ความรักต่างจากเห็นแก่ตัวอย่างไร?
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ต่างกันมากคะ
อิงจากพระคัมภีร์ว่า
(1 คร.13.4)
"ความรักย่อมอดทน มีใจเอื้อเฟื้อ ไม่อิจฉา ไม่โอ้อวดตนเอง ไม่จองหอง ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ความรักไม่ฉุนเฉียว ไม่จดจำความผิด ไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้องความรักให้อภัยทุกอย่าง เชื่อทุกอย่าง หวังทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง"
นอกเหนือจากนี้ คือ ความเห็นแก่ตัวและความใคร่ คะ
ความเห็นแก่ตัว....ดูตามหน้าหนังสือพิมพ์เอา
ไอ้ที่ฆ่าแฟน ฆ่าคนรัก ยิงตัวตาย ฯลฯ
อิงจากพระคัมภีร์ว่า
(1 คร.13.4)
"ความรักย่อมอดทน มีใจเอื้อเฟื้อ ไม่อิจฉา ไม่โอ้อวดตนเอง ไม่จองหอง ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ความรักไม่ฉุนเฉียว ไม่จดจำความผิด ไม่ยินดีในความชั่ว แต่ร่วมยินดีในความถูกต้องความรักให้อภัยทุกอย่าง เชื่อทุกอย่าง หวังทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง"
นอกเหนือจากนี้ คือ ความเห็นแก่ตัวและความใคร่ คะ
ความเห็นแก่ตัว....ดูตามหน้าหนังสือพิมพ์เอา
ไอ้ที่ฆ่าแฟน ฆ่าคนรัก ยิงตัวตาย ฯลฯ
ความรักคือการให้ ให้ทั้งใจ สิ่งของให้ตามกำลัง ให้มากกว่าเป็นความหลง
ความเห็นแก่ตัว นึกถึงแต่ตัวเอง ไม่แคร์คนอื่น ทำให้คนอื่นเดือดร้อนทางใจ ทางกาย ทางทรัพย์
ความเห็นแก่ตัว นึกถึงแต่ตัวเอง ไม่แคร์คนอื่น ทำให้คนอื่นเดือดร้อนทางใจ ทางกาย ทางทรัพย์
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
??? ??? เมื่อมีความรัก... ก็จะไม่มีความเห็นแก่ตัว
และถ้าเมื่อไหร่เกิดเห็นแก่ตัวขึ้นมา.... ความรักก็จะหมดไป
และถ้าเมื่อไหร่เกิดเห็นแก่ตัวขึ้นมา.... ความรักก็จะหมดไป
เห็นด้วยกะพี่จิงอ่ะ
ความรักให้อภัยทุกอย่าง เชื่อทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง *ok
ความรักให้อภัยทุกอย่าง เชื่อทุกอย่าง อดทนทุกอย่าง *ok
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ที่เด่นๆก็มี
รักให้ได้ แต่ เห็นแก่ตัวให้ไม่ได้
และอื่นๆอีกมากมาย
ดังนั้นสรุปได้ว่า ต่างกันตรงที่มันอยู่คนละขั้วกันเลยครับ ;D
รักให้ได้ แต่ เห็นแก่ตัวให้ไม่ได้
และอื่นๆอีกมากมาย
ดังนั้นสรุปได้ว่า ต่างกันตรงที่มันอยู่คนละขั้วกันเลยครับ ;D
มีเรื่องจะถาม
คือเมื่อไม่นานมานี้คุยกับแม่เรื่องคุณตา
พอดีว่าตอนนี้คุณตานอนอยู่icu
คุยกับแม่ว่า ถ้าต้องตัดสินให้ตาอยู่อย่างทรมาน(แกเป็นโรคปอด)
หรือจะปล่อยแกไป
แม่ก็บอกว่าจะยื้อไว้เท่าที่สุดที่จะทำได้ เพราะแม่รักตามาก ไม่อยากเสียไป
แกบอกว่าเป็นความเห็นแก่ตัวเพราะรัก
ช่วยแสดงความเห้นหน่อยครับ ว่าไอ้2อย่างนี้มาอยู่ด้วยกันได้ด้วยหรอ? ???
