อีกไม่นานก็จะเข้าสู่เทศกาลคริสตมาสแล้ว ขอเชิญชวนเพื่อนๆและพี่น้อง ร่วมกันลงบทความ ภาพ คลิป ลิงค์ ฯลฯ ที่มีประโยชน์เกี่ยวกับวันคริสตืมาสเพื่อเป้นเหมือนกระทู้รวมวัตถุดิบเพื่อจะได้มีสิ่งที่ใช้แลองคริสตมาสในปีนี้เป็นพิเศษครับ
อันนี้รวมเพลงคริสตมาสโดยศิลปินเอเชีย
http://www.4shared.com/dir/lWBc5lC-/Asi ... music.html
อันนี้รวมภาพคริสตมาสทั้งแบบธรรมดาและขยับได้
http://www.christmas-graphics-plus.com/
ใครมีอะไรน่าสนใจร่วมแชร์ได้เลยครับ
*** ใกล้คริสตมาสแล้วมาร่วมด้วยช่วยกัน ***
ประวัติและความเป็นมาของวันคริสต์มาส
(อังกฤษ: Christmas, Christ's mass, Xmas Nativity, Yuletide, Noel หรือ Winter Pascha) เป็นเทศกาลประจำปี ซึ่งในศาสนาคริสต์ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู ในหลายประเทศ คริสต์มาสตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี (ในอาร์เมเนีย ตรงกับวันที่ 6 มกราคม และในนิกายออร์โธด็อกซ์บางส่วน ตรงกับวันที่ 7 มกราคม) แต่ก็ไม่เป็นที่เชื่อกันว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันประสูติของพระเยซูจริง สำหรับสาเหตุที่เลือกวันดังกล่าวแต่เดิมมีอยู่หลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นเพราะว่า วันนี้เป็นเวลาเก้าเดือนพอดีหลังจากนางมารีย์รับการประสูติของพระเยซู ตรงกับเทศกาลบูชาสุริยเทพของโรมันโบราณ หรือไม่ก็ตรงกับเหมายันในซีกโลกเหนือ คริสต์มาสเป็นศูนย์กลางของคริสต์มาสและเทศกาลวันหยุด ในศาสนาคริสต์ คริสต์มาสเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเป็นวันหยุดยาว 12 วัน
ถึงแม้ว่าแต่เดิมคริสต์มาสจะเป็นเทศกาลที่เฉลิมฉลองโดยคริสเตียน แต่ผู้ที่มิได้นับถือศาสนาคริสต์จำนวนมากก็ได้จัดงานเฉลิมฉลองคริสต์มาสอย่างกว้างขวาง และประเพณีที่ได้รับความนิยมของคริสต์มาสในปัจจุบันมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ก่อนศาสนาคริสต์หรือมาจากทางโลก ซึ่งรวมไปถึง การให้ของขวัญ เพลงคริสต์มาส การแลกเปลี่ยนการ์ดคริสต์มาส การตกแต่งโบสถ์คริสต์ การรับประทานอาหารมื้อพิเศษ และการตกแต่งอาคารต่าง ๆ ด้วยต้นคริสต์มาส มิสเซิลโท หรือฮอลลี่ เป็นต้น และยังมีตำนานอันเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายเกี่ยวกับซานตาคลอส (หรือ ฟาเธอร์คริสต์มาส) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้ของขวัญแก่เด็ก ๆ ระหว่างเทศกาลคริสต์มาส
เนื่องจากการให้ของขวัญและผลกระทบจากเทศกาลคริสต์มาสในอีกหลายแง่มุมได้ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างมาก ทั้งในกลุ่มคริสเตียนและผู้ที่ไม่ใช่คริสเตียน วันดังกล่าวจึงกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญและช่วงเวลาสำหัรบสินค้าลดราคาสำหรับผู้ค้าปลีกและธุรกิจ ผลกระทบทางเศรษฐกิจของคริสต์มาสเป็นปัจจัยที่ได้เติบโตขึ้นอย่างคงที่ตลอดช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมาในหลายภูมิภาคของโลก
การเฉลิมฉลอง
วันคริสต์มาสได้รับการเฉลิมฉลองเป็นเทศกาลหลักและเป็นวันหยุดราชการในหลายประเทศทั่วโลก รวมไปถึงประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่มิใช่คริสเตียน ในบางประเทศที่มิใช่คริสเตียน คริสต์มาสได้ถูกนำเข้าสู่วัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ระหว่างที่อยู่ภายใต้การปกครองแบบอาณานิคม (เช่น ฮ่องกง) ส่วนในประเทศอื่น ประชากรค่อย ๆ รับเอาการเฉลิมฉลองของชนกลุ่มน้อยคริสเตียนหรืออิทธิพลจากวัฒนธรรมต่างประเทศ ในหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งคริสต์มาสได้รับความนิยมแม้ว่าจะมีประชากรนับถือศาสนาคริสต์เป็นส่วนน้อย ได้รับเอามุมมองทางโลกของคริสต์มาสหลายอย่าง เช่น การให้ของขวัญ การตกแต่งอาคารสถานที่ และต้นคริสต์มาส ประเทศที่ซึ่งคริสต์มาสไม่ใช่วันหยุดราชการ ตัวอย่างเช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน (ยกเว้นฮ่องกงและมาเก๊า) ญี่ปุ่น ซาอุดิอาระเบีย อัลจีเรีย ไทย เนปาล อิหร่าน ตุรกี และเกาหลีเหนือ การเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสรอบโลกอาจมีรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมประเพณีของแต่ละชาติ
ในกลุ่มประเทศที่มีประเพณีคริสเตียนมั่นคง การเฉลิมฉลองคริสต์มาสที่มีความหลากหลายได้รับการปรับปรุงกระทั่งกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นและภูมิภาค สำหรับคริสเตียน การเข้าร่วมในศาสนพิธีถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการยอมรับเทศกาลดังกล่าว คริสต์มาส ตลอดจนเทศกาลอีสเตอร์ เป็นช่วงเวลาที่มีคนเข้าโบสถ์มากที่สุดในแต่ละปี ในประเทศคาทอลิก ประชากรจัดการเดินขบวนทางศาสนาหรือขบวนแห่ก่อนคริสต์มาส ในประเทศอื่น ได้มีการจัดการเดินขบวนทางโลกหรือขบวนแห่ซึ่งนำเสนอซานตาคลอสและสัญลักษณ์ของเทศกาลอื่น ๆ ซึ่งมักจัดขึ้นบ่อยครั้ง การกลับมาพบปะกันของครอบครัวและการแลกของขวัญได้กลายมาเป็นลักษณะเด่นของเทศกาลที่มีอย่างกว้างขวาง การให้ของขวัญเป็นประเพณีที่มีในประเทศส่วนใหญ่ ส่วนวันอื่นที่มีการแลกของขวัญ ได้แก่ วันนักบุญนิโคลัส ตรงกับวันที่ 6 ธันวาคม และการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ ตรงกับวันที่ 6 มกราคม
วันที่จัดเทศกาล
