การสวดภาวนาเซนาเกิ้ล คืออะไรครับ

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
I Love Jesus

อังคาร ก.ค. 12, 2005 11:44 pm

ผมอยากรู้ว่าเขาสวดกันอย่างไร
บทสวดเป็นแบบไหน
ผมเคยเข้า google หาคำว่าเซนาเกิ้ลแล้วครับ
ผมการค้นหาได้ว่าอย่างนี้ครับ
เซนาเกิ้ล สงครามทางจิตวิญญาณ และพระจิต
ผมจึงอยากรู้มากขึ้น พี่น้องท่านใดที่รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

อังคาร ก.ค. 12, 2005 11:49 pm

เซนาเกิลเป็นห้องที่พระจิตเจ้าเสด็จลงมาครั้งแรกในรูปของลิ้นไฟ อยุ่เหนือศรีศระของอัครสาวกและพระแม่มารีย์ เมื่อครั้งรวมตัวกันสวดภาวนาต่อพระจิตเจ้าครับ

ผมก็พอจะจำได้เท่านี้แหละครับรอผู้รู้มาตอบดีกว่า
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ก.ค. 13, 2005 2:28 pm

princess of wands เขียน: เซนาเกิลเป็นห้องที่พระจิตเจ้าเสด็จลงมาครั้งแรกในรูปของลิ้นไฟ อยุ่เหนือศรีศระของอัครสาวกและพระแม่มารีย์ เมื่อครั้งรวมตัวกันสวดภาวนาต่อพระจิตเจ้าครับ

ผมก็พอจะจำได้เท่านี้แหละครับรอผู้รู้มาตอบดีกว่า
ในวันเพ็นเทคศเตเหรอเฮีย ซึ่งบันทึกไว้ในหนังสือกิจการ บทที่ ๒

