา
เธอบอกว่า จะต้องเปลี่ยนแบต แต่ความทรงจำทั้งหมดจะหายไปด้วย
จากนั้นโนบิตะเลยตั้งใจเรียน กลายเป็น ด็อกเตอร์ และคิดหาวิธี ชาร์ตแบตโดเรม่อนได้สำเร็จ
แล้วประโยคแรกที่โดเรม่อนพูดขึ้นมา คือ "โนบิตะ นายทำการบ้านหรือยัง ?"
![]()

เอ่อ อันนั้นผมไม่ได้คลิกเข้าไปดูครับ
แหะๆ
โทษทีครับ ๆ
คนละคนกันแล้วมั้ง ค่ัะที่ เจนพูดถึง หนึ่ง คือ ประกาศก หญิง ชื่อว่า นาง ยูดิธ ชาวยิว ก่อน คริสต์กาล
Yes, it is different person. I just answered the questions regarding to a Catholic saint named Judith and the name Immauel.
Judith from the Book of Judith in the Bible has never been recognized as a saint by the Catholic church. Our Saint Judith's parents, of the 13th century, might liked the Judith in the Bible so much that they named our saint after her.

Yes, it is different person. I just answered the questions regarding to a Catholic saint named Judith and the name Immauel.
Judith from the Book of Judith in the Bible has never been recognized as a saint by the Catholic church. Our Saint Judith's parents, of the 13th century, might liked the Judith in the Bible so much that they named our saint after her.

Yan Agape เขียน: คนละคนกันแล้วมั้ง ค่ัะที่ เจนพูดถึง หนึ่ง คือ ประกาศก หญิง ชื่อว่า นาง ยูดิธ ชาวยิว ก่อน คริสต์กาล
Yes, it is different person. I just answered the questions regarding to a Catholic saint named Judith and the name Immauel.
Judith from the Book of Judith in the Bible has never been recognized as a saint by the Catholic church. Our Saint Judith's parents, of the 13th century, might liked the Judith in the Bible so much that they named our saint after her.
![]()
อ๋อ อย่างนี้นี้เอง สรุปว่า นางยูดิธ ไม่ได้เป็น ประกาศก หญิงของ ฝั่ง โรมัน
เชื่อปะ เรื่องประกาศกหญิง เป็นสิ่งที่ถกเถียงกันในหมู่ผู้ศรัทธาพระเจ้าเยอะมากว่า
ประกาศก(นบี) สามารถเป็นผู้หญิงได้หรือไม่
เพราะมีมุสลิมบางคนมีความเชื่อ(ขอย้ำว่าบางคนนะครับ เดี๋ยวจะหาว่ามีการทำทำบิดอะฮฺ)ว่า
ท่านหญิงมัรยัม(พระแม่มารีย์ พรหมจารีย์)เป็นนบีหญิง
สำหรับผม ไม่สำคัญว่าเป็นประกาศกหรือเปล่า
แต่กิจการที่ท่านทำ เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากๆ
และสามารถไปชี้แจงกับคนที่ชอบว่า"พระคัมภีร์ไม่ยอมยกย่องสตรี"ได้ดี
ประกาศก(นบี) สามารถเป็นผู้หญิงได้หรือไม่
เพราะมีมุสลิมบางคนมีความเชื่อ(ขอย้ำว่าบางคนนะครับ เดี๋ยวจะหาว่ามีการทำทำบิดอะฮฺ)ว่า
ท่านหญิงมัรยัม(พระแม่มารีย์ พรหมจารีย์)เป็นนบีหญิง
สำหรับผม ไม่สำคัญว่าเป็นประกาศกหรือเปล่า
แต่กิจการที่ท่านทำ เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากๆ
และสามารถไปชี้แจงกับคนที่ชอบว่า"พระคัมภีร์ไม่ยอมยกย่องสตรี"ได้ดี
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
เห็นด้วยเลยครับแมวเทา แห่งจารีตตะวันออก เขียน: เชื่อปะ เรื่องประกาศกหญิง เป็นสิ่งที่ถกเถียงกันในหมู่ผู้ศรัทธาพระเจ้าเยอะมากว่า
ประกาศก(นบี) สามารถเป็นผู้หญิงได้หรือไม่
เพราะมีมุสลิมบางคนมีความเชื่อ(ขอย้ำว่าบางคนนะครับ เดี๋ยวจะหาว่ามีการทำทำบิดอะฮฺ)ว่า
ท่านหญิงมัรยัม(พระแม่มารีย์ พรหมจารีย์)เป็นนบีหญิง
สำหรับผม ไม่สำคัญว่าเป็นประกาศกหรือเปล่า
แต่กิจการที่ท่านทำ เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากๆ
และสามารถไปชี้แจงกับคนที่ชอบว่า"พระคัมภีร์ไม่ยอมยกย่องสตรี"ได้ดี
ผมเชื่อเสมอพระแม่มารีย์เป็นผู้หญิงผู้รับใช้พระเจ้าที่ดี และเป็นแบบอย่างแก่ผู้รับใช้และชีวิตคริสตชนทุกคน โดยเฉพาะผู้รับใช้ผู้หญิงครับ

(แต่เดี๋ยวนี้ บางคนในบางคริสตจักร รู้สึกจะมีเรื่องของความมักใหญ่ใฝ่สูง และกลัวไม่มีตำแหน่งในคริสตจักรเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย )
ปล.แต่ก็ยังดี ที่คุณเธอยังขวนขวายในงานของพระเจ้า

