บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโครินธ์ฉบับที่หนึ่ง
1 คร. 1: 22-25
“เราเทศนาถึงพระคริสตเจ้าผู้ทรงถูกตรึงกางเขน อันเป็นข้อขัดข้องมิให้มนุษย์รับไว้ได้ ผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกนั้น เป็นพระปรีชาญาณของพระเป็นเจ้า”
พี่น้อง ขณะที่ชาวยิวเรียกร้องขอดูการอัศจรรย์ และชาวกรีกแสวงหาความปรีชาฉลาด เรากลับเทศนาถึงเรื่องพระคริสตเจ้าผู้ทรงถูกตรึงกางเขนอันเป็นข้อขัดข้องมิให้ชาวยิวรับไว้ได้ เป็นเรื่องโง่เขลาสำหรับชาวกรีก แต่สำหรับผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกนั้น ไม่ว่าจะเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก พระคริสตเจ้าทรงเป็นฤทธานุภาพและพระปรีชาญาณของพระเป็นเจ้า เพราะว่าความโง่เขลาของพระเป็นเจ้าก็มีปัญญายิ่งกว่าความฉลาดรอบรู้ของมนุษย์ และความอ่อนแอของพระเป็นเจ้าก็เข็มแข็งยิ่งกว่ากำลังของมนุษย์

ชาวยิวเรียกร้องให้พระเยซูเจ้าแสดง “เครื่องหมาย” พวกเขาต้องการสิ่งที่เป็นปาฏิหาริย์ ส่วนชาวกรีกต้องการ “ปรีชาญาณ” คือทุกสิ่งต้องเข้าใจได้ ไม่ต้องมีญาณภายใน ภาพนิมิตฝัน หรือธรรมล้ำลึก อาจเป็นได้ว่า ชาวยิวและชาวกรีกที่นักบุญเปาโลพูดถึงเป็นลักษณะคริสตชนสองประเภท

พวกแรกเป็นผู้กระหายจะเห็นความตื่นตาตื่นใจในคารวกิจ จะต้องน่าตื่นเต้น มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่ว่างมาร่วมพิธี พวกเขาเป็นพวกที่ถามว่า “แล้วพิธีกรรมให้อะไรฉันได้” และไม่เคยถามว่า “ฉันจะทำอะไรเพื่อทำให้พิธีกรรมนั้นมีความหมาย?”
ส่วนกลุ่มที่สองเป็นนักคิดแบบเหตุผลนิยมทั้หลายซึ่งกระหายหาปรีชาญาณ การวิเคราะห์ การหยั่งรู้ แต่พวกเขาไม่เคยตระหนักว่า คุณค่าอย่างธรรมล้ำลึก ญาณภายใน ความรักหรือความเชื่อนั้นไม่อาจจะถูกนำมาวิเคราะห์ได้โดยไม่ถูกทำลาย
นักบุญเปาโลให้ทรรศนะของท่านแก่กลุ่มคนทั้งสอง นั่นคือ กางเขน พระคริสตเจ้าผู้ถูกตรึง แล้วจุดยืนของท่านคืออะไร

หนังสือมิสซาวันอาทิตย์ ฉบับพกพา : หน้า 386-389