2.1 เมื่อวันเทศกาลเพ็นเทคศเต {แปลว่า ที่ห้าสิบ เป็นเทศกาลภายหลังวันเริ่มเทศกาลขนมปังไร้เชื้อวัน} มาถึง จำพวกศิษย์จึงรวมอยู่ในที่แห่งเดียวกัน
2:2 ในทันใดนั้นมีเสียงมาจากฟ้าเหมือนเสียงพายุกล้าสั่นก้องทั่วตึกที่เขานั่งอยู่นั้น
2:3 มีเปลวไฟสัณฐานเหมือนลิ้นปรากฏแก่เขากระจายอยู่บนเขาสิ้นทุกคน
2:4 เขาเหล่านั้นก็ประกอบด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ จึงตั้งต้นพูดภาษาอื่นๆตามที่พระวิญญาณทรงโปรดให้พูด
2:5 มีพวกยิวจากทุกประเทศทั่วใต้ฟ้าซึ่งเป็นผู้เกรงกลัวพระเจ้า มาอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม
2:6 เมื่อมีเสียงอย่างนั้นเขาจึงพากันมา และฉงนสนเท่ห์เพราะต่างคนต่างได้ยินเขาพูดภาษาของตัว
2:7 คนทั้งปวงจึงประหลาดและอัศจรรย์ใจพูดว่า "ดูแน่ะ คนทั้งหลายที่พูดกันนั้นเป็นชาวกาลิลีทุกคนไม่ใช่หรือ
2:8 เหตุไฉนเราทุกคนได้ยินเขาพูดภาษาของบ้านเกิดเมืองนอนของเรา
2:9 เช่นชาวปารเธียและมีเดีย ชาวเอลามและคนที่อยู่ในเขตแดนเมโสโปเตเมีย และแคว้นยูเดียและแคว้นคัปปาโดเซีย ในแคว้นปอนทัสและเอเชีย
2:10 ในแคว้นฟรีเจีย แคว้นปัมฟีเลียและประเทศอียิปต์ในแขวงเมืองลิเบียซึ่งขึ้นกับนครไซรีน และคนมาจากกรุงโรม ทั้งพวกยิวกับคนเข้าจารีตยิว
2:11 ชาวเกาะครีตและชาวอาระเบีย เราทั้งหลายต่างก็ได้ยินคนเหล่านี้กล่าวถึงมหกิจของพระเจ้า ตามภาษาของเราเอง"
2:12 เขาทั้งหลายจึงอัศจรรย์ใจ และฉงนสนเท่ห์พูดกันว่า "นี่อะไรกัน"
2:13 แต่บางคนเยาะเย้ยว่า "คนเหล่านั้นเมาเหล้าองุ่นใหม่"
2:14 ฝ่ายเปโตรได้ยืนขึ้นกับอัครทูตสิบเอ็ดคน และได้กล่าวแก่คนทั้งปวงด้วยเสียงอันดังว่า "ท่านชาวยูเดียและบรรดาคนที่อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม จงทราบเรื่องนี้และฟังถ้อยคำของข้าพเจ้าเถิด
2:15 ด้วยว่าคนเหล่านี้มิได้เมาเหล้าองุ่นเหมือนอย่างที่ท่านคิดนั้น เพราะว่าเป็นเวลาสามโมงเช้า
2:16 แต่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตามคำซึ่งโยเอลผู้เผยพระวจนะได้กล่าวไว้ว่า
2:17 "พระเจ้าตรัสว่าในวาระสุดท้าย เราจะเทฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณของเราโปรดประทานแก่มนุษย์ทั้งปวง บุตราบุตรีของท่านทั้งหลายจะกล่าวคำพยากรณ์ คนหนุ่มของท่านจะเห็นนิมิต และคนแก่จะฝันเห็น
2:18 ในคราวนั้น เราจะเทฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณของเราบนทาสทาสีของเรา และคนเหล่านั้นจะกล่าวคำพยากรณ์
2:19 เราจะสำแดงการอัศจรรย์ในอากาศเบื้องบน และนิมิตที่แผ่นดินเบื้องล่าง เป็นเลือด ไฟ และไอควัน
2:20 ดวงอาทิตย์จะมืดไป และดวงจันทร์จะกลับเป็นเลือด ก่อนถึงวันใหญ่นั้น คือวันใหญ่ยิ่งของพระเจ้า
2:21 และจะเป็นเช่นนี้คือ ทุกคนซึ่งได้ออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะรอด
2:22 "ท่านทั้งหลายผู้เป็นชนชาติอิสราเอล ขอฟังคำของข้าพเจ้า คือพระเยซูชาวนาซาเร็ธ เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดชี้แจงให้ท่านทั้งหลายทราบ โดยการอิทธิฤทธิ์ การอัศจรรย์และหมายสำคัญต่างๆซึ่งพระเจ้าได้ทรงกระทำโดยพระองค์นั้น ท่ามกลางท่านทั้งหลาย ดังที่ท่านทราบอยู่แล้ว
2:23 พระเยซูนี้ทรงถูกมอบไว้ตามที่พระเจ้าได้ทรงดำริแน่นอนล่วงหน้าไว้ก่อน ท่านทั้งหลายได้ให้คนอธรรมจับพระองค์ไปตรึงที่กางเขนและประหารชีวิตเสีย
2:24 พระเจ้าได้ทรงบันดาลให้พระองค์คืนพระชนม์ ด้วยทรงกำจัดความเจ็บปวดแห่งความตายเสีย เพราะว่าความตายจะครอบงำพระองค์ไว้ไม่ได้
2:25 เพราะกษัตริย์ดาวิดได้ทรงกล่าวถึงพระองค์ว่า "ข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรงหน้าข้าพเจ้าเสมอ เพราะว่าพระองค์ประทับที่มือขวาของข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะมิได้หวั่นไหว