ไม่รู้ว่าใครเคยอ่านไหม ถ้าเคยแล้วต้องขอโทษที่รกกระทู้
ใครเคยดู stay alive อาจจะสงสัยว่า Bloody countess ในเกมส์(ในหนัง) นั้นมีตัวตนจริงหรือไม่
คำ ตอบก็คือมีตัวตนจริง ชื่อ Elizabeth Bathory และยังถูกบันทึกว่าเป็นฆาตรกรหญิงที่ฆ่าคนมากที่สุดใ นโลกอีกด้วย และยังเป็นเชื้อพระวงศ์อีกด้วย
Elizabeth Báthory อลิซาเบธ บาโธรี่ เป็นหญิงสาวที่เกิด ในตระกูลบาโธรี่ (Báthory Family) อันเป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงของฮังการี่ ( Hungary ) และสืบสายมาจากตระกูลแฮบสเบิร์กอันเก่าแก่ของยุโรป ตระกูลบาโธรี่ร่ำรวยและมีอำนาจมากมาย ปกครองแคว้นทรานซิลวาเนียมาหลายต่อหลายยุคสมัย หากก็เป็นธรรมดาของตระกูลเก่าแก่ที่มีการแต่งงานกันเองในหมู่เครือญาติเพื่อ รักษา ทรัพย์สมบัติและอำนาจเอาไว้ ซึ่งนั้นทำให้เกิดความ บกพร่องทางพันธุ์กรรมขึ้น และคาดว่าเธอเองก็เช่นกัน คือเธอมีอาการป่วยเป็นโรคปวดหัวเรื้อรัง มีคำกล่าวว่า " มีอยู่ครั้งหนึ่ง อลิ ซาเบธ บาโธรี่ เกิดปวดหัวอย่างหนัก ซึ่งทำให้เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้เธอกัดเนื้อของสาวรับใช้จนขาด ทำให้สวยใช้ร้องด้วยความเจ็บปวด และเป็นที่น่าประหลาดใจคือ อลิซาเบธ บาโธรี่ เกิดหายปวดหัวในทันที " และนั้นเป็นการเปิด หน้าประวัติศาสตร์ของ ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก ด้วยจำนวนเหยื่อที่คาดว่าสูงถึง 650 ศพ
ประวัิติชีวิต และข้อมูลส่วนตัว ของ อลิซาเบธ บาโธรี่ ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก
* 1560 เธอเกิดวันที่ 7 สิงหาคม
* 1614 ตายเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม รวมอายุได้ 54 ปี 14 วัน
* เธอ เป็นหญิงสาวที่มีความฉลาด มีความรู้ทั้งภาษา ลาติน( Latin ) ภาษาเยอรมัน( German ) และภาษากรีต ( Greek ) และสนใจในเรื่องทางวิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์ ( Astronomy ) ซึ่งผิดจากหญิงสาวในยุคสมัยนั้น
* อุปนิสัย เป็นคนเหี้ยมโหด เป็นพวกชอบใช้ความรุนแรง ( Sadistic ) อารมณ์ไม่แน่นอนขึ้นลง ผิดกับหน้าตาที่สวยงามของเธอ
* เธอได้รับฉายาว่า ชายาโลหิต ( Blood Countess ) และ ราชินี ผีดูดเลือด ( Countess Dracula )
* 1575 เมื่ออายุได้ 15 ปี เธอได้หมั้นหมาย และต่อมาได้แต่งงาน กับ ท่านเคานท์ฟีเรนซ์ นาดาสดี้ ( Ferenc Nádasdy ) ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเธอ ที่อายุมากกว่าเธอ 11 ปี ในวันที่ 8 พฤษภาคม 1575 โดยมีแขกมาร่วมงานกว่า 4500 คน ทั้งสองย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่ปราสาทเซติซ Čachtice Castle ใช้ชีวิตแต่งงานด้วยกัน 29 ปี
* 1578 หลังแต่งงาน เนื่องจาก ท่านท่านเคานท์ฟีเรนซ์ นาดาสดี้ ( Ferenc Nádasdy ) มักจะต้องออกไปรบกับพวก Ottomans เป็นระยะเวลานาน ทิ้งให้เธออยู่เพียงลำพัง และอาการปวดหัวของเธอก็ กำเริบบ่อย และรุนเแรงขึ้น ทำให้เธอยิ่ง สนุกกับการ ทรมานสวยใช้ ด้วยวิธีที่เหี้ยมโหดขึ้นเรื่อย เช่น การปักเข็มเข้าที่ปลายเล็บ การทาน้ำผึ้งลงบนตัวแล้วปล่อยไว้ในห้องที่มี รังมด มากมาย เพื่อให้ มด รุมกัด ยุ่งเกี่ยวกับคาถา มนต์ดำ และคบชู้สู่ชาย
