แบบว่านั่งคิดนอนคิดมาทั้งวันแล้วอ่ะ
คือว่า พรุ่งนี้วันเกิดเรานะ แล้วครอบครัวก็.......บอกว่าจะตื่นมาทำอารหารให้แต่เช้าไว้ใส่บาตร ให้ตื่นก่อนพระมานะ เราก็ เงียบ อึ้ง เพราะปีใหม่ก็แกล้งปวดท้องไม่ยอมลุกไปใส่บาตรรอบนึงแล้ว รอบนี้ไม่รอดแน่ ก็เลยบอกไปว่า กลัวตื่นไม่ทัน จะไปใสเพลที่วัดตอน 4 โมงเช้าล่ะกัน ครอบครัวก็ว่าได้ ไม่เป็นไร แล้วสิ่งที่เราคิดไว้มี คือ
1.ออกไปแต่ไม่ไปใส่เพล หนีไปเล่นที่อื่นก่อน แล้วอาหารล่ะ ทำไง ???????
2.ไปใส่เพล แต่ใจคิดถึงพระกับพระแม่ ตอนหลวงพ่อสวดมนต์ให้ก็สวดของทางคาทอลิกในใจแทน บอกว่าที่ทำเพราะไม่อยากมีปัญหากับครอบครัว เสร็จแล้วก็จะรีบไปขอโทษพ่อกับแม่ที่โบสถ์เลย
3.กำลังคิดค่ะ ช่วยคิดหน่อย
แล้วก็ ถ้าเราจะทำตามข้อ 2 จะบาปมั้ยคะ ในทางของคริสต์นะ เพราะไปตัวตัวใจไม่ได้ไป ว่าแล้วก็ปวดเฮดค่ะ
ปล. วันเกิดอยากได้บัตรคอนเสริต ซุปเปอร์ จูเนียร์ จัง เหอ เหอ โอย.....เครียด
ชาวคริสต์ขอความเห็นหน่อยค่ะ
-
- โพสต์: 1029
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm
บอกที่บ้านว่าอยากทำบุญโดยไปเลี้ยงเด็กกำพร้า, คนชรา, คนด้อยโอกาสแทนดีมั้ยคะ?
อย่าทำอะไรที่เป็นการโกหกเลยมันจะทำให้ไม่สบายใจทุกฝ่าย
อย่าทำให้ตัวเองแปลกแยกด้วยเพราะอย่างไรนั้นก็เป็นความหวังดีของครอบครัว
อย่าทำอะไรที่เป็นการโกหกเลยมันจะทำให้ไม่สบายใจทุกฝ่าย
อย่าทำให้ตัวเองแปลกแยกด้วยเพราะอย่างไรนั้นก็เป็นความหวังดีของครอบครัว
บอกไปทุกอย่างแล้วค่ะ ว่าจะไปทำบุญเลี้ยงเด็กกับคนชราแทน แต่ครอบครัวเค้ารู้ทันเราว่าเราเลี่ยงที่จะไม่ไปวัด ขอบอกว่าครอบครัวเราต่อต้านสาสนาคริสต์มากกกกกก.......ถึงมากที่สุด ไม่รู้จะบรรยายแบบไหนเลย ถึงมานั่งคิดไม่ตกกับวันเกิดตัวเองนี่แหละค่ะ ดีไม่ดีครอบครัวจะปลุกมาใส่บบาตรหน้าบ้านด้วยซ้ำ
บอกตามตรงว่า พูดกับครอบครัวเรื่องนี้ไม่ได้ค่ะ พูดมาตั้งแต่อายุ 12 พรุ่งนี้จะ 25 แล้ว กี่ปีมาแล้วล่ะคะ พูดทีไรได้ไปนอนร้องไห้ในห้องทุกที ไม่อยากร้องแล้วอ่ะ ถึงต้องหลบๆซ่อนๆอยู่นี่ไง ล่าสุดน้าเข้ามาให้ห้อง พอออกไปปรากฏว่าไบเบิ้ลใต้หมอนเราหายไป สะอึกค่ะ ดีนะที่มีแอบเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าอีก 4 เล่ม ฮี่ฮี่
ตอนนี้คิดว่า คงจะใส่บาตรแล้วล่ะ ไม่อยากทะเลาะกับที่บ้าน แล้วเดี๋ยวค่อยไปโบสถ์ทีหลังก็ได้ พระท่านคงไม่ว่าเราหรอกเนาะ