คือเมื่อไม่นานมานี้คุยกับแม่เรื่องคุณตา
พอดีว่าตอนนี้คุณตานอนอยู่icu
คุยกับแม่ว่า ถ้าต้องตัดสินให้ตาอยู่อย่างทรมาน(แกเป็นโรคปอด)
หรือจะปล่อยแกไป
แม่ก็บอกว่าจะยื้อไว้เท่าที่สุดที่จะทำได้ เพราะแม่รักตามาก ไม่อยากเสียไป
แกบอกว่าเป็นความเห็นแก่ตัวเพราะรัก
ช่วยแสดงความเห้นหน่อยครับ ว่าไอ้2อย่างนี้มาอยู่ด้วยกันได้ด้วยหรอ? ???
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ไม่จ๊ะโอตะ เห็นแก่ตัวก็คือเห็นแก่ตัว ไม่อยากเสียคนรักไปเลยทำทุกวิธีทางที่จะยื้อเขาใว้ โดยไม่สนว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร พี่ขอโทษนะที่มันฟังดูรุนแรงแต่เพื่อให้โอตะเห็นชัดพี่เลยพูดแบบนี้ ขอโทษนะ :-[
เหมือนกับที่โอตะอ่านเจอบนนสพบ่อยๆ "ผัวโหดฆ่าเมีย เหตุเมียขอหย่า อ้างด้านๆ"เพราะรัก ผมเลยหึง"" สรุปต้องฆ่าเพราะรัก?? ไม่นะจ๊ะ...ไม่เด็ดขาดจ๊ะ :-*
เหมือนกับที่โอตะอ่านเจอบนนสพบ่อยๆ "ผัวโหดฆ่าเมีย เหตุเมียขอหย่า อ้างด้านๆ"เพราะรัก ผมเลยหึง"" สรุปต้องฆ่าเพราะรัก?? ไม่นะจ๊ะ...ไม่เด็ดขาดจ๊ะ :-*
ง่ายๆเลยนะครับ
ความรัก คือ การมีความสุขที่ได้ให้ ได้แบ่งปัน และเห็นคนที่รักมีความสุข
เห็นแก่ตัว คือ การมีความสุขที่ได้รับ เอาเข้าตัวเอง และเห็นตัวเองเท่านั้นที่มีความสุข
ความรัก คือ การมีความสุขที่ได้ให้ ได้แบ่งปัน และเห็นคนที่รักมีความสุข
เห็นแก่ตัว คือ การมีความสุขที่ได้รับ เอาเข้าตัวเอง และเห็นตัวเองเท่านั้นที่มีความสุข
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
รักตัวเอง กับ เห็นแก่ตัวเองไม่เห็นเหมือนกันเลยนะคะ
รักตัวเองต้องรักเป็น ไม่ใช่เห็นแก่ตัวเองจนเบียดเบียนผู้อื่น
รักตัวเอง เราต้องรักโดยมีพื้นฐานจากความรักของพระเจ้า
พระเจ้ารักเราอย่างไร ก็ให้เรารักตัวเองอย่างที่พระเจ้ารัก
รักตัวเองต้องไม่ทำให้ตัวเองจมปลักอยู่ในความบาป ความผิด
รักตัวเองต้องดูแลร่างกายเราให้ดี ระลึกไว้เสมอว่าร่างกายเราเป็นวิหารของระเจ้า
จะทำอะไรก็ให้เคารพ และ ให้เกียรติตัวเองด้วย
ดูแลไม่ให้เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ให้สกปรก
และก็ไม่ปล่อยให้ตัวเรา ใจเราเกลือกกลั่วอยู่ในบาป
กินเหล้าเมาแอ๋ สูบบุหรี่จนติด ทำลายสุขภาพ
อย่างนี้คือไม่รักตัวเอง
แต่ขณะเดียวกัน การเสพสุขให้ตัวเอง จนลืมเรื่องความดีงามใดๆไป
จนเริ่มทำร้ายตัวเอง และ คนรอบข้าง
อะไรทำแล้ว ชีวิต และ จิตใจที่ดีงามของเราตกต่ำลง
แม้จะสุขกาย สบายใจ แต่คุณภาพชีวิต ทั้งกายและจิตต่ำลง
นั่นคือเรากำลังหลงไปกับมายาของโลก และ ความสุขจอมปลอม
ความสุขที่เริ่มเบียดเบี่ยนผู้คนรอบข้าง
ความสุขที่ทำให้คนรอบข้างเสียความดีงามในชีวิตไป
(ไม่ใช่ความสุขด้านกิเลส ตัณหา ฯลฯ)
ความสุขที่ทำให้เราลืมคนรอบข้าง ลืมความดีงามทั้งสิ้น
นั่นแหละคือความเห็นแต่ตัว
แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ
พระเจ้าเรียกร้องให้เราลืมตนเองและอุทิศตนเพื่อผู้อื่นคะ
รักตัวเองต้องรักเป็น ไม่ใช่เห็นแก่ตัวเองจนเบียดเบียนผู้อื่น
รักตัวเอง เราต้องรักโดยมีพื้นฐานจากความรักของพระเจ้า
พระเจ้ารักเราอย่างไร ก็ให้เรารักตัวเองอย่างที่พระเจ้ารัก
รักตัวเองต้องไม่ทำให้ตัวเองจมปลักอยู่ในความบาป ความผิด
รักตัวเองต้องดูแลร่างกายเราให้ดี ระลึกไว้เสมอว่าร่างกายเราเป็นวิหารของระเจ้า
จะทำอะไรก็ให้เคารพ และ ให้เกียรติตัวเองด้วย
