อยากรู้เรื่องนิกายมอรมอน
เมื่อ 2-3 วันก่อนนี้ผมไปบ้านเพื่อนแถวๆถ.สุขา1 บางกะปิ ผมไปเจอโบสถ์ที่เขียนว่าคริสตจักรพระคริสต์ สิทธิชนยุคสุดท้าย ตอนแรกผมไม่รู้ว่าเค้าเป็นนิกายไหนแต่ผมก็เดินมองๆดูจนได้เจอกับคนสอนศาสนาเค้าเป็นคนต่างชาติขี่จักรยานเค้าพูดไทยได้เค้าก็ถามผมว่าสนใจหรือเปล่า ผมก็เลยบอกเค้าว่าขอดูข้างในหน่อยได้ไหมเค้าบอกว่าได้ระหว่างที่เดินดูเค้าพยายามพูดถึงเรื่องของคัมภีร์ของเค้าแล้วก็ศาสดาของเค้าที่ชื่อ โจเซฟ สมิทธ ผมเลยยิ่งงงหนักเลยครับ แล้วยิ่งเห็นโบสถ์เค้าไม่มีไม้กางเขนอีก ใครพอรู้รายละเอียดบอกผมทีน่ะครับ :)
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
รอ พี่ P ฮับ นั่นคือ เจ้าพ่อ มอร์มอนตัวจริงเสียงจริงฮับ
ร้องเพลงรอ หรือ พี่ จิ้มลิงก์ไปที่ IM พี่P ได้ฮะ
ร้องเพลงรอ หรือ พี่ จิ้มลิงก์ไปที่ IM พี่P ได้ฮะ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ไม่ว่าจะนิกายไหนหรือศาสนาไหนแต่เราก็มีพระองค์เดียวกันนะครับผม ดังนั้นพระจะนำทางที่ถูกต้องและปเนที่พอพระทัยของพระองค์มาสู่ลูกๆของพระองค์เองครับขอเพียงเรายังรักพระอยู่อยู่เสมอ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
คุณพี่ชายทั้งสองฮะ .....คริสตชน ควรจะมีจุดยืน ที่หลักข้อเชื่อ ตรีเอกภาพด้วยฮะ
ขออนุญาตแนะนำศิษย์ ผู้พี่ครับผม
หลักตรีเอกภาพ นำไปสู่เรื่องเอกสัมพันธ์ ต้องเชื่อ เหมือนที่เราประกาศบทข้าพเจ้าเชื่อ
พี่สวดช้าๆและคิดถึงความหมายด้วย เมื่อเจี๊ยบ ตรึกตรอง ดูแล้วจะเห็นภาพ ดังนี้ฮะ
๑. พระเจ้า คือพระผู้สร้าง
๒.พระบุตร คือพระผู้ไถ่
๓.พระจิต( พระวิญญาณบริสุทธิ์ ) ผู้สถิตอยู่ด้วยฮะ
>>>>>>: สิ่งที่เราต้องคิดมากกว่านั้นคือ ชีวิตนิรันดร์ นั่นคือที่สุดท้ายที่เราจะเจอกัน หลังจากกายตายไปแล้ว และคิดถึงวันพิพากษาโลก พระเยซูคริสต์จะเสด็จมา ครั้งที่ สอง
ขออนุญาตแนะนำศิษย์ ผู้พี่ครับผม
หลักตรีเอกภาพ นำไปสู่เรื่องเอกสัมพันธ์ ต้องเชื่อ เหมือนที่เราประกาศบทข้าพเจ้าเชื่อ
พี่สวดช้าๆและคิดถึงความหมายด้วย เมื่อเจี๊ยบ ตรึกตรอง ดูแล้วจะเห็นภาพ ดังนี้ฮะ
๑. พระเจ้า คือพระผู้สร้าง
๒.พระบุตร คือพระผู้ไถ่
๓.พระจิต( พระวิญญาณบริสุทธิ์ ) ผู้สถิตอยู่ด้วยฮะ
>>>>>>: สิ่งที่เราต้องคิดมากกว่านั้นคือ ชีวิตนิรันดร์ นั่นคือที่สุดท้ายที่เราจะเจอกัน หลังจากกายตายไปแล้ว และคิดถึงวันพิพากษาโลก พระเยซูคริสต์จะเสด็จมา ครั้งที่ สอง
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
นี่คือบทประกาศความเชื่อ ของโปรเตสแตนต์ คริสตจักรในสายสภาคริสตจักรจะเน้นการประกาศหลักข้อเชื่อ
ของอัครทูต หรือ หลักข้อเชื่อ ไนเซีย และ ท่อง คำอธิษฐานของพระเยซูคริสต์ ( บทข้าแด่พระบิดา )
>>>: การประกาศหลักข้อเชื่อ เพื่อให้เรามีจุดยืน เรื่องความเชื่อ ว่า พระเจ้าของคริสต์ คือ พระตรีเอกภาพฮับ
บทข้าพเจ้าเชื่อ
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระเจ้า พระบิดา ผู้ทรงฤทธานุภาพ ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์พระบุตรองค์เดียวของพระบิดาทรงปฏิสนธิโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงกำเนิดจากมารีย์พรหมจารี ทรงทนทุกข์ทรมานในสมัยที่ปอนทิอัสปิลาตปกครอง ทรงถูกตรึงที่การเขนแล้วมรณา ทรงถูกบรรจุไว้ในอุโมงค์ เสด็จลงสู่แดนมรณา ในวันที่สามทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ประทับ ณ เบื้องขวาของพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ที่สุด จากที่นั้นพระองค์จะเสด็จมาพิพากษาคนเป็นและคนตาย.
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระวิญญาณบริสุทธิ์ และเชื่อมั่นในสากลคริสตจักรอันบริสุทธิ์ ในการร่วมสมานฉันท์ระหว่างธรรมมิกชน การอภัยโทษบาป การคืนชีพฝ่ายเนื้อหนัง และสมบูรณ์ในชีวิตนิรันดร์ อาเมน.
