วันพุธรับเถ้า

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6641
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ก.พ. 20, 2012 12:17 pm

วันพุธที่ 22 นี้มีรับเถ้า คริสตชนอายุ 14ปีขึ้นไปต้องอดเนื้อสัตว์บก สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
อายุ 18-60 ปีต้องจำศิลอดอาหาร ในวันนี้ (เพื่อระลึกถึงวันหนึ่งเราก็ต้องตาย ไม่รู้ใช่หรือเปล่า)
ใครที่รู้เรื่องวันพุธรับเถ้านี้ ช่วยอธิบายหน่อย เพราะเราก็รับเถ้าทุกปี...ตั้งแต่เด็ก
....... :s030: ........
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

จันทร์ ก.พ. 20, 2012 1:54 pm

rosa-lee เขียน:วันพุธที่ 22 นี้มีรับเถ้า คริสตชนอายุ 14ปีขึ้นไปต้องอดเนื้อสัตว์บก สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
อายุ 18-60 ปีต้องจำศิลอดอาหาร ในวันนี้ (เพื่อระลึกถึงวันหนึ่งเราก็ต้องตาย ไม่รู้ใช่หรือเปล่า)
ใครที่รู้เรื่องวันพุธรับเถ้านี้ ช่วยอธิบายหน่อย เพราะเราก็รับเถ้าทุกปี...ตั้งแต่เด็ก
....... :s030: ........
สวัสดีครับ คุณrosa-lee

รูปภาพ

วันพุธรับเถ้า หรือ Ash Wednesday เป็นวันที่ทางพระศาสนจักรเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ทุกคน
ทำการจำศีลอดอาหาร เป็นการเริ่ม เทศกาลมหาพรต การรับเถ้านอกจากเราจะระลึกถึงผู้จากไป
และรอวันกลับคืนชีพแล้ว คริสตชนเรายังระลึก ว่าเรามาจากดินและวันหนึ่งเราก็จะกลับไปสู่ดิน
หลักนี้ทางพุทธเรียก "มรณานุสติ"

ผมชอบพระศาสนจักรเราอย่างหนึ่ง คือ จะไม่ได้มีข้อบังคับอย่างเป็นทางการ แต่ใช้คำว่า เรียกร้อง
นี่เป็นข้ออ่อนน้อมทางกฎระเบียบ


ข้อมูลวันพุธรับเถ้าเพิ่มเติม :


http://www.shb.or.th/article/nanasara/p ... abtao.html

http://naphoradio.com/mahapot.php


ภาคภาษาอังกฤษ จะละเอียดกว่า wikipedia ภาคภาษาไทยครับ (เพราะคนไทยส่วนใหญ่
แปลจาก wikipedia ภาคภาษาอังกฤษ แบบเราแปลตำราจาก Text book)
http://en.wikipedia.org/wiki/Ash_Wednesday

ใน Newmana คุณ Holy เคยเขียนเรื่องมหาพรต ไว้นะครับ ลองอ่านดู
viewtopic.php?f=2&t=10398&p=217771

:s021:
โดย ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ (เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์)
ภาพประจำตัวสมาชิก
billa-bong
~@
โพสต์: 668
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
ที่อยู่: thailand

จันทร์ ก.พ. 20, 2012 5:05 pm

ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6641
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.พ. 21, 2012 9:44 am

ขอบคุณค่ะ...คุณ peopletribune
ได้ความรู้เข้าใจความหมายของการรับเถ้ามากขึ้น.... :s002: :s007:
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

อังคาร ก.พ. 21, 2012 11:08 am

ขอบคุณ คุณbilla-bong กับ คุณrosa-lee มากครับ ...สำหรับคำขอบคุณ :s007:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

อังคาร ก.พ. 21, 2012 6:10 pm

แล้วเด็กอายุต่ำกว่า14ปีต้องอดเนื้อหรือเปล่าครับ :s030:
peopletribune
โพสต์: 423
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 28, 2009 8:55 pm
ที่อยู่: Maka-Diyos, Makatao, Makakalikasan, at Makabansa