เป็นเวลาหลายศตวรรษ นักเขียนคริสเตียนยอมรับว่าคริสต์มาสเป็นวันประสูติของพระเยซูที่ถูกต้อง จนกระทั่งในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 นักวิชาการได้เริ่มต้นเสนอคำอธิบายอย่างอื่นแทน ไอแซก นิวตัน ได้แย้งว่า วันที่จัดเทศกาลคริสต์มาสเป็นไปตามเหมายัน ซึ่งชาวโรมันเรียกว่า บรูมา และจัดงานเฉลิมฉลองในวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี[13] ใน ค.ศ. 1743 คริสตเตียนนิกายโปรแตสแตนท์ชาวเยอรมัน พอล แอร์นสก์ จาบลอนสกี ได้ให้เหตุผลว่า การเลือกวันที่ 25 ธันวาคมเพื่อเฉลิมฉลองคริสต์มาสนั้นตรงกับวันหยุดของโรมัน ดีเอส นาตาลิส โซลิส อินวิกติ และดังนั้นจึงเป็นการทำให้ศาสนจักรที่แท้จริงเสื่อมทรามลง ตามประเพณีจูเดโอ-คริสเตียน เชื่อกันว่าการทรงสร้างดังที่ได้บรรยายในพระธรรมปฐมกาล เกิดขึ้นในวันวสันตวิษุวัต คือ วันที่ 25 มีนาคมในปฏิทินโรมัน วันที่ดังกล่าวปัจจุบันได้เฉลิมฉลองเป็นวันการประกาศของเทพและการครบรอบการมาบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระเยซู[14] ใน ค.ศ. 1889 หลุยส์ ดือแชน เสนอว่าวันคริสต์มาสสามารถคำนวณได้โดยบวกเวลาเข้าไปเก้าเดือนนับตั้งแต่วันการประกาศของเทพ ซึ่งเป็นวันที่ความเข้าใจดั้งเดิมเกี่ยวกับพระเยซู
คำอวยพร
คำอวยพรสำหรับเทศกาลคริสมาสใช้ คำอวยพรว่า Merry Christmas สุขสันต์วันคริสต์มาส คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า สันติสุขและความสงบทางใจ จึงเป็นคำที่ใช้อวยพรคนอื่น ขอให้เขาได้รับสันติสุข และความสงบทางใจ เนื่องในโอกาสเทศกาลคริสต์มาส ต่อมาคือ "เพลง" ที่ใช้เฉลิมฉลองทั้งจังหวะช้าและจังหวะสนุกสนาน ส่วนใหญ่แต่งในยุคพระราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษ (ค.ศ.1840-1900) ปัจจุบันแพร่หลายไปทั่วโลกโดยแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมาย
ซานตาคลอส
นักบุญ(เซนต์)นิโคลัสแห่งเมืองไมรา นักบุญองค์นี้เป็นสังฆราช ของ ไมรา มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่4 ได้รับการยกย่องให้เป็นซานตาคลอสคนแรก เพราะมาวันหนึ่ง เป็นวันคริตส์มาสเซนต์จึงเดินทางแจกของขวัญให้กับเด็กๆอย่างมีความสุข
ต้นคริสต์มาส
ต้นคริสต์มาสหรือต้นสนที่นำมาประดับประดาด้วยดวงไฟหลากสีสัน การตกแต่งนี้ย้อนไปในศตวรรษที่ 8 เมื่อเซนต์บอนิเฟส มิชชันนารีชาวอังกฤษที่เดินทางไปประกาศเรื่องพระเจ้าในเยอรมนี ได้ช่วยเด็กที่กำลังจะถูกฆ่าเป็นเครื่องสังเวยบูชาที่ใต้ต้นโอ๊ก โดยเมื่อโค่นต้นโอ๊กทิ้งก็ได้พบต้นสนเล็กๆ ต้นหนึ่งขึ้นอยู่โคนต้นโอ๊ก ท่านจึงขุดให้คนที่ร่วมพิธีกรรมเหล่านั้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชีวิต และตั้งชื่อว่า ต้นกุมารพระคริสต์ ต่อมา มาร์ติน ลูเธอร์ ผู้นำคริสตจักรชาวเยอรมัน ตัดต้นสนไปตั้งในบ้านในเดือนธันวาคม ปีค.ศ.1540 หลังจากนั้นในศตวรรษที่ 19 ต้นคริสต์มาสจึงเริ่มแพร่ไปสู่ประเทศอังกฤษและทั่วโลก
เพลงคริสต์มาส
เพลงคริสต์มาส เริ่มมีขึ้นในศตวรรษที่ 5 ซึ่งผู้แต่งมีทั้งพระสงฆ์และฆราวาส เนื้อร้องเป็นภาษาละติน ลักษณะของเพลงเป็นแบบสง่า เน้นถึงความหมายของการเสด็จมา ของพระเยซูเจ้า แต่ในศตวรรษที่ 12 ได้มีการแต่งในท่วงทำนองที่ร่าเริงสนุกสนานมากขึ้น เริ่มจากประเทศอิตาลี โดยนักบุญฟรังซิส อัสซีซี และนักบวชคณะฟรังซิสกัน เป็นผู้สนับสนุน ให้มีเพลงคริสต์มาสแบบใหม่ ซึ่งชาวบ้านชอบ คือมีท่วงทำนองที่ร่าเริงกว่า และเน้นถึงความชื่นชมยินดี ในโอกาสคริสต์มาส เพลงเหล่านี้มีทั้งที่เป็นภาษาลาติน และภาษาพื้นเมือง เพลงหนึ่งที่แต่งในสมัยนั้น (แต่งคำร้องในปี ค.ศ.1274) และยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ เพลง Oh Come, All Ye Faithful หรือ Adeste Fideles ในภาษาลาติน เพลงคริสต์มาส ที่นิยมร้องมากที่สุดในปัจจุบันได้แต่งขึ้นในศตวรรษที่ 19 จากประเทศเยอรมัน และประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เพลงที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ เพลง Silent Night, Holy Night ความเป็นมาของเพลงนี้คือ วันก่อนวันฉลองคริสต์มาส ของปี ค.ศ.1818 คุณพ่อโจเซฟ โมห์ (Joseph Mohr) เจ้าอาวาสวัดที่โอเบิร์นดอฟ (Oberndorf) ประเทศออสเตรีย ได้ข่าวว่าออร์แกนในวัดเสีย ทำให้วงขับร้อง ไม่สามารถร้องเพลงตามที่ซ้อมไว้ได้ จึงมีการแต่งเพลงคริสต์มาสใหม่ นำไปเพื่อนชื่อ ฟรานซ์ กรูเบอร์ (Franz Gruber) ใส่ทำนอง ในคืนวันที่ 24 นั้นเอง สัตบุรุษวัดนี้ ก็ได้ฟังเพลง Silent Night เป็นครั้งแรก โดยมีการเล่นกีตาร์ประกอบการขับร้อง ซึ่งกลายเป็นเพลงที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก
การทำมิสซาเที่ยงคืน
เมื่อพระสันตะปาปาจูลีอัสที่ 1 ได้ประกาศให้วันที่ 23 ธันวาคมเป็นวันฉลองพระคริสตสมภพ (วันคริสต์มาส)ในปี นั้นเองพระองค์และสัตบุรุษ ได้พากันเดินสวดภาวนา และขับร้องไปยังตำบลเบธเลเฮม และไปยังถ้ำที่พระ เยซูเจ้าประสูติ พอไปถึงก็เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี พระสันตะปาปาก็ทรงถวายบูชามิซซา ณ ที่นั้น เมื่อเสร็จแล้วก็กลับมาที่พักเป็นเวลาเช้ามืดราวๆ ตี 3 พระองค์ก็ถวายมิสซาอีกครั้ง และ สัตบุรุษเหล่านั้นก็พากันกลับ แต่ก็ยังมีสัตบุรุษหลายคนที่ไม่ได้ไป พระสันตะปาปาก็ทรงถวายบูชามิสซาอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่ 3 เพื่อสัตบุรุษเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เองพระสันตะปาปาจึงทรงอนุญาตในพระสงฆ์ถวายบูชามิสซาได้ 3 ครั้ง ในวันคริสต์มาส เหมือนกับการปฏิบัติของพระองค์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงมีธรรมเนียมถวายมิสซาเที่ยงคืน ในวันคริสต์มาส และพระสงฆ์ก็สามารถถวายมิสซาได้ 3 มิสซา ใน โอกาสวันคริสต์มาสด้วย
เทียนและพวงมาลัย