หลักข้อเชื่อไนเซีย
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระเจ้าองค์เดียว พระบิดาผู้ทรงฤทธิ์สูงสุด ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และโลก และทุกสิ่งที่ประจักษ์และไม่ประจักษ์แก่ตา
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์เดียว ผู้ทรงเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าทรงกำเนิดจากพระบิดาก่อนทรงสร้างกัลปจักรวาลทั้งมวล ทรงเป็นพระเจ้ากำเนิดมาจากพระเจ้า แสงสว่างจากแสงสว่าง พระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้ ทรงกำเนิดไม่ใช่ถูกสร้างขึ้น ทรงเป็นสาระเดียวกันกับพระบิดา พระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่ง พระองค์ทรงเสด็จลงมาแต่สวรรค์ เพื่อมนุษย์ และเพื่อช่วยเราให้รอดพ้น ทรงกำเนิดเป็นมนุษย์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ทางมารีย์สาวพรหมจารี ทรงสภาพมนุษย์ แล้วในสมัยปอนทีอัสปีลาตปกครองนั้นเอง พระองค์ ถูกตรึงที่ไม้กางเขนเพื่อเราทั้งหลาย พระองค์ทรงทุกข์ทรมานจนสิ้นพระชนม์ ทรงถูกบรรจุไว้ในอุโมงค์ และในวันที่สามทรงคืนพระชนม์ ตามที่พระคัมภีร์ทำนายไว้ พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ประทับ ณ เบื้องขวาของพระบิดา พระองค์จะเสด็จมาอีกด้วยพระสิริ เพื่อพิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย พระราชอาณาจักรของพระองค์ ไม่รู้สิ้นสุด
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระวิญญาณบริสุทธิ์ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานชีวิต ผู้ทรงเป็นมาจากพระบิดาและพระบุตร ผู้ทรงรับนมัสการ และการสรรเสริญพร้อมพระบิดา และพระบุตร พระองค์ได้ตรัสทางพวกผู้เผยพระวจนะ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในสากลคริสตจักรที่สืบจากอัครธรรมทูตคริสตจักรเดียว ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในการคืนชีพของผู้ที่ตายแล้ว และในชีวิตโลกหน้า ....อาเมน
ของอัครทูต หรือ หลักข้อเชื่อ ไนเซีย และ ท่อง คำอธิษฐานของพระเยซูคริสต์ ( บทข้าแด่พระบิดา )
>>>: การประกาศหลักข้อเชื่อ เพื่อให้เรามีจุดยืน เรื่องความเชื่อ ว่า พระเจ้าของคริสต์ คือ พระตรีเอกภาพฮับ
บทข้าพเจ้าเชื่อ
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระเจ้า พระบิดา ผู้ทรงฤทธานุภาพ ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์พระบุตรองค์เดียวของพระบิดาทรงปฏิสนธิโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงกำเนิดจากมารีย์พรหมจารี ทรงทนทุกข์ทรมานในสมัยที่ปอนทิอัสปิลาตปกครอง ทรงถูกตรึงที่การเขนแล้วมรณา ทรงถูกบรรจุไว้ในอุโมงค์ เสด็จลงสู่แดนมรณา ในวันที่สามทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ประทับ ณ เบื้องขวาของพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ที่สุด จากที่นั้นพระองค์จะเสด็จมาพิพากษาคนเป็นและคนตาย.
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระวิญญาณบริสุทธิ์ และเชื่อมั่นในสากลคริสตจักรอันบริสุทธิ์ ในการร่วมสมานฉันท์ระหว่างธรรมมิกชน การอภัยโทษบาป การคืนชีพฝ่ายเนื้อหนัง และสมบูรณ์ในชีวิตนิรันดร์ อาเมน.
หลักข้อเชื่อไนเซีย
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระเจ้าองค์เดียว พระบิดาผู้ทรงฤทธิ์สูงสุด ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และโลก และทุกสิ่งที่ประจักษ์และไม่ประจักษ์แก่ตา
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์เดียว ผู้ทรงเป็นพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าทรงกำเนิดจากพระบิดาก่อนทรงสร้างกัลปจักรวาลทั้งมวล ทรงเป็นพระเจ้ากำเนิดมาจากพระเจ้า แสงสว่างจากแสงสว่าง พระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้ ทรงกำเนิดไม่ใช่ถูกสร้างขึ้น ทรงเป็นสาระเดียวกันกับพระบิดา พระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่ง พระองค์ทรงเสด็จลงมาแต่สวรรค์ เพื่อมนุษย์ และเพื่อช่วยเราให้รอดพ้น ทรงกำเนิดเป็นมนุษย์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ทางมารีย์สาวพรหมจารี ทรงสภาพมนุษย์ แล้วในสมัยปอนทีอัสปีลาตปกครองนั้นเอง พระองค์ ถูกตรึงที่ไม้กางเขนเพื่อเราทั้งหลาย พระองค์ทรงทุกข์ทรมานจนสิ้นพระชนม์ ทรงถูกบรรจุไว้ในอุโมงค์ และในวันที่สามทรงคืนพระชนม์ ตามที่พระคัมภีร์ทำนายไว้ พระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ประทับ ณ เบื้องขวาของพระบิดา พระองค์จะเสด็จมาอีกด้วยพระสิริ เพื่อพิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย พระราชอาณาจักรของพระองค์ ไม่รู้สิ้นสุด
ข้าพเจ้าเชื่อวางใจในพระวิญญาณบริสุทธิ์ องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานชีวิต ผู้ทรงเป็นมาจากพระบิดาและพระบุตร ผู้ทรงรับนมัสการ และการสรรเสริญพร้อมพระบิดา และพระบุตร พระองค์ได้ตรัสทางพวกผู้เผยพระวจนะ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในสากลคริสตจักรที่สืบจากอัครธรรมทูตคริสตจักรเดียว ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในการคืนชีพของผู้ที่ตายแล้ว และในชีวิตโลกหน้า ....อาเมน
แก้ไขล่าสุดโดย Jeab Agape เมื่อ จันทร์ มิ.ย. 20, 2005 12:53 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า
พระบิดาทรงสรรพานุภาพสร้างฟ้าดิน
เชื่อถึงพระเอกาบุตรเยซูคริสต์สวามีของเรา
ปฎิสนธิเดชะพระจิตบังเกิดจากพระนางมารีย์พรหมจารี
รับทรมานสมัยปอนซีโอ ปีลาโต ถูกตรึงกางเขน
ตาย และถูกฝังไว้ เสด็จลงใต้บาดาล
วันที่สามกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย
เสด็จขึ้นสวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระเป็นเจ้าพระบิดาทรงสรรพนุภาพ
แล้วจะเสด็จมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย
ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระจิต พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์สากล
สหพันธ์นักบุญ การยกบาป การคืนชีพของเนื้อหนัง
และชีวิตนิรันดร อาแมน
I believe in God,
the Father Almighty, Creator of heaven and earth;
and in Jesus Christ, His only Son, our Lord;
Who was conceived by the Holy God, born of the Virgin Mary,
suffered under Pontius Pilate, was crucified,
died, and was buried. He descended into hell;
the third day he arose again from the dead.
