นับวันยิ่งไม่เข้าใจ ว่าทุกวันนี้ ไม่ว่าทางฝั่งตะวันออกหรือตะวันตก ล้วนแต่ชอบเขียนหรือแต่งเรื่องที่พยายามล้างสมองคนทางอ้อม(คำว่าคนอ่านแยกออกฟังไม่ขึ้นหรอกค่ะ เพราะไม่ใช่ทุกคน ดีไม่ดีมันจะฝังเป็นเสียงสะท้อนในใจด้วยซ้ำ) ว่าไม่มีพระเจ้ามั่งล่ะ หรือว่ามีแต่พระเจ้าแย่มั่งล่ะ(สารภาพว่าทุกวันนี้เราก็ยังไขว้เขวบ่อย ๆ ) หรือไม่ก็ พระเยซูเจ้าไม่ได้เป็นขึ้นมาจริง ๆ บ้างล่ะ(เช่นพวกเรื่องที่หาว่าพบกระดูกที่สงสัยว่าเป็นของคนที่ถูกตรึงบนไม้กางเขนมั่งล่ะ (เชื่อเถอะว่า คนที่อ่านเจอข้อความแบบนี้ ไม่ใส่ใจจะโฟกัสที่โจรสองคนข้าง ๆ ก่อนหรอก) หรือไม่ก็นิยมปีศาจไปเลย) บ้างก็โจมตีเรื่องเก่า ๆ ของศาสนจักรแต่เรื่องเลวร้ายมั่ง แต่พวกเขาชอบ(ทำเป็น)ลืม หรือแทบจะละเลยว่า ทีคนต่างศาสนาทำอะไรกับคริสเตียนมั่ง ไม่ยอมตีแผ่ให้เห็นกันบ้าง หรือถึงพูดก็หาว่าเชื่อผิดเลยตาย อะไรแบบนี้
.......พูดตามตรง ทุกวันนี้ก็ยังไม่เลิก ที่อยากจะให้พระองค์ประทานพลังให้ แล้วจะเป็นพยัคฆ์ล่าเนื้อจัดการให้หมดเลย (อ้อ จริง ๆ อยากได้ค่าตอบแทนอีกสองสามข้อ ถึงจะมากไปหน่อยก็เถอะ)
หรือไม่ก็อยากเห็นพระองค์ลงมือจัดการทุกอย่างเสียแต่ตอนนี้เลย จะได้จบ ๆ ตาของเราจะได้ไม่ต้องเห็นอะไรที่มันชวนให้ปวดใจด้วย
พระองค์น่าจะรู้ ต่อให้คนเขียนพวกนั้นกลับใจ แต่สิ่งที่เขาบรรเลงออกมาและตีพิมพ์ไปแล้ว มันจะกลายเป็นดั่งเชื้อโรคที่แพร่ไปได้เรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
ถามมากไปแบบนี้ จะโดนสงสัยเอาว่าเป็นซาตานเหมือนเปโตรรึเปล่าเนี่ย (จำได้ว่ามีตอนนึง ที่พระเยซูว่าเปโตรเช่นนั้น เพราะเปโตรบอกจะไม่ยอมให้พระองค์ถูกจับไปตรึง แล้วโดนหาว่าคิดอย่างมนุษย์ ไม่ได้คิดอย่างพระเจ้า (โธ่! ถ้าเลือกเกิดได้ จะเป็นมนุษย์ทำเผือก แล้วก็ถ้าอย่างมนุษย์ไม่คิดอย่างมนุษย์ แล้วมันจะเป็นมนุษย์ได้ยังไงล่ะเจ้าค๊าาาา ไม่เป็นพระเจ้าเองไปแล้วล่ะ?))
ทำไมพระเจ้าถึงต้องปล่อยศัตรูไว้
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
เราสงสารผองเพื่อนคริสตชนทุกคนที่ต้องทนทุกข์และถูกข่มเหงทั้งทางตรงและทางอ้อมจากคนพวกนั้นมากกว่าค่ะ
ตอนนี้กำลังคิดว่า พระคัมภีร์เขียนตอบเรื่องนี้ไว้อยู่แล้ว ทำไมมาบ่นเหมือนไม่เคยอ่าน
มธ 13:24-30 อุปมาเรื่องข้าวละมาน
พระเยซูเจ้าทรงเล่าเป็นอุปมาอีกเรื่องหนึ่งให้พวกเขาฟังว่า “อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับชายคนหนึ่งที่หว่านข้าวพันธุ์ดีในนาของตน ขณะที่ทุกคนนอนหลับ ศัตรูก็มาหว่านข้าวละมานทับลงบนข้าวสาลีแล้วจากไป เมื่อต้นข้าวงอกขึ้นจนออกรวง ข้าวละมานก็ปรากฏแซมอยู่ด้วย บรรดาผู้รับใช้จึงไปหานายถามว่า ‘นายครับ นายหว่านข้าวพันธุ์ดีในนามิใช่หรือ แล้วข้าวละมานมาจากที่ใดเล่า’ นายตอบว่า ‘ศัตรูมาหว่านไว้’ ผู้รับใช้จึงถามว่า ‘นายต้องการให้เราไปถอนมันไหม’ นายตอบว่า ‘อย่าเลย เกรงว่าเมื่อท่านถอนข้าวละมาน ท่านจะถอนข้าวสาลีติดมาด้วย จงปล่อยให้ข้าวสองชนิดงอกงามขึ้นด้วยกันจนถึงฤดูเก็บเกี่ยว แล้วฉันจะบอกคนเก็บเกี่ยวว่า จงเก็บข้าวละมานก่อน มัดเป็นฟ่อน เผาไฟเสีย ส่วนข้าวสาลีนั้น จงเก็บเข้ายุ้งของฉัน’”