ดูแลไม่ให้เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ให้สกปรก
และก็ไม่ปล่อยให้ตัวเรา ใจเราเกลือกกลั่วอยู่ในบาป
กินเหล้าเมาแอ๋ สูบบุหรี่จนติด ทำลายสุขภาพ
อย่างนี้คือไม่รักตัวเอง
แต่ขณะเดียวกัน การเสพสุขให้ตัวเอง จนลืมเรื่องความดีงามใดๆไป
จนเริ่มทำร้ายตัวเอง และ คนรอบข้าง
อะไรทำแล้ว ชีวิต และ จิตใจที่ดีงามของเราตกต่ำลง
แม้จะสุขกาย สบายใจ แต่คุณภาพชีวิต ทั้งกายและจิตต่ำลง
นั่นคือเรากำลังหลงไปกับมายาของโลก และ ความสุขจอมปลอม
ความสุขที่เริ่มเบียดเบี่ยนผู้คนรอบข้าง
ความสุขที่ทำให้คนรอบข้างเสียความดีงามในชีวิตไป
(ไม่ใช่ความสุขด้านกิเลส ตัณหา ฯลฯ)
ความสุขที่ทำให้เราลืมคนรอบข้าง ลืมความดีงามทั้งสิ้น
นั่นแหละคือความเห็นแต่ตัว
แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ
พระเจ้าเรียกร้องให้เราลืมตนเองและอุทิศตนเพื่อผู้อื่นคะ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ก.ค. 13, 2005 8:22 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ขอบคุณที่ให้ความเห็น
กล่าวได้หรือไม่ว่า
การรักตนเองนั้น คือ การให้ความสุขกับตนเองและไม่ก่อให้เกิดความทุกข์ต่อตนเอง
การเห็นแก่ตัว คือ การแสวงหาสิ่งที่ตนต้องการโดยไม่สนใจว่ามันจะก่อให้เกิดสุขหรือทุกข์
แก่ตนเอง ทำทุกสิ่งตามอารมณ์ หรือ ความรู้สึก ขาดการไตร่ตรอง
ด้วยจิตใจที่สงบ?
กล่าวได้หรือไม่ว่า
การรักตนเองนั้น คือ การให้ความสุขกับตนเองและไม่ก่อให้เกิดความทุกข์ต่อตนเอง
การเห็นแก่ตัว คือ การแสวงหาสิ่งที่ตนต้องการโดยไม่สนใจว่ามันจะก่อให้เกิดสุขหรือทุกข์
แก่ตนเอง ทำทุกสิ่งตามอารมณ์ หรือ ความรู้สึก ขาดการไตร่ตรอง
ด้วยจิตใจที่สงบ?
มธ 16:24 เงื่อนไขในการติดตามพระคริสตเจ้าsakda88 เขียน: แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ
พระเจ้าเรียกร้องให้เราลืมตนเองและอุทิศตนเพื่อผู้อื่นคะ
~@Little lamb@~
ผมไม่เห็นด้วย ผมเห็นว่า
พระเจ้าเรียกร้องให้เรารักซึ่งกันและกันเหมือนพระเยซูรักเรา ;D
พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
บทภาวนาของนักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซี
ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ข้าพเจ้าเป็นเครื่องมือของพระองค์เพื่อสร้างสันติ
- ที่ใดมีความเกลียดชัง ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความรัก
- ที่ใดมีความเจ็บแค้น ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำการอภัย
- ที่ใดมีความแตกแยก ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความสามัคคี
- ที่ใดมีความเท็จ ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความจริง
- ที่ใดมีความสงสัย ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความเชื่อ
- ที่ใดมีความสิ้นหวัง ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความหวัง
- ที่ใดมีความมืด ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความสว่าง
- ที่ใดมีความเศร้าโศก ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความหรรษา
- ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ข้าพเจ้าเป็นผู้บรรเทามากกว่าที่จะรับการบรรเทา
- เห็นใจผู้อื่นมากกว่าจะรับความเห็นใจ
- ให้รักผู้อื่นก่อนที่จะให้คนอื่นรักข้าพเจ้า
เหตุว่า ...