He ascended into heaven, and sits at the right hand of God,
the Father Almighty;
from thence He shall come to judge the living and the dead.
I believe in the Holy Spirit, the Holy Catholic Church,
the communion of Saints, the forgiveness of sins, the resurrection
of the body and life everlasting. Amen.
พระบิดาทรงสรรพานุภาพสร้างฟ้าดิน
เชื่อถึงพระเอกาบุตรเยซูคริสต์สวามีของเรา
ปฎิสนธิเดชะพระจิตบังเกิดจากพระนางมารีย์พรหมจารี
รับทรมานสมัยปอนซีโอ ปีลาโต ถูกตรึงกางเขน
ตาย และถูกฝังไว้ เสด็จลงใต้บาดาล
วันที่สามกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย
เสด็จขึ้นสวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระเป็นเจ้าพระบิดาทรงสรรพนุภาพ
แล้วจะเสด็จมาพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย
ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระจิต พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์สากล
สหพันธ์นักบุญ การยกบาป การคืนชีพของเนื้อหนัง
และชีวิตนิรันดร อาแมน
I believe in God,
the Father Almighty, Creator of heaven and earth;
and in Jesus Christ, His only Son, our Lord;
Who was conceived by the Holy God, born of the Virgin Mary,
suffered under Pontius Pilate, was crucified,
died, and was buried. He descended into hell;
the third day he arose again from the dead.
He ascended into heaven, and sits at the right hand of God,
the Father Almighty;
from thence He shall come to judge the living and the dead.
I believe in the Holy Spirit, the Holy Catholic Church,
the communion of Saints, the forgiveness of sins, the resurrection
of the body and life everlasting. Amen.
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
คุ้น ๆเหมือนเคยอ่านในพันธ์ทิพ โต๊ะศาสนา ลองเข้าดูสิ อาจจะยังมีอยู่ มีให้เวปด้วย ลองไปดูรายละเอียด มอร์มอน ก็เหมิอนเป็นอีกนิกายหนึ่งอ่ะ เขาก็จะมีพื้นฐานความเชื่อเป้ฯรูปแบบเฉพาะ จริงๆ เสียดายที่ไม่ได้เซฟกระทู้ในพันธ์ทิพย์ไว้ เขาค่อนข้างอธิบายกันละเอียดพอสมควร และมีการแลกเปลี่ยนความเห้ฯที่มีเหตุผลใช้ได้ ก่อนอ่านก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่า ศาสนา ประกอบด้วยอะไรบ้าง บางทีเราก็เชื่อเรื่องเดียวกัน แต่ก็มีการอธิบาย หรือการอ้างอิงแตกต่างกัน ซึ่งมันขึ้นอยู่บริบทของสังคม ในแต่ละช่วงที่ศาสนาหรือลัทธิหรือนิกายนั้น ๆเกิดขึ้นนะคะ
จริงๆผมไม่ได้ว่าหรือดูถูกนิกายอื่นน่ะครับ :)เพียงแต่ผมอยากรู้ว่านิกายของเค้าเป็นอย่างไรมีความเชื่ออะไรบ้างเท่านั้นครับ ;) แล้วผมเองก็ดีใจที่ลูกๆของพระองค์รักพระองค์ไม่ว่าเค้าจะอยู่ในนิกายไหนก็ตามเรารักพระบิดาเหมือนกันทุกคนแหละครับพี่น้อง :)
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เขาหล่อ ด้วยนะพี่แจน ใจหวั่นไหวป่าว :Dsuperjan เขียน: แถวบ้านแจน มีพวกขี่จักรยานมาเผยแพร่ศาสนาของ มอรมอน อยู่บ่อยๆค่ะ แต่เดี๋ยวนี้เค้าหายไปไหนไม่รู้
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
555555555
เจี๊ยบอยู่ข้างบนพี่แจนรึ
ถึงได้รู้ว่าหล่อ
เจี๊ยบอยู่ข้างบนพี่แจนรึ
ถึงได้รู้ว่าหล่อ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
โอ๊ะ เจ่เจ้ พี่แจนชะเง้อจนสุดตาเลยล่ะ ปกติแล้วพวกมิชชันนารี มอร์มอนหน้าตาไปวัดได้ทั้งกลางวันกลางคืน อย่างมั่นใจงับ ..............เจี๊ยบเลยคิดว่าพวกมอร์มอนหล่อ~@Little lamb@~ เขียน: 555555555
เจี๊ยบอยู่ข้างบนพี่แจนรึ
ถึงได้รู้ว่าหล่อ
เอ่อ มีคนเดียวที่ไม่หล่อ พวกเราพอจะรู้ละนะ เจี๊ยบหมายถึงใคร
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
รับแซ่บ ฮับ 8) เอ่อ อย่าลืมของฝาก จากบราซิลนะงับP เขียน: เดี๋ยวมาตอบให้ครับ อาจจะประมาณวันเสาร์ วันอาทิตย์ อะไรงี้ เพราะช่วงนี้หาอินเตอร์เน็ตใช้ไม่ได้เลยครับ ที่ใช้นี่ก็เวลาจำกัดมาก เดี๋ยวต้องไปแล้ว
;D
แหงะ เจี๊ยบไปอยู่ไหนมาน้องรัก พี่กลับจากบราซิลมาสองสามอาทิตย์แล้วจ้า ตอนนี้อยู่ญี่ปุ่นเด้อ *wae
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เหรอ ดีๆๆ ฮับ เพิ่มของฝากจากญี่ปุ่นด้วย ฮับLazy P เขียน: แหงะ เจี๊ยบไปอยู่ไหนมาน้องรัก พี่กลับจากบราซิลมาสองสามอาทิตย์แล้วจ้า ตอนนี้อยู่ญี่ปุ่นเด้อ *wae
และเมื่อไหร่จะถึงประเทศไทยล่ะ ??? ??? เป็นห่วงของฝาก ฮะ 8)
แก้ไขล่าสุดโดย Jeab Agape เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 24, 2005 6:34 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Maybe next time. :) Now I'm at the airport - waiting to fly back to San Francisco.
