ตามหัวข้อแหละ จะว่าอะไรดี ความสุขก็ดี จุดมุ่งหมายก็ดี ความต้องการส่วนตัวก็ดี เรื่องความสัมพันธ์กับคนที่เรารักหรือคนอื่น ๆ ก็ดี
.....คนหัวดื้อ ซื่อสัตย์ไม่สุด ความอดทนต่ำ อย่างเรามีสิทธิ์จะมีความสุขในแบบของตัวเอง แบบที่ตัวเองพอใจ ที่จะขอจากพระผู้เป็นเจ้าได้ไหมนะ
.....แปลกดี ที่โบสถ์ชอบยกเรื่องอับราฮัมมาพูด และพูดทำนองว่า "มนุษย์ต้องรอคอยพระเจ้า ถ้าคิดจะลงมือทำเอง แม้เจตนาทำเพื่อพระเจ้า ก็ถือว่าผิด เป็นเหตุให้เกิดอิสมาเอลที่มาเป็นศัตรูกับอิสราเอลขึ้นมา" ทำนองนี้
......คนมันยิ่งเฟลว่าตัวเอง useless แทบจะตลอดเวลาอยู่แล้ว มาเจองี้ ไม่เท่ากับว่าตอกย้ำกันหรือไงนี่ แต่ถ้าสายตาพระองค์คิดแบบนี้จริง..... แล้วจะสร้างมนุษย์มารับใช้ทำไมฟระ (แล้วตรูเกิดมาทำไมเนี่ย)
เฮ้อ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ พูดเลยละกัน ว่าทำไมมาเชื่อพระเจ้าแล้ว พระองค์ไม่เคยตรัสอะไรกับเราตรง ๆ เลยสักอย่าง หรือเพราะเราไม่มีความสามารถในการได้ยินเสียงพระองค์เหมือนที่หลาย ๆ คนมีกันนะ
แล้วทำไมเราไม่มี....? หรือเพราะเราถูกตัดสินแล้วว่าไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ เป็นแค่คนนอกคอก? พวกชอบเรียกร้อง? พวกลูกไม่ตามใจพ่อแม่?
............พูดง่าย ๆ บทจะสุขก็สุขบ้าง แต่บทจะทุกข์ เผลอ ๆ ทุกข์กว่าเดิม เหมือนตัวเองไม่มีตัวตนไงไม่รู้
เฮ้อ บรรยายความรู้สึกตอนนี้ไม่ถูกเลยแฮะ
(อดใจเงียบไม่โพสมาตั้งหลายวัน)
ผิดไหม ถ้าจะขอเพื่อตัวเราเอง
เราว่าไม่ผิดนะ ก็บางทีในมิสซา พ่อยังบอกให้สัตตบุรุษ วิงวอนขอความต้องการ
ส่วนตัวได้นี่นา
เวลาเราสวดสายประคำนะ เราก็วิงวอนขอพระเจ้า กับแม่พระ
ให้ตัวเอง ให้เพือน ให้ญาติ และเท่าที่จะนึกได้
ไม่ทราบว่า พี่น้อง ท่านอื่นๆจะว่าอย่างไรมั่งคะ
ส่วนตัวได้นี่นา
เวลาเราสวดสายประคำนะ เราก็วิงวอนขอพระเจ้า กับแม่พระ
ให้ตัวเอง ให้เพือน ให้ญาติ และเท่าที่จะนึกได้
ไม่ทราบว่า พี่น้อง ท่านอื่นๆจะว่าอย่างไรมั่งคะ
เราว่าไม่ผิดนะคะ คนบาปก็ยังขอให้พระเปลี่ยนตัวเองได้เลย
ถ้าลูกไม่มีขอให้พ่อจัดให้ก็ไม่เห็นแปลกเลย (แต่ต้องขออะไรที่มันสมตัวหน่อย ไม่ใช่เป็นเด็กน้อยสองขวบขอมอไซต์มาแว๊นส์)
เรารู้สึกว่า จขกท จะเฟลกับชีวิตมากๆเลยนะคะ ทำไมไม่ลองวางใจในพระเจ้าให้มากกว่านี้อะคะ รับรองว่าพระเจ้าต้องให้แน่ๆเลยค่ะ
ถ้าลูกไม่มีขอให้พ่อจัดให้ก็ไม่เห็นแปลกเลย (แต่ต้องขออะไรที่มันสมตัวหน่อย ไม่ใช่เป็นเด็กน้อยสองขวบขอมอไซต์มาแว๊นส์)
เรารู้สึกว่า จขกท จะเฟลกับชีวิตมากๆเลยนะคะ ทำไมไม่ลองวางใจในพระเจ้าให้มากกว่านี้อะคะ รับรองว่าพระเจ้าต้องให้แน่ๆเลยค่ะ