- ผู้ที่ให้เท่านั้น จะได้รับความอิ่มเอิบยินดี
- ผู้ที่ลืมตนเองเท่านั้น จะพบตนเองในทางสันติ
- ผู้ที่ยกโทษเท่านั้น จะได้รับการอภัยโทษจากพระ
และดังนี้เมื่อเราจะตาย จะได้ไปสู่พระราชัยของพระองค์ชั่วนิรันดร
นี่แหละคะ
การลืมตนเอง และ อุทิศตัวเพื่อผู้อื่น ;)
ขอพระเจ้าอวยพรคะ *no1
ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ข้าพเจ้าเป็นเครื่องมือของพระองค์เพื่อสร้างสันติ
- ที่ใดมีความเกลียดชัง ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความรัก
- ที่ใดมีความเจ็บแค้น ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำการอภัย
- ที่ใดมีความแตกแยก ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความสามัคคี
- ที่ใดมีความเท็จ ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความจริง
- ที่ใดมีความสงสัย ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความเชื่อ
- ที่ใดมีความสิ้นหวัง ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความหวัง
- ที่ใดมีความมืด ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความสว่าง
- ที่ใดมีความเศร้าโศก ให้ข้าพเจ้าเป็นผู้นำความหรรษา
- ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ข้าพเจ้าเป็นผู้บรรเทามากกว่าที่จะรับการบรรเทา
- เห็นใจผู้อื่นมากกว่าจะรับความเห็นใจ
- ให้รักผู้อื่นก่อนที่จะให้คนอื่นรักข้าพเจ้า
เหตุว่า ...
- ผู้ที่ให้เท่านั้น จะได้รับความอิ่มเอิบยินดี
- ผู้ที่ลืมตนเองเท่านั้น จะพบตนเองในทางสันติ
- ผู้ที่ยกโทษเท่านั้น จะได้รับการอภัยโทษจากพระ
และดังนี้เมื่อเราจะตาย จะได้ไปสู่พระราชัยของพระองค์ชั่วนิรันดร
นี่แหละคะ
การลืมตนเอง และ อุทิศตัวเพื่อผู้อื่น ;)
ขอพระเจ้าอวยพรคะ *no1
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ค. 14, 2005 8:23 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
การลืมตนเอง การปฏิเสธตนเอง การเลิกคิดถึงตนเอง
ก่อให้เกิดสติหรือไม่ ? ก่อให้เกิดก่อให้เกิดการฟังที่ลึกซึ้งหรือไม่?
การฟังที่ลึกซึ้งก่อให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งหรือไม่ ?
ทำให้เราอยู่ในโลกของผู้พูดอย่างแท้จริงหรือไม่ ?
จงเฝ้าดูอย่างมีสติแล้วเธอจะรู้วิธีจัดการกับสิ่งนั้น
เต้าเต็กเกง
ก่อให้เกิดสติหรือไม่ ? ก่อให้เกิดก่อให้เกิดการฟังที่ลึกซึ้งหรือไม่?
การฟังที่ลึกซึ้งก่อให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งหรือไม่ ?
ทำให้เราอยู่ในโลกของผู้พูดอย่างแท้จริงหรือไม่ ?