I was actually in Thailand for a few days earlier. But it was purely business so I had no time to meet anyone. Then I came to Japan directly and spent a few days. Sorry I missed you on this trip. Wish I could have stayed a little longer. But business is business and I have no time to waste. :)
Please say hi to R' Hui. Sorry I couldn't meet him this time. Tell him maybe I'll visit him later at his new place!
Sorry have to type in English. Last night I was able to use my laptop at the hotel so I was able to type in Thai. But the Internet Kiosk at the airport doesn't support Thai fonts. So...
I was actually in Thailand for a few days earlier. But it was purely business so I had no time to meet anyone. Then I came to Japan directly and spent a few days. Sorry I missed you on this trip. Wish I could have stayed a little longer. But business is business and I have no time to waste. :)
Please say hi to R' Hui. Sorry I couldn't meet him this time. Tell him maybe I'll visit him later at his new place!
Sorry have to type in English. Last night I was able to use my laptop at the hotel so I was able to type in Thai. But the Internet Kiosk at the airport doesn't support Thai fonts. So...
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
โอ โย๋ โย :'( :'(P เขียน: Maybe next time. :) Now I'm at the airport - waiting to fly back to San Francisco.
I was actually in Thailand for a few days earlier. But it was purely business so I had no time to meet anyone. Then I came to Japan directly and spent a few days. Sorry I missed you on this trip. Wish I could have stayed a little longer. But business is business and I have no time to waste. :)
Please say hi to R' Hui. Sorry I couldn't meet him this time. Tell him maybe I'll visit him later at his new place!
Sorry have to type in English. Last night I was able to use my laptop at the hotel so I was able to type in Thai. But the Internet Kiosk at the airport doesn't support Thai fonts. So...
มะเป็นไร หนูเป็นคนที่เข้าใจง่าย พี่เฮี้ย เป็นนักธุรกิจตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ เพราะคำ ก็ บิสิเนส สองคำ ก็บิสิเนส
Oh yeh where is R' Hui, have to ask P' Jing, she is our front desk ??? ;D
Well, have a nice journey back to San Francisco.GBU 8)
นิกายมอร์มอลจักตั้งขึ้นโดย นายโจเซฟ สมิธ เขาเป็นคนไม่มีการศึกษา เขียนหนังสือไม่ออก อ่านหนังสือไม่ได้ และเขาเป็นคนไม่รู้พระคัมภีร์
ด้วยเหตุบังเอิญ เขาได้ติดต่อกับศาสนาจารย์ที่ถูกตัดจากนิกายแบ๊บติสต์ เขาชื่อ ซิดนีย์ ริดดอน เขามีความคิดที่จะมีชื่อเสียง ต่อมาเขาเกิดมีความคิดที่จะหาชื่อเสียงด้วยการตั้งคริสตจักรที่แหวกออกจากพระคัมภีร์ และโจเซฟ สมิธเป็นเครืองมือ
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายน 1823 มีทูตสวรรค์มาเยี่ยมสมิธ ทูตสวรรค์นั้นชื่อ โมโรไน ผู้เปิดเผยต่อสมิธในปี ค.ศ. 420 ที่เนินเขาคูโมร่าใกล้พัลมิรา นิวยอร์ก มีแผ่นทองคำสองแผ่นซ่อนอยู่ เป็นแผ่นจารึกประวัติของนิไฟต์ผู้ที่เดินทางออกจากเยรูซาเล็มในปี 600 ก่อน ค.ศ. มายังอเมริกา และสมิธได้พบแผ่นทองคำที่นั้นพร้อมด้วยแว่นตาขนาดใหญ่คู่หนึ่งซึ่งพวกเขาเรียกสิ่งนั้นว่า อูริมและทูมมิม และสิ่งนี้ช่วยให้เขาสามารถถอดรหัสและแปลเครืองหมายลี้ลับเหล่านั้นซึ่งเขาทึกทักว่าคือภาษาอียิปต์ปรับปรุงใหม่ ให้เป็นภาษาอังกฤษได้
ข้อมูลที่เขียนทั้งหมดได้จาก เจ ออสวอลด์ แซนเดอส์