บอกตามตรงว่า พูดกับครอบครัวเรื่องนี้ไม่ได้ค่ะ พูดมาตั้งแต่อายุ 12 พรุ่งนี้จะ 25 แล้ว กี่ปีมาแล้วล่ะคะ พูดทีไรได้ไปนอนร้องไห้ในห้องทุกที ไม่อยากร้องแล้วอ่ะ ถึงต้องหลบๆซ่อนๆอยู่นี่ไง ล่าสุดน้าเข้ามาให้ห้อง พอออกไปปรากฏว่าไบเบิ้ลใต้หมอนเราหายไป สะอึกค่ะ ดีนะที่มีแอบเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าอีก 4 เล่ม ฮี่ฮี่
ตอนนี้คิดว่า คงจะใส่บาตรแล้วล่ะ ไม่อยากทะเลาะกับที่บ้าน แล้วเดี๋ยวค่อยไปโบสถ์ทีหลังก็ได้ พระท่านคงไม่ว่าเราหรอกเนาะ
-
- โพสต์: 1029
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm
ทำให้เขาสบายใจ อย่างไรก็เป็นพ่อแม่เรา (พระบัญญัติข้อ 4 ) แสดงให้เขารู้
เรายังรักเคารพเขาเหมือนเดิมยิ่งแข็งมากเขาจะยิ่งต่อต้าน
พิสูจน์บางครั้งต้องใช้ระยะเวลา (มาก) ตามบททดสอบของแต่ละคน
เรื่องคล้าย ๆ กันที่มีคนถามคุณพ่อตอนเรียน เรื่องทำบุญผ้าป่าได้มั้ย
(ตอนแรกคิดว่าไม่ได้เลยเหมือนกัน)
พ่อให้แง่คิดว่า เป็นพ่อ พ่อก็ใส่ให้ ไม่ใช่ใส่เพราะจะบำรุงศาสนาอื่น
แต่เป็นช่วยคนที่มาเรี่ยไร เป็นช่วยตัวบุคคล เพราะถ้าเราไม่ช่วย
เขาก็คิดไม่ดีกับเรามันเป็นการ ยิ่งจะทำให้ตกในบาปโมโห (เพราะไม่ได้เงิน)
แต่ก็ไม่ใช่ทำออกหน้าถึงไปใส่ชื่อในกรรมการให้เขามีคิดไม่ดีกับพระเจ้าเราอีก
หรือเขาเอาไปคุยอวดว่าอย่างเข้าใจผิด นี่ก็ส่งเสริมให้เขามีบาปจองหอง
คุณพ่อบอกว่า ช่วยไม่ใช่ "ทำบุญ" แล้ว "หวังได้บุญ" ทางพุทธอันนี้ผิด
หรือ บอกปัดว่าใส่เงินไม่ได้เพราะฉันนับถือพระเจ้าแล้ว อันนี้จะกลายเป็น
"ออกนามพระเจ้าโดยไม่สมเหตุ" อ้างพระเจ้าเพราะไม่อยากใส่
เราก็ต้องมีจุดยืนในใจเราด้วยว่าเราทำแล้วหนักใจหรือโล่งใจ
และเราต้องอยู่ในวัฒนธรรมสังคมได้กลมกลืนด้วย ไม่ใช่ขัดจนเป็นปัญหา
กรณีนี้คงคล้าย ๆ กัน เราทำไม่ใช่เพราะเราเชื่อ เราเคารพพระสงฆ์
เพราะเป็นผู้อยู่ในธรรม เราถวายอาหารก็เป็นการช่วยบุคคลอื่นใ้ห้มีกิน
เราเชื่อฟังพ่อแม่ไม่ได้สร้างความกังวลให้พวกท่าน
ขอให้พระอวยพรและเปิดใจครอบครัวของคุณค่ะ
ปล. เรียบเรียงคำใหม่
เรายังรักเคารพเขาเหมือนเดิมยิ่งแข็งมากเขาจะยิ่งต่อต้าน
พิสูจน์บางครั้งต้องใช้ระยะเวลา (มาก) ตามบททดสอบของแต่ละคน
เรื่องคล้าย ๆ กันที่มีคนถามคุณพ่อตอนเรียน เรื่องทำบุญผ้าป่าได้มั้ย
(ตอนแรกคิดว่าไม่ได้เลยเหมือนกัน)