จงเฝ้าดูอย่างมีสติแล้วเธอจะรู้วิธีจัดการกับสิ่งนั้น
เต้าเต็กเกง
ผมไม่ได้อยู่ในโลกของผู้พูดครับ ผมอยู่ในโลกของพ่อของผม
และการลืมตนเอง คือการลดละอัตตาของตนที่เยี่ยมยอด ไม่ใช่การปฏิเสธตัวเอง แต่คือการเข้าใจตัวเองในทางที่ถูกต้อง และยอมรับตัวเองในฐานะลูกของพระเจ้า ผู้ไม่ยึดติดกับโลกนี้ และมนุษย์คนอื่นในโลกนี้ ไม่ใช่เพื่อฟังมนุษย์คนอื่น แต่เพื่อฟังพระสุรเสียงของพระบิดา และเพื่อติดตามพระองค์ ไม่ใช่ติตตามมนุษย์
กท 1:9
ถ้าใครประกาศข่าวดีแก่ท่านขัดแย้งกับข่าวดีที่ท่านเคยรับไว้ ก็ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังเอาใจมนุษย์หรือพระเจ้า ข้าพเจ้าพยายามเอาใจมนุษย์กระนั้นหรือ หากข้าพเจ้ายังเอาใจมนุษย์ ข้าพเจ้าก็คงไม่เป็นผู้รับใช้ของพระคริสตเจ้า
จงวางใจในพระเจ้าแล้วพระองค์จะทำให้ทุกสิ่งสำเร็จ
รม 8:28-30 พระเจ้าทรงเรียกเราให้ร่วมรับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์
เรารู้ว่า พระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกสิ่งกลับเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่รักพระองค์ ผู้ที่ทรงเรียกมาตามพระประสงค์ของพระองค์ เพราะผู้ที่พระองค์ทรงทราบล่วงหน้านั้น พระองค์ทรงกำหนดจะให้เป็นภาพลักษณ์ของพระบุตรของพระองค์ด้วย เพื่อพระบุตรจะได้เป็นบุตรคนแรกในบรรดาพี่น้องจำนวนมาก ผู้ที่ทรงกำหนดไว้แล้วนั้นพระองค์ทรงเรียก ผู้ที่ทรงเรียกนั้น พระองค์ทรงบันดาลให้เป็นผู้ชอบธรรม ผู้ที่ทรงบันดาลให้ชอบธรรมนั้น พระองค์ประทานพระสิริรุ่งโรจน์ให้ด้วย
พระวาจาพระเจ้าผู้เป็นพ่อของผมและของคุณ
และการลืมตนเอง คือการลดละอัตตาของตนที่เยี่ยมยอด ไม่ใช่การปฏิเสธตัวเอง แต่คือการเข้าใจตัวเองในทางที่ถูกต้อง และยอมรับตัวเองในฐานะลูกของพระเจ้า ผู้ไม่ยึดติดกับโลกนี้ และมนุษย์คนอื่นในโลกนี้ ไม่ใช่เพื่อฟังมนุษย์คนอื่น แต่เพื่อฟังพระสุรเสียงของพระบิดา และเพื่อติดตามพระองค์ ไม่ใช่ติตตามมนุษย์
กท 1:9
ถ้าใครประกาศข่าวดีแก่ท่านขัดแย้งกับข่าวดีที่ท่านเคยรับไว้ ก็ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังเอาใจมนุษย์หรือพระเจ้า ข้าพเจ้าพยายามเอาใจมนุษย์กระนั้นหรือ หากข้าพเจ้ายังเอาใจมนุษย์ ข้าพเจ้าก็คงไม่เป็นผู้รับใช้ของพระคริสตเจ้า
จงวางใจในพระเจ้าแล้วพระองค์จะทำให้ทุกสิ่งสำเร็จ
รม 8:28-30 พระเจ้าทรงเรียกเราให้ร่วมรับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์
เรารู้ว่า พระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกสิ่งกลับเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่รักพระองค์ ผู้ที่ทรงเรียกมาตามพระประสงค์ของพระองค์ เพราะผู้ที่พระองค์ทรงทราบล่วงหน้านั้น พระองค์ทรงกำหนดจะให้เป็นภาพลักษณ์ของพระบุตรของพระองค์ด้วย เพื่อพระบุตรจะได้เป็นบุตรคนแรกในบรรดาพี่น้องจำนวนมาก ผู้ที่ทรงกำหนดไว้แล้วนั้นพระองค์ทรงเรียก ผู้ที่ทรงเรียกนั้น พระองค์ทรงบันดาลให้เป็นผู้ชอบธรรม ผู้ที่ทรงบันดาลให้ชอบธรรมนั้น พระองค์ประทานพระสิริรุ่งโรจน์ให้ด้วย