ยังมีอีกหลายลัทธิทั่วอเมริกัน แล้วหลายลักธิก็เขามาเมืองไทยแล้วด้วย ถ้าอยากรู้ผมจะหามาตอบให้ รวมทั้งคริสตจักรที่ชอบsex อย่าง ซิลเดรน ออฟ ก็อด ด้วย

ด้วยเหตุบังเอิญ เขาได้ติดต่อกับศาสนาจารย์ที่ถูกตัดจากนิกายแบ๊บติสต์ เขาชื่อ ซิดนีย์ ริดดอน เขามีความคิดที่จะมีชื่อเสียง ต่อมาเขาเกิดมีความคิดที่จะหาชื่อเสียงด้วยการตั้งคริสตจักรที่แหวกออกจากพระคัมภีร์ และโจเซฟ สมิธเป็นเครืองมือ
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายน 1823 มีทูตสวรรค์มาเยี่ยมสมิธ ทูตสวรรค์นั้นชื่อ โมโรไน ผู้เปิดเผยต่อสมิธในปี ค.ศ. 420 ที่เนินเขาคูโมร่าใกล้พัลมิรา นิวยอร์ก มีแผ่นทองคำสองแผ่นซ่อนอยู่ เป็นแผ่นจารึกประวัติของนิไฟต์ผู้ที่เดินทางออกจากเยรูซาเล็มในปี 600 ก่อน ค.ศ. มายังอเมริกา และสมิธได้พบแผ่นทองคำที่นั้นพร้อมด้วยแว่นตาขนาดใหญ่คู่หนึ่งซึ่งพวกเขาเรียกสิ่งนั้นว่า อูริมและทูมมิม และสิ่งนี้ช่วยให้เขาสามารถถอดรหัสและแปลเครืองหมายลี้ลับเหล่านั้นซึ่งเขาทึกทักว่าคือภาษาอียิปต์ปรับปรุงใหม่ ให้เป็นภาษาอังกฤษได้
ข้อมูลที่เขียนทั้งหมดได้จาก เจ ออสวอลด์ แซนเดอส์
ยังมีอีกหลายลัทธิทั่วอเมริกัน แล้วหลายลักธิก็เขามาเมืองไทยแล้วด้วย ถ้าอยากรู้ผมจะหามาตอบให้ รวมทั้งคริสตจักรที่ชอบsex อย่าง ซิลเดรน ออฟ ก็อด ด้วย

แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2005 4:38 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
;D ;D ;D นั่นดิเนอะ น่าสนใจๆ (แบบว่า ทำไมพี่โจเซ็ฟถึงสนใจใคร่รู้เรื่องคริสตจักรที่ชอบ sex ด้วย ไม่รู้เกี่ยวอะไรกับนโยบายประกาศหาแฟนอย่างเคร่งเครียดหรือเปล่า)Buddy เขียน:ummm... interesting.. ;Dยังมีอีกหลายลักธิทั่วอเมริกัน แล้วหลายลักธิก็เขามาเมืองไทยแล้วด้วย ถ้าอยากรู้ผมจะหามาตอบให้ รวมทั้งคริสตจักรที่ชอบsex อย่าง ซิลเดรน ออฟ ก็อด ด้วย
*gg *gg
ขออธิบายเรื่องเกี่ยวกับมอร์มอนคร่าวๆนะครับ
นิกายมอร์มอน หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการคือ ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้าย (The Church of Jesus Christ of Latter-Day Saints) ตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1830 ศาสดาคนแรกของศาสนจักรคือ โจเซ็ฟ สมิธ
โจเซ็ฟเป็นเด็กชาวนา มีการศึกษาแค่ป. 3 และในสมัยที่โจเซ็ฟยังเด็กๆอยู่นั้น แถบที่เค้าอยู่มีการตื่นตัวทางศาสนามาก มีการเผยแผ่ศาสนาของหลายนิกายหลายคณะ แต่ละคนก็โจมตีกันและกัน บอกว่าของตนถูกของคนอื่นผิด บรรยากาศแบบนี้ทำให้โจเซ็ฟ ตัดสินใจลำบากว่าควรจะเข้าคณะไหนดี
โจเซ็ฟได้สวดภาวนาถึงพระเจ้า ให้ช่วยให้เค้าเลือกได้ถูกว่า ควรจะเข้าคณะไหนดี และวันหนึ่งเขาก็ได้รับนิมิต เขาเห็นพระบิดาและพระเยซู ลงมาบอกกับเขาว่า เขาไม่ควรเข้าสักคณะเดียว แต่ให้รอต่อไป จะมีภาระหน้าที่ให้เขาทำ
วันหนึ่งเขาได้รับการเยี่ยมจากทูตสวรรค์ชื่อโมโรนาย ทูตสวรรค์องค์นี้ลงมาเยี่ยมเขาในห้องนอน และบอกถึงความเป็นมาของชนชาติโบราณที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนที่ปัจจุบันเรียกว่าทวีปอเมริกา และได้บอกเขาเกี่ยวกับแผ่นจารึกโบราณที่บันทึกเรื่องราวของคนเหล่านี้
ทุกๆปีทูตสวรรค์จะลงมาบอกกับเขาเรื่องราวเหล่านี้ และได้บอกอะไรอีกมากมายเยอะแยะ จนในที่สุด ทูตสวรรค์ก็พาเขาไปขุดเอาแผ่นจารึกออกมา
โจเซ็ฟได้ใช้ยูริมกับทัมมิมในการแปลแผ่นจารึกนี้ออกมาในช่วงแรกๆ (แต่ตอนหลังก็ไม่ต้องใช้อีก แต่สามารถแปลได้เลย) และตีพิมพ์ออกมาโดยใช้ชื่อว่า พระคัมภีร์มอร์มอน (The Book of Mormon) ซึ่งตั้งตามชื่อของคนโบราณที่รวบรวมแผ่นจารึกเหล่านี้ไว้ด้วยกัน
หลังจากนั้น โจเซ็ฟ ได้รับการเผยแสดงจากพระเยซูให้ตั้งศาสนจักรของพระองค์ขึ้นในยุคสุดท้าย และนั่นจึงเป็นที่มาของศาสนจักรนี้ครับ