2:26 เพราะฉะนั้น จิตใจของข้าพเจ้าจึงยินดี และลิ้นของข้าพเจ้าจึงเปรมปรีดิ์ อนึ่งร่างกายของข้าพเจ้าจะอยู่ด้วยความไว้ใจ
2:27 เพราะพระองค์จะไม่ทรงละข้าพระองค์ไว้ในแดนคนตาย ทั้งจะไม่ทรงให้องค์บริสุทธิ์ของพระองค์เปื่อยเน่าไป
2:28 พระองค์ได้ทรงโปรดให้ข้าพระองค์ทราบทางแห่งชีวิตแล้ว พระองค์ทรงโปรดให้ข้าพระองค์มีความยินดีเต็มเปี่ยมหน้าพระพักตร์ของพระองค์
2:29 "พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้ามีใจกล้าที่จะกล่าวแก่ท่านทั้งหลายถึงดาวิดบรรพบุรุษของเราว่า ท่านสิ้นชีวิตแล้วฝังไว้ และอุโมงค์ฝังศพของท่านยังอยู่กับเราจนถึงทุกวันนี้
2:30 ท่านเป็นผู้เผยพระวจนะ และทราบว่าพระเจ้าตรัสสัญญาไว้แก่ท่านด้วยพระปฏิญาณว่า พระองค์จะทรงประทานผู้หนึ่งในวงศ์ตระกูลของท่านให้ประทับบนพระที่นั่งของท่าน
2:31 กษัตริย์ดาวิดก็ทรงล่วงรู้เหตุการณ์นี้ก่อน จึงทรงกล่าวถึงการคืนพระชนม์ของพระคริสต์ว่า พระเจ้ามิได้ทรงละพระองค์ไว้ในแดนคนตาย ทั้งพระมังสะของพระองค์ก็ไม่เปื่อยเน่าไป
2:32 พระเยซูนี้พระเจ้าได้ทรงบันดาลให้คืนพระชนม์แล้ว ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นพยานในข้อนี้
2:33 เหตุฉะนั้นเมื่อทรงเชิดชูพระองค์ขึ้นอยู่ที่พระหัตถ์เบื้องขวาของพระเจ้า และครั้นพระองค์ได้ทรงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์จากพระบิดาตามพระสัญญา พระองค์ได้ทรงเทฤทธิ์เดชนี้ลงมา ดังที่ท่านทั้งหลายได้ยิน และเห็นแล้ว
2:34 เหตุว่าท่านดาวิดไม่ได้ขึ้นไปยังสวรรค์แต่ท่านได้กล่าวว่า "พระเจ้าตรัสกับองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าว่า จงนั่งขวามือของเรา
2:35 จนกว่าเราจะกระทำให้ศัตรูของเจ้าอยู่ใต้เท้าเจ้า
2:36 เหตุฉะนั้น ให้พงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งปวงทราบแน่นอนว่า พระเจ้าได้ทรงยกพระเยซูนี้ ซึ่งท่านทั้งหลายได้ตรึงไว้ที่กางเขนนั้น ทรงตั้งขึ้นให้เป็นทั้งองค์พระผู้เป็นเจ้าและเป็นพระคริสต์"
2:37 เมื่อคนทั้งหลายได้ยินแล้วก็รู้สึกแปลบปลาบใจ จึงกล่าวแก่เปโตรและอัครทูตอื่นๆว่า "พี่น้องเอ๋ย เราจะทำอย่างไรดี"
2:38 ฝ่ายเปโตรจึงกล่าวแก่เขาว่า "จงกลับใจใหม่และรับบัพติศมา {พิธีใช้น้ำเป็นสัญลักษณ์ เล็งถึงการที่พระเจ้าทรงให้อภัยคนบาป} ในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์สิ้นทุกคนเพื่อพระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของท่านเสีย แล้วท่านจะได้รับพระราชทานพระวิญญาณบริสุทธิ์
2:39 ด้วยว่าพระสัญญานั้นตกแก่ท่านทั้งหลายกับลูกหลานของท่านด้วย และแก่คนทั้งหลายที่อยู่ไกล คือทุกคนที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของเราทรงเรียกมาเฝ้าพระองค์"
2:40 เปโตรจึงกล่าวอีกหลายคำเป็นพยาน และได้เตือนสติเขาว่า "จงเอาตัวรอดจากชาตพันธุ์ที่คดโกงนี้เถิด"
2:41 คนทั้งหลายที่รับคำของเปโตรก็รับบัพติศมา ในวันนั้นมีคนเข้าเป็นสาวกประมาณสามพันคน
2:42 เขาทั้งหลายได้ขะมักเขม้นฟังคำสอนของจำพวกอัครทูตและร่วมสามัคคีธรรม ทั้งขะมักเขม้นในการหักขนมปังและการอธิษฐาน
2:43 เขามีความเกรงกลัวด้วยกันทุกคน และพวกอัครทูตทำการอัศจรรย์ และหมายสำคัญหลายประการ
2:44 บรรดาผู้ที่เชื่อถือนั้นก็อยู่พร้อมกัน ณ ที่แห่งเดียว และทรัพย์สิ่งของของเขาเหล่านั้นเขาเอามารวมกันเป็นของกลาง
2:45 เขาจึงได้ขายที่ดินและทรัพย์สิ่งของ มาแบ่งให้แก่คนทั้งปวงตามซึ่งทุกคนต้องการ
2:46 เขาได้ร่วมใจกันไปในพระวิหาร และหักขนมปังตามบ้านของเขา ร่วมรับประทานอาหารด้วยความชื่นชมยินดีและใจกว้างขวาง ทุกวันเรื่อยไป
2:47 ทั้งได้สรรเสริญพระเจ้าและคนทั้งปวงก็ชอบใจ ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้า ได้ทรงโปรดให้คนทั้งหลายซึ่งกำลังจะรอด มาเข้ากับพวกสาวกทุกวันๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ ก.ค. 13, 2005 4:01 pm