พระวาจาพระเจ้าผู้เป็นพ่อของผมและของคุณ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ ก.ค. 16, 2005 1:02 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ตามที่พี่โฮลี่บอกคะ
ผมรู้ว่าพระเจ้ารักผมและนำทางชีวิตผมอยู่
แต่ผมรักพระเจ้าหรือไม่ผมไม่แน่ใจนัก
สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อแน่นอนคือ พระคริสต์มาประกาศ
เรื่องความรักของพระเจ้าต่อมนุษย์และพระองค์ได้ทรงทำ
ในสิ่งที่หามนุษย์น้อยคนนักที่จะทำได้คือยืนหยัดในสิ่งที่
พระองค์ประกาศ สงครามไม่ช่วยแก้ปํญหาและความรัก
การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เท่านั้นที่แก้ปัญหาได้
พระองค์ยอมตายเพื่อให้ยูดายอิสคาลิโอสเห็น
มธ 16:24 เงื่อนไขในการติดตามพระคริสตเจ้า
ในภาษากรีก แปลได้ว่า ปฏิเสธตนเอง
จากพระคัมภีร์ใหม่ ฉบับศึกษาคำกรีก & พจนานุกรม กรีก- ไทย
กนกบรรณสาร :'( *sob
แต่ผมรักพระเจ้าหรือไม่ผมไม่แน่ใจนัก
สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อแน่นอนคือ พระคริสต์มาประกาศ
เรื่องความรักของพระเจ้าต่อมนุษย์และพระองค์ได้ทรงทำ
ในสิ่งที่หามนุษย์น้อยคนนักที่จะทำได้คือยืนหยัดในสิ่งที่
พระองค์ประกาศ สงครามไม่ช่วยแก้ปํญหาและความรัก
การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เท่านั้นที่แก้ปัญหาได้
พระองค์ยอมตายเพื่อให้ยูดายอิสคาลิโอสเห็น
มธ 16:24 เงื่อนไขในการติดตามพระคริสตเจ้า
ในภาษากรีก แปลได้ว่า ปฏิเสธตนเอง
จากพระคัมภีร์ใหม่ ฉบับศึกษาคำกรีก & พจนานุกรม กรีก- ไทย
กนกบรรณสาร :'( *sob
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
:D :D ดูเหมือนว่า คุณสัมผัสพระเจ้าอยู่แล้วนะค่ะ แล้วไอ้ที่บอกว่า ผมรักพระเจ้าหรือไม่ผมไม่แน่ใจ
นัก ตามสายตาของคนนอก คุณรักพระเจ้าแบบไม่รู้ตัวแล้วหล่ะค่ะ เพราะคุณรับพระเจ้าเข้ามาในชีวิต
ประจำวันของคุณ คุณสามารถสัมผัสได้ว่า พระเจ้ารักคุณ และนำทางชีวิตคุณอยู่ ไม่ต้องลังเลแล้วหล่ะ
ค่ะ อาการแบบนี้ คุณรักพระเจ้าเข้าแล้วแบบเต็มๆ ปล่อยให้พระองค์ทรงทำงานของพระองค์ต่อไปอีก
เถอะนะค่ะ แล้วคุณจะพบว่า ชีวิตนี้คุณขาดพระองค์ไม่ได้หรอกค่ะ
ขอแสดงความยินดีด้วยนะค่ะ ที่พระองค์ทรงเลือกคุณแล้ว เปิดใจของคุณให้มากๆ แล้วจะคุณพบกับความ
รักที่เป็นนิรันดร์ :D :D
นัก ตามสายตาของคนนอก คุณรักพระเจ้าแบบไม่รู้ตัวแล้วหล่ะค่ะ เพราะคุณรับพระเจ้าเข้ามาในชีวิต
ประจำวันของคุณ คุณสามารถสัมผัสได้ว่า พระเจ้ารักคุณ และนำทางชีวิตคุณอยู่ ไม่ต้องลังเลแล้วหล่ะ
ค่ะ อาการแบบนี้ คุณรักพระเจ้าเข้าแล้วแบบเต็มๆ ปล่อยให้พระองค์ทรงทำงานของพระองค์ต่อไปอีก
เถอะนะค่ะ แล้วคุณจะพบว่า ชีวิตนี้คุณขาดพระองค์ไม่ได้หรอกค่ะ
ขอแสดงความยินดีด้วยนะค่ะ ที่พระองค์ทรงเลือกคุณแล้ว เปิดใจของคุณให้มากๆ แล้วจะคุณพบกับความ
รักที่เป็นนิรันดร์ :D :D
แก้ไขล่าสุดโดย :+: seraphim :+: เมื่อ จันทร์ ก.ค. 18, 2005 12:31 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
*thx สำหรับคำหนุนใจ
ผมไม่รู้ว่าพระเจ้าทรงนำผมไปทางไหน ?