อันนี้เล่าประวัติอย่างย่อๆให้ฟังนะครับ
:)
นิกายมอร์มอน หรือชื่อเรียกอย่างเป็นทางการคือ ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้าย (The Church of Jesus Christ of Latter-Day Saints) ตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1830 ศาสดาคนแรกของศาสนจักรคือ โจเซ็ฟ สมิธ
โจเซ็ฟเป็นเด็กชาวนา มีการศึกษาแค่ป. 3 และในสมัยที่โจเซ็ฟยังเด็กๆอยู่นั้น แถบที่เค้าอยู่มีการตื่นตัวทางศาสนามาก มีการเผยแผ่ศาสนาของหลายนิกายหลายคณะ แต่ละคนก็โจมตีกันและกัน บอกว่าของตนถูกของคนอื่นผิด บรรยากาศแบบนี้ทำให้โจเซ็ฟ ตัดสินใจลำบากว่าควรจะเข้าคณะไหนดี
โจเซ็ฟได้สวดภาวนาถึงพระเจ้า ให้ช่วยให้เค้าเลือกได้ถูกว่า ควรจะเข้าคณะไหนดี และวันหนึ่งเขาก็ได้รับนิมิต เขาเห็นพระบิดาและพระเยซู ลงมาบอกกับเขาว่า เขาไม่ควรเข้าสักคณะเดียว แต่ให้รอต่อไป จะมีภาระหน้าที่ให้เขาทำ
วันหนึ่งเขาได้รับการเยี่ยมจากทูตสวรรค์ชื่อโมโรนาย ทูตสวรรค์องค์นี้ลงมาเยี่ยมเขาในห้องนอน และบอกถึงความเป็นมาของชนชาติโบราณที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนที่ปัจจุบันเรียกว่าทวีปอเมริกา และได้บอกเขาเกี่ยวกับแผ่นจารึกโบราณที่บันทึกเรื่องราวของคนเหล่านี้
ทุกๆปีทูตสวรรค์จะลงมาบอกกับเขาเรื่องราวเหล่านี้ และได้บอกอะไรอีกมากมายเยอะแยะ จนในที่สุด ทูตสวรรค์ก็พาเขาไปขุดเอาแผ่นจารึกออกมา
โจเซ็ฟได้ใช้ยูริมกับทัมมิมในการแปลแผ่นจารึกนี้ออกมาในช่วงแรกๆ (แต่ตอนหลังก็ไม่ต้องใช้อีก แต่สามารถแปลได้เลย) และตีพิมพ์ออกมาโดยใช้ชื่อว่า พระคัมภีร์มอร์มอน (The Book of Mormon) ซึ่งตั้งตามชื่อของคนโบราณที่รวบรวมแผ่นจารึกเหล่านี้ไว้ด้วยกัน
หลังจากนั้น โจเซ็ฟ ได้รับการเผยแสดงจากพระเยซูให้ตั้งศาสนจักรของพระองค์ขึ้นในยุคสุดท้าย และนั่นจึงเป็นที่มาของศาสนจักรนี้ครับ
อันนี้เล่าประวัติอย่างย่อๆให้ฟังนะครับ
:)
แล้วแผ่นจารึกนั้น มาจากไหนเหรอครับ ???
ยูริมกับ ทัมมิม อะไรเหรอครับ?
ยูริมกับ ทัมมิม อะไรเหรอครับ?
ไม่เกี่ยวอะไรกับการประกาศหาแฟนหรอก เห็นมีคนแซวหลายคนก็อยากแบ่งปันให้ฟังย่อๆ เพราะที่จริงอยากให้รู้ไว้เหมือนกัน คาทอลิกเราจะได้มีสายตาที่กว้างไกล เหมือนนกอินทรีย์ หวังว่าเรื่องราวคงไม่ลามกอะไรนะครับนั่นดิเนอะ น่าสนใจๆ (แบบว่า ทำไมพี่โจเซ็ฟถึงสนใจใคร่รู้เรื่องคริสตจักรที่ชอบ sex ด้วย ไม่รู้เกี่ยวอะไรกับนโยบายประกาศหาแฟนอย่างเคร่งเครียดหรือเปล่า)
คริสต์จักรแห่งนี่ภาษาอังกฤษเรียกว่า THE CHILDREN OF GOD ตอนนี่เข้ามาอยู่เมืองไทยเราเรียบร้อยแล้วนะครับ ถ้าเจอใบปลิวที่คล้ายๆ ของพี่น้องคริสตเตียนโปแตสแตนต์ ข้อความข้างในก็เขียนคำพยานดีเหมือนกัน แต่ต่างกันคือรูปภาพจะออกโบ๊หน่อยๆ มีหญิงชายจะส่วมสุดบางๆ หรือกอดจุบกันมากเกินปกตินั้นแหละใช้เลย
คริสตจักรแห่งนี่จักตั้งโดยนายโมเสส เดวิด เบิร์ก เขาเกิดที่เมืองโอคแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
ลัทธินี่กำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1968 ใช้ชื่อว่า "วัยรุ่นเพื่อพระคริสต์" ที่อันติงตันบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย
ในปี1969 เขาไปประกาศอยู่ที่ทักซันรัฐอริโซน่า เรียกว่ากลุ่ม "ปฏิวัติเพื่อพระคริสต" และก็เปลียนเป็น "ลูกของพระเจ้า" จากนั้นก็กลับมาแคลิฟอร์เนีย ในปี ค.ศ. 1970 และในปี 1972 เขาได้ไปอยู่อังกฤษและไม่กลับมาอเมริกาอีกเลย
ลัทธินี่ชอบพกพระคัมภีร์และเก่งพระคัมภีรมากนะครับแต่ที่สำคัญกว่าพระคัมภีร์คือหนังสือจดหมายของโม ที่เขียนขึ้นโดย นายเดวิส เบิร์ก
ลัทธินี่ถือว่านาย เดวิด เบิร์ก เป็นประกาศกของพระเจ้ายุคสุดท้าย โดยอ้างว่าคำพยากรณ์เกี่ยวกับกษัตริย์ดาวิดในพระคัมภีร์เอเสเคียล บทที่ 34,37 โฮเซยา 3 เล็งถึงตัวเดวิด เบิร์ก