เสาร์ ก.พ. 25, 2012 2:29 pm

sunofgod เขียน:แล้วเด็กอายุต่ำกว่า14ปีต้องอดเนื้อหรือเปล่าครับ :s030:
สวัสดีครับ คุณsunofgod

ตามกฎหมายพระศาสนจักรสภาพระสังฆราชฯ :
มิซังคาทอลิกแห่งประเทศไทย ตาม มาตรา 1252 (แหะ ๆ ขอเป็นทางการนิดนะครับ)

กำหนดให้คริสตชนทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 14 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ต้องอดเนื้อ
และ คริสตชนที่อาุยุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ ถึง 59 ปีบริบูรณ์ ต้องอดอาหาร

และให้ถือเป็นหน้าที่ของผู้อภิบาล และบิดามารดาที่จะต้องอบรมผู้น้อยที่ยังไม่ต้องถือกฎ
การอดเนื้อและอดอาหารให้เขาใจจิตตารมณ์ของการพลีกรรม


รายละเอียดเชิญอ่านตาม Link นะครับ (ผมขออนุญาตไม่กล่าว)
http://www.catholic.or.th/spiritual/art ... /le05.html

รูปภาพ

มีคำอยู่ 2 คำ ที่พวกเราเหล่าคริสตชน ควรตีความและเข้าให้ถึง นั่นคือคำว่า
จิตตารมณ์ของการพลีกรรม และ จิตตารมณ์ของมหาพรต

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ไม่ได้มีคำว่า จิตตารมณ์ เราใช้คำ ๆ นี้
ในศาสนจักร...ผมตีความเอาเองนะครับว่า จิตตารมณ์ มาจากภาษาไทย คือ คำว่า
จิตตะ + อารมณ์

จิต (จิต หรือ จิตตะ) = ใจ,สิ่งที่มีหน้าที่รู้ คิด และนึก

เป็นคำในความหมายเดียวกับ คำว่าจิตตะ ในอิทธิบาท 4 ในพุทธศาสนา คือ
ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา

เป็นหลักคิดคล้ายกัน ครับ

- ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น
- วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น
- จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น
- วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น

อารมณ์ = น. สิ่งที่ยึดหน่วงจิตโดยผ่านทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ เช่น
รูปเป็นอารมณ์ของตา เสียงเป็นอารมณ์ของหู, เครื่องยึดถือเป็นจริง เป็นจัง เช่น เรื่องนี้
อย่าเอามาเป็นอารมณ์เลย; ความรู้สึกทางใจที่ เปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งเร้า เช่น อารมณ์รัก
อารมณ์โกรธ อารมณ์ดี อารมณ์ร้าย; อัธยาศัย, ปรกตินิสัย, เช่น อารมณ์ขัน อารมณ์เยือกเย็น
อารมณ์ร้อน; ความรู้สึก เช่น อารมณ์ค้าง ใส่อารมณ์, ความรู้สึกซึ่ง มักใช้ไปในทางกามารมณ์
เช่น อารมณ์เปลี่ยว เกิดอารมณ์ , ว. มี อัธยาศัย,มีปรกตินิสัย, เช่น เขาเป็นคนอารมณ์เยือกเย็น
เขาเป็นคนอารมณ์ร้อน



จิตตารมณ์ของการพลีกรรม
การจำศีลอดอาหารเป็นกิจการอย่างหนึ่งในเทศกาลมหาพรต เพื่อช่วยพี่น้องคริสตชนฉลองปัสกาอย่างดี และเพื่อคริสตชนสำรองชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ เพื่อรับศีลล้างบาป เข้าเป็นคริสตชนอย่าง
มีความหมาย

ส่วน จิตตารมณ์ของมหาพรต
ลองอ่านจาก ปาฐกถาของท่าน พระสังฆราชบุญเลื่อน หมั้นทรัพย์ ที่นำเสนอโดย
คุณพ่อถิรลักษณ์ วิจิตรวงศ์ ดุนะครับ แล้วจะเข้าถึงจิตารมณ์ ของ มหาพรต

http://www.catholic.or.th/spiritual/article/a1.ppt

:s030:
โดย : ฟรังซิสโก ณัฐวุฒิ (เดินทางทุกที่ ที่มีพระองค์)
s.gabriel
โพสต์: 1011
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 27, 2009 2:21 pm

เสาร์ ก.พ. 25, 2012 5:46 pm

ขอเพิ่มเติมนะครับ
วันพุธที่ 22 ก.พ. 2555 เป็นวันพุธรับเถ้า และวันเริ่มเทศกาลมหาพรต.....