คุณ จขกท เราเองก็ไม่ได้ดี ซํกเท่าไหร่หรอก เผลอๆอาจแย่กว่าคุณด้วยน๊า
เท่าที่อ่านจากทีคุณเขียน ดีไม่ดี เราแย่กว่า อะไรที่พระเจ้าทรงอนุญาตให้มันเกิดมันย่อมมีเหตุผล เราแค่ทำหน้าที่ ที่พระองค์ส่งมาให้เราได้เรียนรู้ ให้ดีที่สุด
ถึงตอบใครไม่ได้ อย่างน้อยก็ตอบตัวเองได้ ก็พอแล้ว
เท่าที่อ่านจากทีคุณเขียน ดีไม่ดี เราแย่กว่า อะไรที่พระเจ้าทรงอนุญาตให้มันเกิดมันย่อมมีเหตุผล เราแค่ทำหน้าที่ ที่พระองค์ส่งมาให้เราได้เรียนรู้ ให้ดีที่สุด
ถึงตอบใครไม่ได้ อย่างน้อยก็ตอบตัวเองได้ ก็พอแล้ว
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
ขอเพื่อตัวเองนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยครับ ร้อยทั้งร้อยเราส่วนใหญ่ก็ขอเพื่อตัวเองกันทั้งนั้น ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
ผมเป็นคริสต์มาก็ประมาณ 2-3 ปีแล้ว ยังไม่เคยได้ยินเสียงพระองค์เหมือนกันครับ เคยนึกเฟลอยู่เหมือนกันว่า "ไรว้าพระองค์= =".....กระซิบให้ลูกชื่นใจสักนิดไม่ได้หรอ....กริบเป็นป่าช้าเชียว...."
แต่สักพักก็รู้แล้วว่า ไอ้ที่เราได้ยินหรือไม่ได้ยินนั่นมันไม่ใช่ประเด็นหรอก ถ้าพระองค์อยากจะพูดก็คงพูดกะคงทั้งโลกไปแล้ว แต่พระองค์รู้...วันนี้ลูกขอให้พูด พูดไป...วันหน้ามันก็ขออย่างอื่นอีก ขอไปเรื่อยๆ ได้คืบจะเอาศอก ได้ยินเสียงแล้วก็อยากเห็นตัวพระองค์ อยากเห็นปาฏิหาริย์ เผลอๆอีกหน่อยก็คง "เป็นคริสต์แล้ว ขอพลังแบบช่วยรักษาคน(Heal)หรือพลังขับผีแบบจ๊าบๆ(Grand cross)หน่อยดิ...อะไรนะ? ไม่ให้??? พระองค์ทอดทิ้งช้านนนนนนนน"(จะไปบุกดันเจี้ยนที่ไหนครับ= =")
ถึงเราจะคิดว่า "เฮ่ย! ขอแค่ได้ยินเสียงนิดเดียวเอง แบบว่า อยากรู้สึกว่าเป็นคนพิเศษอ่ะ นิดๆหน่อยๆ ไม่ได้หวังอะไรมากมายนะ" คำนี้พูดกันทุกคนครับ เพราะเรามักคิดว่า สิ่งที่เราอยากได้นั้นมันสำคัญมากๆ เมื่อได้มันมาแล้วเราต้องพอใจจนไม่ต้องการอะไรอีกแล้วแน่นอน แต่ในความเป็นจริง ความอยากของคนเรามันเติมด้วยปัจจัยภายนอกไม่ได้ครับ พระเจ้าท่านไม่สนองความต้องการหลายๆอย่างของเรา...เพราะพระองค์รู้ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการจริงๆหรอก
อย่างที่พระเจ้า(นักแสดง)พูดไว้ในหนังเรื่องบรู๊ซออลไมตี้(7 วันนี้พี่ขอเป็นพระเจ้า) ตอนที่บรู๊ซเอาพลังประทานพรไปใช้ทำให้ความปรารถนาของคนในเมืองเป็นจริงกันหมดจนเกิดความวุ่นวายโกลาหลอย่างบ้าคลั่ง
บรู๊ซ "ผมไม่เข้าใจเลย...ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้? ผมก็แค่ให้สิ่งที่ทุกคนต้องการนี่นา?"