เขาสอนเรื่องพระตรีเอกภาพว่า พระจิตหรือพระวิญญาณบริสุทธิ์ มีชื่อว่าวิญญาณเทพธิดารักของพระเจ้า วาดภาพให้เป็นผู้หญิงเปลือยกายช่วยมนุษย์ให้ทำอิทธิฤทธิ์อภินิหารต่างๆ
คริสตจักรแห่งนี่ถือว่าการมีsex กันคือการเป็นกายเดียวกันกับพี่น้องคริสชนและพระเยซู หรือเป็นหนึ่งเดียวกัน เขาเรียกว่า "เข้าส่วนในพระกาย" เป็นศัพท์ที่คริสตจักรแห่งนี่เขาเรียกกันหมายถึงการมีsex
ลัทธินี่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงาน เขาหาว่าเป็นการเห็นแก่ตัว เรื่องsex เป็นเรื่องส่วนรวม ไม่ควรจะเก็บไว้สำหรับคนๆ เดียว
ก็ขอจบเพียงเท่านี่แล้วกัน :P
ที่ผมรู้อย่าเข้าใจผิดว่าผมพวกเดียวกับเขานะครับ ผมเป็นคาทอลิกครับผมไม่กล้ายุ่งหรอกครับผมกลัวบาป แต่ผมชอบทำสายตาให้เหมือนนกอินทรีคือศึกษาทุกๆ คริสตจักร ทุกๆ ลัทธิ เท่านั้นเอง
ด้วยรักในพระคริสต์
ถ้าใครเจอโปรสเตอร์หน้าตาคล้ายๆ อย่างนี่ละวังให้ดี
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อาทิตย์ มิ.ย. 26, 2005 10:30 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ลัทธินี่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงาน เขาหาว่าเป็นการเห็นแก่ตัว เรื่องsex เป็นเรื่องส่วนรวม ไม่ควรจะเก็บไว้สำหรับคนๆ เดียว
Oh... what will happen if everyone just agree with this!!??!! :o :o Anyway, it may be hard in Thailand because it's just against of Thai culture.... I think...
P' Joseph, someone wanna know about your ครูซิลโล la.. :)
http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=1294
ได้ความรู้มากเลยครับขอบคุณมาก :) แต่ผมยังสงสัยเรื่องที่เค้าไม่ใช้ไม้กางเขนเป็นสัญลักษณ์ครับว่าทำไม? แล้วมีอีกกี่คริสตจักรที่ไม่ใช้ไม้กางเขนครับ :)
ขอตอบคุณ Joshua ก่อนนะครับ
แผ่นจารึกนั้นเป็นของคนโบราณที่เคยอยู่ในทวีปที่ปัจจุบันเรียกว่าทวีปอเมริกาครับ แผ่นจารึกที่ว่านั้น มีหลายแผ่นด้วยกัน เป็น collection ครับ
เนื้อหาโดยหลัก เป็นของชนชาติที่สืบทอดมาจากชาวยิวที่ได้รับ revelation จากพระเจ้าให้ออกจากกรุงเยรูซาเล็มมาประมาณ 5 ปีก่อนกรุงแตก ตอนนั้นชายชื่อ ลีฮาย ได้รับคำสั่งจากพระเจ้าว่าให้เขาพาครอบครัวของเขาและอีกครอบครัวหนึ่ง(รวมทั้งคนใช้ ฯลฯ)ออกจากกรุงเยรูซาเล็มเพราะกรุงจะแตกแล้ว
เขาได้พาครอบครัวของเขาหลบหนีออกไปตามคำสั่งของพระองค์ และโดยการนำของพระองค์ พวกเขาได้มาถึงดินแดนที่เป็นทวีปอเมริกาในปัจจุบันครับ
ลีฮายมีลูกชายสี่คน ชื่อ เลเมน เลมูเอ็ล นีไฟ และ แซม นีไฟได้รับเลือกจากพระเจ้าให้เป็น prophet คนต่อไปถัดจากลีฮาย (prophet มีได้หลายคนในเวลาเดียวกัน ขณะที่ลีฮายเป็น prophet นั้น เพื่อนๆของเขาหลายๆคนก็เป็น prophet ด้วยในกรุงเยรูซาเล็ม และนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาได้รับ revelation จากพระเจ้า แต่นั่นเป็นเรื่องปลีกย่อยที่ไว้คุยกันวันหลังครับ) พี่ชายสองคนของนีไฟไม่ชอบใจนีไฟ จึงพยายามทำร้ายเขา และภายหลังได้แยกตัวออกไปต่างหาก จึงทำให้สมัยนั้นเกิดชนขึ้นสองเผ่าคือ Nephites และ Lamanites ซึ่งทั้งสองได้มีการต่อสู้กันเสมอมา
พระคัมภีร์มอร์มอนจึงเป็นบันทึกเรื่องราวของชนทั้งสองเผ่าโดยเขียนจาก prophets แบบเดียวกันกับในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล บางครั้ง(โดยเฉพาะในช่วงต้นๆ) เรื่องราวก็เขียนโดย Nephite บางครั้งก็เป็นโดย Lamanite เพราะแม้ว่า Prophets จะมาจากเผ่า Nephites ในช่วงแรก แต่บางครั้งเผ่า Nephites ก็ชั่วเสียเอง แล้วพระเจ้าก็เลือกคนจาก Lemanites มาแทน แบบนี้ครับ
เนื้อหาบางส่วนของแผ่นจารึก มาจากชนอีกเผ่าหนึ่งชื่อ Jaredites คือ ชนที่อพยพมาตั้งแต่สมัย Tower of Babel คนเหล่านั้นได้มาอยู่ที่ทวีปนี้เช่นกัน แต่ civilization ได้ถูกทำลายไปตั้งแต่ก่อนหน้าที่ลีฮายจะพาครอบครัวและคนอื่นๆมาอยู่แล้ว เพียงแต่มีบันทึกหลงเหลืออยู่ คนที่ไปเจอจึงนำมาเก็บรวมไว้ด้วย