วันพุธรับเถ้าเป็นวันหนึ่งที่พระศาสนจักรเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ทุกคนทำการจำศีลอดอาหาร นั่นคือให้อดมื้ออาหารที่สำคัญที่สุดของวัน ทั้งนี้เพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะเสียสละและการรู้จักร่วมสุขร่วมทุกข์กับคนอื่น เป็นต้นเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้าในพระทรมานของ พระองค์

ความพร้อมที่เริ่มต้นด้วยการรู้จักฟังเสียงของพระเจ้า พร้อมที่จะรับรู้ค่านิยมแห่งพระวาจาของพระองค์ อันเป็นเครื่องหมายของการกลับใจ โดยนัยนี้การจำศีลอดอาหารของคริสตชนก็จะละม้ายคล้ายกับของพระอาจารย์เจ้า เวลาที่พระองค์ทรงเริ่มปฏิบัติพระภารกิจของพระองค์ ทรงภาวนาจำศีลอดอาหาร 40 วันในถิ่นทุรกันดาร

การจำศีลอดอาหารของคริสตชนในวันนี้ จะต้องยืดออกไปหรือต่อเนื่องออกไปตลอดเทศกาลมหาพรต ด้วยการริเริ่มส่วนตัวในการรู้จักเสียสละทรัพย์สมบัติเงินทอง ความสนุกสนาน ความสะดวกสบายส่วนตัว แม้ที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยด้วย ทั้งนี้ให้คริสตชนแต่ละคนทำด้วยความสมัครใจและด้วยความยินดี ดังนี้ การจำศีลอ ดอาหารแบบพิธีการที่คริสชนทำด้วยจิตตารมณ์ ไม่ใช่แบบภายนอก ก็จะกลายเป็นเครื่องหมายแห่งความเชื่อ และหนทางแห่งการช่วยให้รอดพ้นสำหรับเราแต่ละคน

จากอีกด้านหนึ่ง โดยการยอมสู้ทนกับการรู้จักอดอะไรบ้าง ก็จะทำให้เรารู้จักร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับ คนอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งคุ้นเคยกับการที่ต้องอดอาหารเพราะความจำเป็น การขาดสิ่งที่จำเป็นสำหรับยังชีพ การขาดการศึกษา และการขาดสิ่งที่จะช่วยให้เขาได้พัฒนาตัวเองให้ทัดเทียมกับคนอื่นๆ ดังนี้ การจำศีลอดอาห ารก็กลายเป็นพฤติกรรมทางสัญลักษณ์ และเป็นการประนามความอยุติธรรมอันเกิดจากความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ ที่สุดเป็นการรู้จักร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคนที่อาภัพน่าสงสาร เพราะฉะนั้นการเตรียมฉลองปัสกาก็จะกลายเป็น “มหาพรตแห่งความรักฉันท์พี่น้อง” และการทานอาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูคริสตเจ้าจะกลายเป็นพฤติกรรมที่แส ดงให้เห็นถึงความสุภาพถ่อมตนอย่างที่สุด และการรู้จักรับใช้ผู้อื่นขององค์พระเจ้า พระผู้ยอมเสด็จลงมารับสภาพมนุษย์เหมือนกับเราทุกอย่างเว้นแต่บาป ทั้งยังเป็นการประกาศว่าอาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว

ใครก็ตามที่มีส่วนร่วมในพระทรมานของพระคริสตเจ้าอย่างจริงจัง จะทำให้เขาได้รู้จักว่าการเสด็จกลับไปห าพระบิดาเจ้านั้นได้เริ่มขึ้นแล้ว ทั้งยังทำให้เขาได้รู้จักอีกว่าการรู้จักตายต่อเนื้อหนังของตัวเองวันละเล็กละน้อย ก็จะทำให้จิตแห่งการกลับคืนชีพและจิตแห่งชีวิตใหม่ขององค์พระเยซูเจ้า พระผู้ได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ สามา รถเบ่งบานและออกผลได้ในที่สุด