* 1585 เธอให้กำเนิดลูกสาวชื่อว่า แอนนา และต่อมาให้กำเนิดบุตรสาว และบุตรชายชื่อว่า Ursula และ Andras แต่ทั้งคู่เสียชีวิตในเวลาไม่นานนัก
* 1598 เธอให้กำเนิดบุตรอีก 2 คนคือ Katherine และ Paul
* 1604 ท่านท่านเคานท์ฟีเรนซ์ นาดาสดี้ สามีของเธอเสียชีวิต ด้วยวัย 47 ปี ในสนามรบ ทิ้งทรัพย์สมบัติ และอำนาจของตระกลูไว้ในมือของ อลิซาเบธ บาโธรี่ และันั้นยิ่งทำให้เธอยิ่ง โหดเหี้ยม อำมหิต ยิ่งขึ้น และเพียงไม่กี่วันหลังจาก อลิซาเบธ บาโธรี่ ได้ข่าวการเสียชีวิตของสามี แม่สามี ซึ่งมีปัญหา กับ อลิซาเบธ ก็ลาโลกในเวลาไกล้เคียงกัน เป็นเป็นที่ลือกันว่า เกิดจากการที่ อลิซาเบธ วางยาพิษฆ่า แม่สามีของตัวเอง เป็นการเปิดฉากตำนาน สุดสยอง ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก ณ ที่นี้
ตำนานความโหดเหี้ยมของ อลิซาเบธ บาโธรี่ ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก
Blood stories ตำนานเลือด หลังจากการเสียชีวิตของสามี เธอก็เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรเล็กๆ ของเธอ แต่นั้นยังไม่ใช้ทั้งหมดที่เธอต้องการ เธอยังคงต้องการความสวยอันเป็นนิรันดร์ เธอจึงมีการเชิญแม่มด หมอผีจำนวนมากมาปรุงตาอายุวัฒนะ แต่ไม่มียาขนานใดจะสามารถหยุดยั่งความแก่ชราของเธอลงได้ มีอยู่วันหนึ่งสายใช้ที่มีหน้าที่ดูแลเธอเกิดหวีผมของ เธอขาดมีหลายเส้น เธอโกรษมากจึงใช้เชิงเทียนที่อยู่ใกล้มือกระหน่ำตีสาวใช้จนขาดใจตาย แต่ก็ยังไม่ยอมหยุด เธอยังคงกระหน่ำตีจนเหนื่อยอ่อนจึงได้หยุด ความโกรษเกี้ยวลง และเธอก็พบว่ามีเลือดจำนวนมากกระเด็นมาเปราะเปื้ยนตามเนื้อตัว เป็นจำนวนมาก และเมื่อเธอได้จึงระคราบเลือดนั้นออกกับพบว่า ผิวพรรรณบริเวณดังกล่าวกับดูอิ่มเอิบ เต่งตึงมีน้ำมีนวลขึ้น จึงทำให้เธอพบว่า ยาที่จะคงความสวยอันเป็นนิรันดร์ให้เกิดเธอนั้ินคือ เลือดสดๆของหญิงสาวพรมจรรย์นั้นเอง wowboom
* เธอ จึงเริ่มรวบรวมหญิงสาวจากดินแดนของเธอ โดยนำเสื้อผ้าไปแลกมา หญิงสาวและพ่อแม่ต่างดีใจที่จะได้เข้าไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในปราสาท แต่พวกเธอเข้าใจผิด เมื่อผ่านเข้าประตูปราสาทไม่มีหญิงสาวรายใดได้หวนกลับออกมาอีกเป็นครั้งที่ สอง ต่างจบชีวิต ด้วยการ ทรามาน ต่างๆ เพื่อบำบัดอาการปวดศีรษะของ เธอ และวาระสุดท้ายคือการถูกรีดเลือดสดๆ ออกมาเพื่อประทินความงามแก่ อลิซาเบธ บาโธรี่
มีบันทึกกล่าวว่า มีบางครั้งที่เธอจัดงานเลี้ยงอย่างหรูหรา และเชิญเด็กสาวหน้าตาดี 60 คน มาร่วมงานเลี้ยง และงานเลี้ยงนั้นก็จบลงด้วยการที่ทหารกรูกันเข้ามา รวมฆ่า รุมข่มขืน เด็กสาวเหล่านั้น แล้วตัดชิ้นส่วนร่างกาย ตัดหัว โยนลงอ่างอาบน้ำของ อลิซาเบธ บาโธรี่ แต่เนื่องจากอ่างโลหิตนั้นเต็มช้าไม่ทันใจเธอ เธอจึงใช้การปาดคอเหยื่อ ให้เลือดสาดกระเด็นมาอาบผิวกายเธอ ประหนึ่งเป็นฝักบัวโลหิต แต่เนื่องจากเสียงร้องโหยหวนทำให้เธอรำคาญ เ็ด็กสาวคนต่อไปจึงถูกเย็บปาก เพื่อป้องกันการร้องให้เธอรำคาญใจเธอ