เรื่องราวสุดท้ายในพระคัมภีร์มอร์มอน ได้รับการเขียนโดย prophet ชื่อโมโรนาย ก่อนหน้าที่ civilization จะถูกทำลายลง ซึ่งเมื่อเขียนแล้ว เขาก็ฝังแผ่นจารึกทั้งหมดไว้ใต้ดิน และกลับมาอีกครั้ง 1,500 ปีให้หลังเพื่อบอกกับโจเซ็ฟ สมิธให้ไปนำแผ่นจารึกดังกล่าวมาแปลตามคำสั่งของพระเจ้าครับ
ส่วน Urim and Thummim คือ Seer Stones ซึ่งคนในสมัยก่อนใช้ในการถามหาพระประสงค์ของพระเจ้าครับ ถ้าอ่านในพระคัมภีร์เดิม จะพบการใช้ Urim and Thummim อยู่ประปราย หินสองก้อนนี้มีหลายชุดด้วยกัน ว่ากันว่า ชุดที่โจเซ็ฟ สมิธ ใช้ในการแปลพระคัมภีร์มอร์มอน (ถูกฝังไว้กับพระคัมภีร์) เป็นชุดเดียวกันกับที่ Brother of Jared (ต้นสายของชนเผ่า Jaredites) นำติดตัวมาด้วยตั้งแต่ครั้ง Tower of Babel ครับ
:)
แผ่นจารึกนั้นเป็นของคนโบราณที่เคยอยู่ในทวีปที่ปัจจุบันเรียกว่าทวีปอเมริกาครับ แผ่นจารึกที่ว่านั้น มีหลายแผ่นด้วยกัน เป็น collection ครับ
เนื้อหาโดยหลัก เป็นของชนชาติที่สืบทอดมาจากชาวยิวที่ได้รับ revelation จากพระเจ้าให้ออกจากกรุงเยรูซาเล็มมาประมาณ 5 ปีก่อนกรุงแตก ตอนนั้นชายชื่อ ลีฮาย ได้รับคำสั่งจากพระเจ้าว่าให้เขาพาครอบครัวของเขาและอีกครอบครัวหนึ่ง(รวมทั้งคนใช้ ฯลฯ)ออกจากกรุงเยรูซาเล็มเพราะกรุงจะแตกแล้ว
เขาได้พาครอบครัวของเขาหลบหนีออกไปตามคำสั่งของพระองค์ และโดยการนำของพระองค์ พวกเขาได้มาถึงดินแดนที่เป็นทวีปอเมริกาในปัจจุบันครับ
ลีฮายมีลูกชายสี่คน ชื่อ เลเมน เลมูเอ็ล นีไฟ และ แซม นีไฟได้รับเลือกจากพระเจ้าให้เป็น prophet คนต่อไปถัดจากลีฮาย (prophet มีได้หลายคนในเวลาเดียวกัน ขณะที่ลีฮายเป็น prophet นั้น เพื่อนๆของเขาหลายๆคนก็เป็น prophet ด้วยในกรุงเยรูซาเล็ม และนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาได้รับ revelation จากพระเจ้า แต่นั่นเป็นเรื่องปลีกย่อยที่ไว้คุยกันวันหลังครับ) พี่ชายสองคนของนีไฟไม่ชอบใจนีไฟ จึงพยายามทำร้ายเขา และภายหลังได้แยกตัวออกไปต่างหาก จึงทำให้สมัยนั้นเกิดชนขึ้นสองเผ่าคือ Nephites และ Lamanites ซึ่งทั้งสองได้มีการต่อสู้กันเสมอมา
พระคัมภีร์มอร์มอนจึงเป็นบันทึกเรื่องราวของชนทั้งสองเผ่าโดยเขียนจาก prophets แบบเดียวกันกับในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล บางครั้ง(โดยเฉพาะในช่วงต้นๆ) เรื่องราวก็เขียนโดย Nephite บางครั้งก็เป็นโดย Lamanite เพราะแม้ว่า Prophets จะมาจากเผ่า Nephites ในช่วงแรก แต่บางครั้งเผ่า Nephites ก็ชั่วเสียเอง แล้วพระเจ้าก็เลือกคนจาก Lemanites มาแทน แบบนี้ครับ
เนื้อหาบางส่วนของแผ่นจารึก มาจากชนอีกเผ่าหนึ่งชื่อ Jaredites คือ ชนที่อพยพมาตั้งแต่สมัย Tower of Babel คนเหล่านั้นได้มาอยู่ที่ทวีปนี้เช่นกัน แต่ civilization ได้ถูกทำลายไปตั้งแต่ก่อนหน้าที่ลีฮายจะพาครอบครัวและคนอื่นๆมาอยู่แล้ว เพียงแต่มีบันทึกหลงเหลืออยู่ คนที่ไปเจอจึงนำมาเก็บรวมไว้ด้วย
เรื่องราวสุดท้ายในพระคัมภีร์มอร์มอน ได้รับการเขียนโดย prophet ชื่อโมโรนาย ก่อนหน้าที่ civilization จะถูกทำลายลง ซึ่งเมื่อเขียนแล้ว เขาก็ฝังแผ่นจารึกทั้งหมดไว้ใต้ดิน และกลับมาอีกครั้ง 1,500 ปีให้หลังเพื่อบอกกับโจเซ็ฟ สมิธให้ไปนำแผ่นจารึกดังกล่าวมาแปลตามคำสั่งของพระเจ้าครับ
ส่วน Urim and Thummim คือ Seer Stones ซึ่งคนในสมัยก่อนใช้ในการถามหาพระประสงค์ของพระเจ้าครับ ถ้าอ่านในพระคัมภีร์เดิม จะพบการใช้ Urim and Thummim อยู่ประปราย หินสองก้อนนี้มีหลายชุดด้วยกัน ว่ากันว่า ชุดที่โจเซ็ฟ สมิธ ใช้ในการแปลพระคัมภีร์มอร์มอน (ถูกฝังไว้กับพระคัมภีร์) เป็นชุดเดียวกันกับที่ Brother of Jared (ต้นสายของชนเผ่า Jaredites) นำติดตัวมาด้วยตั้งแต่ครั้ง Tower of Babel ครับ
:)