ผมกำลังอ่านหนังสือขบวนการสงฆ์ของแม่พระอยู่พอดี ก็มีกล่าวถึงเรื่องกลุ่มเซนาเกิ้ลด้วย เป็นกลุ่มภาวนาที่แม่พระอยากให้มีขึ้น โดยมีคนตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ไม่เกิน 17 คน ให้ตั้งรูปแม่พระแห่งฟาติมาไว้ตรงกลาง มีดอกไม้และจุดเทียน ให้ร่วมกันสวดภาวนาดังนี้
- สวดสายประคำ 1 สาย
- อ่านสารของแม่พระและรำพึงพิจารณา
- สวดบทถวายตัวแด่ดวงพระทัยนิรมลของแม่พระ
- สวดบทภาวนาของอัครเทวดามีคาแอล

ซึ่งควรจะสวดร่วมกันแบนี้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ถ้าจะให้ดีก็ตั้งกลุ่มกันเองในครอบครัวจะได้มีโอกาสสวดได้บ่อยขึ้น แม่พระอยากให้เด็ก ๆ และเยาวชนร่วมกลุ่มภาวนาเซนาเกิ้ลนี้ด้วย ซึ่งการสวดก็ไม่เกิน 30 นาทีครับ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ก.ค. 13, 2005 8:10 pm

พี่เพชร ฮะ มีประวัติ ของการภาวนานี้ไหมฮะ 8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 2:49 am

ผมไม่มีประวัติการสวดแบบนี้ครับ แต่ก็มีที่มาจากวันเปนเตกอสเตนั่นแหละครับ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พฤหัสฯ. เม.ย. 20, 2006 8:19 pm

ท่ามกลางพวกเราใครสวดเซนาเกิ้ลประจำบ้าง เล่าประสบการณ์ด้วยคร้าบ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

ศุกร์ เม.ย. 21, 2006 11:45 pm

http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=3084

คืนนี้ท้องฟ้าเป็นในเพราะไม่มีเค้าว่าจะมีฝนตกเลย เราจึงไปสวดกันที่สนามหญ้าหน้าถ้ำแม่พระ พี่คนหนึ่งเริ่มนำพวกเราสวดภาวนาแบบเซนาเกิลซึ่งผมเองยังไม่เคย ได้ยินที่ไหนมาก่อนเลยในชีวิต (การสวดภาวนาแบบเซนาเกิล เป็นการสวดภาวนา ตามแบบอย่างของบรรดาอัครสาวก ที่พวกท่านร่วมกันสวดภาวนาในห้องเซนาเกิล (ห้องชั้นบน)พร้อมกับแม่พระ เพื่อเตรียมต้อนรับพระจิตที่เสด็จมาครั้งแรกในวัน เปนเตกอสเต) นี่เป็นสิ่งใหม่ที่วันนี้ผมได้เรียนรู้ เมื่อการภาวนาจบลง พี่น้บอกให้ผมอธิฐานแล้วเปิดหนังสือสาสน์ของแม่พระที่ทรงประทานผ่าน คุณพ่อ ดอน สเตฟาโน ก็อบบี้ ผมเปิดได้ที่หน้า134 สาสน์มีข้อความดังนี้

6 ก.ย.1986 หัวใจของแม่หลั่งเลือด เพราะพระศาสนจักรถูกแทงด้วยดาบของ ความไม่ซื่อสัตย์ ความเย็นเฉย และการละทิ้งความเชื่อ

Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อาทิตย์ ก.ค. 09, 2006 6:56 am

ตอบกลับโพส