ด้วย ความคิดอันวิตถาร ของ อลิซาเบธ บาโธรี่ ยังไม่หยุดยั้ง เธอได้ตามตัวช่างมาจากเยอรมันเพื่อสร้างเครื่องมือ ที่มีชื่อว่า สาวพรหมจรรย์เหล็ก( Iron Maiden ) โดยเป็นหีบโลหะวางตั้ง มีบานเปิดด้านหน้า ขนาดเท่าคนจริง ภายในมีเหล็กแหลมยาวจำนวนมาก ใช้สำหรับทิ่มแทงร่างกายของเหยื่อ ให้เลือดค่อยๆไหลออกมา จากแผลแล้วไหลออกที่รูด้านล่างของหีบ ที่ต่อเข้ามายังอ่างอาบโลหิตของ เธอ
# 1610 ธันวาคม ด้วยความเลว และชั่วร้ายทั่วไปที่มิอาจปกปิดได้มิด เมื่อเรื่องถึงยังราชสำนัก พระเจ้าแมทเทียสที่ 2 ( King Mathias II ) จึงได้ส่ลอร์ด ชอร์น เธอร์โซ ( Lord Palatine George Thurzo ) ซึ่งเป็นญาติกับ อลิซาเบธ บาโธรี่ มาสือสวนเรื่องนี้ เมื่อท่านลอร์ด ไปได้ลงไปยังห้องใต้ดิน ก็พบกับภาพอัน สุดสยอง และแสนอนาถเป็นอย่างยิ่ง
# 1611 มกราคม เธอถูกตัดสิ้นมีความผิดจริง แต่เนื่องจากด้วยอิทธิพลของตระกูลบาโธรี่ เธอจึงได้รับระเว้นโทษตาย แต่บรรดาผู้สมรู้ร่วมคิดของ เธอต่างถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการเผาทั้งเป็น
# 1614 อลิ ซาเบธ บาโธรี่ ถูกโทษให้คุมขังไว้ในปราสาทของเธอ ในหอคอย ที่หน้าต่าง และประตูถูกปิดตาย ให้หลือเพียงช่องเล็กเพื่อส่งอาหาร และเครื่องดืมแก่เธอเท่านั้น และในวันที่ 21 สิงหาคม เธอได้เสียชีวิตลง รวมอายุได้ 54 ปี 14 วัน
สุดท้ายสิ่งที่เธอแสวงหา ซึ่งความงามอันเป็นนิรันดร์ กับกลายเป็นความน่าเกลียดอันเป็นนิรันดร์ ที่จะถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ด้วยตัวเลขของเหยื่อที่ถูกเธอสังหารกว่า 650 ชีวิต จึงนำเธอไปสู่ ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก ซึ่งยากยิ่งจะหาใครมาเทียบเคียง
(ปราสาทของ elizabeth ที่ยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้)
ตระกูลบาโธรี่ ตัดสินใจขัง เอลิซาเบธ ไว้ในห้องอิฐปราสาทของเธอเอง
เปิดเพียงแค่ช่องเล็กนิดเดียว ที่พอส่งข้าวส่งน้ำให้ได้เท่านั้น
เธอมีชีวิตอยู่แบบนั้นได้ 4 ปี และขาดใจตายในที่สุด
(ปราสาทของ elizabeth ....มีใครสนใจอยากไปเดินทัวร์ไหมว่า)
หลังจากสิ้นสุดตระกูล Bathory ทางประเทศฮังการี่ สั่งห้ามพูดถึงเรื่องของ Elizabeth bathory
200ปี หากได้ยินจะต้องโทษ หรือจำคุก
(แต่ สุดท้ายแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีผู้หญิงคนนึงที่สืบเชื้อสายตรงจาก ตระกูล Bathory ...ซึ่งได้รับการยืนยันตัวตนแล้วว่า เป็นสายเลือด Bathory จริง และยังมีชีวิตอยู่ ณ ตอนนี้ )
ปล......พอดิ้นรนหาเรื่องนี้มาดูจริงๆ คาดหวังจะเจอฉากที่นึกไว้กลับไม่มี กลายเป็นเหมือนหนัง Drama นึกขำตัวเองที่อุตส่าหามาดูความคิดอันวิตถาร ของ อลิซาเบธ บาโธรี่ ยังไม่หยุดยั้ง เธอได้ตามตัวช่างมาจากเยอรมันเพื่อสร้างเครื่องมือ ที่มีชื่อว่า สาวพรหมจรรย์เหล็ก( Iron Maiden ) โดยเป็นหีบโลหะวางตั้ง มีบานเปิดด้านหน้า ขนาดเท่าคนจริง ภายในมีเหล็กแหลมยาวจำนวนมาก ใช้สำหรับทิ่มแทงร่างกายของเหยื่อ ให้เลือดค่อยๆไหลออกมา จากแผลแล้วไหลออกที่รูด้านล่างของหีบ ที่ต่อเข้ามายังอ่างอาบโลหิตของ เธอ
และเพราะElizabeth Bathory ถือว่าเป็นฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก

ใครเคยดู stay alive อาจจะสงสัยว่า Bloody countess ในเกมส์(ในหนัง) นั้นมีตัวตนจริงหรือไม่
คำ ตอบก็คือมีตัวตนจริง ชื่อ Elizabeth Bathory และยังถูกบันทึกว่าเป็นฆาตรกรหญิงที่ฆ่าคนมากที่สุดใ นโลกอีกด้วย และยังเป็นเชื้อพระวงศ์อีกด้วย
Elizabeth Báthory อลิซาเบธ บาโธรี่ เป็นหญิงสาวที่เกิด ในตระกูลบาโธรี่ (Báthory Family) อันเป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงของฮังการี่ ( Hungary ) และสืบสายมาจากตระกูลแฮบสเบิร์กอันเก่าแก่ของยุโรป ตระกูลบาโธรี่ร่ำรวยและมีอำนาจมากมาย ปกครองแคว้นทรานซิลวาเนียมาหลายต่อหลายยุคสมัย หากก็เป็นธรรมดาของตระกูลเก่าแก่ที่มีการแต่งงานกันเองในหมู่เครือญาติเพื่อ รักษา ทรัพย์สมบัติและอำนาจเอาไว้ ซึ่งนั้นทำให้เกิดความ บกพร่องทางพันธุ์กรรมขึ้น และคาดว่าเธอเองก็เช่นกัน คือเธอมีอาการป่วยเป็นโรคปวดหัวเรื้อรัง มีคำกล่าวว่า " มีอยู่ครั้งหนึ่ง อลิ ซาเบธ บาโธรี่ เกิดปวดหัวอย่างหนัก ซึ่งทำให้เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้เธอกัดเนื้อของสาวรับใช้จนขาด ทำให้สวยใช้ร้องด้วยความเจ็บปวด และเป็นที่น่าประหลาดใจคือ อลิซาเบธ บาโธรี่ เกิดหายปวดหัวในทันที " และนั้นเป็นการเปิด หน้าประวัติศาสตร์ของ ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก ด้วยจำนวนเหยื่อที่คาดว่าสูงถึง 650 ศพ
ประวัิติชีวิต และข้อมูลส่วนตัว ของ อลิซาเบธ บาโธรี่ ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก
* 1560 เธอเกิดวันที่ 7 สิงหาคม
* 1614 ตายเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม รวมอายุได้ 54 ปี 14 วัน
* เธอ เป็นหญิงสาวที่มีความฉลาด มีความรู้ทั้งภาษา ลาติน( Latin ) ภาษาเยอรมัน( German ) และภาษากรีต ( Greek ) และสนใจในเรื่องทางวิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์ ( Astronomy ) ซึ่งผิดจากหญิงสาวในยุคสมัยนั้น
* อุปนิสัย เป็นคนเหี้ยมโหด เป็นพวกชอบใช้ความรุนแรง ( Sadistic ) อารมณ์ไม่แน่นอนขึ้นลง ผิดกับหน้าตาที่สวยงามของเธอ
* เธอได้รับฉายาว่า ชายาโลหิต ( Blood Countess ) และ ราชินี ผีดูดเลือด ( Countess Dracula )
* 1575 เมื่ออายุได้ 15 ปี เธอได้หมั้นหมาย และต่อมาได้แต่งงาน กับ ท่านเคานท์ฟีเรนซ์ นาดาสดี้ ( Ferenc Nádasdy ) ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเธอ ที่อายุมากกว่าเธอ 11 ปี ในวันที่ 8 พฤษภาคม 1575 โดยมีแขกมาร่วมงานกว่า 4500 คน ทั้งสองย้ายไปใช้ชีวิตอยู่ที่ปราสาทเซติซ Čachtice Castle ใช้ชีวิตแต่งงานด้วยกัน 29 ปี
* 1578 หลังแต่งงาน เนื่องจาก ท่านท่านเคานท์ฟีเรนซ์ นาดาสดี้ ( Ferenc Nádasdy ) มักจะต้องออกไปรบกับพวก Ottomans เป็นระยะเวลานาน ทิ้งให้เธออยู่เพียงลำพัง และอาการปวดหัวของเธอก็ กำเริบบ่อย และรุนเแรงขึ้น ทำให้เธอยิ่ง สนุกกับการ ทรมานสวยใช้ ด้วยวิธีที่เหี้ยมโหดขึ้นเรื่อย เช่น การปักเข็มเข้าที่ปลายเล็บ การทาน้ำผึ้งลงบนตัวแล้วปล่อยไว้ในห้องที่มี รังมด มากมาย เพื่อให้ มด รุมกัด ยุ่งเกี่ยวกับคาถา มนต์ดำ และคบชู้สู่ชาย
* 1585 เธอให้กำเนิดลูกสาวชื่อว่า แอนนา และต่อมาให้กำเนิดบุตรสาว และบุตรชายชื่อว่า Ursula และ Andras แต่ทั้งคู่เสียชีวิตในเวลาไม่นานนัก
* 1598 เธอให้กำเนิดบุตรอีก 2 คนคือ Katherine และ Paul
* 1604 ท่านท่านเคานท์ฟีเรนซ์ นาดาสดี้ สามีของเธอเสียชีวิต ด้วยวัย 47 ปี ในสนามรบ ทิ้งทรัพย์สมบัติ และอำนาจของตระกลูไว้ในมือของ อลิซาเบธ บาโธรี่ และันั้นยิ่งทำให้เธอยิ่ง โหดเหี้ยม อำมหิต ยิ่งขึ้น และเพียงไม่กี่วันหลังจาก อลิซาเบธ บาโธรี่ ได้ข่าวการเสียชีวิตของสามี แม่สามี ซึ่งมีปัญหา กับ อลิซาเบธ ก็ลาโลกในเวลาไกล้เคียงกัน เป็นเป็นที่ลือกันว่า เกิดจากการที่ อลิซาเบธ วางยาพิษฆ่า แม่สามีของตัวเอง เป็นการเปิดฉากตำนาน สุดสยอง ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก ณ ที่นี้
ตำนานความโหดเหี้ยมของ อลิซาเบธ บาโธรี่ ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก
Blood stories ตำนานเลือด หลังจากการเสียชีวิตของสามี เธอก็เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรเล็กๆ ของเธอ แต่นั้นยังไม่ใช้ทั้งหมดที่เธอต้องการ เธอยังคงต้องการความสวยอันเป็นนิรันดร์ เธอจึงมีการเชิญแม่มด หมอผีจำนวนมากมาปรุงตาอายุวัฒนะ แต่ไม่มียาขนานใดจะสามารถหยุดยั่งความแก่ชราของเธอลงได้ มีอยู่วันหนึ่งสายใช้ที่มีหน้าที่ดูแลเธอเกิดหวีผมของ เธอขาดมีหลายเส้น เธอโกรษมากจึงใช้เชิงเทียนที่อยู่ใกล้มือกระหน่ำตีสาวใช้จนขาดใจตาย แต่ก็ยังไม่ยอมหยุด เธอยังคงกระหน่ำตีจนเหนื่อยอ่อนจึงได้หยุด ความโกรษเกี้ยวลง และเธอก็พบว่ามีเลือดจำนวนมากกระเด็นมาเปราะเปื้ยนตามเนื้อตัว เป็นจำนวนมาก และเมื่อเธอได้จึงระคราบเลือดนั้นออกกับพบว่า ผิวพรรรณบริเวณดังกล่าวกับดูอิ่มเอิบ เต่งตึงมีน้ำมีนวลขึ้น จึงทำให้เธอพบว่า ยาที่จะคงความสวยอันเป็นนิรันดร์ให้เกิดเธอนั้ินคือ เลือดสดๆของหญิงสาวพรมจรรย์นั้นเอง wowboom