ผมเหมือนถูกนำไปสู่การศึกษาถึงแก่นของคำสอน
ซึ่งถอดเอาพิธีกรรมออกไปและมองให้เห็นเนื้อแท้
ของคำสอนของศาสดา ทั้งพุทธ และ คริสต์
ซึ่งนำมาปฏิบัติได้จริงและเห็นผลจริง
ผมไม่รู้ว่าพระเจ้าทรงนำผมไปทางไหน ?
ผมเหมือนถูกนำไปสู่การศึกษาถึงแก่นของคำสอน
ซึ่งถอดเอาพิธีกรรมออกไปและมองให้เห็นเนื้อแท้
ของคำสอนของศาสดา ทั้งพุทธ และ คริสต์
ซึ่งนำมาปฏิบัติได้จริงและเห็นผลจริง
แก้ไขล่าสุดโดย sakda88 เมื่อ อังคาร ก.ค. 19, 2005 10:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
น่าสนใจในแนวคิดของคุณศักดา เพราะผมก็เคยคิดแบบนี้มาก่อนสมัยเรียนศาสนศาสตร์
แต่การศึกษาคำสอนแท้จริงของศาสดาสำหรับศาสนาคริสต์ ต้องไม่ดึงพระเยซูเจ้าออกจากพระบิดาเจ้า และต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่พระเยซูเจ้าตรัสคือพระวาจาทรงชีวิต และเป็นความจริง(สัจจะ) ไม่ใช่แค่หลักศีลธรรมที่มนุษย์คิดขึ้นเอง และแปรผันไปตามเวลา
ยน 15:14
ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเรา
ถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน
เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป
เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร
เราเรียกท่านเป็นมิตรสหาย
เพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา
---ดังนั้น สิ่งที่พระเยซูเจ้าตรัส ไม่ใช่แค่ "คำสอนจากศาสดาคนหนึ่ง" เพราะถ้าเราเชื่อแค่นั้น เราก็ไม่ใช่คริสตชน เพราะคริสตชนคือผู้ที่เชื่อว่า พระเยซูเจ้าคือพระเจ้า เป็นหนทาง ความจริง และชีวิตของเรา และพระวาจาของพระองค์คือสัจจะ
ยน 18:37
เรามาในโลกนี้เพื่อเป็นพยานถึงความจริง ผู้ใดอยู่ฝ่ายความจริงก็ฟังเรา
ดังนั้นไม่มีความเท็จในสิ่งที่พระองค์ตรัสสอน ไม่มีอะไรที่ปฏิบัติไม่ได้จริง และพระองค์พิสูจน์ทุกคำสอนของพระองค์ชัดแจ้งบนไม้กางเขน

สิ่งนี้ไม่ใช่แค่ตัวอย่างศีลธรรม ไม่ใช่แค่การพิสูจน์คำสอน ไม่ใช่พิธีกรรม แต่คือรหัสธรรมล้ำลึก ที่ไม่ใช่การเข้าใจได้โดยสติปัญญา หรือเหตุผลประสาโลก แต่ด้วยความรู้ที่เป็นของประทานจากพระเจ้าเท่านั้น
ศีลมหาสนิทที่พระเยซูเจ้าทรงตั้ง นี่ไม่ใช่พิธีกรรม แต่คือสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดที่พระเยซูเจ้าทำเพื่อเรา
ยน 6:51
เราเป็นปังทรงชีวิต ที่ลงมาจากสวรรค์
ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป
และปังที่เราจะให้นี้
คือเนื้อของเราเพื่อให้โลกมีชีวิต
แต่การศึกษาคำสอนแท้จริงของศาสดาสำหรับศาสนาคริสต์ ต้องไม่ดึงพระเยซูเจ้าออกจากพระบิดาเจ้า และต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่พระเยซูเจ้าตรัสคือพระวาจาทรงชีวิต และเป็นความจริง(สัจจะ) ไม่ใช่แค่หลักศีลธรรมที่มนุษย์คิดขึ้นเอง และแปรผันไปตามเวลา
