ต้องขอบอกว่าสิ่งนี้เป็นความคิดส่วนตัวเท่านั้น โดยศึกษาจากประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง
เราคริสต์ชนโดยทั่วไป เมื่อมีปัญหาอะไรก็แล้วแต่ เราจะมักคิดถึงพระองค์ก่อนเป็นอันดับแรก ขอพระให้ช่วยเรา โดยมีทั้งการขอพระองค์โดยไม่มีการสวดภาวนา แค่นึกถึงพระองค์แล้วก็
บอกถึงปัญหาที่ต้องการให้พระองค์ช่วย ซึ่งบางคนก็ได้ตามที่ขอ...บางคนก็ไม่ได้
มีคนอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าจะมีมากหรือน้อย (แต่คิดว่ามีมากๆนะ) ทั้งสวดภาวนา
และอธิฐาน ซึ่งผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกันคือ...ได้ตามที่ขอไว้ และ...ไม่ได้ตามที่ขอ คนพวกนี้ (ไม่ใช่
ทุกคนนะ) โดยส่วนมากจะโกรธหรือไม่พอใจพระองคถ้าไม่ได้ตามที่ขอ โดยคิดในใจ ว่าทำไม? พระองค์ถึงทอดทิ้งลูก, ทำไมพระองค์ไม่ช่วยลูก, พระองค์เห็นลูกเป็นเช่นนี้แล้วพระองค์
มีความสุขมากหรืออยางไร? คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ละทิ้งพระองค์แล้วไปหาพระเท็จเทียมที่อื่นๆ
เรามาพิจารณา แสวงหาเหตุผลกันดูว่า...เพราะเหตุใดพระเจ้าของเราถึงไม่ช่วยเราเมื่อเราขอ
และทำไมเขา (แยะมากๆๆๆๆๆ) ถึงได้ตามที่ขอกับพระองค์....
ก่อนอื่น...คุณทุกคนลองพิจารณา (เหมือนท่านเปานะ) ตัวเองดูก่อนว่า...คุณมีความเชื่อ
ความศรัทธา และ...ความรักในพระองค์ แค่ไหน?
ตัวผมเองเคยคิด (เมื่อก่อนนี้) ว่าผมมีความเชื่อในพระองค์เต็ม 100% แต่ความศรัทธาน้อยนิด
ความรักก็...ใครเข้ากับเราได้ก็ OK ที่เข้ากันไม่ได้...ไปให้ห่างๆ
ผมผ่านความตายในเขมรมาหลายครั้ง...หลายครั้งจริงๆ
ถ้าจะเล่าคงยาวเกินความหมายของกระทู้ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
คุณๆที่เคยขอ,อธิฐานต่อพระ ไม่ว่าจะเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า,พระเยซูคริสต์,พระแม่มารี หรือ
นักบุญองค์ใดก็ตาม...แล้วไม่ได้ตามที่ขอกับพระองค์ คุณรู้ไหม? ทำไมคุณขอแล้วพระองค์ไม่
ให้ตามที่คุณขอ...(ลูกา 18(1)พระเยซูคริสต์เจ้าทรงสอนบรรดาศิษยว่าจำเป็นต้องอธิฐานภาวนาอยู่
เสมอโดยไม่ท้อถอย ) เพราะเมื่อคุณขอแล้วยังไม่ได้ คุณจะเริ่มท้อ เริ่มมองหาทางอื่น เพราะคุณจะ
รู้สึกว่าพระเจ้าช่วยคุณไม่ได้, ไม่รู้ว่าพระเจ้ามีจริงหรือเปล่า? แล้วคุณก็จะเริ่มออกห่างจากพระองค์
ถ้าคุณเข้าใจ คุณก็จะรู้ว่า พระเจ้าสามารถให้ทุกสิ่งกับคุณได้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะยากเย็นขนาดไหน?
แต่มันขึ้นอยู่กับว่าคุณมี ความเชื่อ ความศรัทธา และความรัก (ให้อภัย) มากเท่าใด?
ถ้าคุณมีแค่ความเชี่อเพียงอย่างเดียว ผมก็ไม่รู้ว่าคุณต้องใช้เวลาเท่าใด แต่สำหรับตัวผมเอง
ต้องใช้เวลาประมาณปีครึ่งพระองค์จึงทรงประทานสิ่งที่ผมขอ และทรงทำให้ผมเข้าใจในส่วน
ที่เหลือ คือ ความศรัทธาและความรัก
เดี๋ยวนี้ผมมั่นใจว่าผมมีพร้อม (คิดเอง) ตามที่พระคริสต์เจ้าได้ทรงสอนไว้ ผมมีความสุขแม้ว่า งานยังมีปัญหาอยู่ (ไม่ใช่ขี้เกียจนะ) ผมอธิฐานขอพระองค์ทรงแก้ปัญหาต่างๆที่จะเกิดขึ้นและพระองค์ก็ทรงดูแลลูกแกะตัวนี้ของพระองค์
สวดภาวนาอธิฐาน อย่าท้อถอย แล้วคุณจะได้ตามที่คุณขอต่อพระองค์
อย่าถามถึง เมื่อไหร่?, นานแคไหน?,ได้เท่าไร? และอย่างไร?
ทุกอย่างอยู่ที่พระองค์........