* เธอ จึงเริ่มรวบรวมหญิงสาวจากดินแดนของเธอ โดยนำเสื้อผ้าไปแลกมา หญิงสาวและพ่อแม่ต่างดีใจที่จะได้เข้าไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในปราสาท แต่พวกเธอเข้าใจผิด เมื่อผ่านเข้าประตูปราสาทไม่มีหญิงสาวรายใดได้หวนกลับออกมาอีกเป็นครั้งที่ สอง ต่างจบชีวิต ด้วยการ ทรามาน ต่างๆ เพื่อบำบัดอาการปวดศีรษะของ เธอ และวาระสุดท้ายคือการถูกรีดเลือดสดๆ ออกมาเพื่อประทินความงามแก่ อลิซาเบธ บาโธรี่
มีบันทึกกล่าวว่า มีบางครั้งที่เธอจัดงานเลี้ยงอย่างหรูหรา และเชิญเด็กสาวหน้าตาดี 60 คน มาร่วมงานเลี้ยง และงานเลี้ยงนั้นก็จบลงด้วยการที่ทหารกรูกันเข้ามา รวมฆ่า รุมข่มขืน เด็กสาวเหล่านั้น แล้วตัดชิ้นส่วนร่างกาย ตัดหัว โยนลงอ่างอาบน้ำของ อลิซาเบธ บาโธรี่ แต่เนื่องจากอ่างโลหิตนั้นเต็มช้าไม่ทันใจเธอ เธอจึงใช้การปาดคอเหยื่อ ให้เลือดสาดกระเด็นมาอาบผิวกายเธอ ประหนึ่งเป็นฝักบัวโลหิต แต่เนื่องจากเสียงร้องโหยหวนทำให้เธอรำคาญ เ็ด็กสาวคนต่อไปจึงถูกเย็บปาก เพื่อป้องกันการร้องให้เธอรำคาญใจเธอ
ด้วย ความคิดอันวิตถาร ของ อลิซาเบธ บาโธรี่ ยังไม่หยุดยั้ง เธอได้ตามตัวช่างมาจากเยอรมันเพื่อสร้างเครื่องมือ ที่มีชื่อว่า สาวพรหมจรรย์เหล็ก( Iron Maiden ) โดยเป็นหีบโลหะวางตั้ง มีบานเปิดด้านหน้า ขนาดเท่าคนจริง ภายในมีเหล็กแหลมยาวจำนวนมาก ใช้สำหรับทิ่มแทงร่างกายของเหยื่อ ให้เลือดค่อยๆไหลออกมา จากแผลแล้วไหลออกที่รูด้านล่างของหีบ ที่ต่อเข้ามายังอ่างอาบโลหิตของ เธอ
# 1610 ธันวาคม ด้วยความเลว และชั่วร้ายทั่วไปที่มิอาจปกปิดได้มิด เมื่อเรื่องถึงยังราชสำนัก พระเจ้าแมทเทียสที่ 2 ( King Mathias II ) จึงได้ส่ลอร์ด ชอร์น เธอร์โซ ( Lord Palatine George Thurzo ) ซึ่งเป็นญาติกับ อลิซาเบธ บาโธรี่ มาสือสวนเรื่องนี้ เมื่อท่านลอร์ด ไปได้ลงไปยังห้องใต้ดิน ก็พบกับภาพอัน สุดสยอง และแสนอนาถเป็นอย่างยิ่ง
# 1611 มกราคม เธอถูกตัดสิ้นมีความผิดจริง แต่เนื่องจากด้วยอิทธิพลของตระกูลบาโธรี่ เธอจึงได้รับระเว้นโทษตาย แต่บรรดาผู้สมรู้ร่วมคิดของ เธอต่างถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการเผาทั้งเป็น
# 1614 อลิ ซาเบธ บาโธรี่ ถูกโทษให้คุมขังไว้ในปราสาทของเธอ ในหอคอย ที่หน้าต่าง และประตูถูกปิดตาย ให้หลือเพียงช่องเล็กเพื่อส่งอาหาร และเครื่องดืมแก่เธอเท่านั้น และในวันที่ 21 สิงหาคม เธอได้เสียชีวิตลง รวมอายุได้ 54 ปี 14 วัน
สุดท้ายสิ่งที่เธอแสวงหา ซึ่งความงามอันเป็นนิรันดร์ กับกลายเป็นความน่าเกลียดอันเป็นนิรันดร์ ที่จะถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ด้วยตัวเลขของเหยื่อที่ถูกเธอสังหารกว่า 650 ชีวิต จึงนำเธอไปสู่ ฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก ซึ่งยากยิ่งจะหาใครมาเทียบเคียง
(ปราสาทของ elizabeth ที่ยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้)
ตระกูลบาโธรี่ ตัดสินใจขัง เอลิซาเบธ ไว้ในห้องอิฐปราสาทของเธอเอง
เปิดเพียงแค่ช่องเล็กนิดเดียว ที่พอส่งข้าวส่งน้ำให้ได้เท่านั้น
เธอมีชีวิตอยู่แบบนั้นได้ 4 ปี และขาดใจตายในที่สุด
(ปราสาทของ elizabeth ....มีใครสนใจอยากไปเดินทัวร์ไหมว่า)
หลังจากสิ้นสุดตระกูล Bathory ทางประเทศฮังการี่ สั่งห้ามพูดถึงเรื่องของ Elizabeth bathory
200ปี หากได้ยินจะต้องโทษ หรือจำคุก
(แต่ สุดท้ายแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีผู้หญิงคนนึงที่สืบเชื้อสายตรงจาก ตระกูล Bathory ...ซึ่งได้รับการยืนยันตัวตนแล้วว่า เป็นสายเลือด Bathory จริง และยังมีชีวิตอยู่ ณ ตอนนี้ )
ปล......พอดิ้นรนหาเรื่องนี้มาดูจริงๆ คาดหวังจะเจอฉากที่นึกไว้กลับไม่มี กลายเป็นเหมือนหนัง Drama นึกขำตัวเองที่อุตส่าหามาดูความคิดอันวิตถาร ของ อลิซาเบธ บาโธรี่ ยังไม่หยุดยั้ง เธอได้ตามตัวช่างมาจากเยอรมันเพื่อสร้างเครื่องมือ ที่มีชื่อว่า สาวพรหมจรรย์เหล็ก( Iron Maiden ) โดยเป็นหีบโลหะวางตั้ง มีบานเปิดด้านหน้า ขนาดเท่าคนจริง ภายในมีเหล็กแหลมยาวจำนวนมาก ใช้สำหรับทิ่มแทงร่างกายของเหยื่อ ให้เลือดค่อยๆไหลออกมา จากแผลแล้วไหลออกที่รูด้านล่างของหีบ ที่ต่อเข้ามายังอ่างอาบโลหิตของ เธอ
และเพราะElizabeth Bathory ถือว่าเป็นฆาตกรหญิง ที่ อำมหิตที่สุดในโลก

- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
เอ่อ........A Sheep เขียน: ขอบคุณค่ะ
โหดร้ายสุดๆอ่า
ดีแล้วที่เพิร์ลไม่ได้เกิดยุคนั้น ไม่งั้นโลกจะเสียสาวงามไปอีกคน 555

-
- โพสต์: 740
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ค. 12, 2009 11:36 pm
ขอบคุณ ครับ
ถ้ามาเกิดในยุคนี้ คงได้กิน ซกเล็ก เนื้อ ลาบน้ำตกแน่ๆ

ถ้ามาเกิดในยุคนี้ คงได้กิน ซกเล็ก เนื้อ ลาบน้ำตกแน่ๆ


jacky เขียน:
แต่ สุดท้ายแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีผู้หญิงคนนึงที่สืบเชื้อสายตรงจาก ตระกูล Bathory ...ซึ่งได้รับการยืนยันตัวตนแล้วว่า เป็นสายเลือด Bathory จริง และยังมีชีวิตอยู่ ณ ตอนนี้
แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้รวยแบบรุ่นก่อนๆของตระกูลนี้แล้วใช่ไหมอ่าคะ?
ใช่ค่า น่าสงสาร ลูกหลาน ของเขานะค่ะ แล้วยั้ง งี้ บาปจะตกถึง ลูกหลานใหมA Sheep เขียน:jacky เขียน:
แต่ สุดท้ายแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีผู้หญิงคนนึงที่สืบเชื้อสายตรงจาก ตระกูล Bathory ...ซึ่งได้รับการยืนยันตัวตนแล้วว่า เป็นสายเลือด Bathory จริง และยังมีชีวิตอยู่ ณ ตอนนี้
แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้รวยแบบรุ่นก่อนๆของตระกูลนี้แล้วใช่ไหมอ่าคะ?
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
คุ้นๆแฮะ บาปมรดก (บาปตกทอดจากบรรพบุรุษ)jacky เขียน:ใช่ค่า น่าสงสาร ลูกหลาน ของเขานะค่ะ แล้วยั้ง งี้ บาปจะตกถึง ลูกหลานใหมA Sheep เขียน:jacky เขียน:
แต่ สุดท้ายแล้ว ตอนนี้ก็ยังมีผู้หญิงคนนึงที่สืบเชื้อสายตรงจาก ตระกูล Bathory ...ซึ่งได้รับการยืนยันตัวตนแล้วว่า เป็นสายเลือด Bathory จริง และยังมีชีวิตอยู่ ณ ตอนนี้
แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้รวยแบบรุ่นก่อนๆของตระกูลนี้แล้วใช่ไหมอ่าคะ?
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
แต่คนที่ขังนางจนตายก็ตระกูลของนางเองนะคะ
น่ากลัวจริง ๆ ไม่นึกเลยว่ามีตัวตนอยู่ ป่านนี้คงหนีไม่พ้นนรกชัวร์ ๆ (ถึงจะอธิษฐานให้ก็คงไม่ทันแล้วล่ะ กี่ปีมาละนี่)
ชื่อกับนามสกุล คุ้น ๆ จากเกม Castlevania ไม่แปลกเลยที่ในเกมคนที่มีชื่อนี้จึงมีบทเป็นฝ่ายแดร็คคิวล่า
น่ากลัวจริง ๆ ไม่นึกเลยว่ามีตัวตนอยู่ ป่านนี้คงหนีไม่พ้นนรกชัวร์ ๆ (ถึงจะอธิษฐานให้ก็คงไม่ทันแล้วล่ะ กี่ปีมาละนี่)
ชื่อกับนามสกุล คุ้น ๆ จากเกม Castlevania ไม่แปลกเลยที่ในเกมคนที่มีชื่อนี้จึงมีบทเป็นฝ่ายแดร็คคิวล่า
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
หากสี่ปีที่โดนขังเกิดกลับใจได้สำนึกผิดจริง ก็อาจรอดได้แต่คงใช้โทษนานValkyrie_chan เขียน: แต่คนที่ขังนางจนตายก็ตระกูลของนางเองนะคะ
น่ากลัวจริง ๆ ไม่นึกเลยว่ามีตัวตนอยู่ ป่านนี้คงหนีไม่พ้นนรกชัวร์ ๆ (ถึงจะอธิษฐานให้ก็คงไม่ทันแล้วล่ะ กี่ปีมาละนี่)
ชื่อกับนามสกุล คุ้น ๆ จากเกม Castlevania ไม่แปลกเลยที่ในเกมคนที่มีชื่อนี้จึงมีบทเป็นฝ่ายแดร็คคิวล่า
- .::พรั่งพรู::.
- โพสต์: 179
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ค. 25, 2009 1:01 am
- ติดต่อ:
น่ากลัวอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา 

- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
650 ศพพระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เขียน:หากสี่ปีที่โดนขังเกิดกลับใจได้สำนึกผิดจริง ก็อาจรอดได้แต่คงใช้โทษนานValkyrie_chan เขียน: แต่คนที่ขังนางจนตายก็ตระกูลของนางเองนะคะ
น่ากลัวจริง ๆ ไม่นึกเลยว่ามีตัวตนอยู่ ป่านนี้คงหนีไม่พ้นนรกชัวร์ ๆ (ถึงจะอธิษฐานให้ก็คงไม่ทันแล้วล่ะ กี่ปีมาละนี่)
ชื่อกับนามสกุล คุ้น ๆ จากเกม Castlevania ไม่แปลกเลยที่ในเกมคนที่มีชื่อนี้จึงมีบทเป็นฝ่ายแดร็คคิวล่า

กับ ความรอด เพียงครั้งเดียวในพระเยซูคริสต์ พร้อมทั้งการชดใช้ต่อความผิดที่ทำ...
แต่เธอไม่ได้กลับใจ ไม่มีแม้แต่บุญจะรับศีลอภัยศีลล้างใดๆ
650 ศพ กลิ่นเลือดที่ฟ้องต่อพระเจ้า โดยกลิ่นเลือดและพระยุติธรรมนั้น เธอจะรอดพ้นจากไฟนรกได้อย่างไร?

-
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
A Sheep เขียน:Ministry Of Men เขียน:เอ่อ........A Sheep เขียน: ขอบคุณค่ะ
โหดร้ายสุดๆอ่า
ดีแล้วที่เพิร์ลไม่ได้เกิดยุคนั้น ไม่งั้นโลกจะเสียสาวงามไปอีกคน 555......
พระเจ้าสอนไม่ให้โกหกอ่ะพี่เพิร์ล
แก้บาปด้วยล่ะ
- Fole_Link "~"
- โพสต์: 17
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 09, 2009 6:24 pm
- ที่อยู่: 467 ม.6 ต.วังยาง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
เนื้อเรื่อง ออก งง ๆ 555
แต่ก้อน่าสนใจดีนะข๊ะ
ตอนเราเด็ก ๆเราคิดว่าโดเรม่อนมีจริงซะอีก ก..
หุหุ
แต่ก้อน่าสนใจดีนะข๊ะ
ตอนเราเด็ก ๆเราคิดว่าโดเรม่อนมีจริงซะอีก ก..
หุหุ
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
มันคือการ์ตูน
และผมว่าดูเพลินๆๆดี เหมือน เรื่อง ชินจัง
แต่ชอบ ชินจังมากกว่า
อิอิ

http://image.dek-d.com/21/2076226/101870878
(รูปนี้อาจแรง ไม่กล้าเอาขึ้น ต้องคลิกไปดูเอง) 555+
และผมว่าดูเพลินๆๆดี เหมือน เรื่อง ชินจัง
แต่ชอบ ชินจังมากกว่า
อิอิ
http://image.dek-d.com/21/2076226/101870878
(รูปนี้อาจแรง ไม่กล้าเอาขึ้น ต้องคลิกไปดูเอง) 555+
- BloodyCross
- โพสต์: 413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มิ.ย. 10, 2008 9:49 pm
- ที่อยู่: หน้าจอคอม
มันขึ้นแล้วคับMinistry Of Men เขียน: มันคือการ์ตูน
และผมว่าดูเพลินๆๆดี เหมือน เรื่อง ชินจัง
แต่ชอบ ชินจังมากกว่า
อิอิ
http://image.dek-d.com/21/2076226/101870878
(รูปนี้อาจแรง ไม่กล้าเอาขึ้น ต้องคลิกไปดูเอง) 555+
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
^
^
^
^
ในลิ้งค์ กับ ที่ขึ้นรูปบนบอร์ด เป็นคนละรูปกันหนะครับ
^
^
^
ในลิ้งค์ กับ ที่ขึ้นรูปบนบอร์ด เป็นคนละรูปกันหนะครับ

-
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
คนวาดชินจังตายแล้ว-0- การ์ตูนก็จบ-0-