มธ 13:36-43 คำอธิบายอุปมาเรื่องข้าวละมาน
หลังจากนั้น พระองค์ทรงแยกจากประชาชนเข้าไปในบ้าน บรรดาศิษย์จึงเข้ามาทูลว่า “โปรดอธิบายอุปมาเรื่องข้าวละมานในนาเถิด” พระองค์ตรัสว่า “ผู้หว่านเมล็ดพันธุ์ดีคือบุตรแห่งมนุษย์ ทุ่งนาคือโลก เมล็ดพันธุ์ดีคือพลเมืองแห่งพระอาณาจักร ข้าวละมานคือพลเมืองของมารร้าย ศัตรูที่หว่านคือปีศาจ ฤดูเก็บเกี่ยวคือเวลาอวสานแห่งโลก ผู้เก็บเกี่ยวคือทูตสวรรค์ “ข้าวละมานถูกมัดเผาไฟฉันใด เวลาอวสานแห่งโลกก็จะเป็นฉันนั้น บุตรแห่งมนุษย์จะทรงใช้ทูตสวรรค์ของพระองค์มารวบรวมทุกสิ่งที่ทำให้หลงผิดและทุกคนที่ประกอบการอธรรม ให้ออกจากพระอาณาจักร แล้วเอาไปทิ้งในกองไฟ ที่นั่น จะมีแต่การร่ำไห้คร่ำครวญ และขบฟันด้วยความขุ่นเคือง ส่วนผู้ชอบธรรมจะส่องแสงเหมือนดวงอาทิตย์ในพระอาณาจักรของพระบิดาใครมีหูก็จงฟังเถิด”
มธ 13:24-30 อุปมาเรื่องข้าวละมาน
พระเยซูเจ้าทรงเล่าเป็นอุปมาอีกเรื่องหนึ่งให้พวกเขาฟังว่า “อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับชายคนหนึ่งที่หว่านข้าวพันธุ์ดีในนาของตน ขณะที่ทุกคนนอนหลับ ศัตรูก็มาหว่านข้าวละมานทับลงบนข้าวสาลีแล้วจากไป เมื่อต้นข้าวงอกขึ้นจนออกรวง ข้าวละมานก็ปรากฏแซมอยู่ด้วย บรรดาผู้รับใช้จึงไปหานายถามว่า ‘นายครับ นายหว่านข้าวพันธุ์ดีในนามิใช่หรือ แล้วข้าวละมานมาจากที่ใดเล่า’ นายตอบว่า ‘ศัตรูมาหว่านไว้’ ผู้รับใช้จึงถามว่า ‘นายต้องการให้เราไปถอนมันไหม’ นายตอบว่า ‘อย่าเลย เกรงว่าเมื่อท่านถอนข้าวละมาน ท่านจะถอนข้าวสาลีติดมาด้วย จงปล่อยให้ข้าวสองชนิดงอกงามขึ้นด้วยกันจนถึงฤดูเก็บเกี่ยว แล้วฉันจะบอกคนเก็บเกี่ยวว่า จงเก็บข้าวละมานก่อน มัดเป็นฟ่อน เผาไฟเสีย ส่วนข้าวสาลีนั้น จงเก็บเข้ายุ้งของฉัน’”
มธ 13:36-43 คำอธิบายอุปมาเรื่องข้าวละมาน
หลังจากนั้น พระองค์ทรงแยกจากประชาชนเข้าไปในบ้าน บรรดาศิษย์จึงเข้ามาทูลว่า “โปรดอธิบายอุปมาเรื่องข้าวละมานในนาเถิด” พระองค์ตรัสว่า “ผู้หว่านเมล็ดพันธุ์ดีคือบุตรแห่งมนุษย์ ทุ่งนาคือโลก เมล็ดพันธุ์ดีคือพลเมืองแห่งพระอาณาจักร ข้าวละมานคือพลเมืองของมารร้าย ศัตรูที่หว่านคือปีศาจ ฤดูเก็บเกี่ยวคือเวลาอวสานแห่งโลก ผู้เก็บเกี่ยวคือทูตสวรรค์ “ข้าวละมานถูกมัดเผาไฟฉันใด เวลาอวสานแห่งโลกก็จะเป็นฉันนั้น บุตรแห่งมนุษย์จะทรงใช้ทูตสวรรค์ของพระองค์มารวบรวมทุกสิ่งที่ทำให้หลงผิดและทุกคนที่ประกอบการอธรรม ให้ออกจากพระอาณาจักร แล้วเอาไปทิ้งในกองไฟ ที่นั่น จะมีแต่การร่ำไห้คร่ำครวญ และขบฟันด้วยความขุ่นเคือง ส่วนผู้ชอบธรรมจะส่องแสงเหมือนดวงอาทิตย์ในพระอาณาจักรของพระบิดาใครมีหูก็จงฟังเถิด”
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
เคยอ่านค่ะ แต่แค่อดปวดใจไม่ได้เวลาเห็นแล้วตัวเองทำอะไรไม่ได้
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เวลาปวดใจ ก็สวดภาวนาให้คนเหล่านั้นสิคะ