พระเจ้า "นั่นแหละ เพราะไม่มนุษย์ไม่เคยเข้าใจเลยว่า จริงๆแล้วพวกเขาต้องการอะไร"
ส่วนเรื่องอับราฮัม ส่วนตัวคิดว่าพระคัมภีร์เก่าจะเอามาตีเทียบกับการปฏิบัติตนในยุคนี้ไม่ได้หรอกครับ เพราะตอนนั้นการดำรงชีวิตมันต่างกัน สมัยนั้นมันไม่มีอะไรมาก มนุษย์ก็อยู่ในยุคต้นของอารยธรรมที่มันยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง การให้มนุษย์ตัดสินใจอะไรเลยดูเป็นเรื่องที่เกินตัวเพราะคนยุคนั้นยังเข้าใจอะไรๆได้น้อย พระเจ้าทรงวางกฏเกณฑ์แบบเป๊ะๆ สั่งว่าห้ามทำถ้าไม่ได้สั่ง ก็ถือว่าสมเหตุผลแล้วครับ
แต่กะสมัยนี้มันปลายยุคแล้ว อะไรๆก็เริ่มจะถึงที่สุด พระองค์ก็ให้โอกาสมนุษย์ได้คิดเอง ได้ตัดสินใจเอง ได้มีเสรีภาพที่จะเลือกกระทำ(ดี)
ขอยกคำพูดจากหนังเรื่องเดิม
พระเจ้า "ผมจะให้พลังคุณ(บรู๊ซ) คุณสามารถทำได้ทุกๆอย่างในจักรวาลนี้ ยกเว้นอย่างเดียว คือคุณห้ามบังคับใจใครเด็ดขาด"
บรู๊ซ "ทำไมล่ะครับ?"
พระเจ้า "เพราะเสรีภาพ นั่นแหละคือความหมายของมนุษย์"
พระเจ้าคงสั่งให้ทุกคนก้มกราบแทบเท้าไปแล้วถ้าพระองค์จะเล่นบทโหดเป็นเจ้านายจอมสั่งจริง แต่พระองค์บอกให้มนุษย์ถ่อมใจลง เชื่อฟังกันบ้าง เห็นแก่ผู้อื่นจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ส่วนที่เหลือที่เป็นความอ่อนแอของเรา พระองค์ก็ไม่ได้ชี้หน้าด่าไล่ส่ง แต่ให้โอกาสเราแทบจะทุกครั้ง "ลูกพลาด ลูกสำนึกผิด ไม่เป็นไร พ่อให้ลูกเริ่มต้นใหม่ได้" เพราะอย่างนี้ไงครับโลกถึงมีความวุ่นวายเกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะทุกคนใช้อิสรภาพของพระเจ้ามาใช้แบบไม่สนใจใคร กูจะทำซะอย่างใครจะทำไม??
จะทำตามใจตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องผิดครับ แต่ก่อนจะทำก็ควรไตร่ตรองหน่อย ลองถามพระเจ้าว่าเราคิดดีหรือยัง อาจจะตบท้ายด้วยการสวดสั้นๆประมาณว่า "หากพระองค์เห็นชอบกับสิ่งที่ลูกจะกระทำ ขอทรงโปรดอวยพรให้สิ่งนั้นจำเริญขึ้น แต่หากพระองค์จะหักสิ่งนั้นลงโดยเจตนาแล้ว ก็ขอทรงหักโทสะและความเศร้าของลูกที่จะบังเกิดขึ้นไปด้วยเถิด" (<<<แต่งสด เบลอนิดๆ อย่าคิดมาก= =")
เรื่องสุขเรื่องทุกข์นี่เป็นกันทุกคนครับ แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้เล่าให้ฟังตรงๆเลยว่าเรื่องทุกข์นั้นคือเรื่องอะไร เพราะกรณีแยกย่อยเยอะมากๆ ถ้าไม่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเกรงว่าจะตอบได้ไม่ตรงประเด็น
เอ่อ....พิมพ์ยาวอีกแล้วเรา ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ปล. แนะนำเพลง(หรือนิทาน)เรื่อง "รอยเท้าบนผืนทราย" คืดว่าน่าจะให้ข้อคิดดีๆครับ
ผมเป็นคริสต์มาก็ประมาณ 2-3 ปีแล้ว ยังไม่เคยได้ยินเสียงพระองค์เหมือนกันครับ เคยนึกเฟลอยู่เหมือนกันว่า "ไรว้าพระองค์= =".....กระซิบให้ลูกชื่นใจสักนิดไม่ได้หรอ....กริบเป็นป่าช้าเชียว...."
