ในใจก็ยังเต็มไปด้วยความกังวลสงสัย + ดื้อรั้นในพระเจ้าไม่คลาย พาลคิดไปว่าพระองค์นอกจากไม่เห็นด้วย ไม่ทำตามสิ่งที่เราขอแล้วยังสาปให้เราไม่สบายอีกงั้นหรือ แต่พอสักพักก็เริ่มหันกลับมาคิดดี ๆ อีกครั้ง(ทั้งที่วันทั้งวันดันคิดไม่ได้) ว่าตกลงเราทำเพื่ออะไรกันแน่นะ
เลยนึกย้อนถึงเหตุผลที่เรารีเควสท์พระเจ้า(ในเรื่องที่ในที่นี้หลายคนคงพอรู้กัน) ขนาดนั้น (ล่าสุดยื่นเงื่อนไขว่า มีแต่ต้องเกณฑ์เพื่อนผู้หญิงที่เราเคยรู้จักและนับเป็นเพื่อนทั้งหมดมาห้ามเท่านั้นเราถึงจะยอมคิดใหม่) แต่มาคิด ๆ ไป เรื่องนั้นยังไม่สำคัญเท่ากับว่า เราคิดแบบนี้ ต้องการแบบนี้ เพื่ออะไรกันแน่
เลยลองนึกย้อนดูอีกที เป็นเพราะอย่างที่แฟนเราพูด เรามองว่าพระเจ้าผิดพลาดเลยดื้อหรือ หรือว่าจริง ๆ แล้ว แค่เรารู้ตัวว่าเราผิดพลาด แต่อยากแก้ตัว เหมือนลูกจ้างที่ทำงานผิดจนเลอะเทอะไปหมดแล้วอยากขอโอกาสใหม่เท่านั้นเอง
เราอยากอยู่ในสังคมผู้หญิงในฐานะผู้หญิงแท้ ๆ กับพวกเขาเพื่ออะไร เพียงแค่อยากแตะเนื้อต้องตัวโดยไม่โดนครหาเท่านั้นหรือ ไม่สิ ไม่ใช่แค่นั้นแน่ ๆ แต่มันต้องมีมากกว่านั้น เลยต้องกลับมานึกย้อนอีกครั้ง เราแค่.....ไม่อยากถูกกีดกันแบ่งแยก ไม่อยากให้ถูกล้อเลียนว่าเป็นแฟน จนโดนผู้ใหญ่ตีโพยตีพายอ้างว่ามองข้ามช็อต จนเป็นเรื่องขึ้นมาแบบครั้งนั้น (และเราก็มีส่วนผิดมากในหลายกรณี)
เรารู้สึกผิดกับในอดีตที่เคยทำไม่ดีกับพวกเขาบ้างมาตั้งหลายหนไม่ใช่หรือ.....
ระหว่างที่คิดไปคิดมาอยู่นั้น ก็ไปเจอพระคัมภีร์เข้า หลังจากที่อ่านค้างอยู่ แล้วก็เลยเปิดดัชนี "สงสัยพระเจ้า" และเปิดมาจนเจอข้อความนี้
มาคิด ๆ ดู ถึงตอนนี้จะยังล้มเลิกความคิดไม่ได้ แต่นั่นสำคัญไปกว่า ท่าทีของเราในปัจจุบันนี้ก่อนหรือ- มาระโก 11:22-24
"22พระเยซูจึงตรัสตอบเหล่าสาวกว่า "จงเชื่อในพระเจ้าเถิด 23เรา บอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดๆ จะสั่งภูเขานี้ว่า "จงลอยไปลงทะเล" และมิได้สงสัยในใจแต่เชื่อว่าจะเป็นไปตามที่สั่งนั้น ก็จะเป็นตามนั้นจริง 24เหตุฉะนั้นเราบอกท่านทั้งหลายว่า ขณะเมื่อท่านจะอธิษฐานพระเจ้าขอสิ่งใด จงเชื่อว่าได้รับ และท่านจะได้รับสิ่งนั้น"
นึกดูอีกที เราขอไป แต่เรากลับสงสัยซะเอง
นึกเล่น ๆ ขนาดพระเยซูเจ้ายังตรัสเองว่า หากเราจะให้ภูเขาลอยทะเลไป ขอแค่เชื่อโดยไม่สงสัยก็ยังทำได้ ..... แต่นี่ เราเอาแต่ตั้งคำถามและเอาแต่สงสัย จ้องจับผิด ทำตัวแบบนี้ น่าได้อะไรจากพระองค์นักนี่
........ขอแค่คืนนี้ ลองย้อนถอยกลับมาอีกที ทำไมเราถึงขอจากพระองค์ ทำไมเราเข้ามาหาพระองค์ ทำไมเราต้องไว้ใจพระองค์ ทั้งที่พระอื่นก็มีตั้งเยอะในโลก
ไม่ใช่เพราะเรารู้ว่าพระองค์คือผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จแท้ เป็นผู้เที่ยงธรรม เป็นผู้เชื่อถือได้ หรอกหรือ ไม่ใช่เพราะเราเห็นความเชื่อของคริสตชนคนอื่นแล้วรู้สึกชื่นชมหรอกหรือ ไม่ใช่เพราะเราเชื่อว่า พระองค์เท่านั้นที่จะช่วยเราได้หรือ
และเพราะเราไม่สามารถจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองได้ พูดไปแล้วเราก็เป็นแค่ผู้เล็กน้อยที่มีชีวิตแสนสั้นเท่านั้นเมื่อเทียบกับพระองค์ผู้เป็นนิรันดร์
........แปลกดี ที่เรากลับมากล้าอธิษฐานขอให้หายจากโรค แถมยังขอให้ช่วยรักษาพ่อเรา ทั้งที่คนนั้นไม่ใช่ทั้งผุ้เชื่อ และมีเวรมีกรรมต่อกันเยอะแท้ ๆ
แต่มันไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองแย่ลงเลย
.........จะลงเอยที่โดนยกพวกมาเกลี้ยกล่อมหรือได้จริงก็ไม่รู้ล่ะ รู้แค่ว่า ตอนนี้เรากลับมาตรงจุดนี้.... และลองกลับมาไว้ใจพระองค์อีกครั้ง
......สักวัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เราต้องเรียกพระองค์ว่า "อับบา(พระบิดา)" ได้อีกครั้งแน่