ถ้าคุณมีพร้อม เชื่อ ศรัทธา และความรัก..........
ผมบอกคุณได้เลยว่า คุณจะได้รับพระหรรษทานจากพระองค์ แบบ...DHL
การสวดภาวนาอธิฐาน
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
น่าเศร้าใจ สำหรับคนที่อธิษฐานวอนขอ แล้วพอไม่ได้รับ ก็หันไปหาพระอื่น
ซึ่งแท้จริงแล้ว เราทุกคนควรจะต้องระลึกเสมอๆ ว่า ทุกสิ่งต้องเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า ไม่ใช่ตามใจของเรา เพราะโลกนี้ ไม่ใช่บ้านแท้ของเรา แต่เป็นสนามสอบของเราในการแสดงความรักต่อพระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ด้วยการอดทนต่อความผิดหวัง ความทุกข์ยากต่างๆ นาๆ
โดยส่วนตัวผมเอง ทุกครั้งที่อธิษฐานวอนขอ จะต้องทิ้งท้ายว่า "ขอให้ทุกสิ่งเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ มิใช่ของลูก" เหมือนดังที่พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่างในสวนเกทเสมณี และดังที่เราสวดกันในบทข้าแต่พระบิดา ".... พระประสงค์ จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์ ..."
เพราะเหตุว่า พระองค์ทรงทราบดีว่า อะไรดีที่สุดสำหรับเราอยู่แล้วครับ
เราแค่วอนขอจากหัวใจและวางใจอย่างสิ้นสุดจิตใจ
ส่วนพระองค์จะประทานให้หรือไม่ ก็ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ครับ
(จากประสบการณ์ เมื่อวอนขอเพื่อผู้อื่น มักจะได้ผลเสมอๆ ครับ และได้ผลเร็วด้วยครับ
ผมเคยสวดสายประคำให้พี่ที่ทำงาน ที่ถูกตีหัวชิงทรัพย์ สมองกระทบกระเทือน นอน รพ. อยู่เป็นอาทิตย์ เหมือนเป็นเจ้าชายนิทรา แต่ทุกวันนี้ พี่เค้ากลับมาทำงานได้ปกติแล้วครับ
ขอบพระคุณพระเจ้าและพระแม่ครับ)

น่าเศร้าใจ สำหรับคนที่อธิษฐานวอนขอ แล้วพอไม่ได้รับ ก็หันไปหาพระอื่น
ซึ่งแท้จริงแล้ว เราทุกคนควรจะต้องระลึกเสมอๆ ว่า ทุกสิ่งต้องเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า ไม่ใช่ตามใจของเรา เพราะโลกนี้ ไม่ใช่บ้านแท้ของเรา แต่เป็นสนามสอบของเราในการแสดงความรักต่อพระเป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์ ด้วยการอดทนต่อความผิดหวัง ความทุกข์ยากต่างๆ นาๆ
โดยส่วนตัวผมเอง ทุกครั้งที่อธิษฐานวอนขอ จะต้องทิ้งท้ายว่า "ขอให้ทุกสิ่งเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ มิใช่ของลูก" เหมือนดังที่พระเยซูเจ้าทรงแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่างในสวนเกทเสมณี และดังที่เราสวดกันในบทข้าแต่พระบิดา ".... พระประสงค์ จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์ ..."
เพราะเหตุว่า พระองค์ทรงทราบดีว่า อะไรดีที่สุดสำหรับเราอยู่แล้วครับ
เราแค่วอนขอจากหัวใจและวางใจอย่างสิ้นสุดจิตใจ
ส่วนพระองค์จะประทานให้หรือไม่ ก็ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ครับ
(จากประสบการณ์ เมื่อวอนขอเพื่อผู้อื่น มักจะได้ผลเสมอๆ ครับ และได้ผลเร็วด้วยครับ
ผมเคยสวดสายประคำให้พี่ที่ทำงาน ที่ถูกตีหัวชิงทรัพย์ สมองกระทบกระเทือน นอน รพ. อยู่เป็นอาทิตย์ เหมือนเป็นเจ้าชายนิทรา แต่ทุกวันนี้ พี่เค้ากลับมาทำงานได้ปกติแล้วครับ
ขอบพระคุณพระเจ้าและพระแม่ครับ)
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ แต่ก่อนก็เป็นค่ะ ขอแล้วไม่ได้ก็เสียใจ + ใจร้อน
อยากได้สิ่งที่ขอ เหมือนพระเจ้าเป็นตู้กดอัตโนมัติ ขอปุ๊บได้ปั๊บ ให้ทันใจ
วิทยาการสมัยใหม่ อำนวยความสะดวกให้เรามากมาย จนทำให้เรานิสัยเสีย
กลายเป็นคนรอไม่ได้ อยากได้เร็ว ๆ เหมือน Hi-speed 6 เมก
อยากได้สิ่งที่ขอ เหมือนพระเจ้าเป็นตู้กดอัตโนมัติ ขอปุ๊บได้ปั๊บ ให้ทันใจ
วิทยาการสมัยใหม่ อำนวยความสะดวกให้เรามากมาย จนทำให้เรานิสัยเสีย
กลายเป็นคนรอไม่ได้ อยากได้เร็ว ๆ เหมือน Hi-speed 6 เมก