ในสมัยก่อนมีกลุ่มคริสตชนกลุ่มหนึ่งในประเทศเยอรมัน ได้เอากิ่งไม้มาประกอบ เป็นวงกลมคล้ายพวงมาลัย แล้วเอาเทียน 4 เล่ม วางไว้บนพวงมาลัยนั้น ในตอนกลางคืนของวันอาทิตย์แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จ ทุกคนในครอบครัวจะมารวมกัน ดับไฟ แล้วจุดเทียนเล่มหนึ่ง สวด ภาวนาและร้องเพลงคริสต์มาสร่วมกัน เขาจะทำดังนี้ทุก อาทิตย์จนครบ 4 อาทิตย์ก่อน คริสต์มาส ประเพณีนี้เป็นที่นิยม และแพร่หลายในที่หลายแห่ง โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกาซึ่งต่อมา มีการเพิ่ม โดยเอาพวงมาลัยพร้อมกับเทียนที่จุดไว้ตรง กลาง 1 เล่มไป แขวนไว้ที่หน้าต่างเพื่อช่วย ให้คนที่ผ่าน ไปมา ได้ระลึกถึงการเตรียมตัวรับวันคริสต์มาสที่ใกล้เข้ามา และพวงมาลัยนั้นยังเป็น สัญลักษณ์ที่คน สมัยโบราณใช้หมายถึงชัยชนะ แต่ในที่นี้หมายถึงการที่พระองค์มาบังเกิดในโลก และทำให้ทุกสิ่ง ทุกอย่างครบ บริบูรณ์ตามแผนการณ์ ของพระเป็นเจ้า
ประวัติ
ประวัติความเป็นมาของวันคริต์มาส ซึ่งเป็นวันประสูติของพระเยซูนั้น ตามหลักฐานในพระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า พระเยซูเจ้าประสูติในรัชกาลของจักรพรรดิออกุสตุสแห่งจักรวรรดิโรมัน ซึ่งทรงสั่งให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน โดยคีรีนิอัส เจ้าเมืองซีเรีย ก็รับนโยบายไปปฏิบัติให้มีการจดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งอาณาเขต แต่ในพระคัมภีร์ ไม่ได้ระบุว่า พระเยซูประสูติวันหรือเดือนอะไร ด้านนักประวัติศาสตร์วิเคราะห์ว่า เดิมทีวันที่ 23 ธันวาคม เป็นวันที่จักรพรรดิซาไกกำหนดให้เป็นวันฉลองวันเกิดของสุริยเทพ
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 274 ชาวโรมันซึ่งส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้าฉลองวันนี้เสมือนว่า เป็นวันฉลองของพระจักรพรรดิไปในตัวด้วย เพราะจักรพรรดิก็เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนุษย์ แต่ชาวคริสต์ที่อยู่ในจักรวรรดิโรมัน รวมถึงชาวโรมันที่เปลี่ยนไปนับถือคริสต์อึดอัดใจที่จะฉลองวันเกิดของสุริยเทพ จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าแทน หลังจากที่ชาวคริสต์ถูกควบคุมเสรีภาพทางศาสนาตั้งแต่ปี ค.ศ. 64 - ค.ศ. 313 จนถึงวันที่ 23 ธันวาคม ปี ค.ศ. 330 ชาวคริสต์จึงเริ่มฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นทางการและเปิดเผย
(อังกฤษ: Christmas, Christ's mass, Xmas Nativity, Yuletide, Noel หรือ Winter Pascha) เป็นเทศกาลประจำปี ซึ่งในศาสนาคริสต์ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู ในหลายประเทศ คริสต์มาสตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี (ในอาร์เมเนีย ตรงกับวันที่ 6 มกราคม และในนิกายออร์โธด็อกซ์บางส่วน ตรงกับวันที่ 7 มกราคม) แต่ก็ไม่เป็นที่เชื่อกันว่าวันนี้เป็นวันคล้ายวันประสูติของพระเยซูจริง สำหรับสาเหตุที่เลือกวันดังกล่าวแต่เดิมมีอยู่หลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นเพราะว่า วันนี้เป็นเวลาเก้าเดือนพอดีหลังจากนางมารีย์รับการประสูติของพระเยซู ตรงกับเทศกาลบูชาสุริยเทพของโรมันโบราณ หรือไม่ก็ตรงกับเหมายันในซีกโลกเหนือ คริสต์มาสเป็นศูนย์กลางของคริสต์มาสและเทศกาลวันหยุด ในศาสนาคริสต์ คริสต์มาสเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเป็นวันหยุดยาว 12 วัน
ถึงแม้ว่าแต่เดิมคริสต์มาสจะเป็นเทศกาลที่เฉลิมฉลองโดยคริสเตียน แต่ผู้ที่มิได้นับถือศาสนาคริสต์จำนวนมากก็ได้จัดงานเฉลิมฉลองคริสต์มาสอย่างกว้างขวาง และประเพณีที่ได้รับความนิยมของคริสต์มาสในปัจจุบันมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ก่อนศาสนาคริสต์หรือมาจากทางโลก ซึ่งรวมไปถึง การให้ของขวัญ เพลงคริสต์มาส การแลกเปลี่ยนการ์ดคริสต์มาส การตกแต่งโบสถ์คริสต์ การรับประทานอาหารมื้อพิเศษ และการตกแต่งอาคารต่าง ๆ ด้วยต้นคริสต์มาส มิสเซิลโท หรือฮอลลี่ เป็นต้น และยังมีตำนานอันเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายเกี่ยวกับซานตาคลอส (หรือ ฟาเธอร์คริสต์มาส) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้ของขวัญแก่เด็ก ๆ ระหว่างเทศกาลคริสต์มาส
เนื่องจากการให้ของขวัญและผลกระทบจากเทศกาลคริสต์มาสในอีกหลายแง่มุมได้ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างมาก ทั้งในกลุ่มคริสเตียนและผู้ที่ไม่ใช่คริสเตียน วันดังกล่าวจึงกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญและช่วงเวลาสำหัรบสินค้าลดราคาสำหรับผู้ค้าปลีกและธุรกิจ ผลกระทบทางเศรษฐกิจของคริสต์มาสเป็นปัจจัยที่ได้เติบโตขึ้นอย่างคงที่ตลอดช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมาในหลายภูมิภาคของโลก
การเฉลิมฉลอง
วันคริสต์มาสได้รับการเฉลิมฉลองเป็นเทศกาลหลักและเป็นวันหยุดราชการในหลายประเทศทั่วโลก รวมไปถึงประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่มิใช่คริสเตียน ในบางประเทศที่มิใช่คริสเตียน คริสต์มาสได้ถูกนำเข้าสู่วัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ ระหว่างที่อยู่ภายใต้การปกครองแบบอาณานิคม (เช่น ฮ่องกง) ส่วนในประเทศอื่น ประชากรค่อย ๆ รับเอาการเฉลิมฉลองของชนกลุ่มน้อยคริสเตียนหรืออิทธิพลจากวัฒนธรรมต่างประเทศ ในหลายประเทศ อาทิ ญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งคริสต์มาสได้รับความนิยมแม้ว่าจะมีประชากรนับถือศาสนาคริสต์เป็นส่วนน้อย ได้รับเอามุมมองทางโลกของคริสต์มาสหลายอย่าง เช่น การให้ของขวัญ การตกแต่งอาคารสถานที่ และต้นคริสต์มาส ประเทศที่ซึ่งคริสต์มาสไม่ใช่วันหยุดราชการ ตัวอย่างเช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน (ยกเว้นฮ่องกงและมาเก๊า) ญี่ปุ่น ซาอุดิอาระเบีย อัลจีเรีย ไทย เนปาล อิหร่าน ตุรกี และเกาหลีเหนือ การเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสรอบโลกอาจมีรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมประเพณีของแต่ละชาติ
ในกลุ่มประเทศที่มีประเพณีคริสเตียนมั่นคง การเฉลิมฉลองคริสต์มาสที่มีความหลากหลายได้รับการปรับปรุงกระทั่งกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นและภูมิภาค สำหรับคริสเตียน การเข้าร่วมในศาสนพิธีถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการยอมรับเทศกาลดังกล่าว คริสต์มาส ตลอดจนเทศกาลอีสเตอร์ เป็นช่วงเวลาที่มีคนเข้าโบสถ์มากที่สุดในแต่ละปี ในประเทศคาทอลิก ประชากรจัดการเดินขบวนทางศาสนาหรือขบวนแห่ก่อนคริสต์มาส ในประเทศอื่น ได้มีการจัดการเดินขบวนทางโลกหรือขบวนแห่ซึ่งนำเสนอซานตาคลอสและสัญลักษณ์ของเทศกาลอื่น ๆ ซึ่งมักจัดขึ้นบ่อยครั้ง การกลับมาพบปะกันของครอบครัวและการแลกของขวัญได้กลายมาเป็นลักษณะเด่นของเทศกาลที่มีอย่างกว้างขวาง การให้ของขวัญเป็นประเพณีที่มีในประเทศส่วนใหญ่ ส่วนวันอื่นที่มีการแลกของขวัญ ได้แก่ วันนักบุญนิโคลัส ตรงกับวันที่ 6 ธันวาคม และการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์ ตรงกับวันที่ 6 มกราคม
วันที่จัดเทศกาล
เป็นเวลาหลายศตวรรษ นักเขียนคริสเตียนยอมรับว่าคริสต์มาสเป็นวันประสูติของพระเยซูที่ถูกต้อง จนกระทั่งในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 นักวิชาการได้เริ่มต้นเสนอคำอธิบายอย่างอื่นแทน ไอแซก นิวตัน ได้แย้งว่า วันที่จัดเทศกาลคริสต์มาสเป็นไปตามเหมายัน ซึ่งชาวโรมันเรียกว่า บรูมา และจัดงานเฉลิมฉลองในวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี[13] ใน ค.ศ. 1743 คริสตเตียนนิกายโปรแตสแตนท์ชาวเยอรมัน พอล แอร์นสก์ จาบลอนสกี ได้ให้เหตุผลว่า การเลือกวันที่ 25 ธันวาคมเพื่อเฉลิมฉลองคริสต์มาสนั้นตรงกับวันหยุดของโรมัน ดีเอส นาตาลิส โซลิส อินวิกติ และดังนั้นจึงเป็นการทำให้ศาสนจักรที่แท้จริงเสื่อมทรามลง ตามประเพณีจูเดโอ-คริสเตียน เชื่อกันว่าการทรงสร้างดังที่ได้บรรยายในพระธรรมปฐมกาล เกิดขึ้นในวันวสันตวิษุวัต คือ วันที่ 25 มีนาคมในปฏิทินโรมัน วันที่ดังกล่าวปัจจุบันได้เฉลิมฉลองเป็นวันการประกาศของเทพและการครบรอบการมาบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระเยซู[14] ใน ค.ศ. 1889 หลุยส์ ดือแชน เสนอว่าวันคริสต์มาสสามารถคำนวณได้โดยบวกเวลาเข้าไปเก้าเดือนนับตั้งแต่วันการประกาศของเทพ ซึ่งเป็นวันที่ความเข้าใจดั้งเดิมเกี่ยวกับพระเยซู
คำอวยพร
คำอวยพรสำหรับเทศกาลคริสมาสใช้ คำอวยพรว่า Merry Christmas สุขสันต์วันคริสต์มาส คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า สันติสุขและความสงบทางใจ จึงเป็นคำที่ใช้อวยพรคนอื่น ขอให้เขาได้รับสันติสุข และความสงบทางใจ เนื่องในโอกาสเทศกาลคริสต์มาส ต่อมาคือ "เพลง" ที่ใช้เฉลิมฉลองทั้งจังหวะช้าและจังหวะสนุกสนาน ส่วนใหญ่แต่งในยุคพระราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษ (ค.ศ.1840-1900) ปัจจุบันแพร่หลายไปทั่วโลกโดยแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมาย
ซานตาคลอส
นักบุญ(เซนต์)นิโคลัสแห่งเมืองไมรา นักบุญองค์นี้เป็นสังฆราช ของ ไมรา มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่4 ได้รับการยกย่องให้เป็นซานตาคลอสคนแรก เพราะมาวันหนึ่ง เป็นวันคริตส์มาสเซนต์จึงเดินทางแจกของขวัญให้กับเด็กๆอย่างมีความสุข
ต้นคริสต์มาส
ต้นคริสต์มาสหรือต้นสนที่นำมาประดับประดาด้วยดวงไฟหลากสีสัน การตกแต่งนี้ย้อนไปในศตวรรษที่ 8 เมื่อเซนต์บอนิเฟส มิชชันนารีชาวอังกฤษที่เดินทางไปประกาศเรื่องพระเจ้าในเยอรมนี ได้ช่วยเด็กที่กำลังจะถูกฆ่าเป็นเครื่องสังเวยบูชาที่ใต้ต้นโอ๊ก โดยเมื่อโค่นต้นโอ๊กทิ้งก็ได้พบต้นสนเล็กๆ ต้นหนึ่งขึ้นอยู่โคนต้นโอ๊ก ท่านจึงขุดให้คนที่ร่วมพิธีกรรมเหล่านั้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชีวิต และตั้งชื่อว่า ต้นกุมารพระคริสต์ ต่อมา มาร์ติน ลูเธอร์ ผู้นำคริสตจักรชาวเยอรมัน ตัดต้นสนไปตั้งในบ้านในเดือนธันวาคม ปีค.ศ.1540 หลังจากนั้นในศตวรรษที่ 19 ต้นคริสต์มาสจึงเริ่มแพร่ไปสู่ประเทศอังกฤษและทั่วโลก
เพลงคริสต์มาส
เพลงคริสต์มาส เริ่มมีขึ้นในศตวรรษที่ 5 ซึ่งผู้แต่งมีทั้งพระสงฆ์และฆราวาส เนื้อร้องเป็นภาษาละติน ลักษณะของเพลงเป็นแบบสง่า เน้นถึงความหมายของการเสด็จมา ของพระเยซูเจ้า แต่ในศตวรรษที่ 12 ได้มีการแต่งในท่วงทำนองที่ร่าเริงสนุกสนานมากขึ้น เริ่มจากประเทศอิตาลี โดยนักบุญฟรังซิส อัสซีซี และนักบวชคณะฟรังซิสกัน เป็นผู้สนับสนุน ให้มีเพลงคริสต์มาสแบบใหม่ ซึ่งชาวบ้านชอบ คือมีท่วงทำนองที่ร่าเริงกว่า และเน้นถึงความชื่นชมยินดี ในโอกาสคริสต์มาส เพลงเหล่านี้มีทั้งที่เป็นภาษาลาติน และภาษาพื้นเมือง เพลงหนึ่งที่แต่งในสมัยนั้น (แต่งคำร้องในปี ค.ศ.1274) และยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ เพลง Oh Come, All Ye Faithful หรือ Adeste Fideles ในภาษาลาติน เพลงคริสต์มาส ที่นิยมร้องมากที่สุดในปัจจุบันได้แต่งขึ้นในศตวรรษที่ 19 จากประเทศเยอรมัน และประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เพลงที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ เพลง Silent Night, Holy Night ความเป็นมาของเพลงนี้คือ วันก่อนวันฉลองคริสต์มาส ของปี ค.ศ.1818 คุณพ่อโจเซฟ โมห์ (Joseph Mohr) เจ้าอาวาสวัดที่โอเบิร์นดอฟ (Oberndorf) ประเทศออสเตรีย ได้ข่าวว่าออร์แกนในวัดเสีย ทำให้วงขับร้อง ไม่สามารถร้องเพลงตามที่ซ้อมไว้ได้ จึงมีการแต่งเพลงคริสต์มาสใหม่ นำไปเพื่อนชื่อ ฟรานซ์ กรูเบอร์ (Franz Gruber) ใส่ทำนอง ในคืนวันที่ 24 นั้นเอง สัตบุรุษวัดนี้ ก็ได้ฟังเพลง Silent Night เป็นครั้งแรก โดยมีการเล่นกีตาร์ประกอบการขับร้อง ซึ่งกลายเป็นเพลงที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก
การทำมิสซาเที่ยงคืน
เมื่อพระสันตะปาปาจูลีอัสที่ 1 ได้ประกาศให้วันที่ 23 ธันวาคมเป็นวันฉลองพระคริสตสมภพ (วันคริสต์มาส)ในปี นั้นเองพระองค์และสัตบุรุษ ได้พากันเดินสวดภาวนา และขับร้องไปยังตำบลเบธเลเฮม และไปยังถ้ำที่พระ เยซูเจ้าประสูติ พอไปถึงก็เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี พระสันตะปาปาก็ทรงถวายบูชามิซซา ณ ที่นั้น เมื่อเสร็จแล้วก็กลับมาที่พักเป็นเวลาเช้ามืดราวๆ ตี 3 พระองค์ก็ถวายมิสซาอีกครั้ง และ สัตบุรุษเหล่านั้นก็พากันกลับ แต่ก็ยังมีสัตบุรุษหลายคนที่ไม่ได้ไป พระสันตะปาปาก็ทรงถวายบูชามิสซาอีกครั้งหนึ่งเป็นครั้งที่ 3 เพื่อสัตบุรุษเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้เองพระสันตะปาปาจึงทรงอนุญาตในพระสงฆ์ถวายบูชามิสซาได้ 3 ครั้ง ในวันคริสต์มาส เหมือนกับการปฏิบัติของพระองค์ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงมีธรรมเนียมถวายมิสซาเที่ยงคืน ในวันคริสต์มาส และพระสงฆ์ก็สามารถถวายมิสซาได้ 3 มิสซา ใน โอกาสวันคริสต์มาสด้วย
เทียนและพวงมาลัย
ในสมัยก่อนมีกลุ่มคริสตชนกลุ่มหนึ่งในประเทศเยอรมัน ได้เอากิ่งไม้มาประกอบ เป็นวงกลมคล้ายพวงมาลัย แล้วเอาเทียน 4 เล่ม วางไว้บนพวงมาลัยนั้น ในตอนกลางคืนของวันอาทิตย์แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จ ทุกคนในครอบครัวจะมารวมกัน ดับไฟ แล้วจุดเทียนเล่มหนึ่ง สวด ภาวนาและร้องเพลงคริสต์มาสร่วมกัน เขาจะทำดังนี้ทุก อาทิตย์จนครบ 4 อาทิตย์ก่อน คริสต์มาส ประเพณีนี้เป็นที่นิยม และแพร่หลายในที่หลายแห่ง โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกาซึ่งต่อมา มีการเพิ่ม โดยเอาพวงมาลัยพร้อมกับเทียนที่จุดไว้ตรง กลาง 1 เล่มไป แขวนไว้ที่หน้าต่างเพื่อช่วย ให้คนที่ผ่าน ไปมา ได้ระลึกถึงการเตรียมตัวรับวันคริสต์มาสที่ใกล้เข้ามา และพวงมาลัยนั้นยังเป็น สัญลักษณ์ที่คน สมัยโบราณใช้หมายถึงชัยชนะ แต่ในที่นี้หมายถึงการที่พระองค์มาบังเกิดในโลก และทำให้ทุกสิ่ง ทุกอย่างครบ บริบูรณ์ตามแผนการณ์ ของพระเป็นเจ้า
ประวัติ
ประวัติความเป็นมาของวันคริต์มาส ซึ่งเป็นวันประสูติของพระเยซูนั้น ตามหลักฐานในพระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า พระเยซูเจ้าประสูติในรัชกาลของจักรพรรดิออกุสตุสแห่งจักรวรรดิโรมัน ซึ่งทรงสั่งให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน โดยคีรีนิอัส เจ้าเมืองซีเรีย ก็รับนโยบายไปปฏิบัติให้มีการจดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งอาณาเขต แต่ในพระคัมภีร์ ไม่ได้ระบุว่า พระเยซูประสูติวันหรือเดือนอะไร ด้านนักประวัติศาสตร์วิเคราะห์ว่า เดิมทีวันที่ 23 ธันวาคม เป็นวันที่จักรพรรดิซาไกกำหนดให้เป็นวันฉลองวันเกิดของสุริยเทพ
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 274 ชาวโรมันซึ่งส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้าฉลองวันนี้เสมือนว่า เป็นวันฉลองของพระจักรพรรดิไปในตัวด้วย เพราะจักรพรรดิก็เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนุษย์ แต่ชาวคริสต์ที่อยู่ในจักรวรรดิโรมัน รวมถึงชาวโรมันที่เปลี่ยนไปนับถือคริสต์อึดอัดใจที่จะฉลองวันเกิดของสุริยเทพ จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าแทน หลังจากที่ชาวคริสต์ถูกควบคุมเสรีภาพทางศาสนาตั้งแต่ปี ค.ศ. 64 - ค.ศ. 313 จนถึงวันที่ 23 ธันวาคม ปี ค.ศ. 330 ชาวคริสต์จึงเริ่มฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นทางการและเปิดเผย
แก้ไขล่าสุดโดย s.gabriel เมื่อ พฤหัสฯ. พ.ย. 10, 2011 12:15 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
รวมประวัติความเป็นมาของวันคริสต์มาส มีเพลง เอ็มวี ภาพยนต์ที่เกี่ยวกับเทศกาล วอล์เปเปอร์
รูปภาพการตูนสวยๆ รูปภาพเทศกาลคริสต์มาสที่ต่างประเทศ ทุกอย่างๆที่เกี่ยวกับคริส์ตมาสครับ
เป็นเว็ปภาษาไทย ขอให้ทุกๆคนมีความสุขในวันคริสต์มาสและวันพระคริสต์สมภพนะครับ
แล้วอย่าลืมแบ่งปันของขวัญให้แก่คนอื่นด้วยนะครับ
http://www.educatepark.com/english/christmas.php
รูปภาพการตูนสวยๆ รูปภาพเทศกาลคริสต์มาสที่ต่างประเทศ ทุกอย่างๆที่เกี่ยวกับคริส์ตมาสครับ
เป็นเว็ปภาษาไทย ขอให้ทุกๆคนมีความสุขในวันคริสต์มาสและวันพระคริสต์สมภพนะครับ
แล้วอย่าลืมแบ่งปันของขวัญให้แก่คนอื่นด้วยนะครับ

http://www.educatepark.com/english/christmas.php
นี่จะเป็นโปรแกรมเตรียมจิดใจแต่ละสัปดาห์ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จ สามารถนำไปใช้ในวัด ในกลุ่มภาวนา หรือ ในครอบครัวครับ ผมเคยใช้โปรแกรมนี้ในวัดของผมเอง ขอแนะนำกับพี่น้องด้วยครับ
อาทิตย์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระเยซูเจ้า
จงตื่นตัวเฝ้าระวังเถิด
พระเจ้ากำลังเสด็จมา
จงตื่นตัวเฝ้าระวังเถิด วันที่พระเจ้าเสด็จมาใกล้มาถึงแล้ว แม้ในวันนี้เองพระองค์ทรงเสด็จมาเช่นหน่อแห่งความชอบธรรมที่นำความยุติธรรมและสันติสุขมาสู่ผืนดิน
บทเชิญนมัสการ
ผู้นำ: จงตื่นตัวเฝ้าระวังเถิด จงรอคอยพระสัญญาของพระเจ้า
สัตบุรุษ: หน่อแห่งความชอบธรรมจะนำความยุติธรรมและสันติสุขมาสู่ผืนดิน
ผู้นำ: จงทำใจของเจ้าให้เข้มแข็งในความศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่รอคอยการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าของเรา
สัตบุรุษ: ดั่งต้นมะเดื่อที่ผลิใบเมื่อฤดูร้อนใกล้มาถึง เครื่องหมายแห่งการครองราชย์ของพระองค์จึงเริ่มปรากฎ
ทุกคน: โอ้พระเจ้าแห่งชีวิต ความรอดของพวกลูกใกล้มาถึง เชิญเสด็จมาเถิดพระเจ้าข้า เชิญเสด็จมาประทับอยู่ใกล้ๆพวกลูกและเป็นความรอดของพวกลูกด้วยเถิด
บทภาวนาเป็นทุกข์ถึงบาป
โอ้พระเป็นเจ้าผู้นำทางลูก
ลูกขอสารภาพว่าหลายๆครั้งลูกหลงทางและเดินเหินห่างไปจากพระองค์
หลายๆครั้งด้วยความใจร้อนของลูกเอง
ลูกเดินออกนอกลู่นอกทางของพระองค์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มั่นคง
และความซื่อสัตย์ที่ไม่แปรเปลี่ยนของพระองค์
โปรดสอนให้ลูกรู้จักหนทางของพระองค์ด้วยเถิด พระเจ้าข้า
ให้ลูกได้อยู่ในความจริงของพระองค์ และโปรดนำทางลูกด้วยเถิด
เพราะพระองค์ทรงเป็นที่พึ่งและความรอดของลูก ลูกขอเฝ้ารอคอยพระองค์ทุกโมงยาม
อาแมน
อวยพร
ผู้นำ: ขอให้พระเจ้านำทางท่านบนหนทางแห่งความซื่อสัตย์
สัตบุรุษ:ขอให้พระองค์ประทานสันติสุขและเพิ่มพูนความรักในใจของลูกเพื่อว่าลูกจะได้รู้จักรักผู้อื่นมากยิ่งขึ้น
อาทิตย์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระเยซูเจ้า
บทเชิญนมัสการ
ผู้นำ: จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า
สัตบุรุษ: พระเจ้าที่เราแสวงหาจะมาปรากฏ พระเจ้าที่เราชื่นชมยินดีกำลังเสด็จมา
ผู้นำ: แต่ใครเล่าจะพร้อมในวันที่พระองค์เสด็จมา
สัตบุรุษ: เราแสวงหาพระเจ้าที่จะทรงชำระเราให้พ้นมลทิน ดั่งเงินและทองในกองไฟ
ทุกคน: เชิญเสด็จมาเถิดพระเจ้าข้า พระเจ้าแห่งชีวิตโปรดชำระและเตรียมจิตใจของลูกให้พร้อมที่จะต้อนรับการทำงานของพระองค์ในตัวลูกเสียใหม่ในวันนี้ด้วยเถิด
บทภาวนาเป็นทุกข์ถึงบาป
โอ้พระเป็นเจ้าผู้ทรงชำระล้างลูกให้บริสุทธิ์
ลูกขอสารภาพว่า ลูกเป็นผู้ขาดความศักดิ์สิทธิ์และไม่สมบูรณ์
หลายๆครั้งกิจกรรมประจำวันทำให้ลูกไขว้เขวและลืมแสวงหาพระองค์
แม้ว่าลูกปรารถนาสันติสุขแต่ลูกกลับไม่พบในชีวตของลูกหรือในโลกนี้
โปรดอดทนกับลูกด้วยเถิดพระเจ้าข้า โปรดชำระล้างและให้อภัยบาปของลูกด้วยเถิด
ขอให้พระเมตตาของพระองค์ส่องสว่างและนำทางลูกสู่สันติสุขด้วยเถิด อาแมน
อวยพร
ผู้นำ: ขอให้ไปในหนทางแห่งสันติสุข
ทุกคน: เพราะพวกลูกทราบว่ากิจการของพระเจ้าจะสำเร็จลุล่วงในวันที่พระองค์เสด็จมา
อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระเยซูเจ้า
บทเชิญนมัสการ
ผู้นำ: จงร้องเพลงถวายพระเจ้า จงประกาศข่าวดีของพระองค์
สัตบุรุษทางซ้าย: พระเจ้าทรงประทับอยู่ใกล้
สัตบุรุษทางขวา: พระเจ้าทรงชื่นชมยินดีในเรา
ผู้นำ: พระเจ้าทรงให้เราเป็นอิสระและมีชีวิตใหม่ในความรักของพระองค์
ทุกคน: เชิญเสด็จมาเถิดพระเจ้าข้า พระเจ้าแห่งชีวิต พวกลูกมาพร้อมหน้ากันเพื่อฉลองความรอดที่พระองค์ประทานให้แก่ลูก และเพื่อประกาศสันติสุขของพระองค์และนมัสการพระองค์ด้วยใจโมทนาคุณ เพราะพระองค์ พระผู้ทรงยิ่งใหญ่ทรงประทับอยู่ท่ามกลางพวกลูก
บทภาวนาเป็นทุกข์ถึงบาป
โอ้พระเป็นเจ้าผู้ทรงปลดปล่อยลูกให้เป็นอิสระ
ลูกขอสารภาพว่า หลายๆครั้งลูกลืมว่าพระองค์ทรงประทับอยู่ท่ามกลางพวกลูก
ลูกไม่ได้ดำเนินชีวิตอย่างเป็นอิสระและลืมที่จะร้องเพลงสรรเสริญโมทนาคุณพระองค์
โปรดช่วยลูกด้วยเถิดพระเจ้าข้า
โปรดสำแดงความรอดของพระองค์ในชีวิตของลูกด้วยเถิด
และเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิตของลูกเพื่อว่าลูกจะได้มีชีวิตใหม่ในความรักของพระองค์
โปรดเปิดใจของลูกให้สามารถประกาศคุณความดีของพระองค์
เพื่อว่าลูกจะได้ทำงานร่วมกับพระองค์ในการปลดปล่อยผู้ที่ตกเป็นทาสให้เขาได้เป็นอิสระ
และนำเสรีภาพและสันติสุขมาสู่โลกด้วยเถิด อาแมน
อวยพร
ผู้นำ: ขอให้ความชื่นชมยินดีในพระเจ้านำทางท่าน
ทุกคน: ขอให้สันติสุขของพระเจ้าซึ่งยากที่จะหยั่งถึงคุ้มครองป้องกันดวงใจและสติปัญญาของเรา
อาศัยพระนามพระเยซูคริสต์
อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระเยซูเจ้า
บทเชิญนมัสการ
ผู้นำ: จงตื่นตัวเฝ้าระวังเถิด จงรอคอยพระสัญญาของพระเจ้า
สัตบุรุษ: หน่อแห่งความชอบธรรมจะนำความยุติธรรมและสันติสุขมาสู่ผืนดิน
ผู้นำ: จงทำใจของเจ้าให้เข้มแข็งในความศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่รอคอยการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าของเรา
สัตบุรุษ: ดั่งต้นมะเดื่อที่ผลิใบเมื่อฤดูร้อนใกล้มาถึง เครื่องหมายแห่งการครองราชย์ของพระองค์จึงเริ่มปรากฎ
ทุกคน: โอ้พระเจ้าแห่งชีวิต ความรอดของพวกลูกใกล้มาถึง เชิญเสด็จมาเถิดพระเจ้าข้า เชิญเสด็จมาประทับอยู่ใกล้ๆพวกลูกและเป็นความรอดของพวกลูกด้วยเถิด
บทภาวนาเปิดพิธี
ให้เราภาวนา
พระเยซูเจ้า องค์ความสว่างของโลก
โปรดขจัดความมืดบอดของพวกลูก และโปรดให้อภัยบาปพวกลูกด้วยเถิด
โปรดช่วยให้พวกลูกซื่อสัตย์ต่อพระวาจาของพระองค์
เพื่อจะได้นำแสงสว่างของพระองค์ไปสู่โลกที่กำลังรอคอยพระองค์
เพื่อพระสิริของพระบิดาเจ้า
บทภาวนาเพื่อพิจารณาและเป็นทุกข์ถึงบาป
ผู้นำ:
โลกที่มีแต่เพียงความมืดบอดเป็นโลกที่วุ่นวายสับสน
ผู้คนมากมายต่างสับสนในชีวิต
ผู้คนมากมายอาศัยในความมืด
ผู้คนมากมายต่างแสวงหาความสุข
แต่กลับกลัวที่จะให้องค์ความสว่างเข้ามาในชีวิต
แล้วท่านล่ะ ท่านอยู่ในความมืดหรือเปล่า
ความมืดแห่ง....
....การดูถูกสงสารตนเอง ไม่ไยดีต่อผู้อื่น
....การไม่ใส่ใจ ไม่เห็นใจผู้อื่น
....การเห็นแก่ตัว อารมณ์ร้าย
....การคิด การพูดและการกระทำที่โหดร้ายทารุณ
....การอาฆาตพยาบาท
....การนมัสการอย่างไม่เต็มใจ
ผู้นำ: พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ
ทุกคน: พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ
ฉันอยู่ในความมืดเมื่อ....
...ฉันไม่ให้อภัย
...ฉันเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้อื่น
...ฉันไม่เปิดใจ
...ฉันบ่นตลอดเวลา
...ฉันไม่ยุติธรรมกับผู้อื่น
...ฉันไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ครอบครัวและผู้อื่น
ผู้นำ: พระคริสตเจ้าทรงเมตตาเทอญ
ทุกคน: พระคริสตเจ้าทรงเมตตาเทอญ
ฉันอยู่ในความมืดเมื่อ....
...ฉันปราศจากความรัก
...ฉันโมโหร้าย
...ฉันไม่กตัญญูรู้คุณ
...ฉันใช้สิ่งดีๆของชีวิตในทางที่ผิด
...ฉันละเลยชีวิตฝ่ายจิต ไม่ใส่ใจการภาวนา
...ฉันผิดต่อสัญญาแห่งศีลล้างบาป
ผู้นำ: พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ
ทุกคน: พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ
บทภาวนาปิดพิธี
พระเยซูคริสตเจ้า
ความรักในการให้อภัยของพระองค์ไม่มีที่สิ้นสุด
พระองค์ทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์
เพื่อเป็นตัวอย่างของความอ่อนน้อมถ่อมตน
และเพื่อช่วยให้พวกลูกสามารถซื่อสัตย์ในการผจญทั้งหลาย
ขอโปรดช่วยให้ลูกอยู่ในศีลในพรของพระองค์เสมอด้วยเถิด
แต่หากลูกพลั้งตกในบาป
โปรดช่วยอุ้มชูลูกขึ้นอาศัยพระพรแห่งการกลับใจ
ทั้งนี้อาศัยพระเป็นเจ้าผู้ครองราชย์บัดนี้และตลอดไป
อวยพร
ผู้นำ: ขอพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ประทานพรให้แก่ท่าน
ทุกคน: อาแมน
ผู้นำ: ขอให้พระองค์ส่องสว่างเหนือท่านและมีเมตตาต่อท่าน
ทุกคน: อาแมน
ผู้นำ: ขอให้พระองค์มอบสันติสุขของพระองค์แก่ท่าน
ทุกคน: อาแมน
อาทิตย์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระเยซูเจ้า
จงตื่นตัวเฝ้าระวังเถิด
พระเจ้ากำลังเสด็จมา
จงตื่นตัวเฝ้าระวังเถิด วันที่พระเจ้าเสด็จมาใกล้มาถึงแล้ว แม้ในวันนี้เองพระองค์ทรงเสด็จมาเช่นหน่อแห่งความชอบธรรมที่นำความยุติธรรมและสันติสุขมาสู่ผืนดิน
บทเชิญนมัสการ
ผู้นำ: จงตื่นตัวเฝ้าระวังเถิด จงรอคอยพระสัญญาของพระเจ้า
สัตบุรุษ: หน่อแห่งความชอบธรรมจะนำความยุติธรรมและสันติสุขมาสู่ผืนดิน
ผู้นำ: จงทำใจของเจ้าให้เข้มแข็งในความศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่รอคอยการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าของเรา
สัตบุรุษ: ดั่งต้นมะเดื่อที่ผลิใบเมื่อฤดูร้อนใกล้มาถึง เครื่องหมายแห่งการครองราชย์ของพระองค์จึงเริ่มปรากฎ
ทุกคน: โอ้พระเจ้าแห่งชีวิต ความรอดของพวกลูกใกล้มาถึง เชิญเสด็จมาเถิดพระเจ้าข้า เชิญเสด็จมาประทับอยู่ใกล้ๆพวกลูกและเป็นความรอดของพวกลูกด้วยเถิด
บทภาวนาเป็นทุกข์ถึงบาป
โอ้พระเป็นเจ้าผู้นำทางลูก
ลูกขอสารภาพว่าหลายๆครั้งลูกหลงทางและเดินเหินห่างไปจากพระองค์
หลายๆครั้งด้วยความใจร้อนของลูกเอง
ลูกเดินออกนอกลู่นอกทางของพระองค์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มั่นคง
และความซื่อสัตย์ที่ไม่แปรเปลี่ยนของพระองค์
โปรดสอนให้ลูกรู้จักหนทางของพระองค์ด้วยเถิด พระเจ้าข้า
ให้ลูกได้อยู่ในความจริงของพระองค์ และโปรดนำทางลูกด้วยเถิด
เพราะพระองค์ทรงเป็นที่พึ่งและความรอดของลูก ลูกขอเฝ้ารอคอยพระองค์ทุกโมงยาม
อาแมน
อวยพร
ผู้นำ: ขอให้พระเจ้านำทางท่านบนหนทางแห่งความซื่อสัตย์
สัตบุรุษ:ขอให้พระองค์ประทานสันติสุขและเพิ่มพูนความรักในใจของลูกเพื่อว่าลูกจะได้รู้จักรักผู้อื่นมากยิ่งขึ้น
อาทิตย์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระเยซูเจ้า
บทเชิญนมัสการ
ผู้นำ: จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า
สัตบุรุษ: พระเจ้าที่เราแสวงหาจะมาปรากฏ พระเจ้าที่เราชื่นชมยินดีกำลังเสด็จมา
ผู้นำ: แต่ใครเล่าจะพร้อมในวันที่พระองค์เสด็จมา
สัตบุรุษ: เราแสวงหาพระเจ้าที่จะทรงชำระเราให้พ้นมลทิน ดั่งเงินและทองในกองไฟ
ทุกคน: เชิญเสด็จมาเถิดพระเจ้าข้า พระเจ้าแห่งชีวิตโปรดชำระและเตรียมจิตใจของลูกให้พร้อมที่จะต้อนรับการทำงานของพระองค์ในตัวลูกเสียใหม่ในวันนี้ด้วยเถิด
บทภาวนาเป็นทุกข์ถึงบาป
โอ้พระเป็นเจ้าผู้ทรงชำระล้างลูกให้บริสุทธิ์
ลูกขอสารภาพว่า ลูกเป็นผู้ขาดความศักดิ์สิทธิ์และไม่สมบูรณ์
หลายๆครั้งกิจกรรมประจำวันทำให้ลูกไขว้เขวและลืมแสวงหาพระองค์
แม้ว่าลูกปรารถนาสันติสุขแต่ลูกกลับไม่พบในชีวตของลูกหรือในโลกนี้
โปรดอดทนกับลูกด้วยเถิดพระเจ้าข้า โปรดชำระล้างและให้อภัยบาปของลูกด้วยเถิด
ขอให้พระเมตตาของพระองค์ส่องสว่างและนำทางลูกสู่สันติสุขด้วยเถิด อาแมน
อวยพร
ผู้นำ: ขอให้ไปในหนทางแห่งสันติสุข
ทุกคน: เพราะพวกลูกทราบว่ากิจการของพระเจ้าจะสำเร็จลุล่วงในวันที่พระองค์เสด็จมา
อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระเยซูเจ้า
บทเชิญนมัสการ
ผู้นำ: จงร้องเพลงถวายพระเจ้า จงประกาศข่าวดีของพระองค์
สัตบุรุษทางซ้าย: พระเจ้าทรงประทับอยู่ใกล้
สัตบุรุษทางขวา: พระเจ้าทรงชื่นชมยินดีในเรา
ผู้นำ: พระเจ้าทรงให้เราเป็นอิสระและมีชีวิตใหม่ในความรักของพระองค์
ทุกคน: เชิญเสด็จมาเถิดพระเจ้าข้า พระเจ้าแห่งชีวิต พวกลูกมาพร้อมหน้ากันเพื่อฉลองความรอดที่พระองค์ประทานให้แก่ลูก และเพื่อประกาศสันติสุขของพระองค์และนมัสการพระองค์ด้วยใจโมทนาคุณ เพราะพระองค์ พระผู้ทรงยิ่งใหญ่ทรงประทับอยู่ท่ามกลางพวกลูก
บทภาวนาเป็นทุกข์ถึงบาป
โอ้พระเป็นเจ้าผู้ทรงปลดปล่อยลูกให้เป็นอิสระ
ลูกขอสารภาพว่า หลายๆครั้งลูกลืมว่าพระองค์ทรงประทับอยู่ท่ามกลางพวกลูก
ลูกไม่ได้ดำเนินชีวิตอย่างเป็นอิสระและลืมที่จะร้องเพลงสรรเสริญโมทนาคุณพระองค์
โปรดช่วยลูกด้วยเถิดพระเจ้าข้า
โปรดสำแดงความรอดของพระองค์ในชีวิตของลูกด้วยเถิด
และเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิตของลูกเพื่อว่าลูกจะได้มีชีวิตใหม่ในความรักของพระองค์
โปรดเปิดใจของลูกให้สามารถประกาศคุณความดีของพระองค์
เพื่อว่าลูกจะได้ทำงานร่วมกับพระองค์ในการปลดปล่อยผู้ที่ตกเป็นทาสให้เขาได้เป็นอิสระ
และนำเสรีภาพและสันติสุขมาสู่โลกด้วยเถิด อาแมน
อวยพร
ผู้นำ: ขอให้ความชื่นชมยินดีในพระเจ้านำทางท่าน
ทุกคน: ขอให้สันติสุขของพระเจ้าซึ่งยากที่จะหยั่งถึงคุ้มครองป้องกันดวงใจและสติปัญญาของเรา
อาศัยพระนามพระเยซูคริสต์
อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระเยซูเจ้า
บทเชิญนมัสการ
ผู้นำ: จงตื่นตัวเฝ้าระวังเถิด จงรอคอยพระสัญญาของพระเจ้า
สัตบุรุษ: หน่อแห่งความชอบธรรมจะนำความยุติธรรมและสันติสุขมาสู่ผืนดิน
ผู้นำ: จงทำใจของเจ้าให้เข้มแข็งในความศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่รอคอยการเสด็จมาของพระเยซูเจ้าของเรา
สัตบุรุษ: ดั่งต้นมะเดื่อที่ผลิใบเมื่อฤดูร้อนใกล้มาถึง เครื่องหมายแห่งการครองราชย์ของพระองค์จึงเริ่มปรากฎ
ทุกคน: โอ้พระเจ้าแห่งชีวิต ความรอดของพวกลูกใกล้มาถึง เชิญเสด็จมาเถิดพระเจ้าข้า เชิญเสด็จมาประทับอยู่ใกล้ๆพวกลูกและเป็นความรอดของพวกลูกด้วยเถิด
บทภาวนาเปิดพิธี
ให้เราภาวนา
พระเยซูเจ้า องค์ความสว่างของโลก
โปรดขจัดความมืดบอดของพวกลูก และโปรดให้อภัยบาปพวกลูกด้วยเถิด
โปรดช่วยให้พวกลูกซื่อสัตย์ต่อพระวาจาของพระองค์
เพื่อจะได้นำแสงสว่างของพระองค์ไปสู่โลกที่กำลังรอคอยพระองค์
เพื่อพระสิริของพระบิดาเจ้า
บทภาวนาเพื่อพิจารณาและเป็นทุกข์ถึงบาป
ผู้นำ:
โลกที่มีแต่เพียงความมืดบอดเป็นโลกที่วุ่นวายสับสน
ผู้คนมากมายต่างสับสนในชีวิต
ผู้คนมากมายอาศัยในความมืด
ผู้คนมากมายต่างแสวงหาความสุข
แต่กลับกลัวที่จะให้องค์ความสว่างเข้ามาในชีวิต
แล้วท่านล่ะ ท่านอยู่ในความมืดหรือเปล่า
ความมืดแห่ง....
....การดูถูกสงสารตนเอง ไม่ไยดีต่อผู้อื่น
....การไม่ใส่ใจ ไม่เห็นใจผู้อื่น
....การเห็นแก่ตัว อารมณ์ร้าย
....การคิด การพูดและการกระทำที่โหดร้ายทารุณ
....การอาฆาตพยาบาท
....การนมัสการอย่างไม่เต็มใจ
ผู้นำ: พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ
ทุกคน: พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ
ฉันอยู่ในความมืดเมื่อ....
...ฉันไม่ให้อภัย
...ฉันเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้อื่น
...ฉันไม่เปิดใจ
...ฉันบ่นตลอดเวลา
...ฉันไม่ยุติธรรมกับผู้อื่น
...ฉันไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ครอบครัวและผู้อื่น
ผู้นำ: พระคริสตเจ้าทรงเมตตาเทอญ
ทุกคน: พระคริสตเจ้าทรงเมตตาเทอญ
ฉันอยู่ในความมืดเมื่อ....
...ฉันปราศจากความรัก
...ฉันโมโหร้าย
...ฉันไม่กตัญญูรู้คุณ
...ฉันใช้สิ่งดีๆของชีวิตในทางที่ผิด
...ฉันละเลยชีวิตฝ่ายจิต ไม่ใส่ใจการภาวนา
...ฉันผิดต่อสัญญาแห่งศีลล้างบาป
ผู้นำ: พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ
ทุกคน: พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ
บทภาวนาปิดพิธี
พระเยซูคริสตเจ้า
ความรักในการให้อภัยของพระองค์ไม่มีที่สิ้นสุด
พระองค์ทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์
เพื่อเป็นตัวอย่างของความอ่อนน้อมถ่อมตน
และเพื่อช่วยให้พวกลูกสามารถซื่อสัตย์ในการผจญทั้งหลาย
ขอโปรดช่วยให้ลูกอยู่ในศีลในพรของพระองค์เสมอด้วยเถิด
แต่หากลูกพลั้งตกในบาป
โปรดช่วยอุ้มชูลูกขึ้นอาศัยพระพรแห่งการกลับใจ
ทั้งนี้อาศัยพระเป็นเจ้าผู้ครองราชย์บัดนี้และตลอดไป
อวยพร
ผู้นำ: ขอพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ประทานพรให้แก่ท่าน
ทุกคน: อาแมน
ผู้นำ: ขอให้พระองค์ส่องสว่างเหนือท่านและมีเมตตาต่อท่าน
ทุกคน: อาแมน
ผู้นำ: ขอให้พระองค์มอบสันติสุขของพระองค์แก่ท่าน
ทุกคน: อาแมน