แต่สักพักก็รู้แล้วว่า ไอ้ที่เราได้ยินหรือไม่ได้ยินนั่นมันไม่ใช่ประเด็นหรอก ถ้าพระองค์อยากจะพูดก็คงพูดกะคงทั้งโลกไปแล้ว แต่พระองค์รู้...วันนี้ลูกขอให้พูด พูดไป...วันหน้ามันก็ขออย่างอื่นอีก ขอไปเรื่อยๆ ได้คืบจะเอาศอก ได้ยินเสียงแล้วก็อยากเห็นตัวพระองค์ อยากเห็นปาฏิหาริย์ เผลอๆอีกหน่อยก็คง "เป็นคริสต์แล้ว ขอพลังแบบช่วยรักษาคน(Heal)หรือพลังขับผีแบบจ๊าบๆ(Grand cross)หน่อยดิ...อะไรนะ? ไม่ให้??? พระองค์ทอดทิ้งช้านนนนนนนน"(จะไปบุกดันเจี้ยนที่ไหนครับ= =")
ถึงเราจะคิดว่า "เฮ่ย! ขอแค่ได้ยินเสียงนิดเดียวเอง แบบว่า อยากรู้สึกว่าเป็นคนพิเศษอ่ะ นิดๆหน่อยๆ ไม่ได้หวังอะไรมากมายนะ" คำนี้พูดกันทุกคนครับ เพราะเรามักคิดว่า สิ่งที่เราอยากได้นั้นมันสำคัญมากๆ เมื่อได้มันมาแล้วเราต้องพอใจจนไม่ต้องการอะไรอีกแล้วแน่นอน แต่ในความเป็นจริง ความอยากของคนเรามันเติมด้วยปัจจัยภายนอกไม่ได้ครับ พระเจ้าท่านไม่สนองความต้องการหลายๆอย่างของเรา...เพราะพระองค์รู้ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการจริงๆหรอก
อย่างที่พระเจ้า(นักแสดง)พูดไว้ในหนังเรื่องบรู๊ซออลไมตี้(7 วันนี้พี่ขอเป็นพระเจ้า) ตอนที่บรู๊ซเอาพลังประทานพรไปใช้ทำให้ความปรารถนาของคนในเมืองเป็นจริงกันหมดจนเกิดความวุ่นวายโกลาหลอย่างบ้าคลั่ง
บรู๊ซ "ผมไม่เข้าใจเลย...ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้? ผมก็แค่ให้สิ่งที่ทุกคนต้องการนี่นา?"
พระเจ้า "นั่นแหละ เพราะไม่มนุษย์ไม่เคยเข้าใจเลยว่า จริงๆแล้วพวกเขาต้องการอะไร"
ส่วนเรื่องอับราฮัม ส่วนตัวคิดว่าพระคัมภีร์เก่าจะเอามาตีเทียบกับการปฏิบัติตนในยุคนี้ไม่ได้หรอกครับ เพราะตอนนั้นการดำรงชีวิตมันต่างกัน สมัยนั้นมันไม่มีอะไรมาก มนุษย์ก็อยู่ในยุคต้นของอารยธรรมที่มันยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง การให้มนุษย์ตัดสินใจอะไรเลยดูเป็นเรื่องที่เกินตัวเพราะคนยุคนั้นยังเข้าใจอะไรๆได้น้อย พระเจ้าทรงวางกฏเกณฑ์แบบเป๊ะๆ สั่งว่าห้ามทำถ้าไม่ได้สั่ง ก็ถือว่าสมเหตุผลแล้วครับ
แต่กะสมัยนี้มันปลายยุคแล้ว อะไรๆก็เริ่มจะถึงที่สุด พระองค์ก็ให้โอกาสมนุษย์ได้คิดเอง ได้ตัดสินใจเอง ได้มีเสรีภาพที่จะเลือกกระทำ(ดี)
ขอยกคำพูดจากหนังเรื่องเดิม
พระเจ้า "ผมจะให้พลังคุณ(บรู๊ซ) คุณสามารถทำได้ทุกๆอย่างในจักรวาลนี้ ยกเว้นอย่างเดียว คือคุณห้ามบังคับใจใครเด็ดขาด"
บรู๊ซ "ทำไมล่ะครับ?"
พระเจ้า "เพราะเสรีภาพ นั่นแหละคือความหมายของมนุษย์"
พระเจ้าคงสั่งให้ทุกคนก้มกราบแทบเท้าไปแล้วถ้าพระองค์จะเล่นบทโหดเป็นเจ้านายจอมสั่งจริง แต่พระองค์บอกให้มนุษย์ถ่อมใจลง เชื่อฟังกันบ้าง เห็นแก่ผู้อื่นจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ส่วนที่เหลือที่เป็นความอ่อนแอของเรา พระองค์ก็ไม่ได้ชี้หน้าด่าไล่ส่ง แต่ให้โอกาสเราแทบจะทุกครั้ง "ลูกพลาด ลูกสำนึกผิด ไม่เป็นไร พ่อให้ลูกเริ่มต้นใหม่ได้" เพราะอย่างนี้ไงครับโลกถึงมีความวุ่นวายเกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะทุกคนใช้อิสรภาพของพระเจ้ามาใช้แบบไม่สนใจใคร กูจะทำซะอย่างใครจะทำไม??
จะทำตามใจตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องผิดครับ แต่ก่อนจะทำก็ควรไตร่ตรองหน่อย ลองถามพระเจ้าว่าเราคิดดีหรือยัง อาจจะตบท้ายด้วยการสวดสั้นๆประมาณว่า "หากพระองค์เห็นชอบกับสิ่งที่ลูกจะกระทำ ขอทรงโปรดอวยพรให้สิ่งนั้นจำเริญขึ้น แต่หากพระองค์จะหักสิ่งนั้นลงโดยเจตนาแล้ว ก็ขอทรงหักโทสะและความเศร้าของลูกที่จะบังเกิดขึ้นไปด้วยเถิด" (<<<แต่งสด เบลอนิดๆ อย่าคิดมาก= =")
เรื่องสุขเรื่องทุกข์นี่เป็นกันทุกคนครับ แต่ถ้าเป็นไปได้อยากให้เล่าให้ฟังตรงๆเลยว่าเรื่องทุกข์นั้นคือเรื่องอะไร เพราะกรณีแยกย่อยเยอะมากๆ ถ้าไม่ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเกรงว่าจะตอบได้ไม่ตรงประเด็น
เอ่อ....พิมพ์ยาวอีกแล้วเรา ขอพระเจ้าอวยพรครับ

ปล. แนะนำเพลง(หรือนิทาน)เรื่อง "รอยเท้าบนผืนทราย" คืดว่าน่าจะให้ข้อคิดดีๆครับ
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
อืม ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ
แต่จริง ๆ เรายังตกไปอีกประโยคนึงน่ะนะ เผอิญช่วงนี้จิตตกอีกแล้ว
จริง ๆ ต้องเพิ่มไปอีกนิดว่า "แล้วเราจะทำอะไรตามใจตัวเอง หรือด้วยตัวเองได้หรือไม่" ในสายพระเนตรของพระเจ้้า
.....ไม่รู้สิ เราเริ่มสับสนระหว่าง "เสรีภาพ" กับ "กฎเกณฑ์และถูกต้อง" มากขึ้นทุกที
ช่วงนี้บางทีดึก ๆ นอนไม่หลับ เพราะมัวแต่เพ้อคร่ำครวญถามพระองค์เรื่องนี้ แต่ไม่ว่ากี่ครั้ง ๆ ก็เงียบตลอด หรือบางทีก็ฝันไปแต่จับใจความไม่ได้(+หลายครั้งฝันอะไรที่ไม่ได้เกี่ยวกับที่สงสัยเลยสักกะนิด) หรือบางทีก็แยกไม่ออกระหว่าง "คิดไปเอง" กับ "พระองค์ตรัสสุ่สมองโดยตรง" (แต่เราว่าน่าจะเป็นเราคิดไปเองมากกว่า เพราะมันดูเข้าข้างตัวเองมากไป)
........เฮ้อ.... เหมือนกับพระองค์ไม่อยากเจอหน้าเรายังไงยังงั้นแหละ
แต่จริง ๆ เรายังตกไปอีกประโยคนึงน่ะนะ เผอิญช่วงนี้จิตตกอีกแล้ว
จริง ๆ ต้องเพิ่มไปอีกนิดว่า "แล้วเราจะทำอะไรตามใจตัวเอง หรือด้วยตัวเองได้หรือไม่" ในสายพระเนตรของพระเจ้้า
.....ไม่รู้สิ เราเริ่มสับสนระหว่าง "เสรีภาพ" กับ "กฎเกณฑ์และถูกต้อง" มากขึ้นทุกที
ช่วงนี้บางทีดึก ๆ นอนไม่หลับ เพราะมัวแต่เพ้อคร่ำครวญถามพระองค์เรื่องนี้ แต่ไม่ว่ากี่ครั้ง ๆ ก็เงียบตลอด หรือบางทีก็ฝันไปแต่จับใจความไม่ได้(+หลายครั้งฝันอะไรที่ไม่ได้เกี่ยวกับที่สงสัยเลยสักกะนิด) หรือบางทีก็แยกไม่ออกระหว่าง "คิดไปเอง" กับ "พระองค์ตรัสสุ่สมองโดยตรง" (แต่เราว่าน่าจะเป็นเราคิดไปเองมากกว่า เพราะมันดูเข้าข้างตัวเองมากไป)
........เฮ้อ.... เหมือนกับพระองค์ไม่อยากเจอหน้าเรายังไงยังงั้นแหละ
-
- โพสต์: 1029
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm
ลองอ่านกระทู้นี้ดูค่ะ
http://www.newmana.com/phpbb/viewtopic.php?f=2&t=3234