ยน 15:14
ท่านทั้งหลายเป็นมิตรสหายของเรา
ถ้าท่านทำตามที่เราสั่งท่าน
เราไม่เรียกท่านว่าเป็นผู้รับใช้อีกต่อไป
เพราะผู้รับใช้ไม่รู้ว่านายของตนทำอะไร
เราเรียกท่านเป็นมิตรสหาย
เพราะเราแจ้งให้ท่านรู้ทุกสิ่งที่เราได้ยินมาจากพระบิดาของเรา
---ดังนั้น สิ่งที่พระเยซูเจ้าตรัส ไม่ใช่แค่ "คำสอนจากศาสดาคนหนึ่ง" เพราะถ้าเราเชื่อแค่นั้น เราก็ไม่ใช่คริสตชน เพราะคริสตชนคือผู้ที่เชื่อว่า พระเยซูเจ้าคือพระเจ้า เป็นหนทาง ความจริง และชีวิตของเรา และพระวาจาของพระองค์คือสัจจะ
ยน 18:37
เรามาในโลกนี้เพื่อเป็นพยานถึงความจริง ผู้ใดอยู่ฝ่ายความจริงก็ฟังเรา
ดังนั้นไม่มีความเท็จในสิ่งที่พระองค์ตรัสสอน ไม่มีอะไรที่ปฏิบัติไม่ได้จริง และพระองค์พิสูจน์ทุกคำสอนของพระองค์ชัดแจ้งบนไม้กางเขน

สิ่งนี้ไม่ใช่แค่ตัวอย่างศีลธรรม ไม่ใช่แค่การพิสูจน์คำสอน ไม่ใช่พิธีกรรม แต่คือรหัสธรรมล้ำลึก ที่ไม่ใช่การเข้าใจได้โดยสติปัญญา หรือเหตุผลประสาโลก แต่ด้วยความรู้ที่เป็นของประทานจากพระเจ้าเท่านั้น

ศีลมหาสนิทที่พระเยซูเจ้าทรงตั้ง นี่ไม่ใช่พิธีกรรม แต่คือสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดที่พระเยซูเจ้าทำเพื่อเรา
ยน 6:51
เราเป็นปังทรงชีวิต ที่ลงมาจากสวรรค์
ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป
และปังที่เราจะให้นี้
คือเนื้อของเราเพื่อให้โลกมีชีวิต
ผมเชื่อพระเจ้าในแง่ที่ว่าต้องมีจุดกำเนิดของทุกสิ่ง
ทุกสิ่งถูกวางกฏไว้แต่กฏนั้นไม่ใช่พระเจ้า
นักวิทยาศาสตร์ นักปรัชญา ฯลฯ ศึกษากฏเหล่านั้น
และนำกฏเหล่านั้นมาสรรค์สร้างสิ่งต่าง ๆ
ผมเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าหรือไม่ ?
ผมลังเลสงสัย
ผมเชื่อในคำสอนของพระเยซูเกี่ยวกับความรัก
เป็นเรื่องที่ผมเชื่อแน่นอน และผมเชื่อว่า
พระเจ้าเป็นองค์ความรัก ผู้ใดดำรงอยู่ในความรักก็
ดำรงอยู่ในพระเจ้า
ทุกสิ่งถูกวางกฏไว้แต่กฏนั้นไม่ใช่พระเจ้า
นักวิทยาศาสตร์ นักปรัชญา ฯลฯ ศึกษากฏเหล่านั้น
และนำกฏเหล่านั้นมาสรรค์สร้างสิ่งต่าง ๆ
ผมเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าหรือไม่ ?
ผมลังเลสงสัย
ผมเชื่อในคำสอนของพระเยซูเกี่ยวกับความรัก
เป็นเรื่องที่ผมเชื่อแน่นอน และผมเชื่อว่า
พระเจ้าเป็นองค์ความรัก ผู้ใดดำรงอยู่ในความรักก็
ดำรงอยู่ในพระเจ้า
เป็นความจริงที่วิทยาศาสตร์ยังให้คำตอบไม่ได้ทุกเรื่อง
และทุกเรื่องยังมีการแสวงหาคำตอบกันอยู่
ผมจบทางด้านวิทยาศาสตร์
และบางเรื่องผมไม่เห็นด้วยกับ
ศาสนจักรโรมันคาธอลิก
และผมเชื่อในการรักษาโรคของพระเยซู
การประจักษ์ของแม่พระ ฯลฯ
และทุกเรื่องยังมีการแสวงหาคำตอบกันอยู่
ผมจบทางด้านวิทยาศาสตร์
และบางเรื่องผมไม่เห็นด้วยกับ
ศาสนจักรโรมันคาธอลิก
และผมเชื่อในการรักษาโรคของพระเยซู
การประจักษ์ของแม่พระ ฯลฯ