พ่อให้แง่คิดว่า เป็นพ่อ พ่อก็ใส่ให้ ไม่ใช่ใส่เพราะจะบำรุงศาสนาอื่น
แต่เป็นช่วยคนที่มาเรี่ยไร เป็นช่วยตัวบุคคล เพราะถ้าเราไม่ช่วย
เขาก็คิดไม่ดีกับเรามันเป็นการ ยิ่งจะทำให้ตกในบาปโมโห (เพราะไม่ได้เงิน)
แต่ก็ไม่ใช่ทำออกหน้าถึงไปใส่ชื่อในกรรมการให้เขามีคิดไม่ดีกับพระเจ้าเราอีก
หรือเขาเอาไปคุยอวดว่าอย่างเข้าใจผิด นี่ก็ส่งเสริมให้เขามีบาปจองหอง
คุณพ่อบอกว่า ช่วยไม่ใช่ "ทำบุญ" แล้ว "หวังได้บุญ" ทางพุทธอันนี้ผิด
หรือ บอกปัดว่าใส่เงินไม่ได้เพราะฉันนับถือพระเจ้าแล้ว อันนี้จะกลายเป็น
"ออกนามพระเจ้าโดยไม่สมเหตุ" อ้างพระเจ้าเพราะไม่อยากใส่
เราก็ต้องมีจุดยืนในใจเราด้วยว่าเราทำแล้วหนักใจหรือโล่งใจ
และเราต้องอยู่ในวัฒนธรรมสังคมได้กลมกลืนด้วย ไม่ใช่ขัดจนเป็นปัญหา
กรณีนี้คงคล้าย ๆ กัน เราทำไม่ใช่เพราะเราเชื่อ เราเคารพพระสงฆ์
เพราะเป็นผู้อยู่ในธรรม เราถวายอาหารก็เป็นการช่วยบุคคลอื่นใ้ห้มีกิน
เราเชื่อฟังพ่อแม่ไม่ได้สร้างความกังวลให้พวกท่าน
ขอให้พระอวยพรและเปิดใจครอบครัวของคุณค่ะ
ปล. เรียบเรียงคำใหม่
ไปใส่เพลได้ครับ ตอนทำก็คิดว่าให้เพื่อนร่วมโลก แล้วก็ทำตัวเหมือนรีบไม่มีเวลารับสวด ขอลากลับเลย จบครับ
เป็นเด็กวัด เจอบางคนรีบมากแต่อยากทำบุญ พอยื่นของเสร็จก็ยกมือบอกว่า ลาล่ะครับ จบ
ทำคล้ายๆกันก็ได้ รีบแล้วก็ลา ไม่ขัดคำสั่งพ่อแม่ ไม่ลำบากใจด้วย
เป็นเด็กวัด เจอบางคนรีบมากแต่อยากทำบุญ พอยื่นของเสร็จก็ยกมือบอกว่า ลาล่ะครับ จบ
ทำคล้ายๆกันก็ได้ รีบแล้วก็ลา ไม่ขัดคำสั่งพ่อแม่ ไม่ลำบากใจด้วย
ถวายเพล ถ้าต้องทำที่วัด พอไปถึงวัดก็มองหาพระสักองค์ในกุฏิไหนก็ได้ บอกว่าเอากับข้าวมาถวาย แต่ถ้าพระบอกให้เข้ามานั่งจะรับแล้วสวดให้ ก็บอกไปว่าไม่สะดวกครับ จะขอถวายให้แล้วรีบกลับเลย พระคงไม่ว่าไรหรอก หน้าเราก็บอกไม่ค่อยอยากจะอยู่นานอยู่แล้ว ถ้าเป็นชายด้วยกันไม่มีปัญหา ยื่นให้ได้เลย แต่ถ้าเป็นหญิงอาจจะต้องใช้ผ้ารอง ก็เข้าไปในกุฏิ พอพระเอาผ้ามาวางรับ ก็วางเสร็จแล้วก็ยกมือ บอกว่า ขอลากลับ รีบครับ (เพราะผมคิดว่าคุณคงไม่อยากอยู่นาน อยากรีบออก) จะสวดไรให้ก็บอกไปว่า ไม่สะดวกครับ จบ
ไม่ต้องโกหกพระ (เพราะตัวเองก็ไม่อยากจะอยู่นาน) ไม่ต้องโกหกพ่อแม่ เพราะไปถวายมาจริงๆ
ไม่ต้องโกหกพระ (เพราะตัวเองก็ไม่อยากจะอยู่นาน) ไม่ต้องโกหกพ่อแม่ เพราะไปถวายมาจริงๆ