อาจจะได้คำตอบเรื่องการประจักษ์หรือเห็นนิมิตเพิ่ม
ขอให้พระเป็นเจ้าสถิตกับคุณค่ะ

http://www.newmana.com/phpbb/viewtopic.php?f=2&t=3234
อาจจะได้คำตอบเรื่องการประจักษ์หรือเห็นนิมิตเพิ่ม
ขอให้พระเป็นเจ้าสถิตกับคุณค่ะ

ไหมถ้าจะทำเพื่อตัวเรา สำหรับเราว่าไม่ผิดนะ แต่ต้องมีข้อแม้ว่า ไม่ไปอยู่บนความทุกข์ของผู้อื่น คุณพ่อสอนว่า พระเจ้าท่านสร้างเรามาตามฉายาของพระองค์ ถ้าการกระทำของเราเป็นการทำเพื่อตัวเอง แต่ออกมาจากสำนึกทีดี ไม่ผิดทั้งทางโลกและทางธรรม สิ่งนั้นพระองค์ต้องเห็นสมควรแน่
พระอาจารย์ทรงสอนให้เราทุกคน แบกกางเขนของเราแต่ละคนติดตามพระองค์มา ตราบใดที่เรายังเป็นมนุษย์ ไม่มีใครหรอกที่ไม่ต้องแบกกางเขน
สู้ๆนะ
พระอาจารย์ทรงสอนให้เราทุกคน แบกกางเขนของเราแต่ละคนติดตามพระองค์มา ตราบใดที่เรายังเป็นมนุษย์ ไม่มีใครหรอกที่ไม่ต้องแบกกางเขน
สู้ๆนะ
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
ยอห์น 16:23-24
"ในวันนั้นท่านจะไม่ถามอะไรเราอีก เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะทรงประทานสิ่งนั้นให้แก่ท่าน แม้จนบัดนี้ท่านยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของเรา จงขอเถิดแล้วจะได้ เพื่อความชื่นชมยินดีของท่านจะมีเต็มเปี่ยม"
ขอเลย...น้อง
"ในวันนั้นท่านจะไม่ถามอะไรเราอีก เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะทรงประทานสิ่งนั้นให้แก่ท่าน แม้จนบัดนี้ท่านยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของเรา จงขอเถิดแล้วจะได้ เพื่อความชื่นชมยินดีของท่านจะมีเต็มเปี่ยม"

การขอเพื่อตัวเองไม่ผิด แต่ถ้าการขอนั้นไม่ได้ส่งผลดีกับเราเองจริงๆแต่กลับเป็นเพียงการสนองความต้องการหรือความอยากทางโลกของเรา และถ้าท่าทีวอนขอของเราไม่สุภาพถ่อมตน อาจไม่ได้รับ
ยก 4:1
การต่อสู้และการทะเลาะวิวาทในหมู่ท่านนั้นมาจากที่ใด มิใช่มาจากกิเลสตัณหาซึ่งต่อสู้อยู่ภายในร่างกายของท่านหรือ ท่านอยากได้ แต่ไม่ได้ จึงฆ่ากัน ท่านอยากได้ แต่ไม่สมหวัง จึงทะเลาะวิวาทและต่อสู้กัน ท่านไม่มีเพราะไม่ได้วอนขอ ท่านวอนขอ แต่ไม่ได้รับ เพราะท่านวอนขอไม่ถูกต้อง คือวอนขอเพื่อนำไปสนองกิเลสตัณหาของท่าน ท่านที่ไม่ซื่อสัตย์เหมือนหญิงคบชู้ ท่านไม่รู้หรือว่า การเป็นมิตรกับโลกคือการเป็นศัตรูกับพระเจ้า ฉะนั้นผู้ใดต้องการเป็นมิตรกับโลก ก็ตั้งตนเป็นศัตรูกับพระเจ้า ท่านคิดว่าพระคัมภีร์กล่าวไร้สาระหรือว่า “พระเจ้าทรงรักจิตอย่างหวงแหน จิตที่พระองค์ประทานให้สถิตในเรา” พระองค์ยังประทานพระหรรษทานที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่านั้นอีก ฉะนั้นพระคัมภีร์จึงกล่าวอีกว่า “พระเจ้าทรงต่อต้านคนเย่อหยิ่ง แต่ประทานพระหรรษทานแก่ผู้ถ่อมตน”
ยก 4:1
การต่อสู้และการทะเลาะวิวาทในหมู่ท่านนั้นมาจากที่ใด มิใช่มาจากกิเลสตัณหาซึ่งต่อสู้อยู่ภายในร่างกายของท่านหรือ ท่านอยากได้ แต่ไม่ได้ จึงฆ่ากัน ท่านอยากได้ แต่ไม่สมหวัง จึงทะเลาะวิวาทและต่อสู้กัน ท่านไม่มีเพราะไม่ได้วอนขอ ท่านวอนขอ แต่ไม่ได้รับ เพราะท่านวอนขอไม่ถูกต้อง คือวอนขอเพื่อนำไปสนองกิเลสตัณหาของท่าน ท่านที่ไม่ซื่อสัตย์เหมือนหญิงคบชู้ ท่านไม่รู้หรือว่า การเป็นมิตรกับโลกคือการเป็นศัตรูกับพระเจ้า ฉะนั้นผู้ใดต้องการเป็นมิตรกับโลก ก็ตั้งตนเป็นศัตรูกับพระเจ้า ท่านคิดว่าพระคัมภีร์กล่าวไร้สาระหรือว่า “พระเจ้าทรงรักจิตอย่างหวงแหน จิตที่พระองค์ประทานให้สถิตในเรา” พระองค์ยังประทานพระหรรษทานที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่านั้นอีก ฉะนั้นพระคัมภีร์จึงกล่าวอีกว่า “พระเจ้าทรงต่อต้านคนเย่อหยิ่ง แต่ประทานพระหรรษทานแก่ผู้ถ่อมตน”
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
เี่ราอาจจะเย่อหยิ่ง แต่นั่นเพราะมีคนที่เย่อหยิ่งใส่เรามากกว่า แล้วจะให้ทำไงHoly เขียน:การขอเพื่อตัวเองไม่ผิด แต่ถ้าการขอนั้นไม่ได้ส่งผลดีกับเราเองจริงๆแต่กลับเป็นเพียงการสนองความต้องการหรือความอยากทางโลกของเรา และถ้าท่าทีวอนขอของเราไม่สุภาพถ่อมตน อาจไม่ได้รับ
ยก 4:1
การต่อสู้และการทะเลาะวิวาทในหมู่ท่านนั้นมาจากที่ใด มิใช่มาจากกิเลสตัณหาซึ่งต่อสู้อยู่ภายในร่างกายของท่านหรือ ท่านอยากได้ แต่ไม่ได้ จึงฆ่ากัน ท่านอยากได้ แต่ไม่สมหวัง จึงทะเลาะวิวาทและต่อสู้กัน ท่านไม่มีเพราะไม่ได้วอนขอ ท่านวอนขอ แต่ไม่ได้รับ เพราะท่านวอนขอไม่ถูกต้อง คือวอนขอเพื่อนำไปสนองกิเลสตัณหาของท่าน ท่านที่ไม่ซื่อสัตย์เหมือนหญิงคบชู้ ท่านไม่รู้หรือว่า การเป็นมิตรกับโลกคือการเป็นศัตรูกับพระเจ้า ฉะนั้นผู้ใดต้องการเป็นมิตรกับโลก ก็ตั้งตนเป็นศัตรูกับพระเจ้า ท่านคิดว่าพระคัมภีร์กล่าวไร้สาระหรือว่า “พระเจ้าทรงรักจิตอย่างหวงแหน จิตที่พระองค์ประทานให้สถิตในเรา” พระองค์ยังประทานพระหรรษทานที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่านั้นอีก ฉะนั้นพระคัมภีร์จึงกล่าวอีกว่า “พระเจ้าทรงต่อต้านคนเย่อหยิ่ง แต่ประทานพระหรรษทานแก่ผู้ถ่อมตน”
ตราบที่มันยังอยู่ เราก็คงแทบไม่มีโอกาสจะกลับเข้าสู่ light side ได้ง่าย ๆ ซะด้วยสิ
หวัดดีครับ น้อง Valkyrie Zero Number
ขอเป็นกำลังใจให้น้องอีกครั้งนะครับ
ตามที่พี่น้องท่านอื่นๆ ได้ตอบไปแล้ว ว่าเราขอเพื่อตัวเราเองได้ครับ แต่ทั้งนี้ก็ต้องเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระบิดา เพราะพระองค์ทรงทราบดีว่า อะไรดีที่สุดสำหรับเรา
แม้ว่าตอนนี้เราอาจจะยังไม่เข้าใจว่า ทำไมพระองค์ปล่อยให้ฉันเจอชีวิตแบบนี้ ?
ทำไมพระองค์จึงปล่อยให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับฉัน?
ทำไมคนรอบข้างฉันถึงไม่เข้าใจฉัน ? ฯลฯ
แต่ในมุมมองของพระองค์ พระองค์อาจจะทรงมีพระประสงค์ให้เราได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง ซึ่งจะทำให้เราได้เจริญเติบโตทางจิตวิญญาณ พัฒนาระดับความรักของเราให้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อชีวิตนิรันดรของเราเอง
เช่น
พระองค์อาจทรงต้องการให้เรา
- รู้จักให้อภัยแก่ผู้ที่ทำร้ายเรา และภาวนาเพื่อพวกเขา
- ตอบโต้พวกเขากลับไปด้วยความรัก ความอ่อนน้อม ถ่อมตน
- ให้เราตระหนักรู้อยู่เสมอว่า โลกนี้ไม่ใช่สวรรค์ เราจึงยังเจอความทุกข์อยู่ และเราจะไม่รู้ว่าความสุขคืออะไร ถ้าเราไม่เคยทุกข์มาก่อน ดังนั้นเราจึงควรถวายความทุกข์นั้น ร่วมกับพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน เพื่อที่จะได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ (ในโลก) และร่วมสุข (ในสวรรค์) กับพระองค์อย่างแท้จริง
ซึ่งทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่พระเยซูเจ้า ได้ทรงแสดงเป็นแบบอย่างให้เราด้วยชีวิตของพระองค์เองมาแล้ว
เราต้องแบกกางเขนของเรา และติดตามพระองค์ไป
ผมเองก็ไม่เคยได้ยินพระองค์พูดกับผมเลยสักครั้งครับ และก็จิตตกเหมือนน้องมาหลายครั้ง
แต่เมื่อมองดูชีวิตของพระเยซูเจ้า ความทุกข์ของผมกะจิ๊ดริ๊ดมากเลยครับ
สุดท้าย ขอให้น้อง Valkyrie Zero Number สู้ๆ (ไม่ได้หมายความว่า ไปตบตีใครนะครับ
)
แต่ให้สู้กับความทุกข์ยากลำบาก (ไม้กางเขน) ของเรา แบบพระเยซูเจ้า
รักและให้อภัยด้วยความจริงใจ สิ่งนี้สามารถเปลี่ยนคนรอบข้างเราได้ครับ
ให้ความรักแก่เขา แล้วเขาจะให้ความรักแก่เรา
ขอพระเป็นเจ้าอวยพระพรครับ และผมจะช่วยสวดภาวนาให้น้อง Valkyrie Zero Number นะครับ
อย่าท้อแท้ครับ เรามีเพื่อนร่วมแบกกางเขนมากมาย ในคอกแกะแห่งนี้ สู้ๆ
ขอเป็นกำลังใจให้น้องอีกครั้งนะครับ
ตามที่พี่น้องท่านอื่นๆ ได้ตอบไปแล้ว ว่าเราขอเพื่อตัวเราเองได้ครับ แต่ทั้งนี้ก็ต้องเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระบิดา เพราะพระองค์ทรงทราบดีว่า อะไรดีที่สุดสำหรับเรา
แม้ว่าตอนนี้เราอาจจะยังไม่เข้าใจว่า ทำไมพระองค์ปล่อยให้ฉันเจอชีวิตแบบนี้ ?
ทำไมพระองค์จึงปล่อยให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับฉัน?
ทำไมคนรอบข้างฉันถึงไม่เข้าใจฉัน ? ฯลฯ
แต่ในมุมมองของพระองค์ พระองค์อาจจะทรงมีพระประสงค์ให้เราได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง ซึ่งจะทำให้เราได้เจริญเติบโตทางจิตวิญญาณ พัฒนาระดับความรักของเราให้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อชีวิตนิรันดรของเราเอง
เช่น
พระองค์อาจทรงต้องการให้เรา
- รู้จักให้อภัยแก่ผู้ที่ทำร้ายเรา และภาวนาเพื่อพวกเขา
- ตอบโต้พวกเขากลับไปด้วยความรัก ความอ่อนน้อม ถ่อมตน
- ให้เราตระหนักรู้อยู่เสมอว่า โลกนี้ไม่ใช่สวรรค์ เราจึงยังเจอความทุกข์อยู่ และเราจะไม่รู้ว่าความสุขคืออะไร ถ้าเราไม่เคยทุกข์มาก่อน ดังนั้นเราจึงควรถวายความทุกข์นั้น ร่วมกับพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน เพื่อที่จะได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ (ในโลก) และร่วมสุข (ในสวรรค์) กับพระองค์อย่างแท้จริง
ซึ่งทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่พระเยซูเจ้า ได้ทรงแสดงเป็นแบบอย่างให้เราด้วยชีวิตของพระองค์เองมาแล้ว
เราต้องแบกกางเขนของเรา และติดตามพระองค์ไป
ผมเองก็ไม่เคยได้ยินพระองค์พูดกับผมเลยสักครั้งครับ และก็จิตตกเหมือนน้องมาหลายครั้ง
แต่เมื่อมองดูชีวิตของพระเยซูเจ้า ความทุกข์ของผมกะจิ๊ดริ๊ดมากเลยครับ
สุดท้าย ขอให้น้อง Valkyrie Zero Number สู้ๆ (ไม่ได้หมายความว่า ไปตบตีใครนะครับ

แต่ให้สู้กับความทุกข์ยากลำบาก (ไม้กางเขน) ของเรา แบบพระเยซูเจ้า
รักและให้อภัยด้วยความจริงใจ สิ่งนี้สามารถเปลี่ยนคนรอบข้างเราได้ครับ
ให้ความรักแก่เขา แล้วเขาจะให้ความรักแก่เรา
ขอพระเป็นเจ้าอวยพระพรครับ และผมจะช่วยสวดภาวนาให้น้อง Valkyrie Zero Number นะครับ
อย่าท้อแท้ครับ เรามีเพื่อนร่วมแบกกางเขนมากมาย ในคอกแกะแห่งนี้ สู้ๆ