ข้อกำหนดของพระศาสนจักรในเทศกาลมหาพรต

เพื่อจะได้ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องตามจิตตารมณ์ของเทศกาลมหาพรต ขอให้ปฏิบัติตามจิตตารมณ์ของพระศาสนจักรดังต่อไปนี้

1. ตามพระบัญญัติของพระเป็นเจ้า คริสตชนทุกคนต้องชดเชยใช้โทษบาปของตนตามวิธีการของแต่ละคนและเพื่อการปฏิบัติร่วมกัน จึงได้กำห นดวันชดเชยใช้โทษบาปซึ่งคริสตชนจะได้สวดภาวนา ปฏิบัติกิจเมตตาปรานีและความรักเป็นพิเศษ เสียสละตนเองและทำหน้าที่ของตนอย่างซื่อสัตย์ (ม.1249)

2. ทุกวันศุกร์ตลอดปี และทุกวันในเทศกาลมหาพรต เป็นวันพลีกรรมในพระศาสนจักรทั่วไป ( ม.1250)

3. ทุกวันศุกร์ตลอดปี ยกเว้นวันฉลองใหญ่ เป็นวันอดเนื้อหรืออดอาหารอื่นตามข้อกำหนดของสภาพ ระสังฆราชฯ วันพุธรับเถ้าและวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นวันอดเนื้อและอดอาหาร (ม.1251)

4. คริสตชนทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 14 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ต้องอดเนื้อ และคริสตชนทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปจนถึง 59 ปีบริบูรณ์ ต้องอดอาหาร

เป็นหน้าที่ของผู้อภิบาลและบิดามารดาที่จะต้องอบรมผู้น้อยที่ยังไม่ต้องถือกฎการอดเนื้อและอดอาหารให้เข้าใจจิตตารมณ์ของการพลีกรรม ( ม.1252)

สำหรับประเทศไทย อาศัยอำนาจตามมาตรา 1253 ของกฎหมายพระศาสนจักร สภาพระสังฆราชฯ จึงกำหนดวิธีการอดเนื้อและอดอาหารดังต่ อไปนี้

การอดเนื้อ

ผู้ที่ได้ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งตามกำหนดนี้ ถือว่าได้ถือตามกฎการอดเนื้อ คือ
ก.อดเนื้อ
ข.ปฏิบัติกิจศรัทธานอกเหนือไปจากที่เคยปฏิบัติ อาทิ เดินรูป 14 ภาค เฝ้าศีลมหาสนิท สวดสายประคำฯลฯ
ค.ปฏิบัติกิจเมตตาปรานี เช่น ให้ทานคนจน เยี่ยมคนเจ็บป่วย ฯลฯ
ง.งดเว้นอาหารหรือสิ่งที่เคยปฏิบัติเป็นประจำ อาทิ งดดื่มสุราและเบียร์ งดสูบบุหรี่
จ.รู้จักอดออมและละเว้นความฟุ้งเฟ้อต่าง ๆ

การอดอาหาร
หมายถึง การรับประทานอาหารอิ่มเพียงมื้อเดียว

พระเจ้าตรัสว่า :
“การถืออดอาหารอย่างที่เราต้องการเป็นดังนี้ แก้โซ่ที่ล่ามคนที่เจ้ากดขี่เสียเถิดและเลิกทำสิ่งที่ไม่ยุติธรรม ปล่อยคนที่เจ้ากดขี่ข่มเหงไปเสีย แบ่งปันอาหารให้ผู้ที่หิวโหย เปิดประตูรับคนยากจนไร้ที่อยู่อาศัย ให้เสื้อผ้าแก่ผู้ที่ไม่มีใส่ อย่าละเลยต่อการช่วยเหลือญาติพี่น้องของเจ้า” (อสย.58 : 6 – 7)
